หน้าหลัก ติวสอบดอทคอม เว็บฟรีข้อสอบออนไลน์

หน้าหลัก ติวสอบดอทคอม เว็บฟรีข้อสอบออนไลน์
หน้าหลัก ติวสอบดอทคอม เว็บฟรีข้อสอบออนไลน์

พัฒนาความรู้ สู่ รอง./ผอ.รร. ปี 2566

พัฒนาความรู้ สู่ รอง./ผอ.รร. ปี 2566
พัฒนาความรู้ สู่ รอง./ผอ.รร. ปี 2566

คลิ๊ก "สมัครพัฒนาความรู้สู่ผู้บริหาร / ครูผู้ช่วย

คลิ๊ก... สมัคร พัฒนาความรู้ สู่ ครูผู้ช่วย
คลิ๊ก... สมัคร พัฒนาความรู้ สู่ ผู้บริหาร

ติวสอบดอทคอม (เตรียมสอบครูผู้ช่วย-ผู้บริหาร-บุคลากร การศึกษา)

ติวสอบดอทคอม (เตรียมสอบครูผู้ช่วย-ผู้บริหาร-บุคลากร การศึกษา)
ติวสอบดอทคอม (เว็บฟรีข้อสอบออนไลน์ สอบครู ผู้บริหาร บุคลากร)

วันเสาร์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2556

ศธ.แถลงข่าวผลประเมิน PISA ปี 2012


ติวสอบออนไลน์ ชุด นโยบายรัฐบาล


ลิงค์ข้อสอบ  ที่เกี่ยวข้องกับ  "นโยบายรัฐบาล"  โดย ติวสอบดอทคอม

คลิ๊ก )  สมัครติวสอบครูผู้ช่วย รอบ 2 ปี 56-57 (10 จุด) ที่


ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี 418/2556 ศธ.แถลงข่าวผลประเมิน PISA ปี 2012
 โรงแรม S31 – นายจาตุรนต์ ฉายแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานการแถลงข่าวผลการประเมินโครงการประเมินนักเรียนนานาชาติ Programme for International Student Assessment : PISA ประจำปี 2012 โดยมีนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ดร.กิตติ ลิ่มสุกล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ รวมทั้งผู้บริหาร และสื่อมวลชน เข้าร่วมกว่า 100 คน จัดโดยสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2556 ที่ห้องบอลรูม 2 ชั้น 5
  
 รมว.ศธ.กล่าวว่า จากการที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้ประกาศนโยบายให้ผลการจัดอันดับการศึกษาไทย ผลการประเมิน PISA ของไทยให้ดีขึ้น และให้เป็นส่วนหนึ่งของการรวมพลังยกระดับคุณภาพการศึกษา เนื่องจากเห็นว่าการประเมินของ PISA ทั้ง 3 ด้าน ได้แก่ การรู้เรื่องคณิตศาสตร์ การรู้เรื่องการอ่าน และการรู้เรื่องวิทยาศาสตร์ เป็นการประเมินที่สำคัญและเป็นประโยชน์ต่อการส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนมีทักษะการคิดวิเคราะห์ ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญในการเรียนรู้
 โดย ศธ.จะศึกษาวิเคราะห์เปรียบเทียบผลการประเมิน PISA ปี 2012 ทั้งภายในประเทศ เป็นรายกลุ่มโรงเรียนและรายวิชา เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจผลการจัดการศึกษาของประเทศ รวมทั้งเปรียบเทียบกับประเทศอื่นด้วย ซึ่งคณะกรรมการขับเคลื่อนการเลื่อนอันดับ PISA จะได้มีการหารือและจัดทำกลไก กระบวนการ แผนปฏิบัติการขึ้นมารองรับการทำงานอย่างต่อเนื่องจริงจังทั้งระบบ เพื่อยกระดับผลการประเมินให้ดีขึ้น รวมทั้งกำหนดอันดับในการประเมิน PISA ครั้งต่อไป (ปี 2558) ว่าควรจะอยู่ในอันดับที่เท่าใด ซึ่งทั้งหมดนี้จะไม่กำหนดจากเจตนารมณ์ด้านนโยบายเพียงอย่างเดียว แต่จะอาศัยพื้นฐานทางด้านวิชาการและข้อเท็จจริงมาประกอบ โดยคาดว่าจะจัดกลไกและกระบวนการขึ้นมารองรับได้ภายใน 1-2 สัปดาห์ จากนั้นจะเผยแพร่และรณรงค์อย่างกว้างขวางต่อไป
 
