เรื่องใหม่น่าสนใจ
-ครม.ประยุทธ์ 3 http://tuewsob.blogspot.com/2015/08/blog-post_23.html
-เขตที่เปิดสอบ-เกณฑ์สอบ-กำหนดการสอบครูผู้ช่วย รอบ 2 / 2558
-เกณฑ์การย้ายครู พ.ศ.2558 http://www.otepc.go.th/images/document/2558/v16-2558.pdf
-รัฐธรรมนูญ 2557 แก้ไข ครั้งที่ 1 พ.ศ.2558
- พรบ.เงินเดือนใหม่ข้าราชการครูฯ พ.ศ.2558
http://tuewsob.blogspot.com/2015/05/4-10-1-57.html
ข้อสอบออนไลน์ ( สอบครู - ผู้บริหาร - บุคลากรการศึกษา) ชุดใหม่ โดย อ.นิกร
ข้อสอบออนไลน์ ( สอบครู - ผู้บริหาร - บุคลากรการศึกษา) ชุดใหม่ โดย อ.นิกร
เตรียมสอบ บน ยูทูป ทั้งหมด ได้ที่
เตรียมสอบผู้บริหารสถาน+การศึกษา
เตรียมสอบครูผู้ช่วย
ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี 285/2558หารือกิจกรรมตามนโยบาย "ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้"
พลเอก ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ หารือกับนายแพทย์กำจร ตติยกวี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ และ นายกมล รอดคล้าย เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เกี่ยวกับรูปแบบของการจัดกิจกรรมตาม นโยบาย "ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้" เมื่อวันจันทร์ที่ 31 สิงหาคม 2558
รมว.ศึกษาธิการ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนภายหลังการหารือว่า สพฐ.ได้นำแผนการดำเนินงานเกี่ยวกับนโยบายลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้มาเสนอ ซึ่งได้เตรียมการไว้แล้ว โดยมีรายละเอียดในหลายส่วน ไม่ว่าจะเป็น ระยะเวลาเรียน จำนวนวิชาที่จะลด กิจกรรม มาตรการในการดูแลนักเรียนในช่วงของการทำกิจกรรม ตลอดจนวิทยากรผู้ให้ความรู้และค่าใช้จ่าย
ซึ่งนโยบายนี้เป็นเรื่องใหม่ จึงได้มอบให้ สพฐ. จัดประชุมสร้างความเข้าใจกับผู้อำนวยการโรงเรียนนำร่องทั้ง 3,500 โรงเรียนให้ครบทุกภูมิภาคภายในวันที่ 10 ตุลาคมนี้ โดยลงไปอธิบายด้วยตัวเองถึงแนวทางและมาตรการที่คุณครูจะต้องทำ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องใหม่ จะใช้วิธีแจกเอกสารไม่ได้ จากนั้นผู้อำนวยการจะได้นำสิ่งเหล่านี้ไปทำความเข้าใจกับคุณครูในโรงเรียนต่อไป เพื่อให้สามารถเริ่มนโยบายได้ในช่วงเปิดภาคเรียนในเดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไป อย่างไรก็ตามจะมีการประเมินผลหลังปิดภาคเรียนที่ 2 หากสามารถแก้ไขปัญหาหรือข้อบกพร่องได้เร็ว ก็จะขยายผลออกไปทันที
