รมว.ศธ.เข้าร่วมการประชุมสภารัฐมนตรีศึกษาแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม - นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เข้าร่วมการประชุมสภารัฐมนตรีศึกษาแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (สภาซีเมค) ครั้งที่ ๔๗ (47th SEAMEO Council Conference: SEAMEC) ระหว่างวันที่ ๑๙–๒๑ มีนาคม ๒๕๕๖ ที่กรุงฮานอย โดยมีกระทรวงศึกษาธิการและฝึกอบรมแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม (Ministry of Education and Training: MOET)เป็นเจ้าภาพจัดการประชุม และมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการและฝึกอบรมแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามได้รับเลือกเป็นประธานสภาซีเมค พร้อมทั้งเป็นประธานการประชุมในครั้งนี้ โดยมีภารกิจที่สำคัญตามลำดับดังนี้
ในการประชุมครั้งนี้ รมว.ศธ.ไทยจะได้รับเลือกเป็นรองประธานการประชุม โดยมีภารกิจสำคัญในการเข้าร่วมการประชุมโต๊ะกลมรัฐมนตรีศึกษา(Ministerial Round-table Meeting) เพื่อหารือประเด็นสำคัญที่มีความสนใจร่วมกันในภูมิภาค ๒ เรื่อง ได้แก่ Building ‘a Learning Society’ in Southeast Asian Countries และ Joint Efforts by SEAMEO Member Countries in Support of ASEAN Community by 2015 and Beyond นอกจากนี้ จะได้รับมอบเหรียญเกียรติยศด้านการศึกษา พร้อมทั้งร่วมลงนามในแถลงการณ์ยุทธศาสตร์ความร่วมมือของซีมีโอต่อการพัฒนาในระดับภูมิภาคร่วมกับประเทศสมาชิกซีมีโอด้วย ซึ่งจะเป็นโอกาสของ รมว.ศธ.ไทยที่จะผลักดันให้ประเทศไทยมีบทบาทในการกำหนดยุทธศาสตร์และข้อริเริ่มใหม่ๆ เพื่อดำเนินกิจกรรมและโครงการด้านการศึกษาที่เป็นประโยชน์ทั้งต่อประเทศไทยและประเทศสมาชิกซีมีโอในอนาคต
นอกจากนี้ ในปี พ.ศ.๒๕๕๘ ประเทศไทยได้รับเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสภาซีเมค ครั้งที่ ๔๘ โดย รมว.ศธ.ไทยจะดำรงตำแหน่งประธานสภาซีเมคในระหว่างปี ๒๕๕๘–๒๕๖๐ และทำหน้าที่ประธานการประชุมสภาซีเมค ครั้งที่ ๔๘ ที่ผ่านมาประเทศไทยได้เคยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสภาซีเมคมาแล้ว ๗ ครั้ง ครั้งล่าสุดคือจัดขึ้นในปี ๒๕๕๒ ที่จังหวัดภูเก็ต
ารประชุมสภารัฐมนตรีศึกษาแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือการประชุมสภาซีเมค (Southeast Asian Ministers of Education Council: SEAMEC) เป็นการประชุมของกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประกอบด้วยรัฐมนตรีศึกษาของประเทศสมาชิก ๑๑ ประเทศ สมาชิกสมทบ ๗ ประเทศ หน่วยงานที่เป็นสมาชิกสมทบ ผู้อำนวยการศูนย์ระดับภูมิภาคของซีมีโอ สำนักงานเลขาธิการซีมีโอ เจ้าหน้าที่และผู้สังเกตการณ์จากองค์กรบริจาคและองค์กรระหว่างประเทศ ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นทุก ๒ ปี โดยมีวัตถุประสงค์ของการประชุมเพื่อกำหนดนโยบายภายใต้กรอบความร่วมมือซีมีโอ เพื่อรับทราบความก้าวหน้า ผลสำเร็จ และปัญหาอุปสรรคในการดำเนินงาน กิจกรรม และโครงการในปีที่ผ่านมา และเพื่อพิจารณาแนวทางในการพัฒนาความร่วมมือทางการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมระหว่างประเทศสมาชิกซีมีโอ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดทางด้านการศึกษาต่อไป
