- แนวทางการจัดทำรายงานการติดตามประเมินผลการควบคุมภายในประจำปี 2557
ข้อสอบออนไลน์ ( สอบครู - ผู้บริหาร - บุคลากรการศึกษา) ชุดใหม่ล่าสุด
ติวสอบ บน ยูทูป ทั้งหมด ได้ที่
( คลิ๊ก ) สมัครติวสอบผู้บริหารภาค 4 ภาค 30 จุดปี 2557-2558
'ปรองดอง'กองทัพรุกคืนสุขเรดโซน
'ปรองดอง'กองทัพรุกคืนสุขเรดโซน
'ปรองดอง'กองทัพรุกคืนสุขเรดโซน : ทีมข่าวภูมิภาคเหนือ-อีสานรายงาน
กว่าหนึ่งทศวรรษที่ประเทศไทยต้องบอบช้ำกับความแตกแยกของคนสองฝั่งที่มีความคิดเห็นต่างทางการเมือง โดยหลังจากกองทัพเข้ายึดอำนาจ "แผนปรองดอง" จึงเป็นนโยบายหลักที่ คสช.หมายมั่นจะใช้เป็นกลไกนำไปสู่ความสงบสุขสมานฉันท์ในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ
"ปรองดอง" ถือเป็นโมเดลหลักที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ในฐานะหัวหน้า คสช. ประกาศเจตนารมณ์ต่อหน้าคนไทยกว่า 60 ล้านคน ว่า ต้องทำให้สำเร็จ แต่ในความเป็นจริงแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ย่อมตระหนักแก่ใจดีว่า เป็นงานหิน โดยเฉพาะการสร้างความปรองดองในพื้นที่ภาคเหนือ และภาคอีสาน ซึ่งถือเป็นพื้นที่ของ "กลุ่มเรดโซน" ที่มีความขัดแย้งความคิดทางการเมืองค่อนข้างสูง
ว่ากันว่า แม้การเคลื่อนไหวของกลุ่มที่เห็นต่างจะหยุดนิ่ง แต่หลายฝ่ายยังเชื่อว่า เป็นการหยุดเพื่อทบทวนบทเรียน และรอจังหวะ
เรื่องนี้ สว่าง วงศ์วิลาศ แกนนำศูนย์ประสานงานกลุ่มสมัชชาคนเสื้อแดงล้านนา ให้แง่คิดได้อย่างน่าสนใจว่า ความขัดแย้งระหว่างคนสองฝั่งฝังรากลึกมานาน และที่ผ่านมาสังคมเกิดความแตกแยกจากแนวคิดที่แตกต่างกัน จึงเป็นชนวนเหตุความขัดแย้งกันอย่างรุนแรง ส่วนที่ คสช.มีแผนให้คนในแต่ละพื้นที่กลับมาปรองดองหรือรักกันเพียงชั่วข้ามคืนคงเป็นไปไม่ได้แน่นอน เพราะแต่ละอำเภอ หมู่บ้าน จะมีกลุ่มแกนนำประสานงานเพื่อขับเคลื่อนทางการเมือง ดังนั้นการสร้างความปรองดองให้เกิดขึ้น จึงไม่ใช่เรื่องง่าย ทหารต้องใช้ระยะเวลาในการสร้างความเข้าใจกับคนในแต่ละชุมชนทุกพื้นที่
"การปรองดองต้องเริ่มจากสร้างความเป็นธรรมให้เกิดขึ้นในพื้นที่ ที่ผ่านมาได้พามวลชนไปร่วมชุมนุมทางการเมืองมาอย่างต่อเนื่อง แต่หลังจากทหารเข้าควบคุมความสงบ การเคลื่อนไหวทางการเมืองของกลุ่มต่างๆ ยุติลง แต่เรื่องที่จะให้แต่ละกลุ่มเห็นด้วยกับ คสช.ทั้งหมด คงต้องใช้เวลาในการทำความเข้าใจต่อชาวบ้าน เพราะที่ผ่านมาชาวบ้านได้รับการปลูกฝังความคิดต่างมานาน ดังนั้นทุกฝ่ายควรหาวิธีที่จะทำให้กลุ่มที่เห็นต่างอยู่ร่วมกันได้ ทหารต้องใช้เวลาสร้างความเข้าใจ และทำให้เห็นว่า ไม่ได้ปฏิบัติแบบสองมาตรฐาน ผมเชื่อว่า หากทำได้จะสามารถนำไปสู่การปรองดองได้"
