เรื่องใหม่น่าสนใจ 

-ก.ค.ศ.เห็นชอบหลักเกณฑ์เลื่อนวิทยฐานะตามข้อตกลงในการพัฒนางาน (P.A.)

http://tuewsob.blogspot.com/2015/05/pa.html

-ประกาศตั้ง อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา 165 เขต

http://202.143.174.11/personnel/news2011/upfiles/1606.pdf

                    ข้อสอบออนไลน์ ( สอบครู - ผู้บริหาร - บุคลากรการศึกษา) ชุดใหม่ล่าสุด

ProProfs - รอบรู้ 302 รอบรู้ใหม่ + ภาษาอังกฤษที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงาน ชุด 5 » Create A Quiz with ProProfs

 เตรียมสอบ บน ยูทูป ทั้งหมด ได้ที่

  (  คลิ๊ก ) สมัครพัฒนาความรู้

เตรียมสอบผู้บริหารสถานศึกษา (รอบ 2)

https://docs.google.com/forms/d/1bmOsUymrbAPSv1mxB9q_Lu-cMSU9_fZVPxlkACGyxZg/viewform

พ่อคูณสั่งเสียไว้ วอนศิษย์ 'อย่าเสียเจตนากู'

 แพร่คลิปแจง‘บริจาคร่าง’ ขอนแก่นห้ามวัตถุมงคล รอเคลียร์บัญชีเงิน70ล้าน อธิการบดี มข. ห้ามขายวัตถุมงคลเด็ดขาดพร้อมเปิดให้ภาคเอกชนและประชาชนร่วมเป็นเจ้าภาพ เผยวันเดียวยอดบริจาค 1.5 ล้านบาท ด้านเจ้าคณะตำบลกุดพิมาน เชื่อไม่มีคนคัดค้านการแต่งตั้งรักษาการเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ขณะที่นายอำเภอและเจ้าคณะอำเภอด่านขุนทดประชุมเรื่องการดำเนินงานวัดบ้านไร่สรุปให้เจ้าคณะจังหวัดตั้งคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินหลวงพ่อคูณ

หลังการละสังขารของพระเทพวิทยาคม หรือหลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ อายุ 92 ปี เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา เกจิอาจารย์ ชื่อดังภาคอีสาน เมื่อเช้าวันที่ 16 พ.ค.ที่ผ่านมา ส่วนสรีระหลวงพ่อคูณนำไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่ศาลา 25 ปี คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เป็น เวลา 7 วัน ตามที่ระบุไว้ในพินัยกรรมของหลวงพ่อคูณ จากนั้นจะนำไปดองเป็นเวลา 1 ปี เพื่อเป็น “อาจารย์ ใหญ่” ของนักศึกษาแพทย์ตามเจตนารมณ์ของหลวง-พ่อ ขณะเดียวกันเจ้าคณะตำบลกุดพิมานมีคำสั่งแต่งตั้งให้พระภาวนาประชานาถ (นุช รตนวิชโย) รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่

มหาชนแห่สักการะศพแต่เช้า

ศิษยานุศิษย์จากทั่วสารทิศยังคงหลั่งไหลกราบสักการะสรีระหลวงพ่อคูณอย่างล้นหลาม โดยเมื่อช่วงเช้าวันที่ 18 พ.ค. ที่หอประชุมอเนกประสงค์กาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยขอนแก่น สถานที่สวดพระอภิธรรมศพหลวงพ่อคูณ บรรดาพุทธศาสนิกชน ลูกศิษย์ลูกหาของหลวงพ่อคูณจากทั่วประเทศเดินทางเข้ามากราบสักการะสรีระหลวงพ่อคูณ ที่บรรจุอยู่ในโลงแก้ว โดยผู้ที่เข้ามาสักการะจะได้รับแจกดอกบัวสีขาว และพวงมาลัยจากนักศึกษาคณะแพทย-ศาสตร์ ม.ขอนแก่น บริเวณทางเข้าหอประชุมก่อนที่จะต่อแถวเข้ากราบสักการะอย่างเงียบสงบและเรียบง่าย ผู้ที่เข้ามากราบไหว้ศพหลวงพ่อคูณยังได้รับแจกรูปสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าขนาดเท่าโปสเตอร์และโปสการ์ดที่ญาติโยมและลูกศิษย์จัดพิมพ์มาจำนวน 1 แสนใบอีกด้วย

ยัวะมาเช้าไม่ได้สักการะพ่อคูณ

ก่อนหน้านี้ เมื่อเวลา 06.00 น. มีประชาชนจำนวนหนึ่งเดินทางมาจากจังหวัดใกล้เคียงเพื่อเข้าสักการะหลวงพ่อคูณ แต่เมื่อถึงเวลาเปิดหอประชุม คือ 06.00 น. เจ้าหน้าที่กลับยังไม่เปิดหอประชุม อ้างว่าจะเปิดให้เข้ากราบสักการะในเวลา 06.30 น. สร้างความไม่พอใจให้ผู้ที่จะเข้าเคารพศพเป็นอย่างมากจนเกิดการโต้เถียงขึ้นและเดินทางกลับไป

ต่อมาเมื่อเวลา 11.00 น. พระธรรมวิสุทธาจารย์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 9 และเจ้าอาวาสวัดหนองแวง พระอารามหลวง และพระเถรานุเถระจำนวน 10 รูป โดยมีนายสมศักดิ์ ปะริสุทโธ เหมทานนท์ ผวจ.ตรัง เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ร่วมทำพิธีถวายภัตตาหารเพล ท่ามกลางศิษยานุศิษย์เข้าร่วมพิธีจนเต็มความจุของหอประชุม