แถลงการณ์ยุทธศาสตร์ความร่วมมือของซีมีโอต่อการพัฒนาในระดับภูมิภาค
๑๙ มีนาคม ๒๕๕๖ ที่กรุงฮานอย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม : รมว.ศธ.ร่วมลงนามในแถลงการณ์ยุทธศาสตร์ความร่วมมือของซีมีโอ ต่อการพัฒนาในระดับภูมิภาค และร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีการลงนามประกาศรับสหราชอาณาจักรเข้าเป็นประเทศสมาชิกสมทบ
รมว.ศธ. กล่าวว่า ได้ร่วมลงนามในแถลงการณ์ยุทธศาสตร์ความร่วมมือของซีมีโอต่อการพัฒนาในระดับภูมิภาค (SEAMEO Statement on SEAMEO’s Strategic Collaboration Towards Regional Development) กับ H.E. Pehin Abu Bakar Apong รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการของบรูไนดารุสซาลาม ในฐานะประธานสภาซีเมค และประเทศสมาชิกซีมีโอ รวม ๑๑ ประเทศ โดยแถลงการณ์ดังกล่าว เป็นการนำเสนอเป้าหมายขององค์การซีมีโอในการเสริมสร้างความเป็นหุ้นส่วนด้านยุทธศาสตร์ และการแบ่งปันความชำนาญและทรัพยากรของศูนย์ระดับภูมิภาคซีมีโอ เพื่อช่วยเหลือประเทศสมาชิกซีมีโอในการบรรลุเป้าหมายการศึกษาระดับชาติ และการพัฒนาในภูมิภาค ซึ่งเป้าหมายนี้กำหนดให้มีระยะดำเนินการระหว่างปี ๒๕๕๖–๒๕๖๓ โดยมีประเด็นสำคัญ ๖ ประการ ดังนี้
● การสร้างสรรค์และดำเนินโครงการที่เป็นนวัตกรรม และมีความยั่งยืน
● การดำเนินโครงการร่วมกับรัฐบาลของประเทศต่างๆ รวมทั้งหุ้นส่วนด้านการพัฒนาในระดับภูมิภาคและระดับนานาชาติ เพื่อส่งเสริมกิจกรรมด้านการศึกษาขั้นพื้นฐาน
● การทำงานร่วมกับอาเซียนเพื่อมุ่งแก้ไขปัญหาในเรื่องของมาตรฐานการรับรองคุณวุฒิและวิชาชีพ
● การส่งเสริมตราสัญลักษณ์ขององค์การซีมีโอที่มีคุณภาพ เพื่อให้ได้รับความไว้วางใจจากกลุ่มประเทศที่ร่วมดำเนินโครงการด้วย
● การดำเนินความร่วมมือกับอาเซียนโดยมุ่งเน้นประเด็นสำคัญที่มีความสนใจร่วมกัน
● การใช้ค่านิยมหลักขององค์กรเป็นแนวทางในการดำเนินงานเพื่อเป็นตัวอย่างในเรื่องของการเคารพต่อความหลากหลายทางวัฒนธรรม ความรับผิดชอบด้านสิ่งแวดล้อม และความเป็นพลเมืองที่ดี
นอกจากนี้ รมว.ศธ.ได้ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีการลงนามประกาศรับสหราชอาณาจักรเข้าเป็นประเทศสมาชิกสมทบ (Proclamation on the United Kingdom as Associate Member of the Southeast Asian Ministers of Education Organization) ซึ่งการรับสหราชอาณาจักรเข้าเป็นประเทศสมาชิกสมทบในครั้งนี้ เป็นการมุ่งส่งเสริมสัมพันธภาพในการดำเนินความร่วมมือระหว่างกัน เพื่อบรรลุผลสำเร็จในเรื่องของสันติภาพ ความเจริญรุ่งเรือง และความมั่นคง โดยผนึกความร่วมมือในการผลักดันการดำเนินกิจกรรมด้านการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรม และมุ่งขยายโอกาสความร่วมมือกับประเทศอื่นที่มีเจตนารมณ์เพื่อมีส่วนร่วม ในการดำเนินกิจกรรม นอกเหนือไปจากประเทศสมาชิกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
หารือทวิภาคีไทย-ฟิลิปปินส์
