เรื่องใหม่น่าสนใจ 

-ครม.ประยุทธ์ 3  http://tuewsob.blogspot.com/2015/08/blog-post_23.html

-เขตที่เปิดสอบ-เกณฑ์สอบ-กำหนดการสอบครูผู้ช่วย รอบ 2 / 2558

http://tuewsob.blogspot.com/2015/08/2-2558.html

-เกณฑ์การย้ายครู พ.ศ.2558  http://www.otepc.go.th/images/document/2558/v16-2558.pdf

-รัฐธรรมนูญ 2557 แก้ไข ครั้งที่ 1 พ.ศ.2558

http://tuewsob.blogspot.com/2015/07/2557-1-2558.html

- พรบ.เงินเดือนใหม่ข้าราชการครูฯ พ.ศ.2558  

http://tuewsob.blogspot.com/2015/05/4-10-1-57.html

              ข้อสอบออนไลน์ ( สอบครู - ผู้บริหาร - บุคลากรการศึกษา) ชุดใหม่  โดย  อ.นิกร

ProProfs - ข้อสอบออนไลน์ 308 นโยบาย รมว.ศธ.ดาว์พงษ์ » Online assessment software

 เตรียมสอบ บน ยูทูป ทั้งหมด ได้ที่

  (  คลิ๊ก ) สมัครพัฒนาความรู้

เตรียมสอบผู้บริหารสถาน+การศึกษา 

เตรียมสอบครูผู้ช่วย

ล็อกมือระเบิดคุมสอบ 'ยูซูฟู' เปิดปาก ซัดทอดคนบงการ

สะพัดล็อกต้องสงสัยเสื้อเหลืองชายแดนมาเลย์ ออกหมายจับเพิ่มอีก 2 ชาวต่างชาติแก๊งบึมท้าวมหาพรหม ขณะเดียวกันชุดสืบสวนค้นซ้ำไมมูณาการ์เด้นโฮม รวบ 2 ชาวอินเดียเข้าค่ายทหาร เหตุกล้องวงจรปิดจับภาพพูดคุยกับแก๊งบึมถี่ยิบ ด้านจักรทิพย์ยันยังจัดชุดไล่ล่ามือบึมเสื้อเหลือง และผู้เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีให้หมด ขณะที่ทหารคุมตัวยูซูฟู ส่งพนักงานสอบสวน บช.น. ท่ามกลางการอารักขาเข้ม มีโฆษก ตร.นำคณะรับเอง ยืนยันผู้ต้องหารับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา เตรียมนำตัวทำแผน 4 จุดก่อนฝากขังศาล ระบุขาดการติดต่อไมซาเลาะห์ สาวพังงาคนเปิดห้องให้ทีมระเบิดไม่ได้ 4 วันแล้ว ด้านเรือนจำพิเศษมีนบุรีรับเอาอยู่ อาเดม การาดัค สั่งคุมใกล้ชิด 24 ชม.

ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานความมั่นคงของรัฐบาลไทย เปิดฉากจับกุมนายบิลา มูฮัมหมัด หรือนายอาเดม การาดัค ชาวตุรกี ได้ที่อพาร์ตเมนต์ย่านหนองจอก พร้อมอุปกรณ์ทำระเบิดและพาสปอร์ตปลอมจำนวนมาก ก่อนตามรวบนายมิราลลี่ ยูสูฟู หรือนายเมียไรลี ยูซูฟู ชาวจีน ได้ที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะลอบหนีออกนอกประเทศ โดยทั้งคู่เกี่ยวพันคดีระเบิดศาลท้าวมหาพรหม แยกราชประสงค์ และท่าน้ำสาทร เมื่อค่ำวันที่ 17 และ 18 ส.ค.ที่ผ่านมา ก่อนจะสอบสวนออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งคนไทยและต่างชาติรวมทั้งสิ้นในขณะนี้ 9 คน ส่วนมือระเบิดเสื้อเหลือง ยังอยู่ระหว่างการไล่ล่าของตำรวจ และยังไม่มีหลักฐานว่าหลบหนีออกนอกประเทศไปแล้วหรือไม่

