เรื่องใหม่ ...น่าโหลด...(วันนี้)
- รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2557
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2557/A/055/1.PDF
- เพลงปลุกใจเพื่อชาติ
- ตัวบ่งชี้ ประเมินคุณภาพภายนอกรอบสี่ พื้นฐาน-อุดม-อาชีว
โดย สมศ.
- เกณฑ์ประเมินคุณภาพภายนอก รอบสี่ (พ.ศ.2559-2563)
- ระบบควบคุมภายใน 2557
- รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2557
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2557/A/055/1.PDF
- เพลงปลุกใจเพื่อชาติ
- ตัวบ่งชี้ ประเมินคุณภาพภายนอกรอบสี่ พื้นฐาน-อุดม-อาชีว
- แนวทางการจัดทำรายงานการติดตามประเมินผลการควบคุมภายในประจำปี 2557
ข้อสอบออนไลน์ ( สอบครู - ผู้บริหาร - บุคลากรการศึกษา) ชุดใหม่ล่าสุด
ติวสอบ บน ยูทูป ทั้งหมด ได้ที่
ติวสอบ บน ยูทูป ทั้งหมด ได้ที่
นับหนึ่งใหม่ ! เตรียมตั้ง กก.หลักสูตรแห่งชาติ ทำหน้าที่วิเคราะห์แนวเรียนรู้ประถม-มหาวิทยาลัย
ศึกษาธิการ * "สุทธศรี" เผยแนวทางปฏิรูปการศึกษา เตรียมประชุมตั้งคณะกรรมการหลักสูตรและการเรียนรู้แห่งชาติในวันที่ 14 ส.ค.นี้ เพื่อทำหน้าที่วิเคราะห์หลักสูตรพื้นฐาน อาชีวศึกษาและอุดมศึกษา จะได้สร้างคนได้ตามเป้า ก่อนส่งให้ให้ คสช.พิจารณาต่อไป
นางสุทธศรี วงษ์สมาน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวถึงความคืบหน้าในการจัดทำร่างโรดแม็พ (Road Map) ปฏิรูปการศึกษา (ปี พ.ศ.2558-2564) ว่า ตามที่ ศธ.ได้จัดเวทีระดมความคิดเห็นจากทุกฝ่ายจนนำมาสู่การวางกรอบแนวทางไว้ 6 เรื่อง ได้แก่ 1.ปฏิรูปครู 2.เพิ่มกระจายโอกาสและคุณภาพอย่างทั่วถึง เท่าเทียม 3.ปฏิรูประบบการบริหารจัดการ 4.การผลิตและ พัฒนากำลังคนเพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขัน 5.ปฏิรูปการเรียนรู้ และ 6.ปรับระบบการใช้ไอซีทีเพื่อการศึกษา โดยตนได้มอบหมายให้คณะเลขานุการไปรวบรวมข้อมูล ความคิดเห็นรอบด้านอีกครั้ง เพื่อนำมาเสนอต่อการประชุมคณะกรรมการอำนวยการปฏิรูปการศึกษาของ ศธ. ที่มีตนเป็นประธาน และมีผู้บริหารองค์กรหลัก ศธ. เป็นรองประธาน ในวันที่ 14 สิงหาคมนี้ โดยการประชุมดังกล่าวจะหารือกับที่ประชุมเกี่ยวกับการแต่งตั้งคณะกรรมการหลักสูตรและการเรียนรู้แห่งชาติ เพื่อทำหน้าที่วิเคราะห์หลักสูตรพื้นฐาน อาชีวศึกษาและอุดมศึกษา เพื่อวางแผนและกำหนดเป้าหมายพัฒนาคนมีความรู้ความสามารถในแต่ละด้าน แต่ละระดับ ตามเป้าหมายที่พึงประสงค์ เพื่อเสนอแนวทางการปฏิรูปการศึกษาให้ คสช.พิจารณาต่อไป
ปลัด ศธ.กล่าวว่า ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แสดงความห่วงใยเรื่องการศึกษาของเด็กทั้งการเรียนที่มากเกินไป เด็กกวดวิชา ปัญหาขาดแคลนผู้เรียนสายอาชีพ และยังยกตัวอย่างด้วยว่ามีเด็กจบอุดมศึกษาถึง 53% ที่ตกงาน จึงอยากให้ ศธ.แก้ไขวางระบบให้เชื่อมโยงกัน และยังอยากให้เร่งแก้ไขปัญหาการศึกษาในเรื่องต่างๆ อาทิ การลดเวลาเรียน การพัฒนาทักษะชีวิตของผู้เรียนในระดับพื้นฐาน อาชีวศึกษาและอุดมศึกษา โดยจะต้องให้สอดคล้องกับคุณลักษณะตามค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการของ คสช.มาหารือ เพื่อจะดูว่ามีเรื่องใดบ้างที่องค์กรหลักสามารถไปบูรณาการกับการทำงานเพื่อให้เกิดผลได้ทันที
