เรื่องใหม่น่าสนใจ
-ครม.ประยุทธ์ 3 http://tuewsob.blogspot.com/2015/08/blog-post_23.html
-เขตที่เปิดสอบ-เกณฑ์สอบ-กำหนดการสอบครูผู้ช่วย รอบ 2 / 2558
-เกณฑ์การย้ายครู พ.ศ.2558 http://www.otepc.go.th/images/document/2558/v16-2558.pdf
-รัฐธรรมนูญ 2557 แก้ไข ครั้งที่ 1 พ.ศ.2558
- พรบ.เงินเดือนใหม่ข้าราชการครูฯ พ.ศ.2558
http://tuewsob.blogspot.com/2015/05/4-10-1-57.html
ข้อสอบออนไลน์ ( สอบครู - ผู้บริหาร - บุคลากรการศึกษา) ชุดใหม่ โดย อ.นิกร
ข้อสอบออนไลน์ ( สอบครู - ผู้บริหาร - บุคลากรการศึกษา) ชุดใหม่ โดย อ.นิกร
เตรียมสอบ บน ยูทูป ทั้งหมด ได้ที่
กนง.ผวาเงินบาทผันผวน สั่งตรึงดอกเบี้ยนโยบายดูเชิงเฟดถึงสิ้นปี
กนง.คงดอกเบี้ยนโยบาย 1.5% พร้อมรับมือความผันผวนในตลาดเงิน และค่าเงินบาท หลังจากเฟดตัดสินใจจะขึ้นหรือคงดอกเบี้ยในวันที่ 18 ก.ย.นี้ ยันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นของรัฐบาลถือเป็นปัจจัยบวกตัวใหม่ แต่หวั่นพิษเศรษฐกิจโลกรุนแรง กดจีดีพีเศรษฐกิจไทยปีนี้โตไม่ถึง 3%
นายเมธี สุภาพงษ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สายเศรษฐกิจการเงิน ในฐานะเลขานุการ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เปิดเผยว่า กนง.มีมติเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.50% ต่อปี โดยมองว่า นโยบายการเงินยังอยู่ในระดับผ่อนปรนและเพียงพอต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดยไม่ทำให้เสถียรภาพทางเศรษฐกิจเกิดปัญหา แม้ว่าเศรษฐกิจไทยในระยะต่อไปยังคงเผชิญกับปัจจัยลบโดยเฉพาะจากต่างประเทศ รวมทั้งความผันผวนของตลาดการเงินโลกที่อาจจะสูงขึ้นอีก
ขณะที่รัฐบาลจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นๆออกมา ซึ่ง ธปท.ประเมินว่า จะช่วยให้พยุงการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในระยะต่อไปได้อย่างมีนัยสำคัญ แต่การปรับประมาณการใหม่ของ ธปท.ในครั้งต่อไป คาดว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปีนี้ยังจะต่ำกว่า 3% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) เพราะปัจจัยลบ โดยเฉพาะจากเศรษฐกิจโลกยังมีผลรุนแรงกว่า
ส่วนประเด็นการปรับขึ้นหรือคงอัตราดอกเบี้ยต่อของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในคืนวันที่ 17 ก.ย.นี้ หรือตรงกับวันที่ 18 ก.ย.ตามเวลาประเทศไทยนั้น นายเมธีกล่าวว่า ไม่ได้เป็นประเด็นหลักในการตัดสินใจนโยบายการเงินของไทยในขณะนี้ แต่การหารือของ กนง.ได้เตรียมรับมือความผันผวนในตลาดเงินในประเทศ และอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทที่จะเกิดขึ้นจากการตัดสินใจของเฟด ซึ่ง ธปท.มีมาตรการและเครื่องมือพร้อมที่จะรับมือได้ โดยหากมีความผันผวนมากเกินไป ธปท.คงเข้าไปดูแลและบรรเทาความเสียหายไม่ให้มากเกินไป แต่ปัจจุบันนี้การอ่อนตัวของค่าของเงินบาทยังอยู่ระดับที่น่าพอใจ เพราะช่วยในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยได้
ด้านนายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯ ในการประชุมของเฟดนั้น กระทรวงการคลังคาดว่า จะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในรอบนี้ แต่หากเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้ เชื่อว่าฐานะทางการเงินของไทยยังมั่นคง โดยมีเงินคงคลัง ณ สิ้นเดือน ก.ค.58 มีจำนวน 202,000 ล้านบาท และมีทุนสำรองเงินระหว่างประเทศที่สูงมาก ซึ่งสามารถรองรับกระแสการไหลออกของเงินทุนต่างชาติได้ จึงไม่น่ากังวล หากเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
