หน้าหลัก ติวสอบดอทคอม เว็บฟรีข้อสอบออนไลน์

หน้าหลัก ติวสอบดอทคอม เว็บฟรีข้อสอบออนไลน์
หน้าหลัก ติวสอบดอทคอม เว็บฟรีข้อสอบออนไลน์

พัฒนาความรู้ สู่ รอง./ผอ.รร. ปี 2566

พัฒนาความรู้ สู่ รอง./ผอ.รร. ปี 2566
พัฒนาความรู้ สู่ รอง./ผอ.รร. ปี 2566

คลิ๊ก "สมัครพัฒนาความรู้สู่ผู้บริหาร / ครูผู้ช่วย

คลิ๊ก... สมัคร พัฒนาความรู้ สู่ ครูผู้ช่วย
คลิ๊ก... สมัคร พัฒนาความรู้ สู่ ผู้บริหาร

ติวสอบดอทคอม (เตรียมสอบครูผู้ช่วย-ผู้บริหาร-บุคลากร การศึกษา)

ติวสอบดอทคอม (เตรียมสอบครูผู้ช่วย-ผู้บริหาร-บุคลากร การศึกษา)
ติวสอบดอทคอม (เว็บฟรีข้อสอบออนไลน์ สอบครู ผู้บริหาร บุคลากร)

วันจันทร์ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2556

ประชุมผู้บริหารองค์กรหลัก


ติวสอบออนไลน์ ชุด นโยบายรัฐบาล


ลิงค์ข้อสอบ  ที่เกี่ยวข้องกับ  "นโยบายรัฐบาล"  โดย ติวสอบดอทคอม

คลิ๊ก )  สมัครติวสอบครูผู้ช่วย รอบ 2 ปี 56-57 (10 จุด) ที่


ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี 429/2556ประชุมผู้บริหารองค์กรหลัก
 ศึกษาธิการ - นายจาตุรนต์ ฉายแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานการประชุมผู้บริหารองค์กรหลักของกระทรวงศึกษาธิการ  เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2556 ณ ห้องประชุมจันทรเกษม โดยมีประเด็นสำคัญสรุปดังนี้
  •  รับทราบความก้าวหน้าการขับเคลื่อนการปฏิรูปการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้รายงานผลให้ที่ประชุมรับทราบถึงการจัดเสวนาเพื่อประกาศและขับเคลื่อนนโยบายปฏิรูปการเรียนการสอนภาษาอังกฤษสู่การปฏิบัติ เมื่อวันเสาร์ที่ ธันวาคม 2556 ซึ่งได้ประกาศยุทธศาสตร์การปฏิรูปการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ ระยะ ปี (พ.ศ.2551-2556) รวม 7 ด้าน คือ ปรับวิธีเรียนเปลี่ยนวิธีสอน พัฒนาครู  ส่งเสริมการใช้ ICT และพัฒนานวัตกรรมการเรียนการสอน ขยายโครงการพิเศษ สอบวัดระดับความรู้ความสามารถภาษาอังกฤษตามมาตรฐานสากล เพิ่มเวลาเรียน และจัดกลไกขับเคลื่อนที่เข้มงวดและคอยช่วยเหลือสนับสนุน (อ่านรายละเอียดเพิ่มในข่าวที่ 422)
 โดยได้กำหนดให้กรอบมาตรฐานความสามารถทางภาษาอังกฤษเพื่อวัดความรู้ความสามารถครูและนักเรียน (CEFRCommon European Framework of Reference for Languages) ซึ่งเป็นกรอบมาตรฐานสากล นำมาใช้เป็นกรอบความคิดหลักในการออกแบบ การจัดการเรียนการสอน และการปฏิรูปการเรียนการสอนภาษาอังกฤษในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยจะเสนอให้ รมว.ศธ.ลงนามในประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง การขับเคลื่อนการปฏิรูปการเรียนการสอนภาษาอังกฤษในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อดำเนินการต่อไป
รมว.ศธ.ได้ขอให้ สพฐ.รับความเห็นจากที่ประชุมไปปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติมในรายละเอียดตามประกาศต่อไปด้วย เช่น
CEFR จะส่งผลให้ระบบการทดสอบวัดผลภาษาอังกฤษต้องเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย แต่ในช่วงระยะแรกของการเปลี่ยนแปลง จะต้องให้ครูและนักเรียนได้ปรับตัวระยะหนึ่งก่อน โดยให้หารือถึงระบบการทดสอบร่วมกับสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติฯ (สทศ.) ด้วย
CEFR ถือเป็นจุดเด่นที่มีความยืดหยุ่น ซึ่ง สพฐ.จะมีส่วนสำคัญต่อการสนับสนุนโดยตรงลงไปจนถึงระดับสถานศึกษา
ในการขับเคลื่อนการปฏิรูปการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ อาจกำหนดเป้าหมายเชิงนโยบายไว้ด้วย
- ควรสนับสนุนให้มีการเข้าค่ายอบรมแบบเข้ม 2-4 สัปดาห์
- น้ำหนักสำคัญของการขับเคลื่อน
การปฏิรูปการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ คือ การพัฒนาครูผู้สอน
- เน้นให้จัดการเรียนการสอนที่สอดคล้องกับสภาพผู้เรียน
- การกำหนดรายละเอียดในประกาศดังกล่าว ต้องให้เข้าใจได้และดำเนินการได้จริง
ฯลฯ
 
