หน้าหลัก ติวสอบดอทคอม เว็บฟรีข้อสอบออนไลน์

หน้าหลัก ติวสอบดอทคอม เว็บฟรีข้อสอบออนไลน์
หน้าหลัก ติวสอบดอทคอม เว็บฟรีข้อสอบออนไลน์

พัฒนาความรู้ สู่ รอง./ผอ.รร. ปี 2567

พัฒนาความรู้ สู่ รอง./ผอ.รร. ปี 2567
พัฒนาความรู้ สู่ รอง./ผอ.รร. ปี 2567

คลิ๊ก "สมัครพัฒนาความรู้สู่ผู้บริหาร / ครูผู้ช่วย

คลิ๊ก... สมัคร พัฒนาความรู้ สู่ ครูผู้ช่วย
คลิ๊ก... สมัคร พัฒนาความรู้ สู่ ผู้บริหาร

ติวสอบดอทคอม (เตรียมสอบครูผู้ช่วย-ผู้บริหาร-บุคลากร การศึกษา)

ติวสอบดอทคอม (เตรียมสอบครูผู้ช่วย-ผู้บริหาร-บุคลากร การศึกษา)
ติวสอบดอทคอม (เว็บฟรีข้อสอบออนไลน์ สอบครู ผู้บริหาร บุคลากร)

วันพุธที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

สรุปข่าวการประชุมคณะรัฐมนตรี 29 พฤศจิกายน 2559

อ่านชัด-อ่านครบ กด ดูเวอร์ชั่นสำหรับเว็บ (ด้านล่าง)

เรื่องใหม่น่าสนใจ  (ทั้งหมด ที่ )


(เนื้อหา-ข้อสอบ 1,000 ชุุด หมื่นข้อ ภาค กข


40 วิชาเอก) ที่ ห้องสอบด้านขวา หรือ 


เว็บฟรีข้อสอบ 1,000 ชุด ที่ ติวสอบดอทคอม คลิ๊ก www.tuewsob.com 

-นายกรัฐมนตรีพบเพื่อนครู + การศึกษาไทยศตวรรษ 21 นี่

-กำหนดการสอบครูผู้ช่วย ครั้งที่ 1 ปี 2559

            -คู่มือ 4 ชุด นโยบาย บริบริหาร ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้

 ข้อสอบออนไลน์ ( พัฒนาความรู้ครู - ผู้บริหาร - บุคลากรการศึกษาชุดใหม่


 คลิ๊ก ) สมัครพัฒนาความรู้   
เตรียมติวสอบผู้บริหารสถาน+การศึกษา   

สรุปข่าวการประชุมคณะรัฐมนตรี 29 พฤศจิกายน 2559
สรุปข่าวการประชุมคณะรัฐมนตรี 29 พฤศจิกายน 2559
  http://www.thaigov.go.th

                    วันนี้ (29 พฤศจิกายน 2559) เวลา 09.00 . ณ ห้องประชุม 501 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล
พลเอก ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี
                    ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม พันเอก อธิสิทธิ์ ไชยนุวัติ และพันเอกหญิง ทักษดา สังขจันทร์             ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  ได้ร่วมแถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี  ซึ่งสรุปสาระสำคัญดังนี้

  กฎหมาย

                    1.        เรื่อง     ร่างพระราชบัญญัตินโยบายการกีฬาแห่งชาติ พ.ศ. ....
                    2.        เรื่อง     ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... เพื่อให้                                          บริษัทและห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลสามารถใช้สกุลเงินต่างประเทศในการคำนวณภาษี                                      เงินได้นิติบุคคล และมาตรการกำหนดให้ใช้สกุลเงินอื่นที่ไม่ใช่สกุลเงินไทยในการ                               คำนวณรายได้ รายจ่าย และกำไรสุทธิ เพื่อเสียภาษีเงินได้ปิโตรเลียม    
                                        (ร่างพระราชบัญญัติภาษีเงินได้ปิโตรเลียม (ฉบับ ..) พ.ศ. ....)
                    3.        เรื่อง     ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วย                                          การยกเว้นรัษฎากร (มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวในช่วงปลาย
                                        ปี 2559)
                    4.        เรื่อง     ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง                              พ.ศ. 2522
                    5.        เรื่อง     ร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาเด็กและเยาวชนแห่งชาติ (ฉบับที่ ...)
                                        พ.ศ. ....

เศรษฐกิจ- สังคม
                    6.        เรื่อง     ขอขยายระยะเวลามาตรการภาษีและค่าธรรมเนียมเพื่อส่งเสริมการลงทุน                                                     ในอสังหาริมทรัพย์ผ่านกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์
                                        (ร่างพระราชกฤษฎีกาและร่างกฎกระทรวงในเรื่องนี้ รวม 3 ฉบับ)
                    7.        เรื่อง     (ร่าง) แผนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ฉบับที่ 6 (พ.ศ. 2560 – 2564)
                    8.        เรื่อง     การแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย     

ต่างประเทศ

                    9.        เรื่อง     การรับรองร่างปฏิญญาระดับรัฐมนตรีเกี่ยวกับความมั่นคงทางนิวเคลียร์  สำหรับ                               การประชุมนานาชาติ  ว่าด้วยความมั่นคงทางนิวเคลียร์ ระหว่างวันที่
                                        5-9 ธันวาคม 2559 ณ กรุงเวียนนา สาธารณรัฐออสเตรีย
                    10.      เรื่อง     ขออนุมัติกรอบท่าทีไทยและร่างเอกสารสำหรับการประชุมคณะกรรมการร่วมว่า                                   ด้วยความร่วมมือด้านการค้า การลงทุน และเศรษฐกิจระหว่างไทย-จีน ครั้งที่ 5                                         (The 5th Meeting of the Joint Committee of Trade, Investment and                                        Economic Cooperation between Thailand and China)
                    11.      เรื่อง     ขอความเห็นชอบต่อร่างเอกสารที่จะมีการรับรองระหว่างการประชุมระดับ                                           รัฐมนตรีด้านการคมนาคมขนส่งในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก สมัยที่ 3 การประชุม                                    รัฐมนตรีขนส่งอาเซียน – สหพันธรัฐรัสเซีย และการประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง


แต่งตั้ง

                    12.      เรื่อง     การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับ                                           ทรงคุณวุฒิ (สำนักนายกรัฐมนตรี)
                    13.      เรื่อง     การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ (กระทรวงการต่างประเทศ)
                    14.      เรื่อง     การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง                                                         (กระทรวงศึกษาธิการ)
                    15.      เรื่อง     แต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการการประปาส่วน                                             ภูมิภาค
                    16.      เรื่อง     แต่งตั้งคณะกรรมการบริหารกองทุนตามพระราชบัญญัติอ้อยและน้ำตาลทราย                                           พ.ศ. 2527      
                    17.      เรื่อง     ให้กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีคงอยู่ปฏิบัติหน้าที่อีกหนึ่งวาระ
                    18.      เรื่อง     การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับ                                           ทรงคุณวุฒิ  (กระทรวงสาธารณสุข)

