เรื่องใหม่น่าสนใจ
-คู่มือ 4 ชุด นโยบาย บริบริหาร ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้
http://academic.obec.go.th/web/node/1/77/govdoc_sec_detail/296
-เกณฑ์ประเมินคุณภาพภายนอกรอบสี่ โดย สมศ.
-เกณฑ์การย้ายครู พ.ศ.2558 http://www.otepc.go.th/images/document/2558/v16-2558.pdf
- พรบ.เงินเดือนใหม่ข้าราชการครูฯ พ.ศ.2558
http://tuewsob.blogspot.com/2015/05/4-10-1-57.html
ข้อสอบออนไลน์ ( พัฒนาความรู้ครู - ผู้บริหาร - บุคลากรการศึกษา) ชุดใหม่ โดย อ.นิกร
ข้อสอบออนไลน์ ( พัฒนาความรู้ครู - ผู้บริหาร - บุคลากรการศึกษา) ชุดใหม่ โดย อ.นิกร
เตรียมสอบ บน ยูทูป ทั้งหมด ได้ที่
( คลิ๊ก ) สมัครพัฒนาความรู้
เตรียมสอบผู้บริหารสถาน+การศึกษา
เตรียมครูมืออาชีพ
รายการคืนความสุขให้คนในชาติ
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ “คืนความสุขให้คนในชาติ” ออกอากาศทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย วันศุกร์ที่ 6 พฤศจิกายน 2558 เวลา 20.15 น.
สวัสดีครับ พ่อแม่พี่น้องชาวไทยที่รักทุกท่าน
ช่วงนี้เป็นที่น่ายินดีนะครับที่ กิจกรรม “BIKE FOR DAD ปั่นเพื่อพ่อ” ซึ่งเรากำหนดขึ้นในวันที่ 11 ธันวาคมนี้ ได้มีพี่น้องประชาชนให้ความสนใจอย่างล้นหลาม โดยมียอดผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมในกรุงเทพฯ เต็มแล้ว 1 แสนคน ต่างจังหวัดอีก 2 แสนกว่าคน และต่างประเทศอีกเกือบ 1 หมื่นคน รวมมีผู้ลงทะเบียนปั่นจักรยานประมาณ 350,000 คนแล้วในขณะนี้
สำหรับความคืบหน้าการเตรียมความพร้อม การกำหนดเส้นทางปั่นจักรยานหรือ“เส้นทางสิริมงคล” ตามสถานที่สำคัญของแต่ละจังหวัด หรือสถานที่ที่เป็นศูนย์รวมจิตใจของประชาชนในพื้นที่นั้นได้ดำเนินการไว้เรียบร้อยแล้วนะครับ จากนี้ก็คงต้องปรับปรุงให้มีความปลอดภัย สวยงาม เป็นระเบียบเรียบร้อย เพื่อให้การถวายความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และแสดงออกถึงความรักที่มีต่อพ่อของแผ่นดิน เป็นไปอย่างสมพระเกียรติ รวมทั้งเพื่อสร้างประวัติศาสตร์อันน่าจดจำ และน่าประทับใจสู่สายตาชาวโลกร่วมกันอีกครั้ง เป็นการรณรงค์และปลูกฝัง การปฏิบัติตามกฎจราจร และการใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัยในทุกพื้นที่อีกด้วย ก็ขอร้องให้ประชาชนทุกคนช่วยกันดูแลพื้นที่ที่จะทำกิจกรรมให้เกิดความปลอดภัยให้มากที่สุด จะต้องไม่มีเหตุการณ์ใด ๆ เกิดขึ้นโดยเด็ดขาด
สำหรับวันนี้นั้นมีเรื่องสำคัญที่จะชี้แจงให้พี่น้องประชาชนทราบดังนี้นะครับ
เรื่องการเลือกตั้ง การเตรียมการเข้าสู่การเลือกตั้ง ในปัจจุบันนั้นกำลังดำเนินการอยู่
เป็นไปตาม Road Map ขณะนี้มีการเสนอแนวทางต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้ง การคัดสรรอะไรก็แล้วแต่ สัดส่วนอะไรก็แล้วแต่ ผมติดตามรายละเอียดมาอยู่ตลอดเวลา ผมให้เป็นการแสดงความคิดเห็นโดยอิสระ โดยผมไม่สนใจนะครับว่า พรรคการเมืองใดจะมีการได้เปรียบเสียเปรียบ ผมสนใจแต่เพียงว่า เราจะทำกันอย่างไรให้เราได้พรรคการเมืองหรือผู้แทนราษฎรที่เป็นคนดี มีความรู้ ความสามารถ แล้วได้รับการยอมรับ ประชาชนมีความไว้เนื้อเชื่อใจ ซึ่งเรื่องนี้ผมกราบเรียนว่า พี่น้องประชาชนต้องเรียนรู้ และทบทวนบทเรียนที่ผ่าน ๆ มา ปัญหาอื่น ๆ ด้วยนะครับ ที่ทำให้บ้านเมืองมีปัญหาอยู่ในเวลานี้ ก็ให้สนใจด้วยนะครับ โดยสิ่งสำคัญคือ ต้องรู้เท่าทัน ถ้าเราไม่สนใจเลยก็จะถูกบิดเบือน ชักจูง ในวิธีการไม่ว่าจะเป็นการหาเสียง การเข้ามาสู่การเลือกตั้งอะไรก็แล้วแต่ เราก็จะได้คนที่ไม่ดีเข้ามาอีก หมายถึงเฉพาะคนที่ไม่ดีนะครับ คงไม่ใช่ทั้งหมดอยู่แล้ว
ผมยังยืนยันระยะเวลาที่จะเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้ง คือ 6-4 6-4 เหมือนเดิม มีหลายอย่างที่เราต้องทำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการบริหารประเทศในการแก้ปัญหาที่เป็นเรื่องเร่งด่วนยังต้องใช้เวลาในการดำเนินการควบคู่ไปด้วย ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ทั้งสิ้น เพราะว่าทุกขั้นตอนนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญ ถ้าหากเรายังคิดคนละส่วน ๆ อยู่ มันไปด้วยกันไม่ได้ ก็อยากจะกราบเรียนว่า ทั้ง 5 สายต้องไปพร้อม ๆ กันในแนวทางอันเดียวกันทั้งสิ้น แต่ท่านก็มีอิสระในการที่จะเสนอความคิดเห็นกันออกมา แล้วใช้ข้อยุติหรือมติของที่ประชุมต่าง ๆ ในการดำเนินการ เราอย่าทำให้ประเทศเสียหายต่อไปเลยด้วยคำพูดคำจาอะไรก็แล้วแต่ ท่านต้องยอมรับในความผิดพลาดในปัญหาของประเทศเรา
ผมเคยพูดไปแล้วในที่ประชุมร่วม 5 ฝ่าย เรื่องปิดประเทศอะไรต่าง ๆ เหล่านั้น ผมเพียงแต่พูดให้ฟังเท่านั้นเองว่า ถ้าเรายังร่วมมือกันมันจะไปสู่ตรงจุดนั้น ซึ่งคงไม่ใช่เป็นเพราะผม ก็ขอโทษที่ทำให้ทุกคนตกใจ เจตนาคือต้องการเตือนทุกคนว่า ถ้าหากว่าเรามีการต่อต้านบิดเบือนข้อมูล สร้างความขัดแย้ง บ้านเมืองเกิดความไม่สงบเกิดขึ้นมาอีก เราก็ไม่สามารถที่จะหลุดพ้นเหตุการณ์เดิม ๆ ได้ เลือกตั้งก็ไม่ได้ เดินหน้าประเทศก็ไม่ได้ เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ที่ผมเป็นห่วง ผมอยากจะทำให้ทุกอย่างเคลื่อนที่ไปได้อย่างรวดเร็วตาม Road Map ที่เรามีอยู่ เพื่อจะแก้ไขปัญหาของประเทศและเตรียมการเดินหน้าประเทศไปให้ได้ในช่วงระยะเวลาหนึ่งที่จะไม่กลับไปสู่ที่เก่า เพราะฉะนั้นการเป็นประชาธิปไตยเต็มรูปแบบของไทยนั้น วันนี้เราต้องให้ประชาชนเข้าใจอย่างถ่องแท้ รู้ปัญหา รู้วิธีการแก้ปัญหา รู้ถึงความร่วมมือว่าจะทำได้อย่างไร ไม่เช่นนั้นเราจะปฏิรูปอะไรไม่ได้เลย สิ่งสำคัญประการแรก คือการปฏิรูปการเมืองของเราก่อน เราจะต้องดำเนินการให้รวดเร็วที่สุดเพื่อที่จะไปสู่การปฏิรูปเรื่องอื่น ๆ ด้วย
เรื่องการเคลื่อนไหวทางการเมือง ช่วงนี้ต้องกราบขอโทษ ผมอาจจะหงุดหงิดไปบ้างหรืออาจจะแสดงออกทางสื่อต่าง ๆ อาจจะดูใจร้อน ซึ่งเป็นนิสัยผมอยู่แล้ว แต่ขอโทษแล้วกัน จริงๆ แล้วผมไม่ได้มีอะไรใจผมทั้งสิ้น ไม่ว่าจะใครก็ตามเพียงแต่ว่าปัญหามันเยอะ งานที่เราทำอยู่ก็เยอะ ทับซ้อนกันไปหมด แล้วก็ขณะเดียวกันก็มีการยั่วยุ มีการให้ข่าวบิดเบือนตามสื่อต่าง ๆ ซึ่งไม่ค่อยจะเป็นธรรมกับผมมากนั้น บางสื่อผมเคยเรียนไปแล้วก็ยังไม่ค่อยจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง แต่ผมก็ไม่เคยไปละเมิดจรรยาบรรณของสื่ออยู่แล้ว แต่ท่านก็ต้องระมัดระวังตัวท่านเองด้วย
วันนี้ถ้าหากว่าเรายังคงให้ร้ายไปเรื่อย ๆ ผู้คนก็ไม่เข้าใจแล้วเราจะได้การเมืองที่ดีมาได้อย่างไร เรื่องการรณรงค์ใส่เสื้อสีโน้นสีนี้ ผมก็ไม่ได้ดำเนินการใด ๆ ทั้งสิ้น ก็เห็นประชาชนเขาร่วมมือกันดี ก็ไม่ได้ขยายความขัดแย้งกันต่อไป ถ้าทุกคนไม่กดดันกันไปกันมา เจ้าหน้าที่ก็ไม่ต้องบังคับใช้กฎหมาย ผมว่าสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้เป็นสิ่งที่ดีนะครับ เป็นการแสดงให้เห็นว่าทุกคนก็เริ่มไปสู่กระบวนการปรองดองในชั้นต้นแล้ว เรื่องการแสดงสัญลักษณ์ต่าง ๆ หลายอย่าง การเคลื่อนไหวของกลุ่มโน้นกลุ่มนี้ ก็อยากจะให้รัฐสนใจให้ผมใช้กฎหมายพิเศษอะไรต่าง ๆ เหล่านี้ ประชาชนก็ช่วยกันดูแลได้ไหม ถ้าเป็นอย่างนั้นผมก็ไม่จำเป็นต้องใช้กฎหมายอะไรทั้งสิ้น เจ้าหน้าที่ก็สบายใจบ้านเมืองก็สงบมีเสถียรภาพ
ขณะเดียวกัน ก็มีหลายคนต้องการจะให้มีการบังคับใช้กฎหมายเพื่อจะเกิดภาพความรุนแรงเกิดขึ้นให้มองเห็นว่า รัฐบาลนั้นไม่เป็นธรรม สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้เป็นสิ่งที่บิดเบือน ทำให้ต่างประเทศเขาไม่เข้าใจเราอีก แล้วเราจะอยู่กันอย่างไร เพราะฉะนั้นถ้าหากท่านจะช่วยผม ช่วยบ้านเมือง ช่วยประเทศ ถ้าใครพบผู้ใดกระทำความผิด ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายปกติ หรือคำสั่ง คสช. เหล่านี้ก็ต้องอธิบายกัน ขอร้องกันว่าอย่าทำเลยมันยกเว้นกันไม่ได้หรอก กฎหมายนะ หลายคนบอกว่ากฎหมายนี้ไม่เป็นธรรมก็เป็นเหตุการณ์ไม่ปกติ เราจะต้องดำเนินการให้เรียบร้อยที่สุด บ้านเมืองจะต้องเดินไปได้ ไม่อย่างนั้นก็เลือกตั้งไม่ได้อีก
เพราะฉะนั้นกรณีที่เคลื่อนไหวไม่ว่าจะในเรื่องของความเดือดร้อนหรืออะไรต่าง ๆ ก็ตาม ผมเคยบอกแล้วเข้ามาในช่องทางที่ถูกต้อง เราจะแก้ไขให้ แต่ถ้าไม่ถูกต้องวันหน้าก็ต้องถูกดำเนินคดีนะครับ เพราะว่ามี พ.ร.บ. ควบคุมฝูงชนอยู่ด้วย พ.ร.บ. การชุมนุมนะครับ เรียกว่า ควบคุมฝูงชนก็ไม่ดีอีกนะ จริง ๆ แล้วคือ พ.ร.บ.การชุมนุม มีกฎหมายอยู่ ก็ขอให้ระมัดระวังด้วย การเคลื่อนไหว เรื่องความเดือดร้อน การเคลื่อนไหวลอตเตอรี่เหล่านี้มีปัญหาหมด รัฐบาลกำลังทำอยู่ ปัญหาคือว่า ไม่ได้อยู่กฎหมาย ไม่ได้อยู่ที่ คสช. ไม่ได้อยู่ที่รัฐบาลหรือเจ้าหน้าที่ใด ๆ ทั้งสิ้น อยู่ที่ประชาชนทุกคนต้องร่วมมือ เข้าใจ พอนึกถึงประโยชน์กันอย่างเดียวมันก็จะเหตุการณ์แบบนี้ เลิกตรงนั้นได้ ตรงนี้ก็มาเกิดขึ้นมาใหม่ คราวนี้เป็นสิ่งที่เป็นปัญหากับลอตเตอรี่มายาวนานเขาแก้ไปแล้ว ทุกคนพอใจ พอไปสักระยะหนึ่งเอาอีกแล้วกลับมาในเรื่องของ คนกลางเข้าไปอีกแล้ว มาขาย 79 บาทหรืออย่างไร คนขายก็ขายได้ 80 บาทได้เท่านั้น ผมไม่ทราบว่าจะรีดเลือดรีดเนื้อกันไปถึงไหนสำหรับคนที่มีสตางค์
เพราะฉะนั้นผู้ที่มีรายได้น้อย ที่จะต้องขายลอตเตอรี่ ก็ต้องเรียนรู้ว่าเราจะทำอย่างไร ไม่ใช่เรียกร้องบนถนนปิดถนนแบบนี้มันผิดกฎหมายทั้งสิ้น กีดขวางการจราจร ทำให้คนอื่นเขาเดือดร้อน ละเมิดสิทธิผู้อื่น และเกิดการบิดเบือนข้อมูลข่าวสาร ปลุกระดม ปลุกปั่น หมิ่นประมาท ผิดกฎหมายทั้งหมดเลยนะครับ เพราะฉะนั้นกฎหมายนี่ ผมบอกแล้วว่า เป็นกฎหมายเพื่อให้เกิดความเท่าเทียมไม่ว่าจะคนจน คนรวย คนรายได้มาก รายได้น้อย อย่างที่กล่าวอ้างกันว่า รังแกคนจนอีกหรือไม่ทำนองนี้ ผมทำเพื่อคนทุกคนในประเทศไทย
เรื่องการออกคำสั่ง คสช. สัปดาห์ที่แล้ว คุ้มครองการทำงานของเจ้าหน้าที่ มาตรา 44
