12 พ.ค.57 ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ในฐานะปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ว่า เมื่อเวลา 8.20 น. นายนิวัฒธ์ธำรงได้เดินทางเข้าทำงานตามปกติที่สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม โดยในช่วงเช้าสำนักข่าวซีเอ็นเอ็น ได้ขอสัมภาษณ์พิเศษ ส่วนในช่วงบ่ายเปิดโอกาสให้สื่อต่างประเทศ อาทิ บีบีซี อัล จาซีรา เดอะนิวยอร์คไทส์ เข้าสัมภาษณ์ เช่นเดียวกับนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรีที่เปิดโอกาสให้สื่อต่างประเทศสัมภาษณ์พิเศษในช่วงเช้าเช่นกัน
'พร้อมพงศ์' ยื่น 'ธาริต' สอบ 'สุเทพ' บุกทำเนียบ-ชงนายกฯม.7
นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในฐานะเลขานุการศูนย์รักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) รับหนังสือร้องเรียนของนายพร้อมพงษ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) เพื่อให้ดำเนินการคดีพิเศษต่อนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.ฐานละเมิดพระราชอำนาจรวมถึงเป็นการกระทำการที่ล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เพื่อพิจารณาเป็นคดีพิเศษและดำเนินการสอบสวนต่อไป
นายธาริต กล่าวว่า สาเหตุที่รับเรื่องดังกล่าวไว้พิจารณา เนื่องจากเมื่อ 9 พ.ค.ที่ผ่านมานายสุเทพ ยกระดับการชุมนุมด้วยการยึดทำเนียบรัฐบาลตั้งกองบัญชาการภายในสถานที่ราชการ รวมถึงบุกยึดสถานีโทรทัศน์ กดดันให้ประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ประธานศาลปกครอง ประธานศาลรัฐธรรมนูญรวมถึงประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ร่วมกันกราบบังคมทูลโปรดเกล้าฯ นายกรัฐมนตรี มาตรา 7 ซึ่งถือเป็นการล้มล้างการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอย่างชัดเจน และละเมิดพระราชอำนาจ ดังนั้นดีเอสไอจะตั้งคณะทำงาน 3 ฝ่ายร่วมกันพิจารณาสอบสวนในคดีนี้คือพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และอัยการสูงสุดเพื่อส่งฟ้องต่อไป
อย่างไรก็ตาม คดีดังกล่าวถือเป็นการกระทำความผิดที่เกี่ยวเนื่องกับคดีที่สำนักงานอัยการสูงสุดประทับรับฟ้องนายสุเทพไปแล้วก่อนหน้านี้ฐานความผิด กบฎ ก่อการร้าย และขัดขวางการเลือกตั้ง 2 ก.พ.ที่ผ่านมาซึ่งอยู่ในชั้นอัยการสูงสุดแล้วแต่คดีใหม่นี้ที่เกิดขึ้นภายหลังนายสุเทพ ยกระดับการชุมนุมยึดทำเนียบรัฐบาลและเสนอนายกรัฐมนตรี มาตรา 7 ย่อมมีความเกี่ยวข้องและเข้าข่ายกับฐานความผิดเดิม เพียงแต่เป็นการกระทำที่ต่างกรรมต่างวาระกันเท่านั้นเอง
นายพร้อมพงษ์ กล่าวว่า อยากเรียนว่าการกระทำของนายสุเทพ ครั้งนี้ถือเป็นการกระทำที่ระคายเบื้องพระยุคลบาทอย่างมาก จึงขอให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบว่าการกระทำเช่นนี้ถือเป็นการกระทำผิดกฎหมายอาญาแล้ว ยังละเมิดพระราชอำนาจ เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง มาตรา 113 และมาตรา 68 ด้วย จึงอยากให้สังคมได้ตระหนักให้มาก เพราะถ้าวันนี้นายสุเทพทำไม่สำเร็จแน่นอนว่านายสุเทพ ได้ติดคุกหัวโตอย่างแน่นอน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น