*******************
สำนักโฆษก   สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โทร. 0 2288-4396


บัญญัตินโยบายการกีฬาแห่งชาติ พ.ศ. ....
                    คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัตินโยบายการกีฬาแห่งชาติ พ.ศ. ....
ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (กก.) เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา                 แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป
                    สาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติ
                    1. กำหนดให้พระราชบัญญัตินี้มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนาการกีฬาขั้นพื้นฐาน กีฬาเพื่อมวลชน กีฬาเพื่อความเป็นเลิศในทุกระดับ กีฬาเพื่อการอาชีพ กีฬาเพื่อคนพิการ และส่งเสริมและสนับสนุนวิทยาศาสตร์การกีฬา อุตสาหกรรมการกีฬา รวมถึงพัฒนาสุขภาพและคุณภาพชีวิตประชาชน และส่งเสริมให้กีฬาเป็นเครื่องมือขจัดความเหลื่อมล้ำ และสร้างความสามัคคีสันติสุขของสังคม
                    2. กำหนดให้มีคณะกรรมการนโยบายการกีฬาแห่งชาติ ประกอบด้วย นายกรัฐมนตรีหรือ             รองนายกรัฐมนตรีที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย เป็นประธานกรรมการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นรองประธานกรรมการ กรรมการโดยตำแหน่ง กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้แทนสมาคมกีฬา เป็นกรรมการ และปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเป็นกรรมการและเลขานุการ
                    3. กำหนดอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการนโยบายการกีฬาแห่งชาติ เช่น จัดทำนโยบาย ยุทธศาสตร์ แผนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ แผนปฏิบัติการด้านการกีฬา กำกับดูแล และติดตามการดำเนินงานตามนโยบาย ยุทธศาสตร์และแผนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ เป็นต้น
                    4. กำหนดให้สำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (สป.กก.) ทำหน้าที่เป็นสำนักงานเลขานุการคณะกรรมการนโยบายการกีฬาแห่งชาติ รับผิดชอบงานธุรการ งานประชุม การศึกษาข้อมูล และกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับงานของคณะกรรมการและคณะอนุกรรมการ
                    5. กำหนดให้แผนการพัฒนากีฬาแห่งชาติมีระยะเวลา 5 ปี โดยมีรายละเอียดในการพัฒนาการกีฬาเพื่อสุขภาพ เพื่อความเป็นเลิศในทุกระดับ เพื่อการอาชีพ เพื่อคนพิการ เป็นต้น