แหม่มออสซี่ทึ่งบารมีหลวงพ่อ

น.ส.แครี นิวตัน ชาวเมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย หนึ่งในผู้ที่เข้ามากราบสักการะสรีระหลวงพ่อคูณ กล่าวว่า แม้ว่าตนจะนับถือศาสนาคริสต์ แต่ทุกศาสนาสอนให้คนเป็นคนดี ก่อนหน้านี้ไม่เคยรู้จักหลวงพ่อคูณ แต่เมื่อเพื่อนซึ่งทำงานบริษัทเดียวกันได้เล่าเรื่องราวของหลวงพ่อให้ฟัง จึงอยากเข้ามาเคารพศพ เมื่อได้เห็นศรัทธาที่พุทธศาสนิกชนจำนวนมากเข้ามาสักการะ เป็นสิ่งยืนยันว่าบุญบารมีความดีที่หลวงพ่อสะสมไว้ เป็นประโยชน์แก่ผู้คนเป็นจำนวนมาก ไม่นึกว่าจะมีคนมามากเช่นนี้ ตนจะ เก็บภาพแห่งความประทับใจเอาไว้ในความทรงจำ

เชื่อบารมีพ่อคูณช่วยรอดตาย

ขณะที่นายรุ่งเรือง มาเลิศพรสกุล อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 200/9 หมู่ 2 ตำบลท่าศาลา อ.เมือง ลพบุรี ซึ่งมีประสบการณ์รอดตายจากอุบัติเหตุด้วยบารมีของหลวงพ่อคูณ กล่าวว่าเมื่อปี 2539 ตนขับรถปิกอัพจาก จ.นครศรีธรรมราช ช่วงนั้นเป็นเวลา 9 โมงเช้า มาถึงโคราชบริเวณหน้าห้างแม็คโคร เกิดหลับในรถที่ขับมาไปชนกับรถบรรทุกสิบล้อที่จอดอยู่ข้างถนน รถของตนพังยับ ภรรยาที่นั่งมาด้วยบาดเจ็บสาหัส ลูกสาวบาดเจ็บเล็กน้อย ส่วนตนมีบาดแผลที่คิ้วซ้ายและแขนซ้ายรอดตายมาได้อย่างหวุดหวิด เนื่องจากห้อยเหรียญหลวงพ่อคูณ รุ่น 17 และฝั่งตะกรุดของหลวงพ่อที่แขนทั้งสองข้าง เชื่อว่า บารมีของหลวงพ่อคูณช่วยคุ้มครองให้ปลอดภัย

เปิดคลิปคำสั่งเสียตลอดวัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตลอดวัน คณะกรรมการจัดงานศพหลวงพ่อคูณ ได้นำคลิปวีดิโอหลวงพ่อคูณ ที่สั่งเสียไว้เมื่อ 19 มิ.ย.2557 ขณะมีชีวิตอยู่ทั้งเรื่องการปฏิบัติกับร่างหลังมรณภาพ และพินัยกรรมที่ได้จัดเตรียมไว้ ความยาว 14.57 นาที ซึ่งมีผู้นำมาเผยแพร่ในเฟซบุ๊กชื่อ Pakchee Royna ระบุว่า “เป็นคำสั่งสุดท้าย หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ ยังไม่เคยมีใครเห็น ออกสู่สาธารณะเป็นครั้งแรก” มาเปิดให้กับญาติโยมที่มาร่วมงานได้รับฟัง ช่วงหนึ่งหลวงพ่อคูณกล่าวว่า “วันนี้เป็นวันดี เป็นมหามงคล อันใหญ่หลวง จะได้มาพูดถึงเรื่องซากศพ อนิจจัง วัฏสังขารา สังขารทั้งหลายไม่เที่ยงหนอ เกิดขึ้นก็ดับได้เป็นของธรรมดา จะให้เที่ยงแท้แน่นอนไม่มี ลูกหลานเอ้ย กูก็นึกได้ว่าอยากสร้างบารมีในเรื่องเอาศพไปฝาก รพ.ขอนแก่น นึกได้เมื่อไรกูก็ดีใจ จะเป็นฝ่ายบิดา มารดา วงศาคณาญาติพี่น้อง ไม่เคยมีใครฝากศพ กูก็มานึกดูว่าอยากจะสร้างบารมี บริจาคศพดีกว่าเอาไปเผาทิ้ง ให้เขาเอาไปเป็นทาน หาเหตุผลในเรื่องแพทย์ กูอยากสร้างบารมี ลูกหลานเอ้ย”

ย้ำ “อย่าให้เสียเจตนาของกู”

ในช่วงหนึ่งของคลิป หลวงพ่อคูณกล่าวถึงการจัดการร่างสังขารหลังมรณภาพ ว่า “เมื่อกูหมดชีวิต หมดลมหายใจเข้าออกแล้ว พวกมึงก็อย่าได้หน่วงเหนี่ยวเลย ให้เขาไปเถอะ มันจะเสียเจตนาของกู มึงเอาไว้ได้ก็อย่าให้เกิน 7 วัน เกิน 7 วันไม่ได้ดอก อย่างมากสุดแค่ 7 วันก็พอแล้ว พี่น้องจะพากันมาถวายน้ำสรง จะมาหรือจะไม่มา ถ้าไม่มีคนมาก็ส่งไปเลย แต่ถ้ามีคนมาก็ให้รออีก 7 วัน แล้วค่อยส่งไป อย่าให้เสียเจตนาของพี่น้องลูกหลาน กูก็ไม่ตัดเลือดเส้นขาดอะไร ยังเป็นห่วงลูกหลานด้วยกัน กูบริจาคไป พวกมึงควรจะโมทนากับกู ทำบุญร่วมกับกูเถอะลูกหลานเอ้ย ทุกอย่างเกิดมาแล้วดับไปเป็นธรรมดา มันไม่เที่ยงแท้แน่นอนดอก หมู่พวกเพื่อนฝูงญาติมิตรสหาย เมื่อเวลาดับชีพ หมดลมหายใจแล้ว เขาไปส่งได้แค่เมรุ จะไปสู่สุขคติ หรือทุคติ ขึ้นอยู่กับตัวเอง บุญทานการกุศลที่เราได้สร้างได้ทำจะประคับประคองเราไป ตัวบุญเป็นตัวสำคัญที่จะนำไปสู่สุคติ ขอให้ช่วยกันสร้างคุณงามความดี อย่าเนรคุณต่อประเทศชาติบ้านเมือง”

