www.tuewsob.com
บิ๊กโอ๋น็อกมาร์ค ฟันหนีทหาร
ฮึ่มจ่อถอดยศ-เงินคืน มาร์คโต้ฟ้องคดีหมื่น
บิ๊กโอ๋น็อกมาร์ค ฟันหนีทหาร
ฮึ่มจ่อถอดยศ-เงินคืน มาร์คโต้ฟ้องคดีหมื่น
“เทพเทือก” น้อมรับมติ ป.ป.ช. แต่ปัดแทรกแซงข้าราชการ ลั่นถูกถอดถอนเลิกเล่นการเมือง ขณะที่ “มาร์ค” ป้องสุเทพไม่มีเจตนา ด้าน “วุฒิสภาฯ” รอสำนวน ป.ป.ช. ก่อนบรรจุวาระถอดเทพเทือก เผยต้องใช้เสียง 3 ใน 5 ส่วนปมมาร์คหนีทหารยังไม่จบ “สุกำพล” หวังน็อกมาร์ค หอบหลักฐานยันหนีจริง ซัดจงใจสร้างหลักฐานเท็จ สั่งเอาผิด “ถอดยศ-เรียกเงินคืน” ขณะที่ “ศิริโชค” งัดเอกสารโต้ยันมาร์คทำทุกอย่างถูกต้อง ซัดป้ายสี ตอกสุกำพลทำตัวน่าละอายเดินตามตูดตู่ ด้าน “มาร์ค” ลั่นฟ้องหมิ่นแน่ ฉะรับใบสั่งการเมือง พ่อจัดให้ “ดวง อยู่บำรุง” โยกจากทหารผงาด ตร.นครบาล นั่งรอง สว.ศูนย์ฝึกอบรม เจ้าตัวอ้างคิดเองทำเองไม่เกี่ยวบารมีพ่อ ชี้จบโทกฎหมายทำงานตำรวจได้ประโยชน์มากกว่า ขณะที่ “เฉลิม” ตีมึนอ้างไม่รู้เรื่อง ลูกไม่เคยบอก ชมยิงปืนแม่นเป็นครูฝึกสบาย ส่วนแก้ รธน.ยังวนในอ่าง “พท.” ชี้คำวินิจฉัยกลางไม่ชัดเจนเหมือนเดิม ด้าน “ปู” โยนรอกฤษฎีกาสรุปแนวทางลุยแก้ รธน. มั่นใจก่อนสภาเปิดมีแน่ ส่วน “โจกแดง” บี้รัฐบาลเดินหน้าแก้ รธน.
“เทพเทือก” น้อมรับมติ ป.ป.ช.
หลังที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิด นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ ในการใช้อำนาจเกินหน้าที่ ขณะดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี แต่งตั้ง ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ 19 คน เข้าช่วยราชการในกระทรวงวัฒนธรรม ซึ่งถือเป็นการแทรกแซงการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการประจำนั้น วันที่ 27 ก.ค. นายสุเทพ กล่าวว่า ยอมรับมติ ป.ป.ช. เพราะต้องเคารพกฎหมายกติกา และไม่ว่า ส.ว.จะมีมติอย่างไรก็ต้องปฏิบัติตาม ทั้งนี้ยืนยันว่าการจะส่ง ส.ส.ไปช่วยงานกระทรวงวัฒนธรรม ยังไม่ได้ดำเนินการแต่ได้ทำหนังสือถึงกระทรวงวัฒนธรรมให้พิจารณา แต่เมื่อเปิดข้อกฎหมายดูเห็นว่าหมิ่นเหม่จึงถอนหนังสือกลับ แต่ ป.ป.ช.เห็นว่าเป็นความผิดสำเร็จ ก็ต้องยอมรับมติ.ป.ป.ช. ส่วนจะถูกถอนถอดจาก ส.ส.หรือไม่ ไม่สามารถคาดเดาได้ แต่ขณะนี้ยังทำหน้าที่อยู่ ก็ไม่กังวลแต่อย่างใด แต่หากถูกถอดถอนก็จะถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปี ซึ่งขณะนี้ตนอายุ 64 แล้ว อีก 5 ปี ก็อายุ 69 ปี คงเลิกเล่นการเมือง กลับไปเลี้ยงหลาน ส่วนข้อรัฐธรรมนูญมาตรา 102 ที่กำหนดคุณสมบัติของคนที่จะเป็น รมต. ส.ส. สว.จะต้องไม่เคยถูกวุฒิสภาถอดถอนจากตำแหน่งนั้น ซึ่งหากถูกถอดถอนก็จะไม่สามารถเล่นการเมืองได้อีก นายสุเทพ ระบุยังไม่ทราบรายละเอียดเมื่อถึงเวลานั้นก็คงต้องเลิกเล่นการเมืองอยู่แล้ว