2. เรื่อง ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... เพื่อให้บริษัทและห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลสามารถใช้สกุลเงินต่างประเทศในการคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคล และมาตรการกำหนดให้ใช้สกุลเงินอื่น  ที่ไม่ใช่สกุลเงินไทยในการคำนวณรายได้ รายจ่าย และกำไรสุทธิ เพื่อเสียภาษีเงินได้ปิโตรเลียม                            (ร่างพระราชบัญญัติภาษีเงินได้ปิโตรเลียม (ฉบับ ..) พ.ศ. ....)
                    คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... เพื่อให้บริษัทและห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลสามารถใช้สกุลเงินต่างประเทศในการคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคล และมาตรการกำหนดให้ใช้สกุลเงินอื่นที่ไม่ใช่สกุลเงินไทยในการคำนวณรายได้ รายจ่าย และกำไรสุทธิ เพื่อเสียภาษีเงินได้ปิโตรเลียม (ร่างพระราชบัญญัติภาษีเงินได้ปิโตรเลียม (ฉบับ ..) พ.ศ. ....) รวม 2 ฉบับ ตามที่ กระทรวงการคลัง (กค.) เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป
                    สาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติ
                    1. ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญ ดังนี้
                              1.1 กำหนดให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลสามารถใช้สกุลเงินต่างประเทศในการคำนวณกำไรสุทธิหรือขาดทุนสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลได้ โดยมีเงื่อนไขว่าบริษัทและห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้นต้องจัดทำบัญชีด้วยสกุลเงินต่างประเทศซึ่งเป็นสกุลเงินที่ใช้ในการดำเนินงานตามมาตรฐานการบัญชี
                              1.2 กำหนดให้เพิ่มเติมอัตราแลกเปลี่ยนที่ใช้ในการแปลงค่าเงินตราทรัพย์สินหรือหนี้สิน            ในการคำนวณกำไรสุทธิหรือขาดทุนสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลตามที่กำหนด
                              1.3 กำหนดให้เงินตรา สินทรัพย์และหนี้สินที่เหลืออยู่เมื่อสิ้นรอบระยะเวลาบัญชีสุดท้ายก่อนกิจการใช้สกุลเงินที่ใช้ในการดำเนินงานที่มิใช่สกุลเงินไทยในการจัดทำบัญชีงบดุล บัญชีทำการและบัญชีกำไรขาดทุน ให้แปลงค่าเป็นสกุลเงินที่ใช้ในการดำเนินงาน โดยใช้วิธีการตามมาตรฐานการบัญชีและได้รับการรับรองจากผู้สอบบัญชี ทั้งนี้ กำไรหรือขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่เกิดจากการแปลงค่าในกรณีการเปลี่ยนสกุลเงินในการจัดทำบัญชีนี้ไม่ให้ถือเป็นรายได้หรือรายจ่าย ในการคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคล
                              1.4 กำหนดให้การกรอบแบบแสดงรายการภาษีและการชำระภาษีเงินได้นิติบุคคลกำหนดให้ใช้สกุลเงินไทย โดยในการแปลงค่าสกุลเงินที่ใช้ในการดำเนินงานที่มิใช่สกุลเงินไทยเป็นสกุลเงินไทยเพื่อกรอบแบบฯ และชำระภาษี ให้ใช้อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยระหว่างอัตราชื้อและอัตราขายของธนาคารพาณิชย์          ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยได้คำนวณไว้ (อัตรากลางของ ธปท.) ตามช่วงเวลาที่เกิดรายได้และรายจ่ายนั้น โดยกำไรหรือผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่เกิดจากการแปลงค่าเงินสกุลที่ใช้ในการดำเนินงานมิใช่เงินสกุลไทย เป็นเงินสกุลไทยเพื่อนำเงินนั้นมาชำระภาษีไม่ให้นำมารวมคำนวณเป็นรายได้หรือรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิหรือขาดทุนสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล
                              1.5 กำหนดให้ผลขาดทุนสุทธิยกมาและเครดิตภาษี (ถ้ามี) สามารถนำมาใช้ในการชำระภาษีต่อไปได้ โดยไม่ต้องแปลงค่าเป็นสกุลเงินที่ใช้ในการดำเนินงานที่มิใช่สกุลเงินไทย เช่น กรณีบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลมีผลขาดทุนสุทธิในปีก่อนเป็นจำนวนเงินสกุลไทยหรือเป็นจำนวนเงินสกุลที่ใช้ในการดำเนินงานที่มิใช่เงินสกุลไทยและได้แปลงค่าผลขาดทุนสุทธินั้นเป็นเงินสกุลไทยเพื่อกรอบแบบแสดงรายการภาษีแล้วในปีภาษีถัดมาให้นำผลขาดทุนสุทธิที่เป็นเงินสกุลไทยนั้น มาใช้ในการคำนวณภาษีโดยมิต้องแปลงค่ากลับไปเป็นเงินสกุลที่ใช่ในการดำเนินงานที่มิใช่สกุลเงินไทยอีก
                              1.6 กำหนดให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่จะใช้สกุลเงินต่างประเทศในการคำนวณกำไรสุทธิหรือขาดทุนสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลต้องขออนุมัติต่ออธิบดีกรมสรรพากร ดังนี้ สกุลเงินต่างประเทศที่จะใช้ในการคำนวณกำไรสุทธิหรือขาดทุนสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล และอัตราแลกเปลี่ยนที่ใช้ในการแปลงค่าเงินสกุลอื่นเป็นเงินสกุลที่ใช้ในการดำเนินงาน
                              1.7 กำหนดให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ใช้สกุลเงินไทยในการคำนวณภาษีอยู่แล้ว หากต้องการเปลี่ยนแปลงอัตราแลกเปลี่ยนที่ใช้ในการแปลงค่าเงินสกุลอื่นเป็นเงินสกุลไทย ต้องขออนุมัติต่ออธิบดีกรมสรรพากร
                              1.8 กำหนดให้เมื่อได้รับอนุมัติจากอธิบดีกรมสรรพากรตามข้อ 2.6 และ 2.7 แล้ว ให้ถือปฏิบัติตั้งแต่รอบระยะเวลาบัญชีที่อธิบดีกำหนดเป็นต้นไป ในกรณีจำเป็น บริษัทฯ สามารถขออนุมัติต่ออธิบดีกรมสรรพากรเพื่อเปลี่ยนแปลงสกุลเงินและอัตราแลกเปลี่ยนที่ใช้ในการแปลงค่าเงินตราได้
                              1.9 กำหนดให้บทบัญญัติในเรื่องนี้ให้ใช้บังคับสำหรับรอบระยะเวลาบัญชีที่เริ่มในหรือหลังวันที่ 1 มกราคม 2559 เป็นต้นไป
                    2. ร่างพระราชบัญญัติภาษีเงินได้ปิโตรเลียม (ฉบับ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญดังนี้
                              2.1 กำหนดให้ผู้ประกอบการใช้สกุลเงินต่างประเทศในการคำนวณรายได้ รายจ่าย และกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้ปิโตรเลียมได้
                              2.2 กำหนดให้ผู้ประกอบการที่จะใช้สกุลเงินต่างประเทศในการคำนวณรายได้ รายจ่าย และกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้ปิโตรเลียม ต้องขอและได้รับอนุมัติให้ใช้สกุลเงินต่างประเทศ ในการทำบัญชี หลักฐานและเอกสารประกอบการลงบัญชี สำหรับผู้ประกอบการที่ได้รับอนุมัติให้ใช้สกุลเงินต่างประเทศในการทำบัญชี หลักฐานและเอกสารประกอบการลงบัญชีตามมาตรา 8 แห่ง พระราชบัญญัติภาษีเงินได้ปิโตรเลียม พ.ศ. 2514 ไปแล้ว ให้ใช้เงินสกุลต่างประเทศนั้นในการคำนวณรายได้ รายจ่ายและกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้ปิโตรเลียมตั้งแต่รอบระยะเวลาบัญชีที่เริ่มในหรือหลังวันที่ 1 มกราคม 2559
                              2.3 กำหนดให้การแปลงค่าจากสกุลเงินอื่นเป็นสกุลเงินไทยหรือสกุลเงินต่างประเทศ           ที่บริษัทได้รับอนุมัติให้ใช้เพื่อคำนวณรายได้ รายจ่าย และกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้ปิโตรเลียม ให้ใช้วิธีการแปลงค่าตามที่กำหนด ทั้งนี้ การใช้อัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่เกิดรายการและการใช้อัตราถัวเฉลี่ยระหว่างอัตราซื้อและอัตราขายของธนาคารพาณิชย์ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยได้คำนวณไว้ ให้ขออนุมัติจากอธิบดีกรมสรรพากร และเมื่อได้รับอนุมัติแล้วให้ผู้ประกอบการถือปฏิบัติตั้งแต่รอบระยะเวลาบัญชีที่อธิบดีกำหนดเป็นต้นไป
                              2.4 กำหนดให้ผู้ประกอบกิจการปิโตรเลียมที่ใช้เงินตราต่างประเทศในการคำนวณรายได้ รายจ่าย และกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้ปิโตรเลียม แปลงค่ารายได้ รายจ่ายและกำไรหรือขาดทุนสุทธิที่มีมูลค่าเป็นเงินตราต่างประเทศเป็นเงินตราไทยเพื่อกรอกแบบแสดงรายการภาษีและชำระภาษีโดยใช้อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยระหว่างอัตราซื้อและอัตราขายของธนาคารพาณิชย์ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยได้คำนวณไว้สำหรับช่วงเวลาที่ยื่น           แบบฯ ตามที่กำหนด
                              2.5 กำหนดห้ามมิให้นำกำไรหรือผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนอันเกิดจากการแปลงค่าเงินสกุลต่างประเทศเป็นเงินสกุลไทยเพื่อนำเงินนั้นมาชำระภาษีมารวมคำนวณเป็นรายได้หรือรายจ่ายเพื่อเสียภาษีเงินได้ปิโตรเลียม
                              2.6 กำหนดให้ภาษีอากรค้าง ผลขาดทุนสุทธิยกมาและเครดิตภาษีของแต่ละรอบระยะเวลาบัญชีสามารถนำมาใช้ในการคำนวณภาษีในแต่ละปีได้ โดยต้องไม่แปลงค่าเป็นเงินสกุลเงินต่างประเทศที่ใช้ในการคำนวณรายได้ รายจ่าย และกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้ปิโตรเลียม
                              2.7 กำหนดให้วิธีการแปลงค่าเงินตรา หนี้สินและทรัพย์สินที่เหลืออยู่เมื่อสิ้นรอบระยะเวลาบัญชีสุดท้ายที่ผู้ประกอบการใช้เงินสกุลไทยในการบันทึกบัญชีเพื่อคำนวณภาษีหรือการแปลงค่าในช่วงเปลี่ยนผ่าน (Transition Period) ให้ใช้วิธีการตามมาตรฐานการบัญชีที่ได้รับการรับรองจากผู้สอบบัญชี

3. เรื่อง  ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวในช่วงปลายปี 2559)
                    คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวในช่วงปลายปี 2559)  ตามที่กระทรวงการคลัง (กค.) เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน  แล้วดำเนินการต่อไปได้
                    สาระสำคัญของร่างกฎกระทรวง เป็นการกำหนดให้ผู้มีเงินได้ซึ่งได้จ่ายค่าบริการให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวและค่าที่พักในโรงแรมให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรม  สำหรับการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศระหว่างวันที่ 1 ธันวาคม 2559 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2559 ตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่รวมกันทั้งหมดแล้วไม่เกินหนึ่งหมื่นห้าพันบาท  จะได้รับยกเว้นไม่ต้องนำเงินค่าบริการดังกล่าวมารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและการได้รับยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในกรณีดังกล่าวเมื่อรวมกับการได้รับยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 316 (พ.ศ. 2559) ออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากรแล้วต้องไม่เกินสามหมื่นบาท

