หน้าหลัก ติวสอบดอทคอม เว็บฟรีข้อสอบออนไลน์

หน้าหลัก ติวสอบดอทคอม เว็บฟรีข้อสอบออนไลน์
หน้าหลัก ติวสอบดอทคอม เว็บฟรีข้อสอบออนไลน์

พัฒนาความรู้ สู่ รอง./ผอ.รร. ปี 2567

พัฒนาความรู้ สู่ รอง./ผอ.รร. ปี 2567
พัฒนาความรู้ สู่ รอง./ผอ.รร. ปี 2567

คลิ๊ก "สมัครพัฒนาความรู้สู่ผู้บริหาร / ครูผู้ช่วย

คลิ๊ก... สมัคร พัฒนาความรู้ สู่ ครูผู้ช่วย
คลิ๊ก... สมัคร พัฒนาความรู้ สู่ ผู้บริหาร

ติวสอบดอทคอม (เตรียมสอบครูผู้ช่วย-ผู้บริหาร-บุคลากร การศึกษา)

ติวสอบดอทคอม (เตรียมสอบครูผู้ช่วย-ผู้บริหาร-บุคลากร การศึกษา)
ติวสอบดอทคอม (เว็บฟรีข้อสอบออนไลน์ สอบครู ผู้บริหาร บุคลากร)

วันศุกร์ที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2558

คสช.เด้ง'สุทธศรี'พ้นปลัดศธ.

1.กำหนดการสอบครูผู้ช่วย (กรณีปกติ)

3.เครื่องแบบพนักงานราชการ  2557

คำแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรีต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ

-นโยบาย รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ
- รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2557
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2557/A/055/1.PDF

ข้อสอบออนไลน์ ( สอบครู - ผู้บริหาร - บุคลากรการศึกษาชุดใหม่ล่าสุด
 เตรียมสอบ บน ยูทูป ทั้งหมด ได้ที่

 ติวสอบ บน ยูทูป


   คลิ๊ก ) สมัครพัฒนาความรู้
เตรียมสอบครูผู้ช่วย 5 ภาค ปี 2558 

คสช.เด้ง'สุทธศรี'พ้นปลัดศธ.

คสช.เด้ง'สุทธศรี'พ้นปลัดศธ.

'บิ๊กตู่' เล็งงัด ม.44 กดราคาลอตเตอรี่ 80 ออกคำสั่ง คสช.ล้างบอร์ด สกสค.เด้ง 'สุทธศรี' พ้นปลัดศธ. โยก 'กำจร' เสียบ สอบใช้งบคุรุสภา ถามทำประโยชน์อะไรให้ชาติ

 
                          17 เม.ย. 58  เมื่อเวลา 14.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ให้สัมภาษณ์ ว่า ขณะนี้กำลังคิด และดำเนินการการจำหน่ายลอตเตอรี่ ในราคาฉบับละ 80 บาท ให้ได้ โดยใช้มาตรา 44 ในรัฐธรรมนูญชั่วคราว แต่บอกไปตอนนี้เดี๋ยวก็จะมีการโวยวายออกมาอีก แต่เราจะใช้กฎหมาย มาตรา 44 ไม่เช่นนั้นก็ต้องรอ พ.ร.บ.กองสลากและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
 
                          "ผมต้องการให้ต้นทางออกมาในราคานี้แล้วไปรับได้ 2 ที่ คือ ที่จังหวัด และที่ส่วนกลาง คือ ที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ก็ต้องไปตั้งกลุ่มจดทะเบียนให้เรียบร้อย ใครจะขายปลีก ขายส่ง ไม่ต้องเข้ามาซื้อที่กรุงเทพฯ เพียงอย่างเดียว"
 
                          ผู้สื่อข่าวถามว่า คำสั่งออกมาในเรื่องของการจำกัดราคาขายลอตเตอรี่ ใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำให้ได้ก่อน คือ การจัดตั้งกลุ่ม และจดทะเบียนช่วงที่รอกฎหมาย เพราะส่วนหนึ่งจะหมดโควตาลง ซึ่งก็จะได้ใช้ส่วนตรงนี้ไปเริ่มดำเนินการเกลี่ยใหม่ จากนั้นในเดือน ก.ย. จะหมดโควตาอีกงวดหนึ่ง ก็จะปรับอีกรอบ ซึ่งถือว่าโควตาเดิมจะไม่เหลือแล้ว ก็จะมีการปรับอีกรอบ ก็มาคิดว่า ทำอย่างไรจะให้ราคาขายอยู่ที่ฉบับละ 80 บาท แล้วต้นทางควรจะจำหน่ายในราคาเท่าไหร่ คนขายมีกำไรเท่าไหร่ สำหรับผู้ที่เดินขายในต่างจังหวัด จะให้ได้กำไรฉบับละ 10 บาท ได้หรือไม่
 