 
 ภาพ สถาพร ถาวรสุข

ทั้งนี้ ผลการประเมิน PISA ในปี 2012 ซึ่งประกาศและเผยแพร่ผล เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2556 ตามเวลาในประเทศไทย โดยประเมินจากนักเรียนกลุ่มตัวอย่างอายุ 15 ปี จำนวน 510,000 คน จาก 65 ประเทศ/เขตเศรษฐกิจ ในจำนวนนี้เป็นกลุ่มตัวอย่างของนักเรียนไทย 6,606 คน จาก 239 โรงเรียนทุกสังกัด สรุปดังนี้
 ผลการประเมินภาพรวม
  •  ประเทศ/เขตเศรษฐกิจในเอเชีย ได้แก่ เซี่ยงไฮ้-จีน สิงคโปร์ ฮ่องกง-จีน ญี่ปุ่น เกาหลี และมาเก๊า-จีน มีผลการประเมินทั้ง 3 วิชา อยู่ในกลุ่มบนสุด
  •  ประเทศตะวันตก ที่มีผลการประเมินอยู่ในกลุ่มบนสุดทุกวิชาหรือบางวิชา ได้แก่ ฟินแลนด์และโปแลนด์ มีคะแนนการอ่านและวิทยาศาสตร์อยู่ในกลุ่มบนสุด, ลิกเตนสไตน์ สวิตเซอร์แลนด์ และเนเธอร์แลนด์ มีคะแนนคณิตศาสตร์อยู่ในกลุ่มบนสุด, รวมทั้งเอสโตเนีย เวียดนาม และแคนาดา มีคะแนนวิทยาศาสตร์อยู่ในกลุ่มบนสุด
  •  ใน 10 อันดับแรก เป็นประเทศ/เขตเศรษฐกิจในเอเชีย 7 ประเทศ/เขตเศรษฐกิจ รวมทั้งเวียดนามที่เพิ่งเข้าร่วมโครงการในปีนี้เป็นครั้งแรกด้วย
  •  สำหรับประเทศไทย มาเลเซีย และอินโดนีเซีย มีคะแนนต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของ OECD ทั้ง 3 วิชา ซึ่งลำดับการประเมินของไทย ยังคงอยู่ในอันดับที่ 50
 ผลการประเมินรายวิชา
 1. การรู้เรื่องคณิตศาสตร์
  •  ค่าเฉลี่ย OECD ของคณิตศาสตร์ ในปี 2012  ใช้คะแนนมาตรฐานที่ 494 คะแนน โดยมี 10 ประเทศ/เขตเศรษฐกิจที่มีคะแนนสูงสุด ได้แก่ เซี่ยงไฮ้-จีน 613 คะแนน สิงคโปร์ 573 คะแนน ฮ่องกง-จีน 561 คะแนน จีนไทเป 560 คะแนน เกาหลี 554 คะแนน มาเก๊า-จีน 538 คะแนน ญี่ปุ่น 536 คะแนน ลิกเตนสไตน์ 535 คะแนน สวิตเซอร์แลนด์ 531 คะแนน และเนเธอร์แลนด์ 523 คะแนน
  •  สำหรับประเทศไทย มีคะแนนเฉลี่ย 427 คะแนน ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ย OECD เกือบถึงหนึ่งระดับ และอยู่ในกลุ่มเดียวกับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ คาซัคสถาน ชิลี และมาเลเซีย ทั้งนี้มีประเทศในเอเชียที่มีคะแนนต่ำกว่าไทยเพียงประเทศเดียว คือ อินโดนีเซีย  อย่างไรก็ตาม แนวโน้มคณิตศาสตร์นักเรียนไทย เมื่อเทียบกับการประเมินคณิตศาสตร์ที่เป็นวิชาหลักใน PISA 2003-2009 พบว่า มีแนวโน้มสูงขึ้น แต่มีแนวโน้มลดต่ำลงเมื่อเทียบกับ PISA 2000 ซึ่งเป็นการประเมินครั้งแรก
 2. การรู้เรื่องการอ่าน 
  •  ค่าเฉลี่ย OECD ของการอ่าน ในปี 2012 โดยมี 10 ประเทศ/เขตเศรษฐกิจที่มีคะแนนสูงสุด ได้แก่ เซี่ยงไฮ้-จีน 570 คะแนน ฮ่องกง-จีน 545 คะแนน สิงคโปร์ 542 คะแนน ญี่ปุ่น 538 คะแนน เกาหลี 536 คะแนน ฟินแลนด์ 524 คะแนน ไอร์แลนด์,จีนไทเป,แคนาดา 523 คะแนน และโปแลนด์ 518 คะแนน
  •  สำหรับประเทศไทย มีคะแนนเฉลี่ยการอ่าน 441 คะแนน มีสัญญาณทางบวกที่ชี้ว่า การอ่านของนักเรียนไทยหยุดตกต่ำลง นับจาก PISA 2009 นักเรียนไทยมีคะแนนเฉลี่ยสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แต่ก็ยังมีคะแนนต่ำกว่าค่าเฉลี่ย OECD เกือบหนึ่งระดับ ซึ่งอยู่ในกลุ่มเดียวกับเซอร์เบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ชิลี คอสตาริกา โรมาเนีย และบัลแกเรีย  ทั้งนี้ แนวโน้มการอ่านของนักเรียนไทยต่างกลุ่มโรงเรียน พบว่า นักเรียนจากกลุ่มโรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัยและกลุ่มโรงเรียนสาธิต มีคะแนนการอ่านสูงกว่าค่าเฉลี่ย OECD  ส่วนโรงเรียนอื่นๆ มีคะแนนต่ำกว่าค่าเฉลี่ย OECD ทั้งหมด
 3. การรู้เรื่องวิทยาศาสตร์ 
  •  ค่าเฉลี่ย OECD ของวิทยาศาสตร์ในปี 2012  โดยมี 10 ประเทศ/เขตเศรษฐกิจที่มีคะแนนสูงสุด ได้แก่ เซี่ยงไฮ้-จีน 580 คะแนน ฮ่องกง-จีน 555 คะแนน สิงคโปร์ 551 คะแนน ญี่ปุ่น 547 คะแนน ฟินแลนด์ 545 คะแนน เอสโตเนีย 541 คะแนน เกาหลี 538 คะแนน เวียดนาม 528 คะแนน โปแลนด์ 526 และแคนาดาและลิกเตนสไตน์ 525 คะแนน ทั้งนี้ใน 10 อันดับแรกเป็นประเทศ/เขตเศรษฐกิจจากเอเชีย 6 ประเทศ/เขตเศรษฐกิจ
  •  สำหรับประเทศไทย มีคะแนนเฉลี่ยวิทยาศาสตร์ 444 คะแนน ซึ่งมีแนวโน้มสูงขึ้นเมื่อเทียบกับ PISA 2009 (425 คะแนน) และPISA 2000 (436 คะแนน) แต่ยังคงต่ำกว่าค่าเฉลี่ย OECD มากกว่าครึ่งระดับ
 
