อ่านชัด-อ่านครบ กด ดูเวอร์ชั่นสำหรับเว็บ (ด้านล่าง)
เรื่องใหม่น่าสนใจ (ทั้งหมด ที่ )
(เนื้อหา-ข้อสอบ 1,000 ชุุด หมื่นข้อ ภาค กข
+ 40 วิชาเอก) ที่ ห้องสอบด้านขวา หรือ
เว็บฟรีข้อสอบ 1,000 ชุด ที่ ติวสอบดอทคอม
คลิ๊ก www.tuewsob.com โดย อ.นิกร
( คลิ๊ก ) สมัครพัฒนาความรู้
( คลิ๊ก ) สมัครพัฒนาความรู้
เตรียมความรู้ผู้บริหารสถาน (รอง/ผอ.รร.)
เตรียมสอบติวสอบครูผู้ช่วยกรณีพิเศษ + ทั่วไป
ข่าวที่ 59/2562ศธ. บูรณาการความร่วมมือการเพิ่มโอกาสการเข้าถึงการศึกษา ของประชากรวัยเรียนที่อยู่นอกระบบการศึกษา
พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานการประชุมบูรณาการความร่วมมือการเพิ่มโอกาสการเข้าถึงการศึกษาของประชากรวัยเรียนที่อยู่นอกระบบการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ โดยมีผู้แทนหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงจากกระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ตลอดจนผู้บริหารฝ่ายการเมือง ผู้บริหารองค์กรหลัก ข้าราชการ และบุคลากรที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมกว่า 100 คน เมื่อเร็ว ๆ นี้ ที่ห้องประชุมราชวัลลภ
พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ กล่าวตอนหนึ่งว่า จากการที่รัฐบาลให้ความสำคัญกับผู้ด้อยโอกาสทางการศึกษา กลุ่มประชากรวัยเรียน อายุ 3-18 ปี ที่ไม่เคยได้รับการศึกษา กลุ่มออกกลางคัน ทั้งเด็กปกติและมีปัญหาความบกพร่องทางร่างกายและสติปัญญา
กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) จึงได้เริ่มวางแผนดำเนินการแก้ปัญหา โดยเริ่มต้นในพื้นที่พิเศษจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตั้งแต่ปีการศึกษา 2560 ซึ่งใช้กลไกการบูรณาการและทำงานร่วมกันของทุกภาคส่วนในพื้นที่ ทั้งผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ผู้นำชุมชน ผู้นำศาสนา หน่วยงานทางการศึกษา และสถานศึกษาทุกสังกัด เพื่อตรวจสอบจำนวนผู้ที่ไม่ได้รับการศึกษา จัดทำข้อมูลรายบุคคล พร้อมลงพื้นที่เคาะประตูบ้าน และวางแผนให้การช่วยเหลือ ไปจนถึงการส่งต่อเข้าเรียนในสถานศึกษาทุกสังกัดทั้งในระบบและนอกระบบโรงเรียน ผลการดำเนินงานในห้วง 1 ปีที่ผ่านมา มีความก้าวหน้าเป็นอย่างมาก สามารถช่วยเหลือให้ประชากรวัยเรียนกลับมาเรียนจำนวน 38,501 คน คิดเป็นร้อยละ 85.01ซึ่งคาดว่าในเวลา 2-3 เดือนก่อนเปิดเรียนปีการศึกษา 2562 นี้ จะขยายผลช่วยเหลือให้กลุ่มเป้าหมายกลับเข้าสู่ระบบการศึกษาได้ทั้งหมด
ต่อมา ศธ.ได้ขยายความช่วยเหลือเพื่อเพิ่มโอกาสการเข้าถึงการศึกษาของประชากรวัยเรียน ในพื้นที่อื่นทั่วประเทศ โดยในปี 2561 ได้ทำการสำรวจประชากรวัยเรียน อายุ 3-18 ปี ที่ไม่ได้รับการศึกษา พบว่ามีจำนวน 470,591 คน และสามารถช่วยเหลือให้ได้รับการศึกษา จำนวน 49,434 คน คิดเป็นร้อยละ 9.62 (ข้อมูล ณ วันที่ 31 มกราคม 2562) ยังคงเหลืออีกจำนวน 464,385 คน ซึ่งอยู่ระหว่างช่วยเหลือให้ได้รับการศึกษาในรูปแบบต่าง ๆ ให้มากที่สุด เป็นการย้ำถึงนโยบายการศึกษาของรัฐบาลที่จะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
