อ่านชัด-อ่านครบ กด ดูเวอร์ชั่นสำหรับเว็บ (ด้านล่าง)
เรื่องใหม่น่าสนใจ (ทั้งหมด ที่ )
(เนื้อหา-ข้อสอบ 1,000 ชุุด หมื่นข้อ ภาค กข
+ 40 วิชาเอก) ที่ ห้องสอบด้านขวา หรือ
เว็บฟรีข้อสอบ 1,000 ชุด ที่ ติวสอบดอทคอม คลิ๊ก www.tuewsob.com
-กำหนดการสอบครูผู้ช่วย กรณีพิเศษ และ ปกติ ปี 2560
-คู่มือ 4 ชุด นโยบาย บริบริหาร ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้
ข้อสอบ รัฐธรรมนูญ 2560 + การวิเคราะห์กฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องการปฏิบัติงาน ครู ผู้บริหาร บุคลากร การศึกษา by ProProfs » Create A Quiz with ProProfs
( คลิ๊ก ) สมัครพัฒนาความรู้
เตรียมสอบติวสอบครูผู้ช่วย
เตรียมติวสอบผู้บริหารสถาน+การศึกษา
ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี 190/2560
"สุรเชษฐ์" รับฟัง แผนพัฒนาการศึกษาพื้นที่ชายแดน (พ.ศ.2560-2564) ของจังหวัด ภาคตะวันออก " จันทบุรี ตราด และสระแก้ว "
เมื่อวันศุกร์ที่ 28 เมษายน 2560 เวลา 09.30-12.00 น. ณ โรงแรมนิวแทรเวล บีช รีสอร์ท อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี : พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วย พล.อ.สุทัศน์ กาญจนานนท์กุล ที่ปรึกษา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ รับฟังผลการประชุมเชิงปฏิบัติการจัดทำแผนพัฒนาการศึกษาพื้นที่ชายแดน (พ.ศ.2560-2564) ของ 3 จังหวัด ชายแดนภาคตะวันออกของประเทศไทย คือ จันทบุรี ตราด และสระแก้ว โดยมีสาระที่สำคัญโดยสรุปดังนี้
● "สุรเชษฐ์" เผยถึง การเสริมสร้างความมั่นคงของชาติ ด้วยการวางแผนพัฒนาการศึกษาในพื้นที่ชายแดน 27 จังหวัด 105 อำเภอ
พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ กล่าว ว่า กระทรวงศึกษาธิการมีนโยบายสำคัญในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาพื้นที่ชายแดนที่มีอาณาเขตติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน 3 ประเทศ คือ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา และราชอาณาจักรกัมพูชา ครอบคลุมพื้นที่ 27 จังหวัด 105 อำเภอ เพื่อส่งเสริมศักยภาพการศึกษาด้านเศรษฐกิจ ด้วยการส่งเสริมการสร้างนักเรียน นักศึกษา ให้เป็นทรัพยากรที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพ พร้อมทั้งสร้างการพัฒนางานด้านเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโตอย่างมั่นคง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นพื้นฐานที่สำคัญต่อการ เสริมสร้างความมั่นคงของชาติ
ในส่วนของจังหวัดภาคตะวันออกของไทย มี อาณาเขตที่ติดกับ ประเทศกัมพูชา รวม 3 จังหวัด : จันทบุรี 2 อำเภอ คือ อำเภอโป่งน้ำร้อน และสอยดาว, สระแก้ว 4 อำเภอ คือ อำเภอคลองหาด ตาพระยา อรัญประเทศ และโคกสูง, ตราด 3 อำเภอ คือ อำเภอเมืองตราด บ่อไร่ และคลองใหญ่
● เน้น การนำ "โอกาสและจุดแข็ง" มาสร้างวิสัยทัศน์ในการผลิต "นักเรียนชายแดน" ที่มีศักยภาพ
