เรื่องใหม่ ...น่าโหลด...(วันนี้)

- คำแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรีต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ

http://tuewsob.blogspot.com/2014/09/blog-post_13.html

-นโยบาย รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ

http://tuewsob.blogspot.com/2014/09/blog-post_55.html

- ครม.ประยุทธ์ 1 ที่ http://tuewsob.blogspot.com/2014/08/blog-post_29.html

- รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2557

http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2557/A/055/1.PDF

- ตัวบ่งชี้ ประเมินคุณภาพภายนอกรอบสี่ พื้นฐาน-อุดม-อาชีว 

โดย สมศ.

http://www.onesqa.or.th/onesqa/th/publish/detail.php?SystemModuleKey=NewsPublish&ID=2774

- เกณฑ์ประเมินคุณภาพภายนอก รอบสี่ (พ.ศ.2559-2563)

http://tuewsob.blogspot.com/2014/06/3-5-7-20.html

- ระบบควบคุมภายใน 2557

https://drive.google.com/file/d/0B8Hlie0mNhcCTEMzcl9DZlVFYnc/edit?usp=sharing

- แนวทางการจัดทำรายงานการติดตามประเมินผลการควบคุมภายในประจำปี 2557

https://drive.google.com/file/d/0B8Hlie0mNhcCbTBSV0cxVUdEcnc/edit?usp=sharing

ข้อสอบออนไลน์ ( สอบครู - ผู้บริหาร - บุคลากรการศึกษา) ชุดใหม่ล่าสุด

ข้อสอบออนไลน์ ชุด 295 ครม.ประยุทธ์ 1 + นโยบายรัฐบาล

 

ติวสอบ บน ยูทูป ทั้งหมด ได้ที่

 (  คลิ๊ก ) สมัครติวสอบผู้บริหารภาค 4 ภาค 30 จุดปี 2557-2558 

https://docs.google.com/forms/d/1Y1q_ndQeIQInknKBW9OvqkLc-lD2YJAmrUPofAVxc_I/viewform

‘ทำยังไงบอกมาซิ’ ประวิตร โต้ล็อกสเปกสปช.

พท.ถล่มสมชัยผลาญงบดูงาน 60นักวิชาการร่อนจม.เปิดผนึก จี้คสช.เลิกคุกคามอาจารย์-นศ.

“ประวิตร” เข้าทำเนียบฯไหว้ “พระพรหม-ศาลพระภูมิ” เอาฤกษ์ก่อนลุยงาน ตั้งตู้เลี้ยงปลามังกรหนุนดวงเสริมบารมี ฉุนสื่อรุมซัก ล็อกสเปกคัดเลือก สปช. ว้ากลั่นล็อกอย่างไร ที่ไหน อย่าถามชี้นำ “ยุทธนา” โผล่แฉอีกกรรมการสรรหา สปช.ยโสธรทำเกินหน้าที่ ตัดสิทธิผู้ได้รับเสนอชื่อมิชอบ จ่อฟ้องกลับกู้คืนศักดิ์ศรี-ยื่นเรื่องขอความเป็นธรรมนายกฯ พท.ชักแถวถล่ม “สมชัย” สวนนโยบาย คสช. ผลาญงบดูงานประชามติสกอตแลนด์ จี้ “บิ๊กตู่” ตั้งกรรมการสอบด่วน “กกต.สมชัย” ขอบคุณ “โอ๊ค” ช่วยตรวจสอบ นัด 23 ก.ย. แจงคุ้มค่าได้ประโยชน์ 60 นักวิชาการจาก 16 มหาวิทยาลัยทั่วประเทศลุกฮือ ร่อน จ.ม.เปิดผนึกประณาม คสช. โวยลั่นเลิกคุกคามคณาจารย์-นักศึกษา ลิดรอนเสรีภาพทางวิชาการ

การคัดเลือกสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ในขั้นตอนสุดท้ายงวดเข้ามาทุกขณะ ท่ามกลางการร้องเรียนจากผู้สมัครเข้ารับการสรรหาเป็น สปช.จังหวัดหลายแห่ง ยังคงมีออกมาอย่างต่อเนื่องว่ากระบวนการพิจารณาสรรหา อาจมีปัญหาความไม่โปร่งใส และมีการเล่นพรรคเล่นพวก

อดีต ส.ว.โวยอีกเฟ้น สปช.มิชอบ

เมื่อวันที่ 21 ก.ย. นายยุทธนา ยุพฤทธิ์ อดีต ส.ว.ยโสธร ผู้เข้ารับการสรรหาเป็น สปช. จ.ยโสธร กล่าวว่า ได้ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และ กกต.ยโสธร ให้ตรวจสอบกรรมการสรรหาสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) จ.ยโสธร ที่ทำเกินหน้าที่ ตัดสิทธิผู้เข้ารับการสรรหา สปช.จ.ยโสธรหลายคนโดยไม่ถูกต้องตามพระราชกฤษฎีกา ว่าด้วยการสรรหาสมาชิก สปช. โดยตนและผู้เข้ารับการสรรหาจำนวนมากถูกตัดสิทธิ เนื่องจากเคยถูกร้องเรียนและถูกฟ้องร้อง ทำให้ขาดคุณสมบัติการสมัคร ทั้งที่คุณสมบัติดังกล่าวไม่ได้เข้าข่ายลักษณะต้องห้ามตาม พ.ร.ฎ.การสรรหาสมาชิก สปช. ถือว่ากรรมการสรรหา จ.ยโสธรทำเกินหน้าที่ ทราบว่าฝ่ายเลขาธิการคณะกรรมการสรรหาฯ ซึ่งเป็น กกต.ยโสธรเป็นผู้ชงเรื่องการตัดสิทธิเข้ามา ทำให้กรรมการสรรหาเข้าใจผิด ตัดสิทธิตนและผู้เข้ารับการสรรหาอีกหลายคน ถือเป็นการกลั่นแกล้ง ใส่ร้ายป้ายสีผู้สมัครคนอื่น เพื่อช่วยเหลือคนที่ตัวเองสนับสนุนให้ได้รับการสรรหาเป็น สปช.

ยื่นร้อง “บิ๊กตู่” ขอความเป็นธรรม

นายยุทธนา กล่าวอีกว่า หลังจากนี้จะทำหนังสือร้องเรียนถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้ทราบถึงกระบวนการคัดเลือกที่ไม่ถูกต้อง และกำลังพิจารณาฟ้องร้องกรรมการสรรหา จ.ยโสธร ที่ใช้ดุลพินิจไม่ต้องถูกตัดสิทธิผู้เข้ารับการสรรหา การที่ต้องร้องเรียนเพื่อต้องการให้เกิดบรรทัดฐานที่ถูกต้องในการทำงาน เพราะเรื่องที่ถูกร้องเรียนเป็นเรื่องเก่า ตั้งแต่สมัยได้รับเลือกเป็น ส.ว.ยโสธร ปี 51 แต่ยังได้รับการรับรองให้เข้ามาเป็น ส.ว. ดังนั้นจึงต้องออกมาปกป้องศักดิ์ศรีของตัวเอง เพื่อขอความเป็นธรรม ไม่ให้เกิดการใช้บรรทัดฐานที่ไม่ถูกต้องมากล่าวหาตนอีกต่อไป จนกลายเป็นคนมีตำหนิ