ลูกศิษย์ต่างยกมือไหว้อนุโมทนา

ส่วนช่วงท้ายคลิป ได้กล่าวถึงพระและญาติโยมที่มาสักการะศพ ว่า “พระที่มาในงานศพของกู มึงก็รู้อยู่แล้วว่าความตายเป็นของธรรมดา ท่านก็รู้อยู่แล้วเน้อ ญาติโยมพี่น้องที่มาจากใกล้ไกล อย่ามาร้องไห้ ร้องไปก็ไม่ได้คืน ให้ปลงอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ตามๆกันไปเถอะ อย่าได้นั่งร้องไห้พิรี้พิไร คนร้องตาม กูก็ตาย ไม่อยู่ไปได้แค่ไหนดอก อยู่ไปได้ไม่พอ 100 ปี 1,000 ปี เดี๋ยวก็ตายแบบกู มาร้องไห้ตามกู ก็ไม่มีโอกาสได้ฟื้นมาคุยกับพวกมึงดอก ให้พวกมึงสร้างคุณงามความดี เอาอย่างกูนี่เน้อ ทำไม่ได้ก็ให้พยายามรักษาศีล 5 ศีล 8 ไปเถอะ จะได้เป็นพาหนะขับขี่ไปในทางทุรกันดาร” เมื่อลูกศิษย์ได้รับฟังต่างพากันยกมือไหว้พร้อมกล่าวคำว่า “สาธุ”

19 พ.ค.นี้จัดสวด 2 รอบ

รศ.ดร.กิตติชัย ไตรรัตนศิริชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น พร้อมด้วย รศ. นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มข. แถลงข่าวภาพรวมการจัดพิธีสวดพระอภิธรรมสรีระสังขารพระเทพวิทยาคม หรือหลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ ว่าการจัดกิจกรรมวันแรกที่ผ่านมายังติดขัดเล็กน้อย โดยในช่วงระหว่างรอสวดพระอภิธรรม จึงได้ปรับเปลี่ยนโดยนำวีดิทัศน์ของหลวงพ่อคูณที่แสดงถึงเจตนารมณ์การมอบร่างเพื่อเป็นครูใหญ่ มาฉายให้ประชาชนรับฟังเพื่อสร้างความเข้าใจถึงเจตนารมณ์ที่ชัดเจนขึ้น ส่วนปัญหาด้านปริมาณผู้ที่มาร่วมงานที่มีจำนวนมากจนล้นออกจากหอประชุมที่มาความจุราว 10,000 คน ทางมหาวิทยาลัยขอความร่วมมือภาคเอกชนนำจอแอลซีดีขนาดใหญ่สามเครื่องมาติดตั้งด้านข้างและด้านหน้าหอประชุม เพื่อให้ประชาชนได้เห็นความเคลื่อนไหวของพิธีการ สำหรับในวันที่ 19 พ.ค.จะจัดสวดพระอภิธรรมสรีระสังขารรอบพิเศษในเวลา 14.00 น. เนื่องจากจะมีเจ้าภาพจากจังหวัดนครราชสีมา ทั้งคหบดี พระสงฆ์ และประชาชนชาวโคราชกว่า 40 คันรถบัสมาร่วมพิธี

ห้ามขายพระ–วัตถุมงคลใน มข.

รศ.ดร.กิตติชัยกล่าวว่า ส่วนการดูแลรักษาความปลอดภัย มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของมหาวิทยาลัยขอนแก่น ทหารและตำรวจร่วมกันดูแลพื้นที่โดยรอบ ห้ามจำหน่ายวัตถุมงคล เครื่องรางของขลังภายในเขตมหาวิทยาลัยตามเจตนารมณ์ของหลวงพ่อคูณ สำหรับกรณีที่ศิษยานุศิษย์และประชาชนผู้มีจิตศรัทธาหลวงพ่อคูณบางส่วนที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด ร้องขอให้ทางมหาวิทยาลัยเปิดศูนย์ประชุมฯ ให้ได้สักการะก่อนเวลา 06.00 น. นั้น ขอเรียนว่าทางมหาวิทยาลัยไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากเป็นเรื่องของการรักษาความปลอดภัยร่างสรีระสังขารหลวงพ่อคูณและอาคารสถานที่ ขอประชาชนที่มาร่วมพิธีได้เข้าใจ และเข้าร่วมพิธีตามเวลาที่กำหนด

ให้ประชาชนร่วมเป็นเจ้าภาพ

รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่า ที่ประชุมร่วมคณะกรรมการวัดบ้านไร่, มหาวิทยาลัยขอนแก่น รวมทั้งจังหวัดขอนแก่น และนครราชสีมา ได้มีมติเปิดโอกาสให้ประชาชนรวมถึงหน่วยงานต่างๆ ร่วมเป็นเจ้าภาพ ในการสวดพระอภิธรรมบำเพ็ญกุศลหลวงพ่อคูณ ซึ่งกำหนดให้การประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลต่อเนื่อง ไปจนถึงวันที่ 23 พ.ค. โดยสามารถติดต่อได้ที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ คณะแพทยศาสตร์ รวมทั้งกองสื่อสาร องค์กรมหาวิทยาลัยขอนแก่น คาดว่าในแต่ละวันจะมีทั้งพระสงฆ์และประชาชน รวมทั้งลูกศิษย์หลวงพ่อคูณเข้ามาสักการะและขอขมาศพไม่ต่ำกว่า 15,000 คน และยังคงมีญาติธรรมจำนวนมากแสดงความจำนงเข้ามาตั้งโรงทานบริการอาหารให้ฟรีอีกด้วย