                          "ความจริงผมอยากบอกว่า โควตา 5 เสือ นั้น ก็ไม่ใช่โควตาทั้งหมด เป็นเพียงโควตาส่วนหนึ่งเท่านั้นที่ขายกันไป-มา ปัญหาของเราคือข้างล่าง เมื่อขายไม่หมด ก็ไม่มีเงินที่จะรับซื้อ รัฐมีเงินรับซื้อคืน แต่กฎหมายไม่มี ก็ต้องไปแก้กฎหมายให้สามารถรับซื้อคืนได้จากรายย่อย ที่ผ่านมา ผู้ค้ารายย่อยเมื่อซื้อไปขายแล้วขายไม่หมด คืนก็ไม่ได้ ง่ายที่สุดก็คือ ขายคืนไปที่กลุ่ม 5 เสือ กลุ่ม 5 เสือ ก็มาตั้งราคาใหม่แล้วขายออกไปก็เกินฉบับละ 80 บาททั้งหมด"
 
                          พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า กฎหมายปกติใช้ไม่ได้ และไม่ทันต่อการแก้ไขสถานการณ์และราคาฉบับละ 80 บาท เพราะติดขัด เนื่องจากไม่มีกฎหมายกำหนดว่า ต้องมีเงินของรัฐในการรับซื้อคืนจากผู้ค้ารายย่อย ในส่วนของผู้ค้ารายใหญ่นั้นมีเงินลงทุนอยู่แล้ว
 
                          "ดังนั้นเร็วๆ นี้ ก็จะมีคำสั่งใหม่ออกมา โดยมีกฎหมายรองรับว่า รัฐสามารถที่จะรับซื้อคืนจากผู้ค้ารายย่อยได้ แต่จะไม่สามารถไปขายคืนกลับให้ 5 เสือได้แล้ว จะต้องมีการปั๊มให้เรียบร้อย เพื่อรู้ว่าเป็นของใคร พวกพ่อค้าปลีก สมาคม ผู้พิการ ถ้ามีการเอาไปขายคืน ก็ต้องยึดโควตาคืน คนต้องรักษากติกา คำสั่งที่กำลังจะออกมาใหม่ ก็ให้มีการดำเนินการไปตามนี้ คนทำคือบอร์ดลอตเตอรี่ และผู้อำนวยการกองสลากฯ"
 
                          เมื่อถามว่า จะทำได้ทันงวดต่อไปหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่ทัน แต่ภายในสิ้นเดือนนี้ ต้องเตรียมการให้เสร็จ คาดว่าประมาณเดือนมิถุนายน จะสามารถบริหารจัดการให้สามารถจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลได้ในราคาฉบับละ 80 บาท
 
                          ผู้สื่อข่าวถามว่า แนวคิดที่จะให้มีการจำหน่ายลอตเตอรี่ในร้านสะดวกซื้อ จะทำทันทีหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังไม่เริ่ม เพราะยังเริ่มไม่ได้ และการจำหน่ายในร้านสะดวกซื้อนั้น ก็ไม่ใช่เป็นโควตา แต่เป็นการไปจ้างขาย เพื่อประชาชนจะได้มีทางเลือก รวมทั้งแนวคิดที่จะขายผ่านเครื่องอัตโนมัติด้วย
 
 
 
ออกคำสั่ง คสช. โยกผู้บริหาร ศธ. 
 
 
                          คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 6/2558 เรื่อง การกำหนดตำแหน่งเพิ่มและการแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่ง เพื่อให้การปฏิรูปการศึกษาและการบริหารราชการในกระทรวงศึกษาธิการมีประสิทธิภาพและมีความเหมาะสมมากยิ่งขึ้น สอดคล้องกับแนวทางการปฏิรูปประเทศตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 
 
                          หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติโดยความเห็นชอบของคณะรักษาความสงบแห่งชาติจึงมีคำสั่ง ดังต่อไปนี้
 
                          ข้อ 1 ให้ นางสุทธศรี วงษ์สมาน พ้นจากตำแหน่ง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ และให้ดำรงตำแหน่ง เลขาธิการสภาการศึกษา
 
                          ข้อ 2 ให้ นายพินิติ รตะนานุกูล พ้นจากตำแหน่ง เลขาธิการสภาการศึกษา และให้ดำรงตำแหน่ง เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา
 
                          ข้อ 3 ให้ นายกำจร ตติยกวี พ้นจากตำแหน่ง เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษาและให้ดำรงตำแหน่ง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
 
                          ข้อ 4 ให้ นายบัณฑิตย์ ศรีพุทธางกูร พ้นจากตำแหน่ง เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน และให้ดำรงตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ
 
                          ข้อ 5 ให้ นายอดินันท์ ปากบารา พ้นจากตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ และให้ดำรงตำแหน่ง เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน
 
                          ข้อ 6 ให้ นางรัตนา ศรีเหรัญ พ้นจากตำแหน่ง รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และให้ดำรงตำแหน่ง เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
 
                          ข้อ 7 ให้ข้าราชการซึ่งดำรงตำแหน่งข้างต้นปฏิบัติหน้าที่ตามตำแหน่งตั้งแต่วันที่คำสั่งนี้ ใช้บังคับเป็นต้นไป
 