เช่นเดียวกับ จิรโรจน์ กีรติศักดิ์วรกุล หรือ "โย เสื้อแดง" เสื้อแดงสายฮาร์ดคอร์ จ.พะเยา มองเรื่องปรองดองว่า เห็นด้วยที่ทหารออกมาขวางระหว่างกลุ่มเสื้อแดง และกปปส. ด้วยการยึดอำนาจ เพราะอย่างน้อยที่สุดก็ป้องกันชีวิตของทั้งสองฝ่าย แต่ไม่เห็นด้วยกับวิธีการสร้างความปรองดอง โดยให้เสื้อแดง เสื้อเหลือง ไปทำฝาย ให้กินข้าวด้วยกัน และจบลงด้วยการจับมือกัน กอดกัน ทั้งสองฝ่ายอาจจะไม่เต็มใจที่ต้องทำอย่างนั้น ดังนั้นมองว่า คสช.ต้องให้สองฝ่ายเปิดใจ และหาวิธีการปรองดองร่วมกัน ไม่ใช่คอยกำหนดว่า จะต้องทำอะไร อย่างไร มันไม่เกิดประโยชน์
ข้ามมาอีกฟากของความเห็นต่าง ภาณุพงค์ วีรตันตยาภรณ์ ผู้ประสานงาน กปปส.เชียงใหม่ มองว่า แผนปรองดองในระยะสั้นเป็นเรื่องยากที่จะให้เกิดขึ้นในทันที คงต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร คสช.ต้องสร้างความเข้าใจให้คนในพื้นที่ที่ถูกปลูกฝังเรื่องความเชื่อมายาวนาน ทหารต้องลงพื้นที่อย่างจริงจัง มากกว่าจะเรียกแกนนำ หรือผู้นำชุมชนเข้าไปฟังคำชี้แจง เพราะข้อมูลที่ผู้นำชุมชน หรือแกนนำ นำไปถ่ายทอดต่อให้ชาวบ้านอาจจะไม่ถูกต้องครบถ้วน ทำให้ชาวบ้านบางส่วนยังไม่เข้าใจถึงแผนปรองดองที่จะเกิดขึ้น
"การปรองดองไม่ควรขึ้นอยู่กับแผนแม่บทของทหารอย่างเดียว แต่ต้องขึ้นอยู่กับตัวชาวบ้านด้วย ทหารจะต้องเร่งเข้าไปสร้างความเข้าใจแต่ละชุมชนและสลายแนวความคิดที่แตกแยกของแต่ละชุมชนให้ได้ จึงจะเห็นภาพของการปรองดองเกิดขึ้น"
แม้จะมีปัจจัยหลายอย่างที่เป็นอุปสรรคในการสร้างความสมานฉันท์ แต่ในส่วนของกองทัพยังมุ่งมั่นสร้างความปรองดอง เพื่อให้ประเทศกลับมาสงบสุขอีกครั้ง
พล.ต.ศรายุธ รังษี ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 33 ค่ายกาวิละ จ.เชียงใหม่ แสดงความคิดเห็นว่า ในช่วงที่ผ่านมา มทบ.33 ได้ดำเนินการในด้านต่างๆ เพื่อคลี่คลายปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ เริ่มจากการเข้าควบคุมพื้นที่เพื่อให้เกิดความปลอดภัย พร้อมดำเนินการจัดตั้งศูนย์ปรองดอง เพื่อขับเคลื่อนความสามัคคีของประชาชน ตามด้วยการจัดกิจกรรมคืนความสุขให้ประชาชนในรูปแบบต่างๆ ซึ่งการดำเนินงานของกองทัพต้องการจะบูรณาการทุกภาคส่วน เพื่อนำประชาชนสู่ความเป็นหนึ่งเดียว
"แผนปรองดอง-สลายสีเสื้อ ที่ทหารต้องการให้เกิดขึ้น อาจจะเป็นเรื่องยากในระยะเวลาอันใกล้นี้ เนื่องจากชาวบ้านมีความคิดต่างทางการเมืองที่ฝังรากลึกมายาวนาน ฉะนั้นมาตรการนี้ หากเดินพลาดเพียงก้าวเดียว แทนที่จะปรองดอง จะกลายเป็นซ้ำเติมปัญหา" พล.ต.ศรายุธ กล่าว
ย้อนมาดูสถานการณ์ปรองดองที่ภาคอีสาน หนึ่งในพื้นที่ที่มีความขัดแย้งฝังรากลึกมายาวนาน โดยเฉพาะหัวเมืองหลักอย่าง ขอนแก่น ถือเป็นจังหวัดเป้าหมายที่ คสช. มุ่งสร้างความปรองดองให้สำเร็จลุล่วงให้ได้ เพราะถือเป็นศูนย์กลางที่มีความเจริญเติบโตในด้านสังคมและเศรษฐกิจในภูมิภาค