อย่างไรก็ตาม แนวทางที่ ศธ.วางไว้คร่าวๆ คือ ขอให้แต่ละองค์กรหลักไปดำเนินการ เช่น สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ไปดูแลเรื่องการปรับลดเวลาเรียน หลัก สูตร รวมถึงกิจกรรมการเรียนการสอนที่เหมาะสมควรเป็นแบบใด เป็นไปได้หรือไม่ที่จะเปิดให้มีวิชาเลือกมากขึ้น เพื่อให้เด็กได้เลือกเรียนในสิ่งที่ตนถนัดและสนใจ เพื่อให้เด็กสามารถนำไปต่อ ยอดพัฒนาตัวได้ ส่วนสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ขอให้ไปดูการสร้างสุภาพบุรุษอาชีวศึกษาจะมีมาตรการอย่างไร รวมทั้งการส่งเสริมให้คนมาเรียนสายอาชีพเพิ่มขึ้นจะจูงใจได้อย่างไร ซึ่งตรงนี้จะเร่งผลักดันระบบคุณวุฒิวิชาชีพให้เข้ามามีบทบาทมากขึ้น ซึ่งจะช่วยการันตีความสามารถในทักษะวิชาชีพ ไม่ใช่การรับรองปริญญา ส่วนคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) จะขอให้ไปดูการส่งเสริมให้มีผู้เรียนในสาขาที่ประเทศต้องการจบไปแล้วมีงานทำ ทั้งนี้ อาชีวศึกษาเป็นการเรียนเพื่อการมีอาชีพ ส่วนอุดมศึกษาเรียนเพื่อการศึกษาและมีงานทำ ซึ่งทั้ง 2 ระดับมีความสำคัญต่อการเตรียมความพร้อมคนสู่ตลาดแรงงาน" นางสุทธศรีกล่าว
ปลัด ศธ.กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ตนมองว่ารัฐต้องเข้ามาช่วยโดยใช้กลไกของกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) และกองทุนเงินให้กู้ยืมที่ผูกกับรายได้ในอนาคต (กรอ.) เพื่อเพิ่มโอกาสให้คนได้เรียนโดยเฉพาะในสาขาที่ขาดแคลน ซึ่งปัจจุบัน กรอ.แม้จะให้กู้ในสาขาที่ขาดแคลน แต่ก็พบว่ามีผู้กู้ยืมน้อย เพราะฉะนั้นควรจะต้องมา ทบทวนข้อดี-ข้อเสียทั้ง 2 กองทุน และปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพ โดยตนมีแนวคิดว่าการพัฒนาและแก้ไขปัญหาจะต้องทำในภาพรวม ซึ่งควรมีคณะกรรมการกลางที่มาทำหน้าที่ตรงนี้
นางสุทธศรี วงษ์สมาน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวถึงความคืบหน้าในการจัดทำร่างโรดแม็พ (Road Map) ปฏิรูปการศึกษา (ปี พ.ศ.2558-2564) ว่า ตามที่ ศธ.ได้จัดเวทีระดมความคิดเห็นจากทุกฝ่ายจนนำมาสู่การวางกรอบแนวทางไว้ 6 เรื่อง ได้แก่ 1.ปฏิรูปครู 2.เพิ่มกระจายโอกาสและคุณภาพอย่างทั่วถึง เท่าเทียม 3.ปฏิรูประบบการบริหารจัดการ 4.การผลิตและ พัฒนากำลังคนเพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขัน 5.ปฏิรูปการเรียนรู้ และ 6.ปรับระบบการใช้ไอซีทีเพื่อการศึกษา โดยตนได้มอบหมายให้คณะเลขานุการไปรวบรวมข้อมูล ความคิดเห็นรอบด้านอีกครั้ง เพื่อนำมาเสนอต่อการประชุมคณะกรรมการอำนวยการปฏิรูปการศึกษาของ ศธ. ที่มีตนเป็นประธาน และมีผู้บริหารองค์กรหลัก ศธ. เป็นรองประธาน ในวันที่ 14 สิงหาคมนี้ โดยการประชุมดังกล่าวจะหารือกับที่ประชุมเกี่ยวกับการแต่งตั้งคณะกรรมการหลักสูตรและการเรียนรู้แห่งชาติ เพื่อทำหน้าที่วิเคราะห์หลักสูตรพื้นฐาน อาชีวศึกษาและอุดมศึกษา เพื่อวางแผนและกำหนดเป้าหมายพัฒนาคนมีความรู้ความสามารถในแต่ละด้าน แต่ละระดับ ตามเป้าหมายที่พึงประสงค์ เพื่อเสนอแนวทางการปฏิรูปการศึกษาให้ คสช.พิจารณาต่อไป