 
 ข้อสรุปและนัยทางการศึกษาในระดับนานาชาติ ของ สสวท.
  •  ผลการประเมิน PISA 2012 พบว่า คุณภาพการศึกษาไทยยังห่างไกลจากความเป็นเลิศ เมื่อเทียบกับประเทศเอเชียตะวันออก แต่ความตกต่ำได้หยุดลงและการยกระดับได้เริ่มปรากฏใน PISA 2009 และเพิ่มสูงขึ้นในวิชาการอ่านและวิทยาศาสตร์อย่างชัดเจนใน PISA 2012
  •  เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงระบบการศึกษา ทำให้เกิดแปรปรวนทั้งระบบและต้องใช้เวลานานในการปรับตัว ดังนั้น เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงระบบ ควรมีการพิจารณาทบทวนผลกระทบที่จะทำให้เกิดความตกต่ำดังเช่นรอบที่ผ่านมา และการเปลี่ยนแปลงนั้นควรอยู่บนฐานของข้อมูลมากกว่าความคิดเห็น
  •  ระบบการศึกษาต้องสร้างความเท่าเทียมกันทางการศึกษา ทั้งโอกาสการเข้าโรงเรียนและคุณภาพการเรียนรู้
  •  ควรพัฒนาทักษะด้านการอ่านของนักเรียนทั้งกลุ่มสูงและกลุ่มต่ำ  เพราะทักษะทางภาษามีค่าสหสัมพันธ์สูงมากกับวิชาคณิตศาสตร์และใกล้เคียงกับวิชาวิทยาศาสตร์ เมื่อคุณภาพการอ่านต่ำ ทำให้วิชาอื่นมีคะแนนต่ำไปด้วย
  •  ควรใช้ระบบการเรียนการสอนในโรงเรียนกลุ่มคะแนนสูงเป็นตัวแบบ และศึกษารายละเอียดกรณีนักเรียนโรงเรียนขยายโอกาส (สพฐ.1) มีคะแนนการประเมิน PISA 2012 สูงขึ้นมาก เพื่อใช้เป็นตัวแบบในการยกระดับคุณภาพการศึกษาด้วย
  •  ระบบการศึกษาไทยดีอยู่แล้ว แต่กระจุกตัวอยู่เฉพาะกลุ่มหรือเฉพาะพื้นที่เท่านั้น หากระดับนโยบายสามารถขยายระบบการศึกษาที่ดีไปสู่โรงเรียนทั่วประเทศ โรงเรียนในชนบท ไปสู่นักเรียนและโรงเรียนที่มีสถานะเศรษฐกิจสังคมและวัฒนธรรมต่ำ ก็จะทำให้ประเทศไทยมีผลการประเมินเทียมบ่าเทียมไหล่กับนานาชาติ

ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี ศธ. 


