เรื่องใหม่ ...น่าโหลด...(วันนี้)
- คำแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรีต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ
-นโยบาย รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ
- ครม.ประยุทธ์ 1 ที่ http://tuewsob.blogspot.com/2014/08/blog-post_29.html
- รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2557
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2557/A/055/1.PDF
- เพลงปลุกใจเพื่อชาติ
- ตัวบ่งชี้ ประเมินคุณภาพภายนอกรอบสี่ พื้นฐาน-อุดม-อาชีว
โดย สมศ.
- เกณฑ์ประเมินคุณภาพภายนอก รอบสี่ (พ.ศ.2559-2563)
- ระบบควบคุมภายใน 2557
-นโยบาย รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ
- ครม.ประยุทธ์ 1 ที่ http://tuewsob.blogspot.com/2014/08/blog-post_29.html
- รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2557
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2557/A/055/1.PDF
- เพลงปลุกใจเพื่อชาติ
- ตัวบ่งชี้ ประเมินคุณภาพภายนอกรอบสี่ พื้นฐาน-อุดม-อาชีว
- แนวทางการจัดทำรายงานการติดตามประเมินผลการควบคุมภายในประจำปี 2557
ข้อสอบออนไลน์ ( สอบครู - ผู้บริหาร - บุคลากรการศึกษา) ชุดใหม่ล่าสุด
ติวสอบ บน ยูทูป ทั้งหมด ได้ที่
ติวสอบ บน ยูทูป ทั้งหมด ได้ที่
‘นายกฯตู่’ สั่งให้เก็บ‘ไมค์แพง’
โยธารีบเด้งรับ ถอดออกเรียบ มท.โยก37ขรก.
“นายกฯประยุทธ์” ถก ครม.ทางการนัดแรกให้การบ้าน รมต.ไปทำเบาะๆร้อยกว่าเรื่อง สั่งเอาไมค์เก่ามาใช้-รื้อไมค์ฉาวออกไปจนกว่าจะสอบสวนเสร็จ กรมโยธาฯเต้นผางสั่ง บ.มาถอดแทบไม่ทัน ครม.ไฟเขียวโยกย้ายบิ๊กล็อต 37 บิ๊ก มท. เด้ง “พีระศักดิ์” พ้นอธิบดีกรมที่ดิน โยก “ศิริพงษ์” อธิบดีกรม ปค.เสียบ “บิ๊กป๊อก” ปัดล้วงโผ “บิ๊กตู่” ดัน “พล.อ.วิลาศ” เพื่อน ตท.12 นั่งเก้าอี้นายกฯน้อย “หมอยงยุทธ” ซิวโฆษก รบ. ตามคาดรองนายกฯ ลำดับที่ 1 เป็น “บิ๊กป้อม” 23 ก.ย. ส่ง 953 ชื่อว่าที่ สปช.ให้ คสช.เคาะ “ถาวร” จวก “ตู่” กินอยู่กับปากอยากอยู่กับท้อง ท้าเปิดชื่อ จนท.รัฐเอี่ยวแลกโผคนชุดดำ
การประชุม ครม.อย่างเป็นทางการครั้งแรก โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน มีมติแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการและข้าราชการการเมืองหลายตำแหน่ง
นายกฯยังใช้ตึกสันติฯประชุม ครม.
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 16 ก.ย. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อย่างเป็นทางการครั้งแรก ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด มีการตัดสัญญาณโทรศัพท์เป็นระยะๆ และจำกัดพื้นที่สื่อมวลชนในการทำข่าว เพื่อป้องกันการดักฟัง ป้องกันข้อมูลประชุม ครม.รั่วไหล เป็นการตัดสัญญาณเฉพาะพื้นที่โดยรอบประชุม ครม.เท่านั้น ไม่ได้ตัดสัญญาณในบริเวณทำเนียบรัฐบาลทั้งหมด เพื่อไม่ให้ประชาชนที่อยู่บริเวณโดยรอบทำเนียบรัฐบาลได้รับความเดือดร้อน ขณะเดียว กัน สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีคำสั่งไม่ให้เจ้าหน้าที่ที่ไม่เกี่ยวเข้าไปในที่ประชุม ครม. อย่างเด็ดขาด จะให้เข้าเมื่อเลิกประชุมหรือมีคำสั่งให้เข้าไปเท่านั้น และยังห้ามช่างภาพสื่อมวลชนแขนงต่างๆเข้าไปบันทึกภาพก่อนการประชุมเหมือนอย่างทุกครั้ง
อย่างไรก็ตาม การประชุม ครม.ยังคงใช้ตึกสันติไมตรีหลังใน ทำเนียบรัฐบาล เป็นสถานที่ประชุม เนื่องจากห้องประชุม ครม.ชั้น 5 ตึกบัญชาการ 1 อยู่ ระหว่างรอผลการตรวจสอบของคณะกรรมการติดตาม และตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณของภาครัฐ(คตร.) กรณีปัญหาราคาไมโครโฟนในห้องประชุม ครม.แพงเกินจริง
ส่งยิ้มทักสื่อ “สวัสดีวันอังคาร”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รัฐมนตรีต่างๆทยอยเดิน ทางร่วมประชุม ขณะที่นายกฯเดินทางถึงทำเนียบฯ เวลา 08.30 น. ขึ้นห้องทำงานตึกไทยคู่ฟ้า และเมื่อถึงเวลาประชุมนายกฯได้ลงมาทางเชื่อมระหว่างตึกไทยคู่ฟ้าและตึกสันติไมตรี ยิ้มกล่าวทักทายผู้สื่อข่าวว่า “สวัสดีวันอังคาร” โดยนายกฯและรัฐมนตรีทั้งหมดสวมเสื้อผ้าไทยโทนสีต่างๆ
“วิลาศ” เพื่อน ตท.12 เป็นนายกฯน้อย
จากนั้นเวลา 12.55 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุม ครม.ว่า ที่ประชุม ครม.ได้แต่งตั้งให้ รอ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ ทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ฝ่ายพลเรือน เป็นโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แต่งตั้งให้ พล.อ.วิลาศ อรุณศรี อดีต ผบ. กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี
ยังไม่พิจารณาเลิกกฎอัยการศึก
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ที่ประชุมยังไม่มีการหารือยกเลิกกฎอัยการศึก แต่เตรียมการเรื่องกฎหมายไว้แล้ว ขอชี้แจงว่ากฎอัยการศึกเราประกาศใช้เพียงบางมาตราเท่านั้น ไม่ได้ใช้หมด 10 มาตรา หากยัง มีการตอบโต้กันอยู่ก็จะทำให้เกิดความขัดแย้ง คิดว่ากฎอัยการศึกไม่ส่งผลกระทบภายในประเทศ แต่อาจกระทบกับต่างประเทศบ้าง นอกจากนี้ รัฐบาลให้น้ำหนักการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจไปในเรื่องการส่งออกเป็นหลัก ส่วนยางพาราก็ต้องคิดว่าจะแปรรูปอย่างไรให้สินค้าให้ราคาดีขึ้น เช่น ทำเป็นถุงมือยาง และเตียงยาง
“บิ๊กตู่” สั่งรื้อไมค์ห้อง ครม.