ภายหลังการรัฐประหาร กองทัพได้มอบหมายให้มณฑลทหารบกที่ 23 หรือ มทบ.23 เร่งสร้างความเข้าใจให้เกิดขึ้นกับทุกภาคส่วน เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ไว้ใจทหารและคสช. โดยเฉพาะการจัดปรองดองในบ้านเหล่านกชุม ต.ดอนหัน อ.เมือง จ.ขอนแก่น ซึ่งถูกมองว่าเป็น "หมู่บ้านเสื้อแดง" แม้การจัดงานวันนั้นจะเป็นเพียงการดำเนินการตามแผนงานที่ดูฉาบฉวย แต่ชาวบ้านที่มาร่วมงานส่วนใหญ่รู้สึกพอใจ โดยเฉพาะกลุ่มคนชราที่ได้รับการตรวจสุขภาพ แต่ขณะเดียวกันในส่วนของกลุ่มคนที่ไม่เห็นด้วยกับการยึดอำนาจยังหลบอยู่ในมุมมืด เพื่อรอดูท่าทีของทหารต่อไป
จากนั้นอีเวนท์ปรองดองของ มทบ.23 ได้จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องกว่า 20 ครั้ง ตลอดทั้งเดือนมิถุนายน ซึ่งกองทัพได้ดึงภาคเอกชนออกไปมอบสิ่งของ และนำความบันเทิงต่างๆ มอบให้ประชาชน เพื่อให้พวกเขารับรู้ถึงความจริงใจในการทำงานของกองทัพ
เสียงสะท้อนจากคนที่ไปร่วมกิจกรรมอย่าง ธีระพงษ์ อักษร เจ้าของธุรกิจส่วนตัว มองวิธีการปรองดองของทหาร ว่า ทุกวันนี้คนสองฝั่งไม่สามารถคุยกันรู้เรื่อง แต่ละคนเห็นแต่ประโยชน์ส่วนตัวมากกว่าส่วนรวม ดังนั้นหากจะเริ่มการละลายพฤติกรรมความขัดแย้ง ต้องเริ่มจากตัวผู้นำเป็นอันดับแรก
"วิธีการเข้าถึงของทหารด้วยการสร้างเวทีปรองดองในการละลายพฤติกรรมในช่วงที่ผ่านมา นับว่าสามารถเข้าถึงประชาชนได้ในระดับหนึ่ง เพราะข้าราชการกับชาวบ้านห่างเหินกันมาก ซึ่งต่างจากแต่ก่อน ที่จะมีมวลชนสัมพันธ์ของแต่ละหน่วยงานเข้ามาพูดคุย แต่ตอนนี้ปล่อยให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และนักการเมืองท้องถิ่น เข้าถึงชาวบ้านมากกว่า จึงทำให้เกิดการแบ่งพรรคพวก มีหัวคะแนน มีผลประโยชน์การเมืองเข้ามา กิจกรรมที่ทหารทำเป็นกิจกรรมที่ดี และควรทำไปเรื่อยๆ ไม่ใช่สักพักก็หยุด จึงอยากให้หน่วยงานอื่นเข้ามาร่วมด้วย ไม่ใช่ให้มีแต่ทหาร"
ไม่ต่างกันกับเจ้าหน้าที่ อสม.คนหนึ่งของ ต.บ้านเป็ด บอกว่า การเดินสายสร้างเวทีปรองดองมองว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะโดยเนื้อแท้ชาวบ้านไม่ได้มีข้อขัดแย้งอะไรรุนแรง แต่ทั้งหมดขึ้นอยู่กับผู้นำ ดังนั้นทหารหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเข้ามาทำกิจกรรมบ่อยๆ โดยเฉพาะต้องให้ผู้นำชุมชนไปรับฟังปัญหาเหล่านี้ เพราะถ้าแกนนำ ผู้นำชุมชนหยุดความแตกแยก ลูกน้องจะหยุดตาม สุดท้ายจะจบ และนิ่งไป
ข้ามมาที่ จ.ชัยภูมิ ถือเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มีปัญหาขัดแย้งเรื่องแบ่งสีเสื้อชัดเจน ดังนั้นชัยภูมิจึงถือเป็นพื้นที่หลักที่ คสช.ต้องเร่งสร้างความปรองดองอย่างเร่งด่วน
