อ่านชัด-อ่านครบ กด ดูเวอร์ชั่นสำหรับเว็บ (ด้านล่าง)
เรื่องใหม่น่าสนใจ (ทั้งหมด ที่ )
(เนื้อหา-ข้อสอบ 1,000 ชุุด หมื่นข้อ ภาค กข
+ 40 วิชาเอก) ที่ ห้องสอบด้านขวา หรือ
เว็บฟรีข้อสอบ 1,000 ชุด ที่ ติวสอบดอทคอม คลิ๊ก www.tuewsob.com
-กำหนดการสอบครูผู้ช่วย กรณีพิเศษ และ ปกติ ปี 2560
-คู่มือ 4 ชุด นโยบาย บริบริหาร ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้
( คลิ๊ก ) สมัครพัฒนาความรู้
เตรียมสอบติวสอบครูผู้ช่วย
เตรียมติวสอบผู้บริหารสถาน+การศึกษา
ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี 171/2560
125 ปี กระทรวงศึกษาธิการ
กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) จัดงานวันคล้ายวันสถาปนากระทรวงศึกษาธิการ ครบรอบ 125 ปี เมื่อวันเสาร์ที่ 1 เมษายน 2560
7.00 น. นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วย พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ และ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ รวมทั้งคณะผู้บริหาร ข้าราชการ และสมาชิกชมรมข้าราชการและครูอาวุโส ร่วมพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ จำนวน 126 รูป จากนั้นร่วมพิธีสักการะพระพุทธรูปประจำกระทรวง และสักการะพระภูมิ ตลอดจนร่วมพิธีบวงสรวงพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสถาปนากระทรวงศึกษาธิการ ครบรอบ 125 ปี
10.00 น. พิธีสงฆ์ เพื่อทำพิธีบังสุกุล อุทิศส่วนกุศลแก่ผู้ทำคุณประโยชน์ให้แก่กระทรวงศึกษาธิการที่ล่วงลับไปแล้ว พร้อมถวายภัตตาหารเพลแด่พระสงฆ์ จำนวน 10 รูป ณ หอประชุมคุรุสภา รวมทั้งเป็นประธานพิธีมอบเข็ม “เสมาคุณูปการ” และประกาศเกียรติคุณบัตรแก่ผู้ทำคุณประโยชน์ให้แก่กระทรวงศึกษาธิการ ณ หอประชุมคุรุสภา
นายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวรายงานการจัดงานในปีนี้ว่า กระทรวงศึกษาธิการได้รับการสถาปนาขึ้นเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2435 จนถึงวันนี้มีอายุครบ 125 ปี ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการเป็นหน่วยงานที่มีบทบาทสำคัญในการจัดการศึกษา เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาไทยทั้งระบบ ให้สามารถผลิตและพัฒนากำลังคนให้สอดคล้องกับความต้องการในการพัฒนาประเทศ ตลอดจนเพื่อให้ประชาชนสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างมีความสุข กระทรวงศึกษาธิการประสบความสำเร็จในการดำเนินงานเพื่อขับเคลื่อนตามนโยบายและจุดเน้นของรัฐบาล โดยเฉพาะในช่วงที่รัฐบาลเร่งปฏิรูปประเทศตามยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ 20 ปี จึงมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการพัฒนากำลังคน เพื่อพัฒนาประเทศสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน
การจัดงานในวันนี้กำหนดให้มีพิธีทำบุญตักบาตร พิธีสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวง พิธีบังสุกุลอุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้ทำคุณประโยชน์ให้กระทรวงศึกษาธิการที่ล่วงลับไปแล้ว พิธีมอบประกาศนียบัตร ประกาศเกียรติคุณบัตร และเข็มที่ระลึก "เสมาคุณูปการ" สำหรับผู้ทำคุณประโยชน์ให้กระทรวงศึกษาธิการ ประจำปี 2560 จำนวน 89 คน ตลอดจนปาฐกถาพิเศษเรื่อง "การศึกษาไทยกับการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ" โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ ได้กล่าวสารจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนากระทรวงศึกษาธิการ ครบรอบ 125 ปี พุทธศักราช 2560 ดังนี้
"เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนากระทรวงศึกษาธิการ ครบรอบ 125 ปี พุทธศักราช 2560 ขอส่งความระลึกถึงและความปรารถนาดีมายังผู้บริหาร ข้าราชการ ลูกจ้าง และเจ้าหน้าที่กระทรวงศึกษาธิการทุกคน ที่ได้ร่วมกันพัฒนาระบบการศึกษาของประเทศให้มีความเจริญก้าวหน้าตลอดมา
รัฐบาลมีนโยบายการปฏิรูปการศึกษาและการเรียนรู้ โดยให้ความสำคัญทางการศึกษาในระบบ และการศึกษาทางเลือกไปพร้อมกัน เพื่อสร้างคุณภาพคนไทยให้สามารถเรียนรู้พัฒนาตนเองได้อย่างเต็มศักยภาพ รวมทั้งมุ่งพัฒนาคนทุกช่วงวัย โดยส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต เพื่อให้มีความรู้และการศึกษาใหม่ ที่สามารถประกอบอาชีพได้หลากหลายตามบริบทการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคใหม่ และการปรับกระบวนการเรียนรู้และหลักสูตรให้เชื่อมโยงกับภูมิสังคม โดยองค์กรภาคประชาสังคม ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และประชาชน ได้มีส่วนร่วมตามรูปแบบประชารัฐในการจัดการศึกษาของชาติ พร้อมการพัฒนาระบบการผลิตและพัฒนาครูที่มีคุณภาพ และส่งเสริมการนำเทคโนโลยีสารสนเทศ และความรู้ที่เหมาะสมและทันสมัยมาใช้ในการเรียนการสอน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนรู้ของเด็กและเยาวชนให้มีทั้งความรู้และคุณธรรม เติบโตเป็นประชากรที่มีคุณภาพของประเทศ ให้สังคมก้าวไปสู่ประเทศไทย 4.0 อย่างสมบูรณ์
ผมขอขอบคุณเจ้าหน้าที่กระทรวงศึกษาธิการทุกคน ที่มุ่งมั่นปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็ง ในการพัฒนาระบบการศึกษาของชาติ เพื่อนำพาประเทศไทยของเราไปแข่งขันได้อย่างสง่างามบนเวทีโลกประกาศต่อไป
โอกาสนี้ ขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลโลก อีกทั้งพระบารมีแห่งสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ได้โปรดดลบันดาลประทานพร ให้ผู้บริหาร ข้าราชการ ลูกจ้าง และเจ้าหน้าที่กระทรวงศึกษาธิการทุกคน จงประสบแต่ความสุขความเจริญโดยทั่วกัน"
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
13.30 น. นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ กล่าวปาฐกถาพิเศษ เรื่อง "การศึกษาไทยกับการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ" โดยมีใจความสำคัญตอนหนึ่ง ดังนี้
