17มี.ค.2559 จากกรณีอุบัติเหตุสยองขวัญ นายเจนภพ วีรพร ขับรถเก๋งยี่ห้อเบนซ์ สีดำ ทะเบียน ษง 3333 กรุงเทพมหานคร ชนกับรถเก๋งยี่ห้อฟอร์ด จนไฟลุกท่วม ทำให้ นายกฤษณะ ถาวร และ น.ส.ธันฐภัทร์ ฮ้อแสงชัย หรือเบนซ์ ทายาทเจ้าของมหาวิทยาลัยชื่อดัง นิสิตาปริญญาโท สาขาวิชาสันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร) เสียชีวิตทั้งคู่ บนถนนพหลโยธินมุ่งหน้าสระบุรี ต.เชียงรากน้อย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 13 มีนาคม ที่ผ่านมา
พระมหาหรรษา ธมฺมหาโส ผู้อำนวยการหลักสูตรปริญญาโท และปริญญาเอก สาขาสันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร) โพสต์เฟซบุ๊ก เพจHansa Dhammahaso ระบุว่า หลักสูตรปริญญาโทและเอก สาขาสันติศึกษา มหาจุฬาฯ และครอบครัวถาวร รวมถึงครอบครัวฮ้อแสงชัย รู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานเพลิงศพ “นายกฤษณะ ถาวร และนางสาวธันฐภัทร์ ฮ้อแสงชัย” เป็นกรณีพิเศษ จึงขอเชิญญาติธรรมร่วมงานพระราชทานเพลิงศพตามวัน เวลาที่กำหนดไว้ด้วย
ขณะที่ศาลาการเปรียญ วัดวันยาวบน อ.ขลุง จ.จันทบุรี ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพ นายกฤษณะ ถาวร หรือ โต้ง อายุ 32 ปี นิสิตปริญญาโท สาขาสันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร) เหยื่อรถเบนซ์มรณะที่ จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่13มี.ค.ที่ผ่านมา โดยบรรยากาศภายในวัดมีญาติ พี่น้อง ตลอดคนรู้จัก เดินทางมาเคารพศพ พร้อมทั้งนำพวงหรีดมาร่วมแสดงความเสียใจเป็นจำนวนมาก
นางนงครัตน์ รุ่งแสง อายุ 29 ปีน้องสาวของนายกฤษณะยังอยู่ในอาการเศร้ากับการจากไปของพี่ชาย กล่าวความคืบหน้าของคดีว่า ยังมีความเชื่อว่า ความยุติธรรมยังมีอยู่จริงในสังคม และยังมีความหวังว่า ตำรวจไทยจะสามารถเป็นที่พึ่งพิงให้กับประชาชนได้ แต่หลังจากนี้สังคมได้จับตามอง โดยเฉพาะในโลกโซเชียล หรือตามสื่อต่างๆ ที่คาดว่าการทำงานของตำรวจจะมีความตรงไปตรงมา ชัดเจน ทั้งฝ่ายผู้สูญเสีย กับคู่กรณี ซึ่งตนเองได้ตั้งเป้า ถึงความยุติธรรม และตรงไปตรงมา ซึ่งจนถึงขณะนี้ ทางครอบครัว ยังไม่ได้รับการติดต่อประสานจากตำรวจถึงความคืบหน้าเรื่องของคดีแต่อย่างใด
“ล่าสุด ทางครอบครัวจึงได้ตั้ง ทนายความ ให้เร่งรัดติดตามคดี อย่างต่อเนื่อง โดยยืนยันพร้อมสู้คดีให้ถึงที่สุด ” นางนงครัตน์ กล่าวและว่า
ส่วนของครอบครัว ถาวร ล่าสุด นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณ เป็นล้นพ้น ที่ในหลวง โปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานเพลิงศพ ให้กับพี่ชาย เป็นกรณีพิเศษ เนื่องจากครอบครัวไม่ได้รับราชการ แต่นายกฤษณะขณะยังมีชีวิตได้อุทิศตนทำและช่วยงานเพื่อการกุศลมาโดยตลอด โดยในวันเสาร์ที่ 19 มี.ค. ตั้งแต่เวลา13.00น.เป็นต้นไป จะมีพิธีพระราชทานเพลิงศพ จึงขอเชิญญาติ ร่วมงานพระราชทานเพลิงศพตามวันเวลา และสถานที่ดังกล่าวโดยพร้อมเพรียงกัน
ช่วงเย็นวันเดียวกัน พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร. เดินทางมายัง สภ.พระอินทร์ราชา เพื่อให้แนวทางและติดตามความคืบหน้าคดี ตามคำสั่งของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. โดยบอกว่า เนื่องจากคดีเป็นที่สนใจและติดตามของประชาชน จึงให้โอนการทำสำนวนคดีต่างๆ ไปให้ทีมสอบสวนของกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ดำเนินการต่อ โดยมี พ.ต.อ.สุรินทร์ ทับพันบุบผา รองผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา เป็นประธานการสอบสวนดำเนินคดีนี้
พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ยังมีคำสั่งให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงว่า วันเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบพยานหลักฐานรัดกุม และเป็นไปตามกระบวนการหรือไม่ โดยเฉพาะเรื่องการตรวจสารเสพติดหรือแอลกอฮอล์ ซึ่งเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก โดยมอบหมายให้ พ.ต.อ.ภูวดิท ชนะคชภัทร์ รอง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา เป็นประธานการสอบสวน หากพบว่า มีความบกพร่อง เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะถูกดำเนินการทางวินัยโดยเด็ดขาด พ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น