เรื่องการบริหารจัดการข้าวคงเหลือ เรื่องนี้คงต้องอธิบายซ้ำแล้วซ้ำอีกหลายครั้งทางผมก็อธิบายไปแล้วข้างต้น ท่านรองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) ก็อธิบายไปแล้วแต่ก็ยังมีคนบิดเบือนอยู่ ไม่เกี่ยวกับการนิรโทษล่วงหน้าอะไรสักอย่างเลย เป็นเรื่องของการตรวจสอบการระบายข้าวซึ่งมีความจำเป็นต้องทำตามกฎหมาย เมื่อทำไปแล้วเพื่อให้เจ้าหน้าที่สบายว่า เขาก็ตรวจสอบตามข้อเท็จจริงโดยบริสุทธิ์ใจ มันก็ต้องเดินไปตามนั้น จะได้ไม่ต้องไปเกรงกลัวต่อการข่มขู่ใด ๆ ก็ตาม หรือกลัวถูกฟ้องร้องอะไรภายหลัง เพราะว่าเจตนาบริสุทธิ์ในการทำงาน แต่ถ้าหากว่าเจ้าหน้าที่นั้นทำงานไม่บริสุทธิ์ใจ เจตนาไม่บริสุทธิ์จริงก็ยังถูกฟ้องได้เหมือนเดิม เพราะฉะนั้นเข้าใจซะด้วยอย่าไปบิดเบือน เพราะว่าตอนนี้หลายคนก็ถูกขู่โดยใครไม่ทราบ เพราะว่าถ้ามีการกลับมาสู่อำนาจทางการเมืองอีกให้ระมัดระวังให้ดีแล้วกันข้าราชการต่าง ๆ เหล่านี้ ผมคิดว่าสังคมน่าจะเข้าใจตรงนี้ไม่อย่างนั้นเราก็ไม่ชัดเจนสักเรื่องหนึ่ง
ในส่วนของเรื่องความขัดแย้งอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นสื่ออะไรต่าง ๆ ผมไม่เคยไปขัดแย้ง ผมพูดหลายครั้งแล้ว เมื่อเช้าวานนี้ผมก็พูดไปอีกครั้งหนึ่ง ผมก็จำเป็นต้องบอกว่า ถ้าผิดกฎหมายอีกอะไรอีกจำเป็นต้องดำเนินการ สื่อก็พยายามจะจับภาพว่าผมหงุดหงิดกับสื่อ ละเมิดสื่อ ควบคุมสื่อ ผมไปควบคุมอะไรท่าน สิ่งที่ท่านเขียนกันทุกวันเพราะผมควบคุมหรืออย่างไร เพราะไม่ควบคุมหรืออย่างไรถึงเขียนได้อย่างนี้ไง ผมก็ได้แต่เพียงบอกว่า ระมัดระวังนะวันข้างหน้าอาจจะมีปัญหาในเรื่องของการทำงาน ในเรื่องของทางกฎหมายทางคดี มันก็มีอยู่ไม่กี่คนหรอก กี่ท่านหรอก กี่สำนักพิมพ์หรอก มันเดือดร้อนไปทั้งหมด มันทำให้ประเทศชาติวุ่นวายไปหมด ที่ดีเยอะกว่าอยู่แล้วก็ขอบคุณนะครับที่ดี ๆ ที่ช่วยขยายเรื่องดี ๆ ให้กับรัฐบาลและให้ประชาชนได้เรียนรู้ในปัญหา ในความคืบหน้าในการทำงานของรัฐบาล แต่บางสื่อ บางสำนักพิมพ์ก็ต่อต้านทุกเรื่องไปเหมือนกัน คือเหมือนกับว่า เป็นฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลตลอด ็ ๆ ้วซ้ำนก็อด้วย้คนในชาติไม่ใช่อย่างที่บอกคือว่า จะเสนอทั้งสองฝ่ายไม่ใช่เลย อันนี้เป็นสิ่งที่มีคณะทำงานติดตามตามประเมินดูอยู่แล้ว ไม่ใช่ว่าผมดูคนเดียวนะ
ด้านเศรษฐกิจ ในมุมมองของรัฐบาลนี้ที่มีต่อมิตรประเทศหรือมิตรประเทศมองเรา เราจะมุ่งเน้นเรื่องหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ Partnership เราจะไม่พยายามที่จะมุ่งแข่งขันกันอย่างเดียว เราจะมุ่งไปที่ความร่วมมือสร้างความเข้มแข็งไปด้วยกัน ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ในเรื่องของการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน กำลังเร่งทุกเรื่อง การลดขั้นตอนต่างๆ ที่ถูกกำหนดไว้ตามกฎหมาย ไม่ใช่ว่าไม่ทำอะไร ละเว้นไม่ใช่ ลดขั้นตอน ก็คือลดเวลา บางทีใช้คำพูดอาจจะไม่ถูก ลดระยะเวลาที่กำหนดไว้ตามกฎหมายเพื่อที่จะให้รวดเร็วขึ้น ไม่อย่างนั้นก็จะติดขัดถูกทั้งหมด
ระเบียบ คำสั่ง เงื่อนไขต่าง ๆ มีอยู่แล้วของเดิมทำให้เดินหน้าไปไม่ได้ ทั้ง ๆ ที่เป็นการกระทำโดยสุจริต ต้องเรียนรู้กับคำว่าทำโดยสุจริตกับไม่สุจริต หลาย ๆ คนอาจจะไม่เข้าใจคำนี้ หลาย ๆ โครงการรัฐบาลนี้ก็พยายามที่จะเริ่มต้นให้ได้และส่งต่อให้รัฐบาลต่อไปดำเนินการคนละเรื่องกัน เรื่องทุจริตก็บอกมาสอบสวนกันไป แต่ต้องเดินหน้าไปเรื่อย ๆ นะครับ ประชาชนก็อย่าขัดแย้ง อย่าโต้แย้งกันมากนัก มันเป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อโดยรวม จะเพิ่มพูนทางด้านเศรษฐกิจด้วยการลงทุน การใช้จ่ายเงิน ประมาณของรัฐ การลงทุนก็จะขับเคลื่อนออกมาได้ ก็จะมีผลดีต่อธุรกิจต่อเนื่องเชื่อมโยงต่าง ๆ ทั้งหมด ประชาชนก็จะมีรายได้มากขึ้น รายได้ก็ดีขึ้น วันนี้หลายคนอาจจะรู้สึกว่า ไม่เห็นได้สตางค์เพิ่มเลย มันจะได้ได้อย่างไร ยังเริ่มไม่ได้เลยในเรื่องของใหม่ ๆ มีนโยบายไปแล้วกำลังทำอยู่ติดขั้นตอนนั้น ขั้นตอนนี้ไปไม่ได้ทั้งหมด แต่ถ้าทุกคนอยากได้มีรายได้ที่ดีขึ้น มีอาชีพที่ดีขึ้นกว่าเดิมก็คงต้องติดตามการทำงานของรัฐบาลและให้การสนับสนุนในสิ่งที่ควรจะต้องสนับสนุน
แนวโน้มเศรษฐกิจภายในประเทศก็มีแนวโน้มที่ดีขึ้นจากการที่เรามีโครงการประชารัฐลงไป ทำให้ในชุมชน ในพื้นที่มีเงินออกมาหมุนเวียนในการใช้จ่ายบ้าง แต่ก็ไม่ได้มากมายอะไรนักหรอกถ้าพูดถึงประชาชนที่มีรายได้น้อย บ้านเรายังมีคนที่มีรายได้น้อยอยู่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกษตรกร 40 ล้านคน ประเทศไทยเรามีอยู่ 70 ล้านคน ประมาณ 30 ล้านคน เป็นภาคการเกษตร อีก 10 ล้านคนเป็นภาคอื่น ๆ เพราะฉะนั้นรายได้น้อยประมาณ 40 ล้านคนอยู่แล้ว ทำอย่างไรเขาจะไปได้จะพอเพียงได้ในขณะนี้
เศรษฐกิจในประเทศดีขึ้น แต่การส่งออกยังชะลอตัว เพราะเรากำลังดำเนินการในเรื่องของการสร้างนวัตกรรม พัฒนาปรับปรุงโรงงานต่าง ๆ ให้ทันสมัยขึ้น สิ่งเหล่านี้ไม่ได้ทำได้วันสองวันหรือเดือนสองเดือน ผมก็เร่งรัดภายในปี 58 59 ให้เร็วที่สุดโดยมีมาตรการในการที่จะเพิ่มสิทธิประโยชน์เพื่อจะเร่งรัดให้เกิดขึ้นให้ได้ จะได้ไปส่งเสริมอาชีพรายได้ นอกจากภาคการเกษตรอย่างเดียว มูลค่าสินค้าของเราในปัจจุบันนั้น ยังคงน้อยอยู่เนื่องจากว่า การแข่งขังของเรานั้นค่อนข้างกระทำได้อย่างจำกัด แต่ก็ถือว่าดีกว่าหลายประเทศ เรื่องการส่งออก เรามีการติดลบตัวเลขที่น้อยกว่าประเทศอื่น ๆ อีกหลายประเทศด้วยกัน เพราะฉะนั้นเราจำเป็นต้องเร่งการพัฒนาในระหว่างนี้ก็ต้องอดทนกัน และร่วมมือกันให้ได้ในการที่จะเพิ่มมูลค่าการผลิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการวิจัยพัฒนา วันนี้ผมเห็นตื่นตูมกันมากแล้วหลายอย่างก็นำสู่ภาคการผลิต นำมาสู่การใช้งาน
รัฐบาลนี้ก็พยายามที่จะดำเนินการอย่างเต็มที่ และมีรายการที่จะส่งเสริมนวัตกรรมใหม่ ๆ สู่การผลิตหลายรายการด้วยกัน ภาคเอกชนขอให้มีความร่วมมือกับภาครัฐให้มากยิ่งขึ้น ผมเห็นรายการบางรายการในสื่อโทรทัศน์มีการจัดรายการนวัตกรรมใหม่ ๆ มาแข่งขันกัน ผมคิดว่าเป็นโครงการที่ดี เพราะฉะนั้นประชาชนจะได้ตื่นตัวหลายคนก็คิดโน่นคิดนี่ออกมาแล้วว่ามาประกวดแข่งขันกัน อะไรที่ดีน่าจะนำไปสู่การผลิตได้ ยกตัวอย่างง่าย ๆ เช่น สินค้า OTOP ต่างๆ เหล่านี้มีการพัฒนาตามลำดับ วันนี้มีรายได้สูงขึ้นเป็นจำนวนมาก
รัฐบาลกำลังเร่งทุกเรื่อง ก็อย่าไปฟังคนพยายามต่อต้านทั้งหมด เขาอาจจะไม่ต้องการให้ประชาชนเข้มแข็งก็ได้ ไม่อยากเห็นประเทศเดินหน้า เพราะว่าจะได้ชี้นำได้อะไรหรือเปล่าทำนองนี้ ขอให้ไปเปรียบเทียบกันให้ดี อย่านำประเด็นทุกประเด็นมาพูดให้เสียหาย มีวาทะกรรม และที่ผ่านมาไม่เคยเห็นพูดเลยว่าผิดพลาดตรงไหน มีปัญหาตรงไหนไม่เคยพูดแล้วจะทำอย่างไรไม่เคยพูดอีก ตอนนี้ก็มาพูดกันเรื่องเลือกตั้ง การเข้าสู่เป็น ส.ส. อะไรต่าง ๆ เหล่านี้ แต่ไม่เคยเห็นพูดว่าจะแก้ปัญหาที่ผมแก้นี้อย่างไรเหมือนที่ผมพูดเลยนะครับ ก็ขอให้พี่น้องไปพิจารณาดูแล้วกัน เราจำเป็นต้องมีการบรรเทาความเดือดร้อนด้วย ปรับเปลี่ยนการปลูกพืชด้วย ปลูกพืชเพิ่มเติม เลี้ยงสัตว์เพิ่มเติม เช่นในสวนยางเหล่านี้ เพื่อเป็นการเสริมรายได้ไม่ใช่ยางอย่างเดียว บางครั้งอาจจะจำเป็นที่ว่าต้องหยุดการกรีดยางไปก่อนเพราะราคามันตก แต่อย่างน้อยก็มีสัตว์ที่เลี้ยงไว้ขาย ไว้รับประทานหรือปลูกพืชที่แซมในสวนยาง
เมื่อวานนี้หรืออย่างไรผมเห็นในโทรทัศน์ว่า มีหลายสวนยางด้วยกันที่ทำสวนยางเป็นลักษณะสวนผสม มีการปลูกพืชอื่นไปด้วย เขาบอกว่าเขาอยู่ได้ถึงจะไม่กรีดยางอะไรเขาก็อยู่ได้ เพราะมีพืชอื่น ๆ ที่ใช้รับประทานได้ ส่วนใหญ่ของเรานั้นมักจะมุ่งเน้นในเรื่องของปริมาณเป็นหลัก คุณภาพรองลงมา เพราะฉะนั้นปริมาณก็มากไปเรื่อยๆ แต่ถ้าหากว่าสมมติว่าเราแซมด้วยพืชอื่นไปด้วยหรือการเลี้ยงสัตว์ไปด้วย สิ่งที่มันจะเกิน Demand ไปก็ไม่มากนัก ใช่ไหม แต่ขณะเดียวกันก็ต้องมีรายได้ให้กินอยู่ในแต่ละวันในการดำรงชีวิตไปหรือขายได้บ้าง แบ่งสรรปันส่วนรับประทานบ้างตามแนวทางของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เรื่องเศรษฐกิจพอเพียง วันนี้หลายมาตรการที่ออกไปไม่ว่าจะเป็นข้าว ยาง น้ำอะไรต่าง ๆ มีมาตรการทั้งเร่งด่วน ช่วยเหลือ แก้ไขปัญหาเร่งด่วนและตามมาด้วยมาตรการสร้างความเข้มแข็งในเรื่องการ Zoning พื้นที่ด้วยความสมัครใจ เรื่องการให้ความรู้อบรมอะไรต่าง ๆ มีมาตรการทยอยกันตามลำดับแต่หลายคนก็เอามาตรการมาทีละมาตรการมาตีเอา ว่าทำไมเหมือนเดิมซิ แบบนี้ก็ทำเหมือนเดิม ท่านไม่ไปดูตรงอื่นเขาล่ะว่าเรื่องยางทำมากี่อย่างแล้ว หรือข้าวทำมากี่อย่างแล้ว มีหลายอย่างไหมที่สร้างความเข้มแข็ง มันก็มี เพราะฉะนั้นก็ไปเทียบเอาแล้วกัน
ในประเด็นเรื่อง IUU รัฐบาลไทยก็ยืนยันเจตนารมณ์และความมุ่งมั่นที่ชัดเจนในการแก้ไขปัญหา IUU และการค้ามนุษย์ในภาคประมงโดยเร็วที่สุดนะครับ วันนี้รัฐบาลก็ได้ให้ความเห็นชอบไปแล้ว เอกสาร 3 ฉบับ มีความสำคัญมากต่อการพลิกโฉมการทำประมงของไทย เพื่อให้ได้มาตรฐานสากล ได้แก่ในเรื่องของ (1) การออกพระราชกำหนดการประมง ที่จะทำให้ทุกส่วนราชการของไทย สามารถแก้ไขปัญหา IUU ได้ตรงจุดและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น (2) ก็คือแผนบริหารจัดการประมงทะเล และ (3) แผนระดับชาติ ในการดำเนินการแก้ไขและป้องกันปัญหา IUU
ผมขอย้ำว่า รัฐบาลนี้ได้ทำงานอย่างหนัก มาโดยตลอด และจะยังเดินหน้า เพื่อเร่งแก้ไขปัญหา IUU และปัญหาค้ามนุษย์ในภาคประมง รวมไปถึงในโรงงานอุตสาหกรรมแปรรูปสัตว์น้ำ ให้เกิดผลสัมฤทธิ์ในทางปฏิบัติ อย่างเป็นรูปธรรม โดยเร็วที่สุด หลายสิ่งที่เราได้เริ่มทำ เช่น การพัฒนาระบบฐานข้อมูลทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหา IUU การตรวจตามท่า การตรวจเรือประมง เข้า-ออกท่าทั้งในประเทศและต่างประเทศ ดำเนินการอยู่ทั้งสิ้น ก็พยายามจะทำให้กระบวนการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวในภาคประมง สามารถทำให้ถูกกฎหมายได้ง่ายขึ้นก็ทุกคนก็ต้องร่วมมือกันหมด เพราะงั้นผมก็เชื่อว่า เราจะเห็นพัฒนาการที่ดีขึ้น ได้อย่างชัดเจน ภายในระยะ 3 - 6 เดือนข้างหน้านี้
ประมาณต้นปีหน้า จะมีผู้แทนจาก EU มาเยือนไทยอีกครั้งหนึ่ง เพื่อพูดคุยในเรื่องนี้ มาติดตามความก้าวหน้า ก็จะเป็นโอกาสดี ที่จะได้แลกเปลี่ยนความเห็น ข้อมูล และเรียนรู้จากประสบการณ์ซึ่งกันและกัน โดยต่างฝ่ายต่างตั้งอยู่บนหลักการของความเป็นมิตร ที่เคารพในอธิปไตยของกันและกัน ไทยกับ EU มีเป้าหมายเดียวกันอยู่แล้ว ก็คือการเร่งแก้ไขปัญหา IUU เพื่อให้เราสามารถทำประมงอย่างยั่งยืนได้ และเพื่อเร่งกำจัดปัญหา ที่ยังมีคนไทยบางกลุ่ม บางกลุ่ม ไม่ใช่ทุกราย ก็ยังมีการทำผิดกฎหมายไทย และลักลอบใช้แรงงานทาส ขณะนี้ก็มีการจับกุม ดำเนินคดีอยู่เรื่อยๆ นะครับ ก็น้อยลงไป