นายอมรเทพ จาวะลา ผู้อำนวยการสำนักวิจัย สายบริหารความเสี่ยง ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กนง.คงอัตราดอกเบี้ยที่ 1.50% เป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ เนื่องจากเศรษฐกิจโลกยังผันผวน และรอดูผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯหรือเฟดในการประชุมวันที่ 16-17 ก.ย.ก่อน ถ้าเฟดขึ้นดอกเบี้ยจะทำให้ตลาดช็อกในระยะสั้นและเงินทุนเคลื่อนย้ายเกิดความผันผวน โดยเฉพาะในตลาดเกิดใหม่ แต่ส่งผลดีในระยะยาวเนื่องจากตลาดเกิดความชัดเจน แต่ต้องใช้เวลาการปรับสมดุลด้านการลงทุนประมาณ 1-3 เดือน ซึ่งเห็นว่าตลาดหุ้นไทยเป็นที่น่าสนใจของนักลงทุน
“ดอกเบี้ย กนง.คาดว่าจะตรึงยาวจนถึงสิ้นปีนี้ที่ระดับ 1.5% เพราะเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยการขึ้นดอกเบี้ยของไทยจะช้ากว่าดอกเบี้ยของสหรัฐฯ และหากเฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ยก็คาดว่าอัตราดอกเบี้ยปลายปีของ กนง.อาจจะปรับขึ้นมาอยู่ที่ 1.75% ยกเว้นว่าเศรษฐกิจไทยยังไม่ฟื้นตัว กนง.อาจจะปรับลดดอกเบี้ยลงอีก”
น.ส.รุ่ง สงวนเรือง ผู้อำนวยการผู้บริหารฝ่ายวิเคราะห์ตลาดการเงิน ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ค่าเงินบาทเปิดตลาด วานนี้ (16 ก.ย.) อยู่ที่ระดับ 35.96 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ และระหว่างวันอ่อนค่าแตะที่ระดับ 36 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งมีความผันผวนจากปัจจัยต่างประเทศเป็นหลัก เพราะตลาดรอดูว่า เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยหรือไม่ แต่ตลาดมองว่าไม่น่าจะขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมรอบนี้ และยังต้องติดตามการส่งสัญญาณของเฟด เพราะมีผลต่อการเคลื่อนย้ายเงินทุน โดยไตรมาส 4 ปีนี้คาดว่า ค่าเงินบาทอยู่ที่ 36.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ.
กนง.คงดอกเบี้ยนโยบาย 1.5% พร้อมรับมือความผันผวนในตลาดเงิน และค่าเงินบาท หลังจากเฟดตัดสินใจจะขึ้นหรือคงดอกเบี้ยในวันที่ 18 ก.ย.นี้ ยันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นของรัฐบาลถือเป็นปัจจัยบวกตัวใหม่ แต่หวั่นพิษเศรษฐกิจโลกรุนแรง กดจีดีพีเศรษฐกิจไทยปีนี้โตไม่ถึง 3%
นายเมธี สุภาพงษ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สายเศรษฐกิจการเงิน ในฐานะเลขานุการ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เปิดเผยว่า กนง.มีมติเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.50% ต่อปี โดยมองว่า นโยบายการเงินยังอยู่ในระดับผ่อนปรนและเพียงพอต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดยไม่ทำให้เสถียรภาพทางเศรษฐกิจเกิดปัญหา แม้ว่าเศรษฐกิจไทยในระยะต่อไปยังคงเผชิญกับปัจจัยลบโดยเฉพาะจากต่างประเทศ รวมทั้งความผันผวนของตลาดการเงินโลกที่อาจจะสูงขึ้นอีก
ขณะที่รัฐบาลจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นๆออกมา ซึ่ง ธปท.ประเมินว่า จะช่วยให้พยุงการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในระยะต่อไปได้อย่างมีนัยสำคัญ แต่การปรับประมาณการใหม่ของ ธปท.ในครั้งต่อไป คาดว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปีนี้ยังจะต่ำกว่า 3% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) เพราะปัจจัยลบ โดยเฉพาะจากเศรษฐกิจโลกยังมีผลรุนแรงกว่า