  • รับทราบความก้าวหน้าในการจัดการเรียนการสอนภาษาจีน
สพฐ.ได้รายงานให้ที่ประชุมรับทราบความก้าวหน้าในการจัดการเรียนการสอนภาษาจีนในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ซึ่งมีสถานศึกษาทุกสังกัดที่สอนภาษาจีนในประเทศจำนวนทั้งสิ้น 1,524 โรงเรียน แยกเป็น สพฐ. 769 โรง, สถานศึกษาเอกชน 500 โรง, สถานศึกษาอาชีวศึกษา 155 โรง และโรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) 100 โรง มีจำนวนนักเรียนทั้งหมดที่เรียนภาษาจีน 863,056 คน และมีครูผู้สอนภาษาจีน สพฐ. 1,487คน แยกเป็นครูชาวไทย 600 คน (จบเอกภาษาจีน 500 คน) และครูชาวจีน 887 คน
ปัจจุบัน สพฐ.มีศูนย์เครือข่ายการเรียนการสอนภาษาจีน 42 ศูนย์ทั่วประเทศ และมีห้องเรียนขงจื่อในโรงเรียนศูนย์เครือข่าย โรง คือ รร.ไตรมิตรวิทยาลัย, สวนกุหลาบวิทยาลัย, นวมินทราชินูทิศ หอวัง นนทบุรี, ระยองวิทยาคม, ลำปางกัลยาณี และภูเก็ตวิทยาลัย
 สภาพจัดการเรียนการสอนในโรงเรียนประถมศึกษาและมัธยมศึกษาตอนต้น เปิดสอนเป็นกลุ่มสาระเพิ่มเติม ประมาณ 1-2 คาบต่อสัปดาห์ ส่วนมัธยมศึกษาตอนปลาย เปิดสอนทั้งกลุ่มสาระเพิ่มเติม และแผนสายศิลป์-ภาษา ส่วนการวัดและประเมินผลการเรียนรู้นั้น แต่ละโรงเรียนเป็นผู้วัดและประเมินผลเอง แต่มีบางแห่งที่ใช้ข้อสอบมาตรฐานภาษาจีน HSK (Hanyu Shuiping Kaqshi) และ YCT (Youth Chinese Test) เป็นเกณฑ์ในการวัดความรู้นักเรียน
ทั้งนี้ สพฐ.ได้กำหนดแผนพัฒนาการเรียนการสอนภาษาจีน ออกเป็น มาตรการสำคัญ คือ
มาตรการที่ การจัดการเรียนการสอน มาตรการที่ 2 การพัฒนาหลักสูตร มาตรการที่ 3 การพัฒนาสื่อ มาตรการที่ 4 การวัดและประเมินผล มาตรการที่ 5 การพัฒนาครู มาตรการที่ 6 การเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน
  