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงกรณีที่การตรวจสอบการจัดซื้อไมโครโฟนติดตั้งในห้องประชุม ครม.แพงว่า ได้ทบทวนใหม่ทั้งหมด ยุติไปก่อน ผู้สื่อข่าวถามว่า สเปกราคาไมโครโฟนไม่ใช่ 1.4 แสนบาทใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่า ไม่ใช่ราคานั้น ต้องไปสอบสวนขั้นตอนว่าเหมาะสมหรือไม่ ควรจะต้องใช้ดีขนาดนี้หรือเปล่า จริงๆแล้วเราต้องการให้มีการประชุมทางไกลได้ เห็นหน้าเห็นตาของทุกคนเวลาสั่งการ เพราะวันหนึ่งเราต้องเดินไปสู่ประชาคมอาเซียน แนวคิดจึงเป็นแบบนั้น ส่วนเรื่องของราคาเท่าที่ทราบไมโครโฟนรุ่นนี้นำเข้ามาราคากลางๆยังไม่ชัดเจน อยู่ในขั้นของการต่อรอง และอยู่ในขั้นตอนว่าถูกต้องหรือไม่ สมควรจะใช้หรือไม่ ตอนนี้ยุติทั้งหมดแล้ว
ประชุมนัดหน้าใช้ไมค์เก่าไปก่อน
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ส่วนกรณีที่ใครจะต้องรับผิดชอบ อย่าเพิ่งให้ตอบตอนนี้ ต้องหาข้อมูลให้ได้ก่อนว่าการจัดซื้อจัดหาอุปกรณ์ราคาเป็นอย่างไร แต่วันนี้ที่ยังใช้ห้องประชุมไม่ได้ เพราะเหม็นสีห้องยังไม่เรียบร้อย สัปดาห์หน้าจะสามารถใช้ห้องประชุมตึกบัญชาการได้ ถ้าจะใช้ต้องใช้ไมโครโฟนเก่าไปชั่วคราวก่อน จะหาใหม่หรือไม่ค่อยว่ากัน ตอนนี้นายกฯรับผิดชอบอยู่แล้วในการให้ไปตรวจสอบข้อเท็จจริง อย่าเพิ่งไปโทษกันหนักหนา เราต้องการให้เกิดความโปร่งใส ต้องดูเจตนาว่าทำเพราะอะไรต้องไปหากันต่อ ใจเย็นๆ สำหรับสื่อมวลชนก็ตรวจสอบไป แต่ต้องให้เวลาบ้าง เพราะต้องเรียกคนมาสอบ และ ป.ป.ช.ก็มีกฎหมายตรวจสอบอยู่ มีทั้งภาคทัณฑ์ กักขัง จำขัง ไล่ออก ตัดเงินเดือน ขึ้นอยู่กับเจตนาหรือไม่ให้ไปดูกฎหมาย
สั่งการบ้าน ครม.ไปร้อยกว่าเรื่อง
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า การประชุม ครม.วันนี้ถือเป็นการประชุม ครม.ครั้งแรกหลังแถลงนโยบายต่อ สนช.ได้สั่งการทุกเรื่องและฝากการบ้านไป 100 กว่าเรื่อง ขณะนี้ได้แบ่งงานให้รองนายกฯทั้งหมดแล้ว มีการแต่งตั้งคณะทำงานข้าราชการการเมืองทั้งหมดแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ชินกับตำแหน่งนายกฯแล้วหรือยัง พล.อ.ประยุทธ์ หันมายิ้ม ก่อนตอบว่า “ไม่ว่าผมจะเป็นอะไรหรืออยู่ในตำแหน่งไหน ผมก็ยังไม่มีความสุขเพราะบ้านเมืองยังไม่เรียบร้อย ประชาชนยังลำบากอยู่ นี่คือสิ่งที่ผมคิด วันนี้ผมถือว่าผมเป็นคนของประชาชนที่ต้องมาดูแล แต่ผมไม่ใช่นักการเมือง หน้าที่ของผมคือทำอย่างไรที่จะทำให้ทุกคนมีความสุขตามความพอเพียง”
โชว์กำไลหางช้าง–แหวนพระ 4 วง
ผู้สื่อข่าวถามนายกฯถึงเครื่องประดับที่ข้อมือ พล.อ.ประยุทธ์ ตอบพร้อมโชว์กำไลเงินที่ข้อมือให้ผู้สื่อข่าวดูว่า “เป็นกำไลหางช้างที่ใส่อยู่นานแล้วก็เป็นความเชื่อตามคนโบราณ เราคนไทยเรื่องศาสนาก็เชื่อถือกัน ถ้ามีแล้วจะใส่ไหม” จากนั้นได้โชว์แหวนทั้ง 4 วง ที่สวมด้วยว่า เป็นแหวนที่ใส่เหมือนเดิม คือแหวนพระ แหวนนะโม แหวนสมเด็จ แหวนนพเก้า ถ้าแต่งเครื่องแบบต้องย้ายแหวนมาใส่มือขวาเพื่อสะดวกในการทำความเคารพไม่ได้ ต้องเปลี่ยนข้าง
เมื่อถามว่า นายกฯได้แจงบัญชีทรัพย์สินเครื่องประดับหมดแล้วหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่า “แจงหมดแล้ว ไม่เป็นไรหรอก ตนเป็นคนเจตนาดี หรือดูหน้าจนมากรึไง หรือรวยมาก” เมื่อถามต่อว่า ตั้งแต่เป็นนายกฯ จะดูอารมณ์ดีกว่าเป็น ผบ.ทบ. พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่า “ผมอารมณ์ดีตลอด เพียงแต่บางทีต้องอดทนเหมือนกัน” เมื่อถามว่านักข่าวทำเนียบน่ารักกว่า พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่า ก็เป็นไปได้
กรมโยธาฯเด้งผึงสั่ง บ.เก็บไมค์ออก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ห้องประชุม ครม.ที่ชั้น 5 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล ที่มีปัญหาเรื่องไมโครโฟนที่ถูกมองว่าราคาแพงเกินความเป็นจริง วันที่ 16 ก.ย. หลัง พล.ท.อนันตพร กาญจนรัตน์ ปลัดบัญชีทหารบก ในฐานะประธานคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณของภาครัฐ (คตร.) เข้ารายงานผลสอบต่อที่ประชุม ครม.และสุดท้ายนายกรัฐมนตรีมีคำสั่งให้ยกเลิกการติดตั้งไมค์ดังกล่าว ล่าสุด กรมโยธาธิการและผังเมืองได้ให้คนงานบริษัทอัศวโสภณ ซึ่งได้รับการว่าจ้างติดตั้งอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในห้องประชุม ครม.รื้อถอดไมค์ที่ติดตั้งในห้องประชุมออกทั้งหมดแล้ว และให้นำไมค์เดิมมาติดตั้งไปก่อน
