หน้าหลัก ติวสอบดอทคอม เว็บฟรีข้อสอบออนไลน์

หน้าหลัก ติวสอบดอทคอม เว็บฟรีข้อสอบออนไลน์
หน้าหลัก ติวสอบดอทคอม เว็บฟรีข้อสอบออนไลน์

พัฒนาความรู้ สู่ รอง./ผอ.รร. ปี 2567

พัฒนาความรู้ สู่ รอง./ผอ.รร. ปี 2567
พัฒนาความรู้ สู่ รอง./ผอ.รร. ปี 2567

คลิ๊ก "สมัครพัฒนาความรู้สู่ผู้บริหาร / ครูผู้ช่วย

คลิ๊ก... สมัคร พัฒนาความรู้ สู่ ครูผู้ช่วย
คลิ๊ก... สมัคร พัฒนาความรู้ สู่ ผู้บริหาร

ติวสอบดอทคอม (เตรียมสอบครูผู้ช่วย-ผู้บริหาร-บุคลากร การศึกษา)

ติวสอบดอทคอม (เตรียมสอบครูผู้ช่วย-ผู้บริหาร-บุคลากร การศึกษา)
ติวสอบดอทคอม (เว็บฟรีข้อสอบออนไลน์ สอบครู ผู้บริหาร บุคลากร)

วันพุธที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ครม.อนุมัติปรับอัตราค่าจ้างสำหรับลูกจ้างรายเดือน นักการภารโรง สพฐ.

ข้อสอบออนไลน์ ชุดใหม่



ติวสอบออนไลน์ ชุด เศรษฐกิจพอเพียง

ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี 334/2556 มติ ครม. 8 ตุลาคม 2556
ครม.
อนุมัติปรับอัตราค่าจ้างสำหรับลูกจ้างรายเดือน นักการภารโรง สพฐ.
 ศึกษาธิการ - นายจาตุรนต์ ฉายแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยถึงมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2556 ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงศึกษาธิการ 4 เรื่อง คือ
  • เห็นชอบการปรับอัตราค่าจ้างสำหรับลูกจ้างรายเดือน นักการภารโรง สพฐ.
  •  อนุมัติอัตราเกษียณอายุราชการเพื่อบรรจุบัณฑิตครูคืนถิ่น
  •  อนุมัติร่างพระราชบัญญัติ มศว
  •  อนุมัติ MOU ด้านการอาชีวศึกษา ระหว่างกระทรวงศึกษาธิการไทย-จีน

 
  • เห็นชอบการปรับอัตราค่าจ้างสำหรับลูกจ้างรายเดือน นักการภารโรง สพฐ.
 คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 1 (ฝ่ายเศรษฐกิจ) ในคราวประชุม ครั้งที่ 9/2556 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 26 กันยายน 2556 ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง) ประธานกรรมการเสนอ ดังนี้
1. เห็นชอบในหลักการเพื่อปรับอัตราค่าจ้างสำหรับลูกจ้างรายเดือน นักการภารโรง และบุคลากรอื่นๆ ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ที่จ้างด้วยงบดำเนินงาน ให้เทียบเท่าการเพิ่มค่าครองชีพชั่วคราวของข้าราชการ ลูกจ้างประจำและลูกจ้างชั่วคราวของส่วนราชการ ซึ่งสำนักงบประมาณได้จัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2556 เพื่อรองรับการปรับดำเนินการดังกล่าวแล้ว จำนวน 3,300.8208 ล้านบาท
2. ให้หน่วยงานต่างๆ ที่มีเจ้าหน้าที่/ลูกจ้างที่ได้รับค่าจ้างรายวัน/รายเดือน ในลักษณะจ้างเหมา ประเมินถึงความเหมาะสมและความจำเป็นของจำนวนลูกจ้างให้สอดคล้องกับภารกิจของหน่วยงาน และเสนอให้คณะกรรมการระดับชาติ เพื่อศึกษาทบทวนความเหมาะสมของค่าตอบแทนของผู้บริหารและบุคลากรในหน่วยงานภาครัฐ พิจารณาความเหมาะสมในภาพรวม โดยคำนึงถึงความสอดคล้องกับภารกิจของหน่วยงาน และภาระงบประมาณในระยะยาว

