หน้าหลัก ติวสอบดอทคอม เว็บฟรีข้อสอบออนไลน์

หน้าหลัก ติวสอบดอทคอม เว็บฟรีข้อสอบออนไลน์
หน้าหลัก ติวสอบดอทคอม เว็บฟรีข้อสอบออนไลน์

พัฒนาความรู้ สู่ รอง./ผอ.รร. ปี 2567

พัฒนาความรู้ สู่ รอง./ผอ.รร. ปี 2567
พัฒนาความรู้ สู่ รอง./ผอ.รร. ปี 2567

คลิ๊ก "สมัครพัฒนาความรู้สู่ผู้บริหาร / ครูผู้ช่วย

คลิ๊ก... สมัคร พัฒนาความรู้ สู่ ครูผู้ช่วย
คลิ๊ก... สมัคร พัฒนาความรู้ สู่ ผู้บริหาร

ติวสอบดอทคอม (เตรียมสอบครูผู้ช่วย-ผู้บริหาร-บุคลากร การศึกษา)

ติวสอบดอทคอม (เตรียมสอบครูผู้ช่วย-ผู้บริหาร-บุคลากร การศึกษา)
ติวสอบดอทคอม (เว็บฟรีข้อสอบออนไลน์ สอบครู ผู้บริหาร บุคลากร)

วันอังคารที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2559

ผลการประชุมคณะรัฐมนตรี 27 กันยายน 2559

อ่านชัด-อ่านครบ กด ดูเวอร์ชั่นสำหรับเว็บ (ด้านล่าง)

เรื่องใหม่น่าสนใจ  (ทั้งหมด ที่ )


(เนื้อหา-ข้อสอบ 1,000 ชุุด หมื่นข้อ ภาค กข


40 วิชาเอก) ที่ ห้องสอบด้านขวา หรือ 


เว็บฟรีข้อสอบ 1,000 ชุด ที่ ติวสอบดอทคอม คลิ๊ก www.tuewsob.com 

-นายกรัฐมนตรีพบเพื่อนครู + การศึกษาไทยศตวรรษ 21 นี่

-กำหนดการสอบครูผู้ช่วย ครั้งที่ 1 ปี 2559

            -คู่มือ 4 ชุด นโยบาย บริบริหาร ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้

 ข้อสอบออนไลน์ ( พัฒนาความรู้ครู - ผู้บริหาร - บุคลากรการศึกษาชุดใหม่
 คลิ๊ก ) สมัครพัฒนาความรู้   
            
                       
เตรียมติวสอบผู้บริหารสถาน+การศึกษา 

ผลการประชุมคณะรัฐมนตรี 27 กันยายน 2559
สรุปข่าวการประชุมคณะรัฐมนตรี 27 กันยายน 2559

http://www.thaigov.go.th

                    วันนี้ (27 กันยายน 2559) เวลา 09.00 . ณ ห้องประชุม 501 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล 
พลเอก ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี
                    ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม พลตรี สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี                ได้ร่วมแถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี  ซึ่งสรุปสาระสำคัญดังนี้




กฎหมาย

                    1.        เรื่อง     ร่างพระราชบัญญัติควบคุมยุทธภัณฑ์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
                    2.        เรื่อง     ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร  จำนวน 3 ฉบับ                                                    (มาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการลงทุนในจังหวัดชายแดนภาคใต้)
                    3.        เรื่อง     ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วย                                          การยกเว้นรัษฎากร  (การยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับเงินได้พึง                                         ประเมินที่ได้รับโดยเสน่หาที่นักกีฬา นักกีฬาพิเศษ และบุคลากรทางการกีฬา                                             ได้รับอันเนื่องมาจากเข้าร่วมการแข่งขัน มหกรรมกีฬา และรายการแข่งขันกีฬา                                              สมัครเล่นระดับนานาชาติ)
                    4.        เรื่อง     ร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกเฉลิมพระเกียรติ                                          สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสที่องค์การ                                         ทรัพย์สินทางปัญญาโลก (WIPO)  ทูลเกล้าฯ ถวาย “รางวัลความเป็นเลิศด้านการ                                   สร้างสรรค์” พ.ศ. ....
                    5.        เรื่อง     ร่างกฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตให้ทำการประมงนอกน่านน้ำไทย                                     (ฉบับที่ ..)  พ.ศ. ....
                    6.        เรื่อง     (ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าลำน้ำภาคและป่าลำแควน้อยฝั่งซ้าย                                     ป่าแดงและป่าชาติตระการ และป่าเนินเพิ่ม ในท้องที่ตำบลน้ำกุ่ม ตำบลนครชุม                                        ตำบลยางโกลน ตำบลนาบัว และตำบลบ่อโพธิ์ อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก                                        ให้เป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า พ.ศ. .... )
                    7.        เรื่อง     ร่างกฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตให้ทำการประมงพาณิชย์
                                        (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
                    8.        เรื่อง     ร่างกฎกระทรวงกำหนดสาขาวิชาชีพวิศวกรรมเพิ่มเติม พ.ศ. ....
                    9.        เรื่อง     ร่างกฎ ก.พ. ว่าด้วยหลักเกณฑ์การจัดประเภทตำแหน่งและระดับตำแหน่ง
                                        (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างกฎ ก.พ. ว่าด้วยการให้ข้าราชการพลเรือนสามัญได้รับ                                    เงินประจำตำแหน่ง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
                    10.      เรื่อง     ขอเสนอแนวทางการปฏิรูปประเทศด้านเศรษฐกิจ (ร่างพระราชบัญญัติส่งเสริม                                         และพัฒนาระบบเกษตรพันธสัญญาที่เป็นธรรม พ.ศ. ....)
                    11.      เรื่อง     ขอยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 11 มกราคม 2526 เรื่องนโยบายการเดินรถ                                โดยสารประจำทางในเขตกรุงเทพมหานคร และเสนอร่างกฎหมาย จำนวน 4 ฉบับ




เศรษฐกิจ – สังคม
         
                    12.      เรื่อง     ขออนุมัติดำเนินโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงมาบกะเบา - ชุมทางถนนจิระ                                        ของการรถไฟแห่งประเทศไทย



                    13.      เรื่อง     ขอความเห็นชอบยุทธศาสตร์การพัฒนาและการแก้ไขปัญหาระบบบำบัดน้ำเสีย                                          สำหรับหน่วยงานสังกัดกระทรวงสาธารณสุข
                    14.      เรื่อง     มาตรการส่งเสริมคุณภาพชีวิตเกษตรกรรายย่อย




ต่างประเทศ

                    15.      เรื่อง     ขออนุมัติโครงการเสริมสร้างและยกระดับความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน                                                       ในการยุติแหล่งผลิตและทำลายเครือข่ายการค้ายาเสพติดระหว่างประเทศ
                                        ปี 2559 (เพิ่มเติม) (สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา สาธารณรัฐประชาธิปไตย                                            ประชาชนลาว ราชอาณาจักรกัมพูชา  และสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม)
                    16.      เรื่อง     ยุทธศาสตร์การพัฒนาศักยภาพแรงงานด้านภาษาและวัฒนธรรมเพื่อรองรับ                                          ประชาคมอาเซียน ปี พ.ศ. 2559 2563