วันนี้ก็ต้องดูแลทั้งเหยื่อค้ามนุษย์ ในภาคประมงด้วยนะครับ รัฐบาลไทยกำลังเร่งส่งทีมเข้าไปตรวจ ทั้งในเรือประมงที่บางลำก็ยังอยู่ในทะเลเลยนะครับ หลายเดือนมาแล้วก็ไม่กลับมา เพราะว่ามีเรือประมงบางลำที่ผิดกฎหมายแล้วไปตระเวนอยู่ตามท้องทะเลลึกหรือท้องทะเลน่านน้ำเสรี แล้วก็ไปรับซื้อปลา ไปขายปลา แต่ใช้ธงไทย นี่แหละครับที่ทำให้เราเกิดปัญหาด้วย เมื่อไม่เข้าประเทศไทย เดี๋ยวต้องหาทางตรวจสอบที่ท่าต่างประเทศที่นำเรือขึ้น นำเรือไปเทียบและขายปลาที่โน่นด้วย ก็ได้ให้กระทรวงการต่างประเทศไปดำเนินการจัดคนเฝ้าดูแล เพื่อแสดงให้เห็นว่าเราตั้งใจทำจริง ๆ และในโรงงานอุตสาหกรรมแปรรูปอาหารทะเลก็จะเข้าไปสุ่มตรวจว่าไปรับอาหารมาจากที่ไหน การตรวจสอบย้อนกลับทำได้ทั้งระบบหรือไม่ว่านำปลามาจากไหน ไม่อย่างนั้นก็มีปัญหามาตลอด เพราะฉะนั้นทั้ง 2 เรื่อง การทำประมงผิดกฎหมายหรือการค้ามนุษย์นั้น รัฐบาลนี้จะไม่ละเว้นโดยเด็ดขาด ทั้งเจ้าของเรือ ผู้ประกอบการ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ไม่อยากให้มองว่าการแก้ปัญหานี้เป็นการทำเพื่อ IUU เพียงอย่างเดียว หรือเป็นการทำระยะสั้น ทำให้คนโน้นคนนี้พอใจหรือไม่พอใจ ไม่ใช่เลย เพราะฉะนั้นปัญหา IUU หรือปัญหาการค้ามนุษย์ในภาคการประมงนั้นมีอันตรายร้ายแรงต่อประเทศไทย เพราะเป็นปัญหาที่หมักหมมมานาน ต้องแก้ไขให้เร็วที่สุด และที่สำคัญที่สุดคือการอนุรักษ์ทรัพยากรประมงของเรานั้นให้มีการขยายพันธุ์ต่อไปในพื้นที่ที่เป็นน่านน้ำของเราเอง และต้องดูแลประมงพื้นบ้านให้สามารถอยู่รอดได้ ไม่เช่นนั้นเรือที่ผิดกฎหมาย และใช้อุปกรณ์ที่ผิดกฎหมายเข้าไปอีก สัตว์น้ำก็ไม่มีโอกาสที่จะเพิ่มพูนมากขึ้น ทั้งพ่อพันธุ์อะไรต่าง ๆ ก็แล้วแต่ไม่ได้ทั้งหมด ขณะนี้ปลาในเขตบ้านเราก็น้อยลงเต็มที่ แต่หลังจากที่รัฐบาลมีมาตรการออกมาเหล่านี้ ก็ทราบว่าประมงชายฝั่ง ประมงพื้นบ้านก็มีรายได้มากขึ้น ปลาตัวโตขึ้น เพราะว่าปลาตัวเล็กไม่ได้ถูกจับก็ทำให้โตขึ้นแล้วค่อยมาจับ โดยใช้เครื่องมือที่ถูกกฎหมาย
เพราะฉะนั้นขอให้สบายใจได้ว่าใครที่กระทำถูกกฎหมาย และตกอยู่ในสภาพลำบาก รัฐบาลก็พยายามหามาตรการในการช่วยเหลือท่านอย่างแน่นอน ซึ่งหลายมาตรการเริ่มไปแล้ว ติดตามอีกทีแล้วกัน บางทีก็ไม่ค่อยฟังทำไปแล้วก็ไม่ค่อยประชาสัมพันธ์ด้วย อย่างน้อยก็ปากต่อปากช่วยหน่อย สมาคมประมงต่าง ๆ เรื่องเรือประมงสองสัญชาติอย่าให้มีอีก จะดำเนินคดีอย่างเด็ดขาดให้ถึงที่สุด ผู้กระทำผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ และเหยื่อจะต้องได้รับการปฏิบัติตามกฎหมายทั้งสิ้น ไม่อยากให้คนเหล่านี้มีที่ยืนอยู่ในสังคมไทย ทั้งผู้ที่ทุจริต หลอกลวง กระทำผิดกฎหมาย ค้ามนุษย์ เหล่านี้ อย่าให้มีที่ยืนในสังคมไทย ผมว่าสังคมโลกเขาก็ไม่รับด้วย ท่านอาจจะรวยจริง แต่คนอื่นเดือดร้อน ประเทศชาติเดือดร้อน สังคมช่วยกันตรวจสอบด้วย
สัปดาห์ที่ผ่านมานั้นมีเรื่องสำคัญคือ ผมได้ให้การต้อนรับนายไมตรีปาละ สิริเสนา ประธานาธิบดี สาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา ในโอกาสที่เดินทางมาเยือนไทยอย่างเป็นทางการ โดยผมได้กล่าวแสดงความยินดีกับการพัฒนาทางการเมืองของศรีลังกา ซึ่งมีหลายอย่างคล้ายคลึงในเรื่องกระบวนการปรองดองแห่งชาติ ของศรีลังกาด้วย แต่เหตุการณ์ของเขามีหลายอย่างด้วย ส่วนของเรามีเรื่องการเมืองเป็นหลักในขณะนี้ ต่างฝ่ายต่างก็แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน ก็เห็นชอบตรงกันหลายเรื่องด้วยกัน รัฐบาลพยายามจะเดินหน้าด้วยกันไป ผมเล่าให้ฟังว่าไทยก็เดินหน้าเช่นกัน เรื่องการเลือกตั้งทั่วไปตาม Roadmap การสร้างระบอบประชาธิปไตยที่เข้มแข็ง มีเสถียรภาพ และการสร้างสังคมที่มีความปรองดอง ก็ได้ขอแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับเขาด้วย
สำหรับกระบวนการปฏิรูปประเทศนั้นถึงแม้ว่าจะมีหลายประเทศทำก็ตาม แต่ปัญหามาจากคนละปัญหาหรืออย่างน้อยก็มีความแตกต่างพื้นฐานกันอยู่บ้าง เพราะฉะนั้นผมอยากจะกราบเรียนว่า เรารับเขามาได้ ไม่ว่าจะเป็นประชาธิปไตย ไม่ว่าจะกระบวนการอะไรก็แล้วแต่ หรือการปฏิรูปเรารับมาเป็นแนวทางพิจารณาได้ แต่ทั้งหมดต้องเกิดขึ้นโดยคนไทย เพราะว่าคนไทยเป็นผู้ที่เผชิญกับปัญหาเหล่านี้ ถ้าทุกคนต้องการที่จะแก้ไข ต้องการปฏิรูป ทุกคนต้องแสดงออกให้เห็นว่าปัญหาบ้านเราเป็นอย่างนี้ เราก็ต้องช่วยกันแก้ปัญหา อาจจะมีอะไรที่แตกต่างจากเขาบ้าง ถ้าทุกคนช่วยพูดกันแบบนี้ก็จะไม่กดดันมาที่ผม หรือกดดันมาที่ประเทศไทย ซึ่งขณะนี้มีหลายคนที่มีเจตนาไม่บริสุทธิ์ที่พยายามขัดขวางทุกเรื่อง แต่ต้องการปรองดอง ต้องการเลือกตั้ง ผมก็ไม่รู้จะทำอย่างไร หงุดหงิดอยู่บ้างในบางครั้ง ขอโทษอีกครั้งหนึ่งแล้วกัน เพราะฉะนั้นทุกอย่างจะต้องเริ่มจากความร่วมมือของทุกภาคส่วนในสังคม
สำหรับเป้าหมายทางเศรษฐกิจไทยและศรีลังกานั้น เราจะร่วมมือกันในสินค้าและอุตสาหกรรมที่ต่างฝ่ายต่างมีศักยภาพ อาทิ สิ่งทอ อัญมณี ชา ในลักษณะเป็นการร่วมมือกันอย่างครบวงจร คำว่าครบวงจรของผมก็คือ ยกตัวอย่างเช่น จะขายอะไรสักอย่าง หรือค้าขายร่วมกัน แต่ถ้าทุกคนต่างแข่งขันกัน ลงทุนกันมาก แล้วจะไปขายให้ใคร แต่สมมุติว่านำวงจรทุกวงจรมาพิจารณาร่วมกัน เช่น อัญมณีใครมีวัสดุต้นทุน ใครมีช่างฝีมือ ใครมีการตลาด ถ้าบางอย่างมาร่วมกันได้ ก็สามารถที่จะเป็นไปตามลักษณะร่วมมือไม่ใช่การแข่งขันกัน ผลประโยชน์ก็มาแบ่งปันกันตามสัดส่วน อย่างนี้เขาถึงต้องเรียกว่าวันนี้ต้องเดินหน้าประเทศแบบนี้ ถ้าเราไปมุ่งเน้นว่าจะขายของกันต่างคนต่างผลิตกันขึ้นมา ตลาดไม่ได้ ขีดความสามารถต่างกัน วันนี้อัญมณีไทยมีทักษะ มีความชำนาญ สวยงามในการแปรรูปออกแบบต่าง ๆ แต่วัสดุเราต้องซื้อหรือนำมาจากต่างประเทศทั้งหมด แล้วไปร่วมทุนกันตรงไหนก็ว่ามา ลักษณะนี้เขาเรียกว่าเป็นหุ้นส่วนในการที่จะค้าขายร่วมกัน Partnership
การพัฒนาสินค้าประเภทอัญมณีนั้น สำคัญที่สุด วันนี้มีมูลค่าหลายล้านล้านบาท ถ้าเรามีส่วนแบ่งตามที่ร่วมมือกันได้ ก็จะเป็นการแข่งขันที่เพิ่มพันธมิตร เพิ่มการตลาดให้มากขึ้น หลายเรื่องระหว่างไทย - ศรีลังกา มีศักยภาพการส่งเสริมด้านอื่น ๆ อีก เช่น (1) ด้านการเกษตร และประมง ทั้งในเชิงวิชาการ เชิงพาณิชย์ เราก็คงต้องให้ความรู้ เพิ่มประสบการณ์ให้แก่ทางศรีลังกาด้วย ในโครงการต่าง ๆ มีหลายโครงการด้วยกัน ทั้งเชิงวิชาการ ศึกษา แลกเปลี่ยนข้อมูลงานวิจัย วันนี้ศรีลังกามีความก้าวหน้ามากในเรื่องการวิจัยและพัฒนา เราคงต้องร่วมมือกัน อาทิ การควบคุมโรคกุ้ง เพื่อพัฒนาสินค้าประมงให้มีคุณภาพร่วมกัน ศรีลังกามีปลามีสัตว์น้ำมากมาย เพราะเป็นเกาะ ไทยมีการประมงที่เข้มแข็ง แต่ไม่มีปลา ปลามีจำนวนน้อย เพราะฉะนั้นจะร่วมมือกันอย่างไร ในวงจรที่ผมกล่าวเมื่อสักครู่วนลักษณะเป็น partnership (2) การลงทุนปัจจุบันมีเอกชนไทยหลายรายสนใจเข้าไปลงทุนในศรีลังกาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นสาขาสิ่งทอ การก่อสร้าง โครงสร้างพื้นฐาน ธุรกิจโรงแรม การท่องเที่ยว แต่ก็ยังมีขนาดเล็ก และจำนวนน้อยอยู่ เราจะเพิ่มในเรื่องเหล่านี้ให้มากยิ่งขึ้น แลกเปลี่ยนซึ่งกันและกันให้เกิดผลประโยชน์อย่างเท่าเทียม รัฐบาลจะส่งเสริมการท่องเที่ยวรูปแบบต่าง ๆ เช่น การท่องเที่ยงเชิงพุทธศาสนา ท่านประธานาธิบดีได้กล่าวกับผมว่าประเทศไทยได้รับการยอมรับถึงมาตรฐานการท่องเที่ยว และการบริการด้านสุขภาพ ทางด้านการแพทย์แผนปัจจุบัน แพทย์แผนไทย ยา อุตสาหกรรมความงาม รวมไปถึงสปาต่าง ๆ ซึ่งปัจจุบันมีชาวศรีลังกามาพักผ่อนเป็นจำนวนมากในประเทศไทย และใช้บริการด้านสุขภาพในไทย ถ้าเราสร้างวงจรตรงนี้ได้ ก็จะทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้นทั้งสองประเทศ แต่ต้องช่วยเขาด้วย
การประชุมคณะกรรมการนโยบายและพัฒนาการศึกษา ผมได้สั่งการให้กระทรวงศึกษาธิการ ทั้งภาคการศึกษา ภาคตลาดแรงงาน โดยกระทรวงแรงงาน และกระทรวงอุตสาหกรรม โดยมีการบูรณาการงานกัน เพื่อกำหนดนโยบายในเรื่องการผลิตและการใช้แรงงาน ให้เหมาะสมและเพียงพอ เพื่อจะให้สอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ภายใต้แนวคิด “อาชีวศึกษา ฝีมือชน คนสร้างชาติ”อาทิ (1) ให้สถาบันอาชีวศึกษา ร่วมกับสถานประกอบการ เปิดหลักสูตรเพื่อส่งเสริมความเป็นเลิศเฉพาะทาง โดยปีการศึกษา 2559 นำร่องในสาขาวิชาพาณิชย์นาวี ขนส่งระบบราง ปิโตรเคมี แม่พิมพ์ การผลิตไฟฟ้า การท่องเที่ยว และเทคโนโลยีอาหารปลอดภัย
สำหรับปีการศึกษา 2560 จะเปิดเพิ่มในสาขาปิโตรเลียม ชิ้นส่วนยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ และโรงแรม โดยให้คำนึงถึงความเหมาะสมกับศักยภาพการพัฒนาทางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมที่แตกต่างกันในแต่ละพื้นที่ด้วย แต่วันนี้เราอาจจะต้องนำร่องด้วยการต่อยอดผู้ที่จบมาแล้วยังไม่มีงานทำ พัฒนาให้ไปสู่แรงงานที่มีฝีมือและตรงกับความต้องการของตลาดในปีหน้านี้ด้วย AEC ทำอย่างไรจะมีทั้งที ถ้ารอปี 2559 - 2560 กว่าจะจบก็อีกหลายปี (2) ให้มีความร่วมกับมิตรประเทศในการส่งนักศึกษา ปวส. ไปฝึกงานในหลักสูตรต่าง ๆ เพื่อสร้างความพร้อมรองรับการพัฒนาประเทศตามนโยบายของรัฐบาล และ (3) ให้มีระบบ “ทวิศึกษา” ให้กว้างขวางขึ้นในระดับการเรียนสายสามัญควบคู่กับสายอาชีพ เมื่อเรียนจบแล้วก็จะได้รับทั้ง 2 วุฒิ สามารถทำงานได้ทันที โดยรัฐบาลจะสนับสนุนค่าเล่าเรียน และอุปกรณ์ประจำตัว เป็นต้น อยากจะเชิญชวนให้มาเรียนสายอาชีวะให้มากขึ้นเรื่อย ๆ ก็ขอให้ระมัดระวังเรื่องการทะเลาะเบาะแว้งระหว่างสถาบัน เลิกกันได้แล้วไม่เกิดประโยชน์อะไรทั้งสิ้น