จักรทิพย์เผยมีหมายจับเพิ่ม

โดยความคืบหน้าคดีระเบิดใจกลางกรุงเทพฯที่เกิดจากฝีมือคนต่างชาติครั้งนี้เปิดเผยขึ้นเมื่อสายวันที่ 7 ก.ย. พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รอง ผบ.ตร.กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานผู้ที่เกี่ยวข้องกับการลอบวางระเบิดเครือข่ายเดียวกันนายบิลา มูฮัมหมัด ชาวตุรกี และ นายเมียไรลี ยูซูฟู ผู้ต้องหาชาวจีนที่ออกหมายจับไปแล้ว ซึ่งมีกลุ่มที่เกี่ยวข้องเป็นชาวต่างชาติ 5-6 คน คาดว่าจะมีหมายจับเพิ่มอีก 2-3 คน ในส่วนมือระเบิดที่หลบหนีได้มอบหมายให้ชุดสืบสวนติดตามจับกุม รวมทั้งตรวจสอบคนไทยที่มีส่วนเกี่ยวข้องช่วยเหลือ สนับสนุนกลุ่มทีมระเบิด มีใครเข้ามาเกี่ยวข้องจะต้องดำเนินคดีทันที

ทหารคุมตัว ยูซูฟู ส่งตำรวจ

ต่อมาเวลา 15.15 น. ที่กองบัญชาการตำรวจ นครบาล พ.อ.วิจารณ์ จดแตง นายทหารพระธรรมนูญ หัวหน้าส่วนปฏิบัติการ คณะทำงานกฎหมายส่วนรักษาความสงบ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และเจ้าหน้าที่กองพันทหารราบ มณฑลทหารบกที่ 11 (พัน.ร.มทบ.11) พร้อมอาวุธปืนครบมือควบคุมตัวนายมิราลลี่ ยูซูฟู หรือนายเมียไรลี ยูซูฟู อายุ 26 ปี ชาวจีน ขึ้นรถตู้จาก มทบ.11 มาให้ส่งพนักงานสอบสวนที่ บช.น. เพื่อสอบปากคำและแจ้งข้อหา โดยมี พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. และคณะพนักงานสอบสวนสอบปากคำร่วมสอบปากคำ พาขึ้นไปห้องประชุมปารุสกวัน 2 อาคาร บช.น.ให้แพทย์ รพ.ตร.ตรวจร่างกายเพื่อเป็นพยานและหลักฐานว่า ระหว่างอยู่ในความควบคุมตัวของเจ้าหน้าที่ทหาร ไม่ได้ทำร้ายร่างกายผู้ต้องหา ทั้งนี้ นายเมียไรลี ยูซูฟู มีสีหน้าเรียบเฉย สายตาดูนิ่งไม่แสดงอาการหวาดหวั่นหรือหวาดกลัวแต่อย่างใด

ให้สื่อบันทึกภาพได้แต่ห้ามถาม

ด้าน พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผบก.น.6 กล่าวแจ้งผู้สื่อข่าวทุกสำนักทั้งไทยและต่างประเทศจำนวนกว่า 100 คนว่า ให้บันทึกภาพและถ่ายภาพได้เพียงอย่างเดียว ห้ามสอบถามหรือสัมภาษณ์ผู้ต้องหา เนื่องจากเป็นคดีความมั่นคงอาจจะทำให้เกิดการกระทบกระเทือนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยอนุญาตให้สื่อมวลชนบันทึกภาพนานกว่า 15 นาที ก่อนให้สื่อมวลชนออกจากห้องสอบสวน มีเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมอาวุธปืนคอยคุ้มกันอยู่หน้าห้องดูแลความปลอดภัย และไม่ให้ผู้เกี่ยวข้องเข้าไป