แต่งตั้ง

                    17.      เรื่อง     การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับ                                           ทรงคุณวุฒิ (กระทรวงการคลัง)
                    18.      เรื่อง     การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับ                                           ทรงคุณวุฒิ   (สำนักนายกรัฐมนตรี)
                    19.      เรื่อง     การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการลงทุน (นักวิเคราะห์                                             นโยบายและแผนระดับทรงคุณวุฒิ) (สำนักนายกรัฐมนตรี)
                    20.      เรื่อง     รัฐบาลสาธารณรัฐเช็กเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็ม                                            แห่งสาธารณรัฐเช็กประจำประเทศไทย (กระทรวงการต่างประเทศ)
                    21.      เรื่อง     รัฐบาลสาธารณรัฐอิเควทอเรียลกินีเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มี                                               อำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐอิเควทอเรียลกินีประจำประเทศไทย (กระทรวง                                                การต่างประเทศ)
                    22.      เรื่อง     การปรับเขตกงสุลของสถานกงสุลกิตติมศักดิ์ ณ นครมาร์ไซย์ สาธารณรัฐฝรั่งเศส                                         และการแต่งตั้งกงสุลกิตติมศักดิ์ ณ นครมาไซย์ สาธารณรัฐฝรั่งเศส (กระทรวง
                                        การต่างประเทศ)
                    23.      เรื่อง     การแต่งตั้งกงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาชนจีน ณ จังหวัดเชียงใหม่ (กระทรวงการ                                 ต่างประเทศ)
                    24.      เรื่อง     การโอนข้าราชการมาแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการพิเศษประจำ
                                        สำนักนายกรัฐมนตรี (สำนักนายกรัฐมนตรี)
                    25.      เรื่อง     การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง                                                  (สำนักนายกรัฐมนตรี)
                    26.      เรื่อง     การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง                                                  (กระทรวงพาณิชย์)
                    27.      เรื่อง     การแต่งตั้งผู้อำนวยการองค์การสวนพฤกษศาสตร์
                    28.      เรื่อง     แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการปิโตรเลียม
                    29.      เรื่อง     การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการมาตรฐานการบริหารงานบุคคล                                        ส่วนท้องถิ่น (ก.ถ.)
                    30.      เรื่อง     การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง                                                  (กระทรวงสาธารณสุข)
                    31.      เรื่อง     การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงเกษตร                                        และสหกรณ์)
                    32.      เรื่อง     การแต่งตั้งข้าราชการการเมืองแทนตำแหน่งที่ว่าง (กระทรวงพาณิชย์)
           


*******************
สำนักโฆษก   สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โทร. 0 2288-4396








































กฎหมาย

1. เรื่อง ร่างพระราชบัญญัติควบคุมยุทธภัณฑ์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
                    คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติควบคุมยุทธภัณฑ์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....                   ตามที่กระทรวงกลาโหม (กห.) เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป
                    กห. เสนอว่า พระราชบัญญัติควบคุมยุทธภัณฑ์ พ.ศ. 2530 ได้ใช้บังคับมาเป็นเวลานาน ทำให้มีชื่อส่วนราชการ และชื่อตำแหน่งของส่วนราชการของหน่วยงานในสังกัด กห. ไม่สอดคล้องกับองค์ประกอบของคณะกรรมการควบคุมยุทธภัณฑ์เดิมที่มีอยู่ จึงจำเป็นต้องแก้ไขชื่อตำแหน่งและชื่อส่วนราชการหรือหน่วยงานที่เป็นองค์ประกอบของคณะกรรมการควบคุมยุทธภัณฑ์ให้ถูกต้อง รวมทั้งจำเป็นต้องแก้ชื่อกฎหมายจากเดิมคือ “คำสั่งคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 37 ลงวันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2519” เป็น “พระราชบัญญัติโรงงานผลิตอาวุธของเอกชน พ.ศ. 2550” เนื่องจากได้มีการยกเลิกคำสั่งคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดินดังกล่าวแล้ว  
                    สาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติ
                    1. กำหนดให้พระราชบัญญัตินี้ไม่ใช้บังคับแก่อาวุธซึ่งผู้ได้รับใบอนุญาตมีไว้ครอบครองโดยได้รับอนุญาต ตามพระราชบัญญัติโรงงานผลิตอาวุธของเอกชน พ.ศ. 2550
                    2. เพิ่มเติมองค์ประกอบของคณะกรรมการควบคุมยุทธภัณฑ์ โดยเพิ่มตำแหน่งรองปลัดกระทรวงกลาโหม  ที่ปลัดกระทรวงกลาโหมมอบหมายเป็นรองประธานกรรมการ และผู้อำนวยการศูนย์การอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและพลังงานทหารเป็นกรรมการ และแก้ไขชื่อตำแหน่งกรรมการจากเดิม “เจ้ากรมการอุตสาหกรรมทหาร” เป็น “เจ้ากรมการอุตสาหกรรมทหาร ศูนย์การอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและพลังงานทหาร” “ผู้บัญชาการศูนย์วิทยาศาสตร์และพัฒนาระบบอาวุธกองทัพอากาศ” เป็น “ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยพัฒนาวิทยาศาสตร์การบินและอวกาศกองทัพอากาศ” และ “ผู้แทนกระทรวงวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและการพลังงาน” เป็น “ผู้แทนกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี”
                    3. แก้ไขเพิ่มเติมเงื่อนไขการประชุมในการประชุมคณะกรรมการ ถ้าประธานกรรมการไม่อยู่ในที่ประชุม ไม่มาประชุมหรือไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้รองประธานกรรมการเป็นประธานในที่ประชุม ถ้าประธานกรรมการและรองประธานกรรมการไม่มาประชุมหรือไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้ที่ประชุมเลือกกรรมการคนหนึ่งเป็นประธานในที่ประชุม
                    4. กำหนดให้อาวุธซึ่งผู้ได้รับใบอนุญาตตามคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 37              ลงวันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2519 มีไว้ในครอบครองโดยได้รับอนุญาตตามคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน                  ฉบับที่ 37 ลงวันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2519 ให้ถือว่าเป็นอาวุธซึ่งผู้ได้รับใบอนุญาตตามพระราชบัญญัตินี้