  • รับทราบความก้าวหน้าในการขับเคลื่อนนโยบายการวัดและการประเมินผล
สทศ.ได้รายงานให้ที่ประชุมรับทราบการขับเคลื่อนนโยบายการวัดและการประเมินผล ที่ สทศ.ได้กำหนดให้มีการส่งเสริมให้เกิดการเชื่อมโยงทุกระดับการศึกษา มีการพัฒนาสมรรถนะครูในด้านการวัดและการประเมินผล มีการจัดทำคลังข้อสอบ (O-Net Item Bank) /พัฒนาระบบการทดสอบ e-Testing ที่สอดคล้องกับระบบการวัดและประเมินผลอื่นๆ เช่น PISA นอกจากนี้ สทศ.ได้ส่งเสริมให้มีการนำผลสอบ O-Net ไปใช้ในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาและเป็นส่วนสำคัญของการสำเร็จการศึกษา (Exit Examination) รวมทั้งการตั้งศูนย์เครือข่าย สทศ. แห่ง กระจายตามภูมิภาคต่างๆ ของประเทศ
  
  • ความก้าวหน้าการปรับระบบการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาต่อในสถาบันอุดมศึกษา
สกอ.ได้รายงานให้ที่ประชุมรับทราบ (อ่านรายละเอียดเพิ่มในข่าวที่ 395) แนวทางการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษา ซึ่งในปีการศึกษา2557 ได้ขอความร่วมมือให้มหาวิทยาลัยจัดสอบในระบบรับตรง ภายหลังจากที่นักเรียนได้เรียนจบการศึกษาแล้ว แต่หากมหาวิทยาลัยใดดำเนินการรับนักศึกษาไปแล้วก็ให้ชี้แจงเหตุผล และความจำเป็นของการคัดเลือกที่ดำเนินการไปก่อนหน้านี้ ส่วนปีการศึกษา 2558 เป็นต้นไป ขอให้ทุกมหาวิทยาลัยเปิดสอบภายหลังจากนักเรียนเรียนจบการศึกษาแล้ว เพื่อเด็กจะได้ไม่ทิ้งห้องเรียน โดยใช้ระบบการทดสอบกลางผ่าน Clearing House ยกเว้นบางมหาวิทยาลัยที่ต้องการใช้ข้อสอบในสาขาวิชาเฉพาะ เช่น ศิลปะ ก็จะให้มีการจัดกลุ่มข้อสอบ ที่มหาวิทยาลัยสามารถนำไปสอบด้วยกันได้
  • การทบทวนมาตรฐานการศึกษาของชาติ
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) ได้รายงานให้ที่ประชุมรับทราบถึงการทบทวนมาตรฐานการศึกษาของชาติ ที่จะต้องปรับปรุงให้ทันสมัยเหมาะสมกับสภาพการณ์ปัจจุบัน รวมทั้งเพื่อให้การศึกษามุ่งเน้นโดยยึดผู้เรียนเป็นสำคัญ และสอดคล้องกับแผนการศึกษาเพื่อพัฒนาคนตลอดช่วงชีวิต ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลที่ได้แบ่งการพัฒนาคนเป็น ช่วง ตามช่วงวัยของชีวิต คือ เด็กปฐมวัย 0-5 ปี, เด็กในวัยเรียน 5-14 ปี, วัยรุ่น/นักศึกษา 15-21ปี, แรงงาน 15-59 ปี, ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป
  
 
 ภาพ สถาพร ถาวรสุข
  • หลักเกณฑ์การบริหารงานบุคคล
สำนักงาน ก.ค.ศ.ได้รายงานให้ที่ประชุมรับทราบว่า คณะกรรมการใน ก.ค.ศ.ที่เป็นผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่ง รมว.ศธ.แต่งตั้งจำนวน 9 คน รวมทั้งผู้แทนครู 13 คน รวมทั้งสิ้น 22 คน จะหมดวาระลงในเดือนมกราคม 2557 ซึ่งสำนักงาน ก.ค.ศ.จะนำเสนอรายละเอียดในที่ประชุม ก.ค.ศ.วันที่ 20 ธันวาคม 2556 เกี่ยวกับหลักเกณฑ์การได้มาของคณะกรรมการ และปฏิทินการดำเนินงาน
นอกจากนี้ การกำหนดอัตราตำแหน่งให้สูงขึ้นของบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค.(2ในเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา/มัธยมศึกษาทั่วประเทศ ที่จะปรับปรุงให้มีความก้าวหน้าจนถึงระดับชำนาญการพิเศษ จำนวน 1,163 คนนั้น ทางสำนักงาน ก.ค.ศ.กำลังจัดทำหลักเกณฑ์เงื่อนไขในการประเมินค่างานตามที่ ก.ค.ศ.กำหนด โดยจะนำเสนอ อ.ก.ค.ศ.วิสามัญพิจารณา ก่อนที่จะประกาศใช้ต่อไป

ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี ศธ.