                          ข้อ 8 ให้สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน สำนักงบประมาณ และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องดำเนินการเกี่ยวกับตำแหน่งและอัตราเงินเดือนของข้าราชการดังกล่าวให้เรียบร้อยโดยด่วน และให้นายกรัฐมนตรีนำความกราบบังคมทูลเพื่อทรงแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งหรือพ้นจากตำแหน่งตามคำสั่งนี้ ทั้งนี้ เพื่อให้เป็นไปตามบทบัญญัติมาตรา 24 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557
 
                          ข้อ 9 คำสั่งนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
 
                          สั่ง ณ วันที่ 16 เมษายน พุทธศักราช 2558 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
 
ปลดบอร์ด กก.คุรุสภา กก.สกสค. กก.บริหารองค์การค้า
 
 
                          คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 7/2558 เรื่อง การปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการคุรุสภา คณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครู และบุคลากรทางการศึกษา และคณะกรรมการบริหารองค์การค้าของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริม สวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา
 
                          เพื่อให้การปฏิรูปการศึกษาและการบริหารราชการในกระทรวงศึกษาธิการมีประสิทธิภาพ และมีความเหมาะสมมากยิ่งขึ้น สอดคล้องกับแนวทางการปฏิรูปประเทศตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 หัวหน้าคณะรักษา ความสงบแห่งชาติโดยความเห็นชอบของคณะรักษาความสงบแห่งชาติจึงมีคำสั่ง ดังต่อไปนี้
 
                          ข้อ 1 ให้บุคคลซึ่งดำรงตำแหน่งต่อไปนี้อยู่ในวันก่อนวันที่คำสั่งนี้ใช้บังคับพ้นจากตำแหน่ง
 
                          (1) กรรมการคุรุสภาตามมาตรา 12 (1) (3) (4) และ (5) แห่งพระราชบัญญัติสภาครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2546
 
                          (2) กรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษาตามมาตรา 64 (3) และ (4) แห่งพระราชบัญญัติสภาครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2546
 
                          (3) กรรมการในคณะกรรมการบริหารองค์การค้าของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการ และสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา
 
                          ทั้งนี้ มิให้มีการแต่งตั้งบุคคลขึ้นมาแทนที่ผู้ดำรงตำแหน่งข้างต้นจนกว่าหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง หรือคณะรักษาความสงบแห่งชาติสิ้นสุดลงตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ
 
                          ข้อ 2 ให้คณะกรรมการคุรุสภาตามกฎหมายว่าด้วยสภาครูและบุคลากรทางการศึกษา ประกอบด้วย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานกรรมการ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เลขาธิการสภาการศึกษา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ผู้อำนวยการสำนักบริหารงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน และหัวหน้าสำนักงานคณะกรรมการมาตรฐานการบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น เป็นกรรมการ และให้เลขาธิการคุรุสภาเป็นเลขานุการ
 
                          ข้อ 3 ให้คณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา ตามกฎหมายว่าด้วยสภาครูและบุคลากรทางการศึกษาประกอบด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานกรรมการ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เลขาธิการสภาการศึกษา เลขาธิการคณะกรรมการ การศึกษาขั้นพื้นฐาน เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เลขาธิการคุรุสภา และเลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา เป็นกรรมการ และให้เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา เป็นกรรมการและเลขานุการ ให้คณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษาปฏิบัติหน้าที่แทน คณะกรรมการบริหารองค์การค้าของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษาด้วย
 
                          ข้อ 4 ในกรณีที่เห็นสมควร หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติอาจมีคำสั่งให้เปลี่ยนแปลงองค์ประกอบของคณะกรรมการตามข้อ 2 และข้อ 3 ได้ตามความเหมาะสม
 
                          ข้อ 5 ให้บุคคลซึ่งดำรงตำแหน่งต่อไปนี้อยู่ในวันก่อนวันที่คำสั่งนี้ใช้บังคับหยุดการปฏิบัติหน้าที่ไปก่อนจนกว่าหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น  
 
                          (1) เลขาธิการคุรุสภา
 
                          (2) เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา
 
                          (3) ผู้อำนวยการองค์การค้าของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา
 
                          ข้อ 6 ในระหว่างที่บุคคลตามข้อ 5 หยุดการปฏิบัติหน้าที่ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการพิจารณามอบหมายให้รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ หรือข้าราชการกระทรวงศึกษาธิการในระดับเดียวกันขึ้นไปปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งตามข้อ 5 ไปพลางก่อน
 
                          ข้อ 7 ให้คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) ตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 45/2557 ลงวันที่ 3 มิถุนายน พุทธศักราช 2557 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ตรวจสอบความถูกต้องและโปร่งใสในการใช้จ่ายงบประมาณ การบริหารการเงินทรัพย์สิน และผลประโยชน์อื่นใด ของคุรุสภา สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครู และบุคลากรทางการศึกษา และองค์การค้าของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครู และบุคลากรทางการศึกษา รวมทั้งตรวจสอบการดำเนินโครงการที่สำคัญภายใต้การดำเนินงานของบุคคลตามข้อ 1 และข้อ 5 ในช่วงเวลาที่ผ่านมา แล้วรายงานผลการตรวจสอบให้หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติทราบโดยเร็ว
 
