ข้อสอบออนไลน์ ชุดใหม่
ติวสอบออนไลน์ ชุด นโยบายรัฐบาล
ศึกษาธิการ - นายจาตุรนต์ ฉายแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.) ครั้งที่ 5/2556 เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2556 ณ ห้องประชุมราชวัลลภ ชั้น 2 อาคารราชวัลลภ
รมว.ศธ.กล่าวว่า จากการที่ พ.ร.บ.โรงเรียนเอกชนฯ มาตรา 159 กำหนดให้โรงเรียนเอกชนในระบบ ต้องจัดทำตราสารจัดตั้งและรายละเอียดเกี่ยวกับกิจการของโรงเรียน ภายใน 2 ปี นับตั้งแต่วันที่ พ.ร.บ.ดังกล่าวประกาศใช้ ซึ่งได้ครบกำหนดไปแล้วตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายน 2556 แต่เนื่องจากมีโรงเรียนที่จัดตั้งขึ้นก่อน พ.ร.บ.ดังกล่าวมีผลใช้บังคับ ไม่สามารถดำเนินการได้ทันตามเวลา เพราะได้รับผลกระทบเกี่ยวกับภาษีอากรจากการโอนทรัพย์สินให้แก่โรงเรียน โดยไม่ได้รับการยกเว้นภาษี ตามมาตรา 27 และ 27/1 แห่ง พ.ร.บ.โรงเรียนเอกชนฯ ซึ่งที่ประชุม กช.ได้เคยมีมติให้ยกเว้นโรงเรียนที่ได้รับผลกระทบไว้ก่อน จนกว่าจะมีพระราชกฤษฎีกายกเว้นภาษีอากรประกาศใช้ แต่ต้องไม่เกิน 2 ปี นับแต่วันครบเวลาตามที่กฎหมายกำหนด
ที่ประชุมได้พิจารณาแล้ว เห็นชอบการขยายระยะเวลาในการจัดทำตราสารจัดตั้งฯ ของโรงเรียนในระบบ ที่ยื่นคำขอเพื่อขยายเวลา รวมทั้งสิ้น 274 โรง แยกเป็นโรงเรียนในกรุงเทพฯ 58 โรง และส่วนภูมิภาค 216 โรง
สาระสำคัญ จากการที่ ครม.ได้มีมติเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2556 ให้ปรับเพิ่มค่าใช้จ่ายในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อให้ความสำคัญต่อความปลอดภัย การสร้างขวัญกำลังใจให้กับนักเรียน ครูในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้มากขึ้น โดยได้อนุมัติให้ครูโรงเรียนเอกชนในระบบได้รับเงินเพิ่มพิเศษค่าใช้จ่ายในการพัฒนาการศึกษา จากเดิมคนละ 1,000 บาทต่อเดือน เป็นคนละ 2,500 บาทต่อเดือน ซึ่งขณะนี้กระทรวงศึกษาธิการได้เสนอของบกลางจากรัฐบาลเพิ่มเติมอีก 224 ล้านบาท จากเดิมที่ได้รับจัดสรรไว้แล้วจำนวน 149 ล้านบาท สำหรับจัดสรรให้ครูจำนวน12,452 คน
ดังนั้น สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) จึงได้ยกร่างระเบียบดังกล่าว เพื่อให้สอดคล้องกับการเพิ่มเงินอุดหนุนให้ครูในอัตราคนละ2,500 บาท โดยมีสาระสำคัญครอบคลุมถึงครูและโรงเรียนในจังหวัดปัตตานี ยะลา นราธิวาส และสงขลา (เฉพาะ 4 อำเภอ คือ จะนะ นาทวี เทพ สะบ้าย้อย)
โดยครูที่มีสิทธิได้รับการอุดหนุน ต้องเป็นผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งก่อนวันที่ 1 ตุลาคม 2556 หรือกรณีที่ได้รับการแต่งตั้งตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม2556 เป็นต้นไป จะต้องเป็นการแต่งตั้งเพื่อทดแทนครูที่พ้นจากหน้าที่ หรือเป็นการแต่งตั้งในสัดส่วนของนักเรียนที่เพิ่มขึ้นตามอัตราที่ สช. กำหนด ส่วนโรงเรียนที่ขอรับการจัดสรรเงินอุดหนุน จะต้องยื่นคำขอรับเงินอุดหนุนต่อ สช.จังหวัด/อำเภอ พร้อมกับการขอรับเงินอุดหนุนรายบุคคลประจำเดือน