สำหรับการประชุมครั้งนี้ ได้เชิญผู้บริหารองค์กรหลักกระทรวงศึกษาธิการ มาร่วมหารือกับผู้แทนจากกระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อสร้างความร่วมมือและบูรณาการข้อมูลร่วมกันในรูปแบบของคณะกรรมการ ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ในระดับจังหวัด ระดับอำเภอ และระดับตำบล โดยมีองค์ประกอบของผู้แทนหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น ตลอดจนผู้นำศาสนาในแต่ละระดับของทั้ง 5 กระทรวง ร่วมขับเคลื่อนรณรงค์ส่งเสริมตลอดจนเพิ่มโอกาสให้ประชากรวัยเรียน (3 ขวบ-18 ปี) ที่อยู่นอกระบบการศึกษาได้กลับเข้ามาเรียนมากขึ้น
สิ่งสำคัญที่เน้นย้ำในการประชุมครั้งนี้ มีประเด็นสำคัญด้านข้อมูลประชากรวัยเรียน ดังนี้
-
ข้อมูลประชากรวัยเรียนและการเข้าถึงการศึกษาที่แต่ละกระทรวงมีอยู่ ซึ่งขณะนี้ถือว่ามีความสมบูรณ์อย่างมาก ทั้งข้อมูลความจำเป็นพื้นฐาน (จปฐ.) ของกระทรวงมหาดไทย ในส่วนของข้อมูลระดับครัวเรือนในด้านการศึกษาตามเกณฑ์มาตรฐานขั้นต่ำสะท้อนคุณภาพชีวิต
-
การตรวจสอบ ติดตาม และยืนยันตัวตนของประชากรวัยเรียนที่อยู่นอกระบบการศึกษา โดยสำนักงาน กศน. ซึ่งมีความพร้อมส่งมอบข้อมูลให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ได้ให้การช่วยเหลือเพื่อเข้าถึงการศึกษาต่อไป
-
กรอบแนวทางและการพัฒนาโปรแกรมการจัดเก็บข้อมูล และการติดตามการดำเนินงานของสำนักงาน กศน. และสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ สป.ศธ.
-
การจัดเก็บและตรวจสอบข้อมูลนักเรียนสามัญศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน ที่อยู่นอกระบบการศึกษา
-
การจัดทำโปรแกรมข้อมูลกลุ่มเป้าหมายประชากรวัยเรียน จำแนกเป็นรายบุคคล หมู่บ้าน และอำเภอ โดยการประสานงานร่วมกันระหว่างสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา และสถานศึกษาสังกัด สพฐ. กับศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สป.ศธ. เป็นต้น
จากนั้นจึงนำข้อมูลเหล่านี้เชื่อมโยงและถ่ายทอดสู่คณะกรรมการระดับต่าง ๆ อาทิ คณะกรรมการระดับจังหวัด ที่มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน, คณะกรรมการระดับอำเภอ ที่มีนายอำเภอเป็นประธาน ตลอดจนคณะกรรมการระดับตำบล ที่มีปลัดอำเภอที่ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบงานในแต่ละตำบล เป็นต้น เพื่อการรณรงค์ส่งเสริมให้กลุ่มเป้าหมายเห็นความสำคัญของการศึกษา และพร้อมที่จะกลับเข้าสู่ระบบการศึกษา เพื่อการมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เกิดการเรียนรู้ และสามารถประกอบอาชีพได้
พล.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวด้วยว่า แนวทาง การบูรณาการความร่วมมือการเพิ่มโอกาสการเข้าถึงการศึกษาของประชากรวัยเรียนที่อยู่นอกระบบการศึกษา สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ (พ.ศ.2561-2580) ของรัฐบาล ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานทำงานเชิงบูรณาการร่วมกันอยู่เสมอ เพื่อเพิ่มโอกาสและความเสมอภาคทางการศึกษา และช่วยลดความเหลื่อมล้ำของสังคม เพื่อให้การศึกษาเป็นส่วนสำคัญที่จะนำพาประเทศไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง อย่างยั่งยืน.