สำหรับนโยบาย “ลดเวลาเรียน...เพิ่มเวลารู้” นั้น ผมเห็นว่านักเรียนจำนวนมากมีปัญหาในเรื่องความสุข เพราะมีการบ้านมาก เรียนในห้องก็เครียดมาก อะไรมาก แต่ขาดทักษะต่าง ๆ ไปด้วย ทั้งเครียด ทั้งขาดทักษะ ทำงานไม่ได้อะไรทำนองนึ้ ไม่เรียนรู้ รู้อย่างเดียวเพื่อจะสอบ เพื่อจะไปเอาปริญญาอย่างนี้ผมว่าไม่ใช่ ผลสัมฤทธิ์ไม่เท่ากับที่เรียนไป ทำอย่างไรเด็กไทยจะ “คิดเป็น” นี่เป็นโจทย์สำคัญ การศึกษาควรให้มากกว่าความรู้ ต้องให้ผู้เรียนมีทักษะการทำงานร่วมกันหรือที่เรียกว่า Teamwork วันนี้ประเทศไทยค่อนข้างจะขาด Teamwork ทำงานร่วมกันไม่ค่อยได้ มีความคิดสร้างสรรค์ แสวงหาจุดร่วม จุดต่างเอาไว้ก่อน รู้จักการแก้ปัญหาเร่งด่วน จัดลำดับของปัญหาให้ได้ ทั้งนี้ทุกคนจะต้องมีความพร้อมเพื่อจะรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมด้วย จึงจะสามารถส่งเสริมการพัฒนาประเทศโดยรวมได้ในทุกมิติ โดยรัฐบาลได้น้อมนำแนวทางพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ว่าในเรื่องการศึกษานี้มีหลายอย่างด้วยกัน (1) ให้ครูรักเด็กและเด็กรักครู เกิดขึ้นได้หรือยัง (2) ให้ครูสอนเด็ก ให้มีน้ำใจต่อเพื่อน ไม่ให้แข่งขันกันเอง แต่ให้แข่งกับตัวเอง ให้เด็กที่เรียนเก่งกว่าช่วยสอนเพื่อนที่เรียนช้ากว่า อ่อนกว่า และ (3) ให้ครูจัดกิจกรรมให้เด็กทำร่วมกัน เพื่อให้เห็นคุณค่าของความสามัคคี ทั้งนี้ ก็จะต้องไม่ทำให้ด้านวิชาการของเด็กตกต่ำลง
สำหรับการดำเนินการของกระทรวงศึกษาธิการในปัจจุบันได้ยึดหลักการสำคัญ คือ (1) ไม่กระทบเนื้อหาใน 8 กลุ่มสาระหลัก (2) ใช้ทฤษฎีในการศึกษา 4H (Head Heart Hand Health) ให้เหมาะสมกับช่วงวัย หรืออาจพูดง่าย ๆ คือ การเรียนที่ต้องส่งเสริมให้ “สมองดี มีคุณธรรม มีทักษะ และมีสุขภาพแข็งแรง” ซึ่งเป็นทักษะที่สำคัญในการดำรงชีวิตประจำวัน และชีวิตการทำงานต่อไปด้วย และ (3) มีการประเมินผลการปฏิบัติ สำหรับการพัฒนาไปสู่ผลสัมฤทธิ์ของโครงการต่อไปในเชิงคุณภาพไม่ใช่เชิงปริมาณ และไม่ใช่สำหรับบุคลากรทางการศึกษาอย่างเดียว เด็กต้องมีส่วนร่วมในการประเมินด้วย ผลงานที่มีต่อเด็ก ต่อโรงเรียน ต่อสถานศึกษา ผมสั่งไปแล้ว
ขณะนี้มีโรงเรียนที่พร้อมในเรื่องการลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้ มีโรงเรียนที่พร้อมสมัครใจเข้าร่วม จำนวน 4,100 โรงเรียน ทั่วประเทศ มีเมนู 381 กิจกรรมให้เลือกใช้ ทุกโรงเรียนอาจจะมีความพร้อมไม่เท่ากัน แต่ทั้งนี้ต้องอยู่ในกรอบเพราะจะได้มีการประเมินผลว่าดีหรือไม่ดีอย่างไร ในระยะเริ่มต้นกระทรวงศึกษาธิการจะส่ง Smart Trainers เป็นพี่เลี้ยงช่วยวางแผนการเรียนการสอน และจัดตารางกิจกรรม รวมทั้งแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นด้วย ใครที่ไม่ได้ฟังผมวันนี้ ใครที่ฟังก็ไปบอกเขาด้วย บางครั้งผมเห็นครูบางคน สถานศึกษาบางแห่ง บอกไม่รู้เรื่องดีแต่สั่งการลงไป นี่เขาทำให้หมดแล้ว เพียงแต่ท่านต้องขวนขวายบ้าง เขตการศึกษาท่านต้องมารับผิดชอบด้วย ไม่อย่างนั้นเขตการศึกษาก็เหมือนเดิม ท่านต้องปรับปรุงวิธีการทำงานของท่าน ผมไม่ได้ตำหนิท่านว่าไม่ได้ทำงาน แต่ท่านต้องทำให้ตรงกับนโยบายของเรา
ด้านเศรษฐกิจ รัฐบาลได้มีการกระตุ้นการลงทุนภาคเอกชน ได้อนุมัติการปฏิรูปขั้นตอน และลดระยะเวลาในการเข้าร่วมโครงการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน (Public-Private Partnership : PPP) ในโครงการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งนี้เพื่อผลักดันให้ดำเนินการได้รวดเร็วขึ้น หรือที่เรียกว่า “PPP fast track” เป็นการรวบรวมหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเข้ามาทำงานร่วมกัน เพื่อลดขั้นตอนในการดำเนินงาน ลดระยะเวลาจากเดิมกว่าจะผ่านขั้นตอนและเริ่มลงทุนได้ ต้องใช้เวลาเกือบ 2 ปี วันนี้เราต้องลดขั้นตอนลงเหลือ 9 เดือน ให้ได้โดยเร็วที่สุด เพราะเรามีโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่กำลังเข้าสู่การพิจารณา มูลค่ารวมกว่า 3.47 แสนล้านบาท ทั้งนี้ เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้นและปานกลาง ที่ผ่านมาการลงทุนภาคเอกชนในประเทศไทยน้อยมาก ส่งผลให้ประสิทธิภาพการผลิตด้อยลง เพราะไม่มีการลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ ๆ และกระทบกับการส่งออก ดังนั้น เราจำเป็นต้องมีการปรับโครงสร้างการผลิตให้มีประสิทธิภาพดีขึ้น
สำหรับจำนวนโครงการลงทุนที่เข้าสู่กระบวนการ “PPP fast track” แล้ว มีหลาย โครงการ ประกอบด้วย โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง),โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน (บางซื่อ-ท่าพระ) โครงการมอเตอร์เวย์บางปะอิน-นครราชสีมา โครงการมอเตอร์เวย์บางใหญ่-กาญจนบุรี โครงการโรงงานขยะ อบจ.นนทบุรี โครงการโรงงานขยะเทศบาลนครราชสีมา และโครงการพัฒนาพื้นที่ของการท่าเรือแห่งประเทศไทย ศูนย์ธุรกิจพาณิชย์นาวี (Maritime Business Center)
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและเป็นธรรม “PPP fast track” จะไม่รวมถึงกระบวนการตรวจสอบและการคัดเลือกภาคเอกชนมาร่วม ทั้งนี้ต้องดำเนินการอย่างรอบคอบภายใต้กรอบกฎหมาย หรือ พ.ร.บ.การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2556 ไม่ได้มีการปรับแก้กฎหมาย หรือกฎระเบียบแต่อย่างใด หลายคนก็มากล่าวหาว่าจะมาทุจริตกันอีก เอื้อประโยชน์อะไรกันอีก ก็ต่อต้านไปทุกเรื่อง ก็เกิดไม่ได้ทั้งหมด ทุกโครงการไม่จำเป็นจะต้องอยู่ภายใต้หลักเกณฑ์นี้ ก็แล้วแต่โครงการที่เหมาะสม เราก็จะมุ่งเน้นไปที่โครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน หากเราไม่ใช่วิธีนี้ให้เร็วขึ้น รัฐก็จะต้องใช้เวลาในการดำเนินการ และต้องลงทุนด้วยเม็ดเงินมหาศาลทั้งหมด ซึ่งเรายังไม่มีรายได้เพียงพอ เพราะฉะนั้นต้องเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนมาร่วมมือ แต่ต้องเป็นการแข่งขันแบบเสรีและมีความเป็นธรรม
วันนี้เรามีตัวอย่างโครงการที่ประสานคุณค่าและประโยชน์ของการอนุรักษ์และการพัฒนาอย่างยั่งยืน ในลักษณะกิจการเพื่อสังคม (Social Enterprise) คือ ชุมชนริมน้ำจันทบูร จังหวัดจันทบุรี ซึ่งเป็นชุมชนที่เก่าแก่มีอายุกว่า 150 ปี มีโครงการบ้านพัก – พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ของหลวงราชไมตรีเป็นตัวชูโรง ซึ่งเกิดจากการร่วมแรงร่วมใจกันของพี่น้องในชุมชนกันเอง ถือหุ้น เป็นเจ้าของร่วมกัน ช่วยกันอนุรักษ์สถาปัตยกรรม ฟื้นฟูย่านประวัติศาสตร์ รักษาสภาพแวดล้อมและวิถีชีวิตของชุมชน ครอบคลุมมิติสังคม วัฒนธรรม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อมอย่างบูรณาการ โดยนำเสนอให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม สร้างงาน สร้างรายได้ ในชุมชน ซึ่งเป็นถิ่นกำเนิดของตน เป็นตัวอย่างความสำเร็จที่ดีในการสร้างความเข้มแข็งในชุมชน อยากให้พี่น้องในแต่ละชุมชนทั่วประเทศ มีหลายแห่งที่มีศักยภาพทั้งสิ้น ชุมชนที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง ให้ช่วยกันศึกษาและหา “จุดแข็ง” ทางด้านวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียม ประเพณี งานฝีมือ ภูมิปัญญาท้องถิ่น และประวัติศาสตร์ มาเป็น “จุดขาย” ในการจะสร้างเศรษฐกิจชุมชนของตนให้เข้มแข็งต่อไป
อีก 2 เดือน เราก็จะเข้าสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ดังนั้น ตลาดคลองผดุงกรุงเกษมของเราได้จัดให้มีงาน “OTOP TO AEC...มรดกของแผ่นดิน จากท้องถิ่นสู่สากล” ระหว่างวันที่ 3 – 25 พฤศจิกายน 2558 เพื่อแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ OTOP ระดับ 3 - 5 ดาว จากทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ที่มีศักยภาพในการส่งออกต่างประเทศ มาจัดแสดงและจำหน่ายกว่า 330 รายการ นอกจากนั้นมีการส่งเสริมความรู้ด้านการเจรจาธุรกิจ การตลาด การออกแบบ การเงินให้กับผู้ร่วมงานที่สนใจ ทั้งผู้ประกอบการและผู้ที่มาเยี่ยมชมด้วย รวมความถึงผู้ที่อยากจะทำธุรกิจใหม่ ๆ และมีการประเมินสินค้าที่นำมาด้วย ให้คำแนะนำ เพื่อพัฒนาไปอีกขั้นหนึ่งให้มีการขยายกิจการมากขึ้น เพิ่มมูลค่ามากขึ้น เน้นคุณภาพและมาตรฐานผลิตภัณฑ์ โดยมีทีมผู้เชี่ยวชาญ มี “ศูนย์บริการร่วมของกระทรวงมหาดไทย” มาให้บริการแก่พี่น้องประชาชน ที่เข้าเยี่ยมชมภายในงานอีกด้วย อาทิ การบริการทำบัตรประชาชนเคลื่อนที่ ใครที่บัตรเก่า บัตรชำรุด มาทำให้เรียบร้อยใช้เวลาไม่นาน การแจกแบบแปลนบ้าน และการแนะนำวิธีการประเมินที่ดิน เป็นต้น ขอเชิญพี่น้องประชาชนทุกท่าน เรามาร่วมซื้อหาสินค้าฝีมือคนไทย มาตรฐานโลก หาความรู้ทางธุรกิจ และรับบริการต่าง ๆ ได้ภายในงาน ถามได้ทุกเรื่องถ้าเขาตอบไม่ได้เขาก็จะไปถามคนอื่นให้ หรือส่งต่อให้ใครตอบท่าน
ท้ายที่สุดนี้ ผมขอเชิญชวนพี่น้องประชาชน ร่วมกันสืบสานและอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย พาลูกหลานไปชมนาฏศิลป์ชั้นสูงของชาติ ที่จะมีการแสดงหลายรอบ โดยโขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ชุด “ศึกอินทรชิต” ตอนพรหมาศ ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ระหว่างวันที่ 7 พฤศจิกายน – 6 ธันวาคมนี้ ผู้สนใจติดตามรายละเอียดได้ที่www.khonperformance.com ผมและคณะรัฐมนตรีก็จะไปชมในรอบแรกด้วย ขอเชิญชวน ต้องไปดูให้เป็น ไปดูการแต่งตัว ท่าทาง ซึ่งแตกต่างกันออกไป ถ้าดูผิวเผินไม่สนุกก็จะเบื่อกัน ซึ่งเราเบื่อวัฒนธรรมเราเองไม่ได้ ผมคิดอย่างนั้น อยากจะให้ทุกคนได้เรียนรู้ว่าเราจะทำอย่างไร จะได้เกิดความภาคภูมิใจในประวุติศาสตร์ชาติพันธุ์ของเรา วัฒนธรรมประเพณีอันงดงาม ซึ่งต่างประเทศมาเที่ยวบ้านเราเพราะอย่างนี้ แต่คนของเราเองกลับไม่ชอบ อย่างนี้ผมว่าไม่ใช่ หลายประเทศมีแต่ต้องหาความรู้ให้มากขึ้น เพื่อจะไปบอกเล่าเชิญชวนคนเข้ามาเป็นเจ้าบ้านที่ดี ดูแลเรื่องความปลอดภัย ของเราจะเอาแต่เงินอย่างเดียวก็คงไม่ใช่ ไม่ได้ ผมพูดถึงคนไม่ดี คนที่เอาแต่ประโยชน์ส่วนตน คนดีก็มากกว่าอยู่แล้ว ช่วยทำให้คนไม่ดีกลายเป็นคนดี ขอบคุณครับ วันนี้อาจจะพูดหนักนิด เบาหน่อยบ้าง ก็ขอโทษด้วย บางครั้งก็ดูผมอาจจะขี้โมโหไปบ้าง ก็ธรรมดาผมทหารเก่า ขอให้มีความสุขและปลอดภัยในวันหยุดสุดสัปดาห์ เสาร์ – อาทิตย์นี้ สวัสดีครับ
( คลิ๊ก ) สมัครพัฒนาความรู้
เตรียมสอบผู้บริหารสถาน+การศึกษา
เตรียมครูมืออาชีพ
รายการคืนความสุขให้คนในชาติ
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ “คืนความสุขให้คนในชาติ” ออกอากาศทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย วันศุกร์ที่ 6 พฤศจิกายน 2558 เวลา 20.15 น.