รับสารภาพตามข้อกล่าวหา

มีรายงานว่า พนักงานสอบสวนได้นำภาพนายเมียไรลี ยูซูฟู ที่ใช้ออกหมายจับ และนำหมายจับศาลจังหวัดมีนบุรี ลงวันที่ 3 ก.ย.2558 ข้อหาร่วมกันมีซึ่งยุทธภัณฑ์ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ให้ผู้ต้องหาดู ใช้ล่ามพูดภาษาตุรกีอธิบาย นายเมียไรลียอมรับเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ และรับสารภาพกระทำผิดตามข้อกล่าวหา ทั้งนี้นายเมียไรลี ยืนยันเคยเห็นชายเสื้อเหลืองมือวางระเบิดศาลท้าวมหาพรหม ย่านราชประสงค์ และชายเสื้อฟ้าคนนำระเบิดไปทิ้งบริเวณท่าน้ำสาทร เพราะทั้งคู่เคยมาที่ พูลอนันต์อพาร์ตเมนต์ ย่านหนองจอก แต่ไม่รู้จักชื่อของชายทั้งคู่ ทั้งนี้นายเมียไรลียอมรับด้วยว่า เป็นผู้นำกระเป๋าเป้ใส่ระเบิดไปให้ชายเสื้อเหลืองที่ลงจากรถแท็กซี่ หน้าสถานีรถไฟหัวลำโพง ก่อนมือวางระเบิดจะนั่งรถตุ๊กตุ๊กเอาระเบิดไปวางที่เป้าหมายที่ศาลพระพรหม

เหตุสารภาพกลัวถูกส่งกลับจีน

มีรายงานเพิ่มด้วยว่า เหตุผลที่นายเมียไรลี ยอมรับสารภาพ เพราะส่วนหนึ่งมีความหวาดวิตกเกรงว่าทางการไทยจะผลักดันส่งตัวกลับประเทศจีน ผู้ต้องหายอมให้ความร่วมมือกับทางการไทย ยอมถูกดำเนินคดีในประเทศไทย ดีกว่าถูกส่งกลับไปให้ทางการจีน นายเมียไรลี ได้ให้รายละเอียดเบาะแสข้อมูลผู้ร่วมก่อเหตุ ระบุว่ามีผู้ร่วมขบวนการ 10-12 คน เกี่ยวข้องกับการวางระเบิดวางแผนก่อวินาศกรรมใจกลางกรุงเทพฯ จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 20 ราย และมีผู้บาดเจ็บอีกนับร้อยรายดังกล่าว

เตรียมนำตัวฝากขังศาล

พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วย ผบ.ตร. และโฆษก ตร. กล่าวว่า พนักงานสอบสวนได้รับตัวนายเมียไรลี ยูซูฟู ตามกฎหมาย และดำเนินการสอบสวนตาม ป.วิ อาญา ผู้ต้องหายืนยันเป็นบุคคลตามหมายจับและรับสารภาพตามข้อกล่าวหาเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการสอบสวนเพิ่มเติมอีกครั้ง แจ้งข้อหาร่วมกันมีวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ครอบครองโดยผิดกฎหมาย หากไม่มีการสอบสวนเพิ่มเติมแล้ว จะนำตัวนายเมียไรลี ยูซูฟู ไปฝากขังที่ศาลจังหวัดมีนบุรีภายใน 48 ชม.ต่อไป