                          ข้อ 8 เมื่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติสิ้นสุดลงตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญแล้ว ให้ดำเนินการแต่งตั้งกรรมการตามข้อ 1 ตามกฎหมายว่าด้วยสภาครูและบุคลากรทางการศึกษา และเมื่อได้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว ให้คำสั่งนี้เป็นอันยกเลิก
 
                          ข้อ 9 คำสั่งนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
 
                          สั่ง ณ วันที่ 16 เมษายน พุทธศักราช 2558 พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
 
โดนสื่อแซว 'ตัดผมใหม่-ถอดเหล็กดัดฟัน'
 
 
                          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้ (17 เม.ย.) พลเอกประยุทธ์ มีสีหน้ายิ้มแย้ม ไม่มีอารมณ์ฉุนเฉียว ทั้งในการแถลงผลงานรัฐบาลในรอบ 6 เดือน รวมทั้งให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ภายหลังจากหยุดยาวช่วงสงกรานต์ 5 วัน และผู้สื่อข่าวสังเกตว่า วันนี้ พลเอกประยุทธ์ ไม่ได้ใส่เหล็กครอบฟันในปาก ซึ่งคล้ายกับเหล็กดัดฟันที่ซึ่งผู้สื่อข่าวเคยเห็นว่าใส่เมื่อวันที่ 9 เม.ย.ที่ผ่านมา ในการรดน้ำขอพร จึงถูกผู้สื่อข่าวถามถึงเหล็กดัดฟันว่า วันนี้ไม่เห็นใส่ พล.อ.ประยุทธ์ จึงกล่าวว่า "ฉันไม่ได้ใส่ฟันเพื่อความหล่อ ฉันเคี้ยวอาหารแล้วมันเจ็บเหงือก เพราะเคี้ยวแล้วฟันไม่สบ เลยไปปรึกษาหมอ หมอเลยเอานี่ครอบมาระยะหนึ่ง ก็ทนเจ็บเอา"
 
                          ผู้สื่อข่าวสังเกตอีกว่า ในวันนี้ พลเอกประยุทธ์ เพิ่งตัดผมมาใหม่ จึงแซวว่า วันนี้ตัดผมหล่อ จึงถามว่าตัดร้านไหน มีร้านประจำหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ลูกน้องไปตามช่างมาตัดที่บ้าน ไปไหนไม่ได้ ทำงานแล้วก็กลับบ้าน เมื่อผู้สื่อข่าวกล่าวว่า ทรงนี้ดูดี นายกรัฐมนตรี จึงหันไปบอกนายทหารติดตามว่า "จำไว้นะ ทรงนี้นะเว้ย"
  
 
 
ชี้ 'คาร์บอมบ์สมุย' หวังดิสเครดิตรัฐบาล
 
 
                          พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าเหตุการณ์คาร์บอมบ์ลานจอดรถศูนย์การค้าเซ็นทรัล เฟสติวัส สมุย จ.สุราษฎร์ธานี ว่า ขณะนี้ยังไม่มีข่าวจะมีการก่อเหตุในพื้นที่อื่น อย่าเพิ่งตื่นตระหนก เพราะเจ้าหน้าที่ทำงานอย่างเต็มที่ หน่วยงานด้านความมั่นคง กอ.รมน. พลเรือน ตำรวจ และทหาร จับตาดูอย่างละเอียด ทุกคนที่เกี่ยวข้อง หรือที่เคยเกี่ยวข้อง ก็จับตาดูทั้งหมด ตอนนี้อย่าเพิ่งไปตัดสิน แต่ทั้งหมดขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน ตอนนี้การสืบสวนกำลังคืบหน้าไปมาก ขอเวลานิดหนึ่ง
 
                          "การกระทำครั้งนี้ค่อนข้างซับซ้อน มีการวางแผนไว้ล่วงหน้า ไม่เหมือนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ภาคใต้ ส่วนกรณี อดีต ส.ส.ในพื้นที่ภาคใต้ ออกมาปฏิเสธนั้น เรื่องนี้ยังไม่ได้เอ่ยชื่อใครสักคน จะปฏิเสธทำไม ร้อนตัวกันหรือเปล่า ดังนั้นอย่าไปสร้างความตื่นตระหนก และตัวเองก็อย่าตื่นตระหนก ถ้าไม่ได้ทำ ไม่เห็นจะไปเดือดร้อนอะไรเลย เพราะเรื่องนี้อาจจะเป็นเรื่องการเมืองก็ได้ หรือจะเป็นเรื่องเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ก็ได้ หรืออาจจะเป็นเรื่องการเมือง และเอาเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ดำเนิน ตอนนี้อย่าเพิ่งตัดสิน นักการเมืองมีเป็นร้อยเป็นพัน หรือบอกว่ามีนักการเมืองภาคใต้เข้ามาเกี่ยวข้อง ก็เลยเดือดร้อน"
 