วันเดียวเงินบริจาค 1.5 ล้าน

คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มข. กล่าวว่า สำหรับเงินบริจาคที่ศิษยานุศิษย์และประชาชนผู้มีจิตศรัทธาหลวงพ่อคูณ ร่วมบริจาคทำบุญในงานบำเพ็ญกุศลสวดอภิธรรมสรีระสังขารหลวงพ่อคูณ ขณะนี้มียอดเงินจากการบริจาคเมื่อวันที่ 17 พ.ค. เป็นเงินทั้งสิ้น 1 ล้าน 5 แสนบาท หากประชาชนท่านใดประสงค์จะร่วมบริจาคเพิ่มเติมระหว่างงานบำเพ็ญกุศลสามารถ กระทำได้ผ่าน 3 ช่องทาง คือ 1.โต๊ะรับบริจาคในศูนย์ประชุมฯ ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ของทางมหาวิทยาลัยคอยรับเงินบริจาคและออกใบเสร็จรับเงิน 2.กล่องรับบริจาคที่ติดรูปหลวงพ่อคูณ ตั้งอยู่ในบริเวณโดยรอบศูนย์ประชุมฯ

เปิดบัญชีรับบริจาคงานสวดศพ

รศ.นพ.ชาญชัยกล่าวต่อว่า ส่วนช่องทางที่ 3 ผ่านบัญชี ธนาคาร 4 บัญชี ได้แก่ ธนาคารไทยพาณิชย์สาขาศูนย์คอมเพล็กซ์ ม.ขอนแก่น บัญชีเดินสะพัด เลขบัญชี 793-300199-9 ชื่อบัญชีกองทุนหลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ มูลนิธิคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ธนาคารกรุงเทพ สาขา เทสโก้โลตัส ขอนแก่น 2 บัญชีเดินสะพัด เลขบัญชี 631-350022-2 ชื่อบัญชี กองทุนหลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ มูลนิธิคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขามหาวิทยาลัยขอนแก่น บัญชีกระแสรายวัน เลขบัญชี 438-0-00119-1 ชื่อบัญชี กองทุนหลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ มูลนิธิคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ทั้งนี้ เงินบริจาคที่เหลือจากการหักค่าใช้จ่ายงานบำเพ็ญกุศลทั้งหมด จะนำไปจัดตั้งกองทุนช่วยเหลือพระภิกษุอาพาธ ที่มารักษาตัวในโรงพยาบาลศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ต่อไป

ย้ำทำทุกอย่างตามพินัยกรรม

ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายแสดงความกังวลและห่วงใยเรื่องการเปิดให้ศิษยานุศิษย์และผู้มีจิตศรัทธาหลวงพ่อคูณ เข้าสักการะสรีระสังขารหลวงพ่อคูณในช่วงระหว่างการดองร่างเป็นเวลา 1 ปีว่าเป็นการไม่เหมาะสมอาจมีการหาผลประโยชน์และอาจสร้างความเสื่อมเสียเกียรติให้กับหลวงพ่อคูณนั้น รศ.นพ.ชาญชัยกล่าวว่า เรื่องนี้ทางคณะแพทย์ปรึกษาหารือมาโดยตลอด ในเบื้องต้น คณะแพทย์ตัดสินใจสร้างอ่างแก้วดองร่างหลวงพ่อคูณเป็นการเฉพาะ จากปกติจะต้องถูกเก็บไว้ในอ่างแก้ว รวมกับร่างอาจารย์ใหญ่ท่านอื่นๆ และนำร่างหลวงพ่อคูณเก็บไว้ที่ห้องปฏิบัติการกายวิภาค ชั้น 4 ของคณะแพทย์ โดยจะมีการวางไว้บนแท่นที่มีการยกสูงเป็นการเฉพาะ ส่วนเรื่องการจะเปิดให้ศิษยานุศิษย์และประชาชนผู้มีจิตศรัทธาหลวงพ่อคูณเข้าสักการะหรือไม่นั้น อาจจะต้องหารือกับผู้ที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง เพื่อไม่ให้เกิดปัญหากระทบต่อเกียรติของหลวงพ่อคูณ และเป็นไปตามพินัยกรรม

ดองศพหลวงพ่อคูณทั้งจีวร

ในบ่ายวันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่สาขาวิชากายวิภาคศาสตร์ เพื่อสอบถามความคืบหน้าในการจัดทำอ่างสเตนเลสสำหรับใช้ดองศพหลวงพ่อคูณ โดย ผศ.ยรรยง ทุมแสง หัวหน้าภาควิชากายวิภาคศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ กล่าวว่า หลังสวดศพหลวงพ่อคูณ ครบ 7 วัน ภาควิชาจะรับร่างหลวงพ่อคูณมาที่คณะแพทยศาสตร์ เพื่อนำร่างมาดองด้วยอ่างพิเศษที่ทำด้วยสเตนเลสแบบพิเศษ ประดับลวดลายทั้งแท่นและฐาน ที่ดองเฉพาะร่างของหลวงพ่อคูณเพียงร่างเดียว ซึ่งปกติการดองศพจะใช้ลักษณะของการดองรวมประมาณ 8-10 ร่างอาจารย์ใหญ่ โดยร่างของหลวงพ่อคูณจะดองไว้ 1 ปีนับตั้งแต่วันที่ลงอ่าง เมื่อครบกำหนดแล้วจะนำเข้าห้องปฏิบัติการ เพื่อศึกษาด้วยวิธีชำแหละ ทั้งนี้ การดองร่างของหลวงพ่อคูณนั้นจะดองทั้งร่างที่ยังห่มจีวร และจะตรวจสอบโดยตลอดว่าการห่มจีวรจะมีผลกระทบอย่างไรกับร่างหลวงพ่อคูณหรือไม่