หมายจับเพิ่มทีมระเบิดอีก 2

พล.ต.ท.ประวุฒิกล่าวด้วยว่า พนักงานสอบสวนได้ขออำนาจศาลออกหมายจับกุมผู้ต้องหาเพิ่ม 2 ราย รายแรก นายอับดุลเลาะห์ อับดุลเลาะห์มาน ไม่ทราบสัญชาติ สูงประมาณ 180 ซม. พักอาศัยภายในห้องเลขที่ 412 และ 414 พูลอนันต์อพาร์ตเมนต์ ย่านหนองจอก ทราบชื่อผู้ต้องหาจากเพื่อน อีกรายเป็นผู้ต้องหาตามภาพถ่าย เป็นชายชาวต่างชาติไม่ทราบชื่อ ไม่ทราบสัญชาติ สูงประมาณ 175 ซม. เป็นภาพที่ได้จากกล้องวงจรปิดภายในห้างแห่งหนึ่ง ภาพดังกล่าวไม่ชัดเจน ผู้ต้องหาเข้าไปใช้บริการซื้อของจับจ่ายใช้สอย ส่วนการแบ่งหน้าที่การก่อเหตุวางระเบิดนั้น ยังอยู่ระหว่างการสอบสวน

ยังจับกุมมือบึมเสื้อเหลืองไม่ได้

เมื่อถามว่า มีข่าวว่าจับกุมชายสวมเสื้อสีเหลืองมือวางระเบิดได้ พล.ต.ท.ประวุฒิกล่าวว่า ยังไม่มีข้อมูลการรับแจ้ง ส่วนบุคคลที่อยู่ในห้องพักพูลอนันต์อพาร์ตเมนต์ ยังมีบุคคลอื่นอีก ยังไม่หมดแต่ยังไม่ทราบว่ากี่คน ถ้าตรวจสอบพบแล้วจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง เมื่อถามว่า นายเมียไรลี ยูซูฟู รับสารภาพเป็นผู้นำระเบิดมาให้ชายเสื้อเหลืองหรือไม่ พล.ต.ท.ประวุฒิกล่าวว่า ผู้ต้องหารับสารภาพเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ และอยู่ระหว่างสอบสวนเพิ่มเติมอย่างละเอียด ไม่สามารถเปิดเผยได้ ส่วนการตรวจสอบเส้นทางการเงิน ยังไม่ได้รับรายงานจากสำนักงานป้องกันและปราบ ปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กรณีการพาชาวอุยกูร์หลบหนีผ่านทางชายแดนโดยผิดกฎหมายนั้น สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจะเป็นผู้ตรวจสอบข้อมูลดังกล่าว รวมทั้งตรวจสอบด้วยว่า นายเมียไรลี ยูซูฟู เดินทางเข้าประเทศไทยตั้งแต่เมื่อใด

ขาดการติดต่อไมซาเลาะห์

พล.ต.ท.ประวุฒิยังกล่าวถึงความคืบหน้า กรณี น.ส.วรรณา สวนสัน หรือไมซาเลาะห์ ผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับเกี่ยวข้องเปิดห้องพักไมมูณา การ์เด้นโฮม ย่านมีนบุรี ให้กลุ่มผู้ต้องหาโดยติดต่อจะเข้ามอบตัวให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ไม่ได้รับการติดต่อมา 4 วันแล้ว อาจจะต้องประสานกับตำรวจสากล และดูว่ามีสนธิสัญญาระหว่างตุรกีหรือไม่ในการส่งตัวผู้ต้องหาข้ามแดน เบื้องต้น น.ส.วรรณายืนยันว่า อยู่ประเทศตุรกี ได้ประสานไปทางสถานทูตไทยประจำประเทศตุรกี โดยยังไม่ได้รับการติดต่อจาก น.ส.วรรณา