“มาร์ค” ป้องสุเทพไม่มีเจตนา
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตามกระบวนการทางวุฒิสภาจะเป็นผู้พิจารณาเรื่องนี้ คาดว่าน่าจะเดือนสิงหาคมนี้ และนายสุเทพก็มีสิทธิ์ที่จะชี้แจง โดยทั้งหมดจะเป็นดุลพินิจของสมาชิกวุฒิสภา ซึ่งเรื่องนี้ข้อเท็จจริงก็ไม่มีอะไรซับซ้อน นายสุเทพก็ต้องชี้แจงว่าเจตนาเป็นอย่างไร ส่วนการพิจารณาก็เป็นอำนาจของสมาชิกวุฒิสภา เราต้องเคารพกระบวนการตรงนี้ เชื่อว่านายสุเทพไม่มีเจตนา ทีนี้ก็ต้องไปดูคำวินิจฉัยทั้งหมด แต่ในเรื่องนี้หลังจากมีการติงประเด็นข้อกฎหมาย นายสุเทพก็ไม่เดินต่อและดึงเรื่องกลับ แต่ ป.ป.ช.บอกว่าเป็นการกระทำที่สำเร็จแล้ว ก็ต้องดูว่าวุฒิสภาจะว่าอย่างไร แต่ทุกคนก็ต้องระมัดระวังมากขึ้น ผมเห็นใจนายสุเทพ เพราะอายุ 60 กว่าแล้ว ท่านก็บอกว่าถ้าถูกตัดสิทธิ์ 5 ปีมันก็นาน แต่นายสุเทพมีโอกาสชี้แจงข้อเท็จจริงทั้งหมด ผมเชื่อว่าไม่มีเจตนาฝ่าฝืนอะไร ผมก็ได้คุยกับนายสุเทพว่ากระบวนการยังไม่จบต้องไปชี้แจงให้ดีที่สุด เรื่องนี้ผมอยากให้ประชาชนดูว่าเวลาเกิดเหตุอะไรขึ้นกับคนของพรรคประชาธิปัตย์ เราเคารพกระบวนการต่างๆ แต่พรรคเพื่อไทยเวลาคำวินิจฉัยไปในทางที่เป็นประโยชน์กับตัวเองก็ไม่ว่าอะไร แต่พอคนของตัวเองถูกวินิจฉัยก็ไม่ยอมรับ ถึงขั้นมีการข่มขู่ คุกคาม ล้มกระบวนการต่างๆ ทั้งหมด ผมจึงอยากให้ประชาชนเห็นความแตกต่างตรงนี้
“เฉลิม” ซึ้งเห็นใจสุเทพ
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รู้สึกเห็นใจนายสุเทพ ที่ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดในการใช้อำนาจเกินหน้าที่ ขณะดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี ซึ่งอาจทำให้ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง เพราะเป็นเพื่อนรักกัน ต้องให้วุฒิสภาลงมติ 3 ใน 5 เสียง ซึ่งคาดว่าเสียงจะไม่ถึง “ขาดคุณสุเทพสักคน สภาหมดสีสัน อย่าไปเว้นวรรคเลยเพื่อน”
“วุฒิฯ” เดินหน้าถอดถอนเทือก
นางนรรัตน์ พิมเสน เลขาธิการวุฒิสภา กล่าวว่า วุฒิสภาสามารถพิจารณาคำร้องขอถอดถอนนายสุเทพ กรณีใช้อำนาจแทรกแซงราชการตามรัฐธรรมนูญมาตรา 266 และ 268 แม้ว่า พล.อ.ธีรเดช มีเพียร อดีตประธานวุฒิสภาฯ จะพ้นจากตำแหน่งประธานวุฒิฯ ทำให้วุฒิสภาไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งประธานวุฒิสภา เพื่อรับคำร้องจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มาตรา 272 ในรัฐธรรมนูญ ให้เป็นหน้าที่ประธานวุฒิสภาเป็นผู้รับคำร้อง และจัดให้มีการประชุมวุฒิสภา แต่เมื่อไม่มีประธานวุฒิสภาในขณะนี้ โดยมีเพียงแค่รักษาการประธานวุฒิสภา ก็สามารถที่จะเดินหน้าพิจารณา เพราะอำนาจในการถอดถอนบุคคลออกจากตำแหน่งทางการเมืองเป็นอำนาจโดยตรงของวุฒิสภา
นสพ.บ้านเมือง
"ติวสอบดอทคอม"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น