อ่านชัด-อ่านครบ กด ดูเวอร์ชั่นสำหรับเว็บ (ด้านล่าง)
เรื่องใหม่น่าสนใจ (ทั้งหมด ที่ )
(เนื้อหา-ข้อสอบ 1,000 ชุุด หมื่นข้อ ภาค กข
+ 40 วิชาเอก) ที่ ห้องสอบด้านขวา หรือ
เว็บฟรีข้อสอบ 1,000 ชุด ที่ ติวสอบดอทคอม
คลิ๊ก www.tuewsob.com โดย อ.นิกร
( คลิ๊ก ) สมัครพัฒนาความรู้
( คลิ๊ก ) สมัครพัฒนาความรู้
เตรียมความรู้ผู้บริหารสถาน (รอง/ผอ.รร.)
เตรียมสอบติวสอบครูผู้ช่วยกรณีพิเศษ + ทั่วไป
ข่าวที่ 73/2562
ศธ.ร่วมมือ 5 กระทรวงหลัก
นำประชากรวัยเรียนนอกระบบกลับเข้าสู่ระบบการศึกษา ย้ำไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
กระทรวงศึกษาธิการ
โดยสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เผยแพร่บทความ "ศธ.ร่วมมือ 5 กระทรวงหลัก
นำประชากรวัยเรียนนอกระบบกลับเข้าสู่ระบบการศึกษา ย้ำไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง" ในหนังสือพิมพ์มติชน หน้า 3 ฉบับวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2562
กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.)
หารือกับ 5 กระทรวงหลัก
และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
วางแผนนำประชากรวัยเรียนที่ไม่ได้รับการศึกษาและกลุ่มออกกลางคัน
ให้เข้ากลับมาเรียนในสถานศึกษาทุกสังกัด ทั้งในระบบและนอกระบบโรงเรียน
เป็นการย้ำถึงนโยบายการศึกษาของรัฐบาลที่จะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
ช่วยลดความเหลื่อมล้ำของสังคม ให้การศึกษาเป็นส่วนสำคัญนำพาประเทศไปสู่ความมั่นคง
มั่งคั่งอย่างยั่งยืน
เชิญ 5 กระทรวง
ร่วมวางแผนดึงผู้เรียนกลับเข้าระบบการศึกษา
เมื่อเร็วๆ นี้
กระทรวงศึกษาธิการ โดยสำนักงาน กศน.ได้จัดการประชุมบูรณาการความร่วมมือการเพิ่มโอกาสการเข้าถึงการศึกษาของประชากรวัยเรียนที่อยู่นอกระบบการศึกษา
กระทรวงศึกษาธิการ โดย พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
เป็นประธาน มีผู้แทนหัวหน้าส่วนราชการจากกระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม
เพื่อเน้นกลไกการบูรณาการและทำงานร่วมกันของทุกภาคส่วน
เน้นประชากรวัยเรียน 3-18 ปี กลับเข้าระบบการศึกษา
เริ่มต้นที่ จชต.
พล.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า
รัฐบาลให้ความสำคัญกับผู้ด้อยโอกาสทางการศึกษากลุ่มประชากรวัยเรียน อายุ 3-18 ปี ที่ไม่เคยได้รับการศึกษา
กลุ่มออกกลางคัน ทั้งเด็กปกติและมีปัญหาความบกพร่องทางร่างกายและสติปัญญา
จึงได้เริ่มวางแผนดำเนินการแก้ปัญหา โดยเริ่มต้นในพื้นที่พิเศษจังหวัดชายแดนภาคใต้
