- ระบบควบคุมภายใน 2557
- แนวทางการจัดทำรายงานการติดตามประเมินผลการควบคุมภายในประจำปี 2557
ข้อสอบออนไลน์ ( สอบครู - ผู้บริหาร - บุคลากรการศึกษา) ชุดใหม่ล่าสุด
ติวสอบ บน ยูทูป ทั้งหมด ได้ที่
( คลิ๊ก ) สมัครติวสอบผู้บริหารภาค 4 ภาค 30 จุดปี 2557-2558
ดู'นเรศวร'ทะลักสู่ความหวังใหม่-ปลุกใจ-รักชาติ
คสช.เติมความสุขคนไทยดู'นเรศวร'ล้นทะลักสู่ความหวังใหม่-ปลุกใจ-รักชาติ
หลังจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ "คสช." จัดกิจกรรม "คืนความสุขให้คนในชาติ" ร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรม บริษัท พร้อมมิตร โปรดักชั่น จำกัด บริษัท สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด บริษัท สยามพารากอน ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด และโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศ ในการจัดกิจกรรมให้รับชมภาพยนตร์เรื่อง "ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค 5 ยุทธหัตถี" รอบพิเศษ ในวันที่ 15 มิถุนายน 2557 เวลา 11.00 น. ณ โรงภาพยนตร์ทั่วประเทศ โดยสามารถรับบัตรชมภาพยนตร์ฟรีได้ที่หน้าโรงภาพยนตร์
จากการสำรวจ กระแสตอบรับจากโรงภาพยนตร์ในกรุงเทพมหานคร ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.00 น. ณ "พาราไดซ์ ซีนีเพล็กซ์" ศูนย์การค้าพาราไดซ์ พาร์ค บรรยากาศโดยรอบมีประชาชนมายืนรอบริเวณหน้าโรงภาพยนตร์เป็นจำนวนมาก พร้อมได้รับแจ้งจากทางโรงภาพยนตร์ว่า จำนวนบัตรที่เหลือมีเพียงแค่ 50 กว่าที่นั่งเท่านั้น จนมีประชาชนส่วนหนึ่งพูดคุยกันถึงเรื่องบัตรที่นั่ง ซึ่งไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้ชม
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามไปยังเจ้าหน้าที่ทหาร ซึ่งประจำการ ณ จุดดังกล่าว ถึงสาเหตุและข้อเท็จจริง แต่ทางเจ้าหน้าที่ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ โดยกล่าวสั้นๆ ว่า ขอปรึกษาผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องเพื่อหาแนวทางแก้ต่อไป
ในระหว่างนั้น ผู้สื่อข่าวได้สอบถามประชาชนที่มายืนรอ เพื่อรับบัตรชมภาพยนตร์ โดยแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกคือ ประชาชนที่ทราบข่าวว่าจะมีการฉายภาพยนตร์ฟรี แต่ไม่ทราบรายละเอียดที่ชัดเจน และยังไม่ได้รับบัตรเข้าชมภาพยนตร์ ซึ่งเผยความรู้สึกว่า
