เรื่องใหม่น่าสนใจ 
- พรบ.เงินเดือนใหม่ข้าราชการครูฯ พ.ศ.2558
-ก.ค.ศ.เห็นชอบหลักเกณฑ์เลื่อนวิทยฐานะตามข้อตกลงในการพัฒนางาน (P.A.)
ข้อสอบออนไลน์ ( สอบครู - ผู้บริหาร - บุคลากรการศึกษา) ชุดใหม่ โดย อ.นิกร
ข้อสอบออนไลน์ ( สอบครู - ผู้บริหาร - บุคลากรการศึกษา) ชุดใหม่ โดย อ.นิกร
เตรียมสอบ บน ยูทูป ทั้งหมด ได้ที่
ให้'ทักษิณ'ส่งคนคุย รองสนช.แนะ
หาทางปรองดองกับรัฐบิ๊กต๊อกโวรู้ตัวหนุนนศ.
“บิ๊กต๊อก” ย้ำ คสช.ยึดกฎหมายดำเนินคดี 14 นศ. ท้าคนส่วนใหญ่ไม่เอาก็พร้อมไป ข้องใจพวกป่วนมีอะไรแฝง โวฝ่ายข่าวมีข้อมูลเชื่อมถึงผู้อยู่เบื้องหลังหมด “ภูมิธรรม” เหน็บถูกหมายหัว นศ.มธ.เผยมีวัยรุ่นคล้ายช่างกลเริ่มป่วน รอง ปธ.สนช.แนะ “ทักษิณ” ส่งตัวแทนมาคุยจะสวยกว่า กก.ปรองดองค้านห้ามทำลับๆต้องเปิดเวทีให้ทุกฝ่ายร่วมวงเจรจา กปปส.โดดขวางชี้ยังไม่ถึงเวลา “ก่อแก้ว” เด้งรับชงชื่อ “บิ๊กป๊อก” เพื่อน ตท.10 เหมาะสุดทูตสันถวไมตรี “ไก่อู-เสี่ยไก่” เปิดศึกประคารมเดือด “วัฒนา” ตอกจะขอต่อวีซ่าเพื่ออะไร “เทียนฉาย” เสียงแปร่งรับปฏิรูปขัดลำกล้อง เชื่อต้องแก้ รธน.ชั่วคราวอีกรอบ ไม่ต่อวีซ่านั่งสภาขับเคลื่อนฯไปเลี้ยงเป็ดดีสุด
หลังจากนายวันชัย สอนศิริ สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) เสนอให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์-โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ส่งคนไปเจรจากับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เพื่อหาแนวทางปรองดองร่วมกันนั้น
“บิ๊กต๊อก” ย้ำ คสช.ทำตามกฎหมาย
เมื่อวันที่ 5 ก.ค. พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม หัวหน้าฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี 14 นักศึกษากลุ่มดาวดิน ในนามขบวนการประชาธิปไตยใหม่ ยืนยันไม่ขอประกันตัว หากจะปล่อยตัวต้องไม่มีเงื่อนไขหรือมีคดีติดตัว ว่า คสช.ไปทำผิดกฎหมายตรงไหน อย่าลืมว่า คสช.เข้ามาในลักษณะพิเศษ ต้องมีกฎหมายพิเศษจัดการปัญหาที่ยังไม่เรียบร้อยให้ทันการ ไม่ได้อยู่ในภาวะปกติ และไม่มี คสช.คนไหนบอกเข้ามาตามระบอบประชาธิปไตย แต่ทุกวันนี้ก็ผ่อนปรนให้มากแล้ว แกนนำหรือใครที่ออกมาพูดปาวๆในอดีต มาต่อล้อ ต่อเถียงได้ขนาดนี้หรือ วันนี้แค่เรียกมาพูดจา เป็นเมื่อก่อนถูกควบคุมตัว 7-10 วันไปแล้ว มันต้องพูด แง่นี้ก่อน
ท้าคนส่วนใหญ่ไม่เอาก็พร้อมไป
พล.อ.ไพบูลย์กล่าวต่อว่า หรือลืมเหตุการณ์ที่ยิงกันสนั่นหวั่นไหว รัฐบาลบริหารประเทศไม่ได้ เงินเดือนไม่ออก ไม่มีเงินจ่ายจำนำข้าวแล้ว ทำเหมือนหนังตัดต่อเอาเฉพาะช่วงนี้มาพูด คสช.มาไม่ถูกต้อง ออกกฎหมายไม่ถูก แล้วผิดสังเกตไหมจะให้ประกันตัวก็ไม่เอา มีกองทุนยุติธรรมช่วยไม่ต้องทำอะไรเลย ไม่ต้องห่วงเรื่องเงินก็ไม่เอา ยืนกรานต้องปล่อยตัวโดยไม่มีเงื่อนไข ซึ่งนายกฯก็บอกว่ามันต้องไม่มีเงื่อนไขทุกคนหรือเปล่า แล้วสิ่งที่ทำมาตั้งแต่วันที่ 22 พ.ค.จะเดินหน้าต่ออย่างไร คิดว่าคนส่วนใหญ่เข้าใจ ไม่เช่นนั้นช่วง 2-3 เดือนแรกคงวุ่นวายมิคสัญญี แล้ว โดยส่วนตัวซึ่งไม่เกี่ยวกับนายกฯหรือใครทั้งสิ้น ถ้าให้ไปก็ดีเหมือนกัน ประชาชนส่วนใหญ่ว่ามาแล้วกัน ต้องไม่ใช่แค่ 2-3 คน จะได้ลาออกเสียที แล้วท่านก็ว่าของท่านไป พูดมาดังๆเลยว่า พล.อ.ไพบูลย์ไปได้แล้ว พรุ่งนี้จะลาออกเลย
ข้องใจพวกป่วนมีอะไรแฝงอยู่