ที่มา ; เว็บสำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงศึกษาธิการ
เตรียมความรู้ผู้บริหารสถาน (รอง/ผอ.รร.)
เตรียมสอบติวสอบครูผู้ช่วยกรณีพิเศษ + ทั่วไป
ข่าวที่ 59/2562ศธ. บูรณาการความร่วมมือการเพิ่มโอกาสการเข้าถึงการศึกษา ของประชากรวัยเรียนที่อยู่นอกระบบการศึกษา
กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) จึงได้เริ่มวางแผนดำเนินการแก้ปัญหา โดยเริ่มต้นในพื้นที่พิเศษจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตั้งแต่ปีการศึกษา 2560 ซึ่งใช้กลไกการบูรณาการและทำงานร่วมกันของทุกภาคส่วนในพื้นที่ ทั้งผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ผู้นำชุมชน ผู้นำศาสนา หน่วยงานทางการศึกษา และสถานศึกษาทุกสังกัด เพื่อตรวจสอบจำนวนผู้ที่ไม่ได้รับการศึกษา จัดทำข้อมูลรายบุคคล พร้อมลงพื้นที่เคาะประตูบ้าน และวางแผนให้การช่วยเหลือ ไปจนถึงการส่งต่อเข้าเรียนในสถานศึกษาทุกสังกัดทั้งในระบบและนอกระบบโรงเรียน ผลการดำเนินงานในห้วง 1 ปีที่ผ่านมา มีความก้าวหน้าเป็นอย่างมาก สามารถช่วยเหลือให้ประชากรวัยเรียนกลับมาเรียนจำนวน 38,501 คน คิดเป็นร้อยละ 85.01ซึ่งคาดว่าในเวลา 2-3 เดือนก่อนเปิดเรียนปีการศึกษา 2562 นี้ จะขยายผลช่วยเหลือให้กลุ่มเป้าหมายกลับเข้าสู่ระบบการศึกษาได้ทั้งหมด
ต่อมา ศธ.ได้ขยายความช่วยเหลือเพื่อเพิ่มโอกาสการเข้าถึงการศึกษาของประชากรวัยเรียน ในพื้นที่อื่นทั่วประเทศ โดยในปี 2561 ได้ทำการสำรวจประชากรวัยเรียน อายุ 3-18 ปี ที่ไม่ได้รับการศึกษา พบว่ามีจำนวน 470,591 คน และสามารถช่วยเหลือให้ได้รับการศึกษา จำนวน 49,434 คน คิดเป็นร้อยละ 9.62 (ข้อมูล ณ วันที่ 31 มกราคม 2562) ยังคงเหลืออีกจำนวน 464,385 คน ซึ่งอยู่ระหว่างช่วยเหลือให้ได้รับการศึกษาในรูปแบบต่าง ๆ ให้มากที่สุด เป็นการย้ำถึงนโยบายการศึกษาของรัฐบาลที่จะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
สำหรับการประชุมครั้งนี้ ได้เชิญผู้บริหารองค์กรหลักกระทรวงศึกษาธิการ มาร่วมหารือกับผู้แทนจากกระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อสร้างความร่วมมือและบูรณาการข้อมูลร่วมกันในรูปแบบของคณะกรรมการ ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ในระดับจังหวัด ระดับอำเภอ และระดับตำบล โดยมีองค์ประกอบของผู้แทนหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น ตลอดจนผู้นำศาสนาในแต่ละระดับของทั้ง 5 กระทรวง ร่วมขับเคลื่อนรณรงค์ส่งเสริมตลอดจนเพิ่มโอกาสให้ประชากรวัยเรียน (3 ขวบ-18 ปี) ที่อยู่นอกระบบการศึกษาได้กลับเข้ามาเรียนมากขึ้น
สิ่งสำคัญที่เน้นย้ำในการประชุมครั้งนี้ มีประเด็นสำคัญด้านข้อมูลประชากรวัยเรียน ดังนี้
