โปรแกรมติวสอบครูผู้ช่วย ปี 2556
โดย "ติวสอบดอทคอม"
สมัครติว/
(แจ้งยืนยัน)
จุด 21 จ.อุบลราชธานี
เสาร์ 8 - อาทิตย์ 9 มิ.ย.2556
ณ โรงแรมกิจตรงวิลรีสอร์ท (ทางไป ตระการฯ)
จุด 22 จ.นครราชสีมา
เสาร์ 15 - อาทิตย์ 16 มิ.ย.2556
ณ โรงแรมราชพฤกษณ์แกรนด์ (แยกไฟแดง บิ๊กซี)
ณ โรงแรมราชพฤกษณ์แกรนด์ (แยกไฟแดง บิ๊กซี)
ลูกชาย รมว.แรงงาน โต้! ไม่มีเอี่ยวคดีรถหรูไฟไหม้
พ.ต.สุขชาต สะสมทรัพย์ ลูกชาย รมว.แรงงาน ให้ปากคำกับดีเอสไอ โชว์เอกสารยืนยัน ไม่ได้ใช้ทะเบียนรถที่เจอในที่เกิดเหตุนานแล้ว รถลัมโบกินี่ที่ใช้อยู่ เป็นรถมือ 4 คนละรุ่นกัน
เมื่อวานนี้ (5 มิ.ย.) พ.ต.สุขชาต สะสมทรัพย์ บุตรชาย นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้เดินทางเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ หลังมีประเด็นพัวพันถึงเหตุรถยนต์หรูไฟไหม้ที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
พ.ต.สุขชาต ได้นำหลักฐานสมุดคู่มือการจดทะเบียนรถและเอกสารเกี่ยวกับการเสียภาษีที่ถูกต้องของรถที่ใช้ในปัจจุบันมาแสดง ยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับทะเบียนรถยนต์หรูที่เกิดไฟไหม้ ที่พบให้ที่เกิดเหตุ คือ หมายเลขทะเบียน ฌล 6217 โดยระบุว่า หลังจากที่ซื้อรถลัมโบกินี่ สีขาว ได้เปลี่ยนเลขทะเบียนรถตามที่ประมูลได้และปัจจุบันยังคงใช้ทะเบียนดังกล่าวอยู่ ไม่เคยใช้เลขทะเบียนที่ตกเป็นข่าวอีกเลย
นอกจากนี้ พ.ต.สุขชาต ยังอธิบายชี้แจงอีกว่า รถลัมโบกินี่เป็นรถมือสอง ซึ่งตนถือครองเป็นมือที่ 4 แล้ว มีเอกสารครอบครองถูกต้อง อีกทั้ง รถลัมโบกินี่ ที่ซื้อมาเป็นรุ่นกัลป์ลาโด้ แต่รถคันที่เกิดเหตุเป็นรุ่น มาเซราโก้ และรถของตนไม่ได้ติดตั้งใช้ระบบแก๊ส และมีการเสียภาษีถูกต้องทุกปี
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้น พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร ผบ.สำนักปฏิบัติพิเศษฯ เชื่อว่า พ.ต.สุขชาตยังไม่มีความเกี่ยวข้องกับรถยนต์ที่เกิดเหตุไฟไหม้ที่ อ.ปากช่อง ซึ่งหลังจากนี้จะต้องตรวจสอบหลักฐานทั้งหมด เพราะยังไม่ทราบว่าป้ายทะเบียนที่ตกอยู่ในรถยนต์เป็นป้ายทะเบียนที่ออกโดยกรมการขนส่งทางบกจริงหรือไม่
ขณะที่ทางด้าน นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ จะเรียกประชุมหารือร่วม 3 หน่วย คือ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กรมศุลกากร และกรมสรรพสามิต ในการตรวจสอบรถยนต์หรู นอกจากรถยนต์ที่ถูกไฟใหม้ ยังมีรถอีก กว่า 5,832 คันที่คณะทำงาน ร่วม 3 หน่วยงานจะตรวจสอบร่วมกัน ซึ่งได้แบ่งคณะทำงานออกเป็น 3 ล็อต คือ ชุดแรกคือรถในกลุ่มเป้าหมายที่มีหลักฐานว่ากระทำผิดด้วยการเลี่ยงภาษีแน่นอน ชุดที่ 2 เปิดให้ผู้ครอบครองนำรถที่ไม่แน่ใจมาให้ตรวจสอบ และรถจดประกอบ มีรายงานว่าขณะนี้พนักงานสอบสวน ดีเอสไอ เตรียมขออนุมัติหมายศาลตรวจค้นโกดังเก็บรถหรูต้องสงสัยหลายจุด
sanook.com
อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