๑๙ มีนาคม ๒๕๕๖ (ช่วงค่ำ) ที่กรุงฮานอย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม : รมว.ศธ. ได้หารือทวิภาคีกับ H.E. Br. Armin A. Luistro Fsc รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการของฟิลิปปินส์ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ในการดำเนินความร่วมมือด้านการศึกษา
รมว.ศึกษาธิการของฟิลิปปินส์ ได้กล่าวชื่นชมประเทศไทยในเรื่องการปฏิรูปการศึกษา โดยเฉพาะนโยบายแจกแท็บเล็ตให้นักเรียนประถมศึกษาปีที่ ๑ ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มในการจัดการศึกษาในอนาคต ซึ่งจะเน้นการนำเทคโนโลยีและคอมพิวเตอร์มาใช้ในการศึกษามากขึ้น นอกจากนี้ยังได้กล่าวถึงนโยบายการปรับเวลาการเรียนในห้องเรียนให้ลดลง และการเพิ่มสัดส่วนอัตราการเข้าเรียนในสายอาชีพและสายสามัญเป็น ๕๐:๕๐
รมว.ศธ. กล่าวว่า การให้เด็กนักเรียนไทยได้รับแท็บเล็ตตั้งแต่ประถมศึกษาปีที่ ๑ เพื่อต้องการช่วยให้นักเรียนได้มีโอกาสเข้าถึงเทคโนโลยีสมัยใหม่เพื่อเข้าถึงข้อมูลต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม แท็บเล็ตก็ยังไม่สามารถนำมาทดแทนตำราเรียนได้ จึงยังคงมีการแจกตำราเรียนควบคู่ไปด้วย ทั้งนี้ ในปีการศึกษา ๒๕๕๖ จะขยายการแจกแท็บเล็ตให้กับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑
ส่วนประเด็นการปรับลดเวลาเรียน ศธ.ได้ยึดตามมาตรฐานของยูเนสโกเป็นหลัก และจากการสำรวจประเทศที่พัฒนาแล้ว ส่วนใหญ่นักเรียนจะใช้เวลาเรียนน้อย เพื่อให้เด็กมีเวลาในการค้นคว้าหาความรู้และคิดค้นมากขึ้น
นอกจากนี้ การที่ครูฟิลิปปินส์เข้ามาสอนในประเทศไทยจำนวนมาก และเห็นว่าขณะนี้ทั้งฝ่ายไทยและฝ่ายฟิลิปปินส์กำลังอยู่ในระหว่างดำเนินการจัดทำความตกลงในเรื่องการแลกเปลี่ยนครู ซึ่งทั้งสองประเทศเห็นว่าเป็นเรื่องที่สำคัญในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ที่จะช่วยให้ครูมีประสบการณ์ในการทำงานต่างประเทศ ได้เกิดการเรียนรู้ระหว่างกัน ครูเหล่านี้ก็เปรียบเสมือนเป็นทูตทางการศึกษาที่ทำให้เกิดมีความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของอาเซียน ทั้งนี้ ศธ.กำลังดำเนินการเสนอขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี คาดว่าภายในเดือนเมษายน-พฤษภาคมนี้ จะสามารถลงนามความร่วมมือการแลกเปลี่ยนครูระหว่างประเทศทั้งสองได้
การหารือในครั้งนี้ รมว.ศธ.ได้ยกประเด็นความพร้อมในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนของไทย ซึ่งมีนโยบายในการส่งเสริมการเรียนการสอนภาษาอังกฤษและภาษาอาเซียน รวมทั้งการปรับเปลี่ยนการเปิด-ปิดภาคเรียน เพื่ออำนวยความสะดวกในการเคลื่อนย้ายของนักเรียนนักศึกษา พร้อมทั้งควรมีการกำหนดประเภทวีซ่า สำหรับนักเรียนนักศึกษา ให้สอดคล้องกับหลักสูตรที่จะเข้ามาเรียนด้วย
ประธานาธิบดีสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม กล่าวเปิดการประชุมว่า นโยบายสำคัญของเวียดนาม คือ การส่งเสริมให้ประชาชนได้รับการศึกษาโดยเฉพาะที่ได้ทำจนประสบความสำเร็จมาหลายปี คือประชาชนในทุกจังหวัดของเวียดนามเข้าถึงการศึกษาระดับมัธยมศึกษา ๑๐๐% สิ่งที่เวียดนามได้พัฒนาคุณภาพการศึกษาจนโดดเด่น คือ การศึกษาระดับอุดมศึกษาและอาชีวศึกษา ซึ่งเวียดนามพยายามผลักดัน ขยายการอบรม เพื่อพัฒนานักเรียน นักศึกษา รวมถึงบุคลากรตามกรอบแนวทางที่ซีมีโอวางไว้ รวมไปถึงการส่งเสริมการศึกษาเพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิตด้วย