ออกหมายจับเพิ่มคนที่ 10 และ 11

ต่อมาเวลา 17.30 น. พนักงานสอบสวน สน.หนองจอก ได้ขออนุมัติศาลจังหวัดมีนบุรีออกหมายจับผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องคดีระเบิดเพิ่มเติม 2 ราย ได้แก่ ผู้ต้องหารายที่ 10 เป็นชายตามภาพสเกตซ์ ชื่อนายอับดุลเลาะห์ อับดุลเลาะห์มาน สูงประมาณ 180 ซม. ตามหมายจับศาลจังหวัดมีนบุรี ลงวันที่ 7 ก.ย.2558 ข้อหาร่วมกันมีวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย และร่วมกันมีซึ่งยุทธภัณฑ์ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และผู้ต้องหารายที่ 11 เป็นชายไม่ทราบชื่อและสัญชาติ สูงประมาณ 175 ซม. ใช้หลักฐานภาพกล้องวงจรปิด บันทึกภาพผู้ต้องหาได้ในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งย่านมีนบุรี ขณะเข้าไปซื้อของกินและของใช้ส่วนตัว ตามหมายจับศาลมีนบุรี ลงวันที่ 7 ก.ย.2558 ดำเนินคดีข้อหาเดียวกัน จากการสืบสวนสอบสวนทราบว่า ผู้ต้องหารายที่ 10 และ 11 พักอาศัยอยู่ในห้อง 412 และ 414 พูลอนันต์อพาร์ตเมนต์ ย่านหนอกจอก

คุมตัวยูซูฟูทำแผน 4 จุด

มีรายงานว่า ในช่วงสายวันที่ 8 ก.ย. พนักงานสอบสวนจะคุมตัวนายเมียไรลี ยูซูฟู ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพเบื้องต้น 4 จุด โดยจุดแรกเป็นที่พักพูลอนันต์อพาร์ตเมนต์ ย่านหนองจอก จุดที่ 2 ไมมูณา การ์เด้นโฮม ย่านมีนบุรี จุดที่ 3 จุดนำเป้ระเบิดมาส่งชายเสื้อเหลืองมือวางระเบิดหน้าสถานีรถไฟหัวลำโพง และจุดที่ 4 จุดถ่ายรูปที่ลานน้ำพุหลังเกิดเหตุระเบิดและส่งรูปผลงานให้กับเพื่อนร่วมขบวนการ ก่อนนำตัวส่งศาลฝากขัง

คุม 2 ชาวอินเดียคุยยูซูฟู

ก่อนหน้านี้ เมื่อช่วงค่ำวันที่ 6 ก.ย.ที่ผ่านมา ชุดคลี่คลายระเบิดพร้อมตำรวจ สน.มีนบุรี กก.สส.บก.น.3 บช.น. และเจ้าหน้าที่ทหารไปตรวจสอบห้อง 9105 อพาร์ตเมนต์ไมมูณา การ์เด้นโฮม ซอยราษฎร์อุทิศ 25/8 แขวงแสนแสบ เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร อยู่ติดกับห้อง 9106 ของ น.ส.วรรณา สวนสัน หรือไมซาเลาะห์ ที่เปิดไว้ให้ชาวต่างชาติเพื่อนสามี น.ส.วรรณามาพัก เจ้าหน้าที่พบชาวอินเดีย 2 คน อายุประมาณ 25-30 ปี พักอาศัยอยู่ ตรวจพบมีหนังสือเดินทางถูกต้อง ส่วนภายในห้องไม่พบหลักฐานอะไร เจ้าหน้าที่ทหารได้ควบคุมตัวไปสอบสวนต่อไป ทั้งนี้ จากแนวทางการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดของหอพักแล้ว พบว่าชาวอินเดียทั้งสองนี้เคยจับกลุ่มพูดคุยกับกลุ่มชาวต่างชาติที่พักอยู่ในห้อง 9106 เป็นห้องที่พบอุปกรณ์ระเบิดอยู่บ่อยครั้ง เจ้าหน้าที่จึงนำตัวมาสอบปากคำเพื่อสืบหาว่าจะเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับคดีระเบิดที่ราชประสงค์หรือไม่

2 ผู้ต้องหาซัดชาวไทย–ต่างชาติโยงบึม

เมื่อเวลา 12.00 น. ที่ศูนย์ติดตามสถานการณ์คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษก คสช. ชี้แจงการติดตามสืบสวนคดีมีความคืบหน้าคดีระเบิดที่สี่แยกราชประสงค์ว่า จากการสอบสวนนายอาเดมและนายยูซูฟู รวมทั้งพยานบุคคลอื่นๆอีกหลายรายเริ่มให้การที่เป็นประโยชน์เชื่อมโยงไปสู่เครือข่ายกลุ่มบุคคลทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับการก่อเหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์และท่าเรือสาทร ผลการสืบสวนดังกล่าว สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้แถลงรายละเอียดบางส่วน ให้รับทราบตามความจำเป็นต่อไป