ส่วนประเด็นการปรับขึ้นหรือคงอัตราดอกเบี้ยต่อของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในคืนวันที่ 17 ก.ย.นี้ หรือตรงกับวันที่ 18 ก.ย.ตามเวลาประเทศไทยนั้น นายเมธีกล่าวว่า ไม่ได้เป็นประเด็นหลักในการตัดสินใจนโยบายการเงินของไทยในขณะนี้ แต่การหารือของ กนง.ได้เตรียมรับมือความผันผวนในตลาดเงินในประเทศ และอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทที่จะเกิดขึ้นจากการตัดสินใจของเฟด ซึ่ง ธปท.มีมาตรการและเครื่องมือพร้อมที่จะรับมือได้ โดยหากมีความผันผวนมากเกินไป ธปท.คงเข้าไปดูแลและบรรเทาความเสียหายไม่ให้มากเกินไป แต่ปัจจุบันนี้การอ่อนตัวของค่าของเงินบาทยังอยู่ระดับที่น่าพอใจ เพราะช่วยในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยได้
ด้านนายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯ ในการประชุมของเฟดนั้น กระทรวงการคลังคาดว่า จะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในรอบนี้ แต่หากเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้ เชื่อว่าฐานะทางการเงินของไทยยังมั่นคง โดยมีเงินคงคลัง ณ สิ้นเดือน ก.ค.58 มีจำนวน 202,000 ล้านบาท และมีทุนสำรองเงินระหว่างประเทศที่สูงมาก ซึ่งสามารถรองรับกระแสการไหลออกของเงินทุนต่างชาติได้ จึงไม่น่ากังวล หากเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
นายอมรเทพ จาวะลา ผู้อำนวยการสำนักวิจัย สายบริหารความเสี่ยง ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กนง.คงอัตราดอกเบี้ยที่ 1.50% เป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ เนื่องจากเศรษฐกิจโลกยังผันผวน และรอดูผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯหรือเฟดในการประชุมวันที่ 16-17 ก.ย.ก่อน ถ้าเฟดขึ้นดอกเบี้ยจะทำให้ตลาดช็อกในระยะสั้นและเงินทุนเคลื่อนย้ายเกิดความผันผวน โดยเฉพาะในตลาดเกิดใหม่ แต่ส่งผลดีในระยะยาวเนื่องจากตลาดเกิดความชัดเจน แต่ต้องใช้เวลาการปรับสมดุลด้านการลงทุนประมาณ 1-3 เดือน ซึ่งเห็นว่าตลาดหุ้นไทยเป็นที่น่าสนใจของนักลงทุน
“ดอกเบี้ย กนง.คาดว่าจะตรึงยาวจนถึงสิ้นปีนี้ที่ระดับ 1.5% เพราะเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยการขึ้นดอกเบี้ยของไทยจะช้ากว่าดอกเบี้ยของสหรัฐฯ และหากเฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ยก็คาดว่าอัตราดอกเบี้ยปลายปีของ กนง.อาจจะปรับขึ้นมาอยู่ที่ 1.75% ยกเว้นว่าเศรษฐกิจไทยยังไม่ฟื้นตัว กนง.อาจจะปรับลดดอกเบี้ยลงอีก”
น.ส.รุ่ง สงวนเรือง ผู้อำนวยการผู้บริหารฝ่ายวิเคราะห์ตลาดการเงิน ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ค่าเงินบาทเปิดตลาด วานนี้ (16 ก.ย.) อยู่ที่ระดับ 35.96 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ และระหว่างวันอ่อนค่าแตะที่ระดับ 36 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งมีความผันผวนจากปัจจัยต่างประเทศเป็นหลัก เพราะตลาดรอดูว่า เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยหรือไม่ แต่ตลาดมองว่าไม่น่าจะขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมรอบนี้ และยังต้องติดตามการส่งสัญญาณของเฟด เพราะมีผลต่อการเคลื่อนย้ายเงินทุน โดยไตรมาส 4 ปีนี้คาดว่า ค่าเงินบาทอยู่ที่ 36.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ.
ที่มา ; เว็บ นสพ.ไทยรัฐ
ที่มา ; เว็บ นสพ.ไทยรัฐ
( คลิ๊ก ) สมัครพัฒนาความรู้
เตรียมสอบผู้บริหารสถาน+การศึกษา
เตรียมสอบครูผู้ช่วย
ฟรี... ห้องเตรียมสอบ-ครูผู้ช่วย
-ผู้บริหาร-บุคลากรการศึกษา ที่
ฟรี... ห้องเตรียมสอบ-ครูผู้ช่วย
-ผู้บริหาร-บุคลากรการศึกษา ที่
" ติวสอบดอทคอม " โดย อ.นิกร
เว็บฟรีข้อสอบออนไลน์
(เตรียมสอบครู-ผู้บริหาร-บุคลากร การศึกษา)
" ติวสอบดอทคอม " โดย อ.นิกร
เว็บฟรีข้อสอบออนไลน์
(เตรียมสอบครู-ผู้บริหาร-บุคลากร การศึกษา)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น