เปิดให้เคารพศพระหว่างการดอง

ผศ.ยรรยงกล่าวต่อว่า หลังจากนำร่างของหลวงพ่อคูณไปดองแล้ว จะเปิดให้ประชาชนที่เคารพศรัทธาหลวงพ่อคูณเข้ามาเคารพศพของหลวงพ่อในขณะที่อยู่ระหว่างการดอง โดยเตรียมห้องไว้ที่คณะแพทยศาสตร์ ชั้น 7 ห้องพิพิธภัณฑ์ใหญ่ไว้แล้ว คิดว่าน่าจะเพียงพอและสะดวกพอสำหรับที่ประชาชนจะเข้ามาเคารพสักการะ แต่หากมีประชาชนมาเป็นจำนวนมาก จะพิจารณาสถานที่ที่กว้างขวางเพื่อรองรับศิษยานุศิษย์ของหลวงพ่อคูณ โดยร่างของหลวงพ่อคูณ จะถูกใช้เป็นร่างที่อาจารย์ใช้สาธิตให้นักศึกษานำไปทดลองกับร่างอาจารย์ใหญ่ของนักศึกษา เมื่อดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะจัดรูปร่างโครงสร้างของหลวงพ่อคูณให้เป็นดังเดิม และจะผ่าตัดร่างให้เหลือร่องรอยน้อยที่สุด โดยจะใช้เวลาดอง 1 ปี และเวลาในการศึกษา 2 ปี

ยันไม่ใช่ทำเพื่อหาประโยชน์

ผู้สื่อข่าวถามว่า ไม่กลัวข้อครหาว่า นำร่างหลวงพ่อคูณมาหาผลประโยชน์หรือ หน.ภาควิชากายวิภาค กล่าวว่า ขอยืนยันว่าการเปิดให้ประชาชนเข้ามากราบไหว้ในคณะนั้น จะไม่มีการเรียกรับผลประโยชน์แต่อย่างใด สิ่งที่ทำเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ของหลวงพ่อคูณ ซึ่งสิ่งที่ทำนั้นทำในเชิงวิชาการ ไม่ได้ทำเพื่อประโยชน์ ส่วนร่างของหลวงพ่อนอกจากประโยชน์ทางด้านวิชาการแล้ว จะสอนเรื่องศีลธรรม และการเสียสละให้กับสังคมสั่งสอนให้นักเรียนแพทย์ได้เรียนรู้จรรยาทางสังคมด้วย

ไม่เชื่อศพหลวงพ่อลืมตา

ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า หลวงพ่อท่านละสังขารเมื่อวันที่ 15 พ.ค.ที่วัดบ้านไร่ ก่อนที่จะนำส่ง รพ.มหาราชนครราชสีมา ซึ่งเกินเวลา 24 ชั่วโมงแล้วจะมีผลกระทบกับการดองศพหรือไม่ ผศ.ยรรยง ตอบข้อสงสัยนี้ว่า หลวงพ่อคูณมรณภาพในวันที่ 16 พ.ค.ตามที่คณะแพทย์ รพ.มหาราชแถลง ไม่มีผลต่อการดองสรีระท่านแต่อย่างใด เพราะหลังจากมรณภาพแล้วตนต้องรีบนำศพไปที่คณะแพทย์ มข.ทันที ซึ่งต้องขอโทษชาวโคราชที่ต้องการจะเคารพศพมา ณ ที่นี้ด้วย ส่วนข่าวลือเรื่องหลวงพ่อคูณลืมตาหลังจากเสียชีวิต เบื้องต้นคิดว่าไม่น่ามีความเป็นไปได้หากมองในเชิงวิชาการและร่างกายก็ไม่น่ากระตุกได้ เพราะตนอยู่กับร่างของหลวงพ่อคูณมาโดยตลอด

ใช้อ่างสเตนเลสพิเศษดองร่าง

ต่อมานายภัทรพงศ์ พิมพ์ทอง ตัวแทนบริษัท กนกไทย กรุ๊ป ได้นำแบบร่างอ่างสเตนเลสพิเศษที่จะนำมาใช้ดองสรีระหลวงพ่อคูณ มาให้ ผศ.ยรรยง ได้ดู โดยอ่างดังกล่าวเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าเหมือนกับโลงศพ ขนาดความกว้าง 60 เซนติเมตร สูงเฉพาะอ่างไม่รวมล้อ 65 เซนติเมตร ยาว 180 เซนติเมตร โดยจะมีการแกะสลักลวดลายไทยด้านนอกด้วย ตัวแทนบริษัท กนกไทย กรุ๊ป กล่าวว่า นำแบบมาเสนอให้กับทางสาขาวิชากายวิภาคดู และตกลงสั่งทำแล้ว ผู้สื่อข่าวถามว่า อ่างดองศพหลวงพ่อคูณมีลักษณะพิเศษอย่างไร นายภัทรพงศ์กล่าวว่า ปกติอ่างดองศพจะดองรวมอ่างหนึ่งประมาณ 7-8 ศพ แต่ของหลวงพ่อคูณจะใช้ดองร่างของท่านเพียงรูปเดียว และสเตนเลสที่ใช้เป็นชนิดพิเศษที่หนากว่าปกติด้วย ส่วนราคานั้นปกติจะอยู่ในราว 5-6 หมื่นบาท แต่ของหลวงพ่อคูณยังไม่ได้กำหนดราคา สิ่งที่เป็นกังวลคือลวดลายอาจจะไม่ค่อยละเอียด เนื่องจากเวลาจำกัด คือต้องให้เสร็จในวันเสาร์ที่ 23 พ.ค.นี้