"การจัดโครงการนี้เป็นเรื่องที่ดี และสามารถคืนความสุขให้คนไทยจริง แต่เมื่อมาถึงบริเวณโรงภาพยนตร์กลับได้รับข้อมูลแจ้งว่า จำนวนบัตรมีไม่เพียงพอ ทำให้เกิดความรู้สึกสองส่วนคือ 1.ประชาชนไม่ทราบข้อมูลที่ชัดเจนจากทาง คสช.ว่ามีรายละเอียดอย่างไรบ้าง 2.ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ชมภาพยนตร์ฟรี แต่รู้สึกว่าทาง คสช.ได้ทำเพื่อประชาชนแล้ว เมื่อจำนวนบัตรไม่พอ เรายินดีที่จะอุดหนุนภาพยนตร์ไทยเรื่องนี้ ตามความตั้งใจเดิม เพราะเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ชาติไทย"
ด้านประชาชนกลุ่มที่สอง เป็นกลุ่มที่ได้รับบัตรชมภาพยนตร์ หญิงสูงอายุท่านหนึ่งจากชุมชนวัดประดู่ เปิดเผยว่า ได้รับบัตรชมภาพยนตร์จากการกระจายข่าวของประธานชุมชนที่ทาง คสช.นำมากระจายให้ในพื้นที่ โดยชี้แจงข้อมูลว่า คสช.มีความตั้งใจแจกบัตรชมภาพยนตร์แก่ประชาชนที่อาจจะมีโอกาสน้อยในการเข้าชมภาพยนตร์ให้ได้รับสิทธิ์ก่อน
ต่อมาเมื่อเวลา 10.30 น. เจ้าหน้าที่จาก คสช.ได้ประสานงานกับโรงภาพยนตร์พาราไดซ์ ซีนีเพล็กซ์ ให้เปิดโรงฉายเพิ่มอีก 1 โรง จากนั้นอีก 30 นาทีต่อมา ทางเจ้าหน้าที่ตัดสินใจเปิดโรงภาพยนตร์เพิ่มอีก 1 โรง รวมทั้งหมดเป็น 3 โรงภาพยนตร์ เพื่อจะฉายในเวลาใกล้เคียงกัน และเพื่อให้ประชาชนที่มารอด้านหน้าโรงภาพยนตร์ได้เข้าชมให้มากที่สุด
ส่วนโรงภาพยนตร์ "เมกา ซีนีเพล็กซ์" ศูนย์การค้าเมกา บางนา พบว่า ประชาชนบางส่วนไปต่อคิวรอที่หน้าห้างสรรพสินค้าตั้งแต่เวลา 06.00 น. และรอจนประตูหน้าห้างเปิด เวลา 10.30 น. ระหว่างนั้นจะมีเจ้าหน้าที่ทหารคอยดูแลความเรียบร้อยของคนที่มารอ ให้เข้าไปรับบัตรชมภาพยนตร์ แต่ปรากฏว่าจำนวนคนที่มารอมีเกือบ 1,000 คน
ขณะที่โรงภาพยนตร์รับได้จำนวนจำกัดเพียง 500 คน จาก 2 โรงภาพยนตร์เท่านั้น ทำให้เกิดความวุ่นวาย มีประชาชนบางส่วนแซงคิว และเกิดเสียงต่อว่าเป็นระยะ เจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาลต้องเข้ามาช่วยเจ้าหน้าที่ทหารในการควบคุมความเรียบร้อย
ด้านผู้จัดการโรงภาพยนตร์เมกา ซีนีเพล็กซ์ เปิดเผยว่า ไม่คิดว่าจำนวนคนที่มารอชมภาพยนตร์จะมีจำนวนมากขนาดนี้ ทำให้ตั้งรับไม่ทัน และเกิดความโกลาหลวุ่นวาย เนื่องจากที่นั่งในโรงภาพยนตร์มีจำนวนจำกัด ทำให้ไม่สามารถรองรับได้ทั้งหมด แต่สุดท้ายประชาชนกว่าครึ่งหนึ่งที่ไม่ได้เข้าชมมีความเข้าใจต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี
"ต่อให้ต้องเสียเงินดู ผมก็ยอมเสียให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ และไม่คิดว่าจะได้ดูฟรี เพราะคนที่มารอชมเยอะมาก ที่ผมมาวันนี้ เพราะตำนานสมเด็จพระนเรศวรฯ เป็นภาพยนตร์ประวัติศาสตร์ที่ติดตามมาทุกภาค ถึงวันนี้จะไม่ได้บัตรรับชมภาพยนตร์ก็ไม่เสียใจ และเข้าใจถึงเจตนาของ คสช.ที่จัดโครงการนี้ขึ้นมา" เสียงสะท้อนจากชายสูงอายุท่านหนึ่ง ที่พลาดการรับบัตรชมภาพยนตร์ฟรี
