หน้าหลัก ติวสอบดอทคอม เว็บฟรีข้อสอบออนไลน์

หน้าหลัก ติวสอบดอทคอม เว็บฟรีข้อสอบออนไลน์
หน้าหลัก ติวสอบดอทคอม เว็บฟรีข้อสอบออนไลน์

พัฒนาความรู้ สู่ รอง./ผอ.รร. ปี 2567

พัฒนาความรู้ สู่ รอง./ผอ.รร. ปี 2567
พัฒนาความรู้ สู่ รอง./ผอ.รร. ปี 2567

คลิ๊ก "สมัครพัฒนาความรู้สู่ผู้บริหาร / ครูผู้ช่วย

คลิ๊ก... สมัคร พัฒนาความรู้ สู่ ครูผู้ช่วย
คลิ๊ก... สมัคร พัฒนาความรู้ สู่ ผู้บริหาร

ติวสอบดอทคอม (เตรียมสอบครูผู้ช่วย-ผู้บริหาร-บุคลากร การศึกษา)

ติวสอบดอทคอม (เตรียมสอบครูผู้ช่วย-ผู้บริหาร-บุคลากร การศึกษา)
ติวสอบดอทคอม (เว็บฟรีข้อสอบออนไลน์ สอบครู ผู้บริหาร บุคลากร)

วันอังคารที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2561

สรุปข่าวการประชุมคณะรัฐมนตรี 5 มิถุนายน 2561

อ่านชัด-อ่านครบ กด ดูเวอร์ชั่นสำหรับเว็บ (ด้านล่าง)

เรื่องใหม่น่าสนใจ  (ทั้งหมด ที่ )


(เนื้อหา-ข้อสอบ 1,000 ชุุด หมื่นข้อ ภาค กข


40 วิชาเอก) ที่ ห้องสอบด้านขวา หรือ 


เว็บฟรีข้อสอบ 1,000 ชุด ที่ ติวสอบดอทคอม คลิ๊ก www.tuewsob.com โดย อ.นิกร





 คลิ๊ก ) สมัครพัฒนาความรู้   


สรุปข่าวการประชุมคณะรัฐมนตรี 5 มิถุนายน 2561

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี
title

http://www.thaigov.go.th

                    วันนี้ (5 มิถุนายน 2561)  เวลา 09.00 . ณ ห้องประชุม 501 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล
พลเอก ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี
                    ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม พลโท สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี    พร้อมด้วย พันเอก อธิสิทธิ์ ไชยนุวัติ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  ได้ร่วมแถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี  ซึ่งสรุปสาระสำคัญดังนี้




กฎหมาย
                    1.       เรื่อง     ร่างพระราชบัญญัติสภาองค์กรผู้บริโภคแห่งชาติ พ.ศ. ....
                    2.       เรื่อง     ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราและ                               ยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (การยกเลิกการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษี
                                        ตามพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราและ                                       ยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 454) พ.ศ. 2549
                    3.       เรื่อง     ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติควบคุม                                            อาคาร พ.ศ. 2522




เศรษฐกิจ- สังคม

                    4.       เรื่อง     ขอความเห็นชอบการแก้ไขสัญญาให้ผู้ประกอบการครัวการบิน ณ ท่าอากาศยาน                                       สุวรรณภูมิให้บริการครัวการบิน  แก่สายการบินที่เปิดให้บริการเที่ยวบิน
                                        ณ  ท่าอากาศยานแห่งอื่นนอกเหนือจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
                    5.       เรื่อง     โครงการระบบส่งไฟฟ้าเพื่อรับซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่ ระยะที่ 3
                   6.       เรื่อง     ขออนุมัติใช้งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ในการ                                           จ่ายเงินงบอุดหนุนเฉพาะกิจ โครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด
                   7.       เรื่อง     การปรับปรุงกรอบวงเงินลงทุนของแผนพัฒนาระบบไฟฟ้า ในช่วงแผนพัฒนา                                           เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 11 (พ.ศ. 2555 – 2559)




ต่างประเทศ

                    8.       เรื่อง     การประชุมผุ้นำยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ อิรวดี – เจ้าพระยา –
                                        แม่โขง (Ayeyawady – Chao Phraya – Mekong Economic Cooperation                                        Strategy:ACMECS)  ครั้งที่ 8
                    9.       เรื่อง     การจัดทำความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่ง                                               สาธารณรัฐลัตเวีย ว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทาง                               ทูตและราชการ
 (ท่านสามารถดาวน์โหลดมติผลการประชุมคณะรัฐมนตรี ฉบับวันที่ 5 มิถุนายน 2561
ด้วยการสแกน QR Code
QRcode-050661.jpg





แต่งตั้ง
                    10.      เรื่อง     การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับ                                             ทรงคุณวุฒิ (กระทรวงการคลัง)
                    11.      เรื่อง     การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับ                                             ทรงคุณวุฒิ (กระทรวงมหาดไทย)
                    12.      เรื่อง     การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับ                                             ทรงคุณวุฒิ (กระทรวงสาธารณสุข)
                    13.      เรื่อง     รัฐบาลไอร์แลนด์เสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่ง                                                ไอร์แลนด์ประจำประเทศไทย (กระทรวงการต่างประเทศ)
                    14.      เรื่อง     รัฐบาลฮังการีเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งฮังการี                                            ประจำประเทศไทย (กระทรวงการต่างประเทศ)
                    15.      เรื่อง     การแต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์                                             การเกษตร
                    16.      เรื่อง     การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติ
                    17.      เรื่อง     การแต่งตั้งกรรมการสภาสถาปนิก
                    18.      เรื่อง     การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารศูนย์ความเป็นเลิศ
                                        ด้านชีววิทยาศาสตร์
                    19.      เรื่อง     การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง                                                            (กระทรวงศึกษาธิการ)
                    20.      เรื่อง     แต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการการไฟฟ้านครหลวง
                    21.      เรื่อง     การแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหาร                               สถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย


*******************
สำนักโฆษก   สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โทร. 0 2288-4396



















กฎหมาย
1. เรื่อง ร่างพระราชบัญญัติสภาองค์กรผู้บริโภคแห่งชาติ พ.ศ. ....
                   คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติสภาองค์กรผู้บริโภคแห่งชาติ พ.ศ. ....                 ตามที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงยุติธรรมสำนักงาน กพ. สำนักงาน ก.พ.ร. สำนักงานงบประมาณ และสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป
                   สาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติสภาองค์กรผู้บริโภคแห่งชาติ พ.ศ. .... เป็นการจัดตั้งสภาองค์กรผู้บริโภคแห่งชาติ เพื่อทำหน้าที่เป็นตัวแทนของผู้บริโภคในการประสานนโยบายและดำเนินงานด้านคุ้มครองผู้บริโภคร่วมกับหน่วยงานของรัฐและเอกชน รวมทั้งดำเนินคดีแทนผู้บริโภคหรือองค์กรของผู้บริโภคที่จะถูกฟ้องจากการใช้สิทธิแทนผู้บริโภค นอกจากนี้ ยังให้มีการจัดตั้งสำนักงานคณะกรรมการสภาองค์กรผู้บริโภคแห่งชาติ เป็น
นิติบุคคลที่มีความเป็นอิสระ ไม่ใช่ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานของรัฐ มีหน้าที่รับผิดชอบงานด้านธุรการ และทำหน้าที่เป็นเลขานุการของคณะกรรมการสภาองค์กรผู้บริโภคแห่งชาติ

2. เรื่อง ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นรัษฎากร              (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (การยกเลิกการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีตามพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 454) พ.ศ. 2549
                   คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (การยกเลิกการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีตามพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 454) พ.ศ. 2549 ตามที่กระทรวงการคลัง (กค.) เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีการตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
                   สาระสำคัญของร่างพระราชกฤษฎีกา
                   1. กำหนดให้ยกเลิกพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตรา
และยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 454) พ.ศ. 2549
                   2. กำหนดให้บทบัญญัติในพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 454) พ.ศ. 2549 ใช้บังคับต่อไปสำหรับการรับฝากหรือการกู้ยืมเงินตราจากต่างประเทศเพื่อให้กู้ยืมในต่างประเทศจนครบกำหนดระยะเวลาตามสัญญา แต่ไม่เกินวันที่ 31 ธันวาคม 2563 เฉพาะการรับฝากหรือการกู้ยืมเงินตราจากต่างประเทศ เพื่อให้กู้ยืมในต่างประเทศและการรับฝากหรือการกู้ยืมเงินตราจากต่างประเทศเพื่อให้กู้ยืมในต่างประเทศที่ได้มีการต่อระยะเวลาของสัญญากู้ยืมหรือมีการทำสัญญาปรับปรุงโครงสร้างหนี้ แล้วแต่กรณี ที่ได้กระทำก่อนวันที่พระราชกฤษฎีกาใช้บังคับ

3. เรื่อง ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522
                   คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 ตามที่กระทรวงมหาดไทย (มท.) เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา และดำเนินการต่อไปได้
                   สาระสำคัญของร่างกฎกระทรวง
                   แก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวง ฉบับที่ 55 (พ.ศ. 2543) ออกตามความในพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 โดยเพิ่มบทนิยามคำว่า “ผนังทึบ”“แนวอาคาร” และ “เขตแหล่งน้ำสาธารณะ” และกำหนดระยะห่างจากเขตที่ดินของสิ่งที่สร้างขึ้นอย่างอื่นเป็นอาคาร รวมทั้งแก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์บางประการเพื่อให้ห้องแถว ตึกแถว หรือบ้านแถว ซึ่งมีสภาพทรุดโทรมสามารถดัดแปลงหรือรื้อถอนอาคารเพื่อก่อสร้างอาคารใหม่ทดแทนอาคารเดิมได้