จี้ คสช.เคลียร์ก่อนบานปลาย

นายเจตน์ ศิราธรานนท์ สนช. ในฐานะกรรมการสรรหาสมาชิกสภาปฏิรูป (สปช.) ด้านสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงกรณีที่มีอดีต ส.ว.ร้องเรียนการสรรหา สปช.ในบางจังหวัดไม่โปร่งใสว่า เป็นเรื่องของแต่ละคนไปร้องเรียนได้ หากพบว่าการสรรหาไม่โปร่งใสและยุติธรรม มีการเล่นพวก คิดว่าบางพื้นที่อาจมีเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน ซึ่งเรื่องนี้ คสช.คงต้องเร่งตรวจสอบและพิจารณาดูว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร อย่าปล่อยไว้ เพราะจะทำให้ความยุติธรรมหมดไป แต่ในส่วนกลางทั้ง 11 ด้าน คิดว่าไม่มีปัญหาเรื่องนี้ เพราะมีวิธีการคัดสรรบุคคลอย่างละเอียดรอบคอบ ได้คนเหมาะสมในแต่ละด้าน

ด้านนายสิงห์ชัย ทุ่งทอง อดีต ส.ว.อุทัยธานีกล่าวว่า ในต่างจังหวัดถือเป็นเรื่องธรรมดาที่จะมีการเล่นพรรคเล่นพวก ข้าราชการในต่างจังหวัดส่วนใหญ่ ต้องอิงฝ่ายการเมืองเป็นเรื่องปกติ ไม่เช่นนั้นพวกเขาก็อยู่ได้ยาก การสรรหา สปช.บางพื้นที่ยังมีกลุ่มการเมือง และผู้ต้องการผลประโยชน์แฝงอยู่ ดังนั้น คสช.ต้องจัดการหากอยากให้เกิดความปรองดอง

“บิ๊กป้อม” เลี้ยงปลามังกรเสริมบารมี

ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 15.09 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เดินทางเข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ประจำทำเนียบรัฐบาล ก่อนเข้าปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นทางการ โดยขึ้นไปสักการะพระพรหม บนตึกไทยคู่ฟ้า ถวายรูปปั้นช้าง 1 คู่ ผลไม้ 9 ชนิด ขนมหวาน 9 ชนิด จากนั้นลงมาสักการะศาลพระภูมิ ศาลตา ยาย โดยถวายตุ๊กตานางรำ สาวสี สาวใช้ และช้างม้า แล้วเดินมาทักทายสื่อมวลชนที่มารอติดตามทำข่าวว่า “วันนี้วันหยุด มากันทำไม ไม่หยุดกันหรือ” จากนั้นขึ้นห้องทำงาน บนชั้น 4 ตึกบัญชาการ และเดินทางกลับออกจากทำเนียบฯไปเวลา 15.49 น. ทั้งนี้เมื่อวันที่ 20 ก.ย.ทีมงานของ พล.อ.ประวิตรนำตู้ปลาซึ่งมีปลามังกรเกล็ดทอง 1 ตัว มาตั้งประดับไว้ในห้องทำงาน พล.อ.ประวิตร ชั้น 4 ตึกบัญชาการ 1 ซึ่งปลามังกรตามความเชื่อโชคลางของคนจีนและคนเอเชียนับถือเป็นสัตว์มงคล เลี้ยงไว้เพื่อเสริมมงคล ความรุ่งเรือง มั่งคั่ง โชคลาภ อำนาจ บารมี

ปลูกไทรอังกฤษกั้นรังนกกระจอก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่ทำเนียบรัฐบาล ช่วงวันหยุดเมื่อวันที่ 21 ก.ย.คนงาน ช่างจากกรมโยธาธิการและผังเมือง กทม.และทำเนียบรัฐบาล ยังคงเข้าปรับปรุงอาคารสถานที่และภูมิทัศน์ทำเนียบฯ โดยคนสวนประจำทำเนียบฯ นำต้นไทรอังกฤษ ความสูง 2.5 เมตร จำนวน 50 ต้น มาปลูกเรียงเป็นกำแพงความยาวประมาณ 10 เมตร ด้านข้างห้องปฏิบัติการสื่อมวลชน 1 (รังนกกระจอก) ประจำทำเนียบฯ ฝั่งติดกับสวนหย่อมหน้าตึกบัญชาการ 1 ทำให้ผู้สื่อข่าวในรังนกกระจอก 1 มองการเคลื่อนไหวภายในทำเนียบฯได้ยากขึ้น และจะมีการปลูกต้นไทรอังกฤษตลอดแนวด้านหลังตึกนารีสโมสรด้วย ซึ่งผู้รับผิดชอบงบประมาณปลูกต้นไทรอังกฤษระบุว่าใช้งบประมาณไม่เกิน 100,000 บาท ตกราคาต้นละกว่า 1,000 บาท รวมอยู่ในโครงการปรับปรุงทำเนียบรัฐบาล ที่เริ่มปรับปรุงห้องผู้สื่อข่าว และสวนหย่อมหน้าตึกบัญชาการ

“ประวิตร” แจง รธน.ยุบ 14 อรหันต์

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางกลับออกจากทำเนียบรัฐบาลถึงการยกเลิกคำสั่ง คสช. ที่ 117/2557 ตั้งคณะกรรมการคัดเลือกสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ว่า เป็นการทำตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 ซึ่งรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวกำหนดชัดเจน การคัดเลือก สปช.เป็นเรื่อง คสช.เพราะฉะนั้น คสช.ก็จะมีเฉพาะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.และผู้บริหาร คสช.ทำงานเรื่องนี้ คนที่ไม่อยู่ใน คสช.ไม่สามารถทำได้

ฉุนว้ากสื่อซักล็อกสเปกคัด สปช.

เมื่อถามว่า มีการร้องเรียนล็อกสเปก สปช.พล.อ.ประวิตร หันหน้าไปยังผู้สื่อข่าวที่ถามพร้อมกล่าวพร้อมน้ำเสียงไม่พอใจว่า “ล็อกสเปกไหน พูดหลายทีเหลือเกิน ล็อกยังไง เล่าให้ผมฟังซิ หนูลองล็อกซิ” โดยผู้สื่อข่าวตอบว่า แต่มีการตั้งข้อสังเกต พล.อ.ประวิตรยังคงตอบด้วยน้ำเสียงไม่พอใจอีกว่า “จะล็อกยังไงบอกซิครับ คุณต้องบอกซิวิธีล็อก เขาล็อกยังไง คนสมัครตั้ง 7,000 คน จะล็อกยังไง และมีคณะกรรมการสรรหา สปช.ตั้ง 77 คน ด้านละ 7 คน ใน 11 ด้าน อย่าไปพูดล็อกสเปก ล็อกยังไงบอกด้วย ผมอยากล็อก มันล็อกได้ไหม ล็อกได้ไหมคะ ล็อกยังไง มันไม่ได้ คนเขามีตำแหน่งหน้าที่ เป็น ดร. เป็นศาสตราจารย์ทั้งนั้น ทุกคนอยากทำหน้าที่ของตัวให้ดีที่สุด เพราะฉะนั้นอย่าไปพูด ไม่ดีหรอกครับ ถามนำในทางที่ไม่ดี ถ้าน้องทำได้บอกวิธีล็อกสเปกมา”
เมื่อถามว่า มั่นใจหรือไม่ว่า สปช.ที่ได้จะเป็นที่มั่นใจของประชาชน พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า พยายามหาในทุกภาคส่วน แต่จะให้ทุกคนยอมรับได้หมดหรือไม่ ตนไม่ทราบ พยายามหาทุกพื้นที่ หาผู้ที่มีคุณวุฒิตั้งแต่ปริญญาเอกลงมาจนถึงไม่มีปริญญา และมีทุกอาชีพให้มีความรู้หลากหลาย เพื่อจะมาปฏิรูปทุกเรื่องใน 11 ด้าน