“บิ๊กป้อม” เป็นรองนายกฯคนที่ 1
ร.อ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังประชุม ครม.ว่า คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ดังนี้ 1. ในกรณีที่นายกรัฐมนตรีไม่อาจปฏิบัติราชการได้ คณะรัฐมนตรีมอบหมายเป็นหลักการให้รองนายกรัฐมนตรีคนใดคนหนึ่งเป็นผู้รักษาราชการแทน ตามลำดับ ดังนี้ 1. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ 2. ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล 3. นายยงยุทธ ยุทธวงศ์ 4. พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร 5. นายวิษณุ เครืองาม 2. ในระหว่างการรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ผู้รักษาราชการแทนข้างต้นจะสั่งการใดเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลและการอนุมัติเงินงบประมาณอันอยู่ในอำนาจของนายกรัฐมนตรีได้ต้องได้รับความเห็นชอบจากนายกรัฐมนตรีเสียก่อน
ครม.เคาะตั้ง ขรก.การเมือง
ร.อ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุม ครม.ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบแต่งตั้งบุคคลให้ดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมือง อาทิ ในส่วนของรองนายกฯ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม มี พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ รักษาการ ผบ.ตร. เกษียณอายุราชการเดือน ก.ย.นี้ เป็นรองเลขาธิการนายกฯ ฝ่ายการเมือง นายปณิธาน วัฒนายากร อดีตโฆษกประจำสำนักนายกฯสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นที่ปรึกษาฯ ม.ร.ว.ปรีดียาธร เทวกุล รองนายกฯ มีนายคณิสสร นาวานุเคราะห์ เป็นรองเลขาธิการนายกฯ ฝ่ายการเมือง นายอำนวย ปะติเส เป็นที่ปรึกษาฯ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ มีนายสุรชัย ภู่ประเสริฐ อดีตเลขาธิการ ครม.เป็นรองเลขาธิการนายกฯ ฝ่ายการเมือง พล.ต.ท.พิจาร จิตติรัตน์ เป็นที่ปรึกษาฯ ขณะที่ตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรี เลขานุการรัฐมนตรี ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรี อาทิ พล.ต.อินทรัตน์ ยอดบางเตย เป็นที่ปรึกษา รมว.เกษตรและสหกรณ์ นายอนุชา โมกขะเวส เป็นที่ปรึกษา รมว.มหาดไทย นายศิวะ แสงมณี เป็นที่ปรึกษา รมช.มหาดไทย
“ดาว์พงษ์” เข้า ก.ทรัพย์ฯวันแรก
ที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ทรัพยากรฯ และนายธเนศพล ธนบุณยวัฒน์ ผอ.องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) พร้อมทีมงาน ได้เดินทางเข้ากระทรวงเป็นวันแรก ทั้งนี้ นายธเนศพล ได้นำรูปภาพขนาดใหญ่ของสมเด็จพระธีรญาณมุนี เจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทราวาส นำไปติดที่ห้องทำงานด้วย ทั้งนี้มีนางมิ่งขวัญ วิชญารังสฤษดิ์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรฯ และผู้บริหารกระทรวงมาต้อนรับอย่างคับคั่ง โดย พล.อ.ดาว์พงษ์ ได้เข้าสักการะพระพุทธสยัมภู พระประจำกระทรวง และบูชาพระภูมิ เจ้าที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวง
จากนั้นเดินทางเข้าห้องทำงานที่ชั้น 20 สำนักงานปลัดกระทรวงทรัพยากรฯ และร่วมรับประทานอาหารเช้าเป็นเมนูข้าวต้มกุ๊ย ยำกุ้งแห้ง ไก่ทอด ผักกาดดอง กับผู้บริหารอย่างเป็นกันเอง จากนั้นก่อนออกเดินทาไปร่วมประชุมคณะรัฐมนตรี พล.อ.ดาวพงษ์ ได้ให้เจ้าหน้าที่กระทรวงประสานกับผู้สื่อข่าวเพื่อมาแนะนำตัวพร้อมกับบอกว่ารู้จักกันแล้วจะได้ทำงานร่วมกัน รับรองมันและสนุกแน่
“บิ๊กเต่า” ไม่ปลื้มรหัส “จับกัง 1”