กพฐ.เปิดรับสมัครสอบครูผู้ช่วย 9-15 ธ.ค.นี้
 จัดสรรงบประมาณ 4,700 อัตรา ด้าน ผอ-รอง ผอ.แบ่งสอบ 2 กลุ่ม คาดเปิดสอบ 60 ตำแหน่ง ระบุหากเคยเป็นหัวหน้าการประถมศึกษาไม่น้อยกว่า 5 ปี พิจารณาเป็นพิเศษ
กพฐ.ประกาศเปิดรับสมัครครูผู้ช่วย 9-15 ธ.ค.นี้ กว่า 4,700 อัตรา
ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต
       วันนี้ (26 พ.ย.)นายอภิชาติ จีระวุฒิ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้จัดทำร่างปฏิทินการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วยครั้งที่ 2 ปี พ.ศ.2556 เสร็จแล้ว และอยู่ระหว่างการเสนอคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) ระบบที่ทำหน้าที่แทนคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ซึ่งในปฏิทินจะมีการประกาศการรับสมัครวันที่ 9-15 ธ.ค.กำหนดการรับสมัครสอบแข่งขันระหว่างวันที่ 16-22 ธ.ค.ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิสอบคัดเลือกวันที่ 17 ม.ค.57 สอบคัดเลือกวันที่ 25-27 ม.ค.57 และคาดว่าจะประกาศผลสอบในเดือน ก.พ.57 โดยการสอบแข่งขันครั้งนี้จะให้คณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) เขตพื้นที่การศึกษาเป็นผู้ดำเนินการทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการสอบคัดเลือก การออกข้อสอบ การตรวจกระดาษคำตอบ การขึ้นบัญชีผู้สอบคัดเลือกได้ ทั้งนี้ในการสอบคัดเลือกจะมีการสอบภาค ก ภาค ข และการสอบภาค ค หรือการสอบสัมภาษณ์เพิ่มขึ้นมาจากการสอบครั้งที่ผ่านมาที่ได้ถูกยกเลิกไป ทั้งนี้สำหรับอัตราที่จะสอบบรรจุในคราวนี้อยู่ระหว่างการสำรวจจากเขตพื้นที่การศึกษาที่จะเปิดสอบแข่งขัน จึงจะทราบอัตราที่จะสอบบรรจุที่แท้จริง โดยขณะนี้มีอัตราที่ได้รับจัดสรรมาประมาณ 4,700 อัตรา แต่จะต้องจัดสรรอัตรา 25%ไปให้ในการสอบคัดเลือกครูกรณีที่มีความจำเป็น หรือเหตุพิเศษ ว12 ด้วย

       เลขาธิการ กพฐ.กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ สพฐ.ยังเตรียมการที่จะสอบคัดเลือกผู้บริหารสถานศึกษาสังกัด สพฐ.ในตำแหน่งรองผู้อำนวยการสถานศึกษา และผู้อำนวยการสถานศึกษา โดยจะแบ่งการสอบคัดเลือกออกเป็น กลุ่มทั่วไป และกลุ่มประสบการณ์ ซึ่ง สพฐ.ได้ขอแก้ไขหลักเกณฑ์ไปยัง ก.ค.ศ.เพื่อให้ปรับข้อสอบใหม่ให้มีเนื้อหาที่ชัดเจน มีความทันสมัยจะได้ไม่มีการได้เปรียบเสียเปรียบกัน อีกทั้งจะต้องมีการประกาศให้ทราบเรื่องนี้ล่วงหน้านานๆ ส่วนการขึ้นบัญชีผู้สอบคัดเลือกได้จะให้มีการขึ้นบัญชีเป็นรายเขตพื้นที่การศึกษา ทั้งนี้ก่อนจะสอบคัดเลือกดังกล่าว สพฐ.จะเรียกผู้ที่สอบขึ้นบัญชีรองผู้อำนวยการสถานศึกษาและผู้อำนวยการสถานศึกษาในปี 2555 มาบรรจุแต่งตั้งในตำแหน่งที่ยังว่างก่อน จากนั้นจึงจะนำอัตราว่างสุทธิไปสอบคัดเลือกครั้งใหม่ต่อไป สำหรับการสอบคัดเลือกผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (ผอ.สพม.) และผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (ผอ.สพป.) กำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการของ สพฐ.โดยมีอัตราว่างที่จะเปิดสอบรวมประมาณ 60 ตำแหน่ง 