หัวหน้าชุดสืบสวนแก๊งรถหรูหนีภาษีระบุเจ้าหน้าที่ของรัฐ 2 หน่วยงานคือกรมศุลกากรกับกรมขนส่งเข้าไปพัวพันกับแก๊งฉาว ย้ำ หากเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานเข้มแข็งตรงไปตรงมาแก๊งพวกนี้ไม่สามารถทำผิดได้ ขณะเดียวกันนายทหารลูกชาย “เผดิมชัย สะสมทรัพย์” โผล่ให้การที่ดีเอสไออ้างป้ายทะเบียนที่พบติดลัมโบร์กินีไฟไหม้เป็นป้ายเก่าที่คืนให้กรม การขนส่งไปแล้ว ส่วน “ธาริต” หารือ 5 ผู้บริหารหน่วยงานรัฐวางแนวทางการจดทะเบียนรถจดประกอบ เชื่อในจำนวนรถจดประกอบกว่า 8 พันคัน ร้อยละ 85 นำเข้ามาทั้งคัน แต่แจ้งเป็นรถจดประกอบที่เสียภาษีถูกกว่า เตรียมค้นพื้นที่เป้าหมายกลางกรุง 4 แห่งนำเข้ารถหรู
ระดมสาวเบื้องหลังแก๊งนำรถหรูหนีภาษีเข้าประเทศ หลังหลายฝ่ายตรวจสอบหาที่มาและเจ้าของรถหรูทั้งลัมโบร์กินี เฟอร์รารี เบนท์ลีย์ และบีเอ็มดับเบิลยูที่ถูกไฟไหม้บนรถเทรลเลอร์ระหว่างลำเลียงจากกรุงเทพฯไปส่ง จ.ศรีสะเกษ แต่เกิดไฟลุกท่วม ขณะวิ่งขึ้นเขา ต.กลางดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ขณะเดียวกัน เตรียมตรวจสอบรถหรูที่ผ่านการจดทะเบียนทั่วประเทศกว่า 5 พันคันว่าถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่
ต่อมาบ่ายวันที่ 5 มิ.ย. ที่ศูนย์สืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 3 จ.นครราชสีมา พ.ต.อ.ภาณุ บุรณศิริ รอง ผบก.สส.ภ.3 ในฐานะหัวหน้าชุดสืบสวนคดีไฟไหม้รถหรู 6 คันเปิดเผยว่า จากการตรวจสอบหมายเลขตัวถังรถทั้ง 6 คัน พบรถทั้ง 6 คันมีความผิด ปกติ อาทิ การติดตั้งถังแก๊ส เนื่องจากวิศวกรยืนยันแล้วว่า รถหรูทั้ง 6 คันไม่สามารถติดแก๊สได้เพราะเครื่องยนต์เบนซินที่มีขนาด 8 สูบขึ้นไป ไม่สามารถติดตั้งแก๊สได้ ต้องสืบสวนต่อไปว่าถ้านำไปจดทะเบียนที่ จ.ศรีสะเกษ ทำไมสำนักงานขนส่งจังหวัดศรีสะเกษสามารถจดทะเบียนรถให้ได้ ทั้งนี้ จากข้อมูลพบว่าตั้งแต่ปี 2553 จนถึงปัจจุบัน สำนักงานขนส่งจังหวัดศรีสะเกษได้จดทะเบียนรถหรูไปแล้ว 23 คัน ขณะนี้ กำลังรอตรวจเอกสารของรถยนต์หรูทั้ง 23 คันว่าใช้เอกสารจริงหรือเอกสารปลอม รวมทั้งตรวจสอบว่าหลังจากการจดทะเบียนที่สำนักงานขนส่งจังหวัดศรีสะเกษแล้วมีการเปลี่ยนแปลงสภาพรถต่างไปจากตอนที่ขอจดทะเบียนหรือไม่
รอง ผบก.สส.ภ.3 กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ การที่กรมศุลกากรประสานขออายัดตรวจสอบรถทั้ง 6 คัน และพยายามขนรถไป หลังเกิดเหตุถือเป็นสิ่งผิดปกติที่ต้องตรวจสอบกันอีกครั้งว่ามีเบื้องหลังหรือไม่ แต่เบื้องต้นมั่นใจว่าเรื่องนี้ต้องมีเจ้าหน้าที่รัฐ 2 หน่วย คือกรมศุลกากรกับกรรมการขนส่งเข้าไปเกี่ยวข้อง อย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม คดีนี้ดีเอสไอรับทำเป็นคดีพิเศษแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งรวบรวมพยานหลักฐานที่มีทั้งหมดส่งมอบให้ดีเอสไอรับไปดำเนินการต่อ คาดว่าจะสามารถส่งสำนวนคดีทั้งหมดให้กับดีเอสไอได้ภายใน 2 สัปดาห์นี้
พ.ต.อ.ภาณุกล่าวต่อว่า จากข้อมูลเชิงลึกเท่าที่ทราบว่าการจดทะเบียนรถหรูขนส่งจังหวัดอื่นในภาคอีสานเขาไม่ทำกันเพราะกลัวผิดกฎหมาย แต่ขนส่งบางจังหวัดที่ปรากฏในข่าวกลับกล้าทำ เชื่อว่า น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้อง และจากการตรวจสอบล่าสุด พบพิรุธรถทั้ง 6 คันคือ 1. หมายเลขตัวถังถูกเปลี่ยน 2. รถทั้ง 6 คันไม่ได้ใช้แก๊สตามที่พบเพราะเป็นเครื่องยนต์ 12 สูบ ไม่สามารถติดแก๊สได้ 3. จากการ ตรวจสอบที่ขนส่งจังหวัดศรีสะเกษพบว่าตั้งแต่ปี 2553-2556 มีการจดทะเบียนรถหรูไปแล้ว 23 คัน ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบรายละเอียดของรถ 23 คันว่าติดตั้งแก๊สหรือไม่ ถ้าติดแล้วผ่านการจดทะเบียนได้อย่างไร