กพฐ.เปิดรับสมัครสอบครูผู้ช่วย 9-15 ธ.ค.นี้ จัดสรรงบประมาณ 4,700 อัตรา ด้าน ผอ-รอง ผอ.แบ่งสอบ 2 กลุ่ม คาดเปิดสอบ 60 ตำแหน่ง ระบุหากเคยเป็นหัวหน้าการประถมศึกษาไม่น้อยกว่า 5 ปี พิจารณาเป็นพิเศษ
กพฐ.ประกาศเปิดรับสมัครครูผู้ช่วย 9-15 ธ.ค.นี้ กว่า 4,700 อัตรา
ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต
       วันนี้ (26 พ.ย.)นายอภิชาติ จีระวุฒิ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้จัดทำร่างปฏิทินการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วยครั้งที่ 2 ปี พ.ศ.2556 เสร็จแล้ว และอยู่ระหว่างการเสนอคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) ระบบที่ทำหน้าที่แทนคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ซึ่งในปฏิทินจะมีการประกาศการรับสมัครวันที่ 9-15 ธ.ค.กำหนดการรับสมัครสอบแข่งขันระหว่างวันที่ 16-22 ธ.ค.ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิสอบคัดเลือกวันที่ 17 ม.ค.57 สอบคัดเลือกวันที่ 25-27 ม.ค.57 และคาดว่าจะประกาศผลสอบในเดือน ก.พ.57 โดยการสอบแข่งขันครั้งนี้จะให้คณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) เขตพื้นที่การศึกษาเป็นผู้ดำเนินการทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการสอบคัดเลือก การออกข้อสอบ การตรวจกระดาษคำตอบ การขึ้นบัญชีผู้สอบคัดเลือกได้ ทั้งนี้ในการสอบคัดเลือกจะมีการสอบภาค ก ภาค ข และการสอบภาค ค หรือการสอบสัมภาษณ์เพิ่มขึ้นมาจากการสอบครั้งที่ผ่านมาที่ได้ถูกยกเลิกไป ทั้งนี้สำหรับอัตราที่จะสอบบรรจุในคราวนี้อยู่ระหว่างการสำรวจจากเขตพื้นที่การศึกษาที่จะเปิดสอบแข่งขัน จึงจะทราบอัตราที่จะสอบบรรจุที่แท้จริง โดยขณะนี้มีอัตราที่ได้รับจัดสรรมาประมาณ 4,700 อัตรา แต่จะต้องจัดสรรอัตรา 25%ไปให้ในการสอบคัดเลือกครูกรณีที่มีความจำเป็น หรือเหตุพิเศษ ว12 ด้วย

       เลขาธิการ กพฐ.กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ สพฐ.ยังเตรียมการที่จะสอบคัดเลือกผู้บริหารสถานศึกษาสังกัด สพฐ.ในตำแหน่งรองผู้อำนวยการสถานศึกษา และผู้อำนวยการสถานศึกษา โดยจะแบ่งการสอบคัดเลือกออกเป็น กลุ่มทั่วไป และกลุ่มประสบการณ์ ซึ่ง สพฐ.ได้ขอแก้ไขหลักเกณฑ์ไปยัง ก.ค.ศ.เพื่อให้ปรับข้อสอบใหม่ให้มีเนื้อหาที่ชัดเจน มีความทันสมัยจะได้ไม่มีการได้เปรียบเสียเปรียบกัน อีกทั้งจะต้องมีการประกาศให้ทราบเรื่องนี้ล่วงหน้านานๆ ส่วนการขึ้นบัญชีผู้สอบคัดเลือกได้จะให้มีการขึ้นบัญชีเป็นรายเขตพื้นที่การศึกษา ทั้งนี้ก่อนจะสอบคัดเลือกดังกล่าว สพฐ.จะเรียกผู้ที่สอบขึ้นบัญชีรองผู้อำนวยการสถานศึกษาและผู้อำนวยการสถานศึกษาในปี 2555 มาบรรจุแต่งตั้งในตำแหน่งที่ยังว่างก่อน จากนั้นจึงจะนำอัตราว่างสุทธิไปสอบคัดเลือกครั้งใหม่ต่อไป สำหรับการสอบคัดเลือกผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (ผอ.สพม.) และผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (ผอ.สพป.) กำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการของ สพฐ.โดยมีอัตราว่างที่จะเปิดสอบรวมประมาณ 60 ตำแหน่ง 