ในส่วนของโรงภาพยนตร์ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ เอกมัย ประชาชนไปยืนรอตั้งแต่ประตูห้างยังไม่เปิด พอถึงเวลา 10.00 น. ประชาชนขึ้นไป ณ จุดรับบัตร โดยมีการต่อคิวอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ซึ่งทางโรงภาพยนตร์สามารถรองรับผู้ชมได้ 500 ที่นั่ง โดยเวลาผ่านไปไม่ถึง 30 นาที บัตรชมภาพยนตร์หมดลง เจ้าหน้าที่ต้องประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงว่า บัตรหมด และขออภัยที่ทำให้มีผู้ชมบางส่วนพลาดโอกาสในการชมภาพยนตร์รอบดังกล่าว
มาต่อกันที่โรงภาพยนตร์ "เอสเอฟ เวิลด์ ซีนีม่า" ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ประชาชนไปรอชมภาพยนตร์ไม่มากเท่าใด แต่มีบางส่วนที่พลาดโอกาสรับชม ซึ่งถือว่าเป็นส่วนน้อย โดยมีประชาชนจำนวนหนึ่งเดินเข้าไปบอกเจ้าหน้าที่ว่า "ทำไมไม่เพิ่มรอบ ให้เยอะขึ้น" หลังจากได้รับคำชี้แจงก็เข้าใจโดยดี
นอกจากนั้น สถานการณ์ภาพรวมทั่วประเทศในส่วนของ ภาคเหนือ เช่น จ.เชียงใหม่ ที่โรงภาพยนตร์ ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล บรรยากาศการมารับบัตรชมภาพยนตร์เป็นไปด้วยความคึกคัก ด้วยจำนวนประชาชนกว่า 1,000 คน ต่างมุ่งมั่นที่จะเข้าไปรับบัตร ทำให้โรงภาพยนตร์ตัดสินใจเพิ่มที่นั่งเป็น 240 ที่นั่ง แต่ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของประชาชนที่มารอ แต่ไม่มีความวุ่นวายเกิดขึ้น เพราะประชาชนส่วนใหญ่เข้าใจ และยินดีจะเสียเงินชมภาพยนตร์
ส่วนภาคอีสาน จ.นครราชสีมา โรงภาพยนตร์อีจีวีโคราช โควตาทั้งหมดมี 400 ที่นั่ง แต่ผู้คนมานับพัน ทำให้หลายภาคส่วนปรึกษาหารือ พร้อมกับสั่งการให้เพิ่มจำนวนที่นั่ง แต่ไม่เพียงพอต่อความต้องการ ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ต่างแสดงความไม่พอใจ และผิดหวัง และมีการกล่าวโทษเจ้าหน้าที่ หลังจากนั้นก็แยกย้ายกันกลับ โดยไม่มีความวุ่นวายเกิดขึ้น
ภาคใต้ จ.ภูเก็ต แบ่งออกเป็น 3 จุดใหญ่ คือ ณ โรงภาพยนตร์เอสเอฟเอ็กซ์ ซีนีม่า ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล ภูเก็ต โรงภาพยนตร์โคลิเซียม พาราไดซ์ ศูนย์การค้าโอเชี่ยน และเอสเอฟเอ็กซ์ จังซีลอน ป่าตอง โดยภาพรวมทั้งหมดพบว่า ประชาชนไม่พอใจเกี่ยวกับเรื่องบัตรที่มีจำนวนน้อย บางส่วนเลือกตัดปัญหาโดยซื้อตั๋วเข้าชมเองในราคา 160 บาท แต่เกิดเสียความรู้สึกบ้าง เพราะประชาชนที่ตั้งใจมาดูต่างบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่มีการชี้แจงให้ละเอียด ทำให้ต้องเสียเวลาในการทำงาน