นายนูญ เทียนเงิน วัย 46 ปี ชาวชุมชนเมืองเก่า เขตเทศบาลเมืองชัยภูมิ บอกว่า หลังทหารเข้ามาจัดเวทีปรองดองในพื้นที่ เห็นได้ชัดเจนว่าปัญหาความขัดแย้งเริ่มลดลง เพราะทหารเข้ามาด้วยความแบบเป็นกลาง ไม่ได้เข้าข้างฝ่ายใด หากทหารสร้างความปรองดองในลักษณะอย่างนี้เรื่อยไป ปัญหาความขัดแย้งน่าจะหมดไปได้ แต่ทหารต้องยืนอยู่บนพื้นฐานของการไม่เอื้อประโยชน์ใครฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
มาที่ จ.ร้อยเอ็ด หนึ่งในจังหวัดที่มีแกนนำคนเสื้อแดงหลายคนเข้าไปพัวพันร่วมเป็นหัวหน้าขบวนการ "ขอนแก่นโมเดล" ในช่วงก่อนการรัฐประหาร โดยคนกลุ่มนี้หวังสร้างวีรกรรมความรุนแรงเพื่อให้ประเทศชาติเกิดความวุ่นวาย ร้อยเอ็ดจึงเป็นอีกหนึ่งสมรภูมิที่ทหารจับตาไม่กะพริบ แต่หลังจาก คสช.ยึดอำนาจได้มีคำสั่งให้ทหารลงพื้นที่ เพื่อเข้าไปสร้างความปรองดองให้แก่ประชาชน
นั่นเป็นเพียงกลยุทธ์ของกองทัพในการสร้างความเข้าใจเท่านั้น แต่ในระดับพื้นที่จริงๆ ของ จ.ร้อยเอ็ด โดยเฉพาะพื้นที่ ต.ม่วงลาด ต้องบอกว่า ความขัดแย้งของกลุ่มคนสองสีค่อนข้างรุนแรง โดยครูโรงเรียนประถมคนหนึ่ง กล่าวว่า ความขัดแย้งเกิดจากคนในพื้นที่ลงสมัคร ส.ส.พรรคหนึ่ง แต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง จึงมาปลุกปั่นให้ชาวบ้านแตกแยก ทำให้หมู่บ้านนี้มีแต่เรื่องความขัดแย้ง และที่ผ่านมาคนในหมู่บ้านจะเข้าร่วมการชุมนุมทางการเมืองตลอดทั้งเหลืองและแดง แต่เมื่อทหารยึดอำนาจ เข้ามาในพื้นที่ เพื่อป้องปราม และสร้างความเข้าใจ ทำให้ความขัดแย้งลดลง แต่เป็นการลดลงที่เก็บไว้ในใจ ไม่ได้แสดงออก
"ในฐานะคนในพื้นที่ มองวิธีการแก้ปัญหาคือ ทหารต้องแก้ที่ตัวผู้นำองค์กร ผู้นำชุมชน หัวคะแนน และพวกลิ่วล้อนักการเมืองต่างๆ พวกนี้เมื่อรับเงินมาก็หวังจะสร้างผลงาน ดึงเอาชาวบ้านมาเป็นพวก ปัญหานี้ทหารต้องเข้าใจ และเข้าถึงให้ได้ เพราะนั่นคือรากเหง้าของปัญหาจริงๆ ที่เกิดขึ้นในสังคมชนบท"
นี่คือภาพรวมของประชาชนในพื้นที่ภาคเหนือ และภาคอีสาน ที่มีอยู่จริง เป็นจริง และเกิดขึ้นจริง ดังนั้นแนวคิดการสลายสีเสื้อจะเป็นจริง หรือเป็นได้แต่เพียงภาพความฝัน กองทัพคงต้องใช้เวลาพิสูจน์ เพราะทุกอย่างหยั่งรากลงลึกไปทุกองคาพยพ วันนี้แม้จะต้องใช้เวลานานเพียงใด แต่คนไทยทุกคนยังอยากเห็นภาพความปรองดองเกิดขึ้น ตามคำสัญญา...
ที่มา ; เว็บ นสพ.คมชัดลึก
อัพเดทเรื่องราว - ข้อสอบใหม่ ๆ
เข้าห้องสอบออนไลน์ ( ฟรี)
ห้องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
... ห้องติวสอบผู้บริหาร + การศึกษาพิเศษ
สมัคร ติวสอบผู้บริหารสถานศึกษา ที่
( คลิ๊ก ) สมัครติวสอบผู้บริหารภาค 4 ภาค 30 จุดปี 2557-2558
ฟรี... ห้องติวสอบผู้บริหารสถานศึกษา-ครู-บุคลากรการศึกษา ที่
" ติวสอบดอทคอม " เขียน-สร้าง-บรรยาย โดย (ผอ.นิกร เพ็งลี)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น