ด้วยเหตุนี้ กระทรวงศึกษาธิการจึงได้ปูพรมเร่งเสริมสร้างความมั่นคงของชาติ โดยเน้นการนำ “โอกาสและจุดแข็งชายแดน” มาสร้างวิสัยทัศน์ใหม่ในการผลิต “นักเรียนชายแดน” ที่มีศักยภาพ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน รวมทั้งช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ และความมั่นคงของประเทศ ให้ โครงการปฏิบัติต่าง ๆ เป็นรูปธรรม จับต้องได้ มีเกณฑ์ตัวชี้วัด เห็นผลชัดเจนในระยะเวลารวดเร็ว และสอดคล้องยุทธศาสตร์ชาติ ตลอดจนนโยบายรัฐบาลและกระทรวงศึกษาธิการ
● นำร่องใน 4 จังหวัดภาคเหนือ ก่อนขยายสู่พื้นที่ชายแดนอื่น ๆทั่วประเทศ
พร้อมทั้งได้ดำเนินการนำร่องใน 4 จังหวัดภาคเหนือ คือ จังหวัดตาก แม่ฮ่องสอน เชียงราย และเชียงใหม่ ซึ่งได้มีการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการการจัดทำแผนพัฒนาการศึกษาโรงเรียนพื้นที่ชายแดน (พ.ศ.2560-2564) ขึ้นที่จังหวัดเชียงใหม่ไปแล้วเมื่อเร็ว ๆ นี้ ก่อนขยายสู่พื้นที่ชายแดนอื่น ๆ ทั่วประเทศต่อไป โดยได้รับความร่วมมือจากสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดต่าง ๆ ในพื้นที่ชายแดน หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งวิทยาลัยพาณิชยศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา
ดังนั้น กศจ.ในพื้นที่จังหวัดชายแดนดังกล่าว จึงใ ห้ผู้บริหารสถานศึกษา ครู ผู้เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมครั้งนี้ เพื่อร่วมกันคิด พร้อมทั้งเขียนแผนบูรณาการของจังหวัดเป็นกลุ่ม ๆ โดยให้จังหวัดจันทบุรี ตราด สระแก้ว เป็นกลุ่มที่ 2 ที่จะดำเนินการเขียนแผนสู่การปฏิบัติ และแผนพัฒนา โดยนำจุดแข็งและโอกาสมาเขียนคู่ไปกับปัญหาที่พบ
● เผยถึงร่างแผนพัฒนาการศึกษา 3 จังหวัดภาคตะวันออก ต้องสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ
จากการรับฟังผลการประชุม ทำให้เห็นถึงความก้าวหน้า (ร่าง) แผนพัฒนาการศึกษาพื้นที่ชายแดน (พ.ศ.2560-2564) ทั้ง 3 จังหวัด ซึ่งสอดคล้องตามเป้าหมายยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี (พ.ศ.2560-2579) คือ ความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน และสอดคล้องกับแผนการศึกษาแห่งชาติระยะ 20 ปี (พ.ศ.2560-2579) แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (พ.ศ.2560-2579) และแผนจัดการศึกษาแบบบูรณาการเพื่อรองรับการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor : EEC) ด้วย
ดังนั้น ยุทธศาสตร์การศึกษาของ 3 จังหวัดดังกล่าว จึงมีความสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติทั้ง 6 ด้าน คือ 1. การศึกษาเพื่อเสริมสร้างความมั่นคง 2. การพัฒนาศักยภาพคนทุกช่วงวัยและการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ 3. การผลิตและพัฒนากำลังคนให้มีสมรรถนะในการแข่งขัน 4. การสร้างโอกาสความเสมอภาคและเท่าเทียมกันทางการศึกษา 5. การจัดการศึกษาเพื่อเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 6. การพัฒนาระบบการบริหารจัดการศึกษา
● 3 จังหวัดนำเสนอร่าง แผนพัฒนาการศึกษาพื้นที่ชายแดน
ทั้ง 3 จังหวัดได้นำเสนอผลการประชุม ซึ่งมีบางส่วนที่น่าสนใจ เช่น