ไม่กล้ายันไร้คลื่นใต้น้ำป่วน

พล.อ.ประวิตรยังกล่าวถึงสถานการณ์การเมืองปัจจุบันว่า ขณะนี้ทุกฝ่ายพยายามทำให้ประเทศเดิน พยายามทำให้ประเทศนิ่ง แต่ทุกคนอ่านไม่ออกหรอกว่าคิดอย่างไร แต่ต้องอยู่ในระเบียบกฎหมาย ถ้าไม่อยู่ในกฎหมายต้องพูดกัน เพราะขณะนี้เราต้องการความสงบ ความเรียบร้อย ความปรองดองของคนในชาติ เพื่อให้ประเทศชาติเดินหน้าต่อไปได้ เมื่อถามว่ายังพบมีคลื่นใต้น้ำอยู่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรตอบว่า บอกไม่ได้ว่ามีหรือไม่มี แต่เท่าที่ปรากฏขณะนี้ ทุกคนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่มีความกังวล เพราะต้องทำให้ประเทศ ประชาชน เดินไปข้างหน้าให้ได้ เมื่อถามว่าจะเดินสายชี้แจงทำความเข้าใจกับประเทศต่างๆหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศชี้แจงอยู่แล้ว ในฐานะดูงานด้านความมั่นคง สั่งการให้กระทรวงการต่างประเทศชี้แจงแทนได้ และมีรองนายกฯฝ่ายต่างประเทศ ไม่จำเป็นต้องเป็นหน้าที่ตน

“ไพบูลย์”เรียกหาหลักฐาน

พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม และหัวหน้าฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม คสช.กล่าวว่า ไม่แน่ใจถึงเหตุผลของการยกเลิกคำสั่ง คสช.ให้ตั้ง 14 คณะกรรมการคัดเลือกสมาชิก สปช. ขอให้ไปถาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. ตามรัฐธรรมนูญให้อำนาจ คสช.เป็นผู้คัดเลือกสมาชิก สปช. ที่ได้รับจากคณะกรรมการสรรหา 11 ด้าน และกรรมการสรรหาประจำจังหวัดจำนวน 250 คนอยู่แล้ว แต่ขณะนี้ คสช.ยังไม่ได้รับรายชื่อผู้ที่ได้รับการคัดเลือกจากคณะกรรมการสรรหา ทราบว่ายังคัดเลือกไม่แล้วเสร็จ โดยหลักการเมื่อคัดเลือกเสร็จแล้วต้องส่งให้เลขาธิการ คสช.เพื่อเสนอต่อ คสช.พิจารณา ส่วนกรณีที่มีข่าวว่าจังหวัดสุรินทร์ มีการล็อกสเปกสรรหา สปช.นั้น การพูดว่าล็อกสเปกจะต้องมีหลักฐาน จะรู้ได้อย่างไรว่ากรรมการสรรหาจะเลือกใคร แต่ไม่ใช่ผู้ไม่ได้รับการสรรหาเป็น สปช.แล้วบอกว่ามีการล็อกสเปก จึงถามกลับว่าคุณสมบัติล็อกสเปกคืออะไร ต้องพูดให้ชัดเจนด้วย

ให้ ปชช.รอตัดสินผลงานจริง

นายยงยุทธ ยุทธวงศ์ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการสรรหาสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ด้านการศึกษา กล่าวว่า เมื่อมาตรา 30 (6) ของรัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557 กําหนดให้ คสช.เป็นผู้คัดเลือกบุคคลที่สมควรได้รับการ
แต่งตั้งเป็น สปช.อยู่แล้ว การตั้งคณะกรรมการคัดเลือก สปช.ก็ไม่มีความจำเป็น ที่มองว่าเป็นความผิดพลาดของ คสช.ไม่ขอวิจารณ์ ถึงแม้ยุบคณะกรรมการคัดเลือก สปช.เชื่อว่าทุกอย่างยังเป็นไปตามที่กำหนด ต้องส่งรายชื่อให้ คสช.พิจารณาภายในวันที่ 22 ก.ย.ยังพอมีเวลา สำหรับการร้องเรียนความไม่เป็นธรรมในการสรรหา สปช. ระดับจังหวัด คงเป็นเพราะอาจเกรงว่าจะมีขบวนการช่วยเหลือกัน คงต้องรอผลงานว่าเมื่อออกมาแล้วประชาชนยอมรับหรือไม่ สื่อมวลชนต้องจับตาดู ทั้งนี้การสรรหา สปช.ด้านการศึกษาส่งการบ้านไปแล้ว คงไม่สายเกินรอ และหวังว่าตอบสังคมได้ อย่างน้อยด้านการศึกษาที่รับผิดชอบได้พิจารณาอย่างรอบคอบจริงๆ

ดักคอส่อเค้าลากตั้งซ้ำรอย สนช.

นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรองนายกฯและ รมว.การต่างประเทศ กล่าวว่า กรณี คสช.ออกคำสั่งยกเลิกการแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหา สปช.ว่า ความจริงการตั้งกรรมการขึ้นมาตอนต้นดูเข้าท่า ประชาชนรับทราบแล้วว่าจะดำเนินการอย่างไร จู่ๆ มายกเลิกไปต้องอธิบายให้ได้ว่าคืออะไร การจะกลับไปให้ คสช.เลือกทั้งหมด ไม่ต่างจากการเลือก สนช.ที่ผ่านมา เป็นพรรคพวกตัวเองทั้งนั้น ประเภทยกมือปุ๊บผ่านปั๊บทุกเรื่อง ที่บอกว่าจะมาปฏิรูปประเทศ สังคมคงต้องตั้งคำถามแล้ว และการทำแบบนี้สอดคล้องกับที่ พล.อ.ประยุทธ์บอกว่าเราจะเป็นประชาธิปไตยแบบไทยๆ ตรงนี้ความหมายคืออะไร จะเป็นประชาธิปไตยนะจ๊ะใช่หรือไม่ อาจเป็นประชาธิปไตยแบบพม่า กัมพูชา จีน อาจเป็นประชาธิปไตยที่สังคมโลกไม่ยอมรับ ฉะนั้นขอให้พล.อ.ประยุทธ์ออกมาอธิบายให้ชัด ทุกคนตั้งใจฟังท่านอยู่แล้ว จะเอาอย่างไรบอกมาเลย วันนี้ประเทศถอยหลังไป 8 ปีแล้ว จะถอยอีกก็ไม่เป็นไรลองดู