4. ต้นทางที่นำเข้าคือศุลกากร เมื่อเกิดเหตุไฟไหม้ขึ้นปุ๊บศุลกากรมาขออายัดรถทันทีทั้งที่ตำรวจยังไม่ได้แจ้ง มันเหมือนกับครูยังไม่ได้ออกข้อสอบ แต่เด็กเอาคำตอบมาส่งให้ครูแล้ว และที่สำคัญศุลกากรไม่นำหลักฐานการอนุญาตนำเข้าของรถส่งมอบให้พนักงานสอบสวนเลย และ 5. กองพิสูจน์หลักฐานยังไม่ได้ยืนยันเลยว่า รถพวกนี้หมายเลขตัวถังเลขอะไร อันไหนจริง อันไหนปลอม แต่ศุลกากรกลับยืนยันรถพวกนี้นำเข้ามาเหมือนกับว่าทรัพย์สินพวกนี้เป็นของตัวเอง “ขบวนการนี้ไม่ใช่ขบวนการใหญ่โตอะไรมากมาย ถ้าเจ้าหน้าที่ของรัฐไม่เอื้อประโยชน์ จะทำไม่ได้อย่างแน่นอน” พ.ต.อ.ภาณุกล่าว
พ.ต.อ.ภาณุกล่าวอีกว่า ขบวนการนี้จะเดินไม่ได้ถ้าไม่มีเจ้าหน้าที่ของรัฐเอื้อประโยชน์ สาเหตุที่พนักงานสอบสวนไม่อนุญาตให้ศุลกากรนำรถไป เพราะถ้ามีการปลอมแปลงหมายเลขตัวถังถือเป็นความผิดอาญาไม่ใช่ความผิด พ.ร.บ.ศุลกากร ดังนั้นศุลกากรจะมาเอารถไปคงไม่ได้ และดีเอสไอได้รับเป็นคดีพิเศษแล้ว พนักงานสอบสวนจะต้องส่งสำนวนการสอบสวน และพยานให้ดีเอสไอ ดังนั้น จึงไม่สามารถมอบรถให้ศุลกากรได้ ทางศุลกากรต้องไปประสานกับดีเอสไอเอง
หัวหน้าชุดสืบสวนคดีรถหรูกล่าวด้วยว่า การจดทะเบียนรถที่นำเข้าถูกต้องขนส่งจะต้องรับเอกสารดังนี้ 1.ใบมาตรฐานอุตสาหกรรม 2.ใบเสียภาษีศุลกากร 3.ใบเสียภาษีสรรพสามิต และ 4.ใบนำเข้า คดีนี้เชื่อว่าดีเอสไอต้องเรียกรถมาตรวจหมดทุกคัน เรื่องนี้คงไม่ได้โทษคนซื้อแต่โทษเจ้าหน้าที่ของรัฐ ถ้าเจ้าหน้าที่รัฐแข็งแกร่งขบวนการนี้ทำแหกกฎไม่ได้แน่ และขบวนการนี้ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับนักการเมืองเพราะใครทำก็ได้ ขอให้มีเงิน มีรถเข้ามาและสามารถประสานกับศุลกากรและขนส่งได้เท่านั้นที่สำคัญรถเหล่านี้ต้องมีใบสั่งเท่านั้นถึงทำได้ คดีนี้ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.เชิด ชูเวช ผบช.ภ.3 กำชับให้ทำงานอย่างตรงไปตรงมาเพื่อความเป็นธรรมของทุกฝ่าย
ขณะที่ สภ.กลางดง อ.ปากช่อง ท้องที่เกิดเหตุปรากฏว่าไม่มีเจ้าหน้าที่จากหน่วยใดเข้ามาตรวจสอบรถหรูทั้ง 6 คัน หลังจากที่ผ่านมาจะมีทั้งเจ้าหน้าที่ศุลกากร เจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจสอบรายละเอียดอย่างต่อเนื่อง ส่วนรถทั้ง 6 คันยังจอดอยู่ในโรงจอดรถของโรงพัก มีชาวบ้านที่ทราบข่าวอยากเห็นรถราคาแพงหลายสิบล้านมาขอดูอย่างต่อเนื่อง
ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.อ.ญาณพล ยั่งยืน รองอธิบดีดีเอสไอ พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ รองอธิบดีดีเอสไอ พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร ผบ.สำนักปฏิบัติการคดีพิเศษภาค พ.ต.ท.อนุรักษ์ โรจนนิรันดร์กิจ ผบ.สำนักคดีอาญาพิเศษ 2 นายมเหศักดิ์ พันสง่า พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ สำนักคดีภาษีอากร ดีเอสไอ ร่วมแถลงข่าวแนวทางการสอบสวนคดีรถยนต์หรูไฟไหม้ 6 คัน ที่ ต.กลางดง อ.ปากช่อง หลังพัวพันขบวนการสวมรอยรถจดประกอบนำเข้ารถยนต์หรูเพื่อเลี่ยงภาษี หลังดีเอสไอโอนมาเป็นคดีพิเศษ
นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า ดีเอสไอได้ออกหนังสือเรียก พ.ต.สุขชาต สะสมทรัพย์ ลูกชายนายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ รมว.แรงงาน มาสอบสวนในฐานะพยาน หลังปรากฏข้อเท็จจริงว่ามีป้ายทะเบียนรถที่เคยใช้ตกอยู่ในที่เกิดเหตุเพลิงไหม้รถยนต์หรู 6 คัน และในเวลา 05.00 น. วันที่ 6 มิ.ย. ดีเอสไอจะเข้าค้นเป้าหมาย 4 แห่งในเขต กทม.หลังศาลอนุมัติหมายค้น เนื่องจากสอบสวนพบว่าเกี่ยวข้องในการแจ้งนำเข้ารถลัมโบร์กินีคันเกิดเหตุไฟไหม้โดยแจ้งกับเจ้าหน้าที่ศุลกากรว่าเป็นการนำเข้าเป็นชิ้นส่วน เพื่อพิสูจน์ว่าบริษัทดังกล่าวมีระบบที่ประกอบรถยนต์หรูราคาแพงได้จริงหรือไม่ แต่ตรวจสอบเบื้องต้นเชื่อว่าจะไม่สามารถประกอบรถยนต์หรูได้ เพราะสถานที่ที่แจ้งไว้เป็นเพียงโกดังหรืออู่ซ่อมรถธรรมดา
อธิบดีดีเอสไอกล่าวอีกว่า ส่วนแนวทางการตรวจสอบรถยนต์หรูที่จดทะเบียนเป็นรถจดประกอบแล้ว 5,834 คัน และรถยนต์หรูที่ผ่านขั้นตอนการตรวจสอบความถูกต้องจากเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยอยู่ระหว่างรอจดทะเบียนกับสำนักขนส่งพื้นที่ อีกกว่า 3,000 คันนั้น ในวันที่ 6 มิ.ย. จะมีการประชุมร่วม 5 หน่วยงานของผู้บริหารระดับอธิบดี รองอธิบดีเพื่อวางแนวทางในการตรวจสอบการจดทะเบียนรถจดประกอบในคดีพิเศษประกอบด้วย ดีเอสไอ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กรมศุลกากร กรมสรรพสามิตและกรมการขนส่งทางบก และจากการสืบสวนเบื้องต้นเชื่อว่าในจำนวนรถจดประกอบกว่า 8,000 คัน มีถึง 85% ที่น่าจะมีการนำเข้ามาทั้งคันแต่สำแดงเท็จว่าเป็นการนำเข้าชิ้นส่วนมาประกอบเป็นรถจดประกอบซึ่งเสียภาษีเพียง 30-50% ต่างกับการแจ้งนำเข้ารถยนต์หรูทั้งคันที่ต้องเสียภาษีศุลกากรถึง 200-314% ขึ้นอยู่กับขนาดแรงม้า มูลค่าความเสียหายภาษีที่รัฐต้องสูญเสียไม่ต่ำกว่า 20,000 ล้านบาท
พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าวว่า จากการตรวจสอบหลักฐานอย่างละเอียดพบว่ารถหรู 6 คัน ทั้งที่ถูกไฟไหม้และไม่ไหม้ เข้าข่ายความผิดตามกฎหมายทั้งการตอกทับเลขเดิมที่ขูดลบออกและการตอกเลขบนแผ่นมาปิดทับเลขเดิม ได้เร่งตรวจสอบพยานหลักฐานและเอกสารเพื่อส่งมอบให้กรมสอบสวนคดีพิเศษเพื่อดำเนินการตรวจสอบเพิ่มเติมและได้รับการประสานจาก ปปง.และกรมสรรพสามิต ตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับฐานความผิดมูลฐานฟอกเงินจากการหลบเลี่ยงภาษี ซึ่งในการตรวจสอบรถยนต์เบนท์ลีย์พบเอกสารบัตรประชาชนและสำเนาเอกสารการโอนรถที่มีญาตินักการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง จะต้องทำการสอบสวนเพิ่มเติมและบางคันเชื่อว่ามีการนำเข้าจากประเทศมาเลเซีย
ด้านนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า กรมการขนส่งทางบกได้รวบรวมข้อมูลสถิติของรถจดประกอบจากชิ้นส่วนเก่าที่นำเข้าจากต่างประเทศที่ใช้ก๊าซเป็นเชื้อเพลิงเพียงอย่างเดียว ตั้งแต่ 1 ต.ค. 53-31 มี.ค. 56 ทั่วประเทศรวมทั้งสิ้น 6,862 คัน แบ่งเป็นกรุงเทพฯ 861 คัน ต่างจังหวัด 6,001 คัน กระจายตามขนส่งจังหวัดต่างๆรวม 15 จังหวัด โดยเฉพาะ 5 จังหวัดที่ยอดสูงผิดปกติ อาทิ นนทบุรี 2,741 คัน สระบุรี 1,289 คัน ได้กำชับให้มีการตรวจสอบอย่างละเอียดต่อไป