4.  เรื่อง ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522
                    คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522  ตามที่กระทรวงมหาดไทย (มท.)  เสนอ
                    สาระสำคัญของเรื่อง 
                    มท. รายงานว่า  การประกาศใช้กฎกระทรวงดังกล่าว เนื่องจากปัจจุบันมีการแข่งขันด้านการท่องเที่ยวระหว่างประเทศอย่างมาก โดยหลายประเทศได้ดำเนินมาตรการเพื่อกระตุ้นและส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง นักท่องเที่ยวบางประเทศมีความอ่อนไหวต่อราคา เช่น จีน เป็นต้น  อีกทั้ง ภาคการท่องเที่ยวของไทยอยู่ระหว่างดำเนินการปรับปรุงโครงสร้างอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวให้มีประสิทธิภาพในการรองรับนักท่องเที่ยวคุณภาพที่จะเดินทางเข้ามาในอนาคต ดังนั้น เพื่อเป็นการรักษาระดับขีดความสามารถในการดึงดูดและอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวระหว่างประเทศ และเพื่อเป็นการดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในช่วงฤดูกาลการท่องเที่ยว (High Season)  ในระยะสั้นสมควรมีมาตรการดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติโดยการยกเว้นค่าธรรมเนียมการตรวจลงตรา (Visa)  ณ สถานทูตหรือสถานกงสุลไทย และปรับลดค่าธรรมเนียมการตรวจลงตรา ณ ช่องทางอนุญาตของด่านตรวจคนเข้าเมือง (VOA)  เป็นการชั่วคราว  จึงจำเป็นต้องออกกฎกระทรวงดังกล่าว

5. เรื่อง ร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาเด็กและเยาวชนแห่งชาติ (ฉบับที่ ...) พ.ศ. ....
                    คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาเด็กและเยาวชนแห่งชาติ (ฉบับที่ ...) พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน โดยให้รับข้อสังเกตของกระทรวงศึกษาธิการไปประกอบพิจารณาด้วย แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาไปพร้อมกับร่างพระราชบัญญัติฯ ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติให้ทันภายในกำหนดเวลาต่อไป
                    สาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว เป็นการกำหนดบทบัญญัติเพิ่มเติมเรื่องการจัดตั้งสภาเด็กและเยาวชนตำบล สภาเด็กและเยาวชนเทศบาล สภาเด็กและเยาวชนเขตในกรุงเทพมหานคร เพื่อให้เด็กและเยาวชนทุกระดับมีส่วนร่วมในการดำเนินงานด้านการพัฒนาเด็กและเยาวชนด้วยตัวเอง ซึ่งจะเป็นการสร้างความร่วมมือกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการขับเคลื่อนงานของสภาเด็กและเยาวชนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

เศรษฐกิจ- สังคม
6. เรื่อง ขอขยายระยะเวลามาตรการภาษีและค่าธรรมเนียมเพื่อส่งเสริมการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์
ผ่านกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (ร่างพระราชกฤษฎีกาและร่างกฎกระทรวงในเรื่องนี้                   รวม 3 ฉบับ)
                    คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงการคลัง (กค.) เสนอ ดังนี้
                    1. เห็นชอบการขยายระยะเวลามาตรการภาษีและค่าธรรมเนียม เพื่อส่งเสริมการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ผ่านกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์
                    2. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่...) พ.ศ. ....                   
                    3. เห็นชอบให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาดำเนินการแก้ไข ระยะเวลาการบังคับใช้ของร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์สำหรับการแปลงสภาพกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไปเป็นกองทรัสต์ เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับอาคารชุดสำหรับการแปลงสภาพกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไปเป็นกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ ที่อยู่ระหว่างการตรวจพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา จากที่กำหนดให้ดำเนินการภายในวันที่ 31 นวาคม 2559 ให้แก้ไขเป็นให้ดำเนินการภายในวันที่                     31 ธันวาคม 2560
                    สาระสำคัญของร่างกฎหมาย
                    1. ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ...) พ.ศ. ....
                              1.1 ยกเว้นภาษีเงินได้ให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์สำหรับเงินได้ที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงหน่วยลงทุนของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไปเป็นใบทรัสต์
                              1.2 ยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์ให้แก่กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์สำหรับมูลค่าของฐานภาษี รายรับ หรือกระทำตราสารที่เกิดขึ้น หรือเนื่องมาจากการโอนหรือก่อทรัพยสิทธิหรือสิทธิใด ๆ ในทรัพย์สินอันเนื่องมาจากการแปลงสภาพกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เป็นกองทรัสต์ฯ
                              1.3 การยกเว้นภาษีตามข้อ 1.1 และข้อ 1.2         ให้มีผลบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2560 จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2560   
                    2. ร่างกฎกระทรวงที่อยู่ระหว่างสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา (สคก.) ตรวจพิจารณา รวม 2 ฉบับ ซึ่ง กค. ขอขยายระยะเวลาจากเดิมวันที่ 31 ธันวาคม 2559 เป็น 31 ธันวาคม 2560
                              2.1 ร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนสิทธิ และนิติกรรม              เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์สำหรับการแปลงสภาพกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไปเป็นกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดค่าธรรมเนียม การจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์อันเนื่องมาจากการแปลงสภาพกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เป็นกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ตามกฎหมายว่าด้วยทรัสต์เพื่อธุรกรรมตลาดทุน เฉพาะการจดทะเบียนที่ดำเนินการภายใน                วันที่ 31 ธันวาคม 2559 ในอัตราร้อยละ 0.01 แต่อย่างสูงไม่เกิน 100,000 บาท
                              2.2 ร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับอาคารชุดสำหรับการแปลงสภาพกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไปเป็นกองทรัสต์เพื่อการลงทุน ในอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเกี่ยวกับอาคารชุดอันเนื่องมาจากการแปลงสภาพกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เป็น กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ตามกฎหมายว่าด้วยทรัสต์เพื่อธุรกรรมในตลาดทุนเฉพาะการจดทะเบียนที่ดำเนินการภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2559 ในอัตราร้อยละ 0.01 แต่อย่างไม่สูงเกิน                  100,000 บาท

7.  เรื่อง (ร่าง) แผนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ฉบับที่ 6 (พ.ศ. 2560 – 2564)
                    คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ (ร่าง) แผนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ฉบับที่ 6 (พ.ศ. 2560 – 2564) ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (กก.) เสนอ
                    สาระสำคัญของ (ร่าง) แผนพัฒนาฯ ประกอบด้วย 6 ยุทธศาสตร์การพัฒนา ดังนี้
                    ยุทธศาสตร์ที่ 1 การส่งเสริมให้เกิดความรู้และความตระหนักด้านการออกกำลังกาย และการกีฬาขั้นพื้นฐาน ยุทธศาสตร์ที่ 2 การส่งเสริมให้มวลชนมีการออกกำลังกายและมีส่วนร่วมในกิจกรรมการกีฬา                   ยุทธศาสตร์ที่ 3 การพัฒนากีฬาเพื่อความเป็นเลิศ และต่อยอดเพื่อความสำเร็จในระดับอาชีพ ยุทธศาสตร์ที่ 4 การพัฒนาอุตสาหกรรมการกีฬาเพื่อเป็นส่วนสำคัญในการสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ  ยุทธศาสตร์ที่ 5 การพัฒนาองค์ความรู้และนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับการกีฬา และยุทธศาสตร์ที่ 6 การยกระดับการบริหาร จัดการด้านการกีฬาให้มีประสิทธิภาพ