“นิพิฏฐ์” สับแค่ผลัดกันเกาหลัง

ด้านนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงข่าวการสรรหา สปช.ระดับจังหวัดมีการล็อกสเปก ตามที่อดีต ส.ว.จังหวัดต่างๆออกมาร้องเรียนว่า ตามปกติหลักการคัดเลือกคนมาทำงาน โดยเฉพาะการสรรหาที่ใช้คำอ้างว่าเป็นตัวแทนของประชาชน ควรต้องเปิดเผยโปร่งใส ประกาศให้สังคมรู้เพื่อจะร่วมตรวจสอบได้ว่าเป็นคนดีจริง มีความรู้ความสามารถจริงหรือไม่ ไม่ใช่ปกปิดเช่นนี้ และเคยบอกแต่ต้นแล้วว่าที่สุดก็เป็นแค่กรรมการที่ผลัดกันเกาหลัง คือตัวแทนกรรมการที่คัดเลือก 5 ฝ่ายของจังหวัดที่มี ผวจ. หัวหน้าศาล ประธาน กกต.จังหวัด นายก อบจ.และตัวแทนองค์กรเอกชน แต่ละคนไปเลือกคนมา 3 คน รวม 15 คนแล้วคัดเหลือ 5 คน ก็ต้องเลือกคนที่ตัวเองเสนอมาแต่ละคน

ท้าประกาศชื่อพิสูจน์โปร่งใส

นายนิพิฏฐ์กล่าวว่า ที่สำคัญการสรรหาที่ระบุให้เป็นความลับ ไม่ทราบเหตุผลว่าทำไมต้องลับ แทนที่จะให้ประชาชนแต่ละจังหวัดตรวจสอบว่าตรงใจหรือไม่ เช่นอดีต ส.ว.ที่ออกมาให้ข่าว ทำงานในพื้นที่ พบปะชาวบ้านจนชาวบ้านยอมรับเลือกมาได้คะแนนเป็นแสน แต่ไม่ถูกเลือกไปเลือกอดีตข้าราชการ หรือคนที่ชาวบ้านไม่รู้จัก ยิ่งเป็นความลับก็ไม่รู้ว่า ผวจ.จะเลือกลูกน้องตัวเอง นายก อบจ.จะเลือกอดีต ส.จ.สอบตกมาเป็น สปช.หรือไม่ ออกจะแปลกประหลาด ถ้ากล้าประกาศให้สังคมรู้ชื่อทั้ง 15 คนว่ากรรมการแต่ละคนเสนอชื่อใครมา และเลือกเหลือ 5 คนเป็นใครบ้าง เมื่อตรวจสอบจะรู้ว่าผลัดกันเกาหลังจริงหรือไม่

อาสาปฏิรูปต้องกล้าโชว์ทรัพย์สิน

นายอุเทน ชาติภิญโญ หัวหน้าพรรคคนไทย และผู้เข้ารับการสรรหา สปช.ด้านสังคม กล่าวว่า หากได้รับเลือกเป็น สปช.ขอประกาศไม่รับเงินเดือนและขอยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช.เปิดเผยต่อสาธารณะ เพื่อต้องการเข้าไปทำหน้าที่ปฏิรูปสังคมและปฏิวัติวัฒนธรรมครั้งใหญ่ จะนำไปสู่การปฏิรูปทุกด้าน ส่วนกระบวนการสรรหา สปช.ที่มีกระแสข่าวว่าไม่โปร่งใส ฟันธงว่ามีการล็อกสเปกบางส่วน เมื่อได้คนเหล่านี้เข้าไปแล้วจะไม่กล้าทำอะไร แค่แก้สลากกินแบ่งรัฐบาลขายเกินราคา คสช.ยังทำไม่ได้ มันเกิดอะไรขึ้น กล้าฉีกรัฐธรรมนูญ แต่ไม่กล้าฉีกสัญญาของผู้ค้ารายใหญ่ และปัญหาที่ใหญ่ซับซ้อนกว่านี้จะแก้ได้อย่างไร ดังนั้นถึงเวลาที่จะวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลได้ ไม่เช่นนั้นสังคมจะอึดอัด และต่อจากนี้ไปทุกการกระทำของรัฐบาลจะต้องมีคำตอบแก่สังคม ไม่เช่นนั้นเมื่อถึงเดือน ต.ค.58 ไม่มีการเลือกตั้งตามโรดแม็ปของ คสช. และเมื่อไหร่ที่พรรคประชาธิปัตย์จับมือกับพรรคเพื่อไทยไม่ยอมก้มหัวให้การปกครองที่อยู่เหนือกฎหมาย เชื่อว่าประเทศ จะลุกเป็นไฟ ถึงวันนั้นประชาชนไม่กลัวปืนแล้ว

เหลือสรรหา 7 จ.ยังไม่ลงตัว

ขณะที่นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการ กกต. กล่าวว่า รายชื่อผู้เหมาะสมเป็น สปช.11 ด้าน นำส่ง คสช.ครบถ้วนเรียบร้อยแล้ว ส่วนระดับจังหวัดเหลือเพียง 7 จังหวัด แต่จังหวัดที่เหลือจะพิจารณาทันกรอบเวลาวันที่ 22 ก.ย. สำหรับกรณีที่ นพ.อนันต์ อริยะชัยพาณิชย์ อดีตรองประธานวุฒิสภาผู้เข้ารับการสรรหาเป็น สปช.จังหวัดสุรินทร์ยื่นหนังสือร้องเรียนว่ากรรมการสรรหา สปช.จังหวัดสุรินทร์คนหนึ่งมีส่วน ได้ส่วนเสียกับผู้เข้ารับการสรรหา เนื่องจากเป็นเครือญาติกันนั้นยังไม่เห็นเรื่องร้องเรียนดังกล่าว เพียงแต่ได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่และทราบข่าวจากสื่อมวลชน ขอตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้ง ขณะนี้กระบวนการคัดเลือก สปช.ยังเป็นความลับอยู่ และไม่แน่ใจว่าผู้ร้องเป็นผู้ได้รับคัดเลือกจากคณะกรรมการสรรหาให้เป็น 1 ใน 5 คนของจังหวัดสุรินทร์ด้วยหรือไม่

กกต.พอใจโค้งท้ายไร้อุปสรรค

เลขาธิการ กกต. กล่าวอีกว่า ขณะนี้อยู่ในช่วงโค้งสุดท้ายของการสรรหา สปช.พอใจกับผลการดำเนินงานมาก ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี มีปัญหาและอุปสรรคน้อยมาก อีกทั้งมีบุคคลที่มีความรู้ความสามารถจากทุกสาขาอาชีพเข้ามาเสนอชื่อจำนวนมากถึง 7,370 คน เกินกว่าเป้าหมาย นับเป็นนิมิตหมายที่ดีที่มีคนต้องการเข้ามาช่วยกันปฏิรูปประเทศ หลังมีการประกาศแต่งตั้ง สปช.เรียบร้อยแล้ว สำนักงาน กกต.จะเสร็จภารกิจ จะไปเตรียมพร้อมข้อมูลและปรับปรุงโครงสร้างบุคลากรให้มีประสิทธิภาพ เมื่อมีการยกร่างรัฐธรรมนูญและกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ สำนักงาน กกต.น่าจะมีส่วนเสนอแนะ เรื่องอำนาจหน้าที่ของ กกต.กับการจัดการเลือกตั้ง การพัฒนาพรรคการเมืองและกระบวนการสืบสวนสอบสวน เมื่อรัฐธรรมนูญและกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญเสร็จสิ้น กกต.จะมีหน้าที่รณรงค์ให้ความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดการเลือกตั้งภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ด้วย