กระทรวงศึกษาธิการดำเนินนโยบายต่าง ๆ ตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 6 ข้อ ประกอบด้วยความมั่นคง, การสร้างความสามารถในการแข่งขัน, การลงทุนในทรัพยากรมนุษย์, การสร้างโอกาสความเสมอภาคและการลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม, การสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการสร้างโอกาสความเสมอภาคและการลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมนั้น กระทรวงศึกษาธิการได้เร่งดำเนินการลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา เช่น การวิเคราะห์ผลการสอบ PISA ของนักเรียนไทย และนักเรียนจากประเทศอื่นทั่วโลกที่เข้าร่วมการทดสอบ PISA พบว่าคะแนนเฉลี่ยในแต่ละวิชาของเด็กไทยยังไม่อยู่ในระดับที่น่าพอใจ แต่หากดูคะแนนสูงสุดของเด็กไทยในแต่ละวิชา พบว่ามีคะแนนมากกว่านักเรียนสิงคโปร์ที่ได้อันดับหนึ่ง แต่การที่คะแนนเฉลี่ย PISA ของเด็กไทยได้อันดับต่ำ เนื่องจากมีความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาระหว่างโรงเรียนที่มีความพร้อมกับโรงเรียนในชนบทที่ยังขาดการสนับสนุนในด้านต่าง ๆ โดยการวิเคราะห์พบว่าเด็กไทยมีความเหลื่อมล้ำกันเองถึง 7 ปีการศึกษา ซึ่งไม่มีประโยชน์หากเราทำให้คนที่ได้คะแนนสูงอยู่แล้วได้คะแนนสูงขึ้นไปอีก ในขณะที่คนที่ได้คะแนนต่ำก็ยังคงได้คะแนนต่ำอยู่อย่างนั้น เราจึงต้องมีแนวทางในการพัฒนาการศึกษา และช่วยดูแลเด็กที่ได้คะแนนต่ำ เพื่อลดช่องว่างทางการศึกษาระหว่างนักเรียนที่ได้คะแนนดีและนักเรียนที่ได้คะแนนไม่ดี
สำหรับการจัดการศึกษานั้นต้องคำนึงถึงองค์ประกอบของระบบการศึกษาที่ดี ดังเช่น Vivian Stewart ผู้เขียนหนังสือ A World-Class Education ได้เสนอองค์ประกอบของระบบการศึกษาที่ดีระดับโลก ซึ่งประกอบด้วยองค์ประกอบสำคัญ 8 ประการ ได้แก่
1) การมีวิสัยทัศน์และภาวะความเป็นผู้นำที่เข้มแข็ง คือ การเล็งเห็นว่าประเทศจะเป็นอย่างไรต่อไป และต้องกล้าตัดสินใจที่จะทำ
2) การตั้งมาตรฐานระดับสูง ด้วยการกำหนดมาตรฐานที่สูง เพื่อไปให้ถึงดวงดาว
3) ความมุ่งมั่น ตั้งใจ ลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา โดยต้องมีความมุ่งมั่นในการลดความเหลื่อมล้ำระหว่างโรงเรียนในต่างจังหวัดและโรงเรียนในเมืองให้ได้ และต้องไม่มองจากสังคมคนมี หรือสังคมคนเมือง ซึ่งขณะนี้กระทรวงศึกษาธิการได้ดำเนินการแล้วในหลายวิธีการ เช่น โครงการโรงเรียน ICU, DLTV, DLIT เป็นต้น
4) การได้มาและการคงไว้ซึ่งครูและผู้บริหารสถานศึกษาที่มีคุณภาพ
5) ความร่วมมือในการทำงานของทุกภาคส่วนที่สอดคล้องกัน ขณะนี้หน่วยงานต่าง ๆ ในกระทรวงศึกษาธิการได้ประสานความร่วมมือในการดำเนินนโยบายและโครงการต่าง ๆ ไปพร้อม ๆ กัน รวมทั้งบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานภายนอกเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาด้วย
6) การบริหารจัดการที่ดีและการมีความรับผิดชอบ อาทิ กระทรวงศึกษาธิการกำลังดำเนินการปรับเปลี่ยนแนวทางการประกันคุณภาพและประเมินคุณภาพในรูปแบบใหม่ ซึ่งไม่เน้นการประเมินโดยใช้กระดาษ เป็นต้น
7) การสร้างแรงจูงใจแก่เด็กนักเรียน ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่มาก แต่คนไม่ค่อยสนใจ เพราะที่ผ่านมาผู้ใหญ่ให้ความสนใจแต่การเลื่อนตำแหน่งที่สูงขึ้น
8) การมุ่งเน้นพัฒนาเพื่ออนาคตในระดับโลก ด้วยการมองไปข้างหน้า และมองโลกให้กว้างไกล
นอกจากองค์ประกอบที่สำคัญของระบบการศึกษาที่ดี นพ.ธีระเกียรติ ยังได้กล่าวถึง "คำถามเพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาบุคลากรครู" โดยขอให้ทุกฝ่ายฉุกคิดและกลับไปสะท้อนภาพการศึกษาไทยในปัจจุบันว่าสามารถตอบคำถามเหล่านี้ได้หรือไม่ ซึ่งมีคำถาม 12 ข้อ คือ