สวัสดีครับ พ่อแม่พี่น้องชาวไทยที่รักทุกท่าน
ช่วงนี้เป็นที่น่ายินดีนะครับที่ กิจกรรม “BIKE FOR DAD ปั่นเพื่อพ่อ” ซึ่งเรากำหนดขึ้นในวันที่ 11 ธันวาคมนี้ ได้มีพี่น้องประชาชนให้ความสนใจอย่างล้นหลาม โดยมียอดผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมในกรุงเทพฯ เต็มแล้ว 1 แสนคน ต่างจังหวัดอีก 2 แสนกว่าคน และต่างประเทศอีกเกือบ 1 หมื่นคน รวมมีผู้ลงทะเบียนปั่นจักรยานประมาณ 350,000 คนแล้วในขณะนี้
สำหรับความคืบหน้าการเตรียมความพร้อม การกำหนดเส้นทางปั่นจักรยานหรือ“เส้นทางสิริมงคล” ตามสถานที่สำคัญของแต่ละจังหวัด หรือสถานที่ที่เป็นศูนย์รวมจิตใจของประชาชนในพื้นที่นั้นได้ดำเนินการไว้เรียบร้อยแล้วนะครับ จากนี้ก็คงต้องปรับปรุงให้มีความปลอดภัย สวยงาม เป็นระเบียบเรียบร้อย เพื่อให้การถวายความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และแสดงออกถึงความรักที่มีต่อพ่อของแผ่นดิน เป็นไปอย่างสมพระเกียรติ รวมทั้งเพื่อสร้างประวัติศาสตร์อันน่าจดจำ และน่าประทับใจสู่สายตาชาวโลกร่วมกันอีกครั้ง เป็นการรณรงค์และปลูกฝัง การปฏิบัติตามกฎจราจร และการใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัยในทุกพื้นที่อีกด้วย ก็ขอร้องให้ประชาชนทุกคนช่วยกันดูแลพื้นที่ที่จะทำกิจกรรมให้เกิดความปลอดภัยให้มากที่สุด จะต้องไม่มีเหตุการณ์ใด ๆ เกิดขึ้นโดยเด็ดขาด
สำหรับวันนี้นั้นมีเรื่องสำคัญที่จะชี้แจงให้พี่น้องประชาชนทราบดังนี้นะครับ
เรื่องการเลือกตั้ง การเตรียมการเข้าสู่การเลือกตั้ง ในปัจจุบันนั้นกำลังดำเนินการอยู่
เป็นไปตาม Road Map ขณะนี้มีการเสนอแนวทางต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้ง การคัดสรรอะไรก็แล้วแต่ สัดส่วนอะไรก็แล้วแต่ ผมติดตามรายละเอียดมาอยู่ตลอดเวลา ผมให้เป็นการแสดงความคิดเห็นโดยอิสระ โดยผมไม่สนใจนะครับว่า พรรคการเมืองใดจะมีการได้เปรียบเสียเปรียบ ผมสนใจแต่เพียงว่า เราจะทำกันอย่างไรให้เราได้พรรคการเมืองหรือผู้แทนราษฎรที่เป็นคนดี มีความรู้ ความสามารถ แล้วได้รับการยอมรับ ประชาชนมีความไว้เนื้อเชื่อใจ ซึ่งเรื่องนี้ผมกราบเรียนว่า พี่น้องประชาชนต้องเรียนรู้ และทบทวนบทเรียนที่ผ่าน ๆ มา ปัญหาอื่น ๆ ด้วยนะครับ ที่ทำให้บ้านเมืองมีปัญหาอยู่ในเวลานี้ ก็ให้สนใจด้วยนะครับ โดยสิ่งสำคัญคือ ต้องรู้เท่าทัน ถ้าเราไม่สนใจเลยก็จะถูกบิดเบือน ชักจูง ในวิธีการไม่ว่าจะเป็นการหาเสียง การเข้ามาสู่การเลือกตั้งอะไรก็แล้วแต่ เราก็จะได้คนที่ไม่ดีเข้ามาอีก หมายถึงเฉพาะคนที่ไม่ดีนะครับ คงไม่ใช่ทั้งหมดอยู่แล้ว
ผมยังยืนยันระยะเวลาที่จะเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้ง คือ 6-4 6-4 เหมือนเดิม มีหลายอย่างที่เราต้องทำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการบริหารประเทศในการแก้ปัญหาที่เป็นเรื่องเร่งด่วนยังต้องใช้เวลาในการดำเนินการควบคู่ไปด้วย ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ทั้งสิ้น เพราะว่าทุกขั้นตอนนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญ ถ้าหากเรายังคิดคนละส่วน ๆ อยู่ มันไปด้วยกันไม่ได้ ก็อยากจะกราบเรียนว่า ทั้ง 5 สายต้องไปพร้อม ๆ กันในแนวทางอันเดียวกันทั้งสิ้น แต่ท่านก็มีอิสระในการที่จะเสนอความคิดเห็นกันออกมา แล้วใช้ข้อยุติหรือมติของที่ประชุมต่าง ๆ ในการดำเนินการ เราอย่าทำให้ประเทศเสียหายต่อไปเลยด้วยคำพูดคำจาอะไรก็แล้วแต่ ท่านต้องยอมรับในความผิดพลาดในปัญหาของประเทศเรา
ผมเคยพูดไปแล้วในที่ประชุมร่วม 5 ฝ่าย เรื่องปิดประเทศอะไรต่าง ๆ เหล่านั้น ผมเพียงแต่พูดให้ฟังเท่านั้นเองว่า ถ้าเรายังร่วมมือกันมันจะไปสู่ตรงจุดนั้น ซึ่งคงไม่ใช่เป็นเพราะผม ก็ขอโทษที่ทำให้ทุกคนตกใจ เจตนาคือต้องการเตือนทุกคนว่า ถ้าหากว่าเรามีการต่อต้านบิดเบือนข้อมูล สร้างความขัดแย้ง บ้านเมืองเกิดความไม่สงบเกิดขึ้นมาอีก เราก็ไม่สามารถที่จะหลุดพ้นเหตุการณ์เดิม ๆ ได้ เลือกตั้งก็ไม่ได้ เดินหน้าประเทศก็ไม่ได้ เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ที่ผมเป็นห่วง ผมอยากจะทำให้ทุกอย่างเคลื่อนที่ไปได้อย่างรวดเร็วตาม Road Map ที่เรามีอยู่ เพื่อจะแก้ไขปัญหาของประเทศและเตรียมการเดินหน้าประเทศไปให้ได้ในช่วงระยะเวลาหนึ่งที่จะไม่กลับไปสู่ที่เก่า เพราะฉะนั้นการเป็นประชาธิปไตยเต็มรูปแบบของไทยนั้น วันนี้เราต้องให้ประชาชนเข้าใจอย่างถ่องแท้ รู้ปัญหา รู้วิธีการแก้ปัญหา รู้ถึงความร่วมมือว่าจะทำได้อย่างไร ไม่เช่นนั้นเราจะปฏิรูปอะไรไม่ได้เลย สิ่งสำคัญประการแรก คือการปฏิรูปการเมืองของเราก่อน เราจะต้องดำเนินการให้รวดเร็วที่สุดเพื่อที่จะไปสู่การปฏิรูปเรื่องอื่น ๆ ด้วย
เรื่องการเคลื่อนไหวทางการเมือง ช่วงนี้ต้องกราบขอโทษ ผมอาจจะหงุดหงิดไปบ้างหรืออาจจะแสดงออกทางสื่อต่าง ๆ อาจจะดูใจร้อน ซึ่งเป็นนิสัยผมอยู่แล้ว แต่ขอโทษแล้วกัน จริงๆ แล้วผมไม่ได้มีอะไรใจผมทั้งสิ้น ไม่ว่าจะใครก็ตามเพียงแต่ว่าปัญหามันเยอะ งานที่เราทำอยู่ก็เยอะ ทับซ้อนกันไปหมด แล้วก็ขณะเดียวกันก็มีการยั่วยุ มีการให้ข่าวบิดเบือนตามสื่อต่าง ๆ ซึ่งไม่ค่อยจะเป็นธรรมกับผมมากนั้น บางสื่อผมเคยเรียนไปแล้วก็ยังไม่ค่อยจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง แต่ผมก็ไม่เคยไปละเมิดจรรยาบรรณของสื่ออยู่แล้ว แต่ท่านก็ต้องระมัดระวังตัวท่านเองด้วย
วันนี้ถ้าหากว่าเรายังคงให้ร้ายไปเรื่อย ๆ ผู้คนก็ไม่เข้าใจแล้วเราจะได้การเมืองที่ดีมาได้อย่างไร เรื่องการรณรงค์ใส่เสื้อสีโน้นสีนี้ ผมก็ไม่ได้ดำเนินการใด ๆ ทั้งสิ้น ก็เห็นประชาชนเขาร่วมมือกันดี ก็ไม่ได้ขยายความขัดแย้งกันต่อไป ถ้าทุกคนไม่กดดันกันไปกันมา เจ้าหน้าที่ก็ไม่ต้องบังคับใช้กฎหมาย ผมว่าสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้เป็นสิ่งที่ดีนะครับ เป็นการแสดงให้เห็นว่าทุกคนก็เริ่มไปสู่กระบวนการปรองดองในชั้นต้นแล้ว เรื่องการแสดงสัญลักษณ์ต่าง ๆ หลายอย่าง การเคลื่อนไหวของกลุ่มโน้นกลุ่มนี้ ก็อยากจะให้รัฐสนใจให้ผมใช้กฎหมายพิเศษอะไรต่าง ๆ เหล่านี้ ประชาชนก็ช่วยกันดูแลได้ไหม ถ้าเป็นอย่างนั้นผมก็ไม่จำเป็นต้องใช้กฎหมายอะไรทั้งสิ้น เจ้าหน้าที่ก็สบายใจบ้านเมืองก็สงบมีเสถียรภาพ
ขณะเดียวกัน ก็มีหลายคนต้องการจะให้มีการบังคับใช้กฎหมายเพื่อจะเกิดภาพความรุนแรงเกิดขึ้นให้มองเห็นว่า รัฐบาลนั้นไม่เป็นธรรม สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้เป็นสิ่งที่บิดเบือน ทำให้ต่างประเทศเขาไม่เข้าใจเราอีก แล้วเราจะอยู่กันอย่างไร เพราะฉะนั้นถ้าหากท่านจะช่วยผม ช่วยบ้านเมือง ช่วยประเทศ ถ้าใครพบผู้ใดกระทำความผิด ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายปกติ หรือคำสั่ง คสช. เหล่านี้ก็ต้องอธิบายกัน ขอร้องกันว่าอย่าทำเลยมันยกเว้นกันไม่ได้หรอก กฎหมายนะ หลายคนบอกว่ากฎหมายนี้ไม่เป็นธรรมก็เป็นเหตุการณ์ไม่ปกติ เราจะต้องดำเนินการให้เรียบร้อยที่สุด บ้านเมืองจะต้องเดินไปได้ ไม่อย่างนั้นก็เลือกตั้งไม่ได้อีก
เพราะฉะนั้นกรณีที่เคลื่อนไหวไม่ว่าจะในเรื่องของความเดือดร้อนหรืออะไรต่าง ๆ ก็ตาม ผมเคยบอกแล้วเข้ามาในช่องทางที่ถูกต้อง เราจะแก้ไขให้ แต่ถ้าไม่ถูกต้องวันหน้าก็ต้องถูกดำเนินคดีนะครับ เพราะว่ามี พ.ร.บ. ควบคุมฝูงชนอยู่ด้วย พ.ร.บ. การชุมนุมนะครับ เรียกว่า ควบคุมฝูงชนก็ไม่ดีอีกนะ จริง ๆ แล้วคือ พ.ร.บ.การชุมนุม มีกฎหมายอยู่ ก็ขอให้ระมัดระวังด้วย การเคลื่อนไหว เรื่องความเดือดร้อน การเคลื่อนไหวลอตเตอรี่เหล่านี้มีปัญหาหมด รัฐบาลกำลังทำอยู่ ปัญหาคือว่า ไม่ได้อยู่กฎหมาย ไม่ได้อยู่ที่ คสช. ไม่ได้อยู่ที่รัฐบาลหรือเจ้าหน้าที่ใด ๆ ทั้งสิ้น อยู่ที่ประชาชนทุกคนต้องร่วมมือ เข้าใจ พอนึกถึงประโยชน์กันอย่างเดียวมันก็จะเหตุการณ์แบบนี้ เลิกตรงนั้นได้ ตรงนี้ก็มาเกิดขึ้นมาใหม่ คราวนี้เป็นสิ่งที่เป็นปัญหากับลอตเตอรี่มายาวนานเขาแก้ไปแล้ว ทุกคนพอใจ พอไปสักระยะหนึ่งเอาอีกแล้วกลับมาในเรื่องของ คนกลางเข้าไปอีกแล้ว มาขาย 79 บาทหรืออย่างไร คนขายก็ขายได้ 80 บาทได้เท่านั้น ผมไม่ทราบว่าจะรีดเลือดรีดเนื้อกันไปถึงไหนสำหรับคนที่มีสตางค์
เพราะฉะนั้นผู้ที่มีรายได้น้อย ที่จะต้องขายลอตเตอรี่ ก็ต้องเรียนรู้ว่าเราจะทำอย่างไร ไม่ใช่เรียกร้องบนถนนปิดถนนแบบนี้มันผิดกฎหมายทั้งสิ้น กีดขวางการจราจร ทำให้คนอื่นเขาเดือดร้อน ละเมิดสิทธิผู้อื่น และเกิดการบิดเบือนข้อมูลข่าวสาร ปลุกระดม ปลุกปั่น หมิ่นประมาท ผิดกฎหมายทั้งหมดเลยนะครับ เพราะฉะนั้นกฎหมายนี่ ผมบอกแล้วว่า เป็นกฎหมายเพื่อให้เกิดความเท่าเทียมไม่ว่าจะคนจน คนรวย คนรายได้มาก รายได้น้อย อย่างที่กล่าวอ้างกันว่า รังแกคนจนอีกหรือไม่ทำนองนี้ ผมทำเพื่อคนทุกคนในประเทศไทย
เรื่องการออกคำสั่ง คสช. สัปดาห์ที่แล้ว คุ้มครองการทำงานของเจ้าหน้าที่ มาตรา 44
เรื่องการบริหารจัดการข้าวคงเหลือ เรื่องนี้คงต้องอธิบายซ้ำแล้วซ้ำอีกหลายครั้งทางผมก็อธิบายไปแล้วข้างต้น ท่านรองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) ก็อธิบายไปแล้วแต่ก็ยังมีคนบิดเบือนอยู่ ไม่เกี่ยวกับการนิรโทษล่วงหน้าอะไรสักอย่างเลย เป็นเรื่องของการตรวจสอบการระบายข้าวซึ่งมีความจำเป็นต้องทำตามกฎหมาย เมื่อทำไปแล้วเพื่อให้เจ้าหน้าที่สบายว่า เขาก็ตรวจสอบตามข้อเท็จจริงโดยบริสุทธิ์ใจ มันก็ต้องเดินไปตามนั้น จะได้ไม่ต้องไปเกรงกลัวต่อการข่มขู่ใด ๆ ก็ตาม หรือกลัวถูกฟ้องร้องอะไรภายหลัง เพราะว่าเจตนาบริสุทธิ์ในการทำงาน แต่ถ้าหากว่าเจ้าหน้าที่นั้นทำงานไม่บริสุทธิ์ใจ เจตนาไม่บริสุทธิ์จริงก็ยังถูกฟ้องได้เหมือนเดิม เพราะฉะนั้นเข้าใจซะด้วยอย่าไปบิดเบือน เพราะว่าตอนนี้หลายคนก็ถูกขู่โดยใครไม่ทราบ เพราะว่าถ้ามีการกลับมาสู่อำนาจทางการเมืองอีกให้ระมัดระวังให้ดีแล้วกันข้าราชการต่าง ๆ เหล่านี้ ผมคิดว่าสังคมน่าจะเข้าใจตรงนี้ไม่อย่างนั้นเราก็ไม่ชัดเจนสักเรื่องหนึ่ง
