เรื่องใหม่น่าสนใจ
-คู่มือ 4 ชุด นโยบาย บริบริหาร ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้
http://academic.obec.go.th/web/node/1/77/govdoc_sec_detail/296
-เกณฑ์ประเมินคุณภาพภายนอกรอบสี่ โดย สมศ.
-เกณฑ์การย้ายครู พ.ศ.2558 http://www.otepc.go.th/images/document/2558/v16-2558.pdf
- พรบ.เงินเดือนใหม่ข้าราชการครูฯ พ.ศ.2558
http://tuewsob.blogspot.com/2015/05/4-10-1-57.html
ข้อสอบออนไลน์ ( พัฒนาความรู้ครู - ผู้บริหาร - บุคลากรการศึกษา) ชุดใหม่ โดย อ.นิกร
ข้อสอบออนไลน์ ( พัฒนาความรู้ครู - ผู้บริหาร - บุคลากรการศึกษา) ชุดใหม่ โดย อ.นิกร
เตรียมสอบ บน ยูทูป ทั้งหมด ได้ที่
( คลิ๊ก ) สมัครพัฒนาความรู้
เตรียมสอบผู้บริหารสถาน+การศึกษา
เตรียมครูมืออาชีพ
ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี 390/2558หารือกับจีนในการผลิตกำลังคนด้านขนส่งทางราง
และการจัดตั้งสถาบันอาชีวศึกษาไทย-จีน
โรงแรมรอยัลปริ๊นเซส หลานหลวง - พลเอกดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ หารือกับ H.E.Mr.Ning Fukui เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย เกี่ยวกับการผลิตและพัฒนากำลังคนด้านระบบขนส่งทางราง และ ความร่วมมือในการจัดตั้งสถาบันอาชีวศึกษาไทย-จีน เมื่อวันจันทร์ที่ 9 พฤศจิกายน 2558 โดยมีนายชาติชาย ทิพย์สุนาวี ปลัดกระทรวงคมนาคม, นายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.), นายอกนิษฐ์ คลังแสง และนายวณิชย์ อ่วมศรี รองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เข้าร่วมหารือ
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า ที่ผ่านมาไทยและจีนได้มีการลงนามข้อตกลงร่วมกัน (MOU) หลายเรื่องในการแลกเปลี่ยนและพัฒนาด้านอาชีวศึกษา รวมทั้งการจัดอบรมด้านระบบการขนส่งทางราง ซึ่งจีนให้การอบรมระยะสั้นแก่บุคลากรของไทย
แต่ขณะนี้รัฐบาลต้องการวางแผนผลิตและพัฒนากำลังคนด้านระบบการขนส่งทางรางกว่า 10,000 คน รวมทั้งเทคโนโลยีด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบขนส่งทางราง จึงขอความร่วมมือกับจีนในการจัดตั้ง "สถาบันอาชีวศึกษาไทย-จีน" เพราะนับตั้งแต่มีการจัดตั้งโรงเรียนเทคนิคไทย-เยอรมัน เมื่อประมาณ 50 ปีที่แล้ว ไทยก็ยังไม่ได้มีความร่วมมือในการจัดตั้งสถาบันอาชีวศึกษากับประเทศอื่น โดยไทยเห็นว่าจีนเป็นประเทศที่ให้ความสำคัญกับอาชีวศึกษาในการพัฒนาประเทศอย่างจริงจัง อีกทั้งจีนมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยในด้านนี้ ดังนั้น หากจัดตั้งสถาบันดังกล่าวยิ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อการผลิตบุคลากรด้านอาชีวศึกษาของไทยด้วยสถานที่ตั้งของประเทศไทยสามารถเป็นศูนย์กลาง (Hub) ด้านระบบการขนส่งทางรางในกลุ่มประเทศอาเซียนได้
ส่วนความร่วมมือที่ผ่านมาของกระทรวงคมนาคมที่ได้มีการแลกเปลี่ยนบุคลากรกับจีน คือ การพัฒนาอาจารย์มหาวิทยาลัยและพนักงานการรถไฟนั้น ก็ถือเป็นการเตรียมบุคลากรให้มีความพร้อมต่อการพัฒนาระบบการขนส่งทางราง ซึ่งในส่วนนี้กระทรวงศึกษาธิการพร้อมจะสนับสนุนผลิตนักเรียนนักศึกษาให้สอดคล้องกับความต้องการด้านกำลังคนของกระทรวงคมนาคมต่อไปเช่นกัน