นักเรียนสวดส่งวิญญาณหลวงพ่อ

ที่โรงเรียนราชสีมาวิทยาลัย อ.เมืองนครราชสีมา เช้าวันเดียวกัน นายบุญเลิศ พ่วงเพ็ชร ผอ.ร.ร.ราชสีมาวิทยาลัย พร้อมคณะครู และเด็กนักเรียนชั้นมัธยม 1-6 กว่า 4,000 คน ร่วมแสดงความไว้อาลัยแด่หลวงพ่อคูณ ด้วยการนั่งสมาธิภาวนา ระลึกถึงบารมีหลวงพ่อคูณ พร้อมทั้งสวดมนต์ภาวนาอธิษฐานส่งดวงวิญญาณหลวงพ่อคูณเข้าสู่นิพพาน และทำพิธีสักการะรูปหล่อเหมือนหลวงพ่อคูณขนาดเท่าองค์จริง ที่ประดิษฐานภายในอาคารธรรมสถานของโรงเรียน ซึ่งหลวงพ่อคูณสร้างขึ้นเมื่อวันที่ 20 ก.ค.2539 ทั้งนี้โรงเรียนราชสีมาวิทยาลัยเป็นโรงเรียนมัธยมชายล้วนประจำจังหวัด โดยหลวงพ่อคูณได้ให้การอุปถัมภ์ด้วยการมอบทุนการศึกษาให้แก่นักเรียนที่เรียนดี แต่ฐานะยากจนมาตั้งแต่ปี 30 เป็นเงินปีละหลายล้านบาท พร้อมทั้งสนับสนุนเงินทุนก่อสร้างห้องคอมพิวเตอร์สำหรับการเรียน-การสอน และมอบเงินสนับสนุนกิจกรรมต่างๆของโรงเรียน สร้างความเลื่อมใสศรัทธาแก่คณะครูและนักเรียนศิษยานุศิษย์โดยถ้วนหน้ากัน

เตรียมรถทัวร์ส่งญาติโยมร่วมพิธี

ด้านนายธงชัย ลืออดุลย์ ผวจ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า จังหวัดนครราชสีมาได้จัดรถทัวร์กว่า 10 คันไว้บริการพี่น้องประชาชนศิษยานุศิษย์ที่มีความประสงค์จะเดินทางไปร่วมกราบสักการะร่างของหลวงพ่อคูณและร่วมพิธีสวดอภิธรรม โดยรถจะออกตั้งแต่ 14.00 น.ของทุกวัน ในช่วงที่มีการสวดอภิธรรม โดยมาขึ้นรถที่สนามหน้าศาลากลาง จังหวัดนครราชสีมา

ไม่เชื่อมีต้านรักษาการเจ้าอาวาส

ที่วัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา เช้าวันเดียวกัน พระครูพีรเดชธำรง เจ้าคณะตำบลกุดพิมาน กล่าวถึงกระแสข่าวลูกศิษย์หลวงพ่อคูณบางส่วนไม่เห็นด้วยกับการรีบแต่งตั้งรักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ว่าน่าจะเป็นเพียงข่าวลือ เพราะยังไม่เห็นมีใครเข้ามาร้องเรียน สำหรับพระภาวนาประชานาถ หรือพระปลัดนุช รตนวิชโย เป็นพระนักพัฒนาเหมือนหลวงพ่อคูณ เป็นผู้ที่ร่วมสร้างวัดบ้านไร่กับหลวงพ่อคูณมาตั้งแต่ต้น แต่เพื่อความสะดวกแก่การประสานงานต่างๆ ท่านได้ลาสิกขาบทไประยะหนึ่งและเมื่อสร้างศาสนสถานต่างๆในวัดบ้านไร่เสร็จ ท่านกลับมาอุปสมบทใหม่อีกรอบและอยู่ช่วยงานหลวงพ่อคูณเหมือนกับเป็นเลขานุการประจำตัวอีกหลายพรรษา ก่อนจะย้ายไปจำพรรษาที่วัดหนองบัวทุ่ง ต.ตาจั่น อ.คง จ.นครราชสีมาและสร้างวัดจนมีชื่อเสียงโด่งดัง โดยเฉพาะเรื่องห้องน้ำทองคำ ที่เคยเป็นข่าวไปทั่วประเทศ ต่อมาได้ย้ายไปเป็นที่ปรึกษาวิหารหลวงปู่โต อ.สีคิ้ว

สงสัยคนต้านกลัวเสียประโยชน์

ขณะที่นายธวัฒน์ชัย แสนประสิทธิ์ หรือกำนันป่อง กำนัน ต.กุดพิมาน กรรมการวัดบ้านไร่ กล่าวว่า ไม่ทราบว่าใครเป็นคนคัดค้านแต่สงสัยว่าคัดค้านเพราะอะไร เพราะกลัวเสียผลประโยชน์หรือกลัวเสียอำนาจตนไม่ทราบจริงๆ ส่วนเรื่องทรัพย์สินหลวงพ่อคูณ ในส่วนที่เป็นของใช้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นบาตรจีวร หรืออื่นๆ แม้กระทั่งน้ำปัสสาวะ น้ำล้างเท้าหลวงพ่อคูณครั้งสุดท้าย ตนได้นำมาจัดตั้งไว้ในห้องกระจกปลอดเชื้อจุดที่หลวงพ่อคูณนั่งต้อนรับญาติโยมทั้งหมด เพื่อให้ลูกศิษย์ได้ชมหรือกราบไหว้บูชา ยังไม่มีใครมายื้อแย่งไปเป็นของตัวเองแต่อย่างใด