ส่วนกรณีที่สื่อมวลชนหรือมีบางคนเข้าใจว่า นโยบายนี้เป็นการย้ายวิชาอื่นๆ เช่น วิชาพลศึกษาไปไว้ในช่วงบ่ายนั้น คงจะไม่ใช่ เพราะยังคงมีการเรียนวิชาพลศึกษาอยู่ แต่ในช่วงบ่ายหลังการเรียนในห้องเรียน จะเป็นการฝึกการเรียนรู้ให้กับเด็กๆ เป็นการเรียนนอกห้องเรียนเพื่อให้เด็กอยู่และต่อสู้กับสังคมได้ผ่านกิจกรรมในรูปแบบต่างๆ โดยจะเป็นกิจกรรมที่ดึงดูดความสนใจให้เด็กอยากทำและมีความสุข
โดยได้ให้แนวทางกับ สพฐ.เกี่ยวกับเมนูกิจกรรม ที่จะให้คุณครูนำไปจัดกิจกรรมแก่เด็กๆ ว่า ควรเป็นเมนูแบบกว้างๆ มีจำนวนมากและมีความหลากหลาย เพื่อให้โรงเรียนได้เลือกใช้ตามความเหมาะสมกับสภาพในแต่ละพื้นที่ เช่น กิจกรรมโรงเรียนห่างไกล กิจกรรมโรงเรียนระดับอำเภอ เป็นต้น แต่สุดท้ายโรงเรียนจะเป็นผู้ตัดสินใจเลือกกิจกรรมเอง นอกจากนี้การทำกิจกรรมต่างๆ สามารถปรับเปลี่ยนได้เมื่อเสร็จสิ้นแล้ว เช่น การสอนทำกับข้าวอาจใช้เวลาเพียงเดือนเดียว หรือบางกิจกรรมอาจเชิญชาวบ้านหรือปราชญ์ชาวบ้านมาช่วยสอนโดยมีค่าตอบแทนให้ด้วย เช่น ภูมิปัญญาท้องถิ่น รวมถึงกิจกรรมที่จะช่วยเสริมสร้างทางด้านวิชาการให้กับเด็กโดยไม่รู้ตัว เช่น การดูหนังเรื่องพระนเรศวร เพื่อให้เด็กแสดงบทบาทสมมติ การฝึกเป็นผู้นำเด็ก/เป็นหัวหน้าห้อง เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม สำหรับเด็กที่เรียนอ่อนในวิชาหลักอยู่แล้ว แต่จะต้องทำกิจกรรมในช่วงบ่ายด้วยนั้น กระทรวงศึกษาธิการจะพิจารณาหาแนวทางช่วยเหลือ เพื่อเติมเต็มทางด้านวิชาการและให้สามารถเรียนตามเพื่อนได้ทัน จะไม่ทิ้งเด็กเหล่านี้อย่างแน่นอน
นโยบายนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการปฏิรูปการศึกษา จึงขอให้ผู้ปกครองเชื่อใจว่า กระทรวงศึกษาธิการกำลังพยายามสร้างระบบการเรียนรู้แก่เด็กๆ เพื่อให้นักเรียนของเราดีขึ้น โดยยึดหลักกระแสพระราชดำรัสเกี่ยวกับการปฏิรูปการศึกษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คือ “ให้ครูรักเด็กและเด็กรักครู” จึงดำเนินการจัดกิจกรรมในช่วงบ่ายที่จะทำให้เด็กและครูมีความสุข ทำให้ผู้ปกครองมีความสุข เมื่อนั้นก็จะเกิดความรักระหว่างกัน
ขณะนี้กระทรวงศึกษาธิการพยายามผลักดันและให้โอกาสทุกอย่าง แต่ก็ขึ้นอยู่กับผู้ปกครอง หากผู้ปกครองมีความสุขที่จะให้ลูกทำกิจกรรม ก็จะช่วยดูแลให้ แต่หากผู้ปกครองมีความสุข หรือมีความจำเป็นที่จะให้เด็กกลับไปอยู่บ้านโดยไม่ทำกิจกรรมหรือจะไปเรียนพิเศษ ก็สามารถขออนุญาตและชี้แจงเหตุผลกับทางโรงเรียนได้ เพราะถือว่าเด็กเรียนวิชาหลักครบแล้ว ซึ่งต่อจากนี้ไปก็เป็นหน้าที่ของกระทรวงศึกษาธิการที่จะต้องพิสูจน์ตัวเองและสร้างความมั่นใจกับผู้ปกครองให้ได้ว่า เมื่อจัดกิจกรรมตามนโยบายนี้แล้ว ผู้ปกครองจะเห็นว่าดีและไม่ส่งลูกไปเรียนพิเศษอีก.
