อ่านชัด-อ่านครบ กด ดูเวอร์ชั่นสำหรับเว็บ (ด้านล่าง)
เรื่องใหม่น่าสนใจ (ทั้งหมด ที่ )
(เนื้อหา-ข้อสอบ 1,000 ชุุด หมื่นข้อ ภาค กข
+ 40 วิชาเอก) ที่ ห้องสอบด้านขวา หรือ
เว็บฟรีข้อสอบ 1,000 ชุด ที่ ติวสอบดอทคอม คลิ๊ก www.tuewsob.com โดย อ.นิกร
( คลิ๊ก ) สมัครพัฒนาความรู้
( คลิ๊ก ) สมัครพัฒนาความรู้
ข่าวที่ 221/2561ศปบ.จชต. ประกาศก้อง นำเด็กกว่า 2.7 หมื่นคนกลับเข้ามาเรียนได้สำเร็จ
ศูนย์ประสานงานและบริหารการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศปบ.จชต.) หรือกระทรวงศึกษาธิการ(ส่วนหน้า) จัดพิธีเปิดโครงการรายงานผลการดำเนินการแก้ปัญหาประชากรวัยเรียนที่อยู่นอกระบบการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อสาธารณชน โดยได้รับเกียรติจาก พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ หัวหน้าผู้แทนพิเศษของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ และ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานพิธีเปิด เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 5 กรกฎาคม 2561 ณ โรงแรมเซาท์เทิร์น วิว ปัตตานี
พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ กล่าวว่า การแก้ปัญหาประชากรวัยเรียนที่อยู่นอกระบบการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นหนึ่งในงานที่รัฐบาล นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้กระทรวงศึกษาธิการพัฒนาการศึกษาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้มีคุณภาพ พร้อมสร้างโอกาสในการเข้าถึงการศึกษาอย่างทั่วถึง การสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ และอยู่ร่วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรมอันดีงามตามประเพณี ด้วยหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ตลอดจนเท่าทันต่อวิทยาการและเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป
ซึ่งต้องยอมรับว่า ปัญหานี้เป็นปัญหาที่ค่อนข้างยากและสะสมมาเป็นเวลานาน แต่ด้วยความเพียรและมุ่งมั่นตั้งใจของทุกคน และทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในตลอด 7 เดือนที่ผ่านมา นับตั้งแต่การประกาศเจตนารมณ์ร่วมกันว่า "พวกเราจะร่วมติดตาม ช่วยเหลือ สนับสนุน แก้ไขปัญหา ให้เด็กวัยเรียนที่อยู่นอกระบบการศึกษาในพื้นที่รับผิดชอบ ได้เข้ารับการศึกษาในรูปแบบต่าง ๆ ครบทุกคน โดยเร็ว" เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2560 ที่โรงแรม ลี การ์เดนส์ พลาซ่า หาดใหญ่ โดยน้อมนำยุทธศาสตร์พระราชทานของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (รัชกาลที่ 9) "เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา" เป็นหลักคิดในการดำเนินงาน ตั้งแต่การจัดทำฐานข้อมูลนักเรียนของสถานศึกษาสังกัดต่าง ๆ การศึกษาระเบียบกฎหมาย ตลอดจนกำหนดแนวทางการดำเนินงาน ติดตาม ค้นหาสาเหตุ และจัดหาที่เรียน พร้อมกำหนดผู้รับผิดชอบดูแลนักเรียน และติดตามผลเป็นระยะ
จึงเกิดเป็นวันแห่งความภาคภูมิใจร่วมกันในครั้งนี้ ซึ่งมีผลการดำเนินโครงการแก้ปัญหาอยู่ในระดับที่น่าพึงพอใจ โดยสามารถนำประชากรวัยเรียนอายุระหว่าง 3-18 ปี เข้าสู่ระบบการศึกษาได้กว่า 27,376 คน คิดเป็นร้อยละ 60.45 ของจำนวนเด็กที่อยู่นอกระบบฯ แบ่งเป็น เด็กปกติ 12,759 คน เด็กออกกลางคัน 7,175 คน จบภาคบังคับ 5,573 คน และเด็กพิการ 1,869 คน พร้อมจะได้กำหนดมาตรการป้องกันดูแลและช่วยเหลือนักเรียนที่เข้มแข็ง เพื่อให้คงอยู่ในระบบการศึกษาและเติบโตเป็นเด็กเยาวชนที่ดีของชาติในอนาคต