ชดเชยแล้ว 10.7 ล้าน นทท.คืนสู่ปกติ

พ.อ.วินธัยกล่าวว่า ส่วนการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจนถึงปัจจุบัน ได้จ่ายเงินช่วยเหลือจากส่วนราชการ มูลนิธิ และองค์กรต่างๆ ให้กับผู้ได้รับบาดเจ็บและครอบครัวผู้เสียชีวิตไปแล้วทั้งสิ้น 10,780,000 บาท มีผู้บาดเจ็บยังคงรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 11 แห่ง รวม 23 คน ผลจากการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่รัฐและความร่วมมือของพี่น้องประชาชนทุกภาคส่วน ส่งผลให้สถานการณ์คลี่คลายและกลับสู่ภาวะปกติได้อย่างรวดเร็ว การสืบสวนสอบสวนทางคดีคืบหน้าไปอย่างมาก ในห้วงต่อไปจะเข้าสู่ฤดูการท่องเที่ยวไฮซีซั่น ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนและผู้ประกอบการให้การต้อนรับ การให้บริการ และการดูแลนักท่องเที่ยวให้ดีที่สุด เช่นที่เคยปฏิบัติมา เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่าประเทศไทยยังคงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีเสน่ห์และน่าสนใจ

ผบ.ตร. เรียก ตม.มาเฉ่ง

ก่อนหน้านี้เมื่อเวลา 13.30 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. เป็นประธานประชุมสั่งการแนวทางการปฏิบัติแก่ข้าราชการตำรวจในสังกัด บช.สตม.ตั้งแต่ระดับผบช.ถึง สว. 259 นาย แต่ พล.ต.ท.ศักดา ชื่นภักดี ผบช.สตม. ไม่ได้เข้ามาร่วมประชุมด้วย อ้างติดภารกิจสำคัญ ทั้งนี้ หลังเสร็จสิ้นการประชุม พล.ต.อ.สมยศเผยว่า การประชุมวันนี้เป็นการสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตม.ปฏิบัติหน้าที่ให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่มุ่งเน้นเรื่องความมั่นคง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเคลื่อนย้ายของชาวต่างชาติแบบผิดปกติ จนเป็นเหตุให้มีการลักลอบของชาวต่างชาติเข้ามาก่อเหตุร้ายในประเทศไทย

ใช้แยกราชประสงค์เตือนสติ

ผบ.ตร.กล่าวต่อว่า สิ่งที่ได้สั่งการคือ ให้ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเข้มงวดกวดขันกับการปฏิบัติหน้าที่ จะปล่อยให้มีสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นอีกไม่ได้ เพราะจากการสอบสวนขยายผลของผู้ที่ก่อเหตุให้การชัดเจนว่า ได้ผ่านเข้ามาทางชายแดนตั้งแต่เหนือจรดใต้ อีกทั้งได้เตือนสติตำรวจ ตม.ที่ปฏิบัตินอกลู่นอกทางให้กลับเข้าสู่ความถูกต้อง เพราะสิ่งที่เคยปฏิบัติกันมานั้นส่งผลเสียหายกับประเทศชาติอย่างรุนแรง ดั่งเช่นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบริเวณแยกราชประสงค์ นอกจากสั่งการกำชับในเรื่องนี้แล้ว พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รอง ผบ.ตร.ยังได้รับทราบ รับฟัง สิ่งที่ตนได้สั่งการและขอให้ช่วยปลดล็อกนี้ต่อไป