“แต่ถ้าเห็นด้วยกับแนวทางนักศึกษา คสช.ก็อยู่ไม่ได้ ก็ดีเราไม่ได้ผิดอะไรบอกให้ไปก็ไป แล้วมารับไม้ต่อกันให้ได้แล้วกัน พวกเราแค่ขอเวลาทำงานหน่อย กำลังเดินตามโรดแม็ป แก้ปัญหาที่หมักหมม ที่ไม่อยากพูดดังๆ ว่าใครพวกไหนทำทิ้งปัญหาไว้เต็มไปหมด กลุ่มนี้คือกลุ่มไม่เข้าใจคิดว่าตัวเองเดินถูกต้อง แล้วมาบอกให้ต้องยอม ก็ไม่เข้าใจ หรือว่ากำลังทำอะไรกันอยู่ ผมหนักใจกับคนที่สร้างปัญหาอยู่ตลอดเวลา หนักใจบ้านเมืองที่มีคนพวกนี้ สร้างปัญหาไว้เยอะแยะถึงไม่ไปไหนเสียที กลุ่มไหนเห็นภาพเชื่อมโยงกันหมด เริ่มออกมาแล้ว จะอาศัยใบบุญผู้บริสุทธิ์หรือทำเองหรือเปล่าไม่รู้ หรือรังเกียจสิ่งที่ถูกต้อง ทั้งปฏิรูป ปราบปรามการทุจริต แก้ปัญหาค้ามนุษย์ ประมง ถึงไม่ยอม รออีกแค่ ปีกว่าก็เลือกตั้งแล้ว รอหน่อยไม่ได้ มีอะไรหรือเปล่า” พล.อ.ไพบูลย์กล่าว
ปิดไม่มิดมีข้อมูลเชื่อมถึงหมด
เมื่อถามว่าถึงเวลาเปิดเผยคนที่อยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวหรือยัง พล.อ.ไพบูลย์ตอบว่า ต้องให้นายกฯ คสช.และฝ่ายความมั่นคงพิจารณา ถ้ามองในแง่นักศึกษาบริสุทธิ์ส่วนหนึ่งตนเชื่อ แต่ด้านการข่าวมันมีข้อมูลที่สร้างความเคลือบแคลงต่อฝ่ายความมั่นคง เรื่องพวกนี้ตนทำงานมาก่อนช่วงเป็น คสช. จากฐานข้อมูลเดิมๆ เชื่อว่าการเคลื่อนไหวบางส่วนมีคนหนุนหลัง มันปิดกันไม่มิด การมีเบื้องหน้าเบื้องหลังมันไม่ได้เกิดขึ้นใหม่ ก่อนหน้าไปชุมนุมพวกนี้ไปไหนกันมา คนไปอยู่ต่างประเทศพูดคุยอะไรกัน ไม่เชื่อหรือว่าไม่ได้อยู่ในสายตาฝ่ายความมั่นคง ถามว่าควรเปิดเผยคนที่อยู่เบื้องหลังหรือยัง ฝ่ายความมั่นคงเขารู้ งานการข่าวมาเชื่อมต่อกันได้ แต่นายกฯพูดแล้วอยากให้พูดคุยกับน้องนักศึกษา มันก็จบ หลังจากนั้นควบคุมสถานการณ์ไม่ให้แกนนำเคลื่อนไหว
“วินธัย” ปัดนายกฯปล่อย 14 นศ.
พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษก คสช. กล่าวถึงกระแสข่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. เตรียมปล่อยตัว 14 นักศึกษา เพราะต้องการประคับประคองสถานการณ์ให้สงบ ตัดตอนปัญหาที่เริ่มลุกลามกระทบโรดแม็ปและต่ออายุรัฐบาลว่า ไม่ทราบและยังไม่ได้รับรายงานข้อมูลเรื่องดังกล่าว และไม่ทราบว่ากระแสข่าวดังกล่าวเกิดขึ้นได้อย่างไร ขอตรวจสอบรายละเอียดก่อน พร้อมปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นกรณีกลุ่ม 14 นักศึกษาเรียกร้องขอขึ้นศาลพลเรือนแทนศาลทหาร
“ยงยุทธ” ขออย่าให้ใครร่วมวงเขย่า
นายยงยุทธ ยุทธวงศ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเคลื่อนไหวของกลุ่มนักศึกษาว่า พล.อ.ประยุทธ์ มีแนวทางที่จะให้มีการปรองดองกัน ซึ่งน่าจะดี ช่วงนี้เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ น่าจะให้เดินไปตามโรดแม็ปก่อน ดีกว่ามาเขย่ากัน อะไรที่ทั้ง 2 ฝ่ายบันยะบันยังช่วยกันได้ น่าจะทำ อย่างนักศึกษาเป็นพลังบริสุทธิ์เหมือนกับที่นายกฯระบุ จึงน่าจะใช้พลังนี้อย่างเหมาะสมและมีความรับผิดชอบ ส่วนรัฐบาลเองก็จะใช้วิธีสร้างความเข้าใจ ตอนนี้เข้าใจความรู้สึกและความเห็น ซึ่งได้รับฟังแล้วว่านักศึกษารู้สึกอย่างไร ส่วนตัวมองว่าขณะนี้เรื่องค่อยๆดีขึ้น ค่อยเป็น ค่อยไป แต่อย่าให้มีใครมาเขย่าเพิ่มเพราะจะไปกันใหญ่
แนะ “แม้ว” ส่งคนมาคุยจะสวยกว่า
สำหรับข้อเสนอของนายวันชัย สอนศิริ สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ให้รัฐบาลส่งตัวแทนไปพูดคุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพื่อหาแนวทางปรองดองนั้น นายพีระศักดิ์ พอจิต รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์เคยยืนยันแล้วว่าจะไม่คุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะมีคดีความติดตัวอยู่ ส่วนตัวคิดว่าทาง ที่ดี พ.ต.ท.ทักษิณเอง ควรเป็นฝ่ายส่งตัวแทนมาคุยมากกว่าให้รัฐบาลส่งคนไป เชื่อว่ารัฐบาลเองพร้อมจะพูดคุยอยู่แล้วหากเขาส่งตัวแทนมา และคิดว่าหากทั้งสองฝ่ายมีการพูดคุยกันจริงจะเป็นผลดีต่อประเทศ ชาติ ซึ่งถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการปรองดองได้