ด้านนายอัษณไธค์ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองอธิบดี ขบ. ยืนยันว่าเงื่อนไขและกฎระเบียบของ ขบ. ที่ออกมานั้นมีความเข้มงวดในทุกขั้นตอนและป้องกันช่องทางรั่วไหลไว้แล้ว แต่การดำเนินการขึ้นอยู่กับเจ้าหน้าที่หรือผู้ปฏิบัติงานหากมีการละเลยในจุดใดก็ต้องรับผิดชอบหากพบความผิดจริงก็ต้องดำเนินการทางวินัย ส่วน 5 จังหวัดที่พบความผิดปกติ นั้น ส่วนใหญ่เป็นเรื่องของรถจดประกอบมากกว่า ส่วนรถหรูหรือรถราคาแพงนั้น อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลเพื่อจำแนกประเภทให้ชัดเจน และกำลังวางกรอบคำจำกัดความว่ารถหรูจะต้องมีองค์ประกอบอะไรและราคาท่าไรที่อยู่ในข่ายรถหรู
ต่อมาเวลา 16.30 น.วันเดียวกัน พ.ต.สุขชาต สะสมทรัพย์ ลูกชายนายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ รมว.แรงงานเข้าไห้ปากคำ พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร ผบ. สำนักปฏิบัติการคดีพิเศษภาค ดีเอสไอโดยใช้เวลาสอบปากคำประมาณ 1 ชม. จากนั้น พ.ต.สุขชาต เปิดเผยว่า มาให้ปากคำในฐานะพยาน ยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับรถที่ถูกไฟไหม้แต่อย่างใด ส่วนที่พบป้ายทะเบียนมีชื่อตนเป็นเจ้าของติดอยู่กับรถลัมโบร์กินีที่ถูกไฟไหม้นั้นอาจเป็นเพราะเมื่อปี 2549 ได้ซื้อรถลัมโบร์กินีรุ่นกัลลาโด ราคาประมาณ 13-14 ล้านบาทเป็นคนละรุ่นที่ถูกไฟไหม้ ตอนนั้นได้ใช้ทะเบียน ฌล 6217 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นป้ายที่พบติดกับรถที่ถูกไฟไหม้ ต่อมาตนประมูลได้หมายเลขทะเบียนใหม่จึงคืนป้ายเดิมให้กรมการขนส่งไปแล้วแต่ไม่ทราบว่าป้ายนี้โผล่มาได้อย่างไรและตนมีหลักฐานการเปลี่ยนทะเบียนให้ตรวจสอบด้วย
อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
หัวหน้าชุดสืบสวนแก๊งรถหรูหนีภาษีระบุเจ้าหน้าที่ของรัฐ 2 หน่วยงานคือกรมศุลกากรกับกรมขนส่งเข้าไปพัวพันกับแก๊งฉาว ย้ำ หากเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานเข้มแข็งตรงไปตรงมาแก๊งพวกนี้ไม่สามารถทำผิดได้ ขณะเดียวกันนายทหารลูกชาย “เผดิมชัย สะสมทรัพย์” โผล่ให้การที่ดีเอสไออ้างป้ายทะเบียนที่พบติดลัมโบร์กินีไฟไหม้เป็นป้ายเก่าที่คืนให้กรม การขนส่งไปแล้ว ส่วน “ธาริต” หารือ 5 ผู้บริหารหน่วยงานรัฐวางแนวทางการจดทะเบียนรถจดประกอบ เชื่อในจำนวนรถจดประกอบกว่า 8 พันคัน ร้อยละ 85 นำเข้ามาทั้งคัน แต่แจ้งเป็นรถจดประกอบที่เสียภาษีถูกกว่า เตรียมค้นพื้นที่เป้าหมายกลางกรุง 4 แห่งนำเข้ารถหรู
ระดมสาวเบื้องหลังแก๊งนำรถหรูหนีภาษีเข้าประเทศ หลังหลายฝ่ายตรวจสอบหาที่มาและเจ้าของรถหรูทั้งลัมโบร์กินี เฟอร์รารี เบนท์ลีย์ และบีเอ็มดับเบิลยูที่ถูกไฟไหม้บนรถเทรลเลอร์ระหว่างลำเลียงจากกรุงเทพฯไปส่ง จ.ศรีสะเกษ แต่เกิดไฟลุกท่วม ขณะวิ่งขึ้นเขา ต.กลางดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ขณะเดียวกัน เตรียมตรวจสอบรถหรูที่ผ่านการจดทะเบียนทั่วประเทศกว่า 5 พันคันว่าถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่
ต่อมาบ่ายวันที่ 5 มิ.ย. ที่ศูนย์สืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 3 จ.นครราชสีมา พ.ต.อ.ภาณุ บุรณศิริ รอง ผบก.สส.ภ.3 ในฐานะหัวหน้าชุดสืบสวนคดีไฟไหม้รถหรู 6 คันเปิดเผยว่า จากการตรวจสอบหมายเลขตัวถังรถทั้ง 6 คัน พบรถทั้ง 6 คันมีความผิด ปกติ อาทิ การติดตั้งถังแก๊ส เนื่องจากวิศวกรยืนยันแล้วว่า รถหรูทั้ง 6 คันไม่สามารถติดแก๊สได้เพราะเครื่องยนต์เบนซินที่มีขนาด 8 สูบขึ้นไป ไม่สามารถติดตั้งแก๊สได้ ต้องสืบสวนต่อไปว่าถ้านำไปจดทะเบียนที่ จ.ศรีสะเกษ ทำไมสำนักงานขนส่งจังหวัดศรีสะเกษสามารถจดทะเบียนรถให้ได้ ทั้งนี้ จากข้อมูลพบว่าตั้งแต่ปี 2553 จนถึงปัจจุบัน สำนักงานขนส่งจังหวัดศรีสะเกษได้จดทะเบียนรถหรูไปแล้ว 23 คัน ขณะนี้ กำลังรอตรวจเอกสารของรถยนต์หรูทั้ง 23 คันว่าใช้เอกสารจริงหรือเอกสารปลอม รวมทั้งตรวจสอบว่าหลังจากการจดทะเบียนที่สำนักงานขนส่งจังหวัดศรีสะเกษแล้วมีการเปลี่ยนแปลงสภาพรถต่างไปจากตอนที่ขอจดทะเบียนหรือไม่