ยอมรับ แก๊งบึมถูกฝึกมาดี

ผบ.ตร.กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาคิดว่าทำดีที่สุด มีข้อมูลครอบคลุมทั้งหมด การสอบสวนผู้ต้องหาเราจะเชื่อได้อย่างไรว่าเขาพูดความจริงทั้งหมดจนกว่าจะมีหลักฐานอื่นๆที่สามารถยืนยันได้อย่างชัดเจน คำให้การของผู้ต้องหาก็ยากที่จะปักใจเชื่อได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ ส่วนผู้ที่ควบคุมตัวอยู่ในขณะนี้คิดว่าจะเอาผิดและสามารถดำเนินคดีได้ ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ตัดประเด็นใดประเด็นหนึ่งทิ้งจนกว่าจะมีความชัดเจน จากการสอบปากคำผู้ต้องหาที่ถูกควบคุมตัวก็ยอมรับ และให้การในเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวข้องกับตัวเอง ไม่มีการเปิดเผยข้อมูลถึงบุคคลอื่นเลย ถือว่าถูกฝึกมาอย่างดี ส่วนการออกหมายจับบุคคลที่เกี่ยวข้องรายที่ 10 อยู่ระหว่างดำเนินการ ส่วนจะออกหมายจับใครเพิ่มหรือไม่นั้น ถ้ามีจริงก็ยังบอกไม่ได้

เฉ่งยับ รับเงินสินบนเข้าออกเมือง

มีรายงานว่า ในการประชุมกำชับนโยบายระดับ สว.ถึง ผบช.ในสังกัด บช.สตม.พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. ได้ตำหนิตำรวจ ตม.และใช้ถ้อยคำอย่างรุนแรง ในเรื่องการรับเงินสินบนให้คนเข้าออกเมืองโดยผิดกฎหมาย ทั้งไม่มีหนังสือเดินทางและมีหนังสือเดินทาง แต่ไม่ลงข้อมูลในคอมพิวเตอร์ การกระทำดังกล่าวเป็นช่องทางค้ามนุษย์ ตำรวจตม.บางคนได้ลักลอบนำตราประทับไปรับรองการเดินทางเข้าออกว่า บุคคลดังกล่าวเคยเดินทางมายังประเทศไทย เพื่อปรากฏในประเทศต้นทาง และใช้อ้างในการเดินทางไปประเทศที่สาม

เรือนจำคุมอาเดมใกล้ชิด

นายไพฑูรย์ อำพันธ์ ผบ.เรือนจำพิเศษมีนบุรี กล่าวว่า ได้จัดเจ้าหน้าที่เรือนจำคอยดูแลนายอาเดม อย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมชี้แจงกฎระเบียบ การอยู่ในเรือนจำ และส่งเจ้าหน้าที่ด้านนักจิตวิทยาเข้าไปพูดคุย เพื่อให้นายอาเดมรู้สึกผ่อนคลายจากอาการเครียด ส่วนการคุมขัง ได้จัดให้นายอาเดมอยู่รวมกับผู้ต้องขังรายอื่นๆ อย่างไรก็ตาม นายอาเดมเริ่มปรับตัวการใช้ชีวิตภายในเรือนจำได้ และอาการเครียดก็ลดลงแล้ว