จันทบุรี ต้องการครูสอนภาษาเขมรและเวียดนามมากขึ้น เพื่อสอดรับกับการพัฒนาด่านการค้าชายแดนทั้ง 2 แห่งในจังหวัดจันทบุรี โดยมุ่งจัดการศึกษาไปสู่ 5H คือ Head Heart Hand Health Happiness และมีหลายโครงการในการส่งเสริมอาชีพชายแดนเพื่อการมีงานทำ รวมทั้ง "การค้าออนไลน์" ซึ่งได้ขอให้สำนักงาน กศน. ซึ่งมีศูนย์ดิจิทัลชุมชน เป็นหลักในการทำงานที่จะสนับสนุนการค้าออนไลน์ให้แพร่หลาย เช่น การค้า ออนไลน์ ลำไย เพื่อให้เชื่อมตรงสู่การบริโภคของประชาชน
ตราด จะมีการจัดทำแนวทางการพัฒนาการศึกษาเพิ่มเติมให้สอดคล้องกับ "จุดแข็ง" ของจังหวัด คือ การเป็นเมืองที่มีอากาศดี เป็นเมืองท่องเที่ยว เป็นเมืองการค้าชายแดน และเป็นเมืองเกษตรผลผลิตพื้นบ้าน โดยใช้ "โอกาส" ที่มีอยู่ คือ การเป็นเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตราด รวมทั้งเรื่อง Trat Green City ตลอดจนการสร้างระบบโลจิสติกส์ที่มีคุณภาพ
สระแก้ว เป็นจังหวัดที่ตั้งขึ้นใหม่มาแล้ว 24 ปี ที่จะเน้นให้ "นักเรียนนักศึกษาและประชาชนในพื้นที่ชายแดนได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพและเสมอภาคอย่างทั่วถึง มีทักษะอาชีพ ทักษะชีวิต และจิตสำนึกร่วมสร้างความมั่นคงพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา" ตามวิสัยทัศน์ที่ กศจ.สระแก้ว ได้กำหนดไว้
● ขอให้วางแผนการศึกษาโดยยืดหยุ่นไปยังอำเภออื่น ๆ ที่ไม่ใช่พื้นที่ชายแดนด้วย
พล.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวด้วยว่าศักยภาพในพื้นที่ภาคตะวันออกมีสูงมาก โดยมี 9 อำเภอใน 3 จังหวัดภาคตะวันออกที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้าน แต่ไม่ได้หมายถึงจะจำกัดแต่ในพื้นที่อำเภอชายแดนดังกล่าวเท่านั้น ต้องยืดหยุ่นเพื่อให้ขยายไปยังพื้นที่อำเภออื่น ๆ ด้วย แต่เหตุผลที่ได้กำหนดอำเภอชายแดนก่อน ก็เพื่อให้เป็นก้าวแรกที่มั่นคง เพื่อก้าวต่อไปจะได้เข้มแข็งขึ้นตามลำดับ นอกจากนี้พื้นที่ภาคตะวันออกมีทั้งจังหวัดที่อยู่ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ คือ ตราด-สระแก้ว และระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก คือ ชลบุรี-ฉะเชิงเทรา-ระยอง อีกด้วย
แต่ในวงใหญ่จริง ๆ คือ "ภาคตะวันออก" ซึ่งเป็นภาคที่มีศักยภาพสูงมาก มีมูลค่าทางการค้า การลงทุน การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะ EEC ที่จะเป็นเขตเศรษฐกิจชั้นนำของภูมิภาคอาเซียนต่อไป ดังนั้น กระทรวงศึกษาธิการจึง มีบทบาทสำคัญที่สุดในการผลิตและพัฒนากำลังคนให้สอดคล้องกับการพัฒนาด้านต่าง ๆ ในพื้นที่ตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงศึกษาธิการ
● ฝาก 5 ประเด็นหลักในการทำงานตามแผนการศึกษาพื้นที่ชายแดน
-
ให้ติดตามข้อมูลข่าวสารในเรื่องใหม่ ๆ ที่เป็นประโยชน์หรือผลกระทบต่อตัวเองหรือพื้นที่ เช่น การที่นายกรัฐมนตรีสั่งการในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีให้กระทรวงศึกษาธิการเป็นหลัก ร่วมกับกระทรวงแรงงาน และ BOI รวมทั้ง TDRI และหน่วยงานต่าง ๆ ในการตรวจสอบการผลิตและพัฒนากำลังคนให้ตรงกับความต้องการของภาคอุตสาหกรรมและการผลิต จึงต้องมีการติดตามและนโยบายต่าง ๆ เพื่อให้เกิดการดำเนินการอย่างต่อเนื่องและสอดคล้องกับนโยบายของรัฐ