ในส่วนของเรื่องความขัดแย้งอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นสื่ออะไรต่าง ๆ ผมไม่เคยไปขัดแย้ง ผมพูดหลายครั้งแล้ว เมื่อเช้าวานนี้ผมก็พูดไปอีกครั้งหนึ่ง ผมก็จำเป็นต้องบอกว่า ถ้าผิดกฎหมายอีกอะไรอีกจำเป็นต้องดำเนินการ สื่อก็พยายามจะจับภาพว่าผมหงุดหงิดกับสื่อ ละเมิดสื่อ ควบคุมสื่อ ผมไปควบคุมอะไรท่าน สิ่งที่ท่านเขียนกันทุกวันเพราะผมควบคุมหรืออย่างไร เพราะไม่ควบคุมหรืออย่างไรถึงเขียนได้อย่างนี้ไง ผมก็ได้แต่เพียงบอกว่า ระมัดระวังนะวันข้างหน้าอาจจะมีปัญหาในเรื่องของการทำงาน ในเรื่องของทางกฎหมายทางคดี มันก็มีอยู่ไม่กี่คนหรอก กี่ท่านหรอก กี่สำนักพิมพ์หรอก มันเดือดร้อนไปทั้งหมด มันทำให้ประเทศชาติวุ่นวายไปหมด ที่ดีเยอะกว่าอยู่แล้วก็ขอบคุณนะครับที่ดี ๆ ที่ช่วยขยายเรื่องดี ๆ ให้กับรัฐบาลและให้ประชาชนได้เรียนรู้ในปัญหา ในความคืบหน้าในการทำงานของรัฐบาล แต่บางสื่อ บางสำนักพิมพ์ก็ต่อต้านทุกเรื่องไปเหมือนกัน คือเหมือนกับว่า เป็นฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลตลอด ็ ๆ ้วซ้ำนก็อด้วย้คนในชาติไม่ใช่อย่างที่บอกคือว่า จะเสนอทั้งสองฝ่ายไม่ใช่เลย อันนี้เป็นสิ่งที่มีคณะทำงานติดตามตามประเมินดูอยู่แล้ว ไม่ใช่ว่าผมดูคนเดียวนะ
ด้านเศรษฐกิจ ในมุมมองของรัฐบาลนี้ที่มีต่อมิตรประเทศหรือมิตรประเทศมองเรา เราจะมุ่งเน้นเรื่องหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ Partnership เราจะไม่พยายามที่จะมุ่งแข่งขันกันอย่างเดียว เราจะมุ่งไปที่ความร่วมมือสร้างความเข้มแข็งไปด้วยกัน ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ในเรื่องของการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน กำลังเร่งทุกเรื่อง การลดขั้นตอนต่างๆ ที่ถูกกำหนดไว้ตามกฎหมาย ไม่ใช่ว่าไม่ทำอะไร ละเว้นไม่ใช่ ลดขั้นตอน ก็คือลดเวลา บางทีใช้คำพูดอาจจะไม่ถูก ลดระยะเวลาที่กำหนดไว้ตามกฎหมายเพื่อที่จะให้รวดเร็วขึ้น ไม่อย่างนั้นก็จะติดขัดถูกทั้งหมด
ระเบียบ คำสั่ง เงื่อนไขต่าง ๆ มีอยู่แล้วของเดิมทำให้เดินหน้าไปไม่ได้ ทั้ง ๆ ที่เป็นการกระทำโดยสุจริต ต้องเรียนรู้กับคำว่าทำโดยสุจริตกับไม่สุจริต หลาย ๆ คนอาจจะไม่เข้าใจคำนี้ หลาย ๆ โครงการรัฐบาลนี้ก็พยายามที่จะเริ่มต้นให้ได้และส่งต่อให้รัฐบาลต่อไปดำเนินการคนละเรื่องกัน เรื่องทุจริตก็บอกมาสอบสวนกันไป แต่ต้องเดินหน้าไปเรื่อย ๆ นะครับ ประชาชนก็อย่าขัดแย้ง อย่าโต้แย้งกันมากนัก มันเป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อโดยรวม จะเพิ่มพูนทางด้านเศรษฐกิจด้วยการลงทุน การใช้จ่ายเงิน ประมาณของรัฐ การลงทุนก็จะขับเคลื่อนออกมาได้ ก็จะมีผลดีต่อธุรกิจต่อเนื่องเชื่อมโยงต่าง ๆ ทั้งหมด ประชาชนก็จะมีรายได้มากขึ้น รายได้ก็ดีขึ้น วันนี้หลายคนอาจจะรู้สึกว่า ไม่เห็นได้สตางค์เพิ่มเลย มันจะได้ได้อย่างไร ยังเริ่มไม่ได้เลยในเรื่องของใหม่ ๆ มีนโยบายไปแล้วกำลังทำอยู่ติดขั้นตอนนั้น ขั้นตอนนี้ไปไม่ได้ทั้งหมด แต่ถ้าทุกคนอยากได้มีรายได้ที่ดีขึ้น มีอาชีพที่ดีขึ้นกว่าเดิมก็คงต้องติดตามการทำงานของรัฐบาลและให้การสนับสนุนในสิ่งที่ควรจะต้องสนับสนุน
แนวโน้มเศรษฐกิจภายในประเทศก็มีแนวโน้มที่ดีขึ้นจากการที่เรามีโครงการประชารัฐลงไป ทำให้ในชุมชน ในพื้นที่มีเงินออกมาหมุนเวียนในการใช้จ่ายบ้าง แต่ก็ไม่ได้มากมายอะไรนักหรอกถ้าพูดถึงประชาชนที่มีรายได้น้อย บ้านเรายังมีคนที่มีรายได้น้อยอยู่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกษตรกร 40 ล้านคน ประเทศไทยเรามีอยู่ 70 ล้านคน ประมาณ 30 ล้านคน เป็นภาคการเกษตร อีก 10 ล้านคนเป็นภาคอื่น ๆ เพราะฉะนั้นรายได้น้อยประมาณ 40 ล้านคนอยู่แล้ว ทำอย่างไรเขาจะไปได้จะพอเพียงได้ในขณะนี้
เศรษฐกิจในประเทศดีขึ้น แต่การส่งออกยังชะลอตัว เพราะเรากำลังดำเนินการในเรื่องของการสร้างนวัตกรรม พัฒนาปรับปรุงโรงงานต่าง ๆ ให้ทันสมัยขึ้น สิ่งเหล่านี้ไม่ได้ทำได้วันสองวันหรือเดือนสองเดือน ผมก็เร่งรัดภายในปี 58 59 ให้เร็วที่สุดโดยมีมาตรการในการที่จะเพิ่มสิทธิประโยชน์เพื่อจะเร่งรัดให้เกิดขึ้นให้ได้ จะได้ไปส่งเสริมอาชีพรายได้ นอกจากภาคการเกษตรอย่างเดียว มูลค่าสินค้าของเราในปัจจุบันนั้น ยังคงน้อยอยู่เนื่องจากว่า การแข่งขังของเรานั้นค่อนข้างกระทำได้อย่างจำกัด แต่ก็ถือว่าดีกว่าหลายประเทศ เรื่องการส่งออก เรามีการติดลบตัวเลขที่น้อยกว่าประเทศอื่น ๆ อีกหลายประเทศด้วยกัน เพราะฉะนั้นเราจำเป็นต้องเร่งการพัฒนาในระหว่างนี้ก็ต้องอดทนกัน และร่วมมือกันให้ได้ในการที่จะเพิ่มมูลค่าการผลิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการวิจัยพัฒนา วันนี้ผมเห็นตื่นตูมกันมากแล้วหลายอย่างก็นำสู่ภาคการผลิต นำมาสู่การใช้งาน
รัฐบาลนี้ก็พยายามที่จะดำเนินการอย่างเต็มที่ และมีรายการที่จะส่งเสริมนวัตกรรมใหม่ ๆ สู่การผลิตหลายรายการด้วยกัน ภาคเอกชนขอให้มีความร่วมมือกับภาครัฐให้มากยิ่งขึ้น ผมเห็นรายการบางรายการในสื่อโทรทัศน์มีการจัดรายการนวัตกรรมใหม่ ๆ มาแข่งขันกัน ผมคิดว่าเป็นโครงการที่ดี เพราะฉะนั้นประชาชนจะได้ตื่นตัวหลายคนก็คิดโน่นคิดนี่ออกมาแล้วว่ามาประกวดแข่งขันกัน อะไรที่ดีน่าจะนำไปสู่การผลิตได้ ยกตัวอย่างง่าย ๆ เช่น สินค้า OTOP ต่างๆ เหล่านี้มีการพัฒนาตามลำดับ วันนี้มีรายได้สูงขึ้นเป็นจำนวนมาก
รัฐบาลกำลังเร่งทุกเรื่อง ก็อย่าไปฟังคนพยายามต่อต้านทั้งหมด เขาอาจจะไม่ต้องการให้ประชาชนเข้มแข็งก็ได้ ไม่อยากเห็นประเทศเดินหน้า เพราะว่าจะได้ชี้นำได้อะไรหรือเปล่าทำนองนี้ ขอให้ไปเปรียบเทียบกันให้ดี อย่านำประเด็นทุกประเด็นมาพูดให้เสียหาย มีวาทะกรรม และที่ผ่านมาไม่เคยเห็นพูดเลยว่าผิดพลาดตรงไหน มีปัญหาตรงไหนไม่เคยพูดแล้วจะทำอย่างไรไม่เคยพูดอีก ตอนนี้ก็มาพูดกันเรื่องเลือกตั้ง การเข้าสู่เป็น ส.ส. อะไรต่าง ๆ เหล่านี้ แต่ไม่เคยเห็นพูดว่าจะแก้ปัญหาที่ผมแก้นี้อย่างไรเหมือนที่ผมพูดเลยนะครับ ก็ขอให้พี่น้องไปพิจารณาดูแล้วกัน เราจำเป็นต้องมีการบรรเทาความเดือดร้อนด้วย ปรับเปลี่ยนการปลูกพืชด้วย ปลูกพืชเพิ่มเติม เลี้ยงสัตว์เพิ่มเติม เช่นในสวนยางเหล่านี้ เพื่อเป็นการเสริมรายได้ไม่ใช่ยางอย่างเดียว บางครั้งอาจจะจำเป็นที่ว่าต้องหยุดการกรีดยางไปก่อนเพราะราคามันตก แต่อย่างน้อยก็มีสัตว์ที่เลี้ยงไว้ขาย ไว้รับประทานหรือปลูกพืชที่แซมในสวนยาง
เมื่อวานนี้หรืออย่างไรผมเห็นในโทรทัศน์ว่า มีหลายสวนยางด้วยกันที่ทำสวนยางเป็นลักษณะสวนผสม มีการปลูกพืชอื่นไปด้วย เขาบอกว่าเขาอยู่ได้ถึงจะไม่กรีดยางอะไรเขาก็อยู่ได้ เพราะมีพืชอื่น ๆ ที่ใช้รับประทานได้ ส่วนใหญ่ของเรานั้นมักจะมุ่งเน้นในเรื่องของปริมาณเป็นหลัก คุณภาพรองลงมา เพราะฉะนั้นปริมาณก็มากไปเรื่อยๆ แต่ถ้าหากว่าสมมติว่าเราแซมด้วยพืชอื่นไปด้วยหรือการเลี้ยงสัตว์ไปด้วย สิ่งที่มันจะเกิน Demand ไปก็ไม่มากนัก ใช่ไหม แต่ขณะเดียวกันก็ต้องมีรายได้ให้กินอยู่ในแต่ละวันในการดำรงชีวิตไปหรือขายได้บ้าง แบ่งสรรปันส่วนรับประทานบ้างตามแนวทางของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เรื่องเศรษฐกิจพอเพียง วันนี้หลายมาตรการที่ออกไปไม่ว่าจะเป็นข้าว ยาง น้ำอะไรต่าง ๆ มีมาตรการทั้งเร่งด่วน ช่วยเหลือ แก้ไขปัญหาเร่งด่วนและตามมาด้วยมาตรการสร้างความเข้มแข็งในเรื่องการ Zoning พื้นที่ด้วยความสมัครใจ เรื่องการให้ความรู้อบรมอะไรต่าง ๆ มีมาตรการทยอยกันตามลำดับแต่หลายคนก็เอามาตรการมาทีละมาตรการมาตีเอา ว่าทำไมเหมือนเดิมซิ แบบนี้ก็ทำเหมือนเดิม ท่านไม่ไปดูตรงอื่นเขาล่ะว่าเรื่องยางทำมากี่อย่างแล้ว หรือข้าวทำมากี่อย่างแล้ว มีหลายอย่างไหมที่สร้างความเข้มแข็ง มันก็มี เพราะฉะนั้นก็ไปเทียบเอาแล้วกัน
ในประเด็นเรื่อง IUU รัฐบาลไทยก็ยืนยันเจตนารมณ์และความมุ่งมั่นที่ชัดเจนในการแก้ไขปัญหา IUU และการค้ามนุษย์ในภาคประมงโดยเร็วที่สุดนะครับ วันนี้รัฐบาลก็ได้ให้ความเห็นชอบไปแล้ว เอกสาร 3 ฉบับ มีความสำคัญมากต่อการพลิกโฉมการทำประมงของไทย เพื่อให้ได้มาตรฐานสากล ได้แก่ในเรื่องของ (1) การออกพระราชกำหนดการประมง ที่จะทำให้ทุกส่วนราชการของไทย สามารถแก้ไขปัญหา IUU ได้ตรงจุดและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น (2) ก็คือแผนบริหารจัดการประมงทะเล และ (3) แผนระดับชาติ ในการดำเนินการแก้ไขและป้องกันปัญหา IUU
ผมขอย้ำว่า รัฐบาลนี้ได้ทำงานอย่างหนัก มาโดยตลอด และจะยังเดินหน้า เพื่อเร่งแก้ไขปัญหา IUU และปัญหาค้ามนุษย์ในภาคประมง รวมไปถึงในโรงงานอุตสาหกรรมแปรรูปสัตว์น้ำ ให้เกิดผลสัมฤทธิ์ในทางปฏิบัติ อย่างเป็นรูปธรรม โดยเร็วที่สุด หลายสิ่งที่เราได้เริ่มทำ เช่น การพัฒนาระบบฐานข้อมูลทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหา IUU การตรวจตามท่า การตรวจเรือประมง เข้า-ออกท่าทั้งในประเทศและต่างประเทศ ดำเนินการอยู่ทั้งสิ้น ก็พยายามจะทำให้กระบวนการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวในภาคประมง สามารถทำให้ถูกกฎหมายได้ง่ายขึ้นก็ทุกคนก็ต้องร่วมมือกันหมด เพราะงั้นผมก็เชื่อว่า เราจะเห็นพัฒนาการที่ดีขึ้น ได้อย่างชัดเจน ภายในระยะ 3 - 6 เดือนข้างหน้านี้
ประมาณต้นปีหน้า จะมีผู้แทนจาก EU มาเยือนไทยอีกครั้งหนึ่ง เพื่อพูดคุยในเรื่องนี้ มาติดตามความก้าวหน้า ก็จะเป็นโอกาสดี ที่จะได้แลกเปลี่ยนความเห็น ข้อมูล และเรียนรู้จากประสบการณ์ซึ่งกันและกัน โดยต่างฝ่ายต่างตั้งอยู่บนหลักการของความเป็นมิตร ที่เคารพในอธิปไตยของกันและกัน ไทยกับ EU มีเป้าหมายเดียวกันอยู่แล้ว ก็คือการเร่งแก้ไขปัญหา IUU เพื่อให้เราสามารถทำประมงอย่างยั่งยืนได้ และเพื่อเร่งกำจัดปัญหา ที่ยังมีคนไทยบางกลุ่ม บางกลุ่ม ไม่ใช่ทุกราย ก็ยังมีการทำผิดกฎหมายไทย และลักลอบใช้แรงงานทาส ขณะนี้ก็มีการจับกุม ดำเนินคดีอยู่เรื่อยๆ นะครับ ก็น้อยลงไป