รอง ผบก.สส.ภ.3 กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ การที่กรมศุลกากรประสานขออายัดตรวจสอบรถทั้ง 6 คัน และพยายามขนรถไป หลังเกิดเหตุถือเป็นสิ่งผิดปกติที่ต้องตรวจสอบกันอีกครั้งว่ามีเบื้องหลังหรือไม่ แต่เบื้องต้นมั่นใจว่าเรื่องนี้ต้องมีเจ้าหน้าที่รัฐ 2 หน่วย คือกรมศุลกากรกับกรรมการขนส่งเข้าไปเกี่ยวข้อง อย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม คดีนี้ดีเอสไอรับทำเป็นคดีพิเศษแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งรวบรวมพยานหลักฐานที่มีทั้งหมดส่งมอบให้ดีเอสไอรับไปดำเนินการต่อ คาดว่าจะสามารถส่งสำนวนคดีทั้งหมดให้กับดีเอสไอได้ภายใน 2 สัปดาห์นี้
พ.ต.อ.ภาณุกล่าวต่อว่า จากข้อมูลเชิงลึกเท่าที่ทราบว่าการจดทะเบียนรถหรูขนส่งจังหวัดอื่นในภาคอีสานเขาไม่ทำกันเพราะกลัวผิดกฎหมาย แต่ขนส่งบางจังหวัดที่ปรากฏในข่าวกลับกล้าทำ เชื่อว่า น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้อง และจากการตรวจสอบล่าสุด พบพิรุธรถทั้ง 6 คันคือ 1. หมายเลขตัวถังถูกเปลี่ยน 2. รถทั้ง 6 คันไม่ได้ใช้แก๊สตามที่พบเพราะเป็นเครื่องยนต์ 12 สูบ ไม่สามารถติดแก๊สได้ 3. จากการ ตรวจสอบที่ขนส่งจังหวัดศรีสะเกษพบว่าตั้งแต่ปี 2553-2556 มีการจดทะเบียนรถหรูไปแล้ว 23 คัน ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบรายละเอียดของรถ 23 คันว่าติดตั้งแก๊สหรือไม่ ถ้าติดแล้วผ่านการจดทะเบียนได้อย่างไร
4. ต้นทางที่นำเข้าคือศุลกากร เมื่อเกิดเหตุไฟไหม้ขึ้นปุ๊บศุลกากรมาขออายัดรถทันทีทั้งที่ตำรวจยังไม่ได้แจ้ง มันเหมือนกับครูยังไม่ได้ออกข้อสอบ แต่เด็กเอาคำตอบมาส่งให้ครูแล้ว และที่สำคัญศุลกากรไม่นำหลักฐานการอนุญาตนำเข้าของรถส่งมอบให้พนักงานสอบสวนเลย และ 5. กองพิสูจน์หลักฐานยังไม่ได้ยืนยันเลยว่า รถพวกนี้หมายเลขตัวถังเลขอะไร อันไหนจริง อันไหนปลอม แต่ศุลกากรกลับยืนยันรถพวกนี้นำเข้ามาเหมือนกับว่าทรัพย์สินพวกนี้เป็นของตัวเอง “ขบวนการนี้ไม่ใช่ขบวนการใหญ่โตอะไรมากมาย ถ้าเจ้าหน้าที่ของรัฐไม่เอื้อประโยชน์ จะทำไม่ได้อย่างแน่นอน” พ.ต.อ.ภาณุกล่าว
พ.ต.อ.ภาณุกล่าวอีกว่า ขบวนการนี้จะเดินไม่ได้ถ้าไม่มีเจ้าหน้าที่ของรัฐเอื้อประโยชน์ สาเหตุที่พนักงานสอบสวนไม่อนุญาตให้ศุลกากรนำรถไป เพราะถ้ามีการปลอมแปลงหมายเลขตัวถังถือเป็นความผิดอาญาไม่ใช่ความผิด พ.ร.บ.ศุลกากร ดังนั้นศุลกากรจะมาเอารถไปคงไม่ได้ และดีเอสไอได้รับเป็นคดีพิเศษแล้ว พนักงานสอบสวนจะต้องส่งสำนวนการสอบสวน และพยานให้ดีเอสไอ ดังนั้น จึงไม่สามารถมอบรถให้ศุลกากรได้ ทางศุลกากรต้องไปประสานกับดีเอสไอเอง