ที่มา ; เว็บสำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงศึกษาธิการ
เตรียมสอบผู้บริหารสถาน+การศึกษา
เตรียมสอบครูผู้ช่วย
ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี 285/2558หารือกิจกรรมตามนโยบาย "ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้"
รมว.ศึกษาธิการ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนภายหลังการหารือว่า สพฐ.ได้นำแผนการดำเนินงานเกี่ยวกับนโยบายลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้มาเสนอ ซึ่งได้เตรียมการไว้แล้ว โดยมีรายละเอียดในหลายส่วน ไม่ว่าจะเป็น ระยะเวลาเรียน จำนวนวิชาที่จะลด กิจกรรม มาตรการในการดูแลนักเรียนในช่วงของการทำกิจกรรม ตลอดจนวิทยากรผู้ให้ความรู้และค่าใช้จ่าย
ซึ่งนโยบายนี้เป็นเรื่องใหม่ จึงได้มอบให้ สพฐ. จัดประชุมสร้างความเข้าใจกับผู้อำนวยการโรงเรียนนำร่องทั้ง 3,500 โรงเรียนให้ครบทุกภูมิภาคภายในวันที่ 10 ตุลาคมนี้ โดยลงไปอธิบายด้วยตัวเองถึงแนวทางและมาตรการที่คุณครูจะต้องทำ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องใหม่ จะใช้วิธีแจกเอกสารไม่ได้ จากนั้นผู้อำนวยการจะได้นำสิ่งเหล่านี้ไปทำความเข้าใจกับคุณครูในโรงเรียนต่อไป เพื่อให้สามารถเริ่มนโยบายได้ในช่วงเปิดภาคเรียนในเดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไป อย่างไรก็ตามจะมีการประเมินผลหลังปิดภาคเรียนที่ 2 หากสามารถแก้ไขปัญหาหรือข้อบกพร่องได้เร็ว ก็จะขยายผลออกไปทันที
ซึ่งนโยบายนี้เป็นเรื่องใหม่ จึงได้มอบให้ สพฐ. จัดประชุมสร้างความเข้าใจกับผู้อำนวยการโรงเรียนนำร่องทั้ง 3,500 โรงเรียนให้ครบทุกภูมิภาคภายในวันที่ 10 ตุลาคมนี้ โดยลงไปอธิบายด้วยตัวเองถึงแนวทางและมาตรการที่คุณครูจะต้องทำ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องใหม่ จะใช้วิธีแจกเอกสารไม่ได้ จากนั้นผู้อำนวยการจะได้นำสิ่งเหล่านี้ไปทำความเข้าใจกับคุณครูในโรงเรียนต่อไป เพื่อให้สามารถเริ่มนโยบายได้ในช่วงเปิดภาคเรียนในเดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไป อย่างไรก็ตามจะมีการประเมินผลหลังปิดภาคเรียนที่ 2 หากสามารถแก้ไขปัญหาหรือข้อบกพร่องได้เร็ว ก็จะขยายผลออกไปทันที
ส่วนกรณีที่สื่อมวลชนหรือมีบางคนเข้าใจว่า นโยบายนี้เป็นการย้ายวิชาอื่นๆ เช่น วิชาพลศึกษาไปไว้ในช่วงบ่ายนั้น คงจะไม่ใช่ เพราะยังคงมีการเรียนวิชาพลศึกษาอยู่ แต่ในช่วงบ่ายหลังการเรียนในห้องเรียน จะเป็นการฝึกการเรียนรู้ให้กับเด็กๆ เป็นการเรียนนอกห้องเรียนเพื่อให้เด็กอยู่และต่อสู้กับสังคมได้ผ่านกิจกรรมในรูปแบบต่างๆ โดยจะเป็นกิจกรรมที่ดึงดูดความสนใจให้เด็กอยากทำและมีความสุข
