ให้นโยบายการอาชีวศึกษา

เรื่องใหม่น่าสนใจ 

-นโยบาย ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้

http://tuewsob.blogspot.com/2015/09/blog-post_93.html

-เขตที่เปิดสอบ-เกณฑ์สอบ-กำหนดการสอบครูผู้ช่วย รอบ 2 / 2558

http://tuewsob.blogspot.com/2015/08/2-2558.html

-เกณฑ์การย้ายครู พ.ศ.2558  http://www.otepc.go.th/images/document/2558/v16-2558.pdf

-รัฐธรรมนูญ 2557 แก้ไข ครั้งที่ 1 พ.ศ.2558

http://tuewsob.blogspot.com/2015/07/2557-1-2558.html

- พรบ.เงินเดือนใหม่ข้าราชการครูฯ พ.ศ.2558  

http://tuewsob.blogspot.com/2015/05/4-10-1-57.html

              ข้อสอบออนไลน์ ( สอบครู - ผู้บริหาร - บุคลากรการศึกษา) ชุดใหม่  โดย  อ.นิกร

ProProfs - ข้อสอบออนไลน์ 308 นโยบาย รมว.ศธ.ดาว์พงษ์ » Online assessment software

 เตรียมสอบ บน ยูทูป ทั้งหมด ได้ที่

  (  คลิ๊ก ) สมัครพัฒนาความรู้

เตรียมสอบผู้บริหารสถาน+การศึกษา 

เตรียมสอบครูผู้ช่วย

ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี 326/2558ให้นโยบายการอาชีวศึกษา

สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) - พลเอกดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วยพลเอกสุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ รวมทั้งนายโยธิน มูลกำบิล ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พันเอกณัฐพงษ์ เพราแก้ว เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พันเอกรัตนะโชติ อ่างทอง ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พบปะผู้บริหารและข้าราชการสังกัด สอศ. เมื่อวันศุกร์ที่ 11 กันยายน 2558 ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 2 โดยมี ดร.ชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ดร.อกนิษฐ์ คลังแสง และนายวณิชย์ อ่วมศรี รองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา นางผานิตย์ มีสุนทร รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ตลอดจนผู้บริหารและข้าราชการ สอศ. เข้าร่วมรับฟังนโยบาย

 

ดร.ชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ได้นำเสนอโครงสร้างการบริหารงานของ สอศ. ซึ่งดำเนินงานภายใต้วิสัยทัศน์ “เป็นผู้นำในการจัดการศึกษาสายอาชีพ เพื่อเป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคม เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศและภูมิภาค” มีพันธกิจในการจัดและส่งเสริมการอาชีวศึกษาและฝึกอบรมวิชาชีพให้มีคุณภาพมาตรฐาน ยกระดับคุณภาพและมาตรฐานกำลังคนสายอาชีพเข้าสู่สากล ขยายโอกาสทางการศึกษาสายอาชีพอย่างทั่วถึง ต่อเนื่อง เสมอภาค และเป็นธรรม และเป็นแกนกลางในการจัดการอาชีวศึกษาและฝึกอบรมวิชาชีพระดับฝีมือเทคนิคและเทคโนโลยีของประเทศ

ปัจจุบัน สอศ.มีจำนวนนักศึกษารวม 674,454 คน แบ่งเป็นประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) 434,809 คน ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) 235,859 คน และปริญญาตรีสายเทคโนโลยี 3,786 คน มีสถานศึกษารวม 424 แห่งทั่วประเทศ ได้แก่วิทยาลัยการอาชีพ 138 แห่ง วิทยาลัยเทคนิค 123 แห่ง วิทยาลัยสารพัดช่าง 52 แห่ง วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยี 43 แห่ง วิทยาลัยอาชีวศึกษา 38 แห่ง และอื่นๆ 30 แห่ง และมีบุคลากร 41,625 คน แยกเป็นข้าราชการและข้าราชการครู 16,781 คน ลูกจ้างประจำ 2,401 คน พนักงานราชการ 3,276 คน และลูกจ้างชั่วคราว 19,167 คน (สายสอน 7,781 คน และสายสนับสนุน 11,386 คน)

