โปรแกรมติวสอบครูผู้ช่วย ปี 2556
โดย "ติวสอบดอทคอม"
สมัครติว/ เข้าห้องสอบออนไลน์ฟรี ได้ที่ "ติวสอบดอทคอม" หรือ
(แจ้งยืนยัน)
จุด 19 จ.อุดรธานี
เสาร์ 25 - อาทิตย์ 26 พ.ค. 2556
ณ โรงแรมต้น คูณ (ใกล้ทุ่งศรีเมือง)
จุด 20 จ.นครปฐม เสาร์ 1 - อาทิตย์ 2 มิ.ย. 2556
ณ โรงแรมเวล
จุด 21 จ.อุบลราชธานี เสาร์ 8 - อาทิตย์ 9 มิ.ย.2556
ณ โรงแรมกิจตรงวิลรีสอร์ท (ทางไป ตระการฯ)
จุด 22 จ.นครราชสีมา เสาร์ 15 - อาทิตย์ 16 มิ.ย.2556
ณ โรงแรมราชพฤกษณ์แกรนด์ (แยกไฟแดง บิ๊กซี)
นายกฯ เชิญชวนนักลงทุนญี่ปุ่นเข้าร่วม3โครงการใหญ่รัฐบาล
เมื่อวันที่ 22 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานภารกิจของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในการเดินทางเยือนญี่ปุ่น เพื่อเข้าร่วมการประชุมนานาชาติ “The Future of Asia” ครั้งที่ 19 ตามคำเชิญของบริษัท Nikkei ณ กรุงโตเกียว ระหว่างวันที่ 22-25 พ.ค. ว่า เมื่อเวลา 15.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นซึ่งเร็วกว่าประเทศไทย 2 ชั่วโมง นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ เดินทางถึงกรุงโตเกียว โดยทันทีที่เดินทางถึง นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมงาน “ Tokyo Roadshow 2013” ในหัวข้อ “ Building a Strong Foundation for Thailand and ASEAN” ซึ่งกระทรวงการคลังจัดขึ้น เพื่อสร้างความมั่นใจแก่นักลงทุนญี่ปุ่น ถึงศักยภาพการบริหารประเทศเพื่อสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจ และแผนการลงทุนเพื่อพัฒนาประเทศ เพื่อเป็นศูนย์กลางการเชื่อมโยงของอาเซียน รวมทั้ง การสนับสนุนโครงการพัฒนาท่าเรือน้ำลึกและเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดงานตอนหนึ่ง ว่า ความตั้งใจของรัฐบาลไทยในการจัดงานครั้งนี้ เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับแผนการลงทุนขนาดใหญ่ของไทย หลายโครงการที่ประเทศไทยต้องการเห็นความร่วมมือในการลงทุนของประเทศญี่ปุ่น และมั่นใจว่าแผนงานโครงการเหล่านี้เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาของทั้งสองประเทศ รวมถึงการเสริมสร้างความแข็งแกร่งของภูมิภาค ปกป้องการลงทุนของญี่ปุ่นในประเทศไทย และทำให้การลงทุนที่มีอยู่แล้วมีศักยภาพสูงขึ้น มีผลตอบแทนที่ชัดเจนและเพิ่มพูน
นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า ในการเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเมื่อปลายปี 2011 ท่ามกลางวิกฤตอุทกภัยครั้งใหญ่สุดในประวัติศาสตร์ชาติไทย ซึ่งส่งผลกระทบกับภาคการผลิตของไทยอย่างรุนแรง ทำให้เศรษฐกิจไทยในปี 2011 โตเพียง ร้อยละ 0.1 แต่รัฐบาลร่วมกับประชาชนคนไทยก็ได้ฟันฝ่าภัยพิบัตินั้นมาได้ จนเศรษฐกิจกลับมาเติบโตถึงร้อยละ 6.4 ในปี 2012 ซึ่งต้องย้ำถึงความประทับใจที่มีต่อนักลงทุนชาวญี่ปุ่น เพราะนอกจากจะให้การช่วยเหลือผู้ที่ต้องประสบภัยแล้ว ก็ยังไม่เคยสูญเสียความมั่นใจในการลงทุน และมีหลายโรงงานที่กลับขยายการลงทุนในประเทศไทยด้วยซ้ำ นักลงทุนญี่ปุ่นลงทุนในประเทศไทยมานาน ตั้งแต่ที่ประเทศไทยริเริ่มโครงการพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งทะเลตะวันออก หรือ Eastern Seaboard ประเทศญี่ปุ่นได้ร่วมลงทุนร่วมสร้างกับประเทศไทยตั้งแต่ยังเป็นที่ว่างเปล่า จนบัดนี้ 30 ปีต่อมา พื้นที่ชายฝั่งทะเลตะวันออกของไทยได้พัฒนาเป็นชุมชนที่มีนิคมอุตสาหกรรม โรงงาน ท่าเรือน้ำลึก และโครงข่ายพื้นฐานที่พรั่งพร้อม เป็นแหล่งอุตสาหกรรมและประตูสู่การส่งออกของไทยไปทั่วโลก สร้างรายได้ให้กับประเทศและนักลงทุนจำนวนมาก