วันนี้ก็ต้องดูแลทั้งเหยื่อค้ามนุษย์ ในภาคประมงด้วยนะครับ รัฐบาลไทยกำลังเร่งส่งทีมเข้าไปตรวจ ทั้งในเรือประมงที่บางลำก็ยังอยู่ในทะเลเลยนะครับ หลายเดือนมาแล้วก็ไม่กลับมา เพราะว่ามีเรือประมงบางลำที่ผิดกฎหมายแล้วไปตระเวนอยู่ตามท้องทะเลลึกหรือท้องทะเลน่านน้ำเสรี แล้วก็ไปรับซื้อปลา ไปขายปลา แต่ใช้ธงไทย นี่แหละครับที่ทำให้เราเกิดปัญหาด้วย เมื่อไม่เข้าประเทศไทย เดี๋ยวต้องหาทางตรวจสอบที่ท่าต่างประเทศที่นำเรือขึ้น นำเรือไปเทียบและขายปลาที่โน่นด้วย ก็ได้ให้กระทรวงการต่างประเทศไปดำเนินการจัดคนเฝ้าดูแล เพื่อแสดงให้เห็นว่าเราตั้งใจทำจริง ๆ และในโรงงานอุตสาหกรรมแปรรูปอาหารทะเลก็จะเข้าไปสุ่มตรวจว่าไปรับอาหารมาจากที่ไหน การตรวจสอบย้อนกลับทำได้ทั้งระบบหรือไม่ว่านำปลามาจากไหน ไม่อย่างนั้นก็มีปัญหามาตลอด เพราะฉะนั้นทั้ง 2 เรื่อง การทำประมงผิดกฎหมายหรือการค้ามนุษย์นั้น รัฐบาลนี้จะไม่ละเว้นโดยเด็ดขาด ทั้งเจ้าของเรือ ผู้ประกอบการ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ไม่อยากให้มองว่าการแก้ปัญหานี้เป็นการทำเพื่อ IUU เพียงอย่างเดียว หรือเป็นการทำระยะสั้น ทำให้คนโน้นคนนี้พอใจหรือไม่พอใจ ไม่ใช่เลย เพราะฉะนั้นปัญหา IUU หรือปัญหาการค้ามนุษย์ในภาคการประมงนั้นมีอันตรายร้ายแรงต่อประเทศไทย เพราะเป็นปัญหาที่หมักหมมมานาน ต้องแก้ไขให้เร็วที่สุด และที่สำคัญที่สุดคือการอนุรักษ์ทรัพยากรประมงของเรานั้นให้มีการขยายพันธุ์ต่อไปในพื้นที่ที่เป็นน่านน้ำของเราเอง และต้องดูแลประมงพื้นบ้านให้สามารถอยู่รอดได้ ไม่เช่นนั้นเรือที่ผิดกฎหมาย และใช้อุปกรณ์ที่ผิดกฎหมายเข้าไปอีก สัตว์น้ำก็ไม่มีโอกาสที่จะเพิ่มพูนมากขึ้น ทั้งพ่อพันธุ์อะไรต่าง ๆ ก็แล้วแต่ไม่ได้ทั้งหมด ขณะนี้ปลาในเขตบ้านเราก็น้อยลงเต็มที่ แต่หลังจากที่รัฐบาลมีมาตรการออกมาเหล่านี้ ก็ทราบว่าประมงชายฝั่ง ประมงพื้นบ้านก็มีรายได้มากขึ้น ปลาตัวโตขึ้น เพราะว่าปลาตัวเล็กไม่ได้ถูกจับก็ทำให้โตขึ้นแล้วค่อยมาจับ โดยใช้เครื่องมือที่ถูกกฎหมาย
เพราะฉะนั้นขอให้สบายใจได้ว่าใครที่กระทำถูกกฎหมาย และตกอยู่ในสภาพลำบาก รัฐบาลก็พยายามหามาตรการในการช่วยเหลือท่านอย่างแน่นอน ซึ่งหลายมาตรการเริ่มไปแล้ว ติดตามอีกทีแล้วกัน บางทีก็ไม่ค่อยฟังทำไปแล้วก็ไม่ค่อยประชาสัมพันธ์ด้วย อย่างน้อยก็ปากต่อปากช่วยหน่อย สมาคมประมงต่าง ๆ เรื่องเรือประมงสองสัญชาติอย่าให้มีอีก จะดำเนินคดีอย่างเด็ดขาดให้ถึงที่สุด ผู้กระทำผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ และเหยื่อจะต้องได้รับการปฏิบัติตามกฎหมายทั้งสิ้น ไม่อยากให้คนเหล่านี้มีที่ยืนอยู่ในสังคมไทย ทั้งผู้ที่ทุจริต หลอกลวง กระทำผิดกฎหมาย ค้ามนุษย์ เหล่านี้ อย่าให้มีที่ยืนในสังคมไทย ผมว่าสังคมโลกเขาก็ไม่รับด้วย ท่านอาจจะรวยจริง แต่คนอื่นเดือดร้อน ประเทศชาติเดือดร้อน สังคมช่วยกันตรวจสอบด้วย
สัปดาห์ที่ผ่านมานั้นมีเรื่องสำคัญคือ ผมได้ให้การต้อนรับนายไมตรีปาละ สิริเสนา ประธานาธิบดี สาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา ในโอกาสที่เดินทางมาเยือนไทยอย่างเป็นทางการ โดยผมได้กล่าวแสดงความยินดีกับการพัฒนาทางการเมืองของศรีลังกา ซึ่งมีหลายอย่างคล้ายคลึงในเรื่องกระบวนการปรองดองแห่งชาติ ของศรีลังกาด้วย แต่เหตุการณ์ของเขามีหลายอย่างด้วย ส่วนของเรามีเรื่องการเมืองเป็นหลักในขณะนี้ ต่างฝ่ายต่างก็แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน ก็เห็นชอบตรงกันหลายเรื่องด้วยกัน รัฐบาลพยายามจะเดินหน้าด้วยกันไป ผมเล่าให้ฟังว่าไทยก็เดินหน้าเช่นกัน เรื่องการเลือกตั้งทั่วไปตาม Roadmap การสร้างระบอบประชาธิปไตยที่เข้มแข็ง มีเสถียรภาพ และการสร้างสังคมที่มีความปรองดอง ก็ได้ขอแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับเขาด้วย
สำหรับกระบวนการปฏิรูปประเทศนั้นถึงแม้ว่าจะมีหลายประเทศทำก็ตาม แต่ปัญหามาจากคนละปัญหาหรืออย่างน้อยก็มีความแตกต่างพื้นฐานกันอยู่บ้าง เพราะฉะนั้นผมอยากจะกราบเรียนว่า เรารับเขามาได้ ไม่ว่าจะเป็นประชาธิปไตย ไม่ว่าจะกระบวนการอะไรก็แล้วแต่ หรือการปฏิรูปเรารับมาเป็นแนวทางพิจารณาได้ แต่ทั้งหมดต้องเกิดขึ้นโดยคนไทย เพราะว่าคนไทยเป็นผู้ที่เผชิญกับปัญหาเหล่านี้ ถ้าทุกคนต้องการที่จะแก้ไข ต้องการปฏิรูป ทุกคนต้องแสดงออกให้เห็นว่าปัญหาบ้านเราเป็นอย่างนี้ เราก็ต้องช่วยกันแก้ปัญหา อาจจะมีอะไรที่แตกต่างจากเขาบ้าง ถ้าทุกคนช่วยพูดกันแบบนี้ก็จะไม่กดดันมาที่ผม หรือกดดันมาที่ประเทศไทย ซึ่งขณะนี้มีหลายคนที่มีเจตนาไม่บริสุทธิ์ที่พยายามขัดขวางทุกเรื่อง แต่ต้องการปรองดอง ต้องการเลือกตั้ง ผมก็ไม่รู้จะทำอย่างไร หงุดหงิดอยู่บ้างในบางครั้ง ขอโทษอีกครั้งหนึ่งแล้วกัน เพราะฉะนั้นทุกอย่างจะต้องเริ่มจากความร่วมมือของทุกภาคส่วนในสังคม
สำหรับเป้าหมายทางเศรษฐกิจไทยและศรีลังกานั้น เราจะร่วมมือกันในสินค้าและอุตสาหกรรมที่ต่างฝ่ายต่างมีศักยภาพ อาทิ สิ่งทอ อัญมณี ชา ในลักษณะเป็นการร่วมมือกันอย่างครบวงจร คำว่าครบวงจรของผมก็คือ ยกตัวอย่างเช่น จะขายอะไรสักอย่าง หรือค้าขายร่วมกัน แต่ถ้าทุกคนต่างแข่งขันกัน ลงทุนกันมาก แล้วจะไปขายให้ใคร แต่สมมุติว่านำวงจรทุกวงจรมาพิจารณาร่วมกัน เช่น อัญมณีใครมีวัสดุต้นทุน ใครมีช่างฝีมือ ใครมีการตลาด ถ้าบางอย่างมาร่วมกันได้ ก็สามารถที่จะเป็นไปตามลักษณะร่วมมือไม่ใช่การแข่งขันกัน ผลประโยชน์ก็มาแบ่งปันกันตามสัดส่วน อย่างนี้เขาถึงต้องเรียกว่าวันนี้ต้องเดินหน้าประเทศแบบนี้ ถ้าเราไปมุ่งเน้นว่าจะขายของกันต่างคนต่างผลิตกันขึ้นมา ตลาดไม่ได้ ขีดความสามารถต่างกัน วันนี้อัญมณีไทยมีทักษะ มีความชำนาญ สวยงามในการแปรรูปออกแบบต่าง ๆ แต่วัสดุเราต้องซื้อหรือนำมาจากต่างประเทศทั้งหมด แล้วไปร่วมทุนกันตรงไหนก็ว่ามา ลักษณะนี้เขาเรียกว่าเป็นหุ้นส่วนในการที่จะค้าขายร่วมกัน Partnership
การพัฒนาสินค้าประเภทอัญมณีนั้น สำคัญที่สุด วันนี้มีมูลค่าหลายล้านล้านบาท ถ้าเรามีส่วนแบ่งตามที่ร่วมมือกันได้ ก็จะเป็นการแข่งขันที่เพิ่มพันธมิตร เพิ่มการตลาดให้มากขึ้น หลายเรื่องระหว่างไทย - ศรีลังกา มีศักยภาพการส่งเสริมด้านอื่น ๆ อีก เช่น (1) ด้านการเกษตร และประมง ทั้งในเชิงวิชาการ เชิงพาณิชย์ เราก็คงต้องให้ความรู้ เพิ่มประสบการณ์ให้แก่ทางศรีลังกาด้วย ในโครงการต่าง ๆ มีหลายโครงการด้วยกัน ทั้งเชิงวิชาการ ศึกษา แลกเปลี่ยนข้อมูลงานวิจัย วันนี้ศรีลังกามีความก้าวหน้ามากในเรื่องการวิจัยและพัฒนา เราคงต้องร่วมมือกัน อาทิ การควบคุมโรคกุ้ง เพื่อพัฒนาสินค้าประมงให้มีคุณภาพร่วมกัน ศรีลังกามีปลามีสัตว์น้ำมากมาย เพราะเป็นเกาะ ไทยมีการประมงที่เข้มแข็ง แต่ไม่มีปลา ปลามีจำนวนน้อย เพราะฉะนั้นจะร่วมมือกันอย่างไร ในวงจรที่ผมกล่าวเมื่อสักครู่วนลักษณะเป็น partnership (2) การลงทุนปัจจุบันมีเอกชนไทยหลายรายสนใจเข้าไปลงทุนในศรีลังกาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นสาขาสิ่งทอ การก่อสร้าง โครงสร้างพื้นฐาน ธุรกิจโรงแรม การท่องเที่ยว แต่ก็ยังมีขนาดเล็ก และจำนวนน้อยอยู่ เราจะเพิ่มในเรื่องเหล่านี้ให้มากยิ่งขึ้น แลกเปลี่ยนซึ่งกันและกันให้เกิดผลประโยชน์อย่างเท่าเทียม รัฐบาลจะส่งเสริมการท่องเที่ยวรูปแบบต่าง ๆ เช่น การท่องเที่ยงเชิงพุทธศาสนา ท่านประธานาธิบดีได้กล่าวกับผมว่าประเทศไทยได้รับการยอมรับถึงมาตรฐานการท่องเที่ยว และการบริการด้านสุขภาพ ทางด้านการแพทย์แผนปัจจุบัน แพทย์แผนไทย ยา อุตสาหกรรมความงาม รวมไปถึงสปาต่าง ๆ ซึ่งปัจจุบันมีชาวศรีลังกามาพักผ่อนเป็นจำนวนมากในประเทศไทย และใช้บริการด้านสุขภาพในไทย ถ้าเราสร้างวงจรตรงนี้ได้ ก็จะทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้นทั้งสองประเทศ แต่ต้องช่วยเขาด้วย
การประชุมคณะกรรมการนโยบายและพัฒนาการศึกษา ผมได้สั่งการให้กระทรวงศึกษาธิการ ทั้งภาคการศึกษา ภาคตลาดแรงงาน โดยกระทรวงแรงงาน และกระทรวงอุตสาหกรรม โดยมีการบูรณาการงานกัน เพื่อกำหนดนโยบายในเรื่องการผลิตและการใช้แรงงาน ให้เหมาะสมและเพียงพอ เพื่อจะให้สอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ภายใต้แนวคิด “อาชีวศึกษา ฝีมือชน คนสร้างชาติ”อาทิ (1) ให้สถาบันอาชีวศึกษา ร่วมกับสถานประกอบการ เปิดหลักสูตรเพื่อส่งเสริมความเป็นเลิศเฉพาะทาง โดยปีการศึกษา 2559 นำร่องในสาขาวิชาพาณิชย์นาวี ขนส่งระบบราง ปิโตรเคมี แม่พิมพ์ การผลิตไฟฟ้า การท่องเที่ยว และเทคโนโลยีอาหารปลอดภัย
สำหรับปีการศึกษา 2560 จะเปิดเพิ่มในสาขาปิโตรเลียม ชิ้นส่วนยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ และโรงแรม โดยให้คำนึงถึงความเหมาะสมกับศักยภาพการพัฒนาทางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมที่แตกต่างกันในแต่ละพื้นที่ด้วย แต่วันนี้เราอาจจะต้องนำร่องด้วยการต่อยอดผู้ที่จบมาแล้วยังไม่มีงานทำ พัฒนาให้ไปสู่แรงงานที่มีฝีมือและตรงกับความต้องการของตลาดในปีหน้านี้ด้วย AEC ทำอย่างไรจะมีทั้งที ถ้ารอปี 2559 - 2560 กว่าจะจบก็อีกหลายปี (2) ให้มีความร่วมกับมิตรประเทศในการส่งนักศึกษา ปวส. ไปฝึกงานในหลักสูตรต่าง ๆ เพื่อสร้างความพร้อมรองรับการพัฒนาประเทศตามนโยบายของรัฐบาล และ (3) ให้มีระบบ “ทวิศึกษา” ให้กว้างขวางขึ้นในระดับการเรียนสายสามัญควบคู่กับสายอาชีพ เมื่อเรียนจบแล้วก็จะได้รับทั้ง 2 วุฒิ สามารถทำงานได้ทันที โดยรัฐบาลจะสนับสนุนค่าเล่าเรียน และอุปกรณ์ประจำตัว เป็นต้น อยากจะเชิญชวนให้มาเรียนสายอาชีวะให้มากขึ้นเรื่อย ๆ ก็ขอให้ระมัดระวังเรื่องการทะเลาะเบาะแว้งระหว่างสถาบัน เลิกกันได้แล้วไม่เกิดประโยชน์อะไรทั้งสิ้น
สำหรับนโยบาย “ลดเวลาเรียน...เพิ่มเวลารู้” นั้น ผมเห็นว่านักเรียนจำนวนมากมีปัญหาในเรื่องความสุข เพราะมีการบ้านมาก เรียนในห้องก็เครียดมาก อะไรมาก แต่ขาดทักษะต่าง ๆ ไปด้วย ทั้งเครียด ทั้งขาดทักษะ ทำงานไม่ได้อะไรทำนองนึ้ ไม่เรียนรู้ รู้อย่างเดียวเพื่อจะสอบ เพื่อจะไปเอาปริญญาอย่างนี้ผมว่าไม่ใช่ ผลสัมฤทธิ์ไม่เท่ากับที่เรียนไป ทำอย่างไรเด็กไทยจะ “คิดเป็น” นี่เป็นโจทย์สำคัญ การศึกษาควรให้มากกว่าความรู้ ต้องให้ผู้เรียนมีทักษะการทำงานร่วมกันหรือที่เรียกว่า Teamwork วันนี้ประเทศไทยค่อนข้างจะขาด Teamwork ทำงานร่วมกันไม่ค่อยได้ มีความคิดสร้างสรรค์ แสวงหาจุดร่วม จุดต่างเอาไว้ก่อน รู้จักการแก้ปัญหาเร่งด่วน จัดลำดับของปัญหาให้ได้ ทั้งนี้ทุกคนจะต้องมีความพร้อมเพื่อจะรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมด้วย จึงจะสามารถส่งเสริมการพัฒนาประเทศโดยรวมได้ในทุกมิติ โดยรัฐบาลได้น้อมนำแนวทางพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ว่าในเรื่องการศึกษานี้มีหลายอย่างด้วยกัน (1) ให้ครูรักเด็กและเด็กรักครู เกิดขึ้นได้หรือยัง (2) ให้ครูสอนเด็ก ให้มีน้ำใจต่อเพื่อน ไม่ให้แข่งขันกันเอง แต่ให้แข่งกับตัวเอง ให้เด็กที่เรียนเก่งกว่าช่วยสอนเพื่อนที่เรียนช้ากว่า อ่อนกว่า และ (3) ให้ครูจัดกิจกรรมให้เด็กทำร่วมกัน เพื่อให้เห็นคุณค่าของความสามัคคี ทั้งนี้ ก็จะต้องไม่ทำให้ด้านวิชาการของเด็กตกต่ำลง