ภายหลังพิธีเปิดการประชุมอย่างเป็นทางการ รมว.ศธ. กล่าวแถลงการณ์ในการประชุมเต็มคณะ ช่วงที่ ๑ ว่า ขอแสดงความยินดีต่อ H.E. Prof. Dr. Pham Vu Luan รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการและฝึกอบรมแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ที่ได้รับการเลือกให้ดำรงตำแหน่งประธานสภารัฐมนตรีศึกษาแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (สภาซีเมค) และประธานการประชุมสภาซีเมค ครั้งที่ ๔๗ โดยเชื่อมั่นว่าภายใต้การบริหารงานและการเป็นผู้นำของประธานสภาซีเมคคนใหม่ จะนำพาองค์การนี้ให้ยังคงดำเนินแนวทางที่ดีและมีคุณค่านานัปการต่อการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในภูมิภาค นอกจากนี้ยังได้กล่าวชื่นชม H.E. Pehin Abu Bakar Apong รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการบรูไนดารุสซาลาม ซึ่งได้ปฏิบัติหน้าที่ประธานสภาซีเมค อย่างดีเยี่ยมในช่วงสองปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๕๔ และได้กล่าวต้อนรับสหราชอาณาจักรสู่การเป็นสมาชิกสมทบของซีมีโอด้วย
คุณภาพนับว่าเป็นหัวใจของการศึกษาในโลกปัจจุบัน การพัฒนาการศึกษาในทุกแขนงและการสร้างความมั่นใจว่าประชาชนในภูมิภาคจะสามารถเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพและเสมอภาคได้อย่างทั่วถึงนั้น ต้องอาศัยการดำเนินข้อพันธกิจที่เข้มแข็งและการยกระดับความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิกซีมีโอให้มากขึ้น การขยายความร่วมมือระหว่างซีมีโอ อาเซียนและประเทศคู่เจรจา จะช่วยพัฒนาคุณภาพการศึกษาและเสริมสร้างขีดความสามารถของทรัพยากรมนุษย์ เพื่อให้สามารถแข่งขันได้ในระดับภูมิภาคและนำไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองในอนาคต ทั้งนี้ประเทศไทย ยังมุ่งให้ความสำคัญต่อการกระชับความสัมพันธ์ที่ดีกับประเทศในภูมิภาค เพื่อเป็นการย้ำความเชื่อมั่นว่าประชาชนทุกคน รวมถึงกลุ่มผู้ด้อยโอกาส กลุ่มผู้ทุพพลภาพและชนกลุ่มน้อย สามารถเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพได้ ในส่วนของประเทศไทยที่ได้ดำเนินความร่วมมือกับซีมีโอ อาเซียน และยูเนสโก เพื่อการพัฒนาการศึกษาในพื้นที่ที่ห่างไกลและการเร่งรัดความก้าวหน้าด้านการศึกษาเพื่อปวงชนนั้น ประเทศไทยรับเป็นเจ้าภาพหลัก ๒ โครงการ ได้แก่ โครงการพัฒนาศูนย์การเรียนชุมชนในชนบทในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และโครงการการจัดการศึกษา การดูแล และการให้บริการการปรึกษาสำหรับเด็กที่ได้รับผลกระทบจากเชื้อ HIV และเอดส์