กก.ปรองดองค้านห้ามเจรจาลับ
นายบัณฑูร เศรษฐศิโรตม์ กรรมการเสริมสร้างความปรองดองแห่งชาติ สปช. กล่าวว่า ต้องมองว่าคำว่าปรองดองของนายวันชัยเป็นอย่างไร แต่กระบวนการที่คณะกรรมการปรองดองฯนำเสนอ ไม่ได้เจาะจงตัวบุคคลใดบุคคลหนึ่ง หลักการของเราคืออยากให้ทุกฝ่ายที่เป็นคู่ขัดแย้ง เข้ามามีส่วนร่วมในกระบวนการเจรจาและหาทางออก แต่หากมีการส่งตัวแทนเจรจากันในทางลับอาจเกิดปัญหาตามมาได้ ส่วนกรณีการจับกุมคุมขัง 14 นักศึกษาต้องระวังไม่ให้มีปัจจัยเสริมมาใช้โอกาสนี้สร้างสถานการณ์ให้แย่ลง ความต้องการของนักศึกษากลุ่มดาวดินจริงๆต้องการให้สังคมรับรู้ว่ามีปัญหาความเหลื่อมล้ำ ความไม่เป็นธรรมอยู่ในสังคมอยู่จริง แต่วันนี้กลายเป็นเรื่องการเมืองมาลบไปจนหมด รวมทั้งฝ่ายการเมืองก็จับจ้องจะเอาพวกเขามาเป็นเครื่องมือ หากรัฐบาลแก้ปัญหาที่พวกเขาต้องการจริง คือลดความเหลื่อมล้ำได้ พวกเขาอาจจะยอมถอย แต่รัฐบาลต้องมีความจริงใจด้วย
กปปส.โดดขวางยังไม่ถึงเวลา
ด้านนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย แกนนำ กปปส. กล่าวว่า ต่อข้อเสนอของนายวันชัย เห็นว่า คสช. สปช. หรือ สนช. ต้องจัดลำดับให้ชัด เรื่องสำคัญคือปฏิรูป การกระทำที่สุดขั้วเกินไปตอนนี้จะกระทบการปฏิรูปแน่ เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อนต้องดูจังหวะเวลาซึ่งเวลานี้ยังไม่เหมาะเรื่องเจรจากับ พ.ต.ท. ทักษิณพูดกันมานานแล้ว คนเสนอให้เจรจาเสนอง่าย แต่ที่ยากคือจะตอบคำถามได้ไหมว่าคุยเรื่องอะไร เพื่ออะไร สถานการณ์เอื้อหรือไม่ อย่าลืมว่า พ.ต.ท.ทักษิณยังมีสถานะเป็นนักโทษหนีคดีอยู่ แทนที่จะคลี่คลายอาจทำให้เขม็งเกลียวขึ้นมาได้ ส่วนเรื่องนิรโทษกรรมต้องทำรอบคอบ กปปส.เห็นว่าควรนิรโทษเฉพาะที่เป็นความผิดต่อรัฐ ไม่ใช่เรื่องอาญา หรือมาตรา 112 เรื่องนี้ควรเก็บไว้ก่อน เรื่องใหญ่คือลุยปฏิรูปกันต่อให้เสร็จ ไม่เช่นนั้นสิ่งที่มวลมหาประชาชนต่อสู้มาจะสูญเปล่า
“ก่อแก้ว” เด้งรับควรทำนานแล้ว
ขณะที่นายก่อแก้ว พิกุลทอง แกนนำ นปช.กล่าวว่า เห็นด้วยกับข้อเสนอของนายวันชัย สอนศิริ น่าจะทำตั้งนานแล้ว ปัญหาประเทศมีตัวละครหลักหลายตัว พ.ต.ท.ทักษิณเป็นตัวละครหนึ่งที่มีบทบาทมาก ถ้าจะแก้ปัญหาความขัดแย้งต้องพูดคุยทุกฝ่าย ว่าแต่ละฝ่ายต้องการอะไรและอีกฝ่ายทำให้ได้หรือไม่ ถ้าคุยกันแล้วได้จุดร่วม ประเทศก็มีทางออกขนาดทำสงครามยังต้องรบไปเจรจาไปเพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสีย ขอความกรุณาอย่าบอกว่า “ผมไม่คุยกับคนทำผิดกฎหมาย” เพราะกรณี พ.ต.ท.ทักษิณยังมีมุมมองที่ต่างกันจาก 2 ฝ่าย ฝ่ายหนึ่งมองว่าผิด อีกฝ่ายมองว่าไม่ผิด ยังเป็นประเด็นโต้แย้งกันอยู่ และการสร้างความปรองดอง ก็ยังไม่เห็นอะไรเป็นรูปธรรม ไม่เห็นความก้าวหน้าจะไปสู่จุดนั้น คำว่าปรองดองยังเป็นเพียงวาทกรรมให้ภาพดูดี แต่ต้นเหตุปัญหายังไม่ได้แก้ไขจริงจัง
ชี้ “บิ๊กป๊อก” เหมาะทูตสันถวไมตรี