-
การบูรณาการแผนการศึกษาให้สอดคล้องเชื่อมโยงกับแผนทุกระดับ ทั้งแผนยุทธศาสตร์ชาติ แผนการศึกษาแห่งชาติ และแผนบูรณาการศึกษาในพื้นที่ และขอให้เน้นการนำแผนที่ดีไปสู่การปฏิบัติที่ดีด้วย โดยให้มีการทบทวนและรายงานแผนเป็นห้วง ๆ เพื่อให้การปฏิบัติตามแผนห้วงต่อไปให้มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
-
เน้นการสร้างการรับรู้และความเข้าใจให้เกิดขึ้นในพื้นที่ ทั้งในองค์กรหรือนอกองค์กร เพื่อให้เกิดความร่วมมือ และให้ประชาชนในพื้นที่รับทราบความเคลื่อนไหวในการจัดการศึกษาของทุกภาคส่วนในกระทรวงศึกษาธิการ
-
สร้างบรรยากาศการทำงานอย่างมีพลัง อย่ากังวลกับปัญหาการทำงานจนส่งผลถึงความเครียดในการทำงาน อันจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกาย จึงขอให้ผู้บริหารให้ความสำคัญกับการดูแล สนับสนุน และแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นกับบุคลากรทุกระดับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาในพื้นที่ชายแดนห่างไกลที่จะมีปัญหาหลัก ๆ คือ ขาดครู ขาดงบประมาณ จึงต้องการช่วยกันแยกแยะปัญหา และร่วมกันแก้ไขไปทีละส่วน
-
ให้หน่วยงานและสถานศึกษาน้อมนำเรื่องของศาสตร์พระราชา หลักการทรงงาน เกษตรทฤษฎีใหม่ และยุทธศาสตร์พระราชทาน "เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา" ซึ่งถือเป็น "วิชาชีวิต" ที่มีค่ามากที่สุดของคนไทยไปเป็นแนวทางในการศึกษาเรียนรู้ ปฏิบัติ และขยายผลให้เกิดขึ้นได้อย่างแท้จริง
ผศ.ดร.บรรพต วิรุณราช คณบดีวิทยาลัยพาณิชยศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา กล่าวว่า วิทยาลัยพาณิชยศาสตร์ ม.บูรพา เป็นสถาบันอุดมศึกษาของรัฐด้านการบริหารจัดการทางธุรกิจที่เปิดสอนปริญญาโทและปริญญาเอก และอยู่ในพื้นที่เป้าหมายการพัฒนาเศรษฐกิจอุตสาหกรรมของประเทศในเขตระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ที่ จ.ชลบุรี ได้รับมอบหมายในการร่วมนำบุคลากรทุกภาคส่วน ดึงจุดแข็งและโอกาส มาสร้างโครงการพัฒนาต่าง ๆ ให้เกิดขึ้น
จึงได้ร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ ในการจัดทำแผน พัฒนาการศึกษาพื้นที่ชายแดน โดยนำ “จุดแข็งและโอกาส” มาเป็นแนวทางนำนโยบายสู่การปฏิบัติ เป็นการสร้างมุมมองการพัฒนาในอีกมิติที่สามารถมีส่วนในการผลักดันให้เกิดการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับทรัพยากรของแต่ละท้องถิ่นที่มีบริบทแตกต่างกัน ซึ่งจะก่อให้เกิดการรับรู้และกระตุ้นเศรษฐกิจได้ตั้งแต่ระดับฐานราก และสามารถเชื่อมโยงไปสู่การพัฒนาร่วมกับเขตเศรษฐกิจต่าง ๆ ของประเทศได้ เช่น เขตระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เป็นต้น ตลอดจนสามารถขยายผลต่อยอดได้ในระดับอื่น ๆ เพื่อสร้างความมั่นคงให้เกิดขึ้นได้ในหลายมิติ
( คลิ๊ก ) สมัครพัฒนาความรู้
เตรียมสอบติวสอบครูผู้ช่วย
เตรียมติวสอบผู้บริหารสถาน+การศึกษา
ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี 190/2560