                          พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวเชื่อมั่นว่า เจ้าหน้าที่จะสามารถดำเนินการจับกุมคนร้ายได้หมด เว้นแต่ว่าหลักฐานไม่ครบ ก็จะดำเนินการได้ลำบาก ทั้งนี้การที่คนร้ายไปก่อเหตุในพื้นที่เกาะสมุย เนื่องจากเป็นช่วงของการท่องเที่ยว ไม่ต้องการให้การท่องเที่ยวบูม และต้องการดิสเครดิตรัฐบาล ทั้งนี้ยืนยันว่า ไม่เกี่ยวกับข่าวการย้ายพื้นที่ก่อเหตุ 100 จุด จากพื้นที่ กทม. แต่เรื่องการเมืองสามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ ทั้งนี้การดิสเครดิตรัฐบาลไม่ว่าด้วยสาเหตุอะไร ก็เป็นการดิสเครดิตรัฐบาลทั้งสิ้น ดังนั้นเราจะต้องช่วยกัน และที่ผ่านมา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ก็บอกว่าเต็มที่กับแผนการทำงาน หยุดสงกรานต์ 5 วัน ก็ส่งทีมทหาร ตำรวจ ลงไปทำงาน รวมถึง คสช. และหน่วยข่าวลับ ก็ลงไปหมด
 
                          เมื่อถามว่า ข้อมูลที่มีอยู่ในมือจะสามารถสาวถึงผู้บงการใหญ่ พล.อ.ประยะทธ์ กล่าวว่า ยังไม่ถึงหรอก แต่การดำเนินการจะต้องไปทีละขั้นตอน เท่าที่ทราบเดี๋ยวจะมีคนร้อนตัวออกมาอีก วันนี้ถ้าการสืบสวนเกี่ยวข้องกับใคร หรือเกี่ยวข้องกับคนของใคร ก็ต้องไปดูกัน เมื่อถามย้ำว่า มีการทวีตตอบโต้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นฝีมือกลุ่มการเมืองอำนาจเก่าที่ยังยึดติดกับผลประโยชน์ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เรื่องนี้จะต้องระมัดระวัง เพราะในโซเชียลมีเดีย มีการเถียงกันไปมาว่า ใช่หรือไม่ใช่ ตอนแรกที่จับมาคิดว่าใช่ แต่จากการทดสอบเรื่องคอมพิวเตอร์ว่ารู้แค่ไหน ซึ่งก็ทราบว่า ไม่รู้เรื่อง เพราะกดยังไม่ถูกเลย เปิดเว็บไซต์ยังไม่ถูกเลย ต้องไปดูว่าอยู่ข้างไหน คนของฝ่ายไหน เสื้อไหน
 
                          "เรื่องนี้อย่ามาโทษกันว่าไปโยนความผิดให้ หรือบอกว่าอะไรก็โยนให้ เพราะหลักฐานมันเป็นแบบนั้น จับมาก็มีหลักฐานทั้งสิ้นว่าเป็นฝ่ายไหนมีเสื้อสีนั้นสีนี้ ผมจะไปยัดให้ได้อย่างไร เพราะเป็นบ้านของเขา"
 
 
 
ยังไม่ได้ข้อสรุปทำประชามติหรือไม่
 
 
                          พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์กรณีที่มีหลายฝ่ายออกมาเรียกร้องให้ทำประชามติ ว่า ยังไม่ถึงไหนเลย ถ้าตกลงกันได้ ยอมรับกันได้ว่าต้องเป็นอย่างไร ตัวเองตั้งโจทย์ ทั้งประเทศไปตอบ ที่เป็นคนไทยนะ ต่างชาติที่อยู่ประเทศไทยด้วย เขาก็รักประเทศไทยนะ ไปดูสิ คนที่อยู่มานานก็บอกว่าประเทศไทยต้องปฏิรูป เขาอยากมีความสุข วันนี้สงบสุข เขาพอใจ เว้นแต่คนไทยเอง ไม่พอใจ อาจจะเป็นคนที่มีปัญหา
 
                          "ฉะนั้นวันนี้ผมถามกลับไปว่า ถ้ารัฐธรรมนูญผ่านได้ ยอมรับกัน แล้วประชามติหรือไม่ทำประชามติ ประเด็นสำคัญก็คือว่า ถ้าผ่านมา หรือเขียนรัฐธรรมนูญแบบเดิมๆ มันแก้ปัญหาได้ไหม ปฏิรูปได้ไหม รัฐบาลกี่รัฐบาลแล้วที่เขาจะปฏิรูป ทำได้ไหม แล้วผมเข้ามาใช้อำนาจเนี่ย มันต้องได้ แต่ต้องได้รับการยอมรับจากพวกเรา ต้องช่วยเราสิ ถ้าอยากมีอนาคตที่มั่งคั่ง มั่นคง ยั่งยืน ก็ต้องทำใหม่ การทุจริต ผิดกฎหมายก็ว่ามา มันสำคัญอยู่ที่ว่าเรื่องอะไรบ้างที่จะต้องปฏิรูป ใช้ระยะเวลาเท่าไหร่ ใครจะเป็นคนทำ ทำอย่างไร ใช้กฎหมายอะไร และใครจะอำนวยการตรงนี้ แต่ถ้าเลือกตั้งมามันเป็นพรรคการเมืองมันก็ตกหมด ก็เหมือนเดิม ผมก็ไม่รู้จะทำยังไง"
 