“ศรีสุวรรณ” จ่อยื่นศาล รธน.วินิจฉัย

นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย กล่าวถึงมติผู้ตรวจการแผ่นดินที่ยกคำร้องขอให้ตรวจสอบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และกรณีที่บุคคลจากองค์กรตามรัฐธรรมนูญเสนอชื่อเข้ารับการสรรหาเป็นสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) กระทำขัดต่อรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวว่า ไม่เกินความคาดหมายที่ยกคำร้อง เพราะผู้ตรวจฯมีส่วนได้เสียคือ นายพรเพชร วิชิตชลชัย อดีตผู้ตรวจฯได้เป็นประธาน สนช. นางผานิต นิติทัณฑ์ประภาศ ประธานผู้ตรวจฯ ถูกเสนอชื่อเข้ารับสรรหาเป็น สปช. เข้าสู่วังวน คสช.แทบทั้งสิ้น ผู้ตรวจฯจะมีมติส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยจึงยาก หลังจากนี้สมาคมฯจะยื่นฟ้องเรื่องนี้ให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยโดยตรง คาดว่าอีก 2 สัปดาห์จะร่างคำร้องและยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญได้ แม้ศาลรัฐธรรมนูญเสนอบุคคลเข้ารับการสรรหาเป็น สปช. แต่จำเป็นต้องยื่นฟ้อง เพราะเห็นว่าขัดต่อกฎหมาย ผลจะออกมาเป็นอย่างไรให้สังคมตัดสิน

“สุวพันธุ์” ถก ปธ.สนช.ตั้งวิปร่วมฯ

นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากการที่นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้ทำหน้าที่ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ดังนั้นเพื่อให้มีกลไกการทำงานร่วมกับ สนช.เป็นทางการ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) จึงมีมติให้จัดตั้งคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และมอบหมายให้ตนจัดตั้ง โดยรูปแบบไม่ต่างกับคณะกรรมการประสานงานรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ในช่วงสภาวะปกติ มีตัวแทนรัฐบาลและ ส.ส.เข้าร่วม ซึ่งต้นสัปดาห์นี้จะหารือกับนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช.เพื่อพิจารณาตั้งคณะกรรมการที่วางไว้ประมาณ 21 คน ประกอบด้วยตัวแทนจากรัฐบาลและ สนช.ร่วมเป็นคณะกรรมการ เบื้องต้นตัวแทนรัฐบาลจะมีตนเพียงคนเดียวที่เป็นรัฐมนตรี จากนั้นจะส่งรายชื่อให้นายกฯลงนามคำสั่งแต่งตั้งต่อไป

อัด สนช.จ้องขยายอำนาจ

นายอุดมเดช รัตนเสถียร อดีตประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล และอดีต ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ สนช.จะพิจารณาข้อบังคับการประชุม สนช.ว่าด้วยหมวดการถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองว่า รัฐธรรมนูญชั่วคราวไม่ได้ให้อำนาจการถอดถอนแก่ สนช. หากจะแก้ไขข้อบังคับขยายอำนาจให้ตัวเองต้องระมัดระวัง ไม่น่ากระทำได้และไม่ควรกระทำ แต่ขึ้นอยู่กับการตีความข้อกฎหมาย แต่การให้ สนช.ที่มาจากการแต่งตั้งไปถอดถอนผู้มาจากการเลือกตั้ง ต่างชาติอาจมองเป็นเรื่องตลก ส่วนผลสำรวจความคิดเห็นของศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพที่ระบุว่า พรรคประชาธิปัตย์มีคะแนนนิยมดีกว่าพรรคเพื่อไทยยังไม่กังวลเรื่องนี้ เมื่อบรรยากาศในประเทศกลับมาเป็นประชาธิปไตยแล้ว ประชาชนมีสิทธิเลือกตั้ง ค่อยมาถามว่าคะแนนนิยมของพรรคไหนดีกว่า

ดื้อถอดถอน ฉุดปรองดองเหลว

นพ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย กล่าวว่าไม่เห็นด้วยที่ สนช.จะเดินหน้าออกข้อบังคับว่าด้วยการถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพราะจะเกิดความขัดแย้งทางความคิดเกี่ยวกับข้อกฎหมาย และ สนช.มาจากรัฐธรรมนูญชั่วคราว จะไปถอดถอนคนที่มาจากรัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 ไม่ได้ อีกทั้งรัฐธรรมนูญชั่วคราวไม่ได้เขียนเรื่องการถอดถอนไว้ชัดเจน หากยังจะเดินหน้าเรื่องนี้ จะบ่งชี้ให้เห็นว่าต้องการกลั่นแกล้งทางการเมืองกับกลุ่มที่เห็นต่าง เนื่องจาก สนช.มีกลุ่ม 40 ส.ว. ที่มีความคิดเห็นแตกต่างจากกลุ่มรัฐบาลที่ผ่านมา และขณะนี้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) อยู่ระหว่างพิจารณากรณีสมาชิกรัฐสภา 308 คน ร่วมลงชื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มา ส.ว. อาจส่งเรื่องให้ถอดถอนได้ หากเดินหน้าเรื่องดังกล่าวจะไม่ตรงตามวัตถุประสงค์ของ คสช.ที่ต้องการสร้างความปรองดองให้เกิดขึ้นในชาติ สนช.ควรเอาเวลาไปออกกฎหมายเร่งด่วน เช่น การแก้ปัญหาเศรษฐกิจและกฎหมายที่ออกในสภาปกติยากดีกว่ามาทำเรื่องถอดถอน สร้างความแตกแยกเกิดขึ้นใหม่

โต้เดือดใช้อำนาจอะไรมาสอย

นายชวลิต วิชยสุทธิ์ รักษาการรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายตวง อันทะไชย สนช.ในฐานะคณะกรรมาธิการยกร่างข้อบังคับ สนช.ระบุว่า สนช.จำเป็นต้องมีข้อบังคับหมวดถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเอาไว้ว่า ต้องขอขอบคุณนายธานี อ่อนละเอียด สมาชิก สนช.ที่จะขอแปรญัตติ เพราะไม่ชัดเจนว่าจะถอดถอนบุคคลที่ถูกชี้มูลตามรัฐธรรมนูญปี 2550 ได้หรือไม่ เมื่อขณะนี้ไม่มีกฎหมายแม่แล้ว ขณะที่รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวปี 2557 ก็ไม่ให้อำนาจการถอดถอน แล้วจะใช้อำนาจใดมาถอดถอน เราไม่สนับสนุนการทุจริตคอร์รัปชัน อยากเห็นการจัดการอย่างจริงจัง แต่องค์กรที่จะถอดถอนควรเป็นองค์กรตามรัฐธรรมนูญ ถามว่าคนที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง แต่จะมาถอดถอนคนที่มาจากการเลือกตั้งได้หรือ ไม่น่าจะถูกหลักการตามระบอบประชาธิปไตย