งบประมาณรายจ่ายประจำปีที่ สอศ.ได้รับจัดสรรในปีงบประมาณ พ.ศ.2558 มีจำนวนทั้งสิ้น 20,952,036,900 บาท ส่วนปีงบประมาณ พ.ศ.2559 ได้รับจัดสรรจำนวนทั้งสิ้น 22,289,800,900 บาท หรือได้รับเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.38

ผลการดำเนินงานด้านอาชีวศึกษาที่ผ่านมา แบ่งเป็น 2 ส่วน ดังนี้

● การดำเนินงานตามนโยบายของคณะกรรมการนโยบายและพัฒนาการศึกษา (ซุปเปอร์บอร์ดการศึกษา) ได้แก่ 1) การเพิ่มบทบาทของสถานประกอบการในการเสนอแนะเพื่อพัฒนาหลักสูตร และการจัดการเรียนการสอนให้ตรงกับความต้องการของตลาดแรงงาน 2) การแก้ไขปัญหาการทะเลาะวิวาทของนักเรียนนักศึกษาในสถานศึกษาอาชีวศึกษา

● การดำเนินงานตามจุดเน้นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการด้านอาชีวศึกษา ใน 5 เรื่อง คือ

1) การสร้างค่านิยมอาชีวศึกษา อาทิ การจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ของอาชีวศึกษา เช่น นวนิยาย หนังสั้น “อวด-ดี อาชีวะ” หนังสั้น “Handyman แฟนฉันเก่งจัง ช่างทำได้” การใช้สื่อโซเชียลมีเดีย, การจูงใจให้มาเรียนสายอาชีพ โดยมีรายได้ระหว่างเรียน ให้ทุนการศึกษา ให้อุปกรณ์ประจำตัวผู้เรียน, การจัด Road Show ร่วมกับสถานประกอบการ และจัด Open House เพื่อรณรงค์และประชาสัมพันธ์การรับนักศึกษารุ่นใหม่, การขยายทวิศึกษาเพื่อเพิ่มผู้เรียนสายอาชีวะ ตลอดจนจัดทำโครงการอาชีวะจิตอาสา เช่น ระหว่างวันที่ 18-20 กันยายน 2558 นักศึกษาและครูจากสถานศึกษาอาชีวศึกษากว่า 900 คน ได้ร่วมให้การช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยหว่ามก๋อในพื้นที่เมืองพัทยาในการขนย้ายสิ่งของ ซ่อมแซมรถจักรยานยนต์ รถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า จัดทำกระสอบทราย และคทาตรวจสอบกระแสไฟฟ้ารั่วในน้ำ

2) การจัดการเรียนการสอนทวิภาคีร่วมกับสถานประกอบการ ซึ่งดำเนินการงานมาแล้วเป็นเวลา 3 ปี (ปีการศึกษา 2556-2558) จัดการศึกษาทวิภาคีให้กับผู้เรียนรวมทั้งสิ้น 194,109 คน โดยในปีการศึกษา 2558 มีผู้เรียนระบบทวิภาคีรวม 89,489 คน แบ่งเป็น ปวช. 42,968 คน และ ปวส. 46,521 คน นอกจากนี้ได้มีการขับเคลื่อนคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อพัฒนากำลังคนอาชีวศึกษา (กรอ.อศ.) และคณะอนุกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อพัฒนากำลังคนอาชีวศึกษากลุ่มอาชีพ (อ.กรอ.อศ.) ทั้ง 33 กลุ่มอาชีพ โดยใช้ข้อความ “อาชีวะ ฝีมือชน คนสร้างชาติ” ตลอดจนรวบรวมความต้องการกำลังคนแต่ละกลุ่มอาชีพและพื้นที่ภายใน 3 เดือน, มีการจัดตั้ง กรอ.อศ.เขตเศรษฐกิจพิเศษ, ร่วมพัฒนาความเชี่ยวชาญความชำนาญเฉพาะทางสถานศึกษาและผู้สำเร็จอาชีวศึกษา, การเพิ่มบทบาทของสถานประกอบการในการเสนอแนะเพื่อพัฒนาหลักสูตรและการจัดการเรียนการสอนให้ตรงกับความต้องการของตลาดแรงงาน โดยต่อยอดทักษะอาชีพเดิมให้มีความทันสมัย, พัฒนาอาชีพเสริมสำหรับผู้มีอาชีพหลักอยู่แล้ว, ผลิตและพัฒนาให้ตรงกับความต้องการของตลาดแรงงาน ตลอดจนรองรับโครงการใหม่ๆ ในอนาคต เช่น การขนส่งระบบราง และจัดอบรมหลักสูตรระยะสั้นในสาขาอาชีพที่ขาดแคลน เช่น มัคคุเทศก์ ขนส่งระบบราง เป็นต้น