                          ผู้สื่อข่าวถามว่า ประชาชนจะมีช่องทางการสื่อสารโดยตรงต่อรัฐบาลได้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็ไปทำโพลล์มาสิ มัวแต่ทำอะไรมาก็ไม่รู้ ไม่ชอบนายกฯ ตรงไหน เสียงดัง ดุ ตั้งแบบนี้ไม่มีสาระเลย ได้อะไรขึ้นมา จะดุน้อยลงหรืออารมณ์ดีมากขึ้น ก็เป็นอย่างนี้ล่ะ มันต้องตั้งคำถามให้ดี ถ้าตั้งคำถามว่าอยากเลือกตั้งหรือไม่ ไม่ได้ ต้องถามว่าควรจะปฏิรูปหรือไม่
 
                          ต่อข้อถามว่า รัฐบาลจะทำโพลล์เองหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ทำ ทำแล้วเดี๋ยวหาว่าอยากอยู่ในอำนาจ
   
 
 
 
รายชื่อ ขรก.เอี่ยวทุจริตถึงมือแล้ว
 
 
                          เมื่อเวลา 13.45 น. ภายหลังการแถลงผลงานรัฐบาลในรอบ 6 เดือนเสร็จสิ้น พล.อ.ประยุทธ์ ได้รับประทานอาหารกลางวันที่ห้องสีฟ้า ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ได้เชิญ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) พร้อมด้วยนายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการคณะป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ในฐานะฝ่ายเลขาฯ ของ ศอตช.เข้าพบ โดยมีการนำแฟ้มประชุมของ ศอตช.ไปหารือ โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที
 
                          จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ว่า มาคุยกันเรื่องกฎหมาย อยากให้ดูเรื่องกระบวนการตรวจสอบความโปร่งใส ที่จะต้องมีการคุยกับ สนช. หรือ สปช.บ้าง และบางอย่างก็ยังอยู่ใน คสช. ส่วนกรณี 100 กว่ารายชื่อของข้าราชการที่ ศอตช.ส่งมาให้ดำเนินการนั้น รายชื่อมาถึงนานแล้ว แต่ไม่ต้องเรียกประชุมอะไรอีก เพราะบอกไปว่าทุกอย่างต้องเป็นไปตามกระบวนการตามกฎหมาย ก็ต้องสอบสวน ดำเนินคดี
 
                          "ตอนนี้เริ่มไปแล้ว ผมก็ต้องเรียกต้นสังกัดเขามา แล้วก็ส่งรายชื่อให้เขาไปดำเนินการ มี 2 อย่าง คือ 1. เรื่องอำนาจในการบริหาร ถ้าถูกกล่าวหา มีมูลก็ต้องหยุดการปฏิบัติหน้าที่ตรงนั้น แต่ถือว่ายังไม่มีความผิดนะ แต่เพื่อสอบสวน ถ้ามันผิดก็ไปว่ากันในคดีอาญาต่อ ขั้นตอนมีอย่างนี้ และได้ให้นโยบายรัฐมนตรีไปแล้ว เดี๋ยวส่งรายชื่อให้รัฐมนตรี เขาก็จะพิจารณา ทั้งหมดกี่คนไม่รู้ แต่ต้องชี้แจงได้ว่าทำอะไร ไม่จำเป็นต้องใช้มาตรา 44 เลย"
 
                          เมื่อถามว่า ใน 100 กว่ารายชื่อ เป็นข้าราชการที่มีชื่อเสียงหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็ต้องรู้จักละมั้ง ถ้าไม่รู้จักมันจะมาจากไหน เมื่อถามว่า เป็นข้าราชการระดับไหนบ้าง พล.อ.ประยุทธ์ ยืนนิ่งไม่ตอบคำถาม เมื่อถามว่า กระทรวงไหนมากที่สุด นายกฯ ตอบว่า ไม่รู้ๆ พอแล้วๆ แต่อะไรที่เป็นเรื่องของฝ่ายบริหาร ขอให้เชื่อมั่น เพราะไม่ได้อะไรเลยสักอย่าง โดนตำหนิ โดนว่า โดนอะไรต่างๆ ก็ต้องอดทน เพราะถ้าปล่อยไป มันไม่ได้ ถ้าเราไม่อยู่ จะเกิดอะไรขึ้นก็ไม่รู้ วันหน้าเกิดอะไรขึ้น ก็ไม่มีใครแก้ไข
 
                          เมื่อถามว่า จะเรียกต้นสังกัดไหนมาก่อน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า รัฐมนตรีเขาเรียกมาหมดแล้ว ให้นโยบายไปหมดแล้ว และจะส่งรายชื่อให้เขา เขาก็พิจารณาว่า เขาจะทำยังไง แต่ต้องทำตามนี้ ทั้งหมดกี่คนไม่รู้ แต่ต้องชี้แจงได้ว่าทำอะไร กฎหมายมีไม่เห็นต้องใช้มาตรา 44 เลยนี่
 