เศรษฐกิจ- สังคม

4. เรื่อง ขอความเห็นชอบการแก้ไขสัญญาให้ผู้ประกอบการครัวการบิน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิให้บริการครัวการบิน  แก่สายการบินที่เปิดให้บริการเที่ยวบิน ณ  ท่าอากาศยานแห่งอื่นนอกเหนือจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
                    คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างสัญญาแก้ไขเพิ่มเติมสัญญาโครงการครัวการบิน (Catering  Services)ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ครั้งที่ .. ระหว่าง บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.)  กับบริษัท ครัวการบินกรุงเทพ จำกัด และร่างสัญญาแก้ไขเพิ่มเติมสัญญาโครงการครัวการบิน (Catering Services) ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ครั้งที่ .. ระหว่าง ทอท. กับบริษัท แอลเอสจี สกายเชฟส์ (ประเทศไทย) จำกัด ที่สำนักงานอัยการสูงสุด (อส.) ตรวจพิจารณาแล้ว ก่อนการลงนามในสัญญาแก้ไขเพิ่มเติม ระหว่าง ทอท. กับบริษัท ครัวการบินกรุงเทพ จำกัด และบริษัท แอลเอสจี สกายเชฟส์ (ประเทศไทย) จำกัด  ตามมาตรา 47 แห่งพระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2556 ต่อไป ตามที่กระทรวงคมนาคม (คค.) เสนอ
                   ทั้งนี้ มอบหมายให้คณะกรรมการกำกับดูแลโครงการครัวการบิน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ   กำหนดกลไกการติดตามและประเมินผลให้ผู้ประกอบการครัวการบินดำเนินการตามเงื่อนไขของสัญญาโครงการครัวการบิน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ  ที่เสนอแก้ไขเพิ่มเติมมาในครั้งนี้อย่างเคร่งครัด  เช่น ให้ผู้ประกอบการเสนอแผนการผลิตมื้ออาหารในการให้บริการครัวการบินที่ครอบคลุม ทั้งในส่วนการให้บริการครัวการบิน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ  และท่าอากาศยานอื่นที่ได้รับอนุญาตจากบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)  การรายงานข้อมูลกำลังการผลิตคงเหลือ การประเมินความพึงพอใจของผู้ใช้บริการ  ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ต่อคณะกรรมการกำกับดูแลโครงการครัวการบิน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิอย่างต่อเนื่อง 

5. เรื่อง โครงการระบบส่งไฟฟ้าเพื่อรับซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่ ระยะที่ 3
                   คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงพลังงาน (พน.) เสนอ ดังนี้
                   1. เห็นชอบให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ดำเนินโครงการระบบส่งไฟฟ้าเพื่อรับซื้อ
ไฟฟ้าจากผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่ ระยะที่ 3 ในวงเงินลงทุน รวม 7,250 ล้านบาท
2.       อนุมัติการเบิกจ่ายงบประมาณลงทุนประจำปี 2561 สำหรับโครงการดังกล่าว รวมเป็นเงิน
ทั้งสิ้น 153.0 ล้านบาท
                    ทั้งนี้  ให้ พน. และ กฟผ. รับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (มติเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2560) ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องด้วย และให้ พน. ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาจัดทำแผนพัฒนาระบบผลิตไฟฟ้า ระบบส่งไฟฟ้า และระบบจำหน่ายไฟฟ้าในภาพรวม ที่สอดคล้องกับหลักการในการจัดทำแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย (PDP)  ฉบับใหม่  โดยให้ดำเนินการจัดทำแผนฯ ดังกล่าวให้แล้วเสร็จก่อนการริเริ่มลงทุนโครงการลงทุนด้านพลังงานไฟฟ้าในระยะต่อไป
                    สำหรับการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าใหม่ในอนาคต หรือการรับซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนในระยะต่อไป ให้ พน. คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำปัจจัยด้านความสามารถของระบบส่งไฟฟ้า โครงสร้างพื้นฐานหรืออุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องของ กฟผ. ที่มีอยู่เดิมในพื้นที่ และต้นทุนในการพัฒนาหรือก่อสร้างระบบส่งไฟฟ้าใหม่ที่มารองรับหรือเชื่อมต่อโครงการโรงไฟฟ้ามาประกอบการพิจารณาริเริ่มโครงการลงทุนหรือประกาศเชิญชวนการรับซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตเอกชนรายใหม่ด้วย เพื่อป้องกันมิให้เกิดการลงทุนที่ซ้ำซ้อนและผลกระทบต่อค่าไฟฟ้าในอนาคต



                    สาระสำคัญของเรื่อง
                    พน. รายงานว่า สืบเนื่องจากการรับซื้อไฟฟ้าจาก IPP  ที่ กฟผ. ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้าแล้วตั้งแต่ปี พ.ศ. 2556 ข้างต้น กฟผ. จึงมีความจำเป็นต้องดำเนินโครงการระบบส่งไฟฟ้าเพื่อรองรับการรับซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่ ระยะที่ 3 โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อให้การเชื่อมโยงโครงการโรงไฟฟ้าผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่ ระยะที่ 3 ปริมาณ 5,000 เมกะวัตต์ เข้ากับระบบไฟฟ้าของ กฟผ. มีความมั่นคงเชื่อถือได้ เป็นไปตามมาตรฐานและข้อกำหนดของ กฟผ.
                    ประโยชน์ที่จะได้รับจากการดำเนินโครงการ
1)      สามารถรับซื้อไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าของ IPP  รอบประกาศรับซื้อปี พ.ศ. 2555 ตามนโยบายของ
รัฐบาลในการรับซื้อไฟฟ้าจาก IPP
                   2) สนองความต้องการไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นในภาคตะวันออกและภาคกลางโดยพลังงานไฟฟ้าในส่วนที่เหลือจะถูกส่งผ่านระบบส่ง 500 เควี เข้าสู่เขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล  ซึ่งเป็นเขตที่มีความต้องการไฟฟ้าสูงและเป็นเขตเศรษฐกิจสำคัญของประเทศ
                   3) เพิ่มความคล่องตัวในด้านปฏิบัติการควบคุมและการจ่ายไฟฟ้าในภาคตะวันออก รวมทั้งรองรับกรณีที่ต้องปลดโรงไฟฟ้าเข้า/ออกในการจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบและโรงไฟฟ้าที่หยุดซ่อมบำรุงรักษา