2. เรื่อง  ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร  จำนวน 3 ฉบับ  (มาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการลงทุนในจังหวัดชายแดนภาคใต้)
                    คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร      (มาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการลงทุนในจังหวัดชายแดนภาคใต้) รวม 3 ฉบับ  ตามที่กระทรวงการคลัง (กค.) เสนอ  และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา   แล้วดำเนินการต่อไปได้
                    สาระสำคัญของร่างพระราชกฤษฎีกาฯ จำนวน 3 ฉบับ มีดังนี้
                    1. ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... เพื่อส่งเสริมการลงทุนในทรัพย์สินของกิจการในท้องที่ โดยมีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้บริษัทหรือ               ห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลซึ่งมีสถานประกอบกิจการตั้งอยู่ในท้องที่  สามารถหักรายจ่ายการลงทุนหรือการต่อเติม    เปลี่ยนแปลง  ขยายออก  หรือทำให้ดีขึ้น ซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการผลิตสินค้าหรือการขายสินค้าหรือ              การให้บริการในท้องที่ดังกล่าว  แต่ไม่ใช่เป็นการซ่อมแซมให้คงสภาพเดิม  ได้เป็นจำนวน 2 เท่า
                    2. ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร               (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... เพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการรายใหม่ (New  Start-up)  ในท้องที่  มีสาระสำคัญเป็นการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับกำไรสุทธิของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลในท้องที่เป็นระยะเวลา 5 รอบระยะเวลาบัญชี
                    3. ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... เพื่อส่งเสริมให้บุคลากรผู้มีความสามารถสูงนอกท้องที่ไปทำงานในท้องที่และส่งเสริมการลงทุนร่วมกันระหว่างกิจการที่มีศักยภาพนอกท้องที่กับกิจการที่มีศักยภาพในท้องที่ มีสาระสำคัญ           เป็นการ 
                              3.1 กำหนดให้บุคคลผู้มีคุณสมบัติตามที่ประกาศกำหนดมีสิทธิเลือกเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับเงินได้พึงประเมินที่ได้รับเนื่องจากการจ้างแรงงานของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลซึ่งมีสถานประกอบกิจการตั้งอยู่ในท้องที่ในอัตราร้อยละ 3 ของเงินได้โดยไม่ต้องนำไปรวมกับเงินได้พึงประเมินอื่น ๆ ในการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และ
                              3.2 กำหนดให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลซึ่งไม่มีสถานประกอบกิจการตั้งอยู่ในท้องที่ สามารถหักรายจ่ายเงินลงทุนในหุ้นของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลอื่นในท้องที่เป็นจำนวน 2 เท่า  ในลักษณะการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้นเป็นจำนวน 2 เท่าของรายจ่ายจริง  หากเป็นการลงทุนในหุ้นหรือการเป็นหุ้นส่วน ซึ่งเป็การเพิ่มทุนของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลอื่น หรือเป็นการลงทุนเพื่อจัดตั้งบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลซึ่งมีสถานประกอบกิจการตั้งอยู่ในท้องที่

3. เรื่อง ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร  (การยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับเงินได้พึงประเมินที่ได้รับโดยเสน่หาที่นักกีฬา นักกีฬาพิเศษ และบุคลากรทางการกีฬา ได้รับอันเนื่องมาจากเข้าร่วมการแข่งขัน มหกรรมกีฬา และรายการแข่งขันกีฬาสมัครเล่นระดับนานาชาติ)
                    คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร  (การยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับเงินได้พึงประเมินที่ได้รับโดยเสน่หาที่นักกีฬา นักกีฬาพิเศษ และบุคลากรทางการกีฬา ได้รับอันเนื่องมาจากเข้าร่วมการแข่งขัน มหกรรมกีฬา และรายการแข่งขันกีฬาสมัครเล่นระดับนานาชาติ) ตามที่กระทรวงการคลัง (กค.) เสนอ  และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา   แล้วดำเนินการต่อไปได้
                    กค. เสนอว่า
1.      ด้วยปัจจุบันในการแข่งขันมหกรรมกีฬาระดับนานาชาติ มีนักกีฬาและบุคลากรทางการกีฬาจาก
ประเทศไทยเข้าร่วมการแข่งขัน และได้รับเหรียญรางวัลจากการแข่งขันกีฬาในประเภทต่าง ๆ  อันเป็นการสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาติ และนำมาซึ่งความภาคภูมิใจให้กับประชาชนทั้งประเทศ ซึ่งการได้รับเหรียญรางวัลในมหกรรมกีฬาระดับนานาชาตินั้น  นักกีฬาและบุคลากรทางการกีฬาจะได้รับการสนับสนุนเงินรางวัล และสวัสดิการต่าง ๆ จากภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ  รวมถึงส่งเสริมสนับสนุนให้นักกีฬาเหล่านั้นได้พัฒนาศักยภาพให้สูงขึ้น  ซึ่งถ้ามหกรรมการแข่งขันระดับนานาชาติใดเป็นที่น่าสนใจและดึงดูดผู้ชมจำนวนมาก จำนวนเงินรางวัลที่ภาคเอกชนสมทบให้กับนักกีฬาและบุคลากรทางการกีฬาที่สร้างชื่อเสียงก็จะเพิ่มสูงขึ้นด้วย
2.      ปัจจุบันเงินที่นักกีฬาได้รับเพื่อเป็นรางวัลอันเนื่องมาจาการแข่งขันมหกรรมกีฬา และรายการ
แข่งขันกีฬาสมัครเล่นระดับนานาชาติดังกล่าวถือเป็นเงินที่ได้รับจากการให้โดยเสน่หาเนื่องในพิธีหรือตามโอกาส              แห่งขนบธรรมเนียมประเพณีอันได้รับยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีในส่วนที่ไม่เกินสิบล้านบาทตลอดปีภาษี  ตามมาตรา 42 (28) แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 40) พ.ศ. 2558 แต่ส่วนที่เกินสิบล้านบาทยังต้องนำมารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้อยู่
3.      ดังนั้น เพื่อเป็นการบรรเทาภาระภาษีให้แก่นักกีฬาและบุคลากรทางการกีฬาที่ทำชื่อเสียงให้กับ
ประเทศชาติจากการแข่งขันกีฬาในมหกรรมกีฬา  และรายการแข่งขันกีฬาสมัครเล่นระดับนานาชาติ จึงเห็นควรให้มีการยกเว้นภาษีเงินได้ในส่วนที่เกินสิบล้านบาทด้วย ซึ่งจะเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้แก่นักกีฬาและบุคลากรทางการกีฬาที่ได้เข้าร่วมการแข่งขันในมหกรรมกีฬาและรายการแข่งขันกีฬาสมัครเล่นระดับนานาชาติและสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ รวมถึงส่งเสริมสนับสนุนให้นักกีฬาได้พัฒนาศักยภาพเพื่อความเป็นเลิศทางการกีฬา ส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาการกีฬาของประเทศอย่างต่อเนื่อง ส่งผลต่อการพัฒนาคุณภาพของประชาชนในประเทศให้มีสุขภาพที่ดี และมีความสนใจในกีฬาประเภทต่าง ๆ  เพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ จะมีผลกระทบต่อรายได้ของภาครัฐบาลเล็กน้อยแต่จะมีผลทางด้านสังคมโดยนักกีฬาที่เข้าร่วมการแข่งขันในมหกรรมกีฬาและมีชื่อเสียงในระดับนานาชาตินั้น  จะเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเยาวชนของชาติในการมีระเบียบวินัย มีความมานะพยายามและการฝึกฝน              จนประสบความสำเร็จ
                    สาระสำคัญของร่างกฎกระทรวง  เป็นการยกเว้นภาษีสำหรับเงินได้พึงประเมินที่นักกีฬา                  นักกีฬาพิเศษ และบุคลากรทางการกีฬาที่ได้รับจากการให้โดยเสน่หา เพื่อเป็นรางวัลอันเนื่องมาจากการเข้าร่วมการแข่งขันรายการมหกรรมกีฬา  และรายการแข่งขันกีฬาสมัครเล่นระดับนานาชาติ  ซึ่งเป็นรายการกีฬาตามประกาศคณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ เรื่อง การแบ่งระดับเกมส์การแข่งขันมหกรรมกีฬาและรายการแข่งขันกีฬาสมัครเล่นระดับนานาชาติ ลงวันที่ 17 ธันวาคม 2553  ที่มีจำนวนเกินกว่าสิบล้านบาท โดยให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2559 เป็นต้นไป