  • อนุมัติอัตราเกษียณอายุราชการเพื่อบรรจุบัณฑิตครูคืนถิ่น
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 2 (ฝ่ายสังคมและกฎหมาย) ในคราวประชุม ครั้งที่ 7/2556 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 26 กันยายน 2556 ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา) ประธานกรรมการเสนอ ที่มีมติอนุมัติหลักการให้ สพฐ.ใช้อัตราข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาจากผลการเกษียณอายุราชการในทุกปีงบประมาณ ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ.2556 เป็นต้นไป เพื่อรองรับการบรรจุนักศึกษาทุนพระราชทาน บัณฑิตครูคืนถิ่น โครงการกองทุนการศึกษา สำนักงานเลขาธิการคณะองคมนตรี เท่าจำนวนนักศึกษาทุนที่สำเร็จการศึกษาในแต่ละปีการศึกษา ให้ได้รับการบรรจุเป็นข้าราชการครูสังกัด สพฐ. ในโรงเรียนที่อยู่ในโครงการกองทุนการศึกษา หรือโรงเรียนเครือข่ายในภูมิลำเนาท้องถิ่นของตนเอง ตามเงื่อนไขข้อผูกพันของโครงการฯ โดยให้รายงานจำนวนอัตราเกษียณอายุราชการที่ต้องใช้ในการบรรจุนักศึกษาทุนพระราชทานในแต่ละปีการศึกษา ให้คณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ (คปร.) รับทราบด้วย
ทั้งนี้ เพื่อให้ทันต่อการบรรจุนักศึกษาทุนพระราชทานเป็นการเฉพาะเท่าจำนวนที่จะใช้ในการบรรจุในแต่ละปีงบประมาณ ตามที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เสนอ โดยยกเว้นการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 กันยายน 2553 เรื่องมาตรการบริหารกำลังคนภาครัฐ (พ.ศ.2552-2556) และมอบหมายให้ ศธ.รับความเห็นของกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ สำนักงาน ก.พ. สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
สาระสำคัญของเรื่อง
1. เนื่องด้วยพระบาทสมเด็จเจ้าพระเจ้าอยู่หัว ทรงโปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้งโครงการกองทุนการศึกษาร่วมกับสถาบันอุดมศึกษาในท้องถิ่น คัดเลือกนักศึกษาที่เป็นศิษย์เก่า และหรือผู้ที่มีภูมิลำเนาใกล้กับโรงเรียนที่ขาดแคลนครูและกำลังศึกษาในคณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ปีที่ 4 และปีที่ 5 ให้ได้รับการยกเว้นค่าเล่าเรียน และให้ทุนการศึกษาพระราชทาน โดยมีเงื่อนไขให้กลับไปสอนหนังสือในโรงเรียนสังกัด สพฐ. และสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาที่มีปัญหาการขาดแคลนครู สำนักงานโครงการกองทุนการศึกษา สำนักงานเลขาธิการคณะองคมนตรี จึงขอความร่วมมือขอโอกาสให้นักศึกษาทุนพระราชทานดังกล่าว ได้รับการบรรจุเป็นข้าราชการครูในโรงเรียนที่อยู่ในโครงการกองทุนการศึกษาในสาขาวิชาที่ขาดแคลน ประกอบกับ สพฐ. มีโรงเรียนที่ตั้งอยู่ในพื้นที่พิเศษในท้องถิ่นทุรกันดาร ห่างไกล บนเกาะ และภูเขา ประสบปัญหาครูขอย้ายออกเนื่องจากไม่ใช่บุคคลในท้องถิ่น และไม่สะดวกในการเดินทาง ทำให้การเรียนการสอนไม่ต่อเนื่อง ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนต่ำ ข้อมูลโรงเรียนในสังกัด สพฐ. ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่พิเศษ มีดังนี้