6. เรื่อง ขออนุมัติใช้งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ในการจ่ายเงินงบอุดหนุน           เฉพาะกิจ โครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด
                    คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติงบประมาณค่าใช้จ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ในการจ่ายเงินงบอุดหนุนเฉพาะกิจ โครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด จำนวน 1,571,400,200 บาท ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เสนอ
                    สาระสำคัญของเรื่อง
                    พม. (กรมกิจการเด็กและเยาวชน) ได้รับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 เพื่อดำเนินโครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด งบเงินอุดหนุน ประเภทเงินอุดหนุนเฉพาะกิจ รายการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด จำนวน 2,131,185,600 บาท และมีงบประมาณที่กันไว้เบิกเหลื่อมปีคงเหลืออยู่จำนวน 6,132,000 บาท รวมทั้งเงินรับคืนจากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด (พมจ.)  เนื่องจากไม่สามารถติดต่อผู้รับเงินได้ จำนวน 31,800 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 2,137,349,400 บาท และได้ดำเนินการเบิกจ่ายให้กับผู้มาลงทะเบียนและมีสิทธิ์รับเงิน ณ วันที่ 21 พฤษภาคม 2561 เป็นเงิน 2,117,490,400 บาท คงเหลือจำนวน 19,859,000 บาท  ซึ่งไม่เพียงพอต่อการเบิกจ่ายให้กับผู้มีสิทธิ์รับเงินอุดหนุนจนถึงเดือนกันยายน 2561  พม. จึงมีความจำเป็นต้องขอใช้งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 1,571,400,200 บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการต่อเนื่องให้แก่ผู้มีสิทธิ์ที่ต้องได้รับเงินต่อเนื่องและเด็กที่คาดว่าจะคลอดภายในสิ้นปีงบประมาณ พ.ศ. 2561

7. เรื่อง การปรับปรุงกรอบวงเงินลงทุนของแผนพัฒนาระบบไฟฟ้า ในช่วงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 11 (พ.ศ. 2555 – 2559)
                    คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ดำเนินการปรับปรุงกรอบวงเงินลงทุนของแผนพัฒนาระบบไฟฟ้า ในช่วงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 11 (พ.ศ. 2555 – 2559) (แผนพัฒนาระบบไฟฟ้าฯ) ประกอบด้วย 12 โครงการ 2 แผนงาน วงเงินลงทุนรวมทั้งสิ้น 99,943.68 ล้านบาท และโครงการลงทุนด้านการพัฒนาพลังงานทดแทนของบริษัท พีอีเอ เอ็นคอม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (บริษัท พีอีเอฯ) กรอบวงเงินร่วมลงทุน 7,752.00 ล้านบาท โดยเป็นการลงทุนในส่วนของบริษัท พีอีเอฯ ในวงเงิน 779.00 ล้านบาท ตามที่กระทรวงมหาดไทย (มท.) เสนอ

                   สาระสำคัญของเรื่อง
                   การปรับวงเงินลงทุนตามแผนพัฒนาระบบไฟฟ้าฯ ที่เสนอขอปรับใหม่เป็นการดำเนินการเพื่อให้เกิดความสอดคล้องกับปัจจัยด้านต่าง ๆ ดังนี้
                   1. ด้านการเมือง การปกครอง: เป็นการปรับปรุงโครงการ/แผนงานให้สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล ตามที่รัฐบาลได้วางรากฐานการพัฒนาประเทศในระยะยาว ด้วยการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560 – 2579) ที่กำหนดเป้าหมายขับเคลื่อนการพัฒนาอนาคตของประเทศไปสู่การพัฒนาที่คนไทยทุกคนต้องการ คือ มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนด้วยนโยบาย การลดความเหลื่อมล้ำของสังคมและสร้างโอกาสการเข้าถึงบริการของรัฐเพื่อให้บรรลุเป้าหมายเดียวกัน คือ การพัฒนาที่ยั่งยืน โดยไม่ทอดทิ้งใครไว้เบื้องหลัง
                   2. ด้านเศรษฐกิจ: การปรับปรุงกรอบวงเงินลงทุนเพื่อสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานด้านระบบไฟฟ้า มีความมั่นคง เชื่อถือได้ และสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน และสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจ โดยเฉพาะทางธุรกิจ อุตสาหกรรม ที่กระจายไปสู่ส่วนภูมิภาคซึ่งก่อให้เกิดการจ้างงานเพิ่มมากขึ้น ลดช่องว่างของรายได้ และลดการอพยพแรงงานเข้าสู่เมืองใหญ่ตามนโยบายของรัฐบาล อีกทั้งยังช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับระบบเศรษฐกิจของจังหวัด เช่น มูลค่าที่ดินเพิ่มสูงขึ้น รวมทั้งช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในสาขาอื่น ๆ ด้วย เช่น สาขาโรงแรม สาขาที่พักอาศัย สาขาการขายส่ง-ขายปลีก เป็นต้น
                   3. ด้านผลประโยชน์ต่อคุณภาพชีวิตประชาชน: การปรับปรุงกรอบวงเงินลงทุนเป็นการช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานให้แก่ครัวเรือน และภาพรวมของประเทศ รวมทั้งเป็นการกระจายความเจริญไปสู่ส่วนภูมิภาคและชนบท และช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชากร ช่วยให้ประชาชนมีความรู้สึกว่าได้รับการดูแลและบริการจากรัฐบาล ลดปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคม




ต่างประเทศ

8. เรื่อง  การประชุมผุ้นำยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ อิรวดี – เจ้าพระยา – แม่โขง (Ayeyawady – Chao Phraya – Mekong Economic Cooperation Strategy: ACMECS)  ครั้งที่ 8
                    คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) เสนอ ดังนี้
                    1. เห็นชอบต่อแผนแม่บท ACMECS ระยะ 5 ปี (ค.ศ. 2019-2023)  [ACMECS Master Plan (2019-2023)] และร่างปฏิญญากรุงเทพ (Bangkok Declaration)  ของการประชุมผู้นำยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ อิรวดี- เจ้าพระยา – แม่โขง (Ayeyawady – Chao Phraya – Mekong Economic Cooperation Strategy: ACMECS)  ครั้งที่ 8 (8th ACMECS Summit)  หากมีความจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขร่างเอกสารดังกล่าวทั้งสองที่ไม่ใช่สาระสำคัญหรือไม่ขัดต่อผลประโยชน์ของประเทศไทย ให้ กต. ดำเนินการได้โดยไม่ต้องเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้ง
                    2. อนุมัติให้นายกรัฐมนตรีหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมผู้นำ ACMECS ครั้งที่ 8 และเป็นผู้ร่วมให้การรับรองแผนแม่บทฯ และร่างปฏิญญากรุงเทพฯ
                    สาระสำคัญของเรื่อง
                    กต. รายงานว่า
                    ประเทศไทยในฐานะประธาน ACMECS จะจัดการประชุมผู้นำ ACMECS ครั้งที่ 8 (8th ACMECS Summit)  ที่กรุงเทพฯ ในวันที่ 16 มิถุนายน 2561 ภายใต้หัวข้อ “การก้าวสู่ประชาคมแม่โขงที่เชื่อมโยงกัน” (Towards an Integrated and Connected Mekong Community) โดยที่ประชุมฯ จะมีการรับรองเอกสารผลลัพธ์ จำนวน 2 ฉบับ ดังนี้
1.       ร่างปฏิญญากรุงเทพของการประชุมผู้นำ ACMECS ครั้งที่ 8 เป็นเอกสารแสดงเจตนารมณ์
ของประเทศสมาชิกที่จะใช้ประโยชน์จากความแข็งแกร่งและความหลากหลายของ 5 ประเทศสมาชิก เช่น 1) อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศสมาชิก ACMECS ซึ่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจของอาเซียนและของโลก  เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณร้อยละ 6-8 ต่อปี 2) การเมืองที่มีเสถียรภาพและความปรองดองทางสังคม  มีความสามัคคีและความสงบ  3) ภูมิศาสตร์ที่ตั้งของอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงในการเป็นศูนย์กลางทางภูมิรัฐศาสตร์ของภูมิภาคเอเชีย – แปซิฟิก ซึ่งเชื่อมโยงมหาสมุทรอินเดียกับมหาสมุทรแปซิฟิก  การมีความคล้ายคลึงทางวัฒนธรรม และความมุ่งมั่นที่จะร่วมมือกันในลักษณะหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์เพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน
                    ร่างปฏิญญาฯ จะมีแผนแม่บท ACMECS เป็นแนวทาง (roadmap) ในการเพิ่มประสิทธิภาพของโครงสร้างการปฏิบัติ การใช้ประโยชน์จากศักยภาพทางเศรษฐกิจของ ACMECS เพื่อให้อนุภูมิภาคในกลุ่ม ACMECS เป็นส่วนหนึ่งในห่วงโซ่อุปทานและมูลค่าของภูมิภาคและของโลก เพื่อรองรับกับความท้าทายต่าง ๆ ผ่านการเชื่อมโยงแบบไร้รอยต่อในอนุภูมิภาค การพัฒนาภูมิภาคในลักษณะยั่งยืนและมีนวัตกรรมเพื่อให้อนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงเป็น “ศูนย์กลางแห่งการเจริญเติบโต”  ที่มีความรับผิดชอบและมีส่วนร่วมที่สร้างสรรค์ในเวทีระหว่างประเทศ รวมทั้งส่งเสริมการบูรณาการของอาเซียนในภาพรวม
2.       แผนแม่บท ACMECS ระยะ 5 ปี (ค.ศ. 2019-2023) เป็นแผนแม่บทฉบับแรกของอนุภูมิภาค
ที่จะใช้กำหนดแนวทางการดำเนินการระหว่างประเทศสมาชิก ACMECS เพื่อให้การดำเนินการสอดรับกับแผนแม่บทอาเซียนด้านความเชื่อมโยง ค.ศ. 2025 รวมถึงวาระการพัฒนาที่ยั่งยืนปี ค.ศ. 2030 มีสาระสำคัญ ดังนี้
2.1  วิสัยทัศน์ คือ “สร้าง ACMECS ที่เชื่อมโยงภายในปี ค.ศ. 2023”
2.2 แนวทางการดำเนินการภายใต้แผนแม่บทฯ ประกอบด้วย 3 เสาหลัก ดังนี้
1) การเสริมสร้างความเชื่อมโยงแบบไร้รอยต่อในอนุภูมิภาค (Seamless Connectivity) 2) การสอดประสานด้านเศรษฐกิจ (Synchronized ACMECS Economies) 3) การพัฒนาภูมิภาคในลักษณะยั่งยืนและมีนวัตกรรม (Smart and Sustainable ACMECS)
                             2.3 ระยะเวลาในการดำเนินการ 5 ปี (ค.ศ. 2019-2023)  ทั้งนี้ ในระยะแรกจะมุ่งเน้นโครงการส่งเสริมความเชื่อมโยงตามระเบียงเศรษฐกิจแนวตะวันออก – ตะวันตก (EWEC)  และแนวพื้นที่เศรษฐกิจตอนใต้ (SEC)  ทั้งโครงการโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่ง ดิจิทัล  และพลังงาน (hardware connectivity) โครงการเชื่อมโยงด้านกฎระเบียบ การค้า การลงทุน (software connectivity)
                             2.4 แผนแม่บทฯ จะมีเอกสารภาคผนวก (Annex)  ซึ่งเป็นแผนปฏิบัติการ (Action Plans)  ที่ประเทศสมาชิกสามารถปรับเพิ่มหรือแก้ไขต่อไป (living document) โดยมี “คณะกรรมการประสานงาน” (Coordinating Committees)  กำกับดูแลการดำเนินโครงการสาขาความร่วมมือต่าง ๆ ในแต่ละเสา