4. เรื่อง ร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตน                  ราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสที่องค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก (WIPO)  ทูลเกล้าฯ ถวาย “รางวัลความเป็นเลิศด้านการสร้างสรรค์” พ.ศ. ....
                    คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกเฉิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสที่องค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก (WIPO)  ทูลเกล้าฯ ถวาย “รางวัลความเป็นเลิศด้านการสร้างสรรค์” พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงการคลัง (กค.) เสนอ  และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา  แล้วดำเนินการต่อไปได้ 
                    สาระสำคัญของร่างกฎกระทรวง เป็นการกำหนดลักษณะเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี  ชนิด  ราคา โลหะ  อัตราเนื้อโลหะ  น้ำหนัก ขนาด อัตราเผื่อเหลือเผื่อขาด  ลวดลายและลักษณะอื่น ๆ  ของเหรียญกษาปณ์ทองคำ  ราคา 16,000 บาท เหรียญกษาปณ์เงิน ราคา 800 บาท และเหรียญกษาปณ์โลหะสีขาว  (ทองแดงผสมนิเกิล)  ราคา 20 บาท เพื่อเป็นที่ระลึกเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี   เนื่องในโอกาสที่องค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก (WIPO)  ทูลเกล้าฯ ถวาย  “รางวัลความเป็นเลิศด้านการสร้างสรรค์”

5. เรื่อง ร่างกฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตให้ทำการประมงนอกน่านน้ำไทย (ฉบับที่ ..)              พ.ศ. ....
                    คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตให้ทำการประมงนอกน่านน้ำไทย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
                    สาระสำคัญของร่างกฎกระทรวง
                    แก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตให้ทำการประมงนอกน่านน้ำไทย พ.ศ. 2559 โดยเพิ่มเติมหลักเกณฑ์การพิจารณาอนุญาตให้ทำการประมงนอกน่านน้ำไทยของพนักงานเจ้าหน้าที่ โดยกำหนดให้ผู้ที่ประสงค์จะเข้าไปทำการประมงในเขตของรัฐชายฝั่งแสดงหลักฐานการได้สิทธิการทำประมงในรัฐต่างประเทศนั้น นอกเหนือจากบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือทางการประมงกับรัฐชายฝั่ง ดังนี้

กฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตให้ทำ
การประมงนอกน่านน้ำไทย พ.ศ. 2559
ร่างกฎกระทรวงฯ ตามที่ กษ. เสนอ
     ข้อ 5 การพิจารณาอนุญาตให้ทำการประมงนอกน่านน้ำไทย ให้พิจารณาตามหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้
      (1) ...
      (2) การขอรับใบอนุญาตทำการประมงในเขตของรัฐชายฝั่ง ต้องเป็นรัฐชายฝั่งที่ประเทศไทยมีบันทึกข้อตกลลงว่าด้วยความร่วมมือทางการประมงกับรัฐชายฝั่ง
ฯลฯ
         ให้ยกเลิกความในข้อ 5 (2) ของกฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตให้ทำการประมงนอกน่านน้ำไทย พ.ศ. 2559 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
          การขอรับใบอนุญาตทำการประมงในเขตของรัฐชายฝั่ง ต้องเป็นรัฐชายฝั่งที่ประเทศไทยมีบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือทางการประมงกับรัฐชายฝั่ง หรือผู้ขอรับใบอนุญาตมีหลักฐานแสดงการได้สิทธิการทำการประมงในรัฐชายฝั่งนั้น

6. เรื่อง (ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าลำน้ำภาคและป่าลำแควน้อยฝั่งซ้าย ป่าแดงและป่าชาติตระการ และป่าเนินเพิ่ม ในท้องที่ตำบลน้ำกุ่ม ตำบลนครชุม ตำบลยางโกลน ตำบลนาบัว และตำบลบ่อโพธิ์ อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก ให้เป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า พ.ศ. .... )
                    คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าลำน้ำภาคและป่าลำแควน้อยฝั่งซ้ายป่าแดงและป่าชาติตระการ และป่าเนินเพิ่ม ในท้องที่ตำบลน้ำกุ่ม ตำบลนครชุม ตำบลยางโกลน ตำบลนาบัว และตำบลบ่อโพธิ์ อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก ให้เป็นเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่า พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เสนอ
                    สาระสำคัญของร่างพระราชกฤษฎีกา
                    กำหนดบริเวณที่ดินป่าลำน้ำภาคและป่าลำแควน้อยฝั่งซ้าย ป่าแดงและป่าชาติตระการ และป่าเนินเพิ่ม ในท้องที่ตำบลน้ำกุ่ม ตำบลนครชุม ตำบลยางโกลน ตำบลนาบัว และตำบลบ่อโพธิ์ อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก ให้เป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า

7. เรื่อง ร่างกฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตให้ทำการประมงพาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
                    คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตให้ทำการประมงพาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
                    สาระสำคัญของร่างกฎกระทรวง
                    1. กำหนดหลักเกณฑ์ในการพิจารณาอนุญาตทำการประมงพาณิชย์โดยแยกระหว่างเรือประมงไทยและเรือประมงที่ไม่ได้สัญชาติไทย
                    2. กรณีเรือประมงสัญชาติไทยต้องจดทะเบียนเรือไทยตามกฎหมายว่าด้วยเรือไทย และใบอนุญาตใช้เรือสำหรับทำการประมงตามกฎหมายว่าด้วยการเดินเรือในน่านน้ำไทยต้องมีอายุเหลือไม่น้อยกว่าสามสิบวันในวันยื่นคำขอรับใบอนุญาต รวมทั้งต้องมีหมายเลขไอเอ็มโอสำหรับเรือที่มีลักษณะตามที่องค์การทางทะเลระหว่างประเทศ (International Maritime Organization) กำหนด
         
8. เรื่อง ร่างกฎกระทรวงกำหนดสาขาวิชาชีพวิศวกรรมเพิ่มเติม พ.ศ. ....
                    คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดสาขาวิชาชีพวิศวกรรมเพิ่มเติม พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงมหาดไทย (มท.) เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้
                    สาระสำคัญของร่างกฎกระทรวง
                    กำหนดให้สาขาวิชาชีพวิศวกรรมอากาศยาน วิศวกรรมชีวการแพทย์ วิศวกรรมอาหาร วิศวกรรมเกษตร วิศวกรรมบำรุงรักษาอาคาร วิศวกรรมป้องกันอัคคีภัย วิศวกรรมสารสนเทศ วิศวกรรมคอมพิวเตอร์ วิศวกรรมปิโตรเลียม วิศวกรรมสำรวจ วิศวกรรมแหล่งน้ำ วิศวกรรมชายฝั่ง วิศวกรรมเมคคาทรอนิกส์ วิศวกรรมยานยนต์ วิศวกรรมต่อเรือ วิศวกรรมพลังงาน และวิศวกรรมระบบราง  เป็นสาขาวิชาชีพวิศวกรรมเพิ่มเติม