       เมื่อถามว่ากรณีที่ สพฐ.จะมีการแก้มาตรฐานตำแหน่งเพื่อให้กลุ่มรอง ผอ.สพป.และรอง ผอ.สพม.สามารถสอบคัดเลือกเป็น ผอ.เขตพื้นที่การศึกษาข้ามสายได้ นายอภิชาติ กล่าวว่า ตนได้ทำหนังสือเวียนแจ้งไปยังเขตพื้นที่การศึกษาทั่วประเทศ เพื่อให้รอง ผอ.สพป.ที่คิดว่าตนเองมีประสบการณ์ตามมาตรฐานตำแหน่งของ ก.ค.ศ.ส่งหลักฐานมาให้ สพฐ.ตรวจสอบ เช่น เคยเป็นหัวหน้าการประถมศึกษาอำเภอแล้วมีโรงเรียนที่เปิดขยายโอกาสมัธยมศึกษามาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี จะมีการพิจารณาเป็นรายกรณีไปว่าจะมีประสบการณ์ตามที่กำหนดไว้ 5 ปี ตามมาตรฐานตำแหน่งของ ก.ค.ศ.หรือไม่ โดยเรื่องนี้สามารถเทียบเคียงประสบการณ์ได้และไม่จำเป็นต้องแก้เกณฑ์มาตรฐานตำแหน่งที่จะต้องใช้เวลา ส่วนกรณีของรอง ผอ.สพม.ที่ต้องการจะมาสมัครเป็น ผอ.สพป.ก็จะใช้เกณฑ์เดียวกันคือให้ส่งหลักฐานมาให้ สพฐ.ตรวจสอบเช่นกัน

ขอขอบคุณข่าวสาร/ข้อมูลดีๆ จากเว็บไซต์หนังสือพิมพ์ASTVผู้จัดการ

... เน็ตช้า คลิ๊กที่ http://tuewsob.blogspot.com

... ห้องวิชาเอกครู คลิ๊กที่ http://uewsob2011.blogspot.com

... (ห้องข้อสอบใหม่) ..สอบครู..สอบผู้บริหาร..สอบบุคลากร ที่


"ติวสอบดอทคอม "
ผอ.นิกร  เพ็งลี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

พัฒนาความรู้ครูผู้ช่วย 4 ภาค

พัฒนาความรู้ครูผู้ช่วย 4 ภาค
พัฒนาความรู้ครูผู้ช่วย 4 ภาค

ห้องสนทนา บน facebook

ห้องสนทนา บน facebook
ห้องสนทนาติวสอบดอทคอม

ข้อสอบออนไลน์ "ติวสอบดอทคอม" ชุดใหม่

คู่มือเตรียมสอบผู้บริหาร ภาค ก ข ค

แจ้งย้ายเว็บไปที่ www.tuewsob.com

คู่มือเตรียมสอบผู้บริหาร ภาค ก ข ค (ปรับปรุงใหม่)

รวม เล่ม + แผ่นพับ + ชีตช่วยจำ + DVD เนื้อหา + เสียงบรรยาย + EMS = 800 บาท
สนใจ คู่มือ ภาค ก ข ค ผู้บริหาร คลิ๊กเลย

สั่งจอง... โอนเงินเข้าชื่อบัญชี นายนิกร เพ็งลี ธนาคารกรุงไทย สาขาจอหอ บัญชีเลขที่ 341-1-38912-5 โอนเงินแล้วกรุณาโทรแจ้ง
0872494141 หรือ 0839660030

คู่มือ เตรียมสอบผู้บริหาร

คู่มือ เตรียมสอบผู้บริหาร
คู่มือ เตรียมสอบผู้บริหาร

ติวสอบออนไลน์ บน facebook

ติวสอบออนไลน์ บน facebook
ติวสอบออนไลน์ บน facebook

คลังหนังสือ ติวสอบดอทคอม

คลังหนังสือ ติวสอบดอทคอม
คลังหนังสือ ติวสอบดอทคอม

ติวสอบดอทคอม

ติวสอบดอทคอม
ติวสอบดอทคอม