"สุรเชษฐ์" รับฟัง แผนพัฒนาการศึกษาพื้นที่ชายแดน (พ.ศ.2560-2564) ของจังหวัด ภาคตะวันออก " จันทบุรี ตราด และสระแก้ว "
"สุรเชษฐ์" รับฟัง
เมื่อวันศุกร์ที่ 28 เมษายน 2560 เวลา 09.30-12.00 น. ณ โรงแรมนิวแทรเวล บีช รีสอร์ท อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี : พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วย พล.อ.สุทัศน์ กาญจนานนท์กุล ที่ปรึกษา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ รับฟังผลการประชุมเชิงปฏิบัติการจัดทำแผนพัฒนาการศึกษาพื้นที่ชายแดน (พ.ศ.2560-2564) ของ 3 จังหวัด ชายแดนภาคตะวันออกของประเทศไทย คือ จันทบุรี ตราด และสระแก้ว โดยมีสาระที่สำคัญโดยสรุปดังนี้
● "สุรเชษฐ์" เผยถึง การเสริมสร้างความมั่นคงของชาติ ด้วยการวางแผนพัฒนาการศึกษาในพื้นที่ชายแดน 27 จังหวัด 105 อำเภอ
ในส่วนของจังหวัดภาคตะวันออกของไทย มี อาณาเขตที่ติดกับ ประเทศกัมพูชา รวม 3 จังหวัด : จันทบุรี 2 อำเภอ คือ อำเภอโป่งน้ำร้อน และสอยดาว, สระแก้ว 4 อำเภอ คือ อำเภอคลองหาด ตาพระยา อรัญประเทศ และโคกสูง, ตราด 3 อำเภอ คือ อำเภอเมืองตราด บ่อไร่ และคลองใหญ่
ด้วยเหตุนี้ กระทรวงศึกษาธิการจึงได้ปูพรมเร่งเสริมสร้างความมั่นคงของชาติ โดยเน้นการนำ “โอกาสและจุดแข็งชายแดน” มาสร้างวิสัยทัศน์ใหม่ในการผลิต “นักเรียนชายแดน” ที่มีศักยภาพ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน รวมทั้งช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ และความมั่นคงของประเทศ ให้ โครงการปฏิบัติต่าง ๆ เป็นรูปธรรม จับต้องได้ มีเกณฑ์ตัวชี้วัด เห็นผลชัดเจนในระยะเวลารวดเร็ว และสอดคล้องยุทธศาสตร์ชาติ ตลอดจนนโยบายรัฐบาลและกระทรวงศึกษาธิการ
ดังนั้น กศจ.ในพื้นที่จังหวัดชายแดนดังกล่าว จึงใ ห้ผู้บริหารสถานศึกษา ครู ผู้เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมครั้งนี้ เพื่อร่วมกันคิด พร้อมทั้งเขียนแผนบูรณาการของจังหวัดเป็นกลุ่ม ๆ โดยให้จังหวัดจันทบุรี ตราด สระแก้ว เป็นกลุ่มที่ 2 ที่จะดำเนินการเขียนแผนสู่การปฏิบัติ และแผนพัฒนา โดยนำจุดแข็งและโอกาสมาเขียนคู่ไปกับปัญหาที่พบ
จากการรับฟังผลการประชุม ทำให้เห็นถึงความก้าวหน้า (ร่าง) แผนพัฒนาการศึกษาพื้นที่ชายแดน (พ.ศ.2560-2564) ทั้ง 3 จังหวัด ซึ่งสอดคล้องตามเป้าหมายยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี (พ.ศ.2560-2579) คือ ความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน และสอดคล้องกับแผนการศึกษาแห่งชาติระยะ 20 ปี (พ.ศ.2560-2579) แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (พ.ศ.2560-2579) และแผนจัดการศึกษาแบบบูรณาการเพื่อรองรับการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor : EEC) ด้วย
ดังนั้น ยุทธศาสตร์การศึกษาของ 3 จังหวัดดังกล่าว จึงมีความสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติทั้ง 6 ด้าน คือ 1. การศึกษาเพื่อเสริมสร้างความมั่นคง 2. การพัฒนาศักยภาพคนทุกช่วงวัยและการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ 3. การผลิตและพัฒนากำลังคนให้มีสมรรถนะในการแข่งขัน 4. การสร้างโอกาสความเสมอภาคและเท่าเทียมกันทางการศึกษา 5. การจัดการศึกษาเพื่อเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 6. การพัฒนาระบบการบริหารจัดการศึกษา