Mr.Ning Fukui เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน กล่าวว่า ผู้ที่จบการศึกษาจากอาชีวศึกษาในจีนสามารถหางานได้ง่ายกว่าผู้ที่จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย อีกทั้งยังมีรายได้สูงกว่าด้วย โดยในแต่ละปีมีผู้จบการศึกษาระดับอาชีวศึกษาประมาณ 10 ล้านคน ในขณะที่มีผู้จบการศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยประมาณ 7-8 ล้านคน เนื่องจากจีนมีสถาบันอาชีวศึกษาที่มีคุณภาพและมีอุปกรณ์การเรียนที่ทันสมัย
ส่วนประเด็นการส่งเสริมผลิตและพัฒนากำลังคนด้าน ระบบการขนส่งทางรางนั้น เห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้ร่วมมือกับกระทรวงคมนาคมในการให้การอบรมด้านรถไฟความเร็วสูงให้กับบุคลากรไทยมาตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2556 จนถึงปัจจุบัน แต่หลังจากการหารือครั้งนี้ก็พร้อมส่งเสริมและสนับสนุน ความร่วมมือด้านอาชีวศึกษากับไทยให้มากขึ้นด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งความร่วมมือเพิ่มเติมกับกระทรวงศึกษาธิการในการผลิตและพัฒนากำลังคนด้านระบบการขนส่งทางราง
สำหรับความร่วมมือในการจัดตั้งอาชีวศึกษาไทย-จีนนั้น เห็นว่ามีความเป็นไปได้ โดยขอให้กระทรวงศึกษาธิการประสานผ่านสถานเอกอัครราชทูตจีน เพื่อเสนอให้รัฐบาลจีนพิจารณาต่อไป และหากบรรลุข้อตกลงเรื่องนี้ ไทยจะเป็นประเทศแรกที่จีนให้ความร่วมมือในการจัดตั้งสถาบันอาชีวศึกษา
นายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กล่าวเพิ่มเติมถึงการหารือกับเอกอัครราชทูตจีนในครั้งนี้ ซึ่งมีประเด็นสำคัญ 2 เรื่อง คือ 1) การเตรียมกำลังคนเพื่อรองรับระบบการขนส่งราง 2) การจัดตั้งสถาบันอาชีวศึกษาไทย-จีน
ซึ่งที่ผ่านมากระทรวงคมนาคมเป็นหลักในการจัดอบรมบุคลากร โดยได้รับความร่วมมือจากจีน แต่ก็เป็นความร่วมมือที่เกิดขึ้นโดยไม่ได้ผูกพันกับรัฐบาลจีนในการเข้ามาทำระบบการขนส่งทางรางในไทย เพราะความร่วมมือดังกล่าวเป็นเพียงความช่วยเหลือในฐานะมิตรประเทศ ซึ่งไทยและจีนได้มีความร่วมมือด้านการอบรมบุคลากรด้านระบบการขนส่งทางรางมาแล้วเป็นระยะกว่าเวลา 2 ปี ดังจะเห็นได้จากในเดือนสิงหาคม 2557 จีนได้จัดอบรมบุคลากรไทยไปแล้วประมาณ 180 คน และมีแผนอบรมต่อเนื่องอีกกว่า 900 คน
ส่วนข้อเสนอของ รมว.ศึกษาธิการ ให้มีการจัดตั้งสถาบันอาชีวศึกษาไทย-จีน เพื่อผลิตกำลังคนให้รองรับสาขาเทคโนโลยีใหม่ๆ ทุกสาขา ไม่ใช่เฉพาะระบบขนส่งทางรางเท่านั้น ก็น่าจะเป็นการนำเทคโนโลยีและหลักสูตรของจีนมาบูรณาการร่วมกับหลักสูตรของไทย ซึ่งจะช่วยให้ผู้ที่จบการศึกษาจากสถาบันดังกล่าวมีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับทั้งไทยและจีน คาดว่าสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาจะสรุป โครงการเบื้องต้น (Proposal) เพื่อเสนอให้ รมว. ศึกษาธิการและเอกอัครราชทูตจีน พิจารณาได้ ภายในเดือนธันวาคม 2558