ขณะที่ในส่วนของภาคกลางหลายจังหวัด อาทิ นครปฐม ราชบุรี กาญจนบุรี ชลบุรี ฉะเชิงเทรา เพรชบุรี ฯลฯ ต่างประสบปัญหาคล้ายๆ กัน คือบัตรเข้าชมมีจำนวนน้อยไม่เพียงพอต่อกระแสคลื่นมหาชนที่ล้นทะลัก ซึ่งการแก้ปัญหาเป็นไปอย่างโกลาหลวุ่นวาย โดยบางโรงภาพยนตร์ต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าด้วยการขายตั๋วราคาพิเศษสำหรับผู้ที่ต้องการเข้าชม จากราคา 160 บาท เหลือ 70 บาท
ข้ามมาที่อีกหนึ่งกิจกรรมที่ คสช.ร่วมกับกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) จัดขึ้นภายใต้ชื่อ "คืนความสุขสู่ประชาชน" ณ ลวนลุมพินี ที่คลาคล่ำไปด้วยศิลปินและนักแสดง อาทิ "เจมส์" จิรายุ ตั้งศรีสุข, "มิว" นิษฐา จิรยั่งยืน, "บอม" ธนิน มนูญศิลป์, "น้ำฝน" พัชรินทร์ จัดกระบวนพล, "เต๋า" สมชาย เข็มกลัด ฯลฯ บรรยากาศเป็นไปด้วยความสนุกสนาน มีประชาชนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก
ด้าน พ.ต.ต.ศักดิ์สุนทร เปรมานนท์ หรือ "สารวัตรหมี" หวานใจของ น.ส.เขมนิจ จามิกรณ์ หรือ "แพนเค้ก" นางเอกสาวชื่อดัง ร่วมดูแลความเรียบร้อยภายในงาน พร้อมกล่าวว่า กิจกรรมครั้งนี้ถือเป็นความร่วมมือของหลายฝ่าย มีทั้ง กทม. ช่อง 3 และ บริษัท อาร์เอส รวมถึงข้าราชการ ตำรวจ และ ทหาร
"ถือว่าเป็นโครงการที่ตั้งใจจะมอบความสุขให้ประชาชน และเป็นโอกาสที่ดี เพราะผมจะได้เป็นส่วนหนึ่งในผู้มอบความสุขให้ประชาชนด้วย ซึ่งปกติผมไม่เคยร้องเพลงที่ไหน เรียกว่าเป็นครั้งแรกในชีวิต" พ.ต.ต.ศักดิ์สุนทร กล่าว
รวมถึง น.ส.นิภาพร แปงอ้วน หรือ "กระแต อาร์สยาม" ศิลปินจากค่ายอาร์เอส กล่าวว่า มาร่วมงานด้วยความรู้สึกอยากมอบความสุขให้ทุกคน "กระแตเต็มที่แน่นอน พร้อมกับแดนเซอร์ส่วนตัวที่จะมาแดนซ์สะบัด เราอยากเป็นส่วนเล็กๆ ที่จะมอบความสุขคนไทย" น.ส.นิภาพร กล่าว
มาถึงตรงนี้ต้องบอกว่า กิจกรรม "คืนความสุขให้คนในชาติ" ของ คสช. แม้จะไม่ใช่ยาขนานเอกที่จะแก้ปัญหาความเห็นต่างของคนสองฝ่ายให้หมดสิ้นไปในข้ามคืน แต่ต้องยอมรับว่า กิจกรรมดังกล่าวทำให้คนไทยเริ่มเห็นแสงสว่างรำไรของความสุขที่มาพร้อมกับใบหน้าเปื้อนยิ้มตามสไตล์ของชาวสยามได้บ้างแล้ว แม้บางกิจกรรมจะขรุขระไปบ้างก็ตาม...!
ที่มา เว็บ นสพ.คมชัดลึก
อัพเดทเรื่องราว - ข้อสอบใหม่ ๆ
เข้าห้องสอบออนไลน์ ( ฟรี)
ห้องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
... ห้องติวสอบผู้บริหาร + การศึกษาพิเศษ
สมัคร ติวสอบผู้บริหารสถานศึกษา ที่
( คลิ๊ก ) สมัครติวสอบผู้บริหารภาค 4 ภาค 30 จุดปี 2557-2558
ฟรี... ห้องติวสอบผู้บริหารสถานศึกษา-ครู-บุคลากรการศึกษา ที่
" ติวสอบดอทคอม " เขียน-สร้าง-บรรยาย โดย (ผอ.นิกร เพ็งลี)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น