3) การแก้ไขปัญหาทะเลาะวิวาทของนักเรียนนักศึกษา โดยจัดการเรียนการสอนทวิภาคีในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ร่วมกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย, มีระบบดูแลช่วยเหลือ โดยร่วมกันกับทั้งอาชีวะรัฐและอาชีวะเอกชน, จัดทำโครงการเตรียมอาชีวศึกษา

4) การส่งเสริมอาชีวศึกษาให้มีความเป็นเลิศเฉพาะด้าน ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มวิทยาลัยเทคโนโลยีฐานวิทย์ 5 แห่ง คือ วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีสระแก้ว (ด้านเกษตรกรรม) วิทยาลัยเทคนิคสุรนารี วิทยาลัยอาชีวศึกษาสิงห์บุรี (ด้านธุรกิจบริการ) วิทยาลัยอาชีวศึกษาเทคโนโลยีฐาน วิทยาศาสตร์ชลบุรี (ด้านอุตสาหกรรม) วิทยาลัยเทคนิคพังงา (ด้านการโรงแรมและท่องเที่ยว), พัฒนาสถานศึกษาเฉพาะทาง โดยนำร่องสาขาเฉพาะทาง 16 สาขา และสาขาที่เป็นความต้องการ เช่น พาณิชย์นาวี ซ่อมบำรุงอากาศยาน กายอุปกรณ์ เป็นต้น

5) การจัดการศึกษาอาชีวศึกษาสู่มาตรฐานสากล ได้มีการพัฒนาการเรียนการสอนร่วมกับประเทศต่างๆ 7 ประเทศ ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น สิงคโปร์ เยอรมนี อังกฤษ อิสราเอล และเดนมาร์ก, มีการยกระดับการใช้ภาษาอังกฤษใน 2 ส่วน คือ นักศึกษาอาชีวะได้เรียนหลักสูตร English Program (EP) และ Mini English Program (MEP) จำนวน 6,100 คนในสถานศึกษา 147 แห่ง และพนักงานระดับกลาง เพื่อให้สามารถใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการอาชีพได้ ตลอดจนการเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียน อาทิ การจัดทำเส้นทางความก้าวหน้าด้านอาชีพ (Career Mapping), ร่วมจัดอาชีวศึกษานำร่องไทย-ลาว-เวียดนาม, แลกเปลี่ยนนักศึกษาและนักศึกษาฝึกงานในสถานประกอบการอาเซียน, แลกเปลี่ยนครู, แข่งขันทักษะระดับโลก, นำมาตรฐานนานาชาติมาประเมินสถานศึกษาและสมรรถนะผู้เรียน เป็นต้น

---

 
 ภาพ : ยุทธพงศ์ เลือกกลั่นดี

รมว.ศึกษาธิการ ได้ให้แนวทางการดำเนินงานตามนโยบายอาชีวศึกษา ดังนี้

- การเผยแพร่พระราชกรณียกิจและข่าวสารโครงการพระราชดำริ จากสำนักงานโครงการส่วนพระองค์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทางสถานีวิทยุการศึกษาเพื่อพัฒนาอาชีพ (R-Radio Network)   รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า ควรให้ความสำคัญในส่วนของเนื้อหาให้มากขึ้น ไม่นำเสนอเพียงกิจกรรมการดำเนินงานเท่านั้น แต่จะต้องดึงแนวพระราชดำริและเหตุผลในการทำโครงการนั้นๆ ออกมาเผยแพร่ให้ผู้ฟังได้รู้และได้เข้าใจด้วย

- การจัดหาอุปกรณ์ประจำตัวผู้เรียนอาชีวะ  ควรให้ความสำคัญและคำนึงถึงคุณภาพและราคาที่มีความเหมาะสม พร้อมทั้งให้มีการกำกับติดตามอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้เรียนและมีความคุ้มค่าในการใช้งบประมาณ

- การจัดทำสื่อเพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์อาชีวะ ขอให้เน้นเนื้อหาและเดินเรื่องให้มีความน่าสนใจ รวมทั้งสร้างจุดเด่นเพื่อให้ผู้ชมสามารถจดจำได้