สำหรับการดำเนินการของกระทรวงศึกษาธิการในปัจจุบันได้ยึดหลักการสำคัญ คือ (1) ไม่กระทบเนื้อหาใน 8 กลุ่มสาระหลัก (2) ใช้ทฤษฎีในการศึกษา 4H (Head Heart Hand Health) ให้เหมาะสมกับช่วงวัย หรืออาจพูดง่าย ๆ คือ การเรียนที่ต้องส่งเสริมให้ “สมองดี มีคุณธรรม มีทักษะ และมีสุขภาพแข็งแรง” ซึ่งเป็นทักษะที่สำคัญในการดำรงชีวิตประจำวัน และชีวิตการทำงานต่อไปด้วย และ (3) มีการประเมินผลการปฏิบัติ สำหรับการพัฒนาไปสู่ผลสัมฤทธิ์ของโครงการต่อไปในเชิงคุณภาพไม่ใช่เชิงปริมาณ และไม่ใช่สำหรับบุคลากรทางการศึกษาอย่างเดียว เด็กต้องมีส่วนร่วมในการประเมินด้วย ผลงานที่มีต่อเด็ก ต่อโรงเรียน ต่อสถานศึกษา ผมสั่งไปแล้ว
ขณะนี้มีโรงเรียนที่พร้อมในเรื่องการลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้ มีโรงเรียนที่พร้อมสมัครใจเข้าร่วม จำนวน 4,100 โรงเรียน ทั่วประเทศ มีเมนู 381 กิจกรรมให้เลือกใช้ ทุกโรงเรียนอาจจะมีความพร้อมไม่เท่ากัน แต่ทั้งนี้ต้องอยู่ในกรอบเพราะจะได้มีการประเมินผลว่าดีหรือไม่ดีอย่างไร ในระยะเริ่มต้นกระทรวงศึกษาธิการจะส่ง Smart Trainers เป็นพี่เลี้ยงช่วยวางแผนการเรียนการสอน และจัดตารางกิจกรรม รวมทั้งแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นด้วย ใครที่ไม่ได้ฟังผมวันนี้ ใครที่ฟังก็ไปบอกเขาด้วย บางครั้งผมเห็นครูบางคน สถานศึกษาบางแห่ง บอกไม่รู้เรื่องดีแต่สั่งการลงไป นี่เขาทำให้หมดแล้ว เพียงแต่ท่านต้องขวนขวายบ้าง เขตการศึกษาท่านต้องมารับผิดชอบด้วย ไม่อย่างนั้นเขตการศึกษาก็เหมือนเดิม ท่านต้องปรับปรุงวิธีการทำงานของท่าน ผมไม่ได้ตำหนิท่านว่าไม่ได้ทำงาน แต่ท่านต้องทำให้ตรงกับนโยบายของเรา
ด้านเศรษฐกิจ รัฐบาลได้มีการกระตุ้นการลงทุนภาคเอกชน ได้อนุมัติการปฏิรูปขั้นตอน และลดระยะเวลาในการเข้าร่วมโครงการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน (Public-Private Partnership : PPP) ในโครงการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งนี้เพื่อผลักดันให้ดำเนินการได้รวดเร็วขึ้น หรือที่เรียกว่า “PPP fast track” เป็นการรวบรวมหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเข้ามาทำงานร่วมกัน เพื่อลดขั้นตอนในการดำเนินงาน ลดระยะเวลาจากเดิมกว่าจะผ่านขั้นตอนและเริ่มลงทุนได้ ต้องใช้เวลาเกือบ 2 ปี วันนี้เราต้องลดขั้นตอนลงเหลือ 9 เดือน ให้ได้โดยเร็วที่สุด เพราะเรามีโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่กำลังเข้าสู่การพิจารณา มูลค่ารวมกว่า 3.47 แสนล้านบาท ทั้งนี้ เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้นและปานกลาง ที่ผ่านมาการลงทุนภาคเอกชนในประเทศไทยน้อยมาก ส่งผลให้ประสิทธิภาพการผลิตด้อยลง เพราะไม่มีการลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ ๆ และกระทบกับการส่งออก ดังนั้น เราจำเป็นต้องมีการปรับโครงสร้างการผลิตให้มีประสิทธิภาพดีขึ้น
สำหรับจำนวนโครงการลงทุนที่เข้าสู่กระบวนการ “PPP fast track” แล้ว มีหลาย โครงการ ประกอบด้วย โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง),โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน (บางซื่อ-ท่าพระ) โครงการมอเตอร์เวย์บางปะอิน-นครราชสีมา โครงการมอเตอร์เวย์บางใหญ่-กาญจนบุรี โครงการโรงงานขยะ อบจ.นนทบุรี โครงการโรงงานขยะเทศบาลนครราชสีมา และโครงการพัฒนาพื้นที่ของการท่าเรือแห่งประเทศไทย ศูนย์ธุรกิจพาณิชย์นาวี (Maritime Business Center)
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและเป็นธรรม “PPP fast track” จะไม่รวมถึงกระบวนการตรวจสอบและการคัดเลือกภาคเอกชนมาร่วม ทั้งนี้ต้องดำเนินการอย่างรอบคอบภายใต้กรอบกฎหมาย หรือ พ.ร.บ.การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2556 ไม่ได้มีการปรับแก้กฎหมาย หรือกฎระเบียบแต่อย่างใด หลายคนก็มากล่าวหาว่าจะมาทุจริตกันอีก เอื้อประโยชน์อะไรกันอีก ก็ต่อต้านไปทุกเรื่อง ก็เกิดไม่ได้ทั้งหมด ทุกโครงการไม่จำเป็นจะต้องอยู่ภายใต้หลักเกณฑ์นี้ ก็แล้วแต่โครงการที่เหมาะสม เราก็จะมุ่งเน้นไปที่โครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน หากเราไม่ใช่วิธีนี้ให้เร็วขึ้น รัฐก็จะต้องใช้เวลาในการดำเนินการ และต้องลงทุนด้วยเม็ดเงินมหาศาลทั้งหมด ซึ่งเรายังไม่มีรายได้เพียงพอ เพราะฉะนั้นต้องเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนมาร่วมมือ แต่ต้องเป็นการแข่งขันแบบเสรีและมีความเป็นธรรม
วันนี้เรามีตัวอย่างโครงการที่ประสานคุณค่าและประโยชน์ของการอนุรักษ์และการพัฒนาอย่างยั่งยืน ในลักษณะกิจการเพื่อสังคม (Social Enterprise) คือ ชุมชนริมน้ำจันทบูร จังหวัดจันทบุรี ซึ่งเป็นชุมชนที่เก่าแก่มีอายุกว่า 150 ปี มีโครงการบ้านพัก – พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ของหลวงราชไมตรีเป็นตัวชูโรง ซึ่งเกิดจากการร่วมแรงร่วมใจกันของพี่น้องในชุมชนกันเอง ถือหุ้น เป็นเจ้าของร่วมกัน ช่วยกันอนุรักษ์สถาปัตยกรรม ฟื้นฟูย่านประวัติศาสตร์ รักษาสภาพแวดล้อมและวิถีชีวิตของชุมชน ครอบคลุมมิติสังคม วัฒนธรรม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อมอย่างบูรณาการ โดยนำเสนอให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม สร้างงาน สร้างรายได้ ในชุมชน ซึ่งเป็นถิ่นกำเนิดของตน เป็นตัวอย่างความสำเร็จที่ดีในการสร้างความเข้มแข็งในชุมชน อยากให้พี่น้องในแต่ละชุมชนทั่วประเทศ มีหลายแห่งที่มีศักยภาพทั้งสิ้น ชุมชนที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง ให้ช่วยกันศึกษาและหา “จุดแข็ง” ทางด้านวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียม ประเพณี งานฝีมือ ภูมิปัญญาท้องถิ่น และประวัติศาสตร์ มาเป็น “จุดขาย” ในการจะสร้างเศรษฐกิจชุมชนของตนให้เข้มแข็งต่อไป
อีก 2 เดือน เราก็จะเข้าสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ดังนั้น ตลาดคลองผดุงกรุงเกษมของเราได้จัดให้มีงาน “OTOP TO AEC...มรดกของแผ่นดิน จากท้องถิ่นสู่สากล” ระหว่างวันที่ 3 – 25 พฤศจิกายน 2558 เพื่อแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ OTOP ระดับ 3 - 5 ดาว จากทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ที่มีศักยภาพในการส่งออกต่างประเทศ มาจัดแสดงและจำหน่ายกว่า 330 รายการ นอกจากนั้นมีการส่งเสริมความรู้ด้านการเจรจาธุรกิจ การตลาด การออกแบบ การเงินให้กับผู้ร่วมงานที่สนใจ ทั้งผู้ประกอบการและผู้ที่มาเยี่ยมชมด้วย รวมความถึงผู้ที่อยากจะทำธุรกิจใหม่ ๆ และมีการประเมินสินค้าที่นำมาด้วย ให้คำแนะนำ เพื่อพัฒนาไปอีกขั้นหนึ่งให้มีการขยายกิจการมากขึ้น เพิ่มมูลค่ามากขึ้น เน้นคุณภาพและมาตรฐานผลิตภัณฑ์ โดยมีทีมผู้เชี่ยวชาญ มี “ศูนย์บริการร่วมของกระทรวงมหาดไทย” มาให้บริการแก่พี่น้องประชาชน ที่เข้าเยี่ยมชมภายในงานอีกด้วย อาทิ การบริการทำบัตรประชาชนเคลื่อนที่ ใครที่บัตรเก่า บัตรชำรุด มาทำให้เรียบร้อยใช้เวลาไม่นาน การแจกแบบแปลนบ้าน และการแนะนำวิธีการประเมินที่ดิน เป็นต้น ขอเชิญพี่น้องประชาชนทุกท่าน เรามาร่วมซื้อหาสินค้าฝีมือคนไทย มาตรฐานโลก หาความรู้ทางธุรกิจ และรับบริการต่าง ๆ ได้ภายในงาน ถามได้ทุกเรื่องถ้าเขาตอบไม่ได้เขาก็จะไปถามคนอื่นให้ หรือส่งต่อให้ใครตอบท่าน
ท้ายที่สุดนี้ ผมขอเชิญชวนพี่น้องประชาชน ร่วมกันสืบสานและอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย พาลูกหลานไปชมนาฏศิลป์ชั้นสูงของชาติ ที่จะมีการแสดงหลายรอบ โดยโขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ชุด “ศึกอินทรชิต” ตอนพรหมาศ ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ระหว่างวันที่ 7 พฤศจิกายน – 6 ธันวาคมนี้ ผู้สนใจติดตามรายละเอียดได้ที่www.khonperformance.com ผมและคณะรัฐมนตรีก็จะไปชมในรอบแรกด้วย ขอเชิญชวน ต้องไปดูให้เป็น ไปดูการแต่งตัว ท่าทาง ซึ่งแตกต่างกันออกไป ถ้าดูผิวเผินไม่สนุกก็จะเบื่อกัน ซึ่งเราเบื่อวัฒนธรรมเราเองไม่ได้ ผมคิดอย่างนั้น อยากจะให้ทุกคนได้เรียนรู้ว่าเราจะทำอย่างไร จะได้เกิดความภาคภูมิใจในประวุติศาสตร์ชาติพันธุ์ของเรา วัฒนธรรมประเพณีอันงดงาม ซึ่งต่างประเทศมาเที่ยวบ้านเราเพราะอย่างนี้ แต่คนของเราเองกลับไม่ชอบ อย่างนี้ผมว่าไม่ใช่ หลายประเทศมีแต่ต้องหาความรู้ให้มากขึ้น เพื่อจะไปบอกเล่าเชิญชวนคนเข้ามาเป็นเจ้าบ้านที่ดี ดูแลเรื่องความปลอดภัย ของเราจะเอาแต่เงินอย่างเดียวก็คงไม่ใช่ ไม่ได้ ผมพูดถึงคนไม่ดี คนที่เอาแต่ประโยชน์ส่วนตน คนดีก็มากกว่าอยู่แล้ว ช่วยทำให้คนไม่ดีกลายเป็นคนดี ขอบคุณครับ วันนี้อาจจะพูดหนักนิด เบาหน่อยบ้าง ก็ขอโทษด้วย บางครั้งก็ดูผมอาจจะขี้โมโหไปบ้าง ก็ธรรมดาผมทหารเก่า ขอให้มีความสุขและปลอดภัยในวันหยุดสุดสัปดาห์ เสาร์ – อาทิตย์นี้ สวัสดีครับ
ที่มา ; เว็บ รัฐบาลไทย
ที่มา ; เว็บ รัฐบาลไทย
ฟรี... ห้องเตรียม-ครูผู้ช่วย
-ผู้บริหาร-บุคลากรการศึกษา ที่
ฟรี... ห้องเตรียม-ครูผู้ช่วย
-ผู้บริหาร-บุคลากรการศึกษา ที่
" ติวสอบดอทคอม " โดย อ.นิกร
เว็บฟรีข้อสอบออนไลน์
(พัฒนาความรู้เตรียมครู-ผู้บริหาร-บุคลากร การศึกษา)
" ติวสอบดอทคอม " โดย อ.นิกร
เว็บฟรีข้อสอบออนไลน์
(พัฒนาความรู้เตรียมครู-ผู้บริหาร-บุคลากร การศึกษา)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น