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า การเดินทางครั้งนี้เพื่อเชิญชวนให้ทุกท่านช่วยกันสานฝันเพื่อสร้างอนาคตให้กับลูกหลานของสองประเทศอีกครั้ง โดยขณะนี้รัฐบาลอยู่ระหว่างการวางรากฐานการพัฒนาประเทศ โดยมีแผนพัฒนาขับเคลื่อนประเทศในช่วง 5-10 ปีข้างหน้า และเตรียมพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปี 2015 ซึ่งการดำเนินการตามแผนจะทำให้ประเทศไทยเจริญเติบโตอย่างยั่งยืน ปกป้องการลงทุนของผู้ที่ลงทุนในประเทศไทย และจะทำให้ไทยเป็นศูนย์กลางความเชื่อมต่อของภูมิภาค ทั้งในอาเซียนและสู่ตลาดโลก โครงการแรกได้แก่ โครงการลงทุนด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้า วงเงิน 350,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นการบริหารจัดการน้ำอย่างครบวงจร ที่นอกจากจะช่วยปกป้องเขตเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมแล้ว ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสำหรับภาคการเกษตร และทำให้ประเทศไทยมีความมั่นคงด้านน้ำ ทั้งภาคการเกษตร อุตสาหกรรม และการอุปโภคบริโภค และเป็นการป้องกันอุทกภัยขนาดใหญ่ไม่ให้เกิดขึ้นอีก
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า โครงการที่สอง คือ แผนการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาท เพื่อพัฒนาและเชื่อมโยงโครงข่ายพื้นฐานด้านการขนส่งของไทย เข้ากับฐานการผลิต ไม่ว่าจะเป็นเกษตรหรืออุตสาหกรรมภายในประเทศ และเชื่อมโยงสู่ประเทศต่างๆ ในภูมิภาค และเป็นการช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและพัฒนาประเทศไทยไปสู่การเป็นศูนย์กลางในภูมิภาค โดยมีโครงการลงทุนที่สำคัญ อาทิ โครงการรถไฟความเร็วสูง โครงการรถไฟรางคู่ และรถไฟใต้ดิน การปรับปรุงถนนสายหลัก ด่านศุลกากรและเขตเศรษฐกิจพิเศษตามแนวชายแดน สนามบิน และโครงการที่สาม คือ โครงการนิคมอุตสาหกรรมและท่าเรือน้ำลึกทวาย ในประเทศเมียนมาร์ ซึ่งเป็นความร่วมมือของสองประเทศ ซึ่งจะก่อให้เกิดการค้าการลงทุน และการเชื่อมต่อระหว่างภูมิภาค เนื่องจากทวายเป็นหนึ่งในสามเขตเศรษฐกิจพิเศษที่สำคัญที่สุดของเมียนมาร์ในปัจจุบัน ซึ่งนอกจากจะเป็นพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่กว่า 200 ตารางกิโลเมตร รองรับอุตสาหกรรมได้หลายรูปแบบแล้ว ยังจะเป็นประตูการค้าขนาดใหญ่ออกสู่มหาสมุทรอินเดียเชื่อมต่อไปยังตลาดฝั่งตะวันตกของโลก ได้แก่ เอเชียใต้ เอเชียตะวันออกกลาง แอฟริกา และยุโรป ทั้ง 3 โครงการเป็นโครงการที่ต้องการการลงทุนขนาดใหญ่ ซึ่งรัฐบาลไทยต้องการที่จะเชิญชวนนักลงทุนจากประเทศต่างๆเข้าร่วมโครงการ โดยไทยและญี่ปุ่นไม่ใช่อื่นไกล ด้วยความร่วมมือที่จะเกิดขึ้นครั้งนี้ จะก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศของเราทั้งสองประเทศ.
นสพ.เดลินิวส์
โดย "ติวสอบดอทคอม"
(ผอ.นิกร เพ็งลี)
สมัครติว/ เข้าห้องสอบออนไลน์ฟรี ได้ที่ "ติวสอบดอทคอม" หรือ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น