9. เรื่อง ร่างกฎ ก.พ. ว่าด้วยหลักเกณฑ์การจัดประเภทตำแหน่งและระดับตำแหน่ง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และ           ร่างกฎ ก.พ. ว่าด้วยการให้ข้าราชการพลเรือนสามัญได้รับเงินประจำตำแหน่ง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
                    คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติร่างกฎ ก.พ. ว่าด้วยหลักเกณฑ์การจัดประเภทตำแหน่งและระดับตำแหน่ง                (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างกฎ ก.พ. ว่าด้วยการให้ข้าราชการพลเรือนสามัญได้รับเงินประจำตำแหน่ง (ฉบับที่ ..)               พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ ตามที่สำนักงาน ก.พ. เสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ ทั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับหน้าที่และความรับผิดชอบตามบทบาทภารกิจและลักษณะงานในปัจจุบัน
                    สาระสำคัญของร่างกฎ ก.พ. 2 ฉบับ มีดังนี้
                    1. ร่างกฎ ก.พ. ว่าด้วยหลักเกณฑ์การจัดประเภทตำแหน่งและระดับตำแหน่ง (ฉบับที่ ..)            พ.ศ. ....    เป็นการกำหนดเพิ่มเติมให้ตำแหน่งรองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ เป็นตำแหน่งประเภทบริหาร ระดับสูง
                    2. ร่างกฎ ก.พ. ว่าด้วยการให้ข้าราชการพลเรือนสามัญได้รับเงินประตำแหน่ง (ฉบับที่ ..)              พ.ศ. .... เป็นการกำหนดเพิ่มเติมให้ตำแหน่งรองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ เป็นตำแหน่งประเภทบริหาร ระดับสูง ซึ่งเป็นตำแหน่งที่มีสิทธิได้รับเงินประจำตำแหน่ง 14,500 บาท และตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ เป็นตำแหน่งประเภทบริหาร ระดับสูง ซึ่งเป็นตำแหน่งที่มีสิทธิได้รับเงินประจำตำแหน่ง 21,000 บาท

10.  เรื่อง ขอเสนอแนวทางการปฏิรูปประเทศด้านเศรษฐกิจ (ร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาระบบเกษตรพันธสัญญาที่เป็นธรรม พ.ศ. ....)
                    คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาระบบเกษตรพันธสัญญาที่เป็นธรรม พ.ศ. ....  ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ  และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา   ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป
                    สาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติ
1.      กำหนดขอบเขตการใช้บังคับกฎหมายให้ใช้เฉพาะการทำสัญญาในระบบเกษตรพันธสัญญา 
โดยกำหนดบทนิยามคำว่า “ระบบเกษตรพันธสัญญา”  ให้หมายถึงเฉพาะระบบการผลิตผลิตผลหรือบริการทางการเกษตรที่เกิดขึ้นจากสัญญาระหว่างผู้ประกอบธุรกิจทางการเกษตรกับบุคคลธรรมดาซึ่งประกอบอาชีพเกษตรกรรมตั้งแต่สิบรายขึ้นไป  หรือกับองค์กรทางการเกษตรที่มีกฎหมายรองรับ โดยผู้ประกอบธุรกิจทางการเกษตรเข้าไปมีส่วนร่วมในกระบวนการผลิตด้วยเท่านั้น 
2.      กำหนดให้มีคณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาระบบเกษตรพันธสัญญาขึ้น  โดยมีรัฐมนตรีว่าการ
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นประธาน  มีอำนาจหน้าที่ในการเสนอแผนการพัฒนาระบบเกษตรพันธสัญญาต่อคณะรัฐมนตรี กำหนดแนวทางให้หน่วยงานของรัฐดำเนินการให้เป็นไปตามแผน กำหนดรูปแบบของสัญญาในระบบเกษตรพันธสัญญา  และออกประกาศเพื่อกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการต่าง ๆ  ตามที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัตินี้ 
3.      กำหนดให้สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์   ซึ่งมีหน่วยงานในระดับพื้นที่ทำหน้าที่
สำนักงานเลขานุการของคณะกรรมการ และให้มีอำนาจหน้าที่ในการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลและสภาพปัญหาเกี่ยวกับการทำเกษตรกรรมในระบบเกษตรพันธสัญญาเสนอต่อคณะกรรมการ
4.      กำหนดให้ผู้ประกอบธุรกิจทางการเกษตรที่ประสงค์จะประกอบธุรกิจในระบบเกษตรพันธ
สัญญาหรือเลิกการประกอบธุรกิจในระบบเกษตรพันธสัญญาต้องจดแจ้ง  การประกอบธุรกิจหรือการเลิกประกอบธุรกิจต่อสำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  และให้สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  จัดทำทะเบียนผู้ประกอบธุรกิจทางการเกษตร และเปิดเผยให้ประชาชนสามารถตรวจสอบได้
5.      กำหนดให้ผู้ประกอบธุรกิจทางการเกษตรต้องทำเอกสารสำหรับการชี้ชวนให้เกษตรกรทราบ
เป็นการล่วงหน้าก่อนทำสัญญาในระบบเกษตรพันธสัญญา  และต้องส่งให้สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เก็บไว้เพื่อใช้เป็นเอกสารในการตรวจสอบ โดยเอกสารสำหรับการชี้ชวนดังกล่าวถือเป็นส่วนหนึ่งของสัญญาและจะต้องมีข้อมูลตามที่กำหนด
6.      กำหนดให้อำนาจคณะกรรมการในการประกาศกำหนดแบบของสัญญาในกรณีที่การทำสัญญา
ในระบบเกษตรพันธสัญญาใดอาจมีผลกระทบอย่างสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ในกรณีที่การทำสัญญาไม่เป็นไปตามแบบที่คณะกรรมการกำหนด ให้ถือว่าสัญญาส่วนนั้นไม่มีผลใช้บังคับและให้นำความตามแนบมาใช้แทน
7.      กำหนดให้ข้อตกลงหรือเงื่อนไขในสัญญาในระบบเกษตรพันธสัญญาอันเป็นข้อสัญญาที่ไม่เป็น
ธรรมตามที่กำหนด ไม่มีผลใช้บังคับ


8.      กำหนดให้คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายต้องเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทก่อนจึงจะมีสิทธินำข้อ
พิพาทเข้าสู่การพิจารณาของอนุญาโตตุลาการหรือนำคดีไปสู่ศาล ในกรณีที่คู่สัญญาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งประสงค์จะใช้กระบวนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท
9.      กำหนดมาตรการคุ้มครองระหว่างกระบวนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทโดยห้ามมิให้คู่สัญญาชะลอ
ระงับ หรือยุติการปฏิบัติตามสัญญาจนเป็นเหตุให้อีกฝ่ายหนึ่งได้รับความเสียหาย  กระทำการใด ๆ  ให้คู่สัญญาอีกฝ่ายได้รับความเสียหายทั้งทางตรงและทางอ้อม ในกรณีที่สัญญาสิ้นสุดลงแล้ว หรือทำข้อตกลงเพิ่มเติมหรือแก้ไขสัญญาเพื่อให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งรับความเสี่ยงภัย  รับภาระ  หรือมีหน้าที่เพิ่มเติมโดยไม่มีค่าตอบแทนอย่างเป็นธรรม
10.  กำหนดโทษปรับไม่เกินสามแสนบาทสำหรับผู้ประกอบธุรกิจทางการเกษตรซึ่งไม่แจ้งการ
ประกอบธุรกิจในระบบเกษตรพันธสัญญา ไม่แจ้งการยกเลิกการประกอบธุรกิจในระบบเกษตรพันธสัญญา  หรือไม่จัดทำเอกสารสำหรับการชี้ชวนก่อนการทำสัญญา
11.  กำหนดโทษปรับไม่เกินสามแสนบาท และปรับอีกไม่เกินวันละห้าพันบาท ตลอดเวลาที่ฝ่าฝืน 
สำหรับคู่สัญญาซึ่งชะลอ ระงับ  หรือยุติการปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญาจนเป็นเหตุให้อีกฝ่ายหนึ่งได้รับความเสียหายในระหว่างกระบวนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท  หรือกระทำการใด ๆ  ที่เป็นการเสียหายแก่อีกฝ่ายหนึ่งในกรณีที่สัญญาสิ้นสุดลงแล้วในระหว่างกระบวนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท 
12.  กำหนดโทษปรับไม่เกินสามแสนบาทสำหรับผู้ประกอบธุรกิจทางการเกษตร ซึ่งดำเนินการใด ๆ 
เพื่อให้การทำสัญญาไม่เข้าลักษณะของสัญญาในระบบเกษตรพันธสัญญา