ที่กระทรวงแรงงาน พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.แรงงานและปลัดกระทรวงกลาโหม กล่าวระหว่างประชุมผู้บริหารระดับสูง พร้อมทีมประชาสัมพันธ์ของทุกกรมว่า เพื่อให้การทำงานสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างต้องโปร่งใส ตรวจสอบได้ การให้บริการประชาชนที่ดี การปรับภาพลักษณ์ของกระทรวงฯ ดังนั้น เนื่องในโอกาสวันสถาปนากระทรวงแรงงานในวันที่ 23 ก.ย.ครบรอบ 21 ปี ขอให้ไปช่วยกันคิดคำใหม่แทนคำว่า จับกัง 1” ฉายา รมว.แรงงาน ตนไม่มีปัญหากับชื่อนี้ แต่อยากให้เปลี่ยนเพื่อให้เกียรติต่อผู้ใช้แรงงาน ที่เป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ส่วนกรณีเสนอรายชื่อปลัดกระทรวงแรงงานคนใหม่ ยังไม่ได้เสนอเข้าที่ประชุม ครม. เพราะเพิ่งเข้ารับตำแหน่ง ต้องใช้เวลาพิจารณา
เติม คสช.แทน “หม่อมอุ๋ย”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ออกประกาศ คสช.ฉบับที่ 122/ 2557 เรื่องแต่งตั้งผู้ดำรงตำแหน่งใน คสช.เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่ของ คสช.เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 42 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) หัวหน้า คสช.จึงมีประกาศให้ยกเลิกประกาศ คสช.ฉบับที่ 6/2557 เรื่องแต่งตั้งผู้ดำรงตำแหน่งสำคัญใน คสช. ลงวันที่ 22 พ.ค.57 และแต่งตั้งให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นหัวหน้า คสช. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว เป็นรองหัวหน้า คสช. พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล พล.อ.วรพงษ์ สง่าเนตร พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา พล.ร.อ.ไกรสร จันทร์สุวานิชย์ พล.อ.อ.ตรีทศ สนแจ้ง พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายมีชัย ฤชุพันธุ์ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เป็นสมาชิก คสช. และพล.อ.อุดมเดช สีตบุตร เป็นเลขาธิการ คสช. ทั้งนี้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ประกาศเมื่อวันที่ 11 ก.ย.57
ครม.ไฟเขียวโยกย้าย 37 บิ๊ก มท.
เมื่อเวลา 14.00 น. ร.อ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ครม.มีมติเห็นชอบบัญชีรายชื่อโยกย้ายข้าราชการสังกัดกระทรวงมหาดไทย จำนวน 37 ตำแหน่ง ประกอบด้วย 1.นายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ ผวจ.นครศรีธรรมราช เป็นรองปลัดกระทรวง 2.นายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผวจ.ชุมพร เป็น ผวจ.นครศรีธรรมราช 3.นายศิริพงษ์ ห่านตระกูล อธิบดีกรมการปกครอง เป็นอธิบดีกรมที่ดิน 4.นายกฤษฎา บุญราช ผวจ.สงขลา เป็นอธิบดีกรมการปกครอง 5.นายธำรงค์ เจริญกุล ผวจ.พังงา เป็น ผวจ.สงขลา 6.นายคณิต เอี่ยมระหงษ์ ผวจ.สมุทรปราการ เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวง 7.นายพินิจ หาญพาณิชย์ อธิบดีกรมที่ดิน เป็น ผวจ.สมุทรปราการ 8.นายวันชัย สุทธิวรชัย ผวจ.อุบลราชธานี เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวง 9.นายเสริม ไชยณรงค์ ผู้ตรวจราชการกระทรวง เป็น ผวจ.อุบลราชธานี 10.นายวิชิต ชาตไพสิฐ ผวจ.ระยอง เป็นผู้ตรวจกระทรวง 11.นายธานี สามารถกิจ ผู้ตรวจราชการกระทรวง เป็น ผวจ.ระยอง 12.นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผวจ.ขอนแก่น เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวง 13.นายกำธร ถาวรสถิตย์ ผวจ.ชัยนาท เป็น ผวจ.ขอนแก่น 14.นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ผวจ.สระบุรี เป็น ผวจ.ชัยนาท 15.นายวิเชียร พุฒิวิญญู ผวจ.เชียงใหม่ เป็น ผวจ.สระบุรี 16.นายสุริยะ ประสาทบัณฑิตย์ ผวจ.ตาก เป็น ผวจ.เชียงใหม่ 17.นายสมชัยฐ์ หทยะตันย์ติ ผู้ตรวจราชการกระทรวง เป็น ผวจ.ตาก
ส่ง ผวจ.โคราชล่องใต้ไปพัทลุง
18.นายสมศักดิ์ ขำทวีพรหม ผวจ.ร้อยเอ็ด เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวง 19.นายสมศักดิ์ จังตระกุล ที่ปรึกษาด้านความมั่นคง เป็น ผวจ.ร้อยเอ็ด 20.นายสุวิทย์ สุบงกฎ ผวจ.กาฬสินธุ์ เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวง 21.นายภุชงค์ โพธิกุฏสัย ที่ปรึกษาด้านการปกครอง เป็น ผวจ.กาฬสินธุ์ 22.นายธงชัย ลืออดุลย์ ผวจ.บุรีรัมย์ เป็น ผวจ.นครราชสีมา 23.นายเสรี ศรีหะไตร ผวจ.พัทลุง เป็น ผวจ.บุรีรัมย์ 24.นายวินัย บัวประดิษฐ์ ผวจ.นครราชสีมา เป็น ผวจ.พัทลุง 25.นายสามารถ ลอยฟ้า ผู้ตรวจราชการกระทรวง เป็น ผวจ.จันทบุรี 26.นายไมตรี อินทุสุต ผวจ.ภูเก็ต เป็นรองปลัดกระทรวง 27.นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ ผวจ.ราชบุรี เป็น ผวจ.ภูเก็ต 28.นายสุรพล แสวงศักดิ์ ผวจ.สิงห์บุรี เป็น ผวจ.ราชบุรี 29.นายชโลธร ผาโคตร ผวจ.บึงกาฬ เป็น ผวจ.สิงห์บุรี 30.นายวันชัย โอสุคนธ์ทิพย์ ผวจ.อุทัยธานี เป็น ผวจ.กาญจนบุรี 31.นายวิเชียร จันทรโณทัย ผวจ.เพชรบูรณ์ เป็นผวจ.ชัยภูมิ 32.นายระพี ผ่องบุพกิจ ผวจ.พิษณุโลก เป็น ผวจ.นครสวรรค์ 33.นายจักริน เปลี่ยน-วงษ์ ผวจ.สุโขทัย เป็น ผวจ.พิษณุโลก 34.นายชนม์ชื่น บุญญานุสาสน์ ผวจ.สมุทรสงคราม เป็น ผวจ.นนทบุรี 35.นายอภิชาติ โตดิลกเวชช์ ผวจ.แพร่ เป็น ผวจ.พระนครศรีอยุธยา 36.นายเดชรัฐ สิมศิริ ผวจ.ยะลา เป็น ผวจ.สตูล 37.นายนพวัชร สิงห์ศักดา ผวจ.มหาสารคาม เป็น ผวจ.อุดรธานี ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.57 เป็นต้นไป
เด้งอธิบดีที่ดินเหตุชอบกินเกาเหลา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการโยกย้ายนายพีระศักดิ์ รักษาการอธิบดีกรมที่ดินออกจากตำแหน่ง เนื่องจากที่ผ่านมามีความขัดแย้งในการปฏิบัติงานค่อนข้างสูง โดยการทำงานที่ต้องมีการประสานกันระหว่างผู้บริหารกระทรวง มีความขัดข้องมาโดยตลอด จึงมีการโยกย้ายนายพีระศักดิ์ออกจากตำแหน่งแม้ว่าทำงานมาเพียง 2 เดือนเศษ เพื่อลดปัญหาในการปฏิบัติงาน และมีการดึงนายศิริพงษ์ เข้ามาดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมที่ดินแทน ซึ่งนายศิริพงษ์เป็นผู้ที่ปลัดกระทรวงมหาดไทยไว้ใจ เพราะเป็นเพื่อนร่วมรุ่นรัฐศาสตร์ จุฬาฯและทำงานร่วมกันมาโดยตลอด รวมถึงมีอาวุโสพร้อม จึงผลักดันให้เข้าทำงานในตำแหน่งที่สามารถประสานงานกันได้ ส่วนตำแหน่งรองปลัดกระทรวงมหาดไทยใหม่ 2 ราย นายอภินันท์ มาเป็นรองปลัดกระทรวง ย้ายเข้าไลน์เตรียมขึ้นตำแหน่งระดับสูงในกระทรวงมหาดไทยในอนาคต ส่วนนายไมตรี มีความความอาวุโสอยู่ในสายงานสำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย มีความชำนาญและเชี่ยวชาญงานด้านการวางแผนและวิชาการ
คู่เขย “ดาว์พงษ์” ไปเมืองสองแคว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส่วนนายนิสิต ที่ย้ายจากผวจ.ราชบุรี มาเป็น ผวจ.ภูเก็ต ถือเป็นการย้ายไปจังหวัดใหญ่ นายนิสิตถือเป็นผู้ที่มีชื่อในโผการแต่งตั้งโยกย้ายทุกครั้ง โดยคาดว่าจะให้ไปทำงานพัฒนาการท่องเที่ยว ด้านนายอภิชาติ ที่ได้ย้ายจาก จ.แพร่ มาที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ที่เป็น จ.เกรดเอ เนื่องจากปลัดกระทรวงต้องการคนที่ไว้ใจที่จะให้ดูแล สามารถเชื่อมโยง รองรับภารกิจที่สำคัญของจังหวัดได้ ซึ่งนายอภิชาติยังเป็นรุ่นน้องสิงห์ดำของนายวิทยา ผิวผ่อง ผวจ.พระนครศรีอยุธยา ที่จะเกษียณ จึงให้เข้ามารับไม้ต่อ นอกจากนี้ ยังมีการโยกย้ายจาก ผวจ.จังหวัดใหญ่มาดูแลจังหวัดที่เล็กลงได้แก่ นายระพี ผ่องบุพกิจ สิงห์แดง ผวจ.พิษณุโลก มาเป็น ผวจ.นครสวรรค์ เปิดทางให้นายจักริน เปลี่ยนวงษ์ ผวจ.สุโขทัย มาแทน แต่นายจักรินมาแรงเนื่องจากเป็นคู่เขยกับ พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
“บิ๊กป๊อก” ปัดล้วงโผบิ๊กลอต
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวถึงการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย ว่าการพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายเป็นไปตามที่นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ ปลัดกระทรวงมหาดไทยเสนอและรายงาน โดยแบ่งเป็นสามส่วนคือ คำสั่งโยกย้ายหลังวันที่ 22 พ.ค. การสลับการทำงานระหว่างกรม และส่วนที่ข้าราชการระดับ 10 เกษียณอายุราชการ โดยรายชื่อที่ได้รับการแต่งตั้งทั้งหมดตนไม่รู้จักเป็นการส่วนตัว กรณีนายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า รักษาการอธิบดีกรมที่ดินที่ถูกโยกไปเป็น ผวจ.นครศรีธรรมราชเป็นไปตามความเหมาะสม ส่วนจะเกี่ยวโยงกับกรณีอุทยานแห่งชาติสิรินาถ จ.ภูเก็ตหรือไม่ ตนไม่ทราบ เมื่อถามต่อว่ามีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าหลังเข้ารับตำแหน่งได้เข้ามาปรับปรุงบัญชีแต่งตั้งโยกย้าย พลเอกอนุพงษ์กล่าวว่า ไม่ใช่ เรื่องดังกล่าวปลัดกระทรวงมหาดไทยและรองปลัดกระทรวงมหาดไทยได้ดำเนินการไว้ก่อนแล้ว และนำมาเสนอเมื่อวันที่ 15 ก.ย.