ตั้งแต่ปีการศึกษา 2560 ซึ่งใช้กลไกการบูรณาการและทำงานร่วมกันของทุกภาคส่วนในพื้นที่
ทั้งผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน
อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ผู้นำชุมชน ผู้นำศาสนา
หน่วยงานทางการศึกษา และสถานศึกษาทุกสังกัด
เพื่อตรวจสอบจำนวนผู้ที่ไม่ได้รับการศึกษา จัดทำข้อมูลรายบุคคล
พร้อมลงพื้นที่เคาะประตูบ้าน
พร้อมวางแผนให้การช่วยเหลือไปจนถึงการส่งต่อเข้าเรียนในสถานศึกษาทุกสังกัด
ทั้งในระบบและนอกระบบโรงเรียน
“เคาะประตูบ้าน”
ดึงกลับเข้าระบบการศึกษา 85% พร้อมขยายผลทั่วประเทศ
ผลการดำเนินงานในห้วง 1 ปีที่ผ่านมา
มีความก้าวหน้าเป็นอย่างมาก สามารถช่วยเหลือให้ประชากรวัยเรียนในพื้นที่
จชต.กลับมาเรียนจำนวน 38,501 คน คิดเป็นร้อยละ 85.01 ซึ่งคาดว่าในเวลา 2-3 เดือนก่อนเปิดเรียนปีการศึกษา 2562
นี้ จะขยายผลช่วยเหลือให้กลุ่มเป้าหมายกลับเข้าสู่ระบบการศึกษาได้ทั้งหมด
ต่อมา
ศธ.ได้ขยายความช่วยเหลือเพื่อเพิ่มโอกาสการเข้าถึงการศึกษาของประชากรวัยเรียน
ในพื้นที่อื่นทั่วประเทศ โดยในปี 2561 ได้ทำการสำรวจประชากรวัยเรียน อายุ 3-18 ปีที่ไม่ได้รับการศึกษา พบว่ามีจำนวน 470,591 คน
และสามารถช่วยเหลือให้ได้รับการศึกษาแล้ว 49,434 คน
คิดเป็นร้อยละ 9.62 (ข้อมูล ณ วันที่ 31 มกราคม 2562) ยังคงเหลืออีกจำนวน 464,385 คน ซึ่งอยู่ระหว่างช่วยเหลือให้ได้รับการศึกษาในรูปแบบต่าง ๆ ให้มากที่สุด
ทำงานเชิงบูรณาการ ตั้ง
คกก.ส่วนกลางและระดับพื้นที่
สำหรับการประชุมครั้งนี้
ได้เชิญผู้บริหารองค์กรหลัก ศธ. มาร่วมหารือกับผู้แทนจาก 5 กระทรวง
เพื่อสร้างความร่วมมือและบูรณาการข้อมูลร่วมกัน ในรูปแบบของคณะกรรมการ
ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ตั้งแต่ระดับจังหวัด อำเภอ จนถึงตำบล
โดยมีองค์ประกอบของผู้แทนหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ผู้นำท้องที่
ผู้นำท้องถิ่น ตลอดจนผู้นำศาสนาในแต่ละระดับทั้ง 5 กระทรวง
ร่วมขับเคลื่อนรณรงค์ส่งเสริม ตลอดจนเพิ่มโอกาสให้ประชากรวัยเรียน (3 ขวบ-18 ปี)
ที่อยู่นอกระบบการศึกษาได้กลับเข้ามาเรียนมากขึ้น
ย้ำความสำคัญข้อมูลประชากรวัยเรียน
ต้องประสานแลกเปลี่ยนกัน
สิ่งสำคัญที่เน้นย้ำและให้ความสำคัญคือ
ข้อมูลประชากรวัยเรียน ดังนี้
·
ข้อมูลประชากรวัยเรียนและการเข้าถึงการศึกษาที่แต่ละกระทรวงมีอยู่
เช่น ข้อมูลความจำเป็นพื้นฐาน (จปฐ.) ของกระทรวงมหาดไทย
ในส่วนของข้อมูลระดับครัวเรือนในด้านการศึกษาตามเกณฑ์มาตรฐานขั้นต่ำสะท้อนคุณภาพชีวิต
·
การตรวจสอบ
ติดตามและยืนยันตัวตนของประชากรวัยเรียนที่อยู่นอกระบบการศึกษา โดยสำนักงาน กศน.