9. เรื่อง การจัดทำความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐลัตเวีย ว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางทูตและราชการ
                   คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) เสนอ ดังนี้
                   1. เห็นชอบร่างความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐลัตเวียว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางทูตและราชการ
                   2. อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย เป็นผู้ลงนามในร่างความตกลงฯ
                   3. มอบหมายให้ กต. จัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้แก่ผู้ลงนามในข้อ 2
                   4. อนุมัติในหลักการให้ กต. มีหนังสือแจ้งฝ่ายลัตเวียเพื่อให้ความตกลงฯ มีผลบังคับใช้ต่อไป
                   5. หากมีความเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงร่างความตกลงฯ โดยไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติหรือให้ความเห็นชอบ ให้ กต. สามารถดำเนินการได้โดยนำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าว
                   สาระสำคัญของการจัดทำความตกลงฯ เป็นการยกเว้นการตรวจลงตราแก่บุคคลที่ถือหนังสือเดินทางทูตหรือราชการของแต่ละฝ่าย ในการเดินทางเข้า – ออก เดินทางผ่าน และพำนักอยู่ในดินแดนของอีกฝ่ายหนึ่งโดยได้รับการยกเว้นการตรวจลงตรา เป็นระยะเวลาไม่เกิน 90 วัน ภายในระยะเวลา 180 วันใด ๆ นับตั้งแต่วันที่เดินทางเข้า (ในช่วงระยะเวลา 180 วันจะเดินทางเข้า-ออกกี่ครั้งก็ได้แต่รวมกันแล้วต้องไม่เกิน 90 วัน) และมีเงื่อนไขว่าบุคคลเหล่านั้น จะต้องไม่ทำงานใด ๆ ไม่ว่าจะเป็นการดำเนินกิจการของตนเองหรือกิจการงานส่วนตัวอื่นในดินแดนของอีกฝ่ายหนึ่ง การระงับข้อพิพาทจะต้องได้รับการระงับโดยการเจรจาหรือปรึกษาหารือระหว่างคู่ภาคีผ่านช่องทางการทูต รวมทั้งความตกลงนี้จะมีผลใช้บังคับในวันที่แต่ละฝ่ายได้รับแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรครั้งหลังโดยไม่มีกำหนดระยะเวลาสิ้นสุด และฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอาจบอกเลิกความตกลงฯ โดยการแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรอย่างน้อย 30 วันล่วงหน้าผ่านช่องทางการทูต โดยการบอกเลิกจะมีผล 90 วัน หลังจากวันที่ได้รับแจ้งการบอกเลิกดังกล่าว เป็นต้น ทั้งนี้ จะมีการลงนามในร่างความตกลงฯ ในวันที่ 13 มิถุนายน 2561




แต่งตั้ง
10. เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงการคลัง)
                   คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ               สังกัดกระทรวงการคลัง ให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ จำนวน 2 ราย ตั้งแต่วันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ดังนี้
                   1. นางสาวพัดชา พงศ์กีรติยุต รองอธิบดีกรมสรรพากร ดำรงตำแหน่ง ที่ปรึกษาด้านประสิทธิภาพ (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) กรมสรรพากร ตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม 2560
                   2. นายไพโรจน์ เจือประทุม รองอธิบดีกรมสรรพากร ดำรงตำแหน่ง ที่ปรึกษาด้านพัฒนาฐานภาษี (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) กรมสรรพากร ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2561
                   ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป

11. เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงมหาดไทย)
                   คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอแต่งตั้ง นายทวีเกียรติ ศรีสกุลเมฆี             โยธาธิการและผังเมืองจังหวัด สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดนนทบุรี กรมโยธาธิการและผังเมือง ให้ดำรงตำแหน่งสถาปนิกใหญ่ (สถาปนิกทรงคุณวุฒิ) กรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย ตั้งแต่วันที่ 28 ธันวาคม 2560 ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง               เป็นต้นไป

12. เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ               (กระทรวงสาธารณสุข)
                   คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ               สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ จำนวน 3 ราย ตั้งแต่วันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ดังนี้
                   1. นายหวาน ศรีเรือนทอง นายแพทย์เชี่ยวชาญ (ด้านเวชกรรม สาขาจิตเวช) กลุ่มงานการแพทย์ กลุ่มบริการทางการแพทย์ โรงพยาบาลพระศรีมหาโพธิ์ กรมสุขภาพจิต ดำรงตำแหน่ง นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ              (ด้านเวชกรรม สาขาเวชศาสตร์ป้องกันแขนงสุขภาพจิตชุมชน) กลุ่มงานการแพทย์ กลุ่มบริการทางการแพทย์                สถาบันจิตเวชศาสตร์สมเด็จเจ้าพระยา กรมสุขภาพจิต ตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคม 2560
                   2. นายวิรุฬห์ พรพัฒน์กุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนนทบุรี สำนักงานปลัดกระทรวง ดำรงตำแหน่ง นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรม สาขากุมารเวชกรรม)                กลุ่มงานกุมารเวชกรรม โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนนทบุรี สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ 29 กันยายน 2560
                   3. นางกฤษดา แสวงดี นักทรัพยากรบุคคลเชี่ยวชาญ กลุ่มงานพัฒนาบุคลากร สถาบันพระบรมราชชนก สำนักงานปลัดกระทรวง ดำรงตำแหน่ง นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ (ด้านแผนยุทธศาสตร์สาธารณสุข) กลุ่มที่ปรึกษาระดับกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ 18 มกราคม 2561
                   ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป

13. เรื่อง รัฐบาลไอร์แลนด์เสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งไอร์แลนด์ประจำประเทศไทย (กระทรวงการต่างประเทศ)
                   คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติ กรณีรัฐบาลไอร์แลนด์มีความประสงค์ขอแต่งตั้ง นายโจเซฟ แอนโทนี คอตเตอร์ (Mr. Joseph Anthony Cotter) ให้ดำรงตำแหน่ง เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งไอร์แลนด์ประจำประเทศไทย คนใหม่ โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงเทพมหานคร สืบแทน นายเบร็นดัน รอเจอรส์ (Mr. Brendan Rogers) ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ

14. เรื่อง รัฐบาลฮังการีเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งฮังการีประจำประเทศไทย (กระทรวงการต่างประเทศ)
                   คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติ กรณีรัฐบาลฮังการีมีความประสงค์ขอแต่งตั้ง นายซิลเวสเตอร์ บุช
(Mr.Szilveszter Bus) ให้ดำรงตำแหน่ง เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งฮังการีประจำประเทศไทย               คนใหม่ โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงเทพมหานคร สืบแทน นายเปเตอร์ ยาค็อบ (Mr. Péter Jakab) ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ

15. เรื่อง การแต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
                   คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอแต่งตั้ง นางอมรา กลับประทุม เป็นกรรมการอื่นในคณะกรรมการ ธ.ก.ส. แทนนายสันติ กีระนันทน์ ที่ขอลาออก โดยผู้ซึ่งได้รับแต่งตั้งแทนนี้ให้อยู่ในตำแหน่ง              ตามวาระของผู้ซึ่งตนแทน ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 5 มิถุนายน 2561 เป็นต้นไป

16. เรื่อง การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติ
                   คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติ จำนวน 6 คน ดังนี้
                   1. นายประทีป เจริญพร           ด้านการบริหารจัดการที่ดิน
                   2. นายอิทธิพล ศรีเสาวลักษณ์      ด้านกฎหมายและนโยบายเกี่ยวกับที่ดิน
                   3. นายมานัส ฉั่วสวัสดิ์              ด้านการจัดการที่ดินของรัฐ
                   4. นายมณฑล สุดประเสริฐ         ด้านการผังเมือง
                   5. นายประยุทธ หล่อสุวรรณศิริ    ด้านการจัดการที่ดินป่าไม้
                   6. นายสิริวิชญ กลิ่นภักดี            ด้านการจัดรูปที่ดินและจัดระบบน้ำเพื่อเกษตรกรรม
                   ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 5 มิถุนายน 2561 เป็นต้นไป

17. เรื่อง การแต่งตั้งกรรมการสภาสถาปนิก
                   คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการ            สภาสถาปนิก จำนวน 5 คน ดังนี้ 1. นายทวีเกียรติ ศรีสกุลเมฆี 2. นางดวงขวัญ จารุดุล 3. นายสิงห์ชัย ทุ่งทอง               4. นายสมชาย วัฒนะวีระชัย 5. นายธนภัทร เลาหจรัสแสง ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 5 มิถุนายน 2561 เป็นต้นไป       



18. เรื่อง การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์
                   คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเสนอแต่งตั้ง นายบุญชัย สมบูรณ์สุข เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการบริหารในคณะกรรมการบริหารศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ แทนตำแหน่งที่ว่าง โดยให้อยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งได้แต่งตั้งไว้แล้ว              ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 5 มิถุนายน 2561 เป็นต้นไป

19. เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงศึกษาธิการ)
                   คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอแต่งตั้ง นายณรงค์ แผ้วพลสง                 รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ให้ดำรงตำแหน่ง ศึกษาธิการภาค สำนักงานศึกษาธิการภาค 15 (เชียงใหม่) สำนักงานปลัดกระทรวง ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง

20. เรื่อง แต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการการไฟฟ้านครหลวง
                   คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการการไฟฟ้านครหลวง รวมจำนวน 13 คน แทนประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการการไฟฟ้านครหลวงที่ครบวาระการดำรงตำแหน่งสามปี เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2561 ดังนี้
                   1. นายฉัตรชัย พรหมเลิศ                     ประธานกรรมการ
                   2. พลอากาศเอก ชาญฤทธิ์ พลิกานนท์      กรรมการอื่น
                   3. พลตรี ปรัชญา เฉลิมวัฒน์                 กรรมการอื่น
                   4. นางมยุรศิริ พงษ์ธรานนท์                 กรรมการอื่น (บุคคลในบัญชีรายชื่อกรรมการรัฐวิสาหกิจ ตามประกาศกระทรวงการคลัง) (ผู้ทรงคุณวุฒิจากภาคธุรกิจ)
                   5. นายนิวัติ ลมุนพันธ์                        กรรมการอื่น (ผู้ทรงคุณวุฒิจากภาคธุรกิจ)
                   6. ศาสตราจารย์สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์       กรรมการอื่น (บุคคลในบัญชีรายชื่อกรรมการรัฐวิสาหกิจ ตามประกาศกระทรวงการคลัง) (ผู้ทรงคุณวุฒิจากภาคธุรกิจ)
                   7. นายเดชบุญ มาประเสริฐ                  กรรมการอื่น (ผู้ทรงคุณวุฒิจากภาคธุรกิจ)
                   8. นายสราวุธ เบญจกุล                      กรรมการอื่น (บุคคลในบัญชีรายชื่อกรรมการรัฐวิสาหกิจ ตามประกาศกระทรวงการคลัง)
                   9. นายมนัส แจ่มเวหา                        กรรมการอื่น (บุคคลในบัญชีรายชื่อกรรมการรัฐวิสาหกิจ ตามประกาศกระทรวงการคลัง)
                   10. ศาสตราจารย์บุญเสริม กิจศิริกุล        กรรมการอื่น
                   11. นายมนตรี บุญพาณิชย์                  กรรมการอื่น
                    12. นายจรัญ วิวัฒน์เจษฎาวุฒิ              กรรมการอื่น (บุคคลในบัญชีรายชื่อกรรมการรัฐวิสาหกิจ ตามประกาศกระทรวงการคลัง) (ผู้ทรงคุณวุฒิจากภาคธุรกิจ)
                   13. นายสุวิชญ โรจนวานิช                   กรรมการอื่น (ผู้แทนกระทรวงการคลัง)
                   ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 5 มิถุนายน 2561 เป็นต้นไป

21. เรื่อง การแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารสถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย
                   คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารสถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย รวม 6 คน (แทนผู้ที่ดำรงตำแหน่ง ครบวาระ) ดังนี้
                   1. ศาสตราจารย์สุรศักดิ์ ลิขสิทธิ์วัฒนกุล              ประธานกรรมการ
                   2. นายรอยล จิตรดอน                                 กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
                   3. คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล                      กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ                                            4. นายภัคพล งามลักษณ์                              กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ                                            5. ศาสตราจารย์พิเศษกิติพงศ์ อุรพีพัฒนพงศ์   กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ                                            6. นายสุรงค์ บูลกุล                                       กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ                                            ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 5 มิถุนายน 2561 เป็นต้นไป และให้กระทรวงยุติธรรมดำเนินการแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารสถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทยในครั้งต่อไปให้เป็นไปตามกรอบระยะเวลาของกฎหมายอย่างเคร่งครัด ตามนัยของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2559 เรื่อง การดำเนินการแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ ตามที่กฎหมายบัญญัติให้เป็นไปตามกรอบระยะเวลาตามกฎหมาย ทั้งนี้ การสรรหาประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิครั้งต่อไปให้กระทรวงยุติธรรมพิจารณาทบทวนระเบียบกระทรวงยุติธรรมว่าด้วยหลักเกณฑ์ และวิธีการสรรหาประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารสถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2554 ให้สอดคล้องกับหลักเกณฑ์การสรรหาประธานกรรมการและกรรมการในคณะกรรมการองค์การมหาชน ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2560 ตามความเห็นของสำนักงาน ก.พ.ร. และให้สำนักงาน ก.พ.ร. รับข้อสังเกตของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีไปพิจารณาดำเนินการด้วย
                   
............
ืกระทรวงสาธารณสุขเสนอแต่งตั้งข้าราชการพลเรืแต้ำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงสาธารณสุข)
และผังเมืองจังหวัดนนทบ
 ที่มา ; เว็บรัฐบาลไทย


 คลิ๊ก ) สมัครพัฒนาความรู้   
เตรียมติวสอบผู้บริหารสถาน (รอง/ผอ.รร.)  


โดย อ.นิกร ติวสอบดอทคอม เว็บฟรีสอบราชการ ครู ผู้บริหาร ฯลฯ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

พัฒนาความรู้ครูผู้ช่วย 4 ภาค

พัฒนาความรู้ครูผู้ช่วย 4 ภาค
พัฒนาความรู้ครูผู้ช่วย 4 ภาค

ห้องสนทนา บน facebook

ห้องสนทนา บน facebook
ห้องสนทนาติวสอบดอทคอม

ข้อสอบออนไลน์ "ติวสอบดอทคอม" ชุดใหม่

คู่มือเตรียมสอบผู้บริหาร ภาค ก ข ค

แจ้งย้ายเว็บไปที่ www.tuewsob.com

คู่มือเตรียมสอบผู้บริหาร ภาค ก ข ค (ปรับปรุงใหม่)

รวม เล่ม + แผ่นพับ + ชีตช่วยจำ + DVD เนื้อหา + เสียงบรรยาย + EMS = 800 บาท
สนใจ คู่มือ ภาค ก ข ค ผู้บริหาร คลิ๊กเลย

สั่งจอง... โอนเงินเข้าชื่อบัญชี นายนิกร เพ็งลี ธนาคารกรุงไทย สาขาจอหอ บัญชีเลขที่ 341-1-38912-5 โอนเงินแล้วกรุณาโทรแจ้ง
0872494141 หรือ 0839660030

คู่มือ เตรียมสอบผู้บริหาร

คู่มือ เตรียมสอบผู้บริหาร
คู่มือ เตรียมสอบผู้บริหาร

ติวสอบออนไลน์ บน facebook

ติวสอบออนไลน์ บน facebook
ติวสอบออนไลน์ บน facebook

คลังหนังสือ ติวสอบดอทคอม

คลังหนังสือ ติวสอบดอทคอม
คลังหนังสือ ติวสอบดอทคอม

ติวสอบดอทคอม

ติวสอบดอทคอม
ติวสอบดอทคอม