ปูดมีกลุ่มเคลื่อนไหวใน-นอก ปท.
พล.อ.อนุพงษ์กล่าวว่า การแบ่งงานของกระทรวงมหาดไทย ตนจะดูแลรับผิดชอบกรมการปกครองและหน่วยงานที่ดูแลความเป็นอยู่ของประชาชนโดยส่วนใหญ่นั้น ขอให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และนายอำเภอช่วยกันดูแลความสงบสุข โดยให้กลไกภาครัฐเข้าไปชี้แจงกับประชาชน ยอมรับว่า มีรายงานข่าวการเคลื่อน ไหวต่อต้านรัฐบาลอยู่ทั้งในต่างประเทศและในประเทศแต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดของหลักฐานได้
นายกฯขอฝ่ายขวา–ซ้ายปรองดอง
เมื่อเวลา 13.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ให้สัมภาษณ์ถึงแนวทางการสร้างความปรองดองว่า ทุกคนต้องสร้างแนวคิดร่วมกันว่ารัฐบาลและนายกรัฐมนตรีคิดอย่างนี้ แล้วประชาชนไม่ร่วมมือจะทำอย่างไร ใครที่เป็นแกนนำต่างๆยังไม่หยุดแล้วจะแก้ได้อย่างไร อย่ามาไล่ตนข้างเดียว ต้องไปบอกทุกพวก วันนี้ถึงบอกว่าตนไม่มีข้าง ทำแบบนี้มาตลอดไม่เคยเบียดเบียนใคร ยอมรับว่าโดนด่าก็ต้องโดน เพราะต้องการให้ประเทศที่ซ้ายกับขวาหยุดให้ได้แล้วค่อยปรองดองกัน หารือพูดคุยกันไป ตนก็พาประเทศเดินหน้าไปก่อน เหลื่อมล้ำจะทำอย่างไร สรุปว่าต้องตีกันก่อนใช่ไหมถึงจะชนะกันได้ ถึงจะเดินหน้าประเทศใช่ไหม มันไม่ได้ เราต้องหยุดความขัดแย้งและพูดคุยกันปฏิรูปประเทศให้ได้
จับตาคลื่นบน–ใต้น้ำไม่ละสายตา
ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้จับตาความเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อยู่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า จับตาดูทุกพวกทุกคน รวมทั้งสื่อด้วยจะจับตาอย่างไรตอบไม่ได้ เป็นเรื่องของความมั่นคง เรามีสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) มีหน่วยข่าวเยอะแยะไปหมด มีทั้งคลื่นใต้น้ำ บนน้ำก็มี เมื่อถามว่า อยากให้ พ.ต.ท.ทักษิณกลับมาดำเนินคดีที่ประเทศไทยหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่า “ไม่รู้ ผมไม่ทราบ ผมไม่มีความคิดอะไรทั้งนั้น ใครผิดกฎหมายก็ว่ากันไปตามกฎหมาย”
รมว.กห.สั่ง ผช.ทูตทหารแจงโรดแม็ป
เมื่อเวลา 13.30 น. ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.กลาโหม เป็นประธานให้โอวาทผู้ช่วยทูตทหารจำนวน 21 คนที่เข้าอำลาเพื่อไปปฏิบัติหน้าที่ในประเทศต่างๆมี พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม เข้าร่วมพิธีด้วย โดย พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ขอให้ผู้ช่วยทูตฯ และรองผู้ช่วยทูตฯ ไปชี้แจงกับประเทศที่ไปประจำอยู่ให้รับทราบถึงความจำเป็นในการเข้ามาบริหารประเทศของ คสช.และชี้แจงโรดแม็ปของ คสช.ที่กำลังดำเนินการอยู่ว่าทำอะไรไปแล้วบ้าง อยากให้ทุกคนศึกษาภารกิจของ คสช. ในทุกด้านที่ได้ทำประโยชน์ให้กับประชาชนและประเทศชาติ เพื่อจะได้นำข้อมูลต่างๆไปชี้แจงได้อย่างถูกต้อง
ต่ออัยการศึก จ.ชายแดนใต้อีก 3 ด.
พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ แถลงภายหลังประชุม ครม.ว่า ที่ประชุม ครม.ยังมีมติต่ออายุ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตั้งแต่วันที่ 20ก.ย. ถึง 19 ธ.ค.57 เป็นการต่อครั้งที่ 37 เนื่องจากการตรวจสอบความคิดเห็นหน่วยงานราชการ ภาคเอกชน และประชาชนในพื้นที่ พบว่าส่วนใหญ่ยังเห็นชอบอยากให้มีการประกาศใช้อยู่
ได้ 200 คนแรกว่าที่ สปช.4 ด้าน
ที่สำนักงาน กกต. นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการ กกต. แถลงผลการประชุมคณะกรรมการสรรหาสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ 11 ด้าน และคณะกรรมการสรรหาระดับจังหวัด 77 จังหวัด ที่ประชุมเมื่อวันที่ 15 ก.ย.ว่า ขณะนี้คณะกรรมการสรรหา 11 ด้าน มีเพียง 4 ด้านที่คัดเลือกผู้เหมาะสมเป็นสปช.ได้ด้านละ 50 คน ได้แก่ ด้านอื่นๆ ด้านสื่อมวลชน ด้านพลังงาน และด้านบริหารราชการแผ่นดิน คณะกรรมการสรรหาด้านเหล่านี้จะไม่มีการนัดประชุมอีก ส่วน 7 คณะกรรมการด้านที่เหลือจะประชุมอีกครั้งในวันที่ 17 ก.ย. ตั้งแต่เวลา 09.00 น. ที่กองพันทหารราบที่ 4 กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ (ร.1 พัน.4 รอ.) น่าจะเรียบร้อยภายในวันที่ 19 ก.ย. ก่อนที่นำรายชื่อทั้งหมดเสนอต่อ คสช.พิจารณาคัดเลือกต่อไป