ส่งมอบข้อมูลให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ได้ให้การช่วยเหลือเพื่อเข้าถึงการศึกษาต่อไป
·
กรอบแนวทางและการพัฒนาโปรแกรมการจัดเก็บข้อมูล
และการติดตามการดำเนินงาน
·
การจัดเก็บและตรวจสอบข้อมูลนักเรียนสามัญศึกษา
ของการศึกษาเอกชนที่อยู่นอกระบบ
·
การจัดทำโปรแกรมข้อมูลกลุ่มเป้าหมายประชากรวัยเรียน
จำแนกเป็นรายบุคคล หมู่บ้าน และอำเภอ
โดยการประสานงานร่วมกันระหว่างเขตพื้นที่การศึกษา สถานศึกษา กับส่วนกลาง
นำข้อมูลถ่ายทอดเชื่อมโยงกับ
คกก.ทุกระดับในการขับเคลื่อน
จากนั้นนำข้อมูลจากทุกกระทรวงที่ได้มา
เพื่อเชื่อมโยงและถ่ายทอดสู่คณะกรรมการทุกระดับ โดยคณะกรรมการระดับจังหวัด มี
ผวจ.เป็นประธาน, คณะกรรมการระดับอำเภอ
มีนายอำเภอเป็นประธาน, คณะกรรมการระดับตำบล
มีปลัดอำเภอเป็นประธาน
เพื่อรณรงค์ส่งเสริมให้กลุ่มเป้าหมายเห็นความสำคัญของการศึกษา
และพร้อมที่จะกลับเข้าสู่ระบบการศึกษา
ประชาชนมีการศึกษา
ส่งผลถึงคุณภาพชีวิต มีอาชีพ
พล.อ.สุรเชษฐ์
กล่าวด้วยว่า แนวทางการบูรณาการความร่วมมือ การเพิ่มโอกาสการเข้าถึงการศึกษาของประชากรวัยเรียนที่อยู่นอกระบบการศึกษา
สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ (พ.ศ.2561-2580)
ของรัฐบาล
ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานทำงานเชิงบูรณาการร่วมกันอยู่เสมอ
เพื่อเพิ่มโอกาสและความเสมอภาคทางการศึกษา ช่วยลดความเหลื่อมล้ำของสังคม
เพื่อให้ประชากรที่ได้รับการศึกษามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เกิดการเรียนรู้
และสามารถประกอบอาชีพได้
นำเด็กกลับเข้าสู่ระบบการศึกษา
งานโดดเด่นในเวทีอาเซียน 2562
ในโอกาสที่ประเทศไทยเป็นประธานอาเซียนในปี
2562 การนำผู้เรียนกลับเข้าสู่ระบบการศึกษาจึงเป็นงานสำคัญของ
ศธ.ที่จะสร้างความโดดเด่นในเวทีอาเซียน ดังเช่นที่นายอิชิโร มิยาซาวา ผู้แทน UNESCO
ได้แสดงความชื่นชมว่าประเทศไทยเป็นผู้นำภูมิภาคอาเซียนในการดำเนินการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้อย่างจริงจัง
เริ่มจากพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้พร้อมขยายผลดึงเด็กที่อยู่นอกระบบการศึกษาทั่วประเทศให้กลับเข้าสู่ระบบได้มากที่สุด
ภายใต้หลักการ “เราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง”
เพื่อให้การศึกษาเป็นส่วนสำคัญ
ที่จะนำพาประเทศไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง อย่างยั่งยืน
สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
ที่มา ; เว็บสำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงศึกษาธิการ
เตรียมความรู้ผู้บริหารสถาน (รอง/ผอ.รร.)
เตรียมสอบติวสอบครูผู้ช่วยกรณีพิเศษ + ทั่วไป
ข่าวที่ 73/2562
ศธ.ร่วมมือ 5 กระทรวงหลัก นำประชากรวัยเรียนนอกระบบกลับเข้าสู่ระบบการศึกษา ย้ำไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
ศธ.ร่วมมือ 5 กระทรวงหลัก นำประชากรวัยเรียนนอกระบบกลับเข้าสู่ระบบการศึกษา ย้ำไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
กระทรวงศึกษาธิการ
โดยสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เผยแพร่บทความ "ศธ.ร่วมมือ 5 กระทรวงหลัก
นำประชากรวัยเรียนนอกระบบกลับเข้าสู่ระบบการศึกษา ย้ำไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง" ในหนังสือพิมพ์มติชน หน้า 3 ฉบับวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2562
กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.)
หารือกับ 5 กระทรวงหลัก
และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
วางแผนนำประชากรวัยเรียนที่ไม่ได้รับการศึกษาและกลุ่มออกกลางคัน
ให้เข้ากลับมาเรียนในสถานศึกษาทุกสังกัด ทั้งในระบบและนอกระบบโรงเรียน
เป็นการย้ำถึงนโยบายการศึกษาของรัฐบาลที่จะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
ช่วยลดความเหลื่อมล้ำของสังคม ให้การศึกษาเป็นส่วนสำคัญนำพาประเทศไปสู่ความมั่นคง
มั่งคั่งอย่างยั่งยืน
เชิญ 5 กระทรวง
ร่วมวางแผนดึงผู้เรียนกลับเข้าระบบการศึกษา
เมื่อเร็วๆ นี้
กระทรวงศึกษาธิการ โดยสำนักงาน กศน.ได้จัดการประชุมบูรณาการความร่วมมือการเพิ่มโอกาสการเข้าถึงการศึกษาของประชากรวัยเรียนที่อยู่นอกระบบการศึกษา
กระทรวงศึกษาธิการ โดย พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
เป็นประธาน มีผู้แทนหัวหน้าส่วนราชการจากกระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม
เพื่อเน้นกลไกการบูรณาการและทำงานร่วมกันของทุกภาคส่วน
เน้นประชากรวัยเรียน 3-18 ปี กลับเข้าระบบการศึกษา
เริ่มต้นที่ จชต.