รมว.ศธ.ได้ประกาศให้ที่ประชุมทราบว่า ในปี พ.ศ. ๒๕๕๘ กระทรวงศึกษาธิการไทยจะมอบรางวัล “สมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี” ให้แก่ครูผู้ทุ่มเทปฏิบัติงานและมีผลงานดีเด่นในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อันก่อให้เกิดคุณประโยชน์ในวงกว้างต่อการศึกษาและการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งการมอบรางวัลนี้เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองเนื่องในวโรกาสที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จะเจริญพระชนมายุครบ ๖๐ พรรษา และการอุทิศพระองค์เพื่อพัฒนาการศึกษาของไทยด้วย นอกจากนี้ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระดับภูมิภาคว่าด้วยคุณภาพและความเสมอภาคทางการศึกษาในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หัวข้อ “แนวปฏิบัติที่ดีที่สุดต่อความยั่งยืนเพื่อการพัฒนาการศึกษา” ในปี พ.ศ. ๒๕๕๗ ซึ่งการจัดประชุมดังกล่าวจะช่วยยกระดับคุณภาพการศึกษาในภูมิภาค รวมทั้งยังส่งเสริมความเข้าใจและเสริมสร้างความร่วมมือในภูมิภาค เพื่อการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ในปี พ.ศ. ๒๕๕๘
สำหรับความร่วมมือของประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในการดำเนินตามพันธกิจที่ได้เห็นพ้องร่วมกัน เพื่อการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษและเป้าหมายการศึกษาเพื่อปวงชนภายในปี พ.ศ. ๒๕๕๘ โดยเป้าหมายสองประการนี้ได้เสนอวิสัยทัศน์ในระยะยาวในเรื่องการขจัดความยากจน ความเสมอภาคทางเพศ การส่งเสริมสุขภาพที่ดียิ่งขึ้น วาระการศึกษา และการพัฒนาอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ในฐานะที่เป็นประชาชนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยที่ระยะเวลาที่เหลืออีกไม่ถึง ๓ ปี ของการจัดตั้งประชาคมอาเซียน ในปี ๒๕๕๘ ประเทศสมาชิกต้องร่วมกันดำเนินต่อไป เพื่อให้บรรลุต่อประเด็นท้าทายต่างๆ ในระดับภูมิภาคและระดับโลก และเพื่อสร้างความแข็งแกร่งของรากฐานความสมานฉันท์ทางสังคมของภูมิภาค ด้วยความร่วมมือในการสร้างประชาคมที่เอื้ออาทรและแบ่งปัน และการมุ่งแก้ไขประเด็นการบูรณาการทางเศรษฐกิจที่เร่งด่วน ทั้งนี้ ประเทศไทยมีความภูมิใจที่ได้ร่วมดำเนินงานกับซีมีโอและศูนย์ระดับภูมิภาคของซีมีโอ รวมถึงศูนย์ระดับภูมิภาคของซีมีโอว่าด้วยการเรียนรู้ตลอดชีวิต ซึ่งได้จัดตั้งขึ้นใหม่ที่เวียดนามตามข้อริเริ่มของ H.E. Prof. Dr. Pham Vu Luan รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการและฝึกอบรมแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และภูมิภาคอื่น
ทั้งนี้ ประเทศไทยมีความมุ่งมั่นที่จะร่วมกับซีมีโอในการผลักดันความร่วมมือระดับภูมิภาคด้านการศึกษาและฝึกอบรมเพื่อการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ โดยในปี พ.ศ. ๒๕๕๘ ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสภาซีเมค ครั้งที่ ๔๘ แทนสาธารณรัฐสิงคโปร์ซึ่งมีกำหนดจัดงานเฉลิมฉลองเอกราช ครบรอบ ๕๐ ปี ในปีเดียวกัน โดยได้ขอเชิญทุกท่านเข้าร่วมการประชุมที่ประเทศไทยอีกครั้ง
รมว.ศธ. กล่าวว่า ที่ประชุมได้พิจารณาและมีมติเห็นชอบร่วมกันในหลายประเด็น โดยประเด็นที่มีการวิพากษ์จากมุมมองของข้อเสนอคณะรัฐมนตรีศึกษาของประเทศสมาชิกซีมีโอ คือการให้ความสำคัญเป็นพิเศษในเรื่องการจัดการศึกษาตลอดชีวิต โดยเห็นว่าควรกำหนดเป้าหมายเฉพาะกลุ่มไม่ใช่คนทั้งหมด ซึ่งในแง่ของคนทั้งหมดนั้นต้องใช้กระบวนการการศึกษามาเป็นตัวกระตุ้นให้คนเห็นความสำคัญ เช่น ประเทศลาวได้ยกตัวอย่างว่า ระหว่างการศึกษาและการทำงานหาเลี้ยงชีพ ประชาชนของลาวจำนวนหนึ่งให้ความสำคัญกับการหาเลี้ยงชีพมากกว่า เป็นต้น ในด้านของการศึกษาจะเห็นได้ว่า หากประชาชนมีการเรียนรู้เพื่อพัฒนาตนเองก็จะสามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้น เป็นการกระตุ้นให้คนตระหนักถึงความสำคัญของการศึกษาและหาทางเพื่อเข้าสู่การศึกษา ซึ่งในขณะนี้เทคโนโลยีสารสนเทศมีส่วนช่วยให้คนได้เข้าถึงการศึกษามากขึ้น ซึ่งในบางประเทศอาจประสบปัญหาเพราะไม่มีเทคโนโลยีรองรับ