แต่ขณะนี้ ศธ. มีนโยบายที่จะส่งเสริมให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมจัดและสนับสนุนการศึกษา และเพิ่มสัดส่วนผู้เรียนอาชีวศึกษาให้สูงขึ้น สช.จึงได้เสนอขอความเห็นต่อที่ประชุมในครั้งนี้ เพื่อพิจารณากำหนดนโยบายการรับนักเรียนใหม่เข้าเรียนในภาคเรียนที่ 2 สำหรับโรงเรียนเอกชนประเภทอาชีวศึกษา
ที่ประชุมพิจารณาแล้ว มีมติเห็นชอบการรับนักเรียนใหม่เข้าเรียนในภาคเรียนที่ 2 สำหรับโรงเรียนเอกชนอาชีวศึกษา ตามที่ สช. เสนอ
ทั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับ พ.ร.บ.โรงเรียนเอกชนฯ มาตรา 52 และเป็นการปรับปรุงแก้ไขประกาศเดิมให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยประเด็นสำคัญที่มีการแก้ไขจากฉบับเดิม ได้แก่
- การระบุวัตถุประสงค์ของการกู้ไว้ในชื่อประกาศ
- เกณฑ์การพิจารณาให้กู้ยืมเงิน
- การจัดทำกรมธรรม์ให้ครอบคลุมภัยทุกประเภท และเพิ่มระยะเวลาเอาประกันให้ครอบคลุมระยะเวลาการชำระหนี้ หรือตามที่คณะอนุกรรมการกำหนด
- การปรับเงื่อนไขการจ่ายเงินกู้ยืม การผ่อนชำระเงินกู้ยืม วิธีการชำระหนี้ให้มีความชัดเจนยิ่งขึ้น
- เพิ่มการดำเนินงานในส่วนของ สช.จังหวัด
ภาพ สถาพร ถาวรสุข
ทั้งนี้ เนื่องจากระเบียบเดิมไม่ได้ให้ความช่วยเหลือการศึกษาบุตรในระดับปริญญาตรี โดยประเด็นสำคัญที่มีการแก้ไขจากฉบับเดิม ได้แก่
- ปรับหลักเกณฑ์อัตราเงินค่าการศึกษาบุตรให้ถึงระดับปริญญาตรี หรือเทียบเท่า ในปี 2556 จำนวนไม่เกินปีละ 20,000 บาท ต่อคนต่อปีการศึกษา
- การขยายความ/ปรับนิยาม/หลักเกณฑ์การเบิกจ่ายเงิน เพื่อให้การดำเนินงานมีความรวดเร็วยิ่งขึ้น
ติวสอบออนไลน์ ชุด นโยบายรัฐบาล
ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี 368/2556ผล การประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน ครั้งที่ 5/2556
เห็นชอบให้โรงเรียนเอกชน 274 โรง ได้รับการยกเว้นการดำเนินการจัดทำตราสารจัดตั้ง
เห็นชอบระเบียบฯ การอุดหนุนพัฒนาคุณภาพการศึกษาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ สำหรับครู/โรงเรียนเอกชนในระบบ
สาระสำคัญ จากการที่ ครม.ได้มีมติเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2556 ให้ปรับเพิ่มค่าใช้จ่ายในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อให้ความสำคัญต่อความปลอดภัย การสร้างขวัญกำลังใจให้กับนักเรียน ครูในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้มากขึ้น โดยได้อนุมัติให้ครูโรงเรียนเอกชนในระบบได้รับเงินเพิ่มพิเศษค่าใช้จ่ายในการพัฒนาการศึกษา จากเดิมคนละ 1,000 บาทต่อเดือน เป็นคนละ 2,500 บาทต่อเดือน ซึ่งขณะนี้กระทรวงศึกษาธิการได้เสนอของบกลางจากรัฐบาลเพิ่มเติมอีก 224 ล้านบาท จากเดิมที่ได้รับจัดสรรไว้แล้วจำนวน 149 ล้านบาท สำหรับจัดสรรให้ครูจำนวน12,452 คน
ดังนั้น สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) จึงได้ยกร่างระเบียบดังกล่าว เพื่อให้สอดคล้องกับการเพิ่มเงินอุดหนุนให้ครูในอัตราคนละ2,500 บาท โดยมีสาระสำคัญครอบคลุมถึงครูและโรงเรียนในจังหวัดปัตตานี ยะลา นราธิวาส และสงขลา (เฉพาะ 4 อำเภอ คือ จะนะ นาทวี เทพ สะบ้าย้อย)
โดยครูที่มีสิทธิได้รับการอุดหนุน ต้องเป็นผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งก่อนวันที่ 1 ตุลาคม 2556 หรือกรณีที่ได้รับการแต่งตั้งตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม2556 เป็นต้นไป จะต้องเป็นการแต่งตั้งเพื่อทดแทนครูที่พ้นจากหน้าที่ หรือเป็นการแต่งตั้งในสัดส่วนของนักเรียนที่เพิ่มขึ้นตามอัตราที่ สช. กำหนด ส่วนโรงเรียนที่ขอรับการจัดสรรเงินอุดหนุน จะต้องยื่นคำขอรับเงินอุดหนุนต่อ สช.จังหวัด/อำเภอ พร้อมกับการขอรับเงินอุดหนุนรายบุคคลประจำเดือน
- เห็นชอบการรับนักเรียนใหม่เข้าเรียนในภาคเรียนที่ 2 สำหรับโรงเรียนเอกชนอาชีวศึกษา
แต่ขณะนี้ ศธ. มีนโยบายที่จะส่งเสริมให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมจัดและสนับสนุนการศึกษา และเพิ่มสัดส่วนผู้เรียนอาชีวศึกษาให้สูงขึ้น สช.จึงได้เสนอขอความเห็นต่อที่ประชุมในครั้งนี้ เพื่อพิจารณากำหนดนโยบายการรับนักเรียนใหม่เข้าเรียนในภาคเรียนที่ 2 สำหรับโรงเรียนเอกชนประเภทอาชีวศึกษา
ที่ประชุมพิจารณาแล้ว มีมติเห็นชอบการรับนักเรียนใหม่เข้าเรียนในภาคเรียนที่ 2 สำหรับโรงเรียนเอกชนอาชีวศึกษา ตามที่ สช. เสนอ
- เห็นชอบร่างประกาศฯ หลักเกณฑ์วิธีการการกู้ยืมเงิน จากกองทุนส่งเสริมโรงเรียนในระบบ
ทั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับ พ.ร.บ.โรงเรียนเอกชนฯ มาตรา 52 และเป็นการปรับปรุงแก้ไขประกาศเดิมให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยประเด็นสำคัญที่มีการแก้ไขจากฉบับเดิม ได้แก่
- การระบุวัตถุประสงค์ของการกู้ไว้ในชื่อประกาศ
- เกณฑ์การพิจารณาให้กู้ยืมเงิน
- การจัดทำกรมธรรม์ให้ครอบคลุมภัยทุกประเภท และเพิ่มระยะเวลาเอาประกันให้ครอบคลุมระยะเวลาการชำระหนี้ หรือตามที่คณะอนุกรรมการกำหนด
- การปรับเงื่อนไขการจ่ายเงินกู้ยืม การผ่อนชำระเงินกู้ยืม วิธีการชำระหนี้ให้มีความชัดเจนยิ่งขึ้น
- เพิ่มการดำเนินงานในส่วนของ สช.จังหวัด
ภาพ สถาพร ถาวรสุข
- เห็นชอบร่างระเบียบฯ เงินสวัสดิการสงเคราะห์การศึกษาบุตร
ทั้งนี้ เนื่องจากระเบียบเดิมไม่ได้ให้ความช่วยเหลือการศึกษาบุตรในระดับปริญญาตรี โดยประเด็นสำคัญที่มีการแก้ไขจากฉบับเดิม ได้แก่
- ปรับหลักเกณฑ์อัตราเงินค่าการศึกษาบุตรให้ถึงระดับปริญญาตรี หรือเทียบเท่า ในปี 2556 จำนวนไม่เกินปีละ 20,000 บาท ต่อคนต่อปีการศึกษา
- การขยายความ/ปรับนิยาม/หลักเกณฑ์การเบิกจ่ายเงิน เพื่อให้การดำเนินงานมีความรวดเร็วยิ่งขึ้น
ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี ศธ.
... เน็ตเร็ว คลิ๊กที่ www.tuewsob.com
... เน็ตช้า คลิ๊กที่ http://tuewsob.blogspot.com
... ห้องวิชาเอกครู คลิ๊กที่ http://uewsob2011.blogspot.com
... (ห้องข้อสอบใหม่) ..สอบครู..สอบผู้บริหาร..สอบบุค ลากร ที่
"ติวสอบดอทคอม "
ผอ.นิกร เพ็งลี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น