หัวหน้าชุดสืบสวนคดีรถหรูกล่าวด้วยว่า การจดทะเบียนรถที่นำเข้าถูกต้องขนส่งจะต้องรับเอกสารดังนี้ 1.ใบมาตรฐานอุตสาหกรรม 2.ใบเสียภาษีศุลกากร 3.ใบเสียภาษีสรรพสามิต และ 4.ใบนำเข้า คดีนี้เชื่อว่าดีเอสไอต้องเรียกรถมาตรวจหมดทุกคัน เรื่องนี้คงไม่ได้โทษคนซื้อแต่โทษเจ้าหน้าที่ของรัฐ ถ้าเจ้าหน้าที่รัฐแข็งแกร่งขบวนการนี้ทำแหกกฎไม่ได้แน่ และขบวนการนี้ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับนักการเมืองเพราะใครทำก็ได้ ขอให้มีเงิน มีรถเข้ามาและสามารถประสานกับศุลกากรและขนส่งได้เท่านั้นที่สำคัญรถเหล่านี้ต้องมีใบสั่งเท่านั้นถึงทำได้ คดีนี้ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.เชิด ชูเวช ผบช.ภ.3 กำชับให้ทำงานอย่างตรงไปตรงมาเพื่อความเป็นธรรมของทุกฝ่าย
ขณะที่ สภ.กลางดง อ.ปากช่อง ท้องที่เกิดเหตุปรากฏว่าไม่มีเจ้าหน้าที่จากหน่วยใดเข้ามาตรวจสอบรถหรูทั้ง 6 คัน หลังจากที่ผ่านมาจะมีทั้งเจ้าหน้าที่ศุลกากร เจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจสอบรายละเอียดอย่างต่อเนื่อง ส่วนรถทั้ง 6 คันยังจอดอยู่ในโรงจอดรถของโรงพัก มีชาวบ้านที่ทราบข่าวอยากเห็นรถราคาแพงหลายสิบล้านมาขอดูอย่างต่อเนื่อง
ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.อ.ญาณพล ยั่งยืน รองอธิบดีดีเอสไอ พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ รองอธิบดีดีเอสไอ พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร ผบ.สำนักปฏิบัติการคดีพิเศษภาค พ.ต.ท.อนุรักษ์ โรจนนิรันดร์กิจ ผบ.สำนักคดีอาญาพิเศษ 2 นายมเหศักดิ์ พันสง่า พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ สำนักคดีภาษีอากร ดีเอสไอ ร่วมแถลงข่าวแนวทางการสอบสวนคดีรถยนต์หรูไฟไหม้ 6 คัน ที่ ต.กลางดง อ.ปากช่อง หลังพัวพันขบวนการสวมรอยรถจดประกอบนำเข้ารถยนต์หรูเพื่อเลี่ยงภาษี หลังดีเอสไอโอนมาเป็นคดีพิเศษ
นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า ดีเอสไอได้ออกหนังสือเรียก พ.ต.สุขชาต สะสมทรัพย์ ลูกชายนายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ รมว.แรงงาน มาสอบสวนในฐานะพยาน หลังปรากฏข้อเท็จจริงว่ามีป้ายทะเบียนรถที่เคยใช้ตกอยู่ในที่เกิดเหตุเพลิงไหม้รถยนต์หรู 6 คัน และในเวลา 05.00 น. วันที่ 6 มิ.ย. ดีเอสไอจะเข้าค้นเป้าหมาย 4 แห่งในเขต กทม.หลังศาลอนุมัติหมายค้น เนื่องจากสอบสวนพบว่าเกี่ยวข้องในการแจ้งนำเข้ารถลัมโบร์กินีคันเกิดเหตุไฟไหม้โดยแจ้งกับเจ้าหน้าที่ศุลกากรว่าเป็นการนำเข้าเป็นชิ้นส่วน เพื่อพิสูจน์ว่าบริษัทดังกล่าวมีระบบที่ประกอบรถยนต์หรูราคาแพงได้จริงหรือไม่ แต่ตรวจสอบเบื้องต้นเชื่อว่าจะไม่สามารถประกอบรถยนต์หรูได้ เพราะสถานที่ที่แจ้งไว้เป็นเพียงโกดังหรืออู่ซ่อมรถธรรมดา
อธิบดีดีเอสไอกล่าวอีกว่า ส่วนแนวทางการตรวจสอบรถยนต์หรูที่จดทะเบียนเป็นรถจดประกอบแล้ว 5,834 คัน และรถยนต์หรูที่ผ่านขั้นตอนการตรวจสอบความถูกต้องจากเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยอยู่ระหว่างรอจดทะเบียนกับสำนักขนส่งพื้นที่ อีกกว่า 3,000 คันนั้น ในวันที่ 6 มิ.ย. จะมีการประชุมร่วม 5 หน่วยงานของผู้บริหารระดับอธิบดี รองอธิบดีเพื่อวางแนวทางในการตรวจสอบการจดทะเบียนรถจดประกอบในคดีพิเศษประกอบด้วย ดีเอสไอ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กรมศุลกากร กรมสรรพสามิตและกรมการขนส่งทางบก และจากการสืบสวนเบื้องต้นเชื่อว่าในจำนวนรถจดประกอบกว่า 8,000 คัน มีถึง 85% ที่น่าจะมีการนำเข้ามาทั้งคันแต่สำแดงเท็จว่าเป็นการนำเข้าชิ้นส่วนมาประกอบเป็นรถจดประกอบซึ่งเสียภาษีเพียง 30-50% ต่างกับการแจ้งนำเข้ารถยนต์หรูทั้งคันที่ต้องเสียภาษีศุลกากรถึง 200-314% ขึ้นอยู่กับขนาดแรงม้า มูลค่าความเสียหายภาษีที่รัฐต้องสูญเสียไม่ต่ำกว่า 20,000 ล้านบาท
พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าวว่า จากการตรวจสอบหลักฐานอย่างละเอียดพบว่ารถหรู 6 คัน ทั้งที่ถูกไฟไหม้และไม่ไหม้ เข้าข่ายความผิดตามกฎหมายทั้งการตอกทับเลขเดิมที่ขูดลบออกและการตอกเลขบนแผ่นมาปิดทับเลขเดิม ได้เร่งตรวจสอบพยานหลักฐานและเอกสารเพื่อส่งมอบให้กรมสอบสวนคดีพิเศษเพื่อดำเนินการตรวจสอบเพิ่มเติมและได้รับการประสานจาก ปปง.และกรมสรรพสามิต ตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับฐานความผิดมูลฐานฟอกเงินจากการหลบเลี่ยงภาษี ซึ่งในการตรวจสอบรถยนต์เบนท์ลีย์พบเอกสารบัตรประชาชนและสำเนาเอกสารการโอนรถที่มีญาตินักการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง จะต้องทำการสอบสวนเพิ่มเติมและบางคันเชื่อว่ามีการนำเข้าจากประเทศมาเลเซีย
ด้านนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า กรมการขนส่งทางบกได้รวบรวมข้อมูลสถิติของรถจดประกอบจากชิ้นส่วนเก่าที่นำเข้าจากต่างประเทศที่ใช้ก๊าซเป็นเชื้อเพลิงเพียงอย่างเดียว ตั้งแต่ 1 ต.ค. 53-31 มี.ค. 56 ทั่วประเทศรวมทั้งสิ้น 6,862 คัน แบ่งเป็นกรุงเทพฯ 861 คัน ต่างจังหวัด 6,001 คัน กระจายตามขนส่งจังหวัดต่างๆรวม 15 จังหวัด โดยเฉพาะ 5 จังหวัดที่ยอดสูงผิดปกติ อาทิ นนทบุรี 2,741 คัน สระบุรี 1,289 คัน ได้กำชับให้มีการตรวจสอบอย่างละเอียดต่อไป
ด้านนายอัษณไธค์ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองอธิบดี ขบ. ยืนยันว่าเงื่อนไขและกฎระเบียบของ ขบ. ที่ออกมานั้นมีความเข้มงวดในทุกขั้นตอนและป้องกันช่องทางรั่วไหลไว้แล้ว แต่การดำเนินการขึ้นอยู่กับเจ้าหน้าที่หรือผู้ปฏิบัติงานหากมีการละเลยในจุดใดก็ต้องรับผิดชอบหากพบความผิดจริงก็ต้องดำเนินการทางวินัย ส่วน 5 จังหวัดที่พบความผิดปกติ นั้น ส่วนใหญ่เป็นเรื่องของรถจดประกอบมากกว่า ส่วนรถหรูหรือรถราคาแพงนั้น อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลเพื่อจำแนกประเภทให้ชัดเจน และกำลังวางกรอบคำจำกัดความว่ารถหรูจะต้องมีองค์ประกอบอะไรและราคาท่าไรที่อยู่ในข่ายรถหรู
ต่อมาเวลา 16.30 น.วันเดียวกัน พ.ต.สุขชาต สะสมทรัพย์ ลูกชายนายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ รมว.แรงงานเข้าไห้ปากคำ พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร ผบ. สำนักปฏิบัติการคดีพิเศษภาค ดีเอสไอโดยใช้เวลาสอบปากคำประมาณ 1 ชม. จากนั้น พ.ต.สุขชาต เปิดเผยว่า มาให้ปากคำในฐานะพยาน ยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับรถที่ถูกไฟไหม้แต่อย่างใด ส่วนที่พบป้ายทะเบียนมีชื่อตนเป็นเจ้าของติดอยู่กับรถลัมโบร์กินีที่ถูกไฟไหม้นั้นอาจเป็นเพราะเมื่อปี 2549 ได้ซื้อรถลัมโบร์กินีรุ่นกัลลาโด ราคาประมาณ 13-14 ล้านบาทเป็นคนละรุ่นที่ถูกไฟไหม้ ตอนนั้นได้ใช้ทะเบียน ฌล 6217 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นป้ายที่พบติดกับรถที่ถูกไฟไหม้ ต่อมาตนประมูลได้หมายเลขทะเบียนใหม่จึงคืนป้ายเดิมให้กรมการขนส่งไปแล้วแต่ไม่ทราบว่าป้ายนี้โผล่มาได้อย่างไรและตนมีหลักฐานการเปลี่ยนทะเบียนให้ตรวจสอบด้วย
โปรแกรมติวสอบครูผู้ช่วย ปี 2556
โดย "ติวสอบดอทคอม"
สมัครติว/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น