1) ในขณะนี้คุณภาพครูเป็นอย่างไร ทั้งในระดับโรงเรียน เขต และประเทศ
2) มีปัญหาขาดครูหรือไม่ในระดับภูมิภาคหรือไม่ และขาดในรายวิชาใดบ้าง
3) นักเรียนที่จบมัธยมศึกษาตอนปลาย มีความเห็นเกี่ยวกับอาชีพครูอย่างไร
4) มีกลยุทธ์การเชิญให้เด็กนักเรียนที่เก่ง และมีความมุ่งมั่นในวิชาชีพครูมาสมัครเรียนครูหรือไม่
5) ระดับเงินเดือนเริ่มต้นของครูในปัจจุบัน เมื่อเปรียบเทียบกับอาชีพอื่นเป็นอย่างไร
6) ความเข้มงวดในกระบวนการคัดสรรคนที่มาสมัครเป็นครูเป็นอย่างไร
7) สถาบันอบรมครูมีศักยภาพในการผลิตครูมากน้อยเพียงใด และควรพัฒนาปรับปรุงในเรื่องใด
8) ครูที่จบใหม่ทุกคนได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดจากครูอาวุโสอย่างน้อย 1 ปีหรือไม่
9) มีระบบการประเมินครูประจำปีที่ดีหรือไม่
10) มีแผนพัฒนาครูที่ครอบคลุมเป็นระบบหรือไม่
11) มีระบบที่ช่วยส่งเสริมความก้าวหน้าในวิชาชีพหรือไม่
12) ระบบการคัดเลือกผู้อำนวยการสถานศึกษามีสิ่งใดที่ควรปรับปรุงพัฒนาหรือไม่
ซึ่งหากสามารถตอบคำถามเหล่านี้ จะทำให้เรามองเห็นทิศทาง และแนวทางในการพัฒนา และส่งเสริมศักยภาพของครูในประเทศได้อย่างเหมาะสม
นพ.ธีระเกียรติ กล่าวด้วยว่า จากที่กล่าวมาทั้งหมด เพื่อแสดงให้เห็นว่าตอนนี้กระทรวงศึกษาธิการมีกลยุทธ์ในการพัฒนาการศึกษาที่ชัดเจนแล้ว ขอบคุณทุกฝ่ายและทุกหน่วยงานที่บูรณาการความร่วมมือระหว่างกัน เพราะสิ่งที่เราทำในวันนี้อาจไม่เห็นผลทันตา แต่จะมีผลกับการศึกษาไทยในอีก 5-10 ปีข้างหน้า สุดท้ายแล้วเราคือพวกเดียวกันและต้องเดินไปด้วยกัน
ที่มา ; เว็บ สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงศึกษาธิการ
( คลิ๊ก ) สมัครพัฒนาความรู้
เตรียมสอบติวสอบครูผู้ช่วย
เตรียมติวสอบผู้บริหารสถาน+การศึกษา
ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี 171/2560
125 ปี กระทรวงศึกษาธิการ
125 ปี กระทรวงศึกษาธิการ
กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) จัดงานวันคล้ายวันสถาปนากระทรวงศึกษาธิการ ครบรอบ 125 ปี เมื่อวันเสาร์ที่ 1 เมษายน 2560
7.00 น. นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วย พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ และ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ รวมทั้งคณะผู้บริหาร ข้าราชการ และสมาชิกชมรมข้าราชการและครูอาวุโส ร่วมพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ จำนวน 126 รูป จากนั้นร่วมพิธีสักการะพระพุทธรูปประจำกระทรวง และสักการะพระภูมิ ตลอดจนร่วมพิธีบวงสรวงพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสถาปนากระทรวงศึกษาธิการ ครบรอบ 125 ปี
10.00 น. พิธีสงฆ์ เพื่อทำพิธีบังสุกุล อุทิศส่วนกุศลแก่ผู้ทำคุณประโยชน์ให้แก่กระทรวงศึกษาธิการที่ล่วงลับไปแล้ว พร้อมถวายภัตตาหารเพลแด่พระสงฆ์ จำนวน 10 รูป ณ หอประชุมคุรุสภา รวมทั้งเป็นประธานพิธีมอบเข็ม “เสมาคุณูปการ” และประกาศเกียรติคุณบัตรแก่ผู้ทำคุณประโยชน์ให้แก่กระทรวงศึกษาธิการ ณ หอประชุมคุรุสภา
นายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวรายงานการจัดงานในปีนี้ว่า กระทรวงศึกษาธิการได้รับการสถาปนาขึ้นเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2435 จนถึงวันนี้มีอายุครบ 125 ปี ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการเป็นหน่วยงานที่มีบทบาทสำคัญในการจัดการศึกษา เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาไทยทั้งระบบ ให้สามารถผลิตและพัฒนากำลังคนให้สอดคล้องกับความต้องการในการพัฒนาประเทศ ตลอดจนเพื่อให้ประชาชนสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างมีความสุข กระทรวงศึกษาธิการประสบความสำเร็จในการดำเนินงานเพื่อขับเคลื่อนตามนโยบายและจุดเน้นของรัฐบาล โดยเฉพาะในช่วงที่รัฐบาลเร่งปฏิรูปประเทศตามยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ 20 ปี จึงมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการพัฒนากำลังคน เพื่อพัฒนาประเทศสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน
การจัดงานในวันนี้กำหนดให้มีพิธีทำบุญตักบาตร พิธีสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวง พิธีบังสุกุลอุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้ทำคุณประโยชน์ให้กระทรวงศึกษาธิการที่ล่วงลับไปแล้ว พิธีมอบประกาศนียบัตร ประกาศเกียรติคุณบัตร และเข็มที่ระลึก "เสมาคุณูปการ" สำหรับผู้ทำคุณประโยชน์ให้กระทรวงศึกษาธิการ ประจำปี 2560 จำนวน 89 คน ตลอดจนปาฐกถาพิเศษเรื่อง "การศึกษาไทยกับการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ" โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ ได้กล่าวสารจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนากระทรวงศึกษาธิการ ครบรอบ 125 ปี พุทธศักราช 2560 ดังนี้
"เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนากระทรวงศึกษาธิการ ครบรอบ 125 ปี พุทธศักราช 2560 ขอส่งความระลึกถึงและความปรารถนาดีมายังผู้บริหาร ข้าราชการ ลูกจ้าง และเจ้าหน้าที่กระทรวงศึกษาธิการทุกคน ที่ได้ร่วมกันพัฒนาระบบการศึกษาของประเทศให้มีความเจริญก้าวหน้าตลอดมา
รัฐบาลมีนโยบายการปฏิรูปการศึกษาและการเรียนรู้ โดยให้ความสำคัญทางการศึกษาในระบบ และการศึกษาทางเลือกไปพร้อมกัน เพื่อสร้างคุณภาพคนไทยให้สามารถเรียนรู้พัฒนาตนเองได้อย่างเต็มศักยภาพ รวมทั้งมุ่งพัฒนาคนทุกช่วงวัย โดยส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต เพื่อให้มีความรู้และการศึกษาใหม่ ที่สามารถประกอบอาชีพได้หลากหลายตามบริบทการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคใหม่ และการปรับกระบวนการเรียนรู้และหลักสูตรให้เชื่อมโยงกับภูมิสังคม โดยองค์กรภาคประชาสังคม ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และประชาชน ได้มีส่วนร่วมตามรูปแบบประชารัฐในการจัดการศึกษาของชาติ พร้อมการพัฒนาระบบการผลิตและพัฒนาครูที่มีคุณภาพ และส่งเสริมการนำเทคโนโลยีสารสนเทศ และความรู้ที่เหมาะสมและทันสมัยมาใช้ในการเรียนการสอน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนรู้ของเด็กและเยาวชนให้มีทั้งความรู้และคุณธรรม เติบโตเป็นประชากรที่มีคุณภาพของประเทศ ให้สังคมก้าวไปสู่ประเทศไทย 4.0 อย่างสมบูรณ์