ประเภท
จำนวนสถานศึกษาจำแนกตามพื้นที่ (โรง)
รวมพื้นที่พิเศษ  (โรง)
เสี่ยงภัย
กันดาร
มีชนกลุ่มน้อย
ชายแดน
พระราชดำริ
บนภูเขา
บนเกาะ
ประถมศึกษา
951
538
27
266
102
108
34
2,026
ขยายโอกาสทางการศึกษา
191
255
31
84
54
87
10
712
มัธยมศึกษา
52
6
-
55
62
11
8
194
การศึกษาพิเศษ
9
1
-
-
-
-
-
10
รวมทั้งสิ้น
1,203
800
58
405
218
206
52
2,942
โครงการกองทุนการศึกษา สำนักงานเลขาธิการคณะองคมนตรีจึงเป็นโครงการที่สามารถตอบสนองความต้องการครูของโรงเรียนที่อยู่ในพื้นที่พิเศษ ท้องถิ่นทุรกันดารห่างไกล หาบุคคลไปบรรจุได้ยาก ทำให้ได้บุคคลในท้องถิ่นกลับไปบรรจุเป็นข้าราชการครู เพื่อพัฒนาการเรียนการสอนเด็กในท้องถิ่นบ้านเกิดของตนเองให้ได้มีความเจริญ เพื่อเป็นกำลังสำคัญของชุมชน สังคมและประเทศชาติในโอกาสต่อไป
2. เพื่อสนองต่อพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการพัฒนาการศึกษาในท้องถิ่นห่างไกลกันดาร และช่วยเหลือให้เยาวชนได้รับการศึกษาจนจบปริญญาตรีแล้วกลับไปรับใช้ถิ่นกำเนิดในภูมิลำเนาของตนเองเป็นการตอบแทนบุญคุณแผ่นดินเกิด เด็กและเยาวชนในท้องถิ่นทุรกันดารและขาดแคลน ได้รับการสนับสนุนทุนการศึกษาให้ได้มีงานทำ ลดปัญหาการขาดแคลนครูกรณีครูขอย้ายออกจากถิ่นทุรกันดารห่างไกล เพราะไม่ใช่บุคคลในท้องถิ่น ประกอบกับปัจจุบันส่วนราชการยังคงมีสภาพความขาดแคลนอัตรากำลังข้าราชการครูอยู่ในทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ โดยเฉพาะในโรงเรียนขนาดเล็กที่อยู่ในถิ่นห่างไกล ทุรกันดารตามรอยตะเข็บชายแดน บนเกาะ ภูเขา จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีอัตรากำลังข้าราชการครูให้เพียงพอต่อการจัดการเรียนการสอนเพื่อมิให้เกิดผลกระทบต่อการพัฒนามาตรฐานทางการศึกษา และเป็นการสนองต่อพระราชประสงค์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตามโครงการกองทุนการศึกษา สพฐ. จึงมีความจำเป็นในการขอใช้อัตราข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาจากผลการเกษียณอายุราชการในทุกปีงบประมาณไว้รองรับการบรรจุนักศึกษาทุนพระราชทาน บัณฑิตครูคืนถิ่น โครงการกองทุนการศึกษา สำนักงานเลขาธิการคณะองคมนตรี เท่าจำนวนนักศึกษาทุนที่สำเร็จการศึกษาในแต่ละปีการศึกษา ให้ได้รับการบรรจุเป็นข้าราชการครูสังกัด สพฐ. ในโรงเรียนที่อยู่ในโครงการกองทุนการศึกษา หรือโรงเรียนเครือข่ายในภูมิลำเนาท้องถิ่นของตนเอง