นายก่อแก้วกล่าวอีกว่า สำหรับบุคคลที่ควรส่งไปพูดคุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ควรเป็นบุคคลที่อยู่รายล้อม พล.อ.ประยุทธ์ ทั้ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พล.อ.ฉัตรชัย สาลิกัลยะ รมว.พาณิชย์ แต่เหมาะที่สุดควรเป็น พล.อ.อนุพงษ์ เพราะเป็นเพื่อนเตรียมทหารรุ่น 10 น่าจะคุยกันได้ง่ายกว่าคนอื่น ส่วนกรณีฝ่ายความมั่นคงระบุรู้ตัวผู้อยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวของกลุ่มนักศึกษา ถ้าเชื่อว่าการเคลื่อนไหวของนักศึกษาไม่บริสุทธิ์ใจมีคนหนุนหลัง สามารถเอาผิดและจัดการกับผู้สนับสนุนได้ แต่รัฐบาลและ คสช.ตัดสินใจพลาดตั้งแต่การจับกุมแล้ว ปมจับกุมนักศึกษาเริ่มผูกเงื่อนทำให้ คสช.สะดุดขาตัวเอง จึงควรคลายปมเก่าดีกว่าผูกปมปัญหาใหม่ขึ้นมา เมื่อถึงเวลาฝากขังผัดต่อไปควรปล่อยตัว เชื่อว่าจะเป็นการคลายปมโดยที่ คสช.ไม่เสียหน้า
“ภูมิธรรม” โพสต์เหน็บถูกหมายหัว
นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรคเพื่อไทย โพสต์ผ่านทวิตเตอร์ว่า มองการปะทุขึ้นของกลุ่มประชาชนที่เดือดร้อนในปัญหาเศรษฐกิจ และการเรียกร้องของนิสิตนักศึกษา ที่อยากได้สิทธิเสรีภาพและประชาธิปไตยด้วยความห่วงใย อยากส่งกำลังใจและความห่วงใยให้ แต่เกรงว่า “ความห่วงใย” ที่มอบให้ อาจถูกแปรสภาพเป็น “ผู้อยู่เบื้องหลัง” ทำให้ความตั้งใจถูกแปรความผิด ความเป็นประชาธิปไตยของไทยกำลังถูกเฝ้าดู การจัดการปัญหาความเดือดร้อนประชาชน และการแก้ไขปัญหา 14 นักศึกษาที่เรียกร้องประชาธิปไตย กำลังถูกจองจำในขณะนี้ คือรูปธรรมที่รอการคลี่คลายจากรัฐบาล อย่าปล่อยให้เจ้าหน้าที่ไปจัดการปัญหาที่ละเอียดอ่อนนี้ตามลำพัง เพราะอาจทำให้ปัญหาเบี่ยงเบนและบานปลายออกไปอย่างไม่คาดคิด ต้องรีบคลี่คลายปัญหานี้ เคารพในความเห็นต่างของเขา เดินหน้าเข้าสู่โรดแม็ป ทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชนโดยเร็วคือทางออกที่ดีที่สุด ไม่มีใครอยากเห็นความเสียหายของประเทศ เกิดขึ้นมากไปกว่านี้อีกแล้ว เป็นห่วงจริงๆ
“วัฒนา” ตอกขอต่อวีซ่าเพื่ออะไร
นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตามที่ฝ่ายรัฐบาลขอเวลาทำงานต่ออีกปีเศษ ในขณะที่ฝ่ายต่างๆเริ่มออกมาเรียกร้องให้ปล่อยตัว 14 นักศึกษานั้น รัฐบาลยังมีหน้ามาขออยู่ต่อ ลองถามประชาชนไหมว่าอยากให้พวกคุณอยู่ต่อหรือไป การ บริหารประเทศที่ผ่านมาไม่ได้ทำเพื่อคนส่วนใหญ่ แต่ทำเพื่อผลประโยชน์พวกเดียวกัน อ้างรัฐบาลกำลัง ถังแตกไม่มีเงินช่วยเหลือเกษตรกร แต่กลับอนุมัติสองขั้นและวันเวลาทวีคูณให้พรรคพวก 100,000 ล้านบาท มีเงิน 36,000 ล้านบาทซื้อเรือดำน้ำ ใช้อำนาจและอาวุธควบคุมประเทศ จำกัดเสรีภาพ ประชาชน ทำเศรษฐกิจดิ่งเหว ดังนั้นยิ่งอยู่นานเท่าไรปัญหาก็มากขึ้นเท่านั้น หัดเข้าใจปัญหาแล้วแก้ที่ต้นเหตุดีกว่าเที่ยวโทษคนอื่น อยู่ไปก็แก้ปัญหาให้ประเทศไม่ได้ แล้วจะอยู่ไปเพื่ออะไร เชื่อว่าพวกคุณหวังดีต่อบ้านเมือง แต่สิ่งที่ประเทศต้องการมากกว่าความหวังดี คือ “การเสียสละ” รีบคืนอำนาจให้ประชาชนไปเลือกรัฐบาลของเค้าเอง เพราะประเทศไม่ใช่ของคนใดคนหนึ่ง
“ไก่อู-เสี่ยไก่” ปะทะคารมเดือด
ต่อมาช่วงเย็น พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงนายวัฒนา เมืองสุข ที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาล ว่า นายวัฒนาเป็นคนของพรรคเพื่อไทย ประชาชนเองก็รู้ว่าปัญหาเกิดจากอะไร เราจึงไม่ควรฟังคนที่เป็นต้นตอของปัญหา แต่ตนไม่กล้าตอบแทน คสช.ว่าจะเรียกตัวไปปรับทัศนคติหรือไม่ นายกฯทราบเรื่องนี้ดี แต่อยากให้ดูที่ผลงานรัฐบาลมากกว่า จะเห็นได้ว่าการเดินทางไปปฏิบัติภารกิจที่ประเทศญี่ปุ่น ได้รับความร่วมมืออย่างดี ไม่ได้เป็นอย่างที่นายวัฒนาวิจารณ์ แล้วจะต้องให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาอย่างไร ให้แก้ปัญหาโดยการรับจำนำข้าวเพิ่มหรือไม่ ก็ไม่ใช่