- การขยายอาชีวศึกษาทวิภาคี  ควรจัดทำรายละเอียดข้อมูล ตัวเลข และแนวทางในการขยายอาชีวศึกษาทวิภาคีที่ชัดเจน ซึ่งได้เน้นย้ำให้มีการขยายอาชีวศึกษาทวิภาคีไปทั่วประเทศ ทำให้เห็นจำนวนวิทยาลัยที่จะจับคู่กับภาคเอกชนที่ชัดเจน นอกจากนี้ควรกำหนดมาตรการดูแลนักศึกษาในระบบทวิภาคีที่มีมาตรฐาน ครบวงจร และเอื้อประโยชน์ต่อทั้งผู้เรียนและภาคเอกชน และขอให้นำเสนอจำนวนชั่วโมงเรียนระบบทวิศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายคู่กับประกาศนียบัตรวิชาชีพที่ต้องเรียนเพิ่มขึ้น เพื่อทำให้สังคมได้เห็นภาพการเรียนแบบทวิศึกษาที่ชัดเจนขึ้น

- โครงการทุนช่างเทคนิคและบัณฑิตนักปฏิบัติ (TTS) ขอให้กำหนดกติกาและเงื่อนไขของโครงการให้มีความชัดเจนตลอดกระบวนการ ไม่ว่าจะเป็นคุณสมบัติผู้รับทุน มาตรการการดูแลระหว่างรับทุน วิธีปฏิบัติภายหลังจบโครงการ เพื่อให้การใช้งบประมาณเกิดประโยชน์ต่อผู้เรียน พ่อแม่ผู้ปกครอง ท้องถิ่น และประเทศชาติ โดยจะนำทุนนี้ไปพิจารณาควบคู่กับการพิจารณาโครงการ 1 อำเภอ 1 ทุนด้วย

- ให้จัดทำหนังสือแสดงความชื่นชม ส่งไปยังสถานศึกษาที่จัดส่งนักศึกษาและครู ที่ได้ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่เมืองพัทยา

- เพิ่มมาตรการเชิงรุกในการแก้ไขปัญหาทะเลาะวิวาท เช่น การนำนักเรียนนักศึกษากลุ่มเป้าหมายเข้าสู่โครงการอาชีวศึกษาทวิภาคี เพื่อช่วยให้เด็กได้มีกิจกรรมที่ถูกทางและมีรายได้ หรือนำไปฝึกวิชาทหารภายใต้การควบคุมของหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน (รด.) ซึ่งจะต้องหารือกับกองทัพบกเกี่ยวกับการเพิ่มโควตาสำหรับผู้เรียนอาชีวะให้มากขึ้นต่อไป

- การรวบรวมงานข้ามแท่ง-ข้ามกระทรวง  ขอให้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับงานต่างๆ ที่ต้องดำเนินการแบบข้ามแท่ง โดยระบุประเภทและระดับของงาน รวมทั้งงานที่ต้องดำเนินการข้ามกระทรวงด้วยว่ามีงานอะไรบ้างและเกี่ยวข้องกันกี่กระทรวง

- สถานการณ์ปัญหายาเสพติดในสถานศึกษา ขอให้ สอศ.จัดเตรียมข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับการดำเนินงานแก้ไขปัญหายาเสพติดในแต่ละวิทยาลัย อาทิ แผนงาน โครงการ ระดับความรุนแรงของสถานการณ์ เป็นต้น ซึ่งในเร็วๆ นี้ จะเชิญผู้มีส่วนเกี่ยวข้องมาร่วมประชุมหารือเพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติด เช่น กระทรวงยุติธรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด เป็นต้น

ที่มา ; เว็บ สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงศึกษาธิการ

 (  คลิ๊ก ) สมัครพัฒนาความรู้

เตรียมสอบผู้บริหารสถาน+การศึกษา 

เตรียมสอบครูผู้ช่วย

ฟรี... ห้องเตรียมสอบ-ครูผู้ช่วย

-ผู้บริหาร-บุคลากรการศึกษา  ที่ 

" ติวสอบดอทคอม "  โดย อ.นิกร 

เว็บฟรีข้อสอบออนไลน์

(เตรียมสอบครู-ผู้บริหาร-บุคลากร การศึกษา)

www.tuewsob.com