23 ก.ย.ส่ง 935 ชื่อให้ คสช.เคาะ
นายภุชงค์กล่าวว่า ส่วนระดับจังหวัด มีคณะกรรมการสรรหาระดับจังหวัด 22 จังหวัด ที่คัดเลือกผู้เหมาะสมเป็น สปช.จังหวัดละ 5 คน ได้เรียบร้อยแล้ว และในวันที่ 16 ก.ย. จะมีการประชุมคณะกรรมการสรรหาระดับจังหวัดในอีก 29 จังหวัด คาดน่าจะเรียบร้อย ส่วนจังหวัดที่เหลือจะนัดประชุมอีกครั้ง แต่ยังไม่มีการกำหนดวันชัดเจน เนื่องจากเดิมกำหนดนัดประชุมวันที่ 17 ก.ย. แต่นายกรัฐมนตรีเชิญผู้ว่าราชการจังหวัดต่างมาประชุม จึงจำเป็นต้องเลื่อนประชุมออกไปก่อน ดังนั้น ในระดับจังหวัดน่าจะได้รายชื่อครบภายในวันที่ 22 ก.ย. ทั้งนี้ผลการสรรหาในทั้ง 2 ส่วนคงจะเสนอให้ คสช.ภายในวันที่ 23 ก.ย. ทันตามกำหนดเวลาที่วางไว้
กก.สรรหาโพสต์จวกผู้เสนอ สปช.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายบรรยงค์ สุวรรณผ่อง คณะกรรมการสรรหาสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ด้านอื่นๆโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “Banyong Suwanpong” ว่า ข้อผิดพลาดของการส่งบุคคลสมัคร สปช. มีบางประเด็นสำคัญสะท้อนสิ่งที่เป็นอยู่ของคนไทย (บางคน) จากการสรรหา สปช. ดังนี้ 1.มีนิติบุคคลบางแห่งเสนอถึง 8 ชื่อ ถ้านิติบุคคลนั้น มีรายชื่อบุคคลที่น่าจะได้รับการพิจารณาก็จะเสียโอกาส เนื่องจากนิติบุคคลผู้ส่ง กระทำผิดกฎหมาย (ม. 10 พ.ร.ฎ. สรรหา สปช.) ตั้งแต่ต้น และ 2.มีบุคคลที่ยินยอม ยินดี หรือขอให้นิติบุคคลเสนอชื่อตนเองเกิน 1 ด้าน หรือ 1 ฉบับ หรือ 1 ที่มา เป็นทำนองว่า ถ้าไม่ได้จากการส่งโดยจังหวัด ก็อาจได้จากการสรรหาด้านต่างๆ หรือถ้าไม่ได้จากด้านหนึ่ง ก็อาจได้จากอีกด้านหนึ่ง เป็นต้น เช่นนี้ ก็จะไม่ได้รับการพิจารณาอีกเช่นกัน (ม. 12 พ.ร.ฎ. สรรหา สปช.) หน้าที่ของ สปช. คือการเข้าไปปฏิรูปประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งความซื่อสัตย์สุจริตและวินัยของคนในชาติแล้วทำไมเราชาวไทยบางคนจึงยังเริ่มต้นกันในแบบนี้อีก
สนช.เริ่มถกงบ 58 วาระ 2–3
อีกเรื่องหนึ่ง เมื่อเวลา 13.00 น. ที่รัฐสภามีการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 58 วงเงิน 2,575,000 ล้านล้านบาท ในวาระที่ 2-3 ที่คณะกรรมการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ พิจารณาเสร็จแล้ว โดยมีนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธาน สนช. ทำหน้าที่ประธานการประชุม โดย พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ เป็นประธานคณะกรรมาธิการฯ ชี้แจงในภาพรวมการพิจารณางบประมาณที่สอดคล้องแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 11 นโยบายความมั่นคงของชาติ ยุทธศาสตร์สำคัญและแผนแม่บทของชาติ รวมถึงการปรับลดงบประมาณกว่า 16,823 หมื่นล้านบาท เพื่อให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานอื่นๆ มีงบประมาณรองรับ นโยบายรัฐบาลในระยะต่อไป จากนั้นที่ประชุมได้พิจารณาเป็นรายมาตรา มีผู้สงวนคำแปรญัตติและสงวนความเห็น จำนวน 8 คน อาทิ นายกล้านรงค์ จันทิก พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม อภิปรายอย่างกว้างขวางให้ปรับลดงบลงอีกในบางหน่วยงาน แต่งบประมาณกระทรวงกลาโหม กลับไม่มีสมาชิกท่านใดอภิปราย ในที่สุดที่ประชุมมีมติเห็นชอบตามร่างของคณะกรรมาธิการฯ
ขุนคลังรับหวยแพงแก้ไม่ตก
จนกระทั่ง ที่ประชุมพิจารณามาตรา 7 งบประมาณกระทรวงการคลัง โดยนายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง ชี้แจงข้อซักถามนายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ สนช. กรณีการแก้ไขปัญหาสลากกินแบ่งขายเกินราคาว่า สลากกินแบ่งเป็นสินค้าที่จำหน่ายผ่านพ่อค้า หลายปั๊ว และยังมีปั๊วลึกลับ มีวิธีปฏิบัติเป็นธรรมเนียม ตอนที่เป็น รมช.คลังทราบเรื่องการทุจริตในกองสลาก ขอสารภาพว่าไม่กล้าเข้าไปแก้ปัญหา หากเข้าไปก็แก้ลำบาก การให้สลากกินแบ่งมีราคาตายตัวเป็นเรื่องยาก เพราะสลากจำหน่ายโควตาให้บุคคลหลายประเภท คนที่รับไปก็นำไปขายต่ออีกหลายทอด ทำให้ราคาสูงขึ้น ยอมรับว่าหมดเทอมรัฐบาลนี้ก็แก้ไม่ตก ในที่สุดที่ประชุมมีมติเห็นชอบมาตรานี้ ทั้งนี้ที่ประชุมยังได้พิจารณามาตราอื่นเป็นไปอย่างรวดเร็ว บางมาตรการก็ไม่มีสมาชิกอภิปรายเลย