พท.บี้สอบ “สมชัย” ถลุงงบทัวร์นอก

อีกเรื่อง นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรองนายกฯ และ รมว.ต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีที่นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง เดินทางไปศึกษาดูงานการจัดการเลือกตั้งของประเทศอังกฤษ และการลงประชามติในสกอตแลนด์ว่า ถ้า กกต.ไม่รู้หน้าที่ และความรับผิดชอบของตัวเอง ไปดูงานร้อยรอบก็ไม่มีประโยชน์ ถ้าไม่มี จิตสำนึก เอนเอียงไม่เที่ยงธรรม ไปดูงานต่างประเทศก็เหมือนเดิม สิ้นเปลืองงบประมาณโดยใช่เหตุจะเห็นว่าในต่างประเทศเขาออกมาโหวตกันเยอะ ให้ความสำคัญกับวิถีชีวิตของตัวเอง มีความตรงไปตรงมา ไม่ขี้โกง แต่คนไทยกรรมการเหมือนลงมาเล่นเองตลอด เลยเกิดความไม่เป็นธรรม เลือกตั้งไม่สำเร็จ เกิดจากใครก็รู้ๆ กันอยู่ แต่ไปโทษรัฐบาล โทษพรรค การเมือง ทั้งนี้ อยากให้รัฐบาลและ คสช.ตรวจสอบการใช้เงินขององค์กรอิสระว่าไปดูงานหรือไปเที่ยว เพราะที่ผ่านมาเห็นว่าต้องใช้เที่ยวบินพิเศษ โรงแรมต้องชั้นหนึ่ง ขอให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ตั้งคณะทำงานตรวจสอบตามกฎเกณฑ์ที่วางเอาไว้ด้วย

เสี้ยมท้าทายสวนนโยบาย คสช.

นายสมคิด เชื้อคง อดีต ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต. เดินทางไปดูงานการลงประชามติที่สกอตแลนด์ ขณะที่ คสช.มีนโยบายให้ประหยัดงบประมาณแผ่นดินว่า อยากทราบว่านายสมชัยมีความจำเป็นอย่างไรถึงต้องเดินทางไปดูงานต่างประเทศ ขณะนี้ยังไม่รู้ว่าจะมีการเลือกตั้งเมื่อใด ทำไมต้องรีบไป และการไปดูงานครั้งนี้ไปดูเรื่องการลงประชามติของสกอตแลนด์ที่ขอแยกตัวออกจากประเทศอังกฤษ ไม่เกี่ยวอะไรกับประเทศ ไทยเลย การเดินทางไปครั้งนี้จึงไม่รู้ว่าจะนำมาใช้ประโยชน์กับการเลือกตั้งของไทยได้หรือไม่ จะทำให้องค์กร กกต.พลอยเสียหายไปด้วย จะใช้งบ ประมาณอะไร ขอให้เกรงใจประชาชนที่เป็นผู้เสีย ภาษีด้วย ยิ่ง คสช.มีนโยบายไม่อยากให้เดินทางไปดูงานต่างประเทศ แต่ก็ยังไปทั้งที่ไม่มีความจำเป็น อยากให้ กกต.ไปอบรมชาวบ้านเรื่องระบบการเลือกตั้ง และประชาธิปไตยในพื้นที่ต่างๆ จะดีกว่า

ตะเพิด กกต.ลาออกไปทั้งคณะ

นายอำนวย คลังผา อดีต ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับการเดินทางไปดูงานดังกล่าวของนายสมชัย เพราะกฎหมายการเลือกตั้งประเทศไทยก็ดีอยู่แล้ว ทำไมต้องไปดูงานที่ต่างประเทศ เป็นการสิ้นเปลืองงบประมาณ ไม่ทำตามนโยบายของ คสช. ที่ผ่านมา กกต.รู้ตัวดีว่ามีหน้าที่จัดการเลือกตั้ง แต่เบี่ยงเบนไม่ยอมดำเนินการ จนเกิดปัญหาตามมา ดังนั้น กกต.ควรลาออกไปทั้งชุด ไม่สมควรมาทำหน้าที่อีกต่อไป ปัญหาที่เกิดขึ้นในประเทศส่วนหนึ่งมาจากการที่ กกต.ไม่ยอมทำหน้าที่จัดการเลือกตั้ง และพรรคการเมืองบางพรรคไม่ยอมส่งผู้สมัคร จึงอยากเสนอต่อสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ว่าควรร่างรัฐธรรมนูญว่าพรรคใดไม่ส่งผู้สมัคร ลงเลือกตั้ง ต้องถูกตัดสิทธิทางการเมือง 10 ปี

“สมชัย” ขอบคุณ “โอ๊ค” ช่วยตรวจสอบ

นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวถึงกรณีที่นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯโจมตี การเดินทางไปดูงานที่สกอตแลนด์ว่า สิ่งที่ไปศึกษาดูงาน มีรายละเอียด มีประโยชน์นำมาศึกษาประยุกต์ใช้กับประเทศไทย โดยจะใช้เวลา 2 ชั่วโมงครึ่ง นำประโยชน์การไปดูงานมาบรรยายให้นักศึกษาหลักสูตร การเมืองการปกครองระดับสูง รุ่นที่ 18 ของสถาบันพระปกเกล้ารับฟังในวันที่ 23 ก.ย. ตั้งแต่เวลา 09.00-11.30 น. เมื่อถามว่า จะคุ้มค่ากับการใช้งบประมาณหรือไม่ นายสมชัยกล่าวว่า คงไม่ตอบโต้เรื่องงบ ประมาณ แต่จะพูดเรื่องที่ได้ประโยชน์ความคุ้มค่าจากการไปดูงานมากกว่า การวิจารณ์ทำได้ ไม่มีปัญหาถือเป็นกระบวนการตรวจสอบ ซึ่งทุกต้องตรวจสอบได้อยู่แล้ว และคงต้องขอบคุณนายพานทองแท้มากกว่าที่ทำให้คนไทยหันมาให้ความสนใจเรื่องการออกเสียงประชามติมากขึ้น และประชาชนจะได้เข้าใจประชาธิปไตยในต่างประเทศ

60 อาจารย์ลุกฮือประณาม คสช.

สำหรับกรณีทหารและตำรวจเข้าบังคับนักวิชาการและนักศึกษาให้ยุติงานเสวนาวิชาการ “ห้องเรียนประชาธิปไตย : บทที่ 2 การล่มสลายของเผด็จ การในต่างประเทศ” จัดขึ้นภายในมหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต แล้วควบคุมตัวนักศึกษาที่จัดงาน รวมทั้งวิทยากรไปที่สถานีตำรวจคลองหลวงเมื่อวันที่ 18 ก.ย.ที่ผ่านมา ช่วงบ่ายวันเดียวกัน นายปราชญ์ ปัญจคณาธร อาจารย์ประจำคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า 60 นักวิชาการจาก 16 มหาวิทยาลัยทั่วประเทศ ได้ร่วมกันออกจดหมายเปิดผนึกประณามการคุกคามเสรีภาพทางวิชาการ รวมถึงการควบคุมตัวอาจารย์และนัก ศึกษาดังกล่าว