- ข้อมูลประชากรวัยเรียนและการเข้าถึงการศึกษาที่แต่ละกระทรวงมีอยู่ ซึ่งขณะนี้ถือว่ามีความสมบูรณ์อย่างมาก ทั้งข้อมูลความจำเป็นพื้นฐาน (จปฐ.) ของกระทรวงมหาดไทย ในส่วนของข้อมูลระดับครัวเรือนในด้านการศึกษาตามเกณฑ์มาตรฐานขั้นต่ำสะท้อนคุณภาพชีวิต
- การตรวจสอบ ติดตาม และยืนยันตัวตนของประชากรวัยเรียนที่อยู่นอกระบบการศึกษา โดยสำนักงาน กศน. ซึ่งมีความพร้อมส่งมอบข้อมูลให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ได้ให้การช่วยเหลือเพื่อเข้าถึงการศึกษาต่อไป
- กรอบแนวทางและการพัฒนาโปรแกรมการจัดเก็บข้อมูล และการติดตามการดำเนินงานของสำนักงาน กศน. และสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ สป.ศธ.
- การจัดเก็บและตรวจสอบข้อมูลนักเรียนสามัญศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน ที่อยู่นอกระบบการศึกษา
- การจัดทำโปรแกรมข้อมูลกลุ่มเป้าหมายประชากรวัยเรียน จำแนกเป็นรายบุคคล หมู่บ้าน และอำเภอ โดยการประสานงานร่วมกันระหว่างสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา และสถานศึกษาสังกัด สพฐ. กับศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สป.ศธ. เป็นต้น
จากนั้นจึงนำข้อมูลเหล่านี้เชื่อมโยงและถ่ายทอดสู่คณะกรรมการระดับต่าง ๆ อาทิ คณะกรรมการระดับจังหวัด ที่มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน, คณะกรรมการระดับอำเภอ ที่มีนายอำเภอเป็นประธาน ตลอดจนคณะกรรมการระดับตำบล ที่มีปลัดอำเภอที่ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบงานในแต่ละตำบล เป็นต้น เพื่อการรณรงค์ส่งเสริมให้กลุ่มเป้าหมายเห็นความสำคัญของการศึกษา และพร้อมที่จะกลับเข้าสู่ระบบการศึกษา เพื่อการมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เกิดการเรียนรู้ และสามารถประกอบอาชีพได้
พล.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวด้วยว่า แนวทาง การบูรณาการความร่วมมือการเพิ่มโอกาสการเข้าถึงการศึกษาของประชากรวัยเรียนที่อยู่นอกระบบการศึกษา สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ (พ.ศ.2561-2580) ของรัฐบาล ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานทำงานเชิงบูรณาการร่วมกันอยู่เสมอ เพื่อเพิ่มโอกาสและความเสมอภาคทางการศึกษา และช่วยลดความเหลื่อมล้ำของสังคม เพื่อให้การศึกษาเป็นส่วนสำคัญที่จะนำพาประเทศไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง อย่างยั่งยืน.
ที่มา ; เว็บสำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงศึกษาธิการ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น