โดยได้ให้แนวทางกับ สพฐ.เกี่ยวกับเมนูกิจกรรม ที่จะให้คุณครูนำไปจัดกิจกรรมแก่เด็กๆ ว่า ควรเป็นเมนูแบบกว้างๆ มีจำนวนมากและมีความหลากหลาย เพื่อให้โรงเรียนได้เลือกใช้ตามความเหมาะสมกับสภาพในแต่ละพื้นที่ เช่น กิจกรรมโรงเรียนห่างไกล กิจกรรมโรงเรียนระดับอำเภอ เป็นต้น แต่สุดท้ายโรงเรียนจะเป็นผู้ตัดสินใจเลือกกิจกรรมเอง นอกจากนี้การทำกิจกรรมต่างๆ สามารถปรับเปลี่ยนได้เมื่อเสร็จสิ้นแล้ว เช่น การสอนทำกับข้าวอาจใช้เวลาเพียงเดือนเดียว หรือบางกิจกรรมอาจเชิญชาวบ้านหรือปราชญ์ชาวบ้านมาช่วยสอนโดยมีค่าตอบแทนให้ด้วย เช่น ภูมิปัญญาท้องถิ่น รวมถึงกิจกรรมที่จะช่วยเสริมสร้างทางด้านวิชาการให้กับเด็กโดยไม่รู้ตัว เช่น การดูหนังเรื่องพระนเรศวร เพื่อให้เด็กแสดงบทบาทสมมติ การฝึกเป็นผู้นำเด็ก/เป็นหัวหน้าห้อง เป็นต้น
โดยได้ให้แนวทางกับ สพฐ.เกี่ยวกับเมนูกิจกรรม
อย่างไรก็ตาม สำหรับเด็กที่เรียนอ่อนในวิชาหลักอยู่แล้ว แต่จะต้องทำกิจกรรมในช่วงบ่ายด้วยนั้น กระทรวงศึกษาธิการจะพิจารณาหาแนวทางช่วยเหลือ เพื่อเติมเต็มทางด้านวิชาการและให้สามารถเรียนตามเพื่อนได้ทัน จะไม่ทิ้งเด็กเหล่านี้อย่างแน่นอน
นโยบายนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการปฏิรูปการศึกษา จึงขอให้ผู้ปกครองเชื่อใจว่า กระทรวงศึกษาธิการกำลังพยายามสร้างระบบการเรียนรู้แก่เด็กๆ เพื่อให้นักเรียนของเราดีขึ้น โดยยึดหลักกระแสพระราชดำรัสเกี่ยวกับการปฏิรูปการศึกษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คือ “ให้ครูรักเด็กและเด็กรักครู” จึงดำเนินการจัดกิจกรรมในช่วงบ่ายที่จะทำให้เด็กและครูมีความสุข ทำให้ผู้ปกครองมีความสุข เมื่อนั้นก็จะเกิดความรักระหว่างกัน
ที่มา ; เว็บสำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงศึกษาธิการ
เตรียมสอบผู้บริหารสถาน+การศึกษา
เตรียมสอบครูผู้ช่วย
ฟรี... ห้องเตรียมสอบ-ครูผู้ช่วย
-ผู้บริหาร-บุคลากรการศึกษา ที่
เตรียมสอบผู้บริหารสถาน+การศึกษา
เตรียมสอบครูผู้ช่วย
ฟรี... ห้องเตรียมสอบ-ครูผู้ช่วย
-ผู้บริหาร-บุคลากรการศึกษา ที่
" ติวสอบดอทคอม " โดย อ.นิกร
เว็บฟรีข้อสอบออนไลน์
(เตรียมสอบครู-ผู้บริหาร-บุคลากร การศึกษา)
" ติวสอบดอทคอม " โดย อ.นิกร
เว็บฟรีข้อสอบออนไลน์
(เตรียมสอบครู-ผู้บริหาร-บุคลากร การศึกษา)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น