ในส่วนของประเทศไทยได้เสนอว่า ในแต่ละปีประเทศไทยรวมถึงประเทศต่างๆ ต้องใช้งบประมาณจำนวนมากเพื่อพัฒนา Software และ Application ด้านการศึกษา ฉะนั้นแต่ละประเทศน่าจะร่วมมือกันในเรื่องดังกล่าว หรือหากประเทศใดที่พัฒนาไว้อยู่แล้วอาจจะนำมาขายในราคาย่อมเยา ซึ่งวิธีการนี้จะเกิดประโยชน์ต่อผู้ผลิตและผู้ใช้ ซึ่งจะช่วยให้การศึกษาตลอดชีวิตเป็นไปได้มากขึ้น อย่างไรก็ตามคนในวัยทำงานควรจะต้องพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งคือกลุ่มผู้สูงอายุที่จะมีจำนวนเพิ่มขึ้น ก็ต้องสามารถที่จะสร้างรายได้ให้แก่ประเทศ มิฉะนั้นเด็กรุ่นหลังก็จะแบกรับคนกลุ่มนี้ไว้ซึ่งหากสามารถจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาให้ผู้สูงอายุสร้างรายได้เลี้ยงตนเองได้ก็จะช่วยประเทศเป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม จากนี้ไปในอีก ๒ ปีข้างหน้า จะต้องมีการพัฒนากระบวนการศึกษาเพื่อเตรียมความพร้อมสู่ประชาอาเซียน ซึ่งหลายประเทศพบว่าประชาชนส่วนใหญ่ยังไม่เข้าใจว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไร แต่ที่สำคัญที่จะเกิดขึ้น คือ การทำให้คนในกลุ่มประเทศอาเซียนมีจิตใจเป็นหนึ่งและร่วมขับเคลื่อนไปด้วยกัน ซึ่งการจะไปสู่จุดนั้นได้ต้องใช้การศึกษาเป็นตัวขับเคลื่อน เพื่อให้ความรู้ ความเข้าใจ โดย ศธ.ได้เสนอให้นักเรียนมีโอกาสไปเรียนในกลุ่มประเทศอาเซียนและซีมีโอ แม้จะไปเรียนหลักสูตรภาษาอังกฤษ แต่เด็กก็จะได้โอกาสเรียนรู้ภาษาถิ่นรวมถึงวัฒนธรรมของประเทศนั้นๆ ด้วย ทำให้เด็กเหล่านั้นเกิดความรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกัน และไม่ว่าจะไปอยู่ประเทศใดในอาเซียนเราก็คือประเทศเดียวกัน จึงจำเป็นที่จะต้องมีการร่วมหาวิธีการเพื่อส่งเสริมเรื่องดังกล่าว
รมว.ศธ.เวียดนาม กล่าวว่า ในฐานะประธานศูนย์ระดับภูมิภาคว่าด้วยการเรียนรู้ตลอดชีวิตของซีมีโอ (SEAMEO Regional Centre for Lifelong Learning : CELLL) จะให้ความสำคัญเร่งด่วนเพื่อส่งเสริมการทำงานของศูนย์ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการให้คนได้เรียนรู้ตลอดชีวิต โดยจะประชาสัมพันธ์การดำเนินงานของศูนย์ภายในภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ และจะเดินทางไปยังศูนย์และเครือข่ายต่างๆ ในภูมิภาค เพื่อประสานงานสนับสนุนการทำงานให้เกิดประสิทธิภาพและเกิดผลในทางปฏิบัติมากขึ้น
สำหรับการเตรียมความพร้อมสู่ประชาคมอาเซียน จะกระตุ้นให้เกิดการเคลื่อนไหวคนในวงการการศึกษา แต่จะไม่ละทิ้งความแตกต่างของประเทศต่างๆ ในภูมิภาค เพื่อให้เกิดการรวมตัวเป็นหนึ่งและมีความรู้สึกเป็นหนึ่งเดียว โดยแต่ละประเทศก็ต้องไม่ละทิ้งความเป็นเอกลักษณ์ของตนเองเช่นกัน