“ถาวร” ซัด “ตู่” รู้อยู่แก่ใจชายชุดดำ
นายถาวร เสนเนียม อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช. ที่ขอให้ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ว่าที่ ผบ.ตร. เรียกตนไปสอบฐานปกปิดซ่อนเร้นสถานที่ให้ชายชุดดำ 4 คนที่มาพบเพื่อขอเงินแลกกับ การเปิดเผยข้อมูลกองกำลังชุดดำในเหตุการณ์ปี 53 ว่า เป็นพฤติกรรมกินอยู่กับปากอยากอยู่กับท้องรู้ทั้งรู้ว่าใครต้องการฆ่าปิดปากชายชุดดำที่ทำงานแล้วถูกหักหลัง ขณะนั้นนายจตุพรอยู่ในเหตุการณ์ปลุกปั่นมวลชน ถามว่าใครที่อมเงินที่สัญญาว่าจะให้กับกลุ่มกองกำลังชุดดำติดอาวุธในปี 52-53 แต่คงไม่กล้าเอ่ยปาก เพราะกลัวสาวไปถึงตัวใหญ่ ดังนั้น อย่าใช้ลูกไม้ดึงตนไปเป็นเครื่องมือในคดีนี้
ท้าเปิดโผชุดดำแลกชื่อ จนท.รัฐเอี่ยว
นายถาวรกล่าวว่า วันนี้ตำรวจที่มีอำนาจก็เป็นชุดเดียวกับยุค พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จึงขอท้านายจตุพรว่า หากตนให้ความร่วมมือบอกกล่าวความจริงแล้ว นายจตุพรพร้อมไปให้ข้อมูลต่อเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องหรือไม่ เพราะอยู่ในเหตุการณ์ทั้งปี 52-53 ฉะนั้นอย่าทำปากดี
นายถาวรกล่าวว่า หากถูกคำสั่งเรียกที่ถูกต้องตามกฎหมายก็พร้อมนำพยาน หลักฐานทั้งหมดในเรื่องนี้ไปแสดงต่อเจ้าหน้าที่ แต่อยากถามเจ้าพนักงานสอบสวนในคดีนี้เช่นกันว่า 1. เหตุใดพนักงานสอบสวนจึงสอบขยายผลคดีและตั้งฐานความผิดแค่การใช้อาวุธ และเครื่องกระสุนในที่สาธารณะ ทำไมไม่ขยายผลสอบโดยประสานกับทางกรมสอบสวนคดีพิเศษที่มีสำนวนเดิมเกี่ยวกับเหตุการณ์สร้างสถานการณ์ในปี 52-53 2. น.ส.กริชสุดา คุณะแสน เป็นแค่ผู้หญิงคนเดียวที่โอนเงินให้คนชุดดำ แต่เหตุใดถูกสร้างภาพให้กลายเป็นเจ้าแม่ยิ่งใหญ่ ทั้งที่เป็นแค่สะพานเชื่อมไม่ใช่ตัวใหญ่หรือนายทุนเจ้าของเงินตัวจริง 3. พล.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม ที่เสียชีวิตเพราะถูกอาวุธชนิดใด และเป็นการสร้างสถานการณ์ล็อกเป้าเพื่อมุ่งหวังอะไร เหตุใดตำรวจเจ้าของคดีไม่ขยายผลขอข้อมูลจากคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน วุฒิสภา สอบสวนข้อมูลจนได้ข้อสรุป ทำไมตัดตอนแค่คดีใช้อาวุธ
“เจ๋ง” ลุ้นศาลฎีกาปล่อยตัวชั่วคราว
ที่ศาลอาญา นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความกลุ่มแนวร่วม นปช. ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสด 5 แสนบาท เพื่อขอปล่อยชั่วคราวระหว่างฎีกา นายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก แกนนำ นปช. จำเลยคดีหมิ่นเบื้องสูง ที่แสดงพฤติการณ์ดูหมิ่นแสดง ความอาฆาตมาดร้ายสถาบัน ตามกฎหมายอาญา มาตรา 112 และรัฐธรรมนูญ ปี 50 มาตรา 2, 8 และ 12 กรณีเมื่อวันที่ 29 มี.ค.53 จำเลยปราศรัยบนเวที นปช.เชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ โจมตีบุคคลสำคัญและพาดพิงถึงสถาบันเบื้องสูงให้ได้รับความเสียหาย คดีนี้ทั้งศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ เห็นว่านายยศวริศ กระทำผิดตามฟ้องจริง จึงพิพากษาจำคุก 2 ปีโดยไม่รอลงอาญา อย่างไรก็ตาม ศาลอาญาพิเคราะห์แล้วเห็นควรส่งเรื่องให้ศาลฎีกาเป็นผู้พิจารณาเพื่อมีคำสั่งต่อไป ทำให้นายยศวริศต้องถูกคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯต่อไป เพื่อรอศาลฎีกามีคำสั่งว่าจะให้ปล่อยชั่วคราวหรือไม่
ที่มา ; เว็บ นสพ.ไทยรัฐ
อัพเดทเรื่องราว - ข้อสอบใหม่ ๆ
เข้าห้องสอบออนไลน์ ( ฟรี)
เน็ตช้า ... คลิ๊กที่ http://tuewsob.blogspot.com
ห้องอื่น ๆ ที่น่าสนใจนิวส์
... ห้องติวสอบผู้บริหาร + การศึกษาพิเศษ
... ห้อง ติวสอบ (กรณีศึกษา)
ห้อง ... ครูวิชาเอก ห้อง 1 คลิ๊กที่ http://tuewsobkru.blogspot.com
ห้อง ... ครูวิชาเอก ห้อง 2 คลิ๊กที่ http://tuewsob2011.blogspot.com
สมัคร ติวสอบผู้บริหารสถานศึกษา ที่
( คลิ๊ก ) สมัครติวสอบผู้บริหารภาค 4 ภาค 30 จุดปี 2557-2558
ฟรี... ห้องติวสอบผู้บริหารสถานศึกษา-ครู-บุคลากรการศึกษา ที่
" ติวสอบดอทคอม " เขียน-สร้าง-บรรยาย โดย (ผอ.นิกร เพ็งลี)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น