8.  เรื่อง การแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย  
                    คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่คณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน (กขป.) คณะที่ 5 (ด้านความมั่นคง ลดความเหลื่อมล้ำ การเกษตร ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และเรื่องที่เป็นวาระเร่งด่วนและการแก้ไขปัญหาการดำเนินการตามพันธกรณีระหว่างประเทศ) เสนอ ดังนี้
                    1. ให้เพิ่มเติมวัตถุประสงค์การกู้ให้แก่ชาวประมงที่ขอเปลี่ยนอาชีพภายใต้เงื่อนไข หลักเกณฑ์ และวงเงินในโครงการฯ ที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติ (8 มีนาคม 2559) เห็นชอบไว้
                    2. ให้ขยายเวลาในการดำเนินโครงการฯ จากสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2559 เป็น 30 เมษายน 2560
                    สาระสำคัญของเรื่อง
                    กขป. คณะที่ 5 รายงานว่า
                    1. โครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการประมงตามโครงการประมงไทยก้าวไกลสู่สากล มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการประมงที่ได้รับผลกระทบจากการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย กรณีที่ต้องการปรับปรุงเรือประมงและ/หรือเปลี่ยนเครื่องมือทำการประมง เรือประมง รวมทั้งอุปกรณ์ส่วนควบ ให้ถูกกฎหมาย ตามมาตรการแก้ไขปัญหาของศูนย์บัญชาการการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย (ศปมพ.)/กรมประมง โดยให้กรมประมงและกรมเจ้าท่าเป็นผู้รับรองความเหมาะสมด้านราคา ตามลำดับ
                    2. ปัจจุบันมีผู้ประกอบการประมงจำนวนมากที่มีความประสงค์จะเข้าร่วมโครงการสินเชื่อฯ แต่มีวัตถุประสงค์ของการกู้เพื่อเปลี่ยนอาชีพ โดยเฉพาะชาวประมงที่ทำประมงโพงพางในพื้นที่ทะเลสาบสงขลา จังหวัดสงขลา และพื้นที่อำเภอแหลมสิงห์ อำเภอท่าใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี และพื้นที่ต่อเนื่อง ซึ่งหน่วยงานที่รับผิดชอบ ประกอบด้วย ศปมผ. ฝ่ายปกครอง (ผู้ว่าราชการจังหวัด) กรมเจ้าท่า และกรมประมง ได้ร่วมกันลงพื้นที่ตรวจสอบแล้วพบว่าชาวประมงส่วนใหญ่จะขอเปลี่ยนอาชีพเป็น การเพาะปลูก การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในกระชัง              การเลี้ยงสัตว์ทางการเกษตร เช่น วัว แพะ ไก่ไข่ หมู ฯลฯ การแปรรูปสัตว์น้ำ เช่น ปลาเค็ม ปลาหมึกตากแห้ง ฯลฯ ซึ่งส่วนราชการในพื้นที่อยู่ระหว่างพิจารณาความเหมาะสมของพื้นที่เพาะปลูก/เลี้ยงสัตว์ รวมทั้งพิจารณาความเหมาะสมของวงเงินในการกู้ยืมเงินจากธนาคารออมสินในลักษณะเดียวกับการรับรองความเหมาะสมของราคาเครื่องมือทำการประมงและเรือประมงของกรมประมง และกรมเจ้าท่า
                    3. วงเงินช่วยเหลือตามโครงการสินเชื่อฯ ดังกล่าว มีการอนุมัติสินเชื่อแก่ชาวประมงที่เข้าร่วมโครงการไปแล้ว จำนวน 129 ราย วงเงินกู้ 148 ล้านบาท ปัจจุบันคงเหลือ 352 ล้านบาท ซึ่งยังสามารถดำเนินการได้และพร้อมสนับสนุน แต่เนื่องจากวัตถุประสงค์การกู้เดิมที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติ (8 มีนาคม 2559) อนุมัติไว้ยังไม่ครอบคลุมกรณีชาวประมงจะขอเปลี่ยนอาชีพ จึงจำเป็นที่จะต้องเพิ่มเติมวัตถุประสงค์การกู้ให้ครอบคลุมกรณีชาวประมงขอเปลี่ยนอาชีพ ภายใต้เงื่อนไข หลักเกณฑ์ และวงเงินตามโครงการสินเชื่อฯ ที่คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบไว้ อีกทั้งเนื่องจากระยะเวลาในการดำเนินโครงการจะสิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2559 จึงมีความจำเป็นที่จะต้องขยายระยะเวลาในการดำเนินโครงการออกไปจนถึงวันที่ 30 เมษายน 2560

ต่างประเทศ

9. เรื่อง การรับรองร่างปฏิญญาระดับรัฐมนตรีเกี่ยวกับความมั่นคงทางนิวเคลียร์  สำหรับการประชุมนานาชาติ  ว่าด้วยความมั่นคงทางนิวเคลียร์ ระหว่างวันที่ 5-9 ธันวาคม 2559 ณ กรุงเวียนนา สาธารณรัฐออสเตรีย
                    คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) เสนอ ดังนี้
1.      เห็นชอบในหลักการต่อร่างปฏิญญาระดับรัฐมนตรี (Draft Ministerial  Declaration)  สำหรับ
การประชุมนานาชาติว่าด้วยความมั่นคงทางนิวเคลียร์ โดยหากจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงร่างเอกสารดังกล่าวในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญก่อนการรับรองอนุมัติให้ กต. สามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีก
2.      เห็นชอบที่ไทยจะรับรองร่างปฏิญญาข้างต้นในที่ประชุมระดับรัฐมนตรีของการประชุม
นานาชาติว่าด้วยความมั่นคงทางนิวเคลียร์ระหว่างวันที่ 5-6 ธันวาคม 2559 ณ กรุงเวียนนา  สาธารณรัฐออสเตรีย โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุม และเป็นผู้รับรองร่างปฏิญญาดังกล่าว
                    สาระสำคัญของร่างปฏิญญา คือ รับทราบพัฒนาการภัยคุกคาม และความท้าทายในเรื่องความมั่นคงทางนิวเคลียร์จากผู้ไม่ประสงค์ดี / ผู้ก่อการร้าย (non – state actors) และความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี  โดยรัฐสมาชิกเห็นความสำคัญของการดำเนินงาน ด้านความมั่นคงทางนิวเคลียร์ ความปลอดภัยทางนิวเคลียร์  และการใช้เทคโนโลยีนิวเคลียร์ในทางสันติ  รวมทั้งความร่วมมือระหว่างกันทั้งในระดับทวิภาคี  ภูมิภาค  และระหว่างประเทศเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางนิวเคลียร์ในด้านต่าง ๆ  เช่น การแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านความมั่นคงทางนิวเคลียร์โดยสมัครใจ  โปร่งใส และครอบคุลม  การแลกเปลี่ยนทางวิชาการเกี่ยวกับแนวปฏิบัติที่ดีในการใช้และความมั่นคงปลอดภัยของต้นกำเนิดรังสีที่มีผลทางรังสีสูง  การปราบปรามการค้าวัสดุนิวเคลียร์และกัมมันตรังสีอื่น ๆ อย่างผิดกฎหมาย เป็นต้น   ซึ่ง IAEA  ได้มีบทบาทสำคัญและให้การสนับสนุนแก่รัฐสมาชิกในเรื่องนี้  รวมทั้งขอให้ IAEA  จัดการประชุมในลักษณะนี้อีกทุก 3 ปี  และเชิญชวนให้ประเทศต่างๆ  ส่งผู้แทนระดับสูงเข้าร่วม

10. เรื่อง ขออนุมัติกรอบท่าทีไทยและร่างเอกสารสำหรับการประชุมคณะกรรมการร่วมว่าด้วยความร่วมมือด้านการค้า การลงทุน และเศรษฐกิจระหว่างไทย-จีน ครั้งที่ 5 (The 5th Meeting of the Joint Committee of Trade, Investment and Economic Cooperation between Thailand and China)
                    คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงพาณิชย์ (พณ.) เสนอ ดังนี้
                    1. เห็นชอบต่อร่างเอกสารผลลัพธ์การประชุมคณะกรรมการร่วมว่าด้วยความร่วมมือด้านการค้า การลงทุน และเศรษฐกิจระหว่างไทย-จีน (Thailand-China Joint Committee on Trade, Investment and Economic Cooperation : JC เศรษฐกิจ) ครั้งที่ 5 และอนุมัติให้รองนายกรัฐมนตรี (นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์) หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้ลงนามในเอกสารผลลัพธ์การประชุม
                    2. เห็นชอบต่อการต่ออายุแผนพัฒนาเศรษฐกิจไทย-จีน ระยะ 5 ปี และเอกสารสำหรับการต่ออายุแผนพัฒนาเศรษฐกิจไทย-จีน ระยะ 5 ปี รวมถึงแผนปฏิบัติการร่วมเพื่อการเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจระหว่างไทย-จีน และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้ลงนามในเอกสารผลลัพธ์การประชุมรวมถึงเอกสารอื่น ๆ ที่เป็นผลจากการหารือขยายความร่วมมือเฉพาะด้าน (หากมี)
                    3. หากในการประชุมดังกล่าว มีผลให้มีการตกลงเรื่องความร่วมมือ ด้านเศรษฐกิจการค้าในประเด็นอื่น ๆ นอกเหนือจากร่างเอกสารผลลัพธ์ฯ (ตามข้อ 1) และการต่ออายุแผนฯ (ตามข้อ 2) และ/หรือจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงร่างเอกสารฯ และการต่ออายุแผนฯ อันจะเป็นประโยชน์ต่อการส่งเสริมความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจการค้าสองฝ่ายระหว่างไทย-จีน โดยไม่มีการจัดทำเป็นความตกลงหรือหนังสือสัญญาขึ้นมา ให้ พณ. และผู้แทนไทยที่เข้าร่วมการประชุมดังกล่าวสามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้ง
                    4. มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) ออกหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์หรือผู้แทน สำหรับการลงนามดังกล่าว
                    สาระสำคัญของเรื่อง
                    1. กรอบการหารือสำหรับประชุม JC เศรษฐกิจ ครั้งที่ 5 ประกอบด้วย 1) ความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุน 2) การขยายการค้าสินค้าเกษตร 3) ความร่วมมือด้านสาธารณูปโภคและโครงการต่าง ๆ            4)ความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นวัตกรรม และความร่วมมือด้านอวกาศ 5) ความร่วมมือด้านการเงิน 6) ความร่วมมือด้านท่องเที่ยว 7) พลังงาน 8) ความร่วมมือในระดับท้องถิ่น 9) การรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจในภูมิภาค
                    2. การต่ออายุแผนพัฒนาเศรษฐกิจไทย – จีน ระยะ 5 ปี ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะต่ออายุแผนพัฒนาเศรษฐกิจไทย – จีน ระยะ 5 ปี ไทย-จีน (2555-2559) ออกไปอีก 5 ปี (2560-2564) เนื่องจากเห็นว่า เป็นเอกสารหลักในการกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างไทยกับจีน ที่มีสารัตถะครอบคลุมสาขากิจกรรมทางเศรษฐกิจอย่างรอบด้าน ที่ครอบคลุมสาขาความร่วมมือ  14 สาขา ได้แก่ การอำนวยความสะดวกทางการค้าและการลงทุน นวัตกรรมและเทคโนโลยีสีเขียว การให้ความช่วยเหลือด้านวิชาการ ทรัพย์สินทางปัญญา วิสาหกิจขนาดกลางและย่อม เกษตร อุตสาหกรรม (สิ่งทอ เครื่องนุ่งห่ม เครื่องจักรและอิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ เคมีภัณฑ์) สาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน เหมืองแร่ พลังงาน เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร การท่องเที่ยว โลจิสติกส์ และ การเงิน ซึ่งร่างเอกสารต่ออายุแผนพัฒนาเศรษฐกิจไทย – จีน ระยะ 5 ปี จะนำไปสู่การกำหนดทิศทางการพัฒนาความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างสองประเทศ โดยฝ่ายไทยมีการเพิ่มข้อบทที่เกี่ยวข้องกับการต่ออายุ การแก้ไข การยกเลิกเอกสารต่าง ๆ ตลอดจนกลไกการติดตามผลการดำเนินการต่าง ๆ เพื่อให้เกิดความชัดเจนในการดำเนินการในอนาคต

11.  เรื่อง ขอความเห็นชอบต่อร่างเอกสารที่จะมีการรับรองระหว่างการประชุมระดับรัฐมนตรีด้านการคมนาคมขนส่งในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก สมัยที่ 3 การประชุมรัฐมนตรีขนส่งอาเซียน – สหพันธรัฐรัสเซีย และการประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
                    คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างเอกสาร 3 ฉบับ ตามที่กระทรวงคมนาคม (คค.) เสนอ ดังนี้ (1) ร่างปฏิญญารัฐมนตรีว่าด้วยการเชื่อมโยงการคมนาคมขนส่งอย่างยั่งยืนในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก (2) ร่างแผนปฏิบัติการระดับภูมิภาคว่าด้วยการเชื่อมโยงการคมนาคมขนส่งอย่างยั่งยืนในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก ระยะที่ 1 (พ.ศ. 2560-2564) (3) ร่างแถลงการณ์ร่วมมอสโกสำหรับการประชุมรัฐมนตรีขนส่งอาเซียน - รัสเซีย และหากมีความจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขเอกสารที่ไม่ใช่สาระสำคัญหรือไม่ขัดต่อผลประโยชน์ของไทย ให้ คค. ดำเนินการต่อไปได้โดยไม่ต้องขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง และให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมหรือผู้ได้รับมอบหมายร่วมรับรองเอกสารทั้ง 3 ฉบับ
                    สาระสำคัญของร่างเอกสาร 3 ฉบับ มีดังนี้
                    1. ร่างปฏิญญารัฐมนตรีว่าด้วยการเชื่อมโยงการคมนาคมขนส่งอย่างยั่งยืนในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก (Draft ministerial declaration on sustainable transport connectivity in Asia and the Pacific) มีสาระสำคัญในการแสดงเจตนารมณ์ของรัฐมนตรีด้านคมนาคมขนส่งที่จะรับรองแผนปฏิบัติการระดับภูมิภาคว่าด้วยการเชื่อมโยงการคมนาคมขนส่งอย่างยั่งยืนในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ระยะที่ 1 (พ.ศ. 2560-2564)
                    2. ร่างแผนปฏิบัติการระดับภูมิภาคว่าด้วยการเชื่อมโยงการคมนาคมขนส่งอย่างยั่งยืนในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ระยะที่ 1 (พ.ศ. 2560-2564) [(Draft regional action programme for sustainable transport connectivity in Asia and the Pacific, phase I (2017-2021)] มีสาระสำคัญเพื่อกำหนดแผนงานเพื่อความเชื่อมโยงด้านคมนาคมขนส่งอย่างยั่งยืนในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก ระหว่างปี 2560-2564 ครอบคลุมความเชื่อมโยงด้านการขนส่ง 7 สาขา ได้แก่ (1) ความเชื่อมโยงด้านโครงสร้างพื้นฐานการขนส่งระดับภูมิภาค (2) ความเชื่อมโยงด้านการดำเนินงานด้านการขนส่งระดับภูมิภาค (3) ความเชื่อมโยงด้านการขนส่งระหว่างยุโรปและเอเชีย (4) ความเชื่อมโยงด้านการขนส่งในประเทศที่มีการพัฒนาน้อย ประเทศหมู่เกาะ และประเทศกำลังพัฒนาที่เป็นหมู่เกาะ (5) การขนส่งในเมืองที่ยั่งยืน (6) ความเชื่อมโยงด้านการขนส่งในชนบทสู่โครงข่ายที่กว้างขวาง และ (7) การปรับปรุงด้านความปลอดภัยทางถนน
                    3. ร่างแถลงการณ์ร่วมมอสโกสำหรับการประชุมรัฐมนตรีขนส่งอาเซียน-รัสเซีย (Moscow Joint Declaration of the Russia-ASEAN Transportation Ministerial Meeting) มีสาระสำคัญเพื่อแสดงความยินดีกับกิจกรรมเฉลิมฉลองการครบรอบ 20 ปีของความสัมพันธ์อาเซียน-รัสเซีย ผสานระบบการขนส่งเชื่อมโยงภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกให้เกิดประโยชน์ร่วมกัน เพื่อนำไปสู่การอำนวยความสะดวกด้านการขนส่งสินค้าและผู้โดยสาร ทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ โดยการแลกเปลี่ยนการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ และการอบรมบุคลากรด้านการขนส่งให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังกำหนดกลไกและแนวทางการพิจารณาทบทวนการดำเนินโครงการความร่วมมือเป็นประจำทุกปีด้วย
         
แต่งตั้ง

12. เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ                 (สำนักนายกรัฐมนตรี)
                    คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่สำนักงาน ก.พ. เสนอแต่งตั้ง นางสาวสุลักขณา ธรรมานุสติ ที่ปรึกษาระบบราชการ (นักทรัพยากรบุคคลเชี่ยวชาญ) สำนักงาน ก.พ. ให้ดำรงตำแหน่ง ที่ปรึกษาระบบราชการ              (นักทรัพยากรบุคคลทรงคุณวุฒิ) สำนักงาน ก.พ. สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ 19 สิงหาคม 2559 ซึ่งเป็น                 วันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป

13. เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ (กระทรวงการต่างประเทศ)
                    คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงการต่างประเทศ ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง ตำแหน่งเอกอัครราชทูตประจำต่างประเทศ ซึ่งได้รับความเห็นชอบจากประเทศผู้รับแล้ว จำนวน 5 ราย ดังนี้
                    1. นายกิตติพงษ์ ณ ระนอง เอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงลอนดอน               สหราชอาณาจักรบริเตนใหญ่และไอร์แลนด์เหนือ ดำรงตำแหน่ง เอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเบิร์น สมาพันธรัฐสวิส
                    2. นายพิษณุ สุวรรณะชฎ เอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้ง สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ดำรงตำแหน่ง เอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักรบริเตนใหญ่และไอร์แลนด์เหนือ
                    3. นายจักร บุญ-หลง เอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงออสโล ราชอาณาจักรนอร์เวย์ดำรงตำแหน่ง เอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้ง สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา
                    4. นายประสิทธิพร เวทย์ประสิทธิ์ เอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงไนโรบี สาธารณรัฐเคนยา ดำรงตำแหน่ง เอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงออสโล ราชอาณาจักรนอร์เวย์
                    5. นางสาวเพ็ญประภา วงษ์โกวิท รองอธิบดีกรมเอเชียใต้ ตะวันออกกลาง และแอฟริกา            ดำรงตำแหน่ง เอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ รัฐอิสราเอล
                    ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อสับเปลี่ยนหมุนเวียนและทดแทน         ผู้เกษียณอายุราชการ

14. เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงศึกษาธิการ)
                    คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ           สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 3 ราย ดังนี้
                    1. นายพีรศักดิ์ รัตนะ รองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน                     สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน สำนักงานปลัดกระทรวง ดำรงตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
                    2. นายประเสริฐ หอมดี รองเลขาธิการสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษา           ตามอัธยาศัย สำนักงานปลัดกระทรวง ดำรงตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
                    3. นางจินตนา มีแสงพราว รองเลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สำนักงานปลัดกระทรวง ดำรงตำแหน่ง              ผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
                    ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนผู้เกษียณอายุราชการและตำแหน่งที่ว่าง

15. เรื่อง แต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการการประปาส่วนภูมิภาค
                    คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการ           อื่นในคณะกรรมการการประปาส่วนภูมิภาค จำนวน 8 คน เนื่องจากคณะกรรมการชุดเดิมได้ดำรงตำแหน่งครบวาระสามปีแล้ว เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2559 ดังนี้
                    1. พลเอก ธีรชัย นาควานิช ประธานกรรมการ
                    2. พลตรี พงษ์สวัสดิ์ พรรณจิตต์ กรรมการ
                    3. นายประยูร รัตนเสนีย์ กรรมการ
                    4. นายฉัตรชัย พรหมเลิศ (บุคคลในบัญชีรายชื่อกรรมการรัฐวิสาหกิจ) กรรมการ
                    5. ร้อยตำรวจโท อาทิตย์ บุญญะโสภัต (บุคคลในบัญชีรายชื่อกรรมการรัฐวิสาหกิจ) กรรมการ
                    6. นายจรินทร์ จักกะพาก (บุคคลในบัญชีรายชื่อกรรมการรัฐวิสาหกิจ) กรรมการ
                    7. นายเวทย์ นุชเจริญ (บุคคลในบัญชีรายชื่อกรรมการรัฐวิสาหกิจ) กรรมการ
                    8. นางสาวเยาวนุช วิยาภรณ์ ผู้แทนกระทรวงการคลัง (บุคคลในบัญชีรายชื่อกรรมการรัฐวิสาหกิจ) กรรมการ
                    ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน 2559 เป็นต้นไป

16. เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการบริหารกองทุนตามพระราชบัญญัติอ้อยและน้ำตาลทราย พ.ศ. 2527                               คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอแต่งตั้งผู้แทนส่วนราชการเป็นกรรมการในคณะกรรมการบริหารกองทุนตามพระราชบัญญัติอ้อยและน้ำตาลทราย พ.ศ. 2527 แทนผู้ที่เกษียณอายุราชการ จำนวน 2 คน ดังนี้ 1. นางสาวชวนชม กิจพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักจัดทำงบประมาณด้านเศรษฐกิจ 1 ผู้แทนสำนักงบประมาณ 2. นายสุรพงษ์ เจียสกุล รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผู้แทนกระทรวงเกษตรและสหกรณ์            ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน 2559 เป็นต้นไป

17. เรื่อง ให้กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีคงอยู่ปฏิบัติหน้าที่อีกหนึ่งวาระ
                    คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้
                    1. ให้ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 13 กันยายน 2559 เรื่อง ให้กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีคง           อยู่ปฏิบัติหน้าที่อีกหนึ่งวาระ (จำนวน 6 ราย)
                    2. ให้กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี ซึ่งดำรงตำแหน่งครบวาระ 1 ปี คงอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่ออีกหนึ่งวาระ จำนวน 20 ราย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ครบวาระการดำรงตำแหน่งทุกราย ดังนี้
                              1) พลตำรวจโท วรศักดิ์ นพสิทธิพร ตั้งแต่วันที่ 17 กันยายน 2559
                              2) นายธวัช สุนทราจารย์ ตั้งแต่วันที่ 17 กันยายน 2559
                              3) พลเอก เจริญ นพสุวรรณ ตั้งแต่วันที่ 17 กันยายน 2559
                              4) พลเอก ปัฐมพงศ์ ประถมภัฏ ตั้งแต่วันที่ 17 กันยายน 2559
                              5) นายวีระศักดิ์ ฟูตระกูล ตั้งแต่วันที่ 21 กันยายน 2559
                              6) นายวินิจฉัย แจ่มแจ้ง ตั้งแต่วันที่ 21 กันยายน 2559
                              7) นายไพศาล พืชมงคล ตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคม 2559
                              8) รองศาสตราจารย์ไชยา ยิ้มวิไล ตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคม 2559
                              9) พลเอก รุ่งโรจน์ จำรัสโรมรัน ตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคม 2559
                              10) รองศาสตราจารย์ ชวนี ทองโรจน์ ตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคม 2559
                              11) พลตำรวจเอก สุวัฒน์ จันทร์อิทธิกุล ตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคม 2559
                              12) พลตำรวจโท ณัฐพิชย์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคม 2559
                              13) พลเอก นิวัตร มีนะโยธิน ตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคม 2559
                              14) นางฉวีรัตน์ เกษตรสุนทร ตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคม 2559
                              15) นายพรชัย ตระกูลวรานนท์ ตั้งแต่วันที่ 21 ตุลาคม 2559
                              16) นางจินตนา ชัยยวรรณาการ ตั้งแต่วันที่ 26 ตุลาคม 2559
                              17) นายธีระพงษ์ รอดประเสริฐ ตั้งแต่วันที่ 11 พฤศจิกายน 2559
                              18) นางสุปราณี จันทรัตนวงศ์ ตั้งแต่วันที่ 14 พฤศจิกายน 2559
                              19) นายเพิ่มศักดิ์ บ้านใหม่ ตั้งแต่วันที่ 14 พฤศจิกายน 2559
                              20) นายเกียรติชัย โสภาเสถียรพงศ์ ตั้งแต่วันที่ 14 พฤศจิกายน 2559

18. เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ               (กระทรวงสาธารณสุข)
                    คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ              สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ จำนวน 2 ราย ตั้งแต่วันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ดังนี้
                    1. นางสาวนิยะดา วิทยาศัย นายแพทย์เชี่ยวชาญ (ด้านเวชกรรม สาขากุมารเวชกรรม) กลุ่มงานกุมารเวชศาสตร์ กลุ่มภารกิจด้านวิชาการและการแพทย์ สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กรมการแพทย์            ดำรงตำแหน่ง นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรม สาขากุมารเวชกรรม) กลุ่มงานกุมารเวชศาสตร์ กลุ่มภารกิจ          ด้านวิชาการและการแพทย์ สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กรมการแพทย์ ตั้งแต่วันที่ 18 สิงหาคม 2559
                    2. นายสุทธิพงษ์ ปังคานนท์ นายแพทย์เชี่ยวชาญ (ด้านเวชกรรม สาขากุมารเวชกรรม)              กลุ่มงานกุมารเวชศาสตร์ กลุ่มภารกิจด้านวิชาการและการแพทย์ สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กรมการแพทย์ ดำรงตำแหน่ง นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรม สาขากุมารเวชกรรม) กลุ่มงานกุมารเวชศาสตร์                กลุ่มภารกิจด้านวิชาการและการแพทย์ สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กรมการแพทย์                               ตั้งแต่วันที่ 23 สิงหาคม 2559
                    ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป
---------------------------------------
ที่มา ; เว็บ รัฐบาลไทย

 คลิ๊ก ) สมัครพัฒนาความรู้   
เตรียมติวสอบผู้บริหารสถาน+การศึกษา   

-คลากรการศึกษา  ที่ 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

พัฒนาความรู้ครูผู้ช่วย 4 ภาค

พัฒนาความรู้ครูผู้ช่วย 4 ภาค
พัฒนาความรู้ครูผู้ช่วย 4 ภาค

ห้องสนทนา บน facebook

ห้องสนทนา บน facebook
ห้องสนทนาติวสอบดอทคอม

ข้อสอบออนไลน์ "ติวสอบดอทคอม" ชุดใหม่

คู่มือเตรียมสอบผู้บริหาร ภาค ก ข ค

แจ้งย้ายเว็บไปที่ www.tuewsob.com

คู่มือเตรียมสอบผู้บริหาร ภาค ก ข ค (ปรับปรุงใหม่)

รวม เล่ม + แผ่นพับ + ชีตช่วยจำ + DVD เนื้อหา + เสียงบรรยาย + EMS = 800 บาท
สนใจ คู่มือ ภาค ก ข ค ผู้บริหาร คลิ๊กเลย

สั่งจอง... โอนเงินเข้าชื่อบัญชี นายนิกร เพ็งลี ธนาคารกรุงไทย สาขาจอหอ บัญชีเลขที่ 341-1-38912-5 โอนเงินแล้วกรุณาโทรแจ้ง
0872494141 หรือ 0839660030

คู่มือ เตรียมสอบผู้บริหาร

คู่มือ เตรียมสอบผู้บริหาร
คู่มือ เตรียมสอบผู้บริหาร

ติวสอบออนไลน์ บน facebook

ติวสอบออนไลน์ บน facebook
ติวสอบออนไลน์ บน facebook

คลังหนังสือ ติวสอบดอทคอม

คลังหนังสือ ติวสอบดอทคอม
คลังหนังสือ ติวสอบดอทคอม

ติวสอบดอทคอม

ติวสอบดอทคอม
ติวสอบดอทคอม