                          เมื่อถามว่า รายชื่อระดับปลัดกระทรวง เยอะหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ย้อนถามว่า ปลัดกระทรวงมีกี่คน ผู้สื่อข่าวตอบว่า 20 คน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ไม่ถึงมั้ง นิดหน่อยเอง เมื่อถามว่าถึง 5 คนหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่ถึงหรอก แต่ทั้งนี้เขายังไม่ผิด เดี๋ยวเขาจะมาฟ้อง เพราะว่าเป็นคำกล่าวหา และมีหลักฐานพอสมควร มีมูล ก็ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ ก็ไปว่ากัน มีขั้นตอนในการดำเนินการ ไม่ใช่ว่าไปชี้ว่าผิดแล้วจะจับประหารชีวิต ได้ไหมล่ะ
 
 
 
 
ถามทำประโยชน์อะไรให้ชาติ
 
 
                           พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวในรายการ “คืนความสุขให้คนในชาติ” ตอนหนึ่งถึงบุคคลตัวอย่าง ที่รู้จักในนาม “มนุษย์เพนกวิน” หรือ นายเอกชัย วรรณแก้ว ว่า เป็นตัวอย่างของการไม่ยอมแพ้ สู้ชีวิต คิดบวก และที่สำคัญคือ การไม่ทำตนให้เป็นภาระสังคม แต่กลับสร้างสรรค์สังคมประเทศชาติให้งดงามในขีดความสามารถและข้อจำกัดด้านร่างกาย แม้ไร้แขนทั้งสองข้าง แต่กลับสร้างสรรค์ผลงานศิลปะได้อย่างยอดเยี่ยม เมื่อ 3 ปี ที่ผ่านมา จบปริญญาตรีคณะจิตรกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ วิทยาเขตเพาะช่าง จากนั้นก็อาศัยวิชาชีพออกไปวาดรูปตามงานต่างๆ ได้รายได้มาช่วยปลดหนี้ ธ.ก.ส.ให้แม่ ปลูกบ้านหลังใหม่ให้ครอบครัว และส่งเงินให้แม่ทุกเดือน อยากทวงถามสำนึกความเป็นคนไทยว่า "มือของพวกคุณ ทำอะไรให้ประเทศดีขึ้นบ้าง” เปรียบเทียบกับบุคคลผู้นี้
 
                           "หวังว่าจะเป็นคติสร้างความตระหนักและเรียกร้องให้พี่น้องทุกท่านกลับมาสำรวจความพร้อม สำรวจว่า วันนี้เราได้ทำอะไรที่เป็นประโยชน์เพื่อประเทศชาติ หรือส่วนรวมหรือยัง โดยเฉพาะกับผู้ที่ยังหลงผิด ไม่หวังดีต่อประเทศชาติ คอยบ่อนทำลาย สร้างสถานการณ์ ประสงค์ร้าย ต้องการให้กลับไปสู่ความขัดแย้งเหมือนที่ผ่านมา ด้วยเหตุผลใดก็ตาม ขอให้หันกลับมาใช้ศักยภาพในทางสร้างสรรค์พัฒนาปฏิรูปประเทศ ขอให้ความร่วมมือกับทางการ ยุติความขัดแย้ง"
 
 
 
'หม่อมอุ๋ย' แจงแนวโน้ม ศก.ดีขึ้น
 
 
                           ด้าน ม.ร.ว.ปรีดียาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ กล่าวในรายการ "คืนความสุขให้คนในชาติ" ถึงเศรษฐกิจของไทยว่า แม้การส่งออกไม่ขยายตัวเพราะโลกชะลอตัวลง ใน 2 เดือนแรกเศรษฐกิจประเทศจีนซื้อสินค้าจากเราลดลงถึง 11% เศรษฐกิจจากยุโรปก็ซื้อสินค้าลดลงจากเราญี่ปุ่นก็ซื้อสินค้าลดลง อาเซียนก็ลดลงด้วย คงยังมีอเมริกาที่ยังเพิ่มขึ้นได้ เชื่อว่าพอถึงไตรมาสถัดไป เนื่องจากจีนได้กระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการลดดอกเบี้ยมา 2 ครั้งแล้ว และเนื่องจากยุโรปได้กระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการใส่เงินที่เรียกมาตรการ คิวอี ใส่เงินในระบบมา 3 เดือนติดต่อกันแล้ว เชื่อว่าทั้งสองเศรษฐกิจจะกลับมาซื้อเราเพิ่มขึ้น
 
                           โดยภาพรวมแล้ว ยอดการส่งออกคงไม่น่าจะลดลงอีกต่อไป หากการส่งออกไม่ลดลงอีกต่อไป แล้วปัจจัยอื่นๆ เช่น การลงทุนภาคเอกชนก็ดี การลงทุนภาครัฐก็ดี ยังขยายตัวต่อไปและการท่องเที่ยวก็น่าจะขยายตัวต่อไป เนื่องจากมีแรงส่งจากนักท่องเที่ยวจากยุโรป อเมริกา อันเนื่องจากการที่ยกเลิกกฎอัยการศึกไปแล้ว สิ่งเหล่านี้ทำให้เชื่อได้ว่า เศรษฐกิจในไตรมาส 2 และไตรมาส 3 ของปีนี้ น่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้นจากที่เป็นอยู่ 
 