ด้านนายวัฒนา เมืองสุข ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า “คนชื่อสรรเสริญเป็นอะไรกับ คสช. หรือ ครม.หรือเปล่า ถ้าไม่ใช่ก็แปลว่าไม่ได้พูดด้วย ชั้นยังไม่ถึงอย่างเพิ่งออกมา ผมพูดกับนายไม่ได้พูดกับบ่าว หรือลิ่วล้อ ถ้าฝ่ายที่ผมพูดถึงเห็นว่ามีอะไรไม่ถูกต้องก็โต้มา”
นักวิชาการเตือนปิดฝายิ่งระเบิด
นายยุทธพร อิสรชัย รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช กล่าวว่า การแสดงออกทางเสรีภาพของ 14 นักศึกษา หากทำโดยสุจริตรัฐบาลก็ควรผ่อนปรนบ้าง แม้จะผิดกฎหมาย แต่ตามระบอบประชาธิปไตย สิ่งสำคัญคือสิทธิและเสรีภาพในการแสดงออก หากนักศึกษาจัดกิจกรรมเล็กๆ ไม่ใช่ระดมคนมาชุมนุมประท้วง รัฐบาลก็ควรผ่อนคลาย เพื่อลดแรงกดดันทั้งภายในและภายนอกประเทศ เหมือนกาต้มน้ำหากเราปิดรูไม่ให้ไอน้ำออก กาก็จะระเบิดได้ ดังนั้นควรเปิดให้ไอน้ำออกมาได้บ้าง
“ยะใส” ท้วงรัฐบาลอย่าเหมาเข่ง
นายสุริยะใส กตะศิลา รองคณบดีวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า คสช.และรัฐบาลต้องไม่เหมารวมการเคลื่อนไหวหรือการจัดกิจกรรมนักศึกษา เป็นกลุ่มต่อต้านรัฐบาลทั้งหมด ต้องจำแนกเป็นกลุ่ม เชื่อว่าการข่าวของฝ่ายความมั่นคงรู้ดี และมีข้อมูลที่จำแนกแยกแยะได้ว่าการเคลื่อนไหวของแต่ละกลุ่มมีเป้าประสงค์ระดับใด การเหมารวมใช้มาตรการทางกฎหมายและข้ออ้างความมั่นคงจัดการหมด ไม่ได้แก้ปัญหาและอาจลุกลามได้ ส่วนกลุ่มที่เคลื่อนไหว โดยเฉพาะกลุ่มที่ทำกิจกรรมบนฐานปัญหาชาวบ้าน ต้องมีจังหวะก้าว ไม่ปล่อยให้ปัญหาชาวบ้านไปปะปนกับกลุ่มต้าน คสช. หรือกลุ่มอำนาจเก่าที่เสียประโยชน์ ซึ่งหาพื้นที่หาโอกาสอยู่แล้ว เพราะจะถูกมองว่าไม่บริสุทธิ์มีเบื้องหลังไปด้วย นอกจากนี้ต้องระมัดระวังการเผชิญหน้าของประชาชนด้วยกันเอง
นศ.มธ.เผยกลุ่มวัยรุ่นเริ่มป่วน
ทางด้านการเคลื่อนไหวของกลุ่มต่อต้านรัฐประหาร วันเดียวกัน ที่ลานโพธิ์ มหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ กลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในนามขบวนการประชาธิปไตยใหม่ ยังคงทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ ขังตัวเองอยู่ในกรงขังจำลอง เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลปล่อยตัว 14 นักศึกษา ซึ่งตลอดทั้งวันยังคงมีประชาชนทยอยเดินทางมาให้กำลังใจ โดยนายปิยรัช จงเทพ นักศึกษาคณะนิติศาสตร์ ชั้นปีที่ 2 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หนึ่งในนักศึกษาที่ร่วมเรียกร้อง กล่าวว่า ก่อนหน้านี้กลุ่มของตนปักหลักค้างคืนกันในกรงจำลองแห่งนี้ แต่เมื่อ 2 วันที่ผ่านมา มีผู้ไม่หวังดีเข้ามาก่อกวนถึง 2 ครั้ง
โดยครั้งแรกประมาณ 2 ทุ่ม มีกลุ่มวัยรุ่นแต่งตัวคล้ายเด็กช่างกล ขับรถมอเตอร์ไซค์มาจอดไว้ที่บริเวณนอกรั้วแล้วเข้ามาพูดจาข่มขู่ว่า “พวกมึงทำอะไรกัน เดี๋ยวกูตบแม่_เลย” และครั้งที่ 2 ช่วงค่ำเป็นวัยรุ่นมากัน 2-3 คน เข้ามาก่อกวนในทำนองเดียวกัน พวกตนจึงประสานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.น.1 ส่งเจ้าหน้าที่มาดูแลความปลอดภัย และตกลงกันว่าเพื่อความปลอดภัย หลัง 4-5 ทุ่มจะพากันไปพักที่ตึกกิจกรรมนักศึกษาภายในมหาวิทยาลัย และจะออกมาทำกิจกรรมในช่วงเช้ามืด จนกว่าจะมีการปล่อยตัวเพื่อนทั้ง 14 คนอย่างไม่มีเงื่อนไข
นศ.มช.ร่วมกดดันให้ปล่อยตัวเพื่อน