ผมขอขอบคุณเจ้าหน้าที่กระทรวงศึกษาธิการทุกคน ที่มุ่งมั่นปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็ง ในการพัฒนาระบบการศึกษาของชาติ เพื่อนำพาประเทศไทยของเราไปแข่งขันได้อย่างสง่างามบนเวทีโลกประกาศต่อไป
โอกาสนี้ ขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลโลก อีกทั้งพระบารมีแห่งสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ได้โปรดดลบันดาลประทานพร ให้ผู้บริหาร ข้าราชการ ลูกจ้าง และเจ้าหน้าที่กระทรวงศึกษาธิการทุกคน จงประสบแต่ความสุขความเจริญโดยทั่วกัน"
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
13.30 น. นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ กล่าวปาฐกถาพิเศษ เรื่อง "การศึกษาไทยกับการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ" โดยมีใจความสำคัญตอนหนึ่ง ดังนี้
กระทรวงศึกษาธิการดำเนินนโยบายต่าง ๆ ตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 6 ข้อ ประกอบด้วยความมั่นคง, การสร้างความสามารถในการแข่งขัน, การลงทุนในทรัพยากรมนุษย์, การสร้างโอกาสความเสมอภาคและการลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม, การสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการสร้างโอกาสความเสมอภาคและการลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมนั้น กระทรวงศึกษาธิการได้เร่งดำเนินการลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา เช่น การวิเคราะห์ผลการสอบ PISA ของนักเรียนไทย และนักเรียนจากประเทศอื่นทั่วโลกที่เข้าร่วมการทดสอบ PISA พบว่าคะแนนเฉลี่ยในแต่ละวิชาของเด็กไทยยังไม่อยู่ในระดับที่น่าพอใจ แต่หากดูคะแนนสูงสุดของเด็กไทยในแต่ละวิชา พบว่ามีคะแนนมากกว่านักเรียนสิงคโปร์ที่ได้อันดับหนึ่ง แต่การที่คะแนนเฉลี่ย PISA ของเด็กไทยได้อันดับต่ำ เนื่องจากมีความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาระหว่างโรงเรียนที่มีความพร้อมกับโรงเรียนในชนบทที่ยังขาดการสนับสนุนในด้านต่าง ๆ โดยการวิเคราะห์พบว่าเด็กไทยมีความเหลื่อมล้ำกันเองถึง 7 ปีการศึกษา ซึ่งไม่มีประโยชน์หากเราทำให้คนที่ได้คะแนนสูงอยู่แล้วได้คะแนนสูงขึ้นไปอีก ในขณะที่คนที่ได้คะแนนต่ำก็ยังคงได้คะแนนต่ำอยู่อย่างนั้น เราจึงต้องมีแนวทางในการพัฒนาการศึกษา และช่วยดูแลเด็กที่ได้คะแนนต่ำ เพื่อลดช่องว่างทางการศึกษาระหว่างนักเรียนที่ได้คะแนนดีและนักเรียนที่ได้คะแนนไม่ดี
สำหรับการจัดการศึกษานั้นต้องคำนึงถึงองค์ประกอบของระบบการศึกษาที่ดี ดังเช่น Vivian Stewart ผู้เขียนหนังสือ A World-Class Education ได้เสนอองค์ประกอบของระบบการศึกษาที่ดีระดับโลก ซึ่งประกอบด้วยองค์ประกอบสำคัญ 8 ประการ ได้แก่
1) การมีวิสัยทัศน์และภาวะความเป็นผู้นำที่เข้มแข็ง คือ การเล็งเห็นว่าประเทศจะเป็นอย่างไรต่อไป และต้องกล้าตัดสินใจที่จะทำ
2) การตั้งมาตรฐานระดับสูง ด้วยการกำหนดมาตรฐานที่สูง เพื่อไปให้ถึงดวงดาว
3) ความมุ่งมั่น ตั้งใจ ลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา โดยต้องมีความมุ่งมั่นในการลดความเหลื่อมล้ำระหว่างโรงเรียนในต่างจังหวัดและโรงเรียนในเมืองให้ได้ และต้องไม่มองจากสังคมคนมี หรือสังคมคนเมือง ซึ่งขณะนี้กระทรวงศึกษาธิการได้ดำเนินการแล้วในหลายวิธีการ เช่น โครงการโรงเรียน ICU, DLTV, DLIT เป็นต้น
