เรื่องใหม่น่าสนใจ
-คู่มือ 4 ชุด นโยบาย บริบริหาร ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้
http://academic.obec.go.th/web/node/1/77/govdoc_sec_detail/296
-เกณฑ์ประเมินคุณภาพภายนอกรอบสี่ โดย สมศ.
-เกณฑ์การย้ายครู พ.ศ.2558 http://www.otepc.go.th/images/document/2558/v16-2558.pdf
- พรบ.เงินเดือนใหม่ข้าราชการครูฯ พ.ศ.2558
http://tuewsob.blogspot.com/2015/05/4-10-1-57.html
ข้อสอบออนไลน์ ( พัฒนาความรู้ครู - ผู้บริหาร - บุคลากรการศึกษา) ชุดใหม่ โดย อ.นิกร
ข้อสอบออนไลน์ ( พัฒนาความรู้ครู - ผู้บริหาร - บุคลากรการศึกษา) ชุดใหม่ โดย อ.นิกร
เตรียมสอบ บน ยูทูป ทั้งหมด ได้ที่
( คลิ๊ก ) สมัครพัฒนาความรู้
เตรียมสอบผู้บริหารสถาน+การศึกษา
เตรียมครูมืออาชีพ
ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี 422/2558ความร่วมมือโครงการ " ฝีมือชน คนสร้างชาติ"
พลเอกดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ หารือประเด็นความร่วมมือการส่งเสริมและสนับสนุนด้านการศึกษาอาชีวศึกษาตามโครงการ "ฝีมือชน คนสร้างชาติ" กับนายกานต์ ตระกูลฮุน ประธานกรรมการ มูลนิธิเอสซีจี และคณะ เมื่อวันศุกร์ที่ 27 พฤศจิกายน 2558 ที่ห้อง MOC
มูลนิธิเอสซีจี ได้รายงานให้ รมว.ศึกษาธิการ รับทราบเกี่ยวกับการดำเนินงานทุนการศึกษา "ฝีมือชน คนสร้างชาติ" ซึ่งเปิดรับสมัครนักเรียนชั้น ม.3 ที่สนใจเข้าเรียนต่อสายอาชีวะในระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ซึ่งมีเกณฑ์คัดเลือกเด็ก ม.3 ที่ได้เกรดเฉลี่ย 2.7 ขึ้นไป เข้าเรียนในสาขาสาขาช่างอุตสาหกรรมและการบริการ ซึ่งเป็นสาขาที่เป็นความต้องการของตลาดแรงงาน โดยเป็นทุนแบบให้เปล่า 2 หมื่นบาท/ปี ไม่มีภาระผูกพันต้องใช้คืน และต่อเนื่องไปจนสำเร็จการศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) แต่หากผู้รับทุนไปก่อเหตุทะเลาะวิวาท หรือเกรดไม่ถึง จะสิ้นสภาพนักเรียนทุน
ประเด็นสำคัญของการให้ทุนดังกล่าว เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนเข้ามาเรียนสายอาชีวะมากขึ้น เพราะปัจจุบันเด็กไทยที่จบชั้น ม.3 เลือกเรียนต่อสายสามัญสูงถึง 60% ส่วนสายช่างมีเพียง 40% สวนทางกับความต้องการจริง ทั้งที่บุคลากรที่จบสายช่างอุตสาหกรรมจากสถาบันการศึกษาโดยรวมแล้วเป็นผู้มีคุณภาพสูง เป็นที่ต้องการในภาคอุตสาหกรรมหลักทั้ง 6 กลุ่ม เพราะฉะนั้นเรียนจบสายอาชีวะแล้วมีงานทำ และมีรายได้ไม่ด้อยกว่าผู้ที่จบปริญญาตรี ที่สำคัญหากใครมีความเชี่ยวชาญด้านทักษะมากก็จะมีรายได้สูงขึ้นอีก
ทั้งนี้ มูลนิธิฯ ได้ขอความร่วมมือกับกระทรวงศึกษาธิการ 4 เรื่อง คือ 1) ร่วมเผยแพร่คำว่า "ฝีมือชน" ให้เกิดขึ้นอย่างกว้างขวาง เพื่อสร้างความภาคภูมิใจให้ผู้เรียนสายอาชีวะ 2) ประสานความร่วมมือในการสร้างต้นแบบอาชีวศึกษาและฝีมือชนที่เป็นทั้งคนเก่งและคนดี ตอบโจทย์ภาคอุตสาหกรรมและภาคบริการ ทั้งปริมาณและคุณภาพ ซึ่งที่ผ่านมาได้กำหนดพื้นที่เป้าหมายสร้างต้นแบบไว้บ้างแล้วที่ จ.สระบุรี 3) สนับสนุนการขยายผลโมเดลที่ประสบความสำเร็จ 4) รวบรวมบุคลากรฝีมือชนต้นแบบ เพื่อเผยแพร่และสร้างแรงบันดาลใจให้เด็กได้เห็นแบบอย่างที่ดี
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า มูลนิธิเอสซีจี มีวิธีการที่น่าสนใจหลากหลายในการดำเนินโครงการเริ่มตั้งแต่การปฐมนิเทศเพื่อให้เด็กมีแรงบันดาลใจจากรุ่นพี่และผู้บริหาร มีการจัดกิจกรรม Soft Side เป็นเวลา 3 วัน 2 คืน เพื่อส่งเสริมจริยธรรมและคุณธรรมในการใช้ชีวิต ความสามัคคี ความเป็นผู้นำ ให้เด็กรู้จักคิดถึงผู้อื่น การแบ่งปัน และปูพื้นฐานการเรียนรู้เพื่อสร้างสรรค์ด้วยปัญญา