( คลิ๊ก ) สมัครพัฒนาความรู้
เตรียมสอบผู้บริหารสถาน+การศึกษา
เตรียมครูมืออาชีพ
ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี 390/2558หารือกับจีนในการผลิตกำลังคนด้านขนส่งทางราง
และการจัดตั้งสถาบันอาชีวศึกษาไทย-จีน
และการจัดตั้งสถาบันอาชีวศึกษาไทย-จีน
โรงแรมรอยัลปริ๊นเซส หลานหลวง - พลเอกดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ หารือกับ H.E.Mr.Ning Fukui เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย เกี่ยวกับการผลิตและพัฒนากำลังคนด้านระบบขนส่งทางราง และ ความร่วมมือในการจัดตั้งสถาบันอาชีวศึกษาไทย-จีน เมื่อวันจันทร์ที่ 9 พฤศจิกายน 2558 โดยมีนายชาติชาย ทิพย์สุนาวี ปลัดกระทรวงคมนาคม, นายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.), นายอกนิษฐ์ คลังแสง และนายวณิชย์ อ่วมศรี รองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เข้าร่วมหารือ
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า ที่ผ่านมาไทยและจีนได้มีการลงนามข้อตกลงร่วมกัน (MOU) หลายเรื่องในการแลกเปลี่ยนและพัฒนาด้านอาชีวศึกษา รวมทั้งการจัดอบรมด้านระบบการขนส่งทางราง ซึ่งจีนให้การอบรมระยะสั้นแก่บุคลากรของไทย
แต่ขณะนี้รัฐบาลต้องการวางแผนผลิตและพัฒนากำลังคนด้านระบบการขนส่งทางรางกว่า 10,000 คน รวมทั้งเทคโนโลยีด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบขนส่งทางราง จึงขอความร่วมมือกับจีนในการจัดตั้ง "สถาบันอาชีวศึกษาไทย-จีน" เพราะนับตั้งแต่มีการจัดตั้งโรงเรียนเทคนิคไทย-เยอรมัน เมื่อประมาณ 50 ปีที่แล้ว ไทยก็ยังไม่ได้มีความร่วมมือในการจัดตั้งสถาบันอาชีวศึกษากับประเทศอื่น โดยไทยเห็นว่าจีนเป็นประเทศที่ให้ความสำคัญกับอาชีวศึกษาในการพัฒนาประเทศอย่างจริงจัง อีกทั้งจีนมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยในด้านนี้ ดังนั้น หากจัดตั้งสถาบันดังกล่าวยิ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อการผลิตบุคลากรด้านอาชีวศึกษาของไทยด้วยสถานที่ตั้งของประเทศไทยสามารถเป็นศูนย์กลาง (Hub) ด้านระบบการขนส่งทางรางในกลุ่มประเทศอาเซียนได้
ส่วนความร่วมมือที่ผ่านมาของกระทรวงคมนาคมที่ได้มีการแลกเปลี่ยนบุคลากรกับจีน คือ การพัฒนาอาจารย์มหาวิทยาลัยและพนักงานการรถไฟนั้น ก็ถือเป็นการเตรียมบุคลากรให้มีความพร้อมต่อการพัฒนาระบบการขนส่งทางราง ซึ่งในส่วนนี้กระทรวงศึกษาธิการพร้อมจะสนับสนุนผลิตนักเรียนนักศึกษาให้สอดคล้องกับความต้องการด้านกำลังคนของกระทรวงคมนาคมต่อไปเช่นกัน
Mr.Ning Fukui เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน กล่าวว่า ผู้ที่จบการศึกษาจากอาชีวศึกษาในจีนสามารถหางานได้ง่ายกว่าผู้ที่จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย อีกทั้งยังมีรายได้สูงกว่าด้วย โดยในแต่ละปีมีผู้จบการศึกษาระดับอาชีวศึกษาประมาณ 10 ล้านคน ในขณะที่มีผู้จบการศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยประมาณ 7-8 ล้านคน เนื่องจากจีนมีสถาบันอาชีวศึกษาที่มีคุณภาพและมีอุปกรณ์การเรียนที่ทันสมัย