ช่วงค่ำวันเดียวกันที่ประตูหน้ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ถนนห้วยแก้ว อ.เมืองเชียงใหม่ กลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่เกือบร้อยคน นัดหมายผ่านโซเชียลมาร่วมกันแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ โดยในกิจกรรมมีการนำแผ่นกระดาษเขียนข้อความเรียกร้องขอให้ปล่อยตัวนักศึกษาทั้ง 14 คน และเรียกร้องประชาธิปไตยที่มาจากการเลือกตั้ง สลับการเล่นกีตาร์ ร้องเพลง และอ่านบทกวี มีการนำนักศึกษามาเป็นหุ่นผูกผ้าปิดหูปิดตาจนมองอะไรไม่เห็น โดยมีนายนิธิ เอียวศรีวงศ์ อดีตอธิการมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน เข้าร่วมกิจกรรมด้วย ท่ามกลางทหารตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบเกือบ 100 นายจับตาดูอย่างใกล้ชิด พร้อมบันทึกภาพถ่ายเอาไว้ทั้งหมด
“เทียนฉาย” รับปฏิรูปขัดลำกล้อง
วันเดียวกัน นายเทียนฉาย กีระนันทน์ ประธานสปช. กล่าวถึงความคืบหน้าการปฏิรูปประเทศว่า ขณะนี้มีความเป็นห่วง เพราะ สปช.เริ่มต้นตั้งนิยามคำว่า “ปฏิรูป” ไม่ตรงกับรัฐบาลและ คสช. เมื่อถามว่า ดูเหมือนแม่น้ำ 2 สาย คือ สปช.และกมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ กำลังจะแห้งเหือดลงไปเรื่อยๆ นายเทียนฉายตอบว่า สปช.ไม่ใช่แม่น้ำ แต่เป็นแควน้อยที่ขณะนี้ยังมีน้ำอยู่ แต่อีก 2 เดือนน้ำจะหมดแล้วและยังตื้นเขินด้วย จริงๆแล้ว แม่น้ำสายหลักมีสายเดียว แต่เราพยายามมองภาพว่ามีแม่น้ำ 5 สาย แม้ช่วงหนึ่งเราจะมองเห็นเป็นแม่น้ำ 4-5 สายจริง แต่ข้อเท็จจริงเป็นภาพลวงตา แม่น้ำ 5 สายที่มาจากต้นตอเดียวกันนั้นไม่ใช่บางแควอาจจะถูกปิดลงก็ได้
เชื่อต้องแก้ รธน.ชั่วคราวอีกรอบ
นายเทียนฉายกล่าวว่า ส่วนตัวมองว่าอาจต้องมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวอีกครั้ง เพราะการแก้ไขรัฐธรรมนูญชั่วคราวที่ผ่านมาดูแล้วยังงง ถ้าต้องการให้การปฏิรูปเสร็จ รัฐธรรมนูญชั่วคราวขณะนี้ก็เอาอยู่ แต่ถ้าต้องการให้การปฏิรูปสำเร็จต้องมีการปรับตัวรัฐธรรมนูญกันอีก ทั้งนี้ ต้องรอดูหน้าตาสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศก่อนว่าหน้าตาจะเป็นอย่างไร แต่การจะไปหวังผลให้สภาขับเคลื่อนฯ 200 คน ทำให้การปฏิรูปสำเร็จคงไม่ใช่ หากหวังผลการปฏิรูปให้สำเร็จ ควรใช้รัฏฐาธิปัตย์เลือกผู้ที่มีคุณสมบัติพร้อมเข้ามาทำถึงจะสำเร็จ
ส่งซิกไม่ต่อวีซ่านั่งสภาขับเคลื่อนฯ
เมื่อถามว่า หากจะให้ทำงานต่อเป็นสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศจะรับหรือไม่ นายเทียนฉายตอบว่า คิดว่าเขาควรจะเข็ดตน และตนก็เข็ดกับการเมือง ส่วนตัวเห็นว่าการปฏิรูปเป็นการทำการบ้าน แต่เมื่อมันมีปัญหาจนเป็นการเมืองแล้ว ทำให้รู้สึกว่างานวิชาการมันถูกเปลี่ยนสภาพไป
“ถ้าผมต้องมีความรับผิดชอบกับคนที่ตั้งผม ถ้าผมเห็นว่าจะต้องซ้ายหัน แล้วเขาบอกให้กลับหลังหัน แล้วผมจะทำอย่างไร คำตอบอยู่ที่นั่นล่ะ ผมไม่เคยคิดทำงานบริษัทเลย เพราะรู้ว่าการทำงานบริษัทต้องทำตามเจ้าของ ผมหักหลังเขาไม่ได้ นี่คือที่มาว่าทำไมผมต้องเป็นอย่างนี้ เลี้ยงเป็ดดีที่สุดแล้ว”
“วันชัย” ขอดูสถานการณ์ก่อนโหวต