  • อนุมัติร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว)
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ พ.ศ. .... ตามที่ ศธ.เสนอ และส่งร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง โดยให้รับความเห็นของกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป
สาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติ
1. กำหนดให้มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ มีฐานะเป็นนิติบุคคล เป็นหน่วยงานในกำกับของรัฐ ไม่เป็นส่วนราชการตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน และกฎหมายว่าด้วยการปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม และไม่เป็นรัฐวิสาหกิจตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณและกฎหมายอื่น
2. กำหนดวัตถุประสงค์ ภาระหน้าที่ การแบ่งส่วนงาน หลักเกณฑ์การจัดตั้ง การรวม และการยุบเลิกส่วนงาน การรับสถานศึกษาอื่นเข้าสมทบ และอำนาจหน้าที่ของมหาวิทยาลัย
3. กำหนดให้มหาวิทยาลัยไม่อยู่ภายใต้บังคับแห่งกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงาน ฯลฯ แต่พนักงานมหาวิทยาลัยต้องได้รับการคุ้มครองและประโยชน์ตอบแทนไม่น้อยกว่าที่กำหนดไว้ในกฎหมายดังกล่าว แต่ไม่ตัดสิทธิที่จะประกันตนด้วยความสมัครใจ
4. กำหนดให้มหาวิทยาลัยมีรายได้ส่วนหนึ่งจากเงินอุดหนุนที่รัฐบาลจัดสรรให้เป็นรายปี เงินหรือทรัพย์สินที่มีผู้อุทิศให้ และเงินกองทุนที่รัฐบาลหรือมหาวิทยาลัยจัดตั้งขึ้นและรายได้หรือผลประโยชน์จากกองทุน รายได้ของมหาวิทยาลัยไม่เป็นรายได้ที่ต้องนำส่งกระทรวงการคลังตามกฎหมายว่าด้วยเงินคงคลังและกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ และให้อสังหาริมทรัพย์ที่ได้มาโดยมีผู้อุทิศให้หรือได้จากการซื้อหรือแลกเปลี่ยนไม่ถือเป็นที่ราชพัสดุและให้ถือเป็นกรรมสิทธิ์ของมหาวิทยาลัย และในกรณีที่รัฐบาลปรับเงินเดือน เงินประจำตำแหน่ง ค่าตอบแทนหรือสิทธิประโยชน์อื่นใดให้แก่ข้าราชการ ให้รัฐบาลจัดสรรงบประมาณในลักษณะเงินอุดหนุนทั่วไปเพิ่มเติมให้แก่มหาวิทยาลัยในสัดส่วนเดียวกัน เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายดังกล่าวให้แก่พนักงานมหาวิทยาลัยด้วย
5. กำหนดให้มหาวิทยาลัยต้องส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้ที่มหาวิทยาลัยรับเข้าศึกษาให้มหาวิทยาลัย และนักศึกษาที่ขาดแคลนทุนทรัพย์อย่างแท้จริงให้มีโอกาสเรียนจนสำเร็จปริญญาตรีโดยให้เป็นไปตามระเบียบที่สภามหาวิทยาลัยกำหนด
6. กำหนดให้มีสภามหาวิทยาลัย ประกอบด้วยนายกสภามหาวิทยาลัย กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ กรรมการโดยตำแหน่ง กรรมการซึ่งเลือกจากกรรมการสภาวิชาการและพนักงานมหาวิทยาลัยตามที่กำหนด กรรมการซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตั้งโดยคำแนะนำของคณะกรรมการการอุดมศึกษา กำหนดวาระการดำรงตำแหน่งและการพ้นจากตำแหน่ง อำนาจหน้าที่ของสภามหาวิทยาลัย และให้มีสำนักงานสภามหาวิทยาลัยที่ตั้งขึ้นตามข้อบังคับของมหาวิทยาลัย
7. กำหนดให้มีสภาวิชาการ สภาคณาจารย์ คณะกรรมการบริหารมหาวิทยาลัย คณะกรรมการบริหารงานบุคคล และคณะกรรมการอุทธรณ์และร้องทุกข์ โดยให้องค์ประกอบ ที่มาของกรรมการ อำนาจหน้าที่เป็นไปตามที่กำหนด และให้จำนวนคุณสมบัติ หลักเกณฑ์ วิธีการได้มา วาระการดำรงตำแหน่ง การพ้นจากตำแหน่ง ตลอดจนการประชุมเป็นไปตามข้อบังคับของมหาวิทยาลัย
8. กำหนดให้มีอธิการบดีเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุด และรับผิดชอบการบริหารงานของมหาวิทยาลัย กำหนดวาระการดำรงตำแหน่ง การพ้นจากตำแหน่ง คุณสมบัติ ลักษณะต้องห้าม และให้มีอำนาจหน้าที่ตามที่กำหนด
9. กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการประกันคุณภาพการศึกษาและการประเมินการดำเนินงานของมหาวิทยาลัย
10. กำหนดหลักเกณฑ์ ระบบบัญชี การตรวจสอบทางบัญชีและการเงินของมหาวิทยาลัย ให้สภามหาวิทยาลัยแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการดำเนินงานของอธิการบดี และให้อธิการบดี รองอธิการบดี ผู้ช่วยอธิการบดี หัวหน้าและรองหัวหน้าส่วนงานตามที่กำหนด เป็นผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูงตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต และให้รัฐมนตรีมีอำนาจและหน้าที่กำกับและดูแลโดยทั่วไป ซึ่งกิจการของมหาวิทยาลัย
11. กำหนดบทเฉพาะกาลเกี่ยวกับการโอนบรรดากิจการ ทรัพย์สิน งบประมาณและรายได้ การดำรงตำแหน่ง และคณะกรรมการต่าง ๆ ส่วนราชการ การโอนบรรดาข้าราชการ ลูกจ้างของส่วนราชการ พนักงานของมหาวิทยาลัย ตำแหน่งทางวิชาการ ตลอดจนระเบียบข้อบังคับ หรือประกาศที่มีอยู่ก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ เป็นต้น