เตือนยึดคำสอนพ่อคูณ “ปล่อยวาง”

ด้านนายสมบูรณ์ โสตถิอนันต์ หรือไก่โต้ง ลูกศิษย์ใกล้ชิดหลวงพ่อคูณ กล่าวถึงเรื่องเดียวกันว่า ตนยึดคำสอนหลวงพ่อคูณให้ปล่อยวาง อย่ายึดติดใดๆ ร่างกายของท่านยังไม่ให้เก็บแม้แต่อังคารยังให้ไปลอยแม่น้ำโขง ตนไม่รู้ว่าจะยื้อแย่งยึดติดกันไปทำไม ขณะที่คนยังแห่ไปเช่าวัตถุมงคลบนศาลาการเปรียญวัดบ้านไร่ตลอดเวลา เพื่อนำไปเก็บไว้เป็นที่ระลึกและเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว

ประชุมจัดสวดอภิธรรมวัดบ้านไร่

ต่อมาในช่วงบ่าย ที่ศาลาการเปรียญวัดบ้านไร่ นายศักดิ์สิทธิ์ สกุลลิขเรศสีมา นายอำเภอด่านขุนทด และพระครูศรีปริยัติพิสุทธิ์ เจ้าอาวาสวัดด่านใน เจ้าคณะอำเภอด่านขุนทด ร่วมกันเป็นประธานการประชุมเรื่องการดำเนินการหลังหลวงพ่อคูณละสังขารโดยมีพระสงฆ์จากวัดต่างๆในอำเภอด่านขุนทด 158 รูป หัวหน้าส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ประชาชนเข้าร่วมประชุมกว่า 200 คน โดยใช้เวลาพูดคุยกันเกือบ 2 ชม. ได้ข้อสรุปว่า ให้มีประชาชนรวมตัวกันไปฟังสวดพระอภิธรรมที่ จ.ขอนแก่นทุกวัน ให้จัดระเบียบเจ้าภาพการสวดพระอภิธรรมที่วัดบ้านไร่ทุกวันโดยแจ้งความประสงค์ที่แผนกเสมียนตราอำเภอด่านขุนทด ส่วนเรื่องการจัดการภายในวัดบ้านไร่รวมทั้งเรื่องทรัพย์สินหลวงพ่อคูณ จะต้องให้เจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาคณะหนึ่งเพื่อดำเนินการตรวจสอบต่อไป หลังจากการทำบุญครบ 7 วันให้เจ้าอาวาสวัดต่างๆในอำเภอด่านขุนทดที่หลวงพ่อคูณบริจาคเงินก่อสร้างจัดสวดพระอภิธรรมตามสมควร

เจ้าคณะอำเภอสั่งงดให้ข่าว

ส่วนเรื่องที่มีกระแสคัดค้านการแต่งตั้งผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่นั้น พระครูศรีปริยัติพิสุทธิ์ เจ้าคณะอำเภอด่านขุนทด กล่าวว่า เป็นอำนาจหน้าที่ของเจ้าคณะตำบลกุดพิมานโดยความเห็นพร้อมของชาวบ้านไร่ส่วนใหญ่เห็นชอบ สามารถทำได้ขณะนี้งดให้การให้ข่าวแก่สื่อมวลชนทุกแขนง จนกว่าจะครบ 7 วันไปแล้วเท่านั้น ส่วนกรณีที่ท่านยังไม่มาปฏิบัติหน้าที่นั้นขณะนี้ท่านติดกิจนิมนต์เดิมอีกมาก ท่านพร้อมเมื่อไรคงจะมาปฏิบัติหน้าที่ที่วัดบ้านไร่ต่อไป

แจง 3 บัญชีเงินฝากวัดบ้านไร่

ด้านนายธวัช เรืองหร่าย หรือวัดร้าง ไวยาวัจกรวัดบ้านไร่ ลูกศิษย์ใกล้ชิดหลวงพ่อคูณ เผยถึงบัญชีทรัพย์สินต่างๆในวัดบ้านไร่ว่ามี 3 บัญชี คือบัญชีส่วนตัวของพระเทพวิทยาคม หลวงพ่อคูณปริสุทฺโธ เงินจะมาจากการบริจาคภายในตู้บริจาควัดบ้านไร่ทั้งหมด หลวงพ่อคูณเป็นคนลงนามเบิกเงินได้เพียงคนเดียว เงินที่นำเข้าบัญชีจะต้องหักค่าใช้จ่ายต่างๆ ภายในวัดบ้านไร่ทั้งหมด เมื่อได้มาท่านก็บริจาคให้สาธารณประโยชน์ไป ทราบว่าเหลือเงินในบัญชีประมาณ 2-3 แสนบาท นอกจากนี้ ยังมีบัญชี 90 ซึ่งหลวงพ่อตั้งใจจะนำถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อได้ครบ 100 ล้านบาท เงินส่วนนี้ได้มาจากการสร้างวัตถุมงคล ตั้งมาประมาณ 2-3 ปีเท่านั้น มีเงินในบัญชีประมาณ 17 ล้านบาท ผู้มีอำนาจในการเบิกจ่ายมี 3 คน คือ พล.ต.ต.มหัคฆพันธุ์ สุรคุปต์ ประธานกรรมการวัดบ้านไร่ ตน และนายสมบูรณ์ โสตถิอนันต์ หรือไก่โต้ง เลขานุการคณะกรรมการวัดบ้านไร่ และบัญชีพิพิธภัณฑ์หลวงพ่อคูณรายได้จากการบริจาคในพิพิธภัณฑ์ทั้งหมดหลังหักค่าใช้จ่ายจะนำเข้าบัญชีนี้มีเงินประมาณ 6-7 ล้านบาท ผู้ที่มีอำนาจลงนามเบิกจ่ายมี 3 คนคือ ตน นายธวัฒน์ชัย แสนประสิทธิ์ กำนัน ต.กุดพิมาน และนายสมบูรณ์ โสตถิอนันต์