ทั้งนี้ เมื่อเด็กเรียน ปวช. 3 ก็ได้ให้เด็กไปฝึกงานในสถานประกอบการของบริษัทในเครือเอสซีจี โดยจัดให้มีพี่เลี้ยงดูแล เพื่อให้เด็กเห็นว่าการทำงานในโรงงานอุตสาหกรรมมีศักดิ์ศรี มีหน้ามีตา และเห็นความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน
นอกจากนี้ มูลนิธิได้เน้นการสร้างทัศนคติหรือค่านิยมทางสังคมให้เกิดขึ้น ซึ่งได้จัดทำมินิซีรี่ย์ให้เด็ก ม.3 รับรู้ว่าการเรียนอาชีวะมีความเท่ มีอนาคต มีรายได้ เป็นอนาคตของชาติได้จริง ในขณะเดียวกันก็มีการส่งเสริมให้กลุ่มพ่อแม่ผู้ปกครองเห็นความสำคัญในการเรียนสายอาชีวะเพราะพ่อแม่มีอิทธิพลต่อการเรียนต่อของลูก แต่ในต่างจังหวัดได้ศึกษากลับพบว่าเพื่อนฝูงมีอิทธิพลการเลือกเรียนมากกว่าพ่อแม่
ส่วน ข้อเสนอความร่วมมือทั้ง 4 ข้อของมูลนิธิเอสซีจีนั้น ทางกระทรวงศึกษาธิการพร้อมให้การสนับสนุนความร่วมมือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเด็นที่ 2 คือ ความร่วมมือในการสร้างต้นแบบอาชีวศึกษาและฝีมือชนที่เป็นทั้งคนเก่งและคนดี ได้ให้สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) และ รมช.ศึกษาธิการ (พลเอกสุรเชษฐ์ ชัยวงศ์) ซึ่งกำกับดูแลการอาชีวศึกษา ได้หารือกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เพื่อร่วมกันดำเนินการสร้างต้นแบบอาชีวศึกษาให้เกิดขึ้น อาจเป็นที่ จ.สระบุรี หรือแห่งอื่นก็ได้ เพื่อให้การผลิตผู้เรียนสายอาชีวศึกษามีสัดส่วนผู้เรียนเพิ่มขึ้น และนำไปสู่การสร้างอาชีวะให้มีความเป็นเลิศ ตามนโยบายสำคัญของรัฐบาลต่อไป
ภาพ : ยุทธพงศ์ เลือกกลั่นดี
โอกาสนี้ รมว.ศึกษาธิการ ได้ให้ข้อคิดการอาชีวศึกษาด้วยว่า สิ่งสำคัญอันดับแรกของการสร้างแรงจูงใจให้เกิดขึ้นในการเรียนอาชีวศึกษา คือความปลอดภัยของการเรียนอาชีวะ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่สุดและมากกว่าปัจจัยส่งเสริมด้านอื่นๆ คือ การมีงานทำ การมีรายได้ มีโอกาสความก้าวหน้า ค่านิยม และผู้ปกครอง
( คลิ๊ก ) สมัครพัฒนาความรู้
เตรียมสอบผู้บริหารสถาน+การศึกษา
เตรียมครูมืออาชีพ
ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี 422/2558ความร่วมมือโครงการ " ฝีมือชน คนสร้างชาติ"
ส่วน ข้อเสนอความร่วมมือทั้ง 4 ข้อของมูลนิธิเอสซีจีนั้น ทางกระทรวงศึกษาธิการพร้อมให้การสนับสนุนความร่วมมือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเด็นที่ 2 คือ ความร่วมมือในการสร้างต้นแบบอาชีวศึกษาและฝีมือชนที่เป็นทั้งคนเก่งและคนดี ได้ให้สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) และ รมช.ศึกษาธิการ (พลเอกสุรเชษฐ์ ชัยวงศ์) ซึ่งกำกับดูแลการอาชีวศึกษา ได้หารือกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เพื่อร่วมกันดำเนินการสร้างต้นแบบอาชีวศึกษาให้เกิดขึ้น อาจเป็นที่ จ.สระบุรี หรือแห่งอื่นก็ได้ เพื่อให้การผลิตผู้เรียนสายอาชีวศึกษามีสัดส่วนผู้เรียนเพิ่มขึ้น และนำไปสู่การสร้างอาชีวะให้มีความเป็นเลิศ ตามนโยบายสำคัญของรัฐบาลต่อไป
ที่มา ; เว็บ สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงศึกษาศึกษา
( คลิ๊ก ) สมัครพัฒนาความรู้
( คลิ๊ก ) สมัครพัฒนาความรู้
เตรียมสอบผู้บริหารสถาน+การศึกษา
เตรียมครูมืออาชีพ
เตรียมสอบผู้บริหารสถาน+การศึกษา
เตรียมครูมืออาชีพ
ฟรี... ห้องเตรียม-ครูผู้ช่วย
-ผู้บริหาร-บุคลากรการศึกษา ที่
ฟรี... ห้องเตรียม-ครูผู้ช่วย
-ผู้บริหาร-บุคลากรการศึกษา ที่
" ติวสอบดอทคอม " โดย อ.นิกร
เว็บฟรีข้อสอบออนไลน์
(พัฒนาความรู้เตรียมครู-ผู้บริหาร-บุคลากร การศึกษา)
" ติวสอบดอทคอม " โดย อ.นิกร
เว็บฟรีข้อสอบออนไลน์
(พัฒนาความรู้เตรียมครู-ผู้บริหาร-บุคลากร การศึกษา)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น