11. เรื่อง ขอยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 11 มกราคม 2526 เรื่องนโยบายการเดินรถโดยสารประจำทาง                 ในเขตกรุงเทพมหานคร และเสนอร่างกฎหมาย จำนวน 4 ฉบับ
                    คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงคมนาคม (คค.) เสนอ ดังนี้
                    1. เห็นชอบการยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 11 มกราคม 2526 เรื่อง นโยบายการเดินรถโดยสารประจำทางในเขตกรุงเทพมหานคร
                    2. อนุมัติหลักการ
                              2.1 ร่างพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....(แก้ไขเพิ่มเติมอายุใบอนุญาตประกอบการขนส่งประจำทาง อัตราค่าธรรมเนียมใบอนุญาตประกอบการขนส่งประจำทาง ท้ายพระราชบัญญัติ และการระงับการใช้รถหรือพักใช้ใบอนุญาตประกอบการขนส่งเป็นการชั่วคราว)
                              2.2 ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการขออนุญาต การอนุญาต และการต่ออายุใบอนุญาตประกอบการขนส่ง พ.ศ. ....
                              2.3 ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ ..(พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 (ปรับปรุงค่าธรรมเนียมใบอนุญาตประกอบการขนส่งประจำทาง) และ
                              2.4 ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
                    สาระสำคัญของร่างกฎหมาย 3 ฉบับ มีดังนี้
                    1. ร่างพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... เป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 ดังต่อไปนี้
                              1.1 แก้ไขเพิ่มเติมอายุใบอนุญาตประกอบการขนส่งประจำทางให้มีอายุตามที่นายทะเบียนกำหนดโดยได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการ แต่ไม่เกินกว่าเจ็ดปี
                              1.2 แก้ไขเพิ่มเติมอัตราค่าธรรมเนียมท้ายพระราชบัญญัติให้เป็นอัตราที่เรียกเก็บตามอายุใบอนุญาตประกอบการ
                              1.3 แก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติให้นายทะเบียนมีอำนาจสั่งระงับการใช้รถ หรือพักใช้ใบอนุญาตประกอบการเป็นการชั่วคราวได้
                              1.4 กำหนดบทเฉพาะกาลให้ใบอนุญาตประกอบการที่ได้ออกไปแล้วก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้มีผลใช้บังคับให้มีอายุต่อไปตามเดิม แต่ในการต่ออายุใบอนุญาตให้การกำหนดอายุใบอนุญาตเป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้
                    2. ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการขออนุญาต การอนุญาต และการต่ออายุใบอนุญาตประกอบการขนส่ง พ.ศ. .... เป็นการปรับปรุงกฎกระทรวง ฉบับที่ 4 (พ.ศ. 2524) ออกตามความในพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 โดยออกเป็นกฎกระทรวงฉบับใหม่ มีสาระสำคัญในการปรับปรุง ดังนี้
                              2.1 แก้ไขเพิ่มเติมเอกสารหลักฐานประกอบคำขอประกอบการ โดยให้ผู้ประสงค์จะประกอบการยื่นข้อเสนอแผนการดำเนินการในการประกอบการขนส่งด้วย
                              2.2 แก้ไขปรับปรุงเอกสารหลักฐานประกอบคำขอของห้างหุ้นส่วน และบริษัทบางรายการ ได้แก่ ภาพถ่ายทะเบียนบ้านของผู้เป็นหุ้นส่วนหรือกรรมการของบริษัท ให้ใช้เฉพาะของหุ้นส่วนผู้จัดการหรือกรรมการผู้มีอำนาจลงนาม และหนังสือรับรองการจดทะเบียน นิติบุคคล ให้ใช้ฉบับที่รับรองไว้ไม่เกินหกเดือน
                              2.3 แก้ไขปรับปรุงเอกสารหลักฐานประกอบคำขอของสหกรณ์ โดยให้ใช้หนังสือแสดงสถานภาพของสหกรณ์แทนบัญชีรายชื่อสมาชิกของสหกรณ์
                              2.4 แก้ไขเพิ่มเติมเอกสารหลักฐานประกอบคำขอขององค์การของรัฐ โดยให้ใช้เอกสารการจัดตั้งองค์การของรัฐเป็นเอกสารหลักฐานประกอบคำขอด้วย
                              2.5 เพิ่มเติมให้อธิบดีมีอำนาจประกาศกำหนดให้การขออนุญาต ประกอบการขนส่งประจำทางบางลักษณะหรือบางเส้นทางต้องผ่านการคัดเลือกและใช้วิธีการดำเนินการแตกต่างไปจากที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวงนี้ได้
                              2.6 กำหนดมาตรฐานแผนการดำเนินการของผู้ขอรับใบอนุญาต ประกอบการ ต้องไม่ต่ำกว่าแผนการดำเนินการตามที่อธิบดีประกาศกำหนด โดยอธิบดีอาจกำหนดให้แตกต่างกันได้ตามประเภทหรือลักษณะของการประกอบการขนส่ง
                              2.7 กำหนดลักษณะต้องห้ามของผู้ขอรับใบอนุญาตประกอบการโดยต้องไม่เคยถูกเพิกถอนใบอนุญาตประกอบการมาก่อน รวมทั้งกำหนดลักษณะต้องห้ามดังกล่าว ให้ครอบคลุมถึงหุ้นส่วนหรือกรรมการผู้มีอำนาจลงนามของนิติ บุคคลจะต้องไม่เป็นผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ในฐานะหุ้นส่วนหรือกรรมการของนิติบุคคลที่ถูกเพิกถอนใบอนุญาตด้วย
                              2.8 กำหนดขั้นตอนและแนวทางการพิจารณาดำเนินการออกใบอนุญาตประกอบการ
                              2.9 แก้ไขปรับปรุงให้แบบใบอนุญาตประกอบการเป็นไปตามที่อธิบดี ประกาศกำหนด
                              2.10 กำหนดให้ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการต้องทำการขนส่งด้วยตนเอง จะให้บุคคลอื่นประกอบการขนส่งแทนตนไม่ได้
                              2.11 เพิ่มเติมเอกสารหลักฐานประกอบคำขอต่ออายุใบอนุญาตประกอบการ โดยให้ยื่น              รูปถ่ายสำนักงานและหลักฐานสิทธิการใช้สถานที่เก็บรถ รวมทั้งข้อเสนอแผนการดำเนินการในการประกอบการ                 ขนส่งเช่นเดียวกับกรณียื่นคำขอใบอนุญาตด้วย
                              2.12 กำหนดให้นายทะเบียนต้องตรวจสอบข้อมูลประกอบการขนส่งของผู้ประกอบการขนส่งในช่วงระยะเวลาการได้รับใบอนุญาตประกอบการ ประกอบการพิจารณาต่ออายุใบอนุญาต
                              2.13 กำหนดขั้นตอนและแนวทางการพิจารณาดำเนินการต่ออายุใบอนุญาตประกอบการ
                              2.14 แก้ไขปรับปรุงให้รายละเอียดของรถแต่ละลักษณะเป็นไปตามที่อธิบดีประกาศกำหนด
                              2.15 ให้นายทะเบียนมีอำนาจเพิกถอนใบอนุญาตประกอบการ
                              2.16 กำหนดบทเฉพาะกาล ให้แบบใบอนุญาตประกอบการ มาตรฐานหรือลักษณะของรถแต่ละลักษณะตามกฎกระทรวงเดิมยังคงใช้บังคับต่อไปได้ หากยังไม่มีประกาศกำหนดในเรื่องดังกล่าว ให้ใบอนุญาตประกอบการที่ได้ออกให้ตามกฎกระทรวงเดิมยังคงใช้ได้ต่อไป จนกว่าจะสิ้นอายุ ยกเว้นกรณีต่ออายุต้องปฏิบัติตามกฎกระทรวงนี้ รวมทั้งให้คำขออนุญาตที่ยื่นไว้ตามกฎกระทรวงเดิมและยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาให้ถือเป็นคำขออนุญาตตามกฎกระทรวงนี้ แต่ต้องแก้ไขเพิ่มเติมคำขออนุญาตหรือเอกสารหลักฐานให้เป็นไปตามกฎกระทรวงนี้
                    3. ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก             พ.ศ. 2522 เป็นการปรับปรุงอัตราค่าธรรมเนียมใบอนุญาตประกอบการขนส่งประจำทางตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2523) ออกตามความในพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 โดยค่าธรรมเนียมต่อเส้นทางหนึ่ง จาก ฉบับละ 7,000 บาท เป็น ปีละ 1,000 บาท
                    4. ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม (ฉบับที่ ..)         พ.ศ. .... เป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการ กรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม พ.ศ. 2552 โดยแก้ไขการแบ่งส่วนราชการและอำนาจหน้าที่ของกรมการขนส่งทางบก คค. ให้มี กองกำกับรถโดยสารประจำทางพื้นที่กรุงเทพมหานครเพิ่มขึ้น เพื่อทำหน้าที่หลักในการวางแผนและพัฒนาระบบการขนส่งผู้โดยสารในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครตามนโยบายของรัฐบาล




เศรษฐกิจ – สังคม

12. เรื่อง ขออนุมัติดำเนินโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงมาบกะเบา - ชุมทางถนนจิระ ของการรถไฟแห่งประเทศไทย
                 คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ดำเนินโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงมาบกะเบา – ชุมทางถนนจิระ ตามที่กระทรวงคมนาคม (คค.) เสนอ
                 สาระสำคัญของเรื่อง
                 คค. (รฟท.) เสนอขออนุมัติดำเนินโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงมาบกะเบา - ชุมทางถนนจิระ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการภายใต้ยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของไทย พ.ศ. 2558-2565 เพื่อเพิ่มศักยภาพการให้บริการขนส่งระบบรางรองรับจำนวนผู้โดยสารและปริมาณการขนส่งสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้น และลดระยะเวลาในการเดินทาง และการขนส่งสินค้า ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งและคมนาคมที่สนับสนุนให้มีการใช้ระบบราง เพื่อช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุทางถนน ลดมลพิษ                 ลดต้นทุนการขนส่งสินค้า และสามารถประหยัดการใช้พลังงานของประเทศในระยะยาว
                    ลักษณะของโครงการ เป็นงานก่อสร้างทางรถไฟเพิ่ม 1 ทาง ขนานเส้นทางรถไฟเดิม จากสถานีมาบกะเบา จังหวัดสระบุรี ถึงสถานีชุมทางถนนจิระ จังหวัดนครราชสีมา รวมระยะทางประมาณ 123 กิโลเมตร                 (ซึ่งประกอบด้วย โครงสร้าง ทางระดับดิน ทางยกระดับ และอุโมงค์รถไฟ) มีงานก่อสร้างสถานีรถไฟจำนวน 19 สถานี และย่านขนสินค้า (Container Yard : CY) จำนวน 2 แห่ง งานก่อสร้างสะพานรถยนต์ข้ามทางรถไฟและอุโมงค์ลอดทางรถไฟรวมจำนวน 39 แห่ง พร้อมก่อสร้างรั้วกั้นแนวเขตรถไฟ เพื่อแก้ปัญหาอุบัติเหตุบริเวณจุดตัดถนนกับทางรถไฟ และงานติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคมตลอดแนวเส้นทาง

13. เรื่อง ขอความเห็นชอบยุทธศาสตร์การพัฒนาและการแก้ไขปัญหาระบบบำบัดน้ำเสียสำหรับหน่วยงานสังกัดกระทรวงสาธารณสุข
                              คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบยุทธศาสตร์การพัฒนาและการแก้ไขปัญหาระบบบำบัดน้ำเสียสำหรับหน่วยงานสังกัดกระทรวงสาธารณสุข พ.ศ. 2560 2565 ตามที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เสนอ และให้ สธ.หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อจัดทำแผนปฏิบัติการที่เป็นรูปธรรมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามกรอบระยะเวลาการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 19 มกราคม 2559 (เรื่อง การเสนอโครงการที่ต้องขออนุมัติงบประมาณจากคณะรัฐมนตรีหรือนายกรัฐมนตรี)
                              สาระสำคัญของเรื่อง
                    สธ. โดย สำนักงานปลัด สธ. ได้จัดทำแผนการพัฒนาและแก้ไขปัญหาระบบบำบัดน้ำเสียสำหรับหน่วยงานในสังกัด สธ. ปี พ.ศ. 2560 2565 ขึ้น เพื่อใช้เป็นกรอบแนวทางในการขับเคลื่อนงานก่อสร้าง บำรุงรักษาระบบบำบัดน้ำเสียและพัฒนาบุคลากรผู้ควบคุมระบบบำบัดน้ำเสีย  เพื่อควบคุมคุณภาพน้ำทิ้งให้ผ่านเกณฑ์มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด โดยมีประเด็นยุทธศาสตร์ ดังนี้
                              ยุทธศาสตร์ที่ 1 พัฒนาระบบบำบัดน้ำเสียให้มีประสิทธิภาพ โดยซ่อมแซม/ปรับปรุงระบบบำบัดน้ำเสียที่ชำรุดให้กลับมีประสิทธิภาพ สร้างระบบบำบัดน้ำเสียทดแทนระบบเดิม สร้างระบบรวบรวมน้ำเสียเพิ่มเติมและปรับปรุงระบบท่อน้ำเสีย
                              ยุทธศาสตร์ที่ 2 การพัฒนาระบบสนับสนุนการบริหารจัดการโดยสนับสนุนให้มีหน่วยงานกลางของกระทรวงสาธารณสุขในการบริหารจัดการสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อมแบบครบวงจร สร้างเครือข่ายและระบบที่ปรึกษา
                              ยุทธศาสตร์ที่ 3 พัฒนาระบบบริหารจัดการภายในให้มีประสิทธิภาพ โดยพัฒนาองค์ความรู้ของบุคลากรทุกระดับในการจัดการระบบบำบัดน้ำเสีย สนับสนุนให้มีกรอบอัตรากำลังของบุคลากรด้านสุขาภิบาลและสิ่งแวดล้อมให้ครอบคลุมและมีการเฝ้าระวัง ติดตาม และตรวจสอบระบบบำบัดน้ำเสีย
                              ยุทธศาสตร์ที่ 4 การศึกษาวิจัยและพัฒนาระบบข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ โดยส่งเสริม สนับสนุน นวัตกรรมการจัดการน้ำเสีย และพัฒนาระบบฐานข้อมูลการจัดการน้ำเสีย