ในส่วนของประชากรวัยเรียนอีกร้อยละ 40 ขอให้หน่วยงานทางการศึกษาร่วมกันพิจารณาแนวทางและวิธีการที่จะติดตามนำเข้ามาสู่ระบบการศึกษาให้ได้ครบทั้งหมดทุกคน พร้อมจัดระบบช่วยเหลือให้ได้เรียนจนจบการศึกษาขั้นพื้นฐานและมีงานทำ ไม่ว่าจะเข้าเรียนในระบบหรือนอกระบบ ในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน การอาชีวศึกษา ตลอดจนการอุดมศึกษาทั้งของภาครัฐและภาคเอกชน ซึ่งเมื่อวันนั้นมาถึงก็จะเป็นวันแห่งประวัติศาสตร์ของกระทรวงศึกษาธิการ ที่สามารถดำเนินการได้ตามคำกล่าวที่ว่า "เราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง: Leave no one behind" และเป็นไปตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 ที่กำหนดรัฐต้องจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน 15 ปี โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และเป็นการทำงานในหลักการ "คิดให้ครบ" คือสามารถดูแลประชาชนได้ครบถ้วนในทุกส่วน
ภารกิจครั้งนี้ ถือว่าประสบความสำเร็จแล้วในระดับหนึ่ง ด้วยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน จึงขอขอบคุณทุกคนทุกฝ่ายทั้งสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน และศูนย์ประสานงานและบริหารการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กระทรวงศึกษาธิการส่วนหน้า) ที่ริเริ่มและรวบรวมข้อมูลเชื่อมโยงสู่ระดับจังหวัดและอำเภอ โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำศาสนา และทุกองค์กรหลักของกระทรวงศึกษาธิการ ร่วมขับเคลื่อนงานแต่ละขั้นตอนจนมีความก้าวหน้ามาโดยลำดับ รวมทั้งประชาชน พ่อแม่ผู้ปกครองที่สนับสนุนให้บุตรหลานเข้ามาเรียนหนังสือ เพราะตระหนักถึงความสำคัญของการศึกษาที่จะเป็นรากฐานสำคัญของชีวิต
ดังนั้น การทำงานครั้งนี้จึงสำเร็จไม่ได้ด้วยกระทรวงศึกษาธิการเพียงกระทรวงเดียว แต่เป็นความร่วมมือของทุกฝ่ายในรูปแบบ "ประชารัฐ" ที่จะเป็นแบบอย่างของการทำงานที่ดีในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ และขยายไปยังพื้นที่อื่น ๆ ทั่วประเทศ ด้วยการทำงานของสำนักงาน กศน. ที่มีครู กศน. ทำงานเข้าถึงประชาชนและชุมชนในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ซึ่งจะเกิดประโยชน์กับการศึกษาของทั้งวันนี้และในอนาคตต่อไป
อย่างไรก็ตาม ต้องขอขอบคุณทุกภาคส่วนอีกครั้ง ที่ได้ร่วมขับเคลื่อนงานพัฒนาการศึกษาตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา โดยน้อมนำพระบรมราโชวาทในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร (ในหลวงรัชกาลที่ 10) ซึ่งทรงพระราชทานเกี่ยวกับการศึกษาที่ต้องมุ่งสร้างพื้นฐานให้แก่ผู้เรียน 4 ด้าน คือ 1) มีทัศนคติที่ถูกต้องต่อบ้านเมือง ที่ยึดมั่นในสถาบันชาติศาสนาพระมหากษัตริย์ รู้รักสามัคคี 2) มีพื้นฐานชีวิตที่มั่นคง มีคุณธรรมจริยธรรม ด้วยหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 3) มีงานทำ มีอาชีพสุจริต โดยหน่วยงานทางการศึกษาได้ร่วมตั้งศูนย์ ประสานงานการผลิตและพัฒนากำลังคนอาชีวศึกษา เพื่อดูแลตั้งแต่การจัดทำหลักสูตรพัฒนาทักษะฝีมือสอดคล้องกับความต้องการกำลังคน ที่จะทำให้เด็กจบการศึกษาแล้วมีงานทำ มีอาชีพมีรายได้ และ 4) เป็นพลเมืองดี ด้วยการปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรมด้านต่าง ๆ
ทั้งนี้ หากจะเปรียบว่าการศึกษาเป็นการปลูกต้นไม้ การดำเนินงานของกระทรวงศึกษาธิการส่วนหน้า ก็พร้อมจะเป็น "รากแก้ว" ให้กับต้นกล้าทุกต้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่จะพัฒนาให้เติบโตอย่างสมบูรณ์แข็งแรง สร้างความร่มเย็น สวยงาม และเจริญก้าวหน้าให้กับพื้นที่ได้อย่างมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ทั้งในวันนี้และวันหน้า
ที่มา; เว็บสำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงศึกษาธิการ
ข่าวที่ 221/2561ศปบ.จชต. ประกาศก้อง นำเด็กกว่า 2.7 หมื่นคนกลับเข้ามาเรียนได้สำเร็จ
ที่มา; เว็บสำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงศึกษาธิการ
( คลิ๊ก ) สมัครพัฒนาความรู้
เตรียมสอบติวสอบครูผู้ช่วยกรณีพิเศษ + ทั่วไป
โดย อ.นิกร ติวสอบดอทคอม เว็บฟรีสอบราชการ ครู ผู้บริหาร ฯลฯ
( คลิ๊ก ) สมัครพัฒนาความรู้
เตรียมสอบติวสอบครูผู้ช่วยกรณีพิเศษ + ทั่วไป
โดย อ.นิกร ติวสอบดอทคอม เว็บฟรีสอบราชการ ครู ผู้บริหาร ฯลฯ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น