ส่วนประเด็นการส่งเสริมผลิตและพัฒนากำลังคนด้าน ระบบการขนส่งทางรางนั้น เห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้ร่วมมือกับกระทรวงคมนาคมในการให้การอบรมด้านรถไฟความเร็วสูงให้กับบุคลากรไทยมาตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2556 จนถึงปัจจุบัน แต่หลังจากการหารือครั้งนี้ก็พร้อมส่งเสริมและสนับสนุน ความร่วมมือด้านอาชีวศึกษากับไทยให้มากขึ้นด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งความร่วมมือเพิ่มเติมกับกระทรวงศึกษาธิการในการผลิตและพัฒนากำลังคนด้านระบบการขนส่งทางราง
สำหรับความร่วมมือในการจัดตั้งอาชีวศึกษาไทย-จีนนั้น เห็นว่ามีความเป็นไปได้ โดยขอให้กระทรวงศึกษาธิการประสานผ่านสถานเอกอัครราชทูตจีน เพื่อเสนอให้รัฐบาลจีนพิจารณาต่อไป และหากบรรลุข้อตกลงเรื่องนี้ ไทยจะเป็นประเทศแรกที่จีนให้ความร่วมมือในการจัดตั้งสถาบันอาชีวศึกษา
นายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กล่าวเพิ่มเติมถึงการหารือกับเอกอัครราชทูตจีนในครั้งนี้ ซึ่งมีประเด็นสำคัญ 2 เรื่อง คือ 1) การเตรียมกำลังคนเพื่อรองรับระบบการขนส่งราง 2) การจัดตั้งสถาบันอาชีวศึกษาไทย-จีน
ซึ่งที่ผ่านมากระทรวงคมนาคมเป็นหลักในการจัดอบรมบุคลากร โดยได้รับความร่วมมือจากจีน แต่ก็เป็นความร่วมมือที่เกิดขึ้นโดยไม่ได้ผูกพันกับรัฐบาลจีนในการเข้ามาทำระบบการขนส่งทางรางในไทย เพราะความร่วมมือดังกล่าวเป็นเพียงความช่วยเหลือในฐานะมิตรประเทศ ซึ่งไทยและจีนได้มีความร่วมมือด้านการอบรมบุคลากรด้านระบบการขนส่งทางรางมาแล้วเป็นระยะกว่าเวลา 2 ปี ดังจะเห็นได้จากในเดือนสิงหาคม 2557 จีนได้จัดอบรมบุคลากรไทยไปแล้วประมาณ 180 คน และมีแผนอบรมต่อเนื่องอีกกว่า 900 คน
ส่วนข้อเสนอของ รมว.ศึกษาธิการ ให้มีการจัดตั้งสถาบันอาชีวศึกษาไทย-จีน เพื่อผลิตกำลังคนให้รองรับสาขาเทคโนโลยีใหม่ๆ ทุกสาขา ไม่ใช่เฉพาะระบบขนส่งทางรางเท่านั้น ก็น่าจะเป็นการนำเทคโนโลยีและหลักสูตรของจีนมาบูรณาการร่วมกับหลักสูตรของไทย ซึ่งจะช่วยให้ผู้ที่จบการศึกษาจากสถาบันดังกล่าวมีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับทั้งไทยและจีน คาดว่าสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาจะสรุป โครงการเบื้องต้น (Proposal) เพื่อเสนอให้ รมว. ศึกษาธิการและเอกอัครราชทูตจีน พิจารณาได้ ภายในเดือนธันวาคม 2558
ที่มา ; เว็บ สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงศึกษาธิการ
ฟรี... ห้องเตรียม-ครูผู้ช่วย
-ผู้บริหาร-บุคลากรการศึกษา ที่
ฟรี... ห้องเตรียม-ครูผู้ช่วย
-ผู้บริหาร-บุคลากรการศึกษา ที่
" ติวสอบดอทคอม " โดย อ.นิกร
เว็บฟรีข้อสอบออนไลน์
(พัฒนาความรู้เตรียมครู-ผู้บริหาร-บุคลากร การศึกษา)
" ติวสอบดอทคอม " โดย อ.นิกร
เว็บฟรีข้อสอบออนไลน์
(พัฒนาความรู้เตรียมครู-ผู้บริหาร-บุคลากร การศึกษา)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น