ทั้ง 3 จังหวัดได้นำเสนอผลการประชุม ซึ่งมีบางส่วนที่น่าสนใจ เช่น
จันทบุรี ต้องการครูสอนภาษาเขมรและเวียดนามมากขึ้น เพื่อสอดรับกับการพัฒนาด่านการค้าชายแดนทั้ง 2 แห่งในจังหวัดจันทบุรี โดยมุ่งจัดการศึกษาไปสู่ 5H คือ Head Heart Hand Health Happiness และมีหลายโครงการในการส่งเสริมอาชีพชายแดนเพื่อการมีงานทำ รวมทั้ง "การค้าออนไลน์" ซึ่งได้ขอให้สำนักงาน กศน. ซึ่งมีศูนย์ดิจิทัลชุมชน เป็นหลักในการทำงานที่จะสนับสนุนการค้าออนไลน์ให้แพร่หลาย เช่น การค้า ออนไลน์ ลำไย เพื่อให้เชื่อมตรงสู่การบริโภคของประชาชน
ตราด จะมีการจัดทำแนวทางการพัฒนาการศึกษาเพิ่มเติมให้สอดคล้องกับ "จุดแข็ง" ของจังหวัด คือ การเป็นเมืองที่มีอากาศดี เป็นเมืองท่องเที่ยว เป็นเมืองการค้าชายแดน และเป็นเมืองเกษตรผลผลิตพื้นบ้าน โดยใช้ "โอกาส" ที่มีอยู่ คือ การเป็นเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตราด รวมทั้งเรื่อง Trat Green City ตลอดจนการสร้างระบบโลจิสติกส์ที่มีคุณภาพ
สระแก้ว เป็นจังหวัดที่ตั้งขึ้นใหม่มาแล้ว 24 ปี ที่จะเน้นให้ "นักเรียนนักศึกษาและประชาชนในพื้นที่ชายแดนได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพและเสมอภาคอย่างทั่วถึง มีทักษะอาชีพ ทักษะชีวิต และจิตสำนึกร่วมสร้างความมั่นคงพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา" ตามวิสัยทัศน์ที่ กศจ.สระแก้ว ได้กำหนดไว้
- ให้ติดตามข้อมูลข่าวสารในเรื่องใหม่ ๆ ที่เป็นประโยชน์หรือผลกระทบต่อตัวเองหรือพื้นที่ เช่น การที่นายกรัฐมนตรีสั่งการในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีให้กระทรวงศึกษาธิการเป็นหลัก ร่วมกับกระทรวงแรงงาน และ BOI รวมทั้ง TDRI และหน่วยงานต่าง ๆ ในการตรวจสอบการผลิตและพัฒนากำลังคนให้ตรงกับความต้องการของภาคอุตสาหกรรมและการผลิต จึงต้องมีการติดตามและนโยบายต่าง ๆ เพื่อให้เกิดการดำเนินการอย่างต่อเนื่องและสอดคล้องกับนโยบายของรัฐ
- การบูรณาการแผนการศึกษาให้สอดคล้องเชื่อมโยงกับแผนทุกระดับ ทั้งแผนยุทธศาสตร์ชาติ แผนการศึกษาแห่งชาติ และแผนบูรณาการศึกษาในพื้นที่ และขอให้เน้นการนำแผนที่ดีไปสู่การปฏิบัติที่ดีด้วย โดยให้มีการทบทวนและรายงานแผนเป็นห้วง ๆ เพื่อให้การปฏิบัติตามแผนห้วงต่อไปให้มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
- เน้นการสร้างการรับรู้และความเข้าใจให้เกิดขึ้นในพื้นที่ ทั้งในองค์กรหรือนอกองค์กร เพื่อให้เกิดความร่วมมือ และให้ประชาชนในพื้นที่รับทราบความเคลื่อนไหวในการจัดการศึกษาของทุกภาคส่วนในกระทรวงศึกษาธิการ
- สร้างบรรยากาศการทำงานอย่างมีพลัง อย่ากังวลกับปัญหาการทำงานจนส่งผลถึงความเครียดในการทำงาน อันจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกาย จึงขอให้ผู้บริหารให้ความสำคัญกับการดูแล สนับสนุน และแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นกับบุคลากรทุกระดับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาในพื้นที่ชายแดนห่างไกลที่จะมีปัญหาหลัก ๆ คือ ขาดครู ขาดงบประมาณ จึงต้องการช่วยกันแยกแยะปัญหา และร่วมกันแก้ไขไปทีละส่วน