น.ส.อันธิฌา แสงชัย อาจารย์ประจำคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี หนึ่งในผู้ลงชื่อ กล่าวว่า ข้ออ้างของเจ้าหน้าที่รัฐที่ว่ามีอำนาจเข้าควบคุมได้ เพราะกฎอัยการศึกยังประกาศใช้อยู่ เป็นเพียงการประกาศว่ามีอำนาจคุกคาม แต่ไม่ได้แสดงให้เห็นว่าการใช้อำนาจคุกคามนั้นชอบธรรม

น.ส.กนกรัตน์ สถิตนิรามัย อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หนึ่งในผู้ร่วมลงชื่อ กล่าวว่า การที่ตำรวจบังคับให้นักวิชาการเซ็น เอกสารว่าจะยินยอมส่งหัวข้อการเสวนาทุกครั้งให้ทหารอนุมัติก่อน เป็นการละเมิดเสรีภาพทางวิชาการชัดเจน งานวิชาการที่เนื้อหาถูกควบคุมไม่เรียกว่าเป็นงานวิชาการที่แท้จริง

โวยหยุดคุกคามเสรีภาพวิชาการ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เนื้อหาในจดหมายเปิดผนึกดังกล่าวระบุว่า ในฐานะนักวิชาการ ขอประณามการกระทำของทหารและตำรวจ ที่ใช้อำนาจคุกคามนักศึกษาและนักวิชาการถึงในพื้นที่มหาวิทยาลัย การกระทำดังกล่าวคุกคามสิทธิเสรีภาพทางวิชาการอย่างชัดเจน เป็นการกระทำที่ยอมรับไม่ได้อย่างยิ่ง ข้ออ้างที่ว่ากฎอัยการศึกยังประกาศใช้อยู่ เป็นเพียงการประกาศว่าทหารและตำรวจมีอำนาจจะคุกคามได้ แต่ไม่ได้แสดงให้เห็นว่าการใช้อำนาจคุกคามนั้นชอบธรรม ส่วนข้ออ้างที่ว่างานเสวนาวิชาการนี้อาจกระทบต่อความมั่นคงนั้นเป็นข้ออ้างที่ฟังไม่ขึ้น การจัดเสวนาวิชาการเกี่ยวกับการเมือง ไม่ว่าจะการเมืองในประเทศหรือการเมืองต่างประเทศ เป็นเรื่องปกติอย่างยิ่ง และที่ผ่านๆมาก็ไม่เคยปรากฏเลยว่างานเสวนาวิชาการลักษณะนี้กระทบต่อความมั่นคง ไม่ว่าจะในประเทศไทยหรือในต่างประเทศ ดังนั้นขอเรียกร้องให้ คสช.หยุดใช้อำนาจคุกคามนัก วิชาการและนักศึกษา หยุดคุกคามเสรีภาพในทางวิชาการ หากสิทธิพื้นฐานอย่างสิทธิในการแลกเปลี่ยนทางปัญญาในสถานศึกษายังไม่ได้รับการเคารพ เราย่อมไม่มีทางหวังได้ว่าประเทศไทยภายหลังการปฏิรูปของ คสช. จะเป็นประเทศที่เคารพสิทธิพื้นฐานของประชาชน

หัดเปิดใจรับฟังความเห็นต่างบ้าง

นายอำนวย คลังผา อดีต ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขณะนี้มีการเปลี่ยนผ่านการบริหารงานของ คสช. มีรัฐบาลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงไม่อยากให้มีการปิดกั้นการแสดงความเห็นของประชาชนมากเกินไป โดยเฉพาะในกลุ่มอาจารย์และนักศึกษา ที่หากจะแสดงความเห็นทางประวัติศาสตร์ก็ควรทำได้ อะไรที่ไม่ล่อแหลมจนเกินไป อย่าไปปิดกั้น ขอให้ฟังเด็กรุ่นใหม่บ้าง

นายสมคิด เชื้อคง อดีต ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เป็นเรื่องธรรมดาที่รัฐบาลทหาร ไม่อยากให้มีการตั้งเวทีพูดอะไรมากเกินไป แต่ถ้าเป็นการเสนอความเห็นทางการเมืองและประชาธิปไตยก็ควรรับฟัง ถือเป็นเรื่องดีที่จะเป็นแนวทางไปสู่การปฏิรูปประเทศตามโรดแม็ปของคสช. อยากให้รัฐบาลรับฟังความเห็นที่หลากหลาย ต้องยอมรับความเห็นที่แตกต่าง เพื่อนำไปใช้ในการ ปฏิรูปประเทศ อย่าไปบล็อกการแสดงความเห็น การเปิดเวทีให้แสดงออกทางความเห็นต่างๆ ไม่ใช่การส่งผลร้ายต่อประเทศ เพราะนักวิชาการจำนวนมากมีแนวคิดดีๆที่นำไปใช้ประโยชน์ได้

แกนนำชุมชนเทใจเชียร์ “บิ๊กตู่”

วันเดียวกัน มาสเตอร์โพล โดยชมรมนักวิจัยไทยเพื่อความสุขชุมชน เปิดเผยผลการสำรวจแนวโน้ม ฐานสนับสนุนของแกนนำชุมชนต่อ คสช. และการ ติดตามรายการคืนความสุขให้คนในชาติ จากแกนนำชุมชน 600 ชุมชน วันที่ 13-20 ก.ย. พบว่าส่วนใหญ่ร้อยละ 81 สนับสนุน คสช. ร้อยละ 1.8 ไม่สนับสนุน เมื่อรวบรวมข้อมูลการสำรวจ 7 ครั้งที่ผ่านมา พบว่าครั้งล่าสุดสูงกว่าผลสำรวจครั้งแรกที่อยู่ร้อยละ 70.1 และกลุ่มไม่สนับสนุนลดลงจากครั้งแรกที่อยู่ร้อยละ 12.4 ส่วนการติดตามชมรายการคืนความสุขให้คนในชาติ ส่วนใหญ่ร้อยละ 84.6 ติดตาม ร้อยละ 15.4 ไม่ได้ติดตาม ขณะที่ความพอใจต่อการปฏิบัติงาน ที่ผ่านมาของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยภาพรวมได้ 8.80 คะแนนเต็ม 10 คะแนน อันดับที่ 1 ได้แก่ การจับกุมขบวนการค้ายาเสพติด ได้ 8.79 คะแนน อันดับที่ 2 การปราบปรามและหยุดยั้งการ บุกรุกที่ดินอุทยานและการทำลายทรัพยากรป่าไม้ 8.60 คะแนน อันดับที่ 3 การจับกุมอาวุธสงคราม 8.50 คะแนน อันดับที่ 4 การดำเนินงานของศูนย์ดำรงธรรมและกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย 8.42 คะแนน และอันดับที่ 5 การช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยน้ำท่วม 8.33 คะแนน

