อ่านชัด-อ่านครบ กด ดูเวอร์ชั่นสำหรับเว็บ (ด้านล่าง)
เรื่องใหม่น่าสนใจ (ทั้งหมด ที่ )
(เนื้อหา-ข้อสอบ 1,000 ชุุด หมื่นข้อ ภาค กข
+ 40 วิชาเอก) ที่ ห้องสอบด้านขวา หรือ
เว็บฟรีข้อสอบ 1,000 ชุด ที่ ติวสอบดอทคอม คลิ๊ก www.tuewsob.com
-นายกรัฐมนตรีพบเพื่อนครู + การศึกษาไทยศตวรรษ 21 นี่
-กำหนดการสอบครูผู้ช่วย ครั้งที่ 1 ปี 2559
-คู่มือ 4 ชุด นโยบาย บริบริหาร ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้
ข้อสอบออนไลน์ ( พัฒนาความรู้ครู - ผู้บริหาร - บุคลากรการศึกษา) ชุดใหม่
ข้อสอบ รอบรู้ ชุด 316 โรงเรียนประชารัฐ แผนการศึกษาชาติใหม่ แผนพัฒนาเศรษฐกิจฯ ฉบับ 12 by ProProfs » Quiz Created With ProProfs
( คลิ๊ก ) สมัครพัฒนาความรู้
เตรียมติวสอบผู้บริหารสถาน+การศึกษา
เตรียมสอบติวสอบครูผู้ช่วย
ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี 471/2559รมว.ศธ.ตรวจเยี่ยมโรงเรียนในจังหวัดอุดรธานี
จังหวัดอุดรธานี - พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วยนายชยาวุธ จันทรธร ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี, นายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ, นายการุณ สกุลประดิษฐ์ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน, นายสุภัทร จำปาทอง เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา, นายสุเทพ ชิตยวงษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา, นายกมล รอดคล้าย เลขาธิการสภาการศึกษา, นายประกอบ จันทรทิพย์ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต 1 ตลอดจนคณะผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการ และผู้บริหารการศึกษาในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี ตรวจเยี่ยมการจัดการเรียนการสอนของโรงเรียนในพื้นที่อำเภอเมืองอุดรธานี เมื่อวันศุกร์ที่ 11 พฤศจิกายน 2559
ตรวจเยี่ยมโรงเรียนบ้านหมากแข้ง
เมื่อเวลา 8.30 น. รมว.ศึกษาธิการ และคณะ เดินทางไปตรวจเยี่ยมการจัดการเรียนการสอนของโรงเรียนบ้านหมากแข้ง ซึ่งเป็นโรงเรียนขนาดใหญ่พิเศษ จัดการเรียนการสอนตั้งแต่อนุบาล-มัธยมศึกษาตอนปลาย มีนักเรียนกว่า 3,000 คน โดยมีนายเจียระนัย ไชยนา รักษาการผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหมากแข้ง
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า ต้องการมาเยี่ยมชมการจัดการเรียนการสอนสภาพจริงของโรงเรียน ซึ่งโดยภาพรวมพบว่าโรงเรียนสามารถจัดสภาพแวดล้อมได้อย่างเหมาะสม แต่ก็ได้ขอให้โรงเรียนเพิ่มป้ายกำกับต่าง ๆ ภายในโรงเรียนให้เป็นภาษาอังกฤษ ตามนโยบายพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารของกระทรวงศึกษาธิการ รวมทั้งขอให้มีการดูแลอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น อุปกรณ์กีฬา ให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ
นอกจากนี้ จากการตรวจเยี่ยมการเรียนการสอนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 พร้อมทดสอบการอ่านหนังสือของนักเรียน พบว่านักเรียนยังอ่านหนังสือไม่คล่อง จึงได้ย้ำกับครูและผู้บริหารโรงเรียนเกี่ยวกับนโยบายนักเรียน ป.1 อ่านไม่คล่องเขียนไม่คล่องต้องไม่มี โดยได้แนะนำให้โรงเรียนคัดกรองเด็กอย่างละเอียด เพื่อแยกเด็กออกมาดูแลในการสอนซ่อมเสริมเป็นรายบุคคลก่อนที่เด็กจะจบชั้น ป.1 รวมทั้งขอให้ความสนใจกับเด็กที่เรียนช้าหรือรับรู้ช้าด้วย ซึ่งครูผู้สอนจะรู้จักเด็กของตนอยู่แล้วว่าเป็นอย่างไร รวมทั้งต้องการให้ครูที่เป็นหัวหน้าสายชั้นเรียน มีข้อมูลและรู้สภาพนักเรียนในชั้นเรียนของตัวเอง พร้อมประชุมหารือร่วมกับครูประจำชั้น เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาให้กับเด็กเป็นราย ๆ ไป
ส่วนครูที่เป็นหัวหน้ากลุ่มสาระวิชา ก็ต้องรู้ว่าเด็กคนไหนที่อ่อนวิชาใดด้วย และที่สำคัญผู้อำนวยการโรงเรียนต้องโดดลงมาเล่นด้วย ไม่ควรปล่อยให้คุณครูแก้ปัญหาอยู่เพียงฝ่ายเดียว โดยต้องรู้ข้อมูลภาพรวมทั้งระบบพร้อมกับให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่
ตรวจเยี่ยมโรงเรียนบ้านหนองบัว
ต่อมาในเวลา 11.00 น. รมว.ศึกษาธิการ และคณะ ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมการจัดการเรียนการสอนของโรงเรียนบ้านหนองบัว ซึ่งเป็นโรงเรียนต้นแบบการเรียนรวม เปิดสอนระดับอนุบาล-มัธยมศึกษาตอนต้น มีนักเรียน 71 คน แบ่งเป็นนักเรียนปกติ 42 คน และนักเรียนพิเศษ 29 คน มีครู 6 คน โดยนางสุมาลี ใจดี เป็นผู้รับผิดชอบโครงการเด็กพิเศษ และนายปรีชา วิเศษชัย เป็นผู้อำนวยการโรงเรียน
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า กระทรวงศึกษาธิการให้ความสำคัญกับเด็กพิเศษเป็นอย่างมาก เพราะขณะนี้มีจำนวนเด็กพิเศษกว่า 3 แสนคน และมีเด็กอีกจำนวนหนึ่งที่ยังไม่ถูกคัดกรองและเรียนปะปนอยู่ในโรงเรียนทั่วไป ซึ่งคาดว่ามีจำนวนไม่น้อย จึงได้มอบให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ไปสำรวจและคัดกรองเด็กในทุกโรงเรียนว่ามีเด็กพิเศษเรียนร่วมอยู่อีกจำนวนเท่าใด โดยใช้รูปแบบการคัดกรองเดิมไปก่อน แต่อาจไม่ต้องใช้ใบรับรองแพทย์ เมื่อได้ตัวเลขมาแล้ว จะได้เตรียมจัดสรรครูและงบประมาณที่จะเป็นค่าตอบแทนเพิ่มสำหรับครูที่ผ่านการอบรมหลักสูตรดูแลเด็กพิเศษอีก 2,000 บาท รวมทั้งจัดหาสื่อการเรียนการสอนด้วย
นอกจากนี้ กระทรวงศึกษาธิการเตรียมที่จะเกลี่ยงบอุดหนุนรายหัว เพื่อนำมาเพิ่มให้กับเด็กระดับปฐมวัย ประถมศึกษา ตลอดจนเด็กพิเศษเพิ่มมากขึ้น โดยไม่ของบประมาณจากรัฐบาลเพิ่มเติม
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวด้วยว่า การที่กระทรวงศึกษาธิการให้ความสำคัญกับเด็กพิเศษและเด็กที่เรียนรู้ช้า เพราะสงสารเด็กที่จะต้องทรมานเมื่อเรียนตามเพื่อนไม่ทัน จึงต้องการให้โรงเรียนดูแลเป็นรายกรณีไป ทั้งนี้ ยอมรับว่ามีแนวคิดเกี่ยวกับการตกซ้ำชั้นมานานแล้ว แต่ขณะนี้อยู่ระหว่างการออกแบบกระบวนการเตรียมตัวเด็กก่อนจะซ้ำชั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างกระบวนการยอมรับจากพ่อแม่และผู้ปกครอง แต่จะไม่ใช่กระบวนการแบบเดิมที่ให้ส่งรายงานหรือล้างห้องน้ำเพื่อแลกคะแนนอย่างแน่นอน โดยขอให้โรงเรียนอย่าได้กังวล เพราะการที่มีเด็กตกซ้ำชั้นไม่ได้เป็นตัวชี้วัดของการประเมินผล ในขณะเดียวกัน หากครูหรือผู้บริหารไม่สนใจดูแลเด็กที่เรียนอ่อนต่างหาก จึงถือว่าไม่ผ่านตัวชี้วัด อย่างไรก็ตาม คาดว่ากระบวนการจะเสร็จสมบูรณ์และเริ่มนำมาใช้ในปีการศึกษา 2560
ข้อสอบออนไลน์ ( พัฒนาความรู้ครู - ผู้บริหาร - บุคลากรการศึกษา) ชุดใหม่
ข้อสอบ รอบรู้ ชุด 316 โรงเรียนประชารัฐ แผนการศึกษาชาติใหม่ แผนพัฒนาเศรษฐกิจฯ ฉบับ 12 by ProProfs » Quiz Created With ProProfs
( คลิ๊ก ) สมัครพัฒนาความรู้
เตรียมติวสอบผู้บริหารสถาน+การศึกษา
เตรียมสอบติวสอบครูผู้ช่วย
ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี 471/2559รมว.ศธ.ตรวจเยี่ยมโรงเรียนในจังหวัดอุดรธานี
จังหวัดอุดรธานี - พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วยนายชยาวุธ จันทรธร ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี, นายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ, นายการุณ สกุลประดิษฐ์ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน, นายสุภัทร จำปาทอง เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา, นายสุเทพ ชิตยวงษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา, นายกมล รอดคล้าย เลขาธิการสภาการศึกษา, นายประกอบ จันทรทิพย์ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต 1 ตลอดจนคณะผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการ และผู้บริหารการศึกษาในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี ตรวจเยี่ยมการจัดการเรียนการสอนของโรงเรียนในพื้นที่อำเภอเมืองอุดรธานี เมื่อวันศุกร์ที่ 11 พฤศจิกายน 2559
ตรวจเยี่ยมโรงเรียนบ้านหมากแข้ง
เมื่อเวลา 8.30 น. รมว.ศึกษาธิการ และคณะ เดินทางไปตรวจเยี่ยมการจัดการเรียนการสอนของโรงเรียนบ้านหมากแข้ง ซึ่งเป็นโรงเรียนขนาดใหญ่พิเศษ จัดการเรียนการสอนตั้งแต่อนุบาล-มัธยมศึกษาตอนปลาย มีนักเรียนกว่า 3,000 คน โดยมีนายเจียระนัย ไชยนา รักษาการผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหมากแข้ง
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า ต้องการมาเยี่ยมชมการจัดการเรียนการสอนสภาพจริงของโรงเรียน ซึ่งโดยภาพรวมพบว่าโรงเรียนสามารถจัดสภาพแวดล้อมได้อย่างเหมาะสม แต่ก็ได้ขอให้โรงเรียนเพิ่มป้ายกำกับต่าง ๆ ภายในโรงเรียนให้เป็นภาษาอังกฤษ ตามนโยบายพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารของกระทรวงศึกษาธิการ รวมทั้งขอให้มีการดูแลอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น อุปกรณ์กีฬา ให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ
นอกจากนี้ จากการตรวจเยี่ยมการเรียนการสอนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 พร้อมทดสอบการอ่านหนังสือของนักเรียน พบว่านักเรียนยังอ่านหนังสือไม่คล่อง จึงได้ย้ำกับครูและผู้บริหารโรงเรียนเกี่ยวกับนโยบายนักเรียน ป.1 อ่านไม่คล่องเขียนไม่คล่องต้องไม่มี โดยได้แนะนำให้โรงเรียนคัดกรองเด็กอย่างละเอียด เพื่อแยกเด็กออกมาดูแลในการสอนซ่อมเสริมเป็นรายบุคคลก่อนที่เด็กจะจบชั้น ป.1 รวมทั้งขอให้ความสนใจกับเด็กที่เรียนช้าหรือรับรู้ช้าด้วย ซึ่งครูผู้สอนจะรู้จักเด็กของตนอยู่แล้วว่าเป็นอย่างไร รวมทั้งต้องการให้ครูที่เป็นหัวหน้าสายชั้นเรียน มีข้อมูลและรู้สภาพนักเรียนในชั้นเรียนของตัวเอง พร้อมประชุมหารือร่วมกับครูประจำชั้น เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาให้กับเด็กเป็นราย ๆ ไป
ตรวจเยี่ยมโรงเรียนบ้านหนองบัว
ต่อมาในเวลา 11.00 น. รมว.ศึกษาธิการ และคณะ ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมการจัดการเรียนการสอนของโรงเรียนบ้านหนองบัว ซึ่งเป็นโรงเรียนต้นแบบการเรียนรวม เปิดสอนระดับอนุบาล-มัธยมศึกษาตอนต้น มีนักเรียน 71 คน แบ่งเป็นนักเรียนปกติ 42 คน และนักเรียนพิเศษ 29 คน มีครู 6 คน โดยนางสุมาลี ใจดี เป็นผู้รับผิดชอบโครงการเด็กพิเศษ และนายปรีชา วิเศษชัย เป็นผู้อำนวยการโรงเรียน
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า กระทรวงศึกษาธิการให้ความสำคัญกับเด็กพิเศษเป็นอย่างมาก เพราะขณะนี้มีจำนวนเด็กพิเศษกว่า 3 แสนคน และมีเด็กอีกจำนวนหนึ่งที่ยังไม่ถูกคัดกรองและเรียนปะปนอยู่ในโรงเรียนทั่วไป ซึ่งคาดว่ามีจำนวนไม่น้อย จึงได้มอบให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ไปสำรวจและคัดกรองเด็กในทุกโรงเรียนว่ามีเด็กพิเศษเรียนร่วมอยู่อีกจำนวนเท่าใด โดยใช้รูปแบบการคัดกรองเดิมไปก่อน แต่อาจไม่ต้องใช้ใบรับรองแพทย์ เมื่อได้ตัวเลขมาแล้ว จะได้เตรียมจัดสรรครูและงบประมาณที่จะเป็นค่าตอบแทนเพิ่มสำหรับครูที่ผ่านการอบรมหลักสูตรดูแลเด็กพิเศษอีก 2,000 บาท รวมทั้งจัดหาสื่อการเรียนการสอนด้วย
นอกจากนี้ กระทรวงศึกษาธิการเตรียมที่จะเกลี่ยงบอุดหนุนรายหัว เพื่อนำมาเพิ่มให้กับเด็กระดับปฐมวัย ประถมศึกษา ตลอดจนเด็กพิเศษเพิ่มมากขึ้น โดยไม่ของบประมาณจากรัฐบาลเพิ่มเติม
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวด้วยว่า การที่กระทรวงศึกษาธิการให้ความสำคัญกับเด็กพิเศษและเด็กที่เรียนรู้ช้า เพราะสงสารเด็กที่จะต้องทรมานเมื่อเรียนตามเพื่อนไม่ทัน จึงต้องการให้โรงเรียนดูแลเป็นรายกรณีไป ทั้งนี้ ยอมรับว่ามีแนวคิดเกี่ยวกับการตกซ้ำชั้นมานานแล้ว แต่ขณะนี้อยู่ระหว่างการออกแบบกระบวนการเตรียมตัวเด็กก่อนจะซ้ำชั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างกระบวนการยอมรับจากพ่อแม่และผู้ปกครอง แต่จะไม่ใช่กระบวนการแบบเดิมที่ให้ส่งรายงานหรือล้างห้องน้ำเพื่อแลกคะแนนอย่างแน่นอน โดยขอให้โรงเรียนอย่าได้กังวล เพราะการที่มีเด็กตกซ้ำชั้นไม่ได้เป็นตัวชี้วัดของการประเมินผล ในขณะเดียวกัน หากครูหรือผู้บริหารไม่สนใจดูแลเด็กที่เรียนอ่อนต่างหาก จึงถือว่าไม่ผ่านตัวชี้วัด อย่างไรก็ตาม คาดว่ากระบวนการจะเสร็จสมบูรณ์และเริ่มนำมาใช้ในปีการศึกษา 2560
ที่มา ; เว็บ สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงศึกษาธิการ
ที่มา ; เว็บ สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงศึกษาธิการ
( คลิ๊ก ) สมัครพัฒนาความรู้
เตรียมติวสอบผู้บริหารสถาน+การศึกษา
เตรียมสอบติวสอบครูผู้ช่วย
( คลิ๊ก ) สมัครพัฒนาความรู้
เตรียมติวสอบผู้บริหารสถาน+การศึกษา
เตรียมสอบติวสอบครูผู้ช่วย
ฟรี... ติวสอบครูผู้ช่วย ติวสอบผู้บริหาร บุคลากรการศึกษา-ครูผู้ช่วย-ผู้บริหาร
-คลากรการศึกษา ที่
ฟรี... ติวสอบครูผู้ช่วย ติวสอบผู้บริหาร บุคลากรการศึกษา-ครูผู้ช่วย-ผู้บริหาร
-คลากรการศึกษา ที่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น