นายวันชัย สอนศิริ โฆษกวิป สปช. กล่าวว่า บรรยากาศขณะนี้เป็นวาระปฏิรูปมากกว่าวาระของรัฐธรรมนูญ ร่างรัฐธรรมนูญของ กมธ.ยกร่างฯจะผ่านหรือไม่ จะคว่ำหรือหงาย ยังเป็นการสงวนท่าทีกันอยู่ บางกลุ่มรอดูร่างรัฐธรรมนูญที่แก้ไขแล้วก่อน บางกลุ่มก็ชัดเจนว่ายังไงๆต้องให้ผ่านไปก่อนเพราะร่างมากับมือ แต่บางกลุ่มรอดูบรรยากาศและสถานการณ์การเมืองในขณะนั้น ว่าเหมาะสมหรือสมควรมากน้อยเพียงใดที่จะให้มีการเลือกตั้ง ซึ่งมีไม่น้อยที่ดูทั้งร่างรัฐธรรมนูญและดูทั้งความพร้อมของบ้านของเมือง สำหรับตนจะรอดูว่ามีกลไกที่จะแก้ไขปัญหาประเทศได้จริงหรือไม่ และยังต้องดูด้วยว่าของดีเหมาะสมกับสถานการณ์ในขณะนั้นแล้วหรือยัง ถ้าบรรยากาศและสถานการณ์ยังไม่เหมาะสม ยังไม่เรียบร้อย ยังไม่พร้อมจะเลือกตั้ง เอาของดีมาใช้ก็เสียเปล่า
“อลงกรณ์” ปัด สปช.ขอโหวตลับ
นายอลงกรณ์ พลบุตร เลขานุการวิป สปช. กล่าวถึงกระแสข่าวว่ามีสมาชิก สปช. จะเสนอให้การโหวตร่างรัฐธรรมนูญเป็นการลงมติแบบลับ ว่า สปช.ยังไม่มีการพิจารณาใดๆจนกว่าจะได้รับร่างรัฐธรรมนูญจาก กมธ.ยกร่างฯ ในวันที่ 22 ส.ค. และวิธีการดำเนินการต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ และยังไม่มีสมาชิกเสนอเรื่องดังกล่าวเข้ามา การโหวตร่างรัฐธรรมนูญควรเป็นแบบเปิดเผย ไม่มีความจำเป็นต้องปิดบังซ่อนเร้น ประชาชนควรได้เห็นการออกเสียง ว่า สปช.กล้าแสดงตนต่อเรื่องร่างรัฐธรรมนูญ นอกจากนี้ยังเป็นหน้าที่และความรับผิดชอบด้วย กระบวนการจึงต้องโปร่งใส เปิดเผยเพื่อให้ประชาชนตรวจสอบได้
รับหนักใจแก้ตรงใจทุกฝ่ายไม่ได้
นายคำนูณ สิทธิสมาน โฆษก กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงการปรับแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ ว่า ยอมรับว่าเป็นเรื่องยากที่จะแก้ไขให้เป็นไปตามที่ทุกกลุ่มต้องการ แต่ต้องพยายามทำให้ดีที่สุด อะไรที่เป็นเจตนารมณ์ดั้งเดิมของประชาชน กมธ.ยกร่างฯต้องพยายามคงไว้ เข้าใจว่าคำขอแก้ไขจาก สปช.และ ครม. มีจุดประสงค์ที่จะไม่ให้ตั้งองค์กรใหม่ๆขึ้นมา กมธ.ยกร่างฯก็ต้องพยายามทำให้เกิดความชัดเจน อาทิ เรื่องสมัชชาพลเมืองที่จะคงไว้ ก็ต้องให้เข้าใจว่าไม่ได้เป็นองค์กรใหม่ แต่เป็นกระบวนการของภาคประชาชน แม้รัฐธรรมนูญจะไม่ออกมาแต่ต้องมีอยู่แล้ว เราพยายามลดความซ้ำซ้อนองค์กรต่างๆ ไม่ให้เกิดองค์กรใหม่ขึ้นมา แต่เรื่องสิทธิและแนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐ จะยังคงสาระตามเดิม ส่วนผลสำรวจของประชาชนจะมีผลต่อการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญครั้งสุดท้ายมากน้อยแค่ไหน ตนตอบไม่ได้ ต้องขึ้นอยู่กับในแต่ละประเด็น
“สิงห์ชัย” ตอก สปช.อย่ามัวแต่จ้อ
นายสิงห์ชัย ทุ่งทอง อดีต ส.ว.อุทัยธานี กล่าวว่า มองว่า พ.ต.ท.ทักษิณเป็นเพียงสัญลักษณ์ที่มีกลุ่มคนชื่นชมในผลงาน แต่ปัจจุบันประชาชนได้ก้าวข้ามความเป็นทักษิณไปหมดแล้ว วันนี้อยากแนะนำ สปช.ทั้งหลายว่า ควรสงบปากสงบคำ พูดให้น้อยลง หรือเลิกพูดเรื่องทักษิณไปเลยจะดีกว่า แล้วลงมือทำงานที่รับผิดชอบอยู่ ผลงานที่ผ่านมาปีกว่ายังไม่เห็นอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ควรเอาเวลามาแก้ปัญหาให้ประชาชน ปฏิรูปงานที่อยู่ในมือให้สำเร็จ เช่น วิกฤติด้านการจัดการน้ำที่เป็นปัญหาใหญ่อยู่ตอนนี้ หากทำสำเร็จจนประชาชนมีความสุข พวกเขาจะลืม พ.ต.ท.ทักษิณกันไปเอง วันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รู้ดีว่าต้องวางตัวเป็นกลางและจะทำอะไรต่อไป
เด็ก ปชป.เบรก ทร.ซื้อเรือดำน้ำ
