กระทรวงศึกษาธิการ โดยสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา จัดพิธีมอบเครื่องหมายเชิดชูเกียรติและเกียรติบัตรแก่ครูภูมิปัญญาไทย รุ่นที่ 8 โดย รมช.ศธ."ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล" เป็นประธาน เพื่อยกย่องครูภูมิปัญญาไทยทุกท่านที่มีหน้าที่สำคัญในการถ่ายทอดองค์ความรู้ภูมิปัญญาไทย 9 ด้าน กลับคืนสู่การจัดการศึกษาของชาติ
เมื่อบ่ายวันพุธที่ 27 กันยายน 2560 ณ โรงแรมเอสดี อเวนิว กรุงเทพฯ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานในพิธีมอบเครื่องหมายเชิดชูเกียรติและเกียรติบัตรแก่ครูภูมิปัญญาไทย รุ่นที่ 8 จำนวน 54 ท่าน พร้อมปาฐกถาพิเศษ เรื่อง "กระทรวงศึกษาธิการกับการส่งเสริมภูมิปัญญาไทย"
นายชัยยศ อิ่มสุวรรณ์ รองเลขาธิการสภาการศึกษา กล่าวรายงานถึงการประชุมสัมมนา "การยกย่องเชิดชูเกียรติครูภูมิปัญญาไทย" รุ่นที่ 8 ว่า สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) ได้ดำเนินการสรรหาและการยกย่องเชิดชูเกียรติครูภูมิปัญญาไทย เพื่อทำหน้าที่ในการนำภูมิปัญญาไทยกลับคืนสู่การจัดการศึกษาของชาติ ทั้งการศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2542 ซึ่งได้เห็นชอบต่อนโยบายส่งเสริมภูมิปัญญาไทยในการจัดการศึกษา
การดำเนินการที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ สกศ.ได้ประกาศยกย่องเชิดชูเกียรติครูภูมิปัญญาไทยไปแล้วจำนวน 7 รุ่น มีครูภูมิปัญญาไทยจำนวนทั้งสิ้น 437 คน ครอบคลุมทุกภูมิภาคของประเทศไทย
โดยครูภูมิปัญญาไทยทุกท่านมีหน้าที่สำคัญ ในการถ่ายทอดองค์ความรู้ภูมิปัญญาไทย 9 ด้านเพื่อการศึกษาและอาชีพ ได้แก่
ด้านเกษตรกรรม
ด้านอุตสาหกรรมและหัตถกรรม
ด้านการแพทย์แผนไทย
ด้านการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ด้านกองทุนและธุรกิจชุมชน
ด้านศิลปกรรม
ด้านภาษาและวรรณกรรม
ด้านปรัชญา ศาสนา และประเพณี
ด้านโภชนาการ
ทั้งนี้ ได้ใช้ภูมิปัญญาไทยแต่ละด้านดังที่ได้กล่าวแล้ว เป็นฐานสำคัญของการจัดการเรียนรู้ด้วยกระบวนการเรียนรู้แบบภูมิปัญญาไทย ซึ่งมีการปรับประยุกต์ใช้ให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัยเหมาะสมกับบริบทความต้องการของแต่พื้นที่อย่างเป็นรูปธรรม
นอกจากนี้ ครูภูมิปัญญาไทย รุ่นที่ 1-7 ในปัจจุบัน บางท่านได้ดำเนินการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ภูมิปัญญาไทย เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ภูมิปัญญาไทยของตน โดยมีเครือข่ายการเรียนรู้ทั้งประเภทบุคคล องค์กร และหน่วยงานต่าง ๆ อยู่ในทุกภูมิภาคของประเทศ นับเป็นกลไกสำคัญในการธำรงรักษาและสืบทอดองค์ความรู้ภูมิปัญญาไทย อันเป็นมรดกที่ทรงคุณค่าของชาติ สร้างความภาคภูมิใจในรากเหง้าความเป็นไทย ส่งมอบสู่คนรุ่นต่อไป
สำหรับครูภูมิปัญญาไทย รุ่นที่ 8 ในปีพุทธศักราช 2560 มีจำนวน 54 ท่าน เป็นครูภูมิปัญญาไทยจาก 29 จังหวัด จำแนกเป็นภาคเหนือ 16 ท่าน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 15 ท่าน ภาคกลางและภาคตะวันออก 9 ท่าน และภาคใต้ 14 ท่าน
การประชุมสัมมนาครั้งนี้จึงถือเป็นการประชุมสัมมนาเชิงปฏิบัติการ เพื่อให้ครูภูมิปัญญาไทยได้รู้จัก แลกเปลี่ยนเรียนรู้ และกำหนดแนวทางการนำภูมิปัญญาของครูภูมิปัญญาไทยแต่ละท่านเข้าสู่กระบวนการการจัดการเรียนรู้ภูมิปัญญาไทยผ่านการศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัยอย่างเป็นรูปธรรม ส่งผลต่อการพัฒนาชาติอย่างมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ตามนโยบายของรัฐบาล
ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รมช.ศึกษาธิการ กล่าวตอนหนึ่งว่า เมื่อวานนี้ (26 กันยายน) องค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) และตัวแทนจากนานาชาติ ได้ร่วมจัดพิธีถวายสดุดีเฉลิมพระเกียรติในหลวงรัชกาลที่ 9 ระหว่างการประชุมสันติภาพนานาชาติ เนื่องในวันสันติภาพโลก ในหัวข้อ “การสร้างสันติภาพในสังคมอย่างยั่งยืน: มรดกของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร” ณ สำนักงานใหญ่ยูเนสโก สาธารณรัฐฝรั่งเศส ซึ่งนางอิรินา โบโควา ผู้อำนวยการใหญ่องค์การยูเนสโก กล่าวถวายสดุดีเน้นเรื่องการพัฒนาแบบยั่งยืน หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และการพัฒนาคน ซึ่งทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางสังคมทั้งในไทยและทั่วโลก พร้อมน้อมนำแนวพระราชดำริมาใช้เป็นพิมพ์เขียว สู่แผนการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) ของโลกต่อไป
จากพิธีดังกล่าว ทำให้มีความซาบซึ้งใจสุดพรรณนา ในการใช้ถ้อยคำอันไพเราะทุกขั้นตอนของการกล่าวสุนทรพจน์ของผู้อำนวยการใหญ่องค์การยูเนสโกแห่งสหประชาชาติ เฉลิมพระเกียรติพระปรีชาสามารถในหลากหลายสาขา พระอัจฉริยภาพทางการศึกษา การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และคุณภาพชีวิตของมวลมนุษยชาติ พระเมตตากรุณาพระราชทานแก่ประชาชนชาวไทย ล้วนเป็นเรื่องแห่งความทรงจำที่งดงามยิ่งแก่ประชาคมโลกทั้งสิ้นโดยตลอดรัชสมัย ที่องค์การยูเนสโกแห่งสหประชาชาติ จะได้น้อมนำสู่การปฏิบัติเป็นความทรงจำแห่งพระมหากรุณาธิคุณที่ยั่งยืนและรำลึกถึงพระองค์ท่านตลอดไป
จึงฝากให้ครูภูมิปัญญาไทยทุกท่าน รวมทั้ง สกศ. ตลอดจนส่วนราชการทุกภาคส่วน ได้ช่วยกันขยายผลแนวพระราชดำริต่าง ๆ ของพระองค์ และเดินตามรอยเบื้องพระยุคลบาท เช่น ความอ่อนน้อมถ่อมตนของพระองค์ ความสุภาพอ่อนน้อม ความงดงามในจริยวัตรของพระองค์และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ตลอดจนสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ซึ่งวันนี้ประชาชนชาวไทยยังคงกล่าวถึงร่ำไปในคุณงามความดี และตราบใดหากเรายังคงประพฤติปฏิบัติตามรอยเบื้องพระยุคลบาทของพระองค์ท่าน ก็เหมือนกับพระองค์ยังคงทรงสถิตเสถียรอยู่ในดวงใจของเราตลอดไป
นอกจากนี้ ฝากให้เราทุกคนช่วยกันเผยแพร่รักษาเอกลักษณ์ของท้องถิ่นตนเอง เพราะการจัดการศึกษาที่ขาดรากฐานในการนำภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมมาใช้ การศึกษาจะขาดความยั่งยืน สูญเสียเอกลักษณ์ที่ดีเด่นของชาติ ครูภูมิปัญญาจึงเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นที่จะเป็นบุคคลสำคัญช่วยสืบสานสิ่งดีงามของท้องถิ่นเอาไว้ ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการจะให้ความสำคัญในการดูแลภูมิปัญญาวัฒนธรรม ควบคู่ไปกับการจัดการศึกษา
ม.ล.ปนัดดา กล่าวด้วยว่า จะนำเรื่องครูภูมิปัญญาไทย ให้คณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) 76 แห่ง และคณะกรรมการศึกษาธิการกรุงเทพมหานคร (กศ.กทม.) นำไปพิจารณาดำเนินการ เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติโดยพร้อมเพรียงกัน และช่วยกันขบคิดว่าจะทำอย่างไรในการเพิ่มศักยภาพครูภูมิปัญญาไทย ที่สามารถนำเข้าสู่ระบบการศึกษาได้กว้างขวางยิ่งขึ้น