14. เรื่อง มาตรการส่งเสริมคุณภาพชีวิตเกษตรกรรายย่อย
                    คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบมาตรการส่งเสริมคุณภาพชีวิตเกษตรกรรายย่อยตามที่กระทรวงการคลัง (กค.) เสนอ
                    สาระสำคัญของเรื่อง
                    กค. ได้จัดทำมาตรการส่งเสริมคุณภาพชีวิตเกษตรรายย่อย ซึ่งประกอบด้วย 2 มาตรการย่อย ได้แก่ มาตรการเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกรผู้มีรายได้น้อยที่ได้ร่วมโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรรายย่อยผ่านระบบ ธ.ก.ส. โดยมาตรการเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกรผู้มีรายได้น้อย มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกรที่มีรายได้น้อยหรือไม่มีรายได้ที่ร่วมโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อบรรเทาผลกระทบจากปัญหาราคาพืชผลเกษตรตกต่ำและยกระดับคุณภาพชีวิตในระยะเร่งด่วน กลุ่มเป้าหมาย เกษตรกรที่ลงทะเบียนในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐระหว่างวันที่ 15 กรกฎาคม-15 สิงหาคม 2559 ที่ได้รับการตรวจสอบและรับรองเบื้องต้นจากหน่วยงานราชการแล้ว
                    สำหรับมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรรายย่อย ผ่านระบบ ธ.ก.ส. มีวัตถุประสงค์ เพื่อบรรเทาภาระหนี้สิ้นของเกษตรกร ช่วยเหลือเกษตรกรให้กลับมาทำการผลิตต่อไปได้ และสนับสนุนเกษตรกรรุ่นใหม่ที่เป็นทายาทให้เข้ามาทดแทนเกษตรกรรุ่นที่เก่าที่เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ และคืนกำไรให้กับเกษตรกรที่ชำระดี ประกอบด้วย 3 โครงการได้แก่ (1) โครงการปลดเปลื้องหนี้สินให้เกษตรกรรายย่อย (2) โครงการปรับปรุงโครงสร้างหนี้และลดภาระหนี้สิ้นให้เกษตรกร และ (3) โครงการชำระดีมีคืนแก่เกษตรกรที่ไม่มีปัญหาการชำระหนี้




ต่างประเทศ

15.  เรื่อง ขออนุมัติโครงการเสริมสร้างและยกระดับความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านในการยุติแหล่งผลิตและทำลายเครือข่ายการค้ายาเสพติดระหว่างประเทศ ปี 2559 (เพิ่มเติม) (สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ราชอาณาจักรกัมพูชา  และสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม)
                    คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) เสนอ ดังนี้ 
                    1.อนุมัติโครงการเสริมสร้างและยกระดับความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านในการยุติแหล่งผลิตและทำลายเครือข่ายการค้ายาเสพติดระหว่างประเทศ ปี 2559 (เพิ่มเติม) สนับสนุนให้แก่ประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่             1) สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา  2) สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว  3) ราชอาณาจักรกัมพูชา                    4) สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม 
                    2.  อนุมัติให้เลขาธิการ ป.ป.ส. มีอำนาจอนุมัติโครงการ แผนงานและกิจการภายใต้กรอบงบประมาณ งบเงินอุดหนุน รายการโครงการเสริมสร้างและยกระดับความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านในการยุติแหล่งผลิตและทำลายเครือข่ายการค้ายาเสพติดระหว่างประเทศ ปี 2559 (เพิ่มเติม)  และสามารถจ่ายเงินงบประมาณสนับสนุนแต่ละประเทศเพื่อให้มีการดำเนินการให้บรรลุวัตถุประสงค์ของโครงการฯ ตามที่ได้รับการจัดสรร
                    สาระสำคัญของโครงการมีวัตถุประสงค์ ดังนี้
                    1. เพื่อพัฒนาศักยภาพการปฎิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในการปราบปรามการลักลอบผลิตยาเสพติด  การสกัดกั้นยาเสพติด เคมีภัณฑ์และสารตั้งต้น ให้แก่ หน่วยงานด้านยาเสพติดของประเทศเพื่อนบ้าน 4 ประเทศ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการลักลอบผลิตยาเสพติดและการลักลอบค้าเคมีภัณฑ์และสารตั้งต้น  และเป็นเส้นทางลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่แหล่งผลิตไปสู่ประเทศต่าง ๆ  ให้ดียิ่งขึ้น
                    2. เพื่อสร้างความพร้อมของหน่วยงานประเทศเพื่อนบ้านในการสนับสนุนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ของประเทศตนในการปราบปรามยาเสพติด เคมีภัณฑ์และสารตั้งต้น  รวมถึงปฏิบัติการด้านการข่าว การสืบสวนสอบสวน
                    3. เพื่อพัฒนาศักยภาพของเจ้าหน้าที่ของประเทศเพื่อนบ้านในการตรวจพิสูจน์ยาเสพติด เพื่อช่วยในการสืบค้น พิสูจน์ทราบถึงแหล่งต้นตอการผลิต อันจะสามารถโยงถึงการปราบปรามทำลายแหล่งผลิต และกลุ่มการผลิต  การค้าได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
                    4. เพื่อขยายความร่วมมือในการพัฒนาศักยภาพของประเทศเพื่อนบ้านในด้านการป้องกันยาเสพติด การบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดเพื่อสนับสนุนงานด้านปราบปรามทำให้การแก้ไขปัญหาครอบคลุมและยั่งยืน
                    5. เพื่อสร้างความพร้อมในการรองรับการปฏิบัติงานภายใต้แผนปฏิบัติการแม่น้ำโขงปลอดภัย                 ปี 2559-2561
                    6. เพื่อส่งเสริมและกระชับความสัมพันธ์ สร้างความไว้เนื้อเชื่อใจและความร่วมมือระหว่างประเทศในการปฎิบัติการและการควบคุมปัญหายาเสพติดร่วมกัน

16. เรื่อง ยุทธศาสตร์การพัฒนาศักยภาพแรงงานด้านภาษาและวัฒนธรรมเพื่อรองรับประชาคมอาเซียน               ปี พ.ศ. 2559 2563
                              คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบยุทธศาสตร์การพัฒนาศักยภาพแรงงานด้านภาษาและวัฒนธรรมเพื่อรองรับประชาคมอาเซียน ปี พ.ศ. 2559 2563 ตามที่กระทรวงแรงงาน (รง.) เสนอ
                              สาระสำคัญของยุทธศาสตร์การพัฒนาศักยภาพแรงงานด้านภาษาและวัฒนธรรมเพื่อรองรับประชาคมอาเซียน ปี พ.ศ.2559 2563 ประกอบด้วย 5 ประเด็นยุทธศาสตร์ ได้แก่ 1) ยกระดับมาตรฐานการเรียนรู้และการทดสอบสมรรถนะด้านภาษาและวัฒนธรรม 2) พัฒนาหลักสูตรการสร้างจิตสำนึกคุณค่าของภาษาและวัฒนธรรม 3) ขยายