ข้อสอบออนไลน์ ชุดใหม่
8 ตุลาคม 2556 - นายจาตุรนต์ ฉายแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วยนายอภิชาติ จีระวุฒิ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดเผยรายงานการตรวจสอบการดำเนินงานโครงการการจัดการเรียนการสอนโดยใช้คอมพิวเตอร์พกพา (แท็บเล็ต) กระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการสื่อสาร ของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.)
ติวสอบออนไลน์ ชุด เศรษฐกิจพอเพียง
ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี 337/2556
ข้อเท็จจริงรายงานผลการตรวจสอบแท็บเล็ตของ สตง.
รมว.ศธ.กล่าวว่า สตง.ได้สุ่มตรวจการจัดการเรียนการสอนโดยแท็บเล็ตของโรงเรียนกลุ่มตัวอย่าง 80 โรงเรียน และส่งผลการตรวจสอบมายังสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2556 ซึ่งพบประเด็นปัญหาใน 4 เรื่อง คือ
1. การจัดสรรแท็บเล็ตให้กับนักเรียนชั้น ป.1 ล่าช้าและยังไม่ครบถ้วน
2. โรงเรียนยังไม่สามารถนำแท็บเล็ตมาใช้เป็นสื่อการจัดการเรียนการสอนได้อย่างครบถ้วนตามที่กำหนดในคู่มือ
3. การรับประกันแท็บเล็ต
4. การควบคุมแท็บเล็ต หมายถึงการควบคุมครุภัณฑ์
2. โรงเรียนยังไม่สามารถนำแท็บเล็ตมาใช้เป็นสื่อการจัดการเรียนการสอนได้อย่างครบถ้วนตามที่กำหนดในคู่มือ
3. การรับประกันแท็บเล็ต
4. การควบคุมแท็บเล็ต หมายถึงการควบคุมครุภัณฑ์
ซึ่งมีหลายเรื่องที่ ศธ.และคณะกรรมการบริหารนโยบาย 1 คอมพิวเตอร์พกพา (แท็บเล็ต) ต่อ 1 นักเรียนทราบมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นความล่าช้าของการจัดซื้อ การใช้ประโยชน์จากแท็บเล็ตไม่เต็มที่ การบรรจุเนื้อหาสาระและ Applications ไม่ครบถ้วน ไม่มี Wi-Fi ไม่สามารถใช้อินเทอร์เน็ตได้อย่างทั่วถึงทุกพื้นที่ เป็นต้น
นอกจากนี้ สตง.ได้มีข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการพัฒนาเนื้อหาและ Application ที่จะบรรจุในแท็บเล็ตว่า ให้มีการพัฒนาเนื้อหาในวิชาและชั่วโมงเรียนที่สามารถใช้ประโยชน์จากแท็บเล็ตมากขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับที่ ศธ.กำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้ อย่างไรก็ตามในส่วนที่เป็นวิชาการทางการศึกษา อาจจะต้องมีการแลกเปลี่ยนเพื่อให้ สตง. เกิดความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดการศึกษามากขึ้นว่า ต้องใช้ความรู้ทางวิชาการเพื่อบรรจุในแท็บเล็ตเป็นหลัก
สำหรับการรายงานจำนวนแท็บเล็ตเสียหายของ สตง.นั้น เป็นการรายงานผลการสุ่มตรวจแท็บเล็ตโรงเรียนกลุ่มตัวอย่าง 80 โรงเรียนใน 12 เขตพื้นที่การศึกษาใน 11 จังหวัด ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 0.2 ของจำนวนโรงเรียนทั้งหมด พบว่ามีความเสียหายร้อยละ 30 หรือจำนวน 295 เครื่อง จากนั้น สตง.ได้นำผลในส่วนนี้มาเทียบเป็นบัญญัติไตรยางค์ กล่าวคือ ถ้าโรงเรียนกลุ่มตัวอย่างมีความเสียหายร้อยละ 30 เมื่อเทียบกับโรงเรียนทั้งหมด จะพบความเสียหาย 258,000 เครื่อง แต่จากข้อมูลความเสียหายของแท็บเล็ตของ ICT ซึ่งเป็นคู่สัญญาในการจัดซื้อแท็บเล็ตรอบแรก พบว่าความเสียหายของแท็บเล็ต มีเพียงร้อยละ 0.6 ตัวเลขทั้งสองส่วนจึงเป็นตัวเลขที่มีความแตกต่างกันมาก