  • อนุมัติ MOU ด้านการอาชีวศึกษา ระหว่างกระทรวงศึกษาธิการไทย-จีน
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่ ศธ.เสนอ ดังนี้
1. อนุมัติการจัดทำและลงนามร่างบันทึกความเข้าใจระหว่าง ศธ. และกระทรวงศึกษาธิการแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนด้านอาชีวศึกษา ทั้งนี้ หากก่อนลงนามมีความจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขร่างบันทึกความเข้าใจฯ ในส่วนที่มิใช่สาระสำคัญ ให้ ศธ.หารือร่วมกับกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) เพื่อพิจารณาดำเนินการในเรื่องนั้นๆ แทนคณะรัฐมนตรีโดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอีกครั้ง
2. อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเป็นผู้ลงนามในบันทึกความเข้าใจฯ ด้านอาชีวศึกษา โดยไม่ต้องจัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Power) ตามความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สาระสำคัญของบันทึกความเข้าใจ
เป็นข้อตกลงที่จะร่วมมือกันในการส่งเสริมความสัมพันธ์และความร่วมมือทางด้านอาชีวศึกษา เพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนและการเรียนรู้ การแบ่งปันข้อมูลข่าวสารด้านนโยบายการอาชีวศึกษาในระดับรัฐบาล เพื่อส่งเสริมความร่วมมือและแลกเปลี่ยนในด้านการพัฒนายุทธศาสตร์ การวางระบบ นโยบายและกลไกเพื่อการอาชีวศึกษา การส่งเสริมความร่วมมือระหว่างสถาบันอาชีวศึกษา หรือหน่วยงานการศึกษาของทั้งสองฝ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแลกเปลี่ยนนักเรียน ครู รวมทั้งหลักสูตรการศึกษาและฝึกอบรมเฉพาะด้านการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของสถานประกอบการทั้งสองฝ่ายในด้านการฝึกปฏิบัติงาน และความร่วมมือระหว่างสถานประกอบการกับสถาบันอาชีวศึกษาของนักเรียน นักศึกษา ครู อาจารย์ และนักวิชาการ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศทุกด้านบนพื้นฐานของความเท่าเทียม และต่างตอบแทน
  • ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี ศธ.

"ติวสอบดอทคอม" ผอ.นิกร เพ็งลี
... เน็ตเร็ว คลิ๊กที่ www.tuewsob.com

... เน็ตช้า คลิ๊กที่ http://tuewsob.blogspot.com

... ห้องวิชาเอกครู คลิ๊กที่ http://uewsob2011.blogspot.com

... (ห้องข้อสอบใหม่) ..สอบครู..สอบผู้บริหาร..สอบบุคลากร ที่

"ติวสอบดอทคอม "

ผอ.นิกร  เพ็งลี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

พัฒนาความรู้ครูผู้ช่วย 4 ภาค

พัฒนาความรู้ครูผู้ช่วย 4 ภาค
พัฒนาความรู้ครูผู้ช่วย 4 ภาค

ห้องสนทนา บน facebook

ห้องสนทนา บน facebook
ห้องสนทนาติวสอบดอทคอม

ข้อสอบออนไลน์ "ติวสอบดอทคอม" ชุดใหม่

คู่มือเตรียมสอบผู้บริหาร ภาค ก ข ค

แจ้งย้ายเว็บไปที่ www.tuewsob.com

คู่มือเตรียมสอบผู้บริหาร ภาค ก ข ค (ปรับปรุงใหม่)

รวม เล่ม + แผ่นพับ + ชีตช่วยจำ + DVD เนื้อหา + เสียงบรรยาย + EMS = 800 บาท
สนใจ คู่มือ ภาค ก ข ค ผู้บริหาร คลิ๊กเลย

สั่งจอง... โอนเงินเข้าชื่อบัญชี นายนิกร เพ็งลี ธนาคารกรุงไทย สาขาจอหอ บัญชีเลขที่ 341-1-38912-5 โอนเงินแล้วกรุณาโทรแจ้ง
0872494141 หรือ 0839660030

คู่มือ เตรียมสอบผู้บริหาร

คู่มือ เตรียมสอบผู้บริหาร
คู่มือ เตรียมสอบผู้บริหาร

ติวสอบออนไลน์ บน facebook

ติวสอบออนไลน์ บน facebook
ติวสอบออนไลน์ บน facebook

คลังหนังสือ ติวสอบดอทคอม

คลังหนังสือ ติวสอบดอทคอม
คลังหนังสือ ติวสอบดอทคอม

ติวสอบดอทคอม

ติวสอบดอทคอม
ติวสอบดอทคอม