อีกเรื่อง นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับกรณีที่รัฐบาลเตรียมอนุมัติงบประมาณ 3.6 หมื่นล้านบาท จัดซื้อเรือดำน้ำจากประเทศจีน 3 ลำ เห็นว่ายังไม่มีความจำเป็นตอนนี้ เพราะประเทศกำลังเกิดภัยแล้ง ของแพง ข้าราชการทุจริตฉ้อฉล รัฐบาลควรชะลอการซื้ออาวุธทุกเหล่าทัพ จะมาอ้างว่ามีภัยคุกคามไม่ได้ เพราะเปิดประเทศเข้ากลุ่มอาเซียนหมดแล้ว และเกรงว่าเรือดำน้ำชั้นหยวน มันจะเป็นหยวนๆแบบไทยมากกว่า ไม่ได้ขัดขวางการพัฒนาของกองทัพ แต่ควรดูสถานการณ์ประเทศ ปากท้องประชาชนที่เดือดร้อนสาหัส นับแต่ พ.ต.ท.ทักษิณสร้างปัญหาทิ้งไว้ให้ เกรงว่าที่สุดโครงการนี้จะไปซ้ำรอยกับรถถังยูเครน หรือเรือเหาะ 350 ล้านบาท ที่จากเรือเหาะกลายเป็นเรือจอด จากเรือดำน้ำจะกลายเป็นเรือจมน้ำ จึงไม่อยากให้กองทัพหรือ คสช.เสียรังวัด ตกเป็นขี้ปากของใคร
พท.ตอก ป.ป.ช.ทำตัวน่ากังขาเอง
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตามที่นายวิชา มหาคุณ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ระบุว่า คนอีสาน เหนือ ถูกครอบงำให้เชื่อว่า ป.ป.ช.สองมาตรฐาน ถือเป็นใบเสร็จชิ้นสำคัญที่จะมัดตัวนายวิชา ว่ามีทัศนคติและความเชื่ออย่างไรในการทำหน้าที่ โครงการจำนำข้าวใช้เวลาแค่ 21 วัน รวบรัด ตัดพยานหลักฐาน เร่งดำเนินคดีเต็มที่ ขณะที่คดีประกันราคาข้าวใช้เวลา 4 ปี คดี ปรส. 8 แสนล้านบาท คดีทุจริตโรงพักทั่วประเทศ ไม่มีความคืบหน้า แค่นี้ก็ถือว่าชัดเจนมากแล้วกับข้อกล่าวหาสองมาตรฐาน รัฐบาลที่เยียวยาเพื่อมุ่งสู่ความปรองดอง ถูกชี้มูลความผิด แต่กรณีสลายการชุมนุมที่เป็นต้นเหตุแห่งความตาย ใครเสนอตัวเป็นพยานที่เป็นประโยชน์กับบางฝ่ายอ้าแขนรับหมด แล้วจะไม่ให้ประชาชนสงสัยได้อย่างไร
เตือนรัฐบาล ศก.เข้าขั้นโคม่า
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย ขอเตือน ครม. ให้เตรียมตัวรับมือกับภาวะเศรษฐกิจครึ่งปีหลังให้ดี เพราะส่อแววอาการหนัก อย่าคิดว่าทำงานแบบไม่มีฝ่ายค้านตรวจสอบแล้วจะทำงานสบายๆได้ เห็นได้จากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคลดลงต่ำสุดในรอบ 12 เดือน การส่งออกที่ติดลบตลอด 5 เดือน และยอดขายรถยนต์ 5 เดือนถดถอยอย่างหนัก แสดงให้เห็นประสิทธิภาพที่อ่อนด้อยในการบริหารของทีมเศรษฐกิจรัฐบาล และยิ่งมาเจอกับภาวะภัยแล้ง ยังไม่เห็นว่ารัฐบาลจะมีแนวทางช่วยเหลืออย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งอีก 3 เดือนข้างหน้าผลกระทบจากภัยแล้ง ราคาสินค้าการเกษตรตกต่ำ จะส่งผลให้เกิดภาวะชักหน้าไม่ถึงหลัง และจะส่งผลต่อการจัดเก็บภาษีของรัฐบาล อาจทำให้เกิดภาวะรัฐบาล “บักโกรก ไส้แห้ง ถังแตก ตูดขาด” ได้
ชาวบ้านห่วงภัยแล้ง–สินค้าแพง
อีกด้าน สวนดุสิตโพล เปิดผลสำรวจความคิด เห็น “10 ข่าวที่ประชาชนให้ความสนใจเป็นพิเศษ” พบว่า อันดับ 1 ร้อยละ 87.19 เป็นเรื่องภัยแล้ง รองลงมาคือข่าวนักศึกษาประท้วง สินค้าแพง การร่างรัฐธรรมนูญ คดีเสี่ยสมยศ (สุธางค์กูร) ถูกฆาตกรรม เรื่องการเลือกตั้ง วิกฤติหนี้กรีซ ภัยสังคม ข่าวธนาคารไทยพาณิชย์ เลือกรับผู้จบการศึกษาจากบางสถาบันการศึกษาเข้าทำงาน
ที่มา ; เว็บ นสพ.ไทยรัฐ
ที่มา ; เว็บ นสพ.ไทยรัฐ
( คลิ๊ก ) สมัครพัฒนาความรู้
เตรียมสอบผู้บริหารสถานศึกษา (รอบ 2)
เตรียมสอบครูผู้ช่วย
ฟรี... ห้องเตรียมสอบ-ครูผู้ช่วย
-ผู้บริหาร-บุคลากรการศึกษา ที่
( คลิ๊ก ) สมัครพัฒนาความรู้
เตรียมสอบผู้บริหารสถานศึกษา (รอบ 2)
เตรียมสอบครูผู้ช่วย
ฟรี... ห้องเตรียมสอบ-ครูผู้ช่วย
-ผู้บริหาร-บุคลากรการศึกษา ที่
" ติวสอบดอทคอม " โดย อ.นิกร
เว็บฟรีข้อสอบออนไลน์
(เตรียมสอบครู-ผู้บริหาร-บุคลากร การศึกษา)
" ติวสอบดอทคอม " โดย อ.นิกร
เว็บฟรีข้อสอบออนไลน์
(เตรียมสอบครู-ผู้บริหาร-บุคลากร การศึกษา)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น