พล.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า
รัฐบาลให้ความสำคัญกับผู้ด้อยโอกาสทางการศึกษากลุ่มประชากรวัยเรียน อายุ 3-18 ปี ที่ไม่เคยได้รับการศึกษา
กลุ่มออกกลางคัน ทั้งเด็กปกติและมีปัญหาความบกพร่องทางร่างกายและสติปัญญา
จึงได้เริ่มวางแผนดำเนินการแก้ปัญหา โดยเริ่มต้นในพื้นที่พิเศษจังหวัดชายแดนภาคใต้
ตั้งแต่ปีการศึกษา 2560 ซึ่งใช้กลไกการบูรณาการและทำงานร่วมกันของทุกภาคส่วนในพื้นที่
ทั้งผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน
อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ผู้นำชุมชน ผู้นำศาสนา
หน่วยงานทางการศึกษา และสถานศึกษาทุกสังกัด
เพื่อตรวจสอบจำนวนผู้ที่ไม่ได้รับการศึกษา จัดทำข้อมูลรายบุคคล
พร้อมลงพื้นที่เคาะประตูบ้าน
พร้อมวางแผนให้การช่วยเหลือไปจนถึงการส่งต่อเข้าเรียนในสถานศึกษาทุกสังกัด
ทั้งในระบบและนอกระบบโรงเรียน
“เคาะประตูบ้าน”
ดึงกลับเข้าระบบการศึกษา 85% พร้อมขยายผลทั่วประเทศ
ผลการดำเนินงานในห้วง 1 ปีที่ผ่านมา
มีความก้าวหน้าเป็นอย่างมาก สามารถช่วยเหลือให้ประชากรวัยเรียนในพื้นที่
จชต.กลับมาเรียนจำนวน 38,501 คน คิดเป็นร้อยละ 85.01 ซึ่งคาดว่าในเวลา 2-3 เดือนก่อนเปิดเรียนปีการศึกษา 2562
นี้ จะขยายผลช่วยเหลือให้กลุ่มเป้าหมายกลับเข้าสู่ระบบการศึกษาได้ทั้งหมด
ต่อมา
ศธ.ได้ขยายความช่วยเหลือเพื่อเพิ่มโอกาสการเข้าถึงการศึกษาของประชากรวัยเรียน
ในพื้นที่อื่นทั่วประเทศ โดยในปี 2561 ได้ทำการสำรวจประชากรวัยเรียน อายุ 3-18 ปีที่ไม่ได้รับการศึกษา พบว่ามีจำนวน 470,591 คน
และสามารถช่วยเหลือให้ได้รับการศึกษาแล้ว 49,434 คน
คิดเป็นร้อยละ 9.62 (ข้อมูล ณ วันที่ 31 มกราคม 2562) ยังคงเหลืออีกจำนวน 464,385 คน ซึ่งอยู่ระหว่างช่วยเหลือให้ได้รับการศึกษาในรูปแบบต่าง ๆ ให้มากที่สุด
ทำงานเชิงบูรณาการ ตั้ง
คกก.ส่วนกลางและระดับพื้นที่
สำหรับการประชุมครั้งนี้
ได้เชิญผู้บริหารองค์กรหลัก ศธ. มาร่วมหารือกับผู้แทนจาก 5 กระทรวง
เพื่อสร้างความร่วมมือและบูรณาการข้อมูลร่วมกัน ในรูปแบบของคณะกรรมการ
ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ตั้งแต่ระดับจังหวัด อำเภอ จนถึงตำบล
โดยมีองค์ประกอบของผู้แทนหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ผู้นำท้องที่
ผู้นำท้องถิ่น ตลอดจนผู้นำศาสนาในแต่ละระดับทั้ง 5 กระทรวง
ร่วมขับเคลื่อนรณรงค์ส่งเสริม ตลอดจนเพิ่มโอกาสให้ประชากรวัยเรียน (3 ขวบ-18 ปี)
ที่อยู่นอกระบบการศึกษาได้กลับเข้ามาเรียนมากขึ้น
ย้ำความสำคัญข้อมูลประชากรวัยเรียน
ต้องประสานแลกเปลี่ยนกัน
สิ่งสำคัญที่เน้นย้ำและให้ความสำคัญคือ
ข้อมูลประชากรวัยเรียน ดังนี้
·
ข้อมูลประชากรวัยเรียนและการเข้าถึงการศึกษาที่แต่ละกระทรวงมีอยู่
เช่น ข้อมูลความจำเป็นพื้นฐาน (จปฐ.) ของกระทรวงมหาดไทย
ในส่วนของข้อมูลระดับครัวเรือนในด้านการศึกษาตามเกณฑ์มาตรฐานขั้นต่ำสะท้อนคุณภาพชีวิต
·
การตรวจสอบ
ติดตามและยืนยันตัวตนของประชากรวัยเรียนที่อยู่นอกระบบการศึกษา โดยสำนักงาน กศน.