- ให้หน่วยงานและสถานศึกษาน้อมนำเรื่องของศาสตร์พระราชา หลักการทรงงาน เกษตรทฤษฎีใหม่ และยุทธศาสตร์พระราชทาน "เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา" ซึ่งถือเป็น "วิชาชีวิต" ที่มีค่ามากที่สุดของคนไทยไปเป็นแนวทางในการศึกษาเรียนรู้ ปฏิบัติ และขยายผลให้เกิดขึ้นได้อย่างแท้จริง
ผศ.ดร.บรรพต วิรุณราช คณบดีวิทยาลัยพาณิชยศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา กล่าวว่า วิทยาลัยพาณิชยศาสตร์ ม.บูรพา เป็นสถาบันอุดมศึกษาของรัฐด้านการบริหารจัดการทางธุรกิจที่เปิดสอนปริญญาโทและปริญญาเอก และอยู่ในพื้นที่เป้าหมายการพัฒนาเศรษฐกิจอุตสาหกรรมของประเทศในเขตระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ที่ จ.ชลบุรี ได้รับมอบหมายในการร่วมนำบุคลากรทุกภาคส่วน ดึงจุดแข็งและโอกาส มาสร้างโครงการพัฒนาต่าง ๆ ให้เกิดขึ้น
จึงได้ร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ ในการจัดทำแผน พัฒนาการศึกษาพื้นที่ชายแดน โดยนำ “จุดแข็งและโอกาส” มาเป็นแนวทางนำนโยบายสู่การปฏิบัติ เป็นการสร้างมุมมองการพัฒนาในอีกมิติที่สามารถมีส่วนในการผลักดันให้เกิดการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับทรัพยากรของแต่ละท้องถิ่นที่มีบริบทแตกต่างกัน ซึ่งจะก่อให้เกิดการรับรู้และกระตุ้นเศรษฐกิจได้ตั้งแต่ระดับฐานราก และสามารถเชื่อมโยงไปสู่การพัฒนาร่วมกับเขตเศรษฐกิจต่าง ๆ ของประเทศได้ เช่น เขตระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เป็นต้น ตลอดจนสามารถขยายผลต่อยอดได้ในระดับอื่น ๆ เพื่อสร้างความมั่นคงให้เกิดขึ้นได้ในหลายมิติ
ที่มา ; เว็บสำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงศึกษาธิการเว็บ
โหลด - อ่าน - เรื่องเด่น
ที่มา ; เว็บสำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงศึกษาธิการเว็บ
โหลด - อ่าน - เรื่องเด่น
เกณฑ์และกำหนดการสอบครูผู้ช่วย กรณีปกติและพิเศษ ปี 2560
เกณฑ์สอบผู้บริหารการศึกษา ปี 2560
โหลด-อ่าน ฉบับเต็มรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 ที่
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2560/A/040/1.PDF
เกณฑ์และกำหนดการสอบครูผู้ช่วย กรณีปกติและพิเศษ ปี 2560
เกณฑ์สอบผู้บริหารการศึกษา ปี 2560
โหลด-อ่าน ฉบับเต็มรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 ที่
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2560/A/040/1.PDF
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2560/A/040/1.PDF
( คลิ๊ก ) สมัครพัฒนาความรู้
เตรียมสอบติวสอบครูผู้ช่วย
เตรียมติวสอบผู้บริหารสถาน+การศึกษา
( คลิ๊ก ) สมัครพัฒนาความรู้
เตรียมสอบติวสอบครูผู้ช่วย
เตรียมติวสอบผู้บริหารสถาน+การศึกษา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น