                           ด้าน นายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช รมว.อุตสาหกรรม กล่าวในรายการเดียวกันว่า ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ปีที่แล้ว จนถึงเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา มีการขยายตัวภาคการผลิตด้านอุตสาหกรรมมากพอสมควร มีโครงการที่มายื่นขอ รง.4 หรือโรงงาน 4 ถึง 5,000 แห่ง เป็นเงินลงทุนประมาณ 5.5แสนล้านบาท มีคนงานประมาณ 2 แสนคน และมีโรงงาน 3,500 แห่ง ที่มาแจ้งเปิดกิจการดำเนินงานเลย มีการลงทุน 3.5 แสนล้านบาท และจ้างงานทั้งสิ้น 1.3 แสนคน รวมทั้งโครงการนิคมอุตสาหกรรมส่วนใหญ่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน รวมมียอดลงทุนทั้งหมด 4 แสนล้านบาท ส่วนการส่งออกรถยนต์ในเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ มากกว่าปีก่อนช่วงเดียวกัน 3% 
 
                           จากนั้น นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รมว.เกษตรและสหกรณ์ ชี้แจงถึงแนวทางการช่วยเหลือเกษตรกรทั้งผลผลิตเรื่องข้าวและยางพารา ตลอดจนการแปรรูปผลผลิตเพื่อเพิ่มรายได้ และมาตรการช่วยเหลือบริเวณที่มีภัยแล้งซ้ำซาก โดยใช้เงินเข้าไปในตำบลต่างๆ 3,051 ตำบล เพื่อให้เกษตรกรได้ดำเนินอาชีพทั้งในส่วนการปรับปรุงพื้นที่ การปรับปรุงอาชีพ การปรับปรุงผลิตภัณฑ์

ที่มา ; เว็บ นสพ.คม ชัด ลึก

โดย www.tuewsob.com  

อัพเดทเรื่องราว - ข้อสอบใหม่ ๆ 
เข้าห้องสอบออนไลน์ ( ฟรี)
เน็ตช้า ... คลิ๊กที่  http://tuewsob.blogspot.com
ห้องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
... ห้องเตรียมสอบผู้บริหาร + การศึกษาพิเศษ
... ห้อง เตรียมสอบ (กรณีศึกษา) 
ห้อง ... เตรียมสอบครูผู้ช่วย วิชาทั่วไป  ห้อง 1  คลิ๊กที่ http://tuewsobkruthailand.blogspot.com
ห้อง ... เตรียมสอบครูผู้ช่วย วิชาเอก  ห้อง 2  คลิ๊กที่ http://tuewsob2011.blogspot.com

   คลิ๊ก ) สมัครพัฒนาความรู้
เตรียมสอบครูผู้ช่วย 5 ภาค ปี 2558 

ฟรี... ห้องเตรียมสอบ-ครูผู้ช่วย
-ผู้บริหาร-บุคลากรการศึกษา  ที่ 

" ติวสอบดอทคอม "  เว็บฟรีข้อสอบออนไลน์
(เตรียมสอบครู-ผู้บริหาร-บุคลากร การศึกษา)  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

พัฒนาความรู้ครูผู้ช่วย 4 ภาค

พัฒนาความรู้ครูผู้ช่วย 4 ภาค
พัฒนาความรู้ครูผู้ช่วย 4 ภาค

ห้องสนทนา บน facebook

ห้องสนทนา บน facebook
ห้องสนทนาติวสอบดอทคอม

ข้อสอบออนไลน์ "ติวสอบดอทคอม" ชุดใหม่

คู่มือเตรียมสอบผู้บริหาร ภาค ก ข ค

แจ้งย้ายเว็บไปที่ www.tuewsob.com

คู่มือเตรียมสอบผู้บริหาร ภาค ก ข ค (ปรับปรุงใหม่)

รวม เล่ม + แผ่นพับ + ชีตช่วยจำ + DVD เนื้อหา + เสียงบรรยาย + EMS = 800 บาท
สนใจ คู่มือ ภาค ก ข ค ผู้บริหาร คลิ๊กเลย

สั่งจอง... โอนเงินเข้าชื่อบัญชี นายนิกร เพ็งลี ธนาคารกรุงไทย สาขาจอหอ บัญชีเลขที่ 341-1-38912-5 โอนเงินแล้วกรุณาโทรแจ้ง
0872494141 หรือ 0839660030

คู่มือ เตรียมสอบผู้บริหาร

คู่มือ เตรียมสอบผู้บริหาร
คู่มือ เตรียมสอบผู้บริหาร

ติวสอบออนไลน์ บน facebook

ติวสอบออนไลน์ บน facebook
ติวสอบออนไลน์ บน facebook

คลังหนังสือ ติวสอบดอทคอม

คลังหนังสือ ติวสอบดอทคอม
คลังหนังสือ ติวสอบดอทคอม

ติวสอบดอทคอม

ติวสอบดอทคอม
ติวสอบดอทคอม