ส่งมอบข้อมูลให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ได้ให้การช่วยเหลือเพื่อเข้าถึงการศึกษาต่อไป
·
กรอบแนวทางและการพัฒนาโปรแกรมการจัดเก็บข้อมูล
และการติดตามการดำเนินงาน
·
การจัดเก็บและตรวจสอบข้อมูลนักเรียนสามัญศึกษา
ของการศึกษาเอกชนที่อยู่นอกระบบ
·
การจัดทำโปรแกรมข้อมูลกลุ่มเป้าหมายประชากรวัยเรียน
จำแนกเป็นรายบุคคล หมู่บ้าน และอำเภอ
โดยการประสานงานร่วมกันระหว่างเขตพื้นที่การศึกษา สถานศึกษา กับส่วนกลาง
นำข้อมูลถ่ายทอดเชื่อมโยงกับ
คกก.ทุกระดับในการขับเคลื่อน
จากนั้นนำข้อมูลจากทุกกระทรวงที่ได้มา
เพื่อเชื่อมโยงและถ่ายทอดสู่คณะกรรมการทุกระดับ โดยคณะกรรมการระดับจังหวัด มี
ผวจ.เป็นประธาน, คณะกรรมการระดับอำเภอ
มีนายอำเภอเป็นประธาน, คณะกรรมการระดับตำบล
มีปลัดอำเภอเป็นประธาน
เพื่อรณรงค์ส่งเสริมให้กลุ่มเป้าหมายเห็นความสำคัญของการศึกษา
และพร้อมที่จะกลับเข้าสู่ระบบการศึกษา
ประชาชนมีการศึกษา
ส่งผลถึงคุณภาพชีวิต มีอาชีพ
พล.อ.สุรเชษฐ์
กล่าวด้วยว่า แนวทางการบูรณาการความร่วมมือ การเพิ่มโอกาสการเข้าถึงการศึกษาของประชากรวัยเรียนที่อยู่นอกระบบการศึกษา
สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ (พ.ศ.2561-2580)
ของรัฐบาล
ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานทำงานเชิงบูรณาการร่วมกันอยู่เสมอ
เพื่อเพิ่มโอกาสและความเสมอภาคทางการศึกษา ช่วยลดความเหลื่อมล้ำของสังคม
เพื่อให้ประชากรที่ได้รับการศึกษามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เกิดการเรียนรู้
และสามารถประกอบอาชีพได้
นำเด็กกลับเข้าสู่ระบบการศึกษา
งานโดดเด่นในเวทีอาเซียน 2562
ในโอกาสที่ประเทศไทยเป็นประธานอาเซียนในปี
2562 การนำผู้เรียนกลับเข้าสู่ระบบการศึกษาจึงเป็นงานสำคัญของ
ศธ.ที่จะสร้างความโดดเด่นในเวทีอาเซียน ดังเช่นที่นายอิชิโร มิยาซาวา ผู้แทน UNESCO
ได้แสดงความชื่นชมว่าประเทศไทยเป็นผู้นำภูมิภาคอาเซียนในการดำเนินการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้อย่างจริงจัง
เริ่มจากพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้พร้อมขยายผลดึงเด็กที่อยู่นอกระบบการศึกษาทั่วประเทศให้กลับเข้าสู่ระบบได้มากที่สุด
ภายใต้หลักการ “เราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง”
เพื่อให้การศึกษาเป็นส่วนสำคัญ
ที่จะนำพาประเทศไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง อย่างยั่งยืน
สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
ที่มา ; เว็บสำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงศึกษาธิการ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น