ปล่อยชั่วคราว ช่างภาพฮ่องกง

เช้าวันเดียวกัน ที่ศาลจังหวัดสมุทรปราการ เจ้าหน้าที่นำตัวนายแอนโทนี กวาน ฮก ชุน ช่างภาพข่าวชาวฮ่องกงวัย 29 ปี ซึ่งได้นำเสื้อเกราะกันกระสุนเข้ามาในประเทศเพื่อรายงานข่าวเหตุการณ์ระเบิดที่แยกราชประสงค์ และถูกตำรวจจับกุมที่สนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 23 ส.ค.58 ในข้อหาครอบครองอาวุธผิดกฎหมาย มาขอฝากขังผัดที่ 2 นายแอนโทนี กวาน ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอเดินทางออกนอกราชอาณาจักรไทยชั่วคราว เนื่องจากต้องไปทำข่าวที่ประเทศสิงคโปร์ระหว่างวันที่ 9-12 ก.ย. ศาลพิจารณาคำร้องแล้วมีคำสั่งอนุญาตให้เดินทางออกนอกประเทศได้ชั่วคราว และต้องกลับมารายงานตัวอีกครั้งในการฝากขังผัดต่อไป ในวันที่ 17 ก.ย.58 ขณะเดียวกัน สำนักข่าวเอเอฟพีรายงาน ศาลจังหวัดสมุทรปราการ มีคำสั่งให้ปล่อยตัวชั่วคราวนายแอนโทนี กวาน ฮก ชุน ช่างภาพสื่อมวลชนชาวฮ่องกง ทั้งนี้ ศาลได้ส่งคืนพาสปอร์ต หรือหนังสือเดินทางให้กับนายกวาน และอนุญาตให้เดินทางกลับฮ่องกงได้ แต่คดีความยังอยู่ ทำให้นายกวานต้องกลับมาขึ้นศาลในวันที่ 17 ก.ย.นี้

สะพัดจับมือบึมได้ที่ชายแดนใต้

รายงานข่าวล่าสุดแจ้งว่า จากการสอบปากคำนายเมียไรลี ยูซูฟู รับว่าคนบงการวางระเบิดทั้งหมดคือนายอิซาน อายุ 28 ปี ชาวจีน ทั้งสั่งการให้สั่งซื้ออุปกรณ์ประกอบระเบิดทางอินเตอร์เน็ต วางแผนในการประกอบระเบิด และให้นำระเบิดไปส่งบริเวณหัวลำโพง ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่านายอิซาน เดินทางเข้าออกประเทศไทยบ่อยครั้ง ล่าสุดเข้าประเทศไทยและเดินทางออกไปก่อนเกิดเหตุระเบิดเพียง 1-2 วัน อย่างไรก็ตาม ยังตรวจสอบไม่พบว่านายอิซานถือพาสปอร์ตประเทศอะไร และไม่ใช่ชายเสื้อเหลืองมือวางระเบิดศาลท้าวมหาพรหมแต่อย่างใด ทั้งนี้ แม้ว่านายเมียไรลีจะให้การที่เป็นประโยชน์ แต่ทีมสืบสวนสอบสวนยังไม่ปักใจเชื่อมากนัก โดยจะต้องตรวจสอบว่าเป็นความจริงหรือไม่ เนื่องจากนายอิซานอายุยังน้อย และมีฐานะดี อย่างไรก็ดี ทีมสืบสวนพบว่านายอิซานเคยเดินทางไปที่ห้องพักพูลอนันต์ อพาร์ตเมนต์ และไมมูณา การ์เด้นโฮมด้วย

มีรายงานข่าวแจ้งว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวชายต้องสงสัยเป็นมือวางระเบิดเสื้อเหลืองได้ที่ชายแดนไทยมาเลเซีย อยู่ระหว่างพิสูจน์ทราบตัวตนที่แท้จริง ก่อนดำเนินการตามกฎหมายต่อไปขณะที่ พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษก ตร.ปฏิเสธข่าวอ้างว่ายังไม่ได้รับรายงาน

ที่มา ; เว็บ นสพ.ไทยรัฐ

   (  คลิ๊ก ) สมัครพัฒนาความรู้

เตรียมสอบผู้บริหารสถาน+การศึกษา 

เตรียมสอบครูผู้ช่วย

ฟรี... ห้องเตรียมสอบ-ครูผู้ช่วย

-ผู้บริหาร-บุคลากรการศึกษา  ที่ 

" ติวสอบดอทคอม "  โดย อ.นิกร 

เว็บฟรีข้อสอบออนไลน์

(เตรียมสอบครู-ผู้บริหาร-บุคลากร การศึกษา)

www.tuewsob.com