ปลัด ศธ.กล่าวว่า ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แสดงความห่วงใยเรื่องการศึกษาของเด็กทั้งการเรียนที่มากเกินไป เด็กกวดวิชา ปัญหาขาดแคลนผู้เรียนสายอาชีพ และยังยกตัวอย่างด้วยว่ามีเด็กจบอุดมศึกษาถึง 53% ที่ตกงาน จึงอยากให้ ศธ.แก้ไขวางระบบให้เชื่อมโยงกัน และยังอยากให้เร่งแก้ไขปัญหาการศึกษาในเรื่องต่างๆ อาทิ การลดเวลาเรียน การพัฒนาทักษะชีวิตของผู้เรียนในระดับพื้นฐาน อาชีวศึกษาและอุดมศึกษา โดยจะต้องให้สอดคล้องกับคุณลักษณะตามค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการของ คสช.มาหารือ เพื่อจะดูว่ามีเรื่องใดบ้างที่องค์กรหลักสามารถไปบูรณาการกับการทำงานเพื่อให้เกิดผลได้ทันที
อย่างไรก็ตาม แนวทางที่ ศธ.วางไว้คร่าวๆ คือ ขอให้แต่ละองค์กรหลักไปดำเนินการ เช่น สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ไปดูแลเรื่องการปรับลดเวลาเรียน หลัก สูตร รวมถึงกิจกรรมการเรียนการสอนที่เหมาะสมควรเป็นแบบใด เป็นไปได้หรือไม่ที่จะเปิดให้มีวิชาเลือกมากขึ้น เพื่อให้เด็กได้เลือกเรียนในสิ่งที่ตนถนัดและสนใจ เพื่อให้เด็กสามารถนำไปต่อ ยอดพัฒนาตัวได้ ส่วนสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ขอให้ไปดูการสร้างสุภาพบุรุษอาชีวศึกษาจะมีมาตรการอย่างไร รวมทั้งการส่งเสริมให้คนมาเรียนสายอาชีพเพิ่มขึ้นจะจูงใจได้อย่างไร ซึ่งตรงนี้จะเร่งผลักดันระบบคุณวุฒิวิชาชีพให้เข้ามามีบทบาทมากขึ้น ซึ่งจะช่วยการันตีความสามารถในทักษะวิชาชีพ ไม่ใช่การรับรองปริญญา ส่วนคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) จะขอให้ไปดูการส่งเสริมให้มีผู้เรียนในสาขาที่ประเทศต้องการจบไปแล้วมีงานทำ ทั้งนี้ อาชีวศึกษาเป็นการเรียนเพื่อการมีอาชีพ ส่วนอุดมศึกษาเรียนเพื่อการศึกษาและมีงานทำ ซึ่งทั้ง 2 ระดับมีความสำคัญต่อการเตรียมความพร้อมคนสู่ตลาดแรงงาน" นางสุทธศรีกล่าว
ปลัด ศธ.กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ตนมองว่ารัฐต้องเข้ามาช่วยโดยใช้กลไกของกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) และกองทุนเงินให้กู้ยืมที่ผูกกับรายได้ในอนาคต (กรอ.) เพื่อเพิ่มโอกาสให้คนได้เรียนโดยเฉพาะในสาขาที่ขาดแคลน ซึ่งปัจจุบัน กรอ.แม้จะให้กู้ในสาขาที่ขาดแคลน แต่ก็พบว่ามีผู้กู้ยืมน้อย เพราะฉะนั้นควรจะต้องมา ทบทวนข้อดี-ข้อเสียทั้ง 2 กองทุน และปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพ โดยตนมีแนวคิดว่าการพัฒนาและแก้ไขปัญหาจะต้องทำในภาพรวม ซึ่งควรมีคณะกรรมการกลางที่มาทำหน้าที่ตรงนี้
ที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์
ที่มา เว็บ กระทรวงศึกษาธิการ
อัพเดทเรื่องราว - ข้อสอบใหม่ ๆ
เข้าห้องสอบออนไลน์ ( ฟรี)
เน็ตช้า ... คลิ๊กที่ http://tuewsob.blogspot.com
ห้องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
... ห้องติวสอบผู้บริหาร + การศึกษาพิเศษ
... ห้อง ติวสอบ (กรณีศึกษา)
ห้อง ... ครูวิชาเอก ห้อง 1 คลิ๊กที่ http://tuewsobkru.blogspot.com
ห้อง ... ครูวิชาเอก ห้อง 2 คลิ๊กที่ http://tuewsob2011.blogspot.com
สมัคร ติวสอบผู้บริหารสถานศึกษา ที่
( คลิ๊ก ) สมัครติวสอบผู้บริหารภาค 4 ภาค 30 จุดปี 2557-2558
ฟรี... ห้องติวสอบผู้บริหารสถานศึกษา-ครู-บุคลากรการศึกษา ที่
" ติวสอบดอทคอม " เขียน-สร้าง-บรรยาย โดย (ผอ.นิกร เพ็งลี)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น