มูลนิธิหลวงพ่อคูณมีเงิน 47 ล้าน

นายธวัชเปิดเผยอีกว่า ส่วนวิหารเทพวิทยาคมซึ่งเป็นวิหารกลางน้ำ ได้มีการใช้ชื่อบัญชีมูลนิธิหลวงพ่อคูณ ที่นายเกรียงไกร จารุทวี ผู้บริหารกิจการวิหารเทพวิทยาคมดูแลเพียงคนเดียวไม่ทราบว่ามีเงินอยู่เท่าไหร่ และมีบัญชีมูลนิธิหลวงพ่อคูณที่ทางจังหวัดเป็นผู้ดูแลทราบว่ามีเงินอยู่ประมาณ 47 ล้านบาท ทั้งนี้ หลังเสร็จภารกิจบำเพ็ญกุศลหลวงพ่อคูณที่จังหวัดขอนแก่น จะมีการหารือกันโดยจะนัดประชุมผู้ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเจ้าคณะจังหวัดเป็นประธานเพื่อดูแลจัดการเรื่องทั้งหมด รวมถึงการแต่งตั้งเจ้าอาวาสคนใหม่ด้วยซึ่งคณะกรรมการวัดบ้านไร่และตำแหน่งต่างๆในวัดบ้านไร่ ก็ถือว่าสิ้นสุดเมื่อหลวงพ่อคูณได้มรณภาพลงเช่นกัน

แจงตั้งรักษาการเจ้าอาวาส

นายพนม ศรศิลป์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวถึงกระแสการคัดค้านการแต่งตั้งพระภาวนาประชานาถ (นุช รตนวิชโย) เป็นรักษาการเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ว่า เรื่องนี้เป็นอำนาจทางการปกครองคณะสงฆ์ใน จ.นครราชสีมา แต่ได้สอบถามไปยังเจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา และเลขานุการเจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา ได้ยืนยันเรื่องนี้พร้อมกับส่งประวัติพระภาวนาประชานาถมาให้ พศ.ด้วย การแต่งตั้งดังกล่าวเป็นไปตามขั้นตอนของการพิจารณาแต่งตั้งพระสังฆาธิการโดยเจ้าคณะตำบลเสนอไปยังเจ้าคณะอำเภอ จากนั้นเจ้าคณะอำเภอ เสนอต่อเจ้าคณะจังหวัดตามลำดับ โดยเจ้าคณะตำบลพิจารณาแล้วเห็นว่า พระภาวนาประชานาถเป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ เคยทำงานรับใช้ใกล้ชิดหลวงพ่อคูณมาก่อน เห็นว่าเหมาะสมที่จะแต่งตั้งให้เป็นรักษาการเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ อย่างไรก็ตาม หากมีการร้องเรียนต่อเจ้าคณะผู้ปกครอง เช่น เจ้าคณะอำเภอ หรือเจ้าคณะจังหวัด เชื่อว่าเจ้าคณะผู้ปกครองท่านจะสามารถชี้แจงทำความเข้าใจถึงเหตุผลการแต่งตั้งดังกล่าวได้

ประชาชนร่วมงานล้นหอประชุม

ต่อมาในช่วงเย็น มีประชาชนเดินทางเข้ามาร่วมฟังพระสงฆ์สวดพระอภิธรรมหลวงพ่อคูณกันเป็นจำนวนมากจนล้นออกนอกหอประชุมอเนกประสงค์ บางรายที่ไม่สามารถเข้ามาภายในได้ ต้องพากันจับจองพื้นที่บริเวณด้านหน้าและด้านข้างหอประชุมดูพิธีสวดพระอภิธรรมจากจอแอลอีดีขนาดใหญ่ที่ทางมหาวิทยาลัยนำมาติดตั้ง ซึ่งทุกคนต่างนั่งฟังสวดกันอย่างสงบ โดยในคืนนี้เป็นคืนที่ 2 มีพระธรรมดิลก เจ้าคณะภาค 9 พระธรรมวิสุทธาจารย์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค9 เจ้าอาวาสวัดหนองแวง พระอารามหลวง พระราชปริยัติโสภณ เจ้าคณะจังหวัดขอนแก่น ร่วมพิธี ส่วนเจ้าภาพ อาทิ พล.ท.ธวัช สุกปลั่ง แม่ทัพภาค 2 คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช อดีต รมว.วิทยาศาสตร์ฯ นายประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ อดีต รมช.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง อดีต รมช.คมนาคม ฯลฯ ขณะที่นิมนต์พระสงฆ์ 4 รูปจากวัดหนองแวง พระอารามหลวง มาสวดพระอภิธรรม

ที่มา ; เว็บ นสพ.ไทยรัฐ

  (  คลิ๊ก ) สมัครพัฒนาความรู้

เตรียมสอบผู้บริหารสถานศึกษา (รอบ 2)

https://docs.google.com/forms/d/1bmOsUymrbAPSv1mxB9q_Lu-cMSU9_fZVPxlkACGyxZg/viewform

ฟรี... ห้องเตรียมสอบ-ครูผู้ช่วย

-ผู้บริหาร-บุคลากรการศึกษา  ที่ 

" ติวสอบดอทคอม "  โดย อ.นิกร 

เว็บฟรีข้อสอบออนไลน์

(เตรียมสอบครู-ผู้บริหาร-บุคลากร การศึกษา)

www.tuewsob.com