       เมื่อถามว่ากรณีที่ สพฐ.จะมีการแก้มาตรฐานตำแหน่งเพื่อให้กลุ่มรอง ผอ.สพป.และรอง ผอ.สพม.สามารถสอบคัดเลือกเป็น ผอ.เขตพื้นที่การศึกษาข้ามสายได้ นายอภิชาติ กล่าวว่า ตนได้ทำหนังสือเวียนแจ้งไปยังเขตพื้นที่การศึกษาทั่วประเทศ เพื่อให้รอง ผอ.สพป.ที่คิดว่าตนเองมีประสบการณ์ตามมาตรฐานตำแหน่งของ ก.ค.ศ.ส่งหลักฐานมาให้ สพฐ.ตรวจสอบ เช่น เคยเป็นหัวหน้าการประถมศึกษาอำเภอแล้วมีโรงเรียนที่เปิดขยายโอกาสมัธยมศึกษามาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี จะมีการพิจารณาเป็นรายกรณีไปว่าจะมีประสบการณ์ตามที่กำหนดไว้ 5 ปี ตามมาตรฐานตำแหน่งของ ก.ค.ศ.หรือไม่ โดยเรื่องนี้สามารถเทียบเคียงประสบการณ์ได้และไม่จำเป็นต้องแก้เกณฑ์มาตรฐานตำแหน่งที่จะต้องใช้เวลา ส่วนกรณีของรอง ผอ.สพม.ที่ต้องการจะมาสมัครเป็น ผอ.สพป.ก็จะใช้เกณฑ์เดียวกันคือให้ส่งหลักฐานมาให้ สพฐ.ตรวจสอบเช่นกัน

ขอขอบคุณข่าวสาร/ข้อมูลดีๆ จากเว็บไซต์หนังสือพิมพ์ASTVผู้จัดการ

... เน็ตช้า คลิ๊กที่ http://tuewsob.blogspot.com

... ห้องวิชาเอกครู คลิ๊กที่ http://uewsob2011.blogspot.com

... (ห้องข้อสอบใหม่) ..สอบครู..สอบผู้บริหาร..สอบบุคลากร ที่


"ติวสอบดอทคอม "
ผอ.นิกร  เพ็งลี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

พัฒนาความรู้ครูผู้ช่วย 4 ภาค

พัฒนาความรู้ครูผู้ช่วย 4 ภาค
พัฒนาความรู้ครูผู้ช่วย 4 ภาค

ห้องสนทนา บน facebook

ห้องสนทนา บน facebook
ห้องสนทนาติวสอบดอทคอม

ข้อสอบออนไลน์ "ติวสอบดอทคอม" ชุดใหม่

คู่มือเตรียมสอบผู้บริหาร ภาค ก ข ค

แจ้งย้ายเว็บไปที่ www.tuewsob.com

คู่มือเตรียมสอบผู้บริหาร ภาค ก ข ค (ปรับปรุงใหม่)

รวม เล่ม + แผ่นพับ + ชีตช่วยจำ + DVD เนื้อหา + เสียงบรรยาย + EMS = 800 บาท
สนใจ คู่มือ ภาค ก ข ค ผู้บริหาร คลิ๊กเลย

สั่งจอง... โอนเงินเข้าชื่อบัญชี นายนิกร เพ็งลี ธนาคารกรุงไทย สาขาจอหอ บัญชีเลขที่ 341-1-38912-5 โอนเงินแล้วกรุณาโทรแจ้ง
0872494141 หรือ 0839660030

คู่มือ เตรียมสอบผู้บริหาร

คู่มือ เตรียมสอบผู้บริหาร
คู่มือ เตรียมสอบผู้บริหาร

ติวสอบออนไลน์ บน facebook

ติวสอบออนไลน์ บน facebook
ติวสอบออนไลน์ บน facebook

คลังหนังสือ ติวสอบดอทคอม

คลังหนังสือ ติวสอบดอทคอม
คลังหนังสือ ติวสอบดอทคอม

ติวสอบดอทคอม

ติวสอบดอทคอม
ติวสอบดอทคอม