4) การได้มาและการคงไว้ซึ่งครูและผู้บริหารสถานศึกษาที่มีคุณภาพ
5) ความร่วมมือในการทำงานของทุกภาคส่วนที่สอดคล้องกัน ขณะนี้หน่วยงานต่าง ๆ ในกระทรวงศึกษาธิการได้ประสานความร่วมมือในการดำเนินนโยบายและโครงการต่าง ๆ ไปพร้อม ๆ กัน รวมทั้งบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานภายนอกเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาด้วย
6) การบริหารจัดการที่ดีและการมีความรับผิดชอบ อาทิ กระทรวงศึกษาธิการกำลังดำเนินการปรับเปลี่ยนแนวทางการประกันคุณภาพและประเมินคุณภาพในรูปแบบใหม่ ซึ่งไม่เน้นการประเมินโดยใช้กระดาษ เป็นต้น
7) การสร้างแรงจูงใจแก่เด็กนักเรียน ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่มาก แต่คนไม่ค่อยสนใจ เพราะที่ผ่านมาผู้ใหญ่ให้ความสนใจแต่การเลื่อนตำแหน่งที่สูงขึ้น
8) การมุ่งเน้นพัฒนาเพื่ออนาคตในระดับโลก ด้วยการมองไปข้างหน้า และมองโลกให้กว้างไกล
นอกจากองค์ประกอบที่สำคัญของระบบการศึกษาที่ดี นพ.ธีระเกียรติ ยังได้กล่าวถึง "คำถามเพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาบุคลากรครู" โดยขอให้ทุกฝ่ายฉุกคิดและกลับไปสะท้อนภาพการศึกษาไทยในปัจจุบันว่าสามารถตอบคำถามเหล่านี้ได้หรือไม่ ซึ่งมีคำถาม 12 ข้อ คือ
1) ในขณะนี้คุณภาพครูเป็นอย่างไร ทั้งในระดับโรงเรียน เขต และประเทศ
2) มีปัญหาขาดครูหรือไม่ในระดับภูมิภาคหรือไม่ และขาดในรายวิชาใดบ้าง
3) นักเรียนที่จบมัธยมศึกษาตอนปลาย มีความเห็นเกี่ยวกับอาชีพครูอย่างไร
4) มีกลยุทธ์การเชิญให้เด็กนักเรียนที่เก่ง และมีความมุ่งมั่นในวิชาชีพครูมาสมัครเรียนครูหรือไม่
5) ระดับเงินเดือนเริ่มต้นของครูในปัจจุบัน เมื่อเปรียบเทียบกับอาชีพอื่นเป็นอย่างไร
6) ความเข้มงวดในกระบวนการคัดสรรคนที่มาสมัครเป็นครูเป็นอย่างไร
7) สถาบันอบรมครูมีศักยภาพในการผลิตครูมากน้อยเพียงใด และควรพัฒนาปรับปรุงในเรื่องใด
8) ครูที่จบใหม่ทุกคนได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดจากครูอาวุโสอย่างน้อย 1 ปีหรือไม่
9) มีระบบการประเมินครูประจำปีที่ดีหรือไม่
10) มีแผนพัฒนาครูที่ครอบคลุมเป็นระบบหรือไม่
11) มีระบบที่ช่วยส่งเสริมความก้าวหน้าในวิชาชีพหรือไม่
12) ระบบการคัดเลือกผู้อำนวยการสถานศึกษามีสิ่งใดที่ควรปรับปรุงพัฒนาหรือไม่
ซึ่งหากสามารถตอบคำถามเหล่านี้ จะทำให้เรามองเห็นทิศทาง และแนวทางในการพัฒนา และส่งเสริมศักยภาพของครูในประเทศได้อย่างเหมาะสม
ที่มา ; เว็บ สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงศึกษาธิการ
โหลด - อ่าน - เรื่องเด่น
โหลด - อ่าน - เรื่องเด่น
เกณฑ์และกำหนดการสอบครูผู้ช่วย กรณีปกติและพิเศษ ปี 2560
เกณฑ์สอบผู้บริหารการศึกษา ปี 2560
เกณฑ์และกำหนดการสอบครูผู้ช่วย กรณีปกติและพิเศษ ปี 2560
เกณฑ์สอบผู้บริหารการศึกษา ปี 2560
( คลิ๊ก ) สมัครพัฒนาความรู้
เตรียมสอบติวสอบครูผู้ช่วย
เตรียมติวสอบผู้บริหารสถาน+การศึกษา
( คลิ๊ก ) สมัครพัฒนาความรู้
เตรียมสอบติวสอบครูผู้ช่วย
เตรียมติวสอบผู้บริหารสถาน+การศึกษา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น