ดังนั้น สิ่งที่ ศธ.จะต้องดำเนินการต่อไปคือ รวบรวมตัวเลขแท็บเล็ตที่เสียหาย ซึ่งที่ผ่านมา ศธ.ยังไม่มีข้อมูลจำนวนแท็บเล็ตที่เสียหายโดยรวมทั้งประเทศ จึงได้มอบหมายให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทุกแห่งทั่วประเทศรับผิดชอบในส่วนนี้
นอกจากนี้ ศธ.ยังไม่ทราบว่า ความเสียหายของแท็บเล็ตเกิดจากส่วนใดบ้าง จึงได้มอบหมายให้ สพฐ.ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ประสานไปยังมหาวิทยาลัยที่มีคณะวิศวกรรมศาสตร์และคณะที่เกี่ยวกับด้านเทคโนโลยีทางคอมพิวเตอร์ เพื่อช่วยในการสุ่มตรวจแท็บเล็ตโรงเรียนกลุ่มตัวอย่าง ซึ่งจะกำหนดจำนวนตามความพร้อมต่อไปว่า มีความเสียหายในส่วนใดได้บ้าง เสียอย่างไร ความเสียหายมากน้อยและยากง่ายต่อการซ่อมแซมเพียงใด ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องอาศัยความรู้ความสามารถจากสถาบันการศึกษาที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีให้ช่วยตรวจสอบ
ในส่วนของศูนย์ซ่อมแซมแท็บเล็ตที่มีคำถามว่าเป็นไปตามสัญญาหรือไม่นั้น สพฐ.ได้รายงานว่า มีศูนย์ซ่อมแท็บเล็ตครอบคลุมทุกจังหวัดรวม 114 ศูนย์ ซึ่งเป็นไปตามสัญญาที่จัดทำไว้กับ ICT โดยใช้ระยะเวลาในการซ่อม 5 วัน แต่จะมีบางศูนย์ที่ต้องยุบหรือควบรวมศูนย์เข้าด้วยกัน ทำให้ต้องปิดบริการ ซึ่งอาจจะเกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนได้
อย่างไรก็ตาม ศธ.เห็นด้วยกับข้อเสนอแนะของ สตง. ในเรื่องเนื้อหาของแท็บเล็ต ซึ่งได้ย้ำมาโดยตลอดว่า เนื้อหาสาระที่ใช้กับแท็บเล็ต จะต้องมีความครบถ้วนของวิชาเรียนและให้มีการเพิ่มแบบฝึกหัดด้วย จึงจะเร่งรัดให้คณะอนุกรรมการเกี่ยวกับเนื้อหาแท็บเล็ตและ สพฐ. สร้างระบบคัดกรองและกำหนดมาตรฐานเนื้อหาและ Application โดยเร็ว รวมทั้งส่งเสริมให้มีการพัฒนาเนื้อหา การนำ Application ที่สถาบันการศึกษาและเอกชนผลิตมาใช้กับแท็บเล็ตให้ทันใช้ในปีงบประมาณ 2556 นี้ และให้มีการสรุปบทเรียน ข้อดีข้อเสีย และปัญหาอุปสรรค จากการจัดซื้อแท็บเล็ตที่ผ่านมาทั้ง 2 ปีงบประมาณ ตามมติคณะกรรมการฯ แท็บเล็ต เพื่อศึกษาข้อดีข้อเสียและนำมาใช้ประโยชน์ควบคู่กับผลการตรวจสอบของ สตง. ในการดำเนินการจัดซื้อแท็บเล็ตในรอบต่อไปแ ละปรับปรุงการบริหารจัดการเพื่อให้ใช้ประโยชน์จากแท็บเล็ตอย่างเต็มที่ด้วย
และเมื่อสรุปบทเรียนแล้วเสร็จ จะดำเนินการจัดซื้อแท็บเล็ตโดยเร็ว เพื่อไม่ให้เกิดความล่าช้าเหมือนปีที่ผ่านมา และยืนยันที่จะใช้วิธีซื้อแท็บเล็ตเช่นเดิม จะไม่ใช้วิธีแจกคูปองตามที่มีผู้เสนอไว้เพื่อให้นักเรียนบางกลุ่มนำไปเลือกซื้อแท็บเล็ตที่มีคุณภาพสูงกว่า เพราะจะมีความยุ่งยาก รวมทั้งสร้างความแตกต่างและความไม่เท่าเทียมได้
- ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี ศธ.
"ติวสอบดอทคอม" ผอ.นิกร เพ็งลี
... เน็ตเร็ว คลิ๊กที่ www.tuewsob.com
... เน็ตช้า คลิ๊กที่ http://tuewsob.blogspot.com
... ห้องวิชาเอกครู คลิ๊กที่ http://uewsob2011.blogspot.com
... (ห้องข้อสอบใหม่) ..สอบครู..สอบผู้บริหาร..สอบบุค ลากร ที่
"ติวสอบดอทคอม "
ผอ.นิกร เพ็งลี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น