หนุนประชามติตั้ง จ.บัวใหญ่

ด้านนิด้าโพล สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ สำรวจ “การตั้งจังหวัดบัวใหญ่” กับประชาชนที่มีภูมิลำเนาใน จ.นครราชสีมา 1,228 ตัวอย่าง เมื่อวันที่ 18-19 ก.ย. พบว่าร้อยละ 46.26 ไม่เห็นด้วย เพราะต้องการให้เป็นจังหวัดเดียวกัน ถือว่าทุกคน เป็นลูกหลานย่าโมด้วยกันทั้งสิ้น ส่งผลกระทบต่อความรู้สึกของคนในพื้นที่ เหตุผลที่ต้องการแยกยังไม่มีน้ำหนักพอ ขณะที่ร้อยละ 38.84 เห็นด้วย เพราะเพิ่มความสะดวกการเดินทางมาติดต่อราชการสำหรับ คนที่อยู่ห่างจากอำเภอเมือง เนื่องจาก จ.นครราชสีมา มีพื้นที่ขนาดใหญ่ และง่ายต่อการบริหารจัดการ การ จัดสรรงบประมาณ ประชาชนบางส่วนต้องการให้มีการพัฒนาพื้นที่ เป็นการกระจายอำนาจและความเจริญไปยังพื้นที่ห่างไกล เมื่อถามถึงการทำประชามติกับประชาชนในพื้นที่ ร้อยละ 88.76 ระบุว่าควรทำประชามติ เพราะทุกคนควรมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ และต้องคำนึงถึงเสียงส่วนใหญ่ มีเพียงร้อยละ 2.52 ที่ระบุว่าไม่ควรทำประชามติ เพราะสิ้นเปลืองงบ ประมาณ ทางการน่าจะพิจารณาข้อดีข้อเสีย หรือความจำเป็นมาก่อนแล้ว

ม็อบสวนยางขู่รัฐเหลวพร้อมลุย

นายชินวรณ์ บุญยเกียรติ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีนายทศพล ขวัญรอด ประธานภาคีเครือข่ายชาวสวนยาง และปาล์มน้ำมัน 16 จังหวัดภาคใต้ ยืนยันว่าในวันที่ 8 ต.ค. จะไม่เคลื่อนไหวกดดันรัฐบาลเกี่ยวกับการช่วยเหลือชาวสวนยางพาราว่า ทุกฝ่ายอยากดูการแก้ไขปัญหายางพาราของรัฐบาลก่อนว่าผลจะออกมาอย่างไร เพราะข้อมูลราคายางพาราตกต่ำมาก เหลือกิโลกรัมละกว่า 40 บาท หากรัฐบาลแก้ไขปัญหาไม่ตรงจุด ผลผลิตที่จะออกมามากเดือน พ.ย.ถึง ธ.ค. จะล้นตลาด ราคาจะตกซ้ำอีก ขอให้กำลังใจรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้า คสช. แก้ไขปัญหาให้ถูกจุด เพราะเกษตรกรสวนยางไม่ได้อยากจะออกมาเคลื่อนไหว แต่หากการแก้ปัญหาของรัฐบาลและนายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รมว.เกษตรฯ ไม่ตรงเป้าหมาย ไม่สามารถแก้ปัญหาได้จริง ทราบว่าบรรดาแกนนำหลายจังหวัดจะนัดหารือและพร้อมจะเคลื่อนไหวทันที

ทบ.จัดยิ่งใหญ่อำลา “บิ๊กตู่” เกษียณ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 29 ก.ย.ที่โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าฯ กองทัพบกเตรียมจัดพิธีเทิดเกียรติและอำลาชีวิตราชการอย่างยิ่งใหญ่ ให้นายทหารชั้นนายพล (ทหารบก) ที่เกษียณประจำปี 2557 จำนวน 262 นาย ซึ่งรวมถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะ ผบ.ทบ. โดยจะมีพิธีสวนสนามเดินเท้าของกำลังพล 5 กรม 16 กองพัน และจัดหมู่ธงของกองทัพบก 64 ธงเข้าร่วม มี พล.ต.กู้เกียรติ ศรีนาคา ผบ.กองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ร.2 รอ.) เป็นผู้บังคับกองผสม พร้อมการสวนสนามจักรยานยนต์ทางยุทธวิธี จากกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ (ร.21 รอ.) 40 คัน ขบวนสวนสนามอากาศยาน 12 ลำ ได้แก่ เฮลิคอปเตอร์ลาดตระเวนติดอาวุธ AS-550 (Fennec) จากฝรั่งเศส 3 ลำ เฮลิคอปเตอร์แบบฝึก Enstrom 480 จากสหรัฐฯ 3 ลำ เฮลิคอปเตอร์โจมตีแบบ 1 (Crobra) 3 ลำ เฮลิคอปเตอร์แบบทั่วไป ฮท.60 (Blackhawk) 3 ลำ เครื่องบินฝึกแบบ 41 (T-41 Mescalero) และขบวนสวนสนามยานยนต์เหล่าทหารราบ ม้าและปืนใหญ่ 45 คัน อาทิ รถฮัมวี ติดจรวดโทว์ รถเกราะล้อยาง BTR 10 คัน รถถังสกอร์เปียน รถถังสตริงเรย์ และ Oplot รถถังรุ่นใหม่ จากยูเครน เป็นต้น

“เอม” โพสต์ภาพพบพ่อชื่นมื่น

ค่ำวันเดียวกัน น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ บุตรสาว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์อินสตาแกรมส่วนตัว @aimpintongta เป็นภาพถ่ายร่วมกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายพานทองแท้ ชินวัตร และนายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ สามี โดยระบุว่า “with 3 men I love the most” กับผู้ชายสามคนที่รักมากที่สุด โดยก่อนหน้านี้ น.ส.พินทองทา ได้โพสต์รูปอุ้มท้องลูกแฝดถ่ายภาพคู่กับ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยไม่ได้ระบุว่าเป็นสถานที่แห่งใด ขณะที่นายณัฐพงศ์ และนายพานทองแท้ โพสต์ภาพบนอินสตาแกรมส่วนตัว @pongkuna @oak_ptt เป็นภาพของ น.ส.พินทองทา สวมกอด พ.ต.ท.ทักษิณ ด้วยความชื่นมื่นอีกด้วย

ที่มา ; นสพ.ไทยรัฐ

โดย www.tuewsob.com (ผอ.นิกร เพ็งลี)

อัพเดทเรื่องราว - ข้อสอบใหม่ ๆ 

เข้าห้องสอบออนไลน์ ( ฟรี)

เน็ตช้า ... คลิ๊กที่  http://tuewsob.blogspot.com

ห้องอื่น ๆ ที่น่าสนใจนิวส์

... ห้องติวสอบผู้บริหาร + การศึกษาพิเศษ

ที่   http://tuewsobsupervisor.blogspot.com

... ห้อง ติวสอบ (กรณีศึกษา) 

ที่   http://tuewsobcasestudy.blogspot.com

ห้อง ... ครูวิชาเอก  ห้อง 1  คลิ๊กที่ http://tuewsobkru.blogspot.com

ห้อง ... ครูวิชาเอก  ห้อง 2  คลิ๊กที่ http://tuewsob2011.blogspot.com

สมัคร  ติวสอบผู้บริหารสถานศึกษา ที่

(  คลิ๊ก ) สมัครติวสอบผู้บริหารภาค 4 ภาค 30 จุดปี 2557-2558 

https://docs.google.com/forms/d/1Y1q_ndQeIQInknKBW9OvqkLc-lD2YJAmrUPofAVxc_I/viewform

ฟรี... ห้องติวสอบผู้บริหารสถานศึกษา-ครู-บุคลากรการศึกษา  ที่ 

" ติวสอบดอทคอม "  เขียน-สร้าง-บรรยาย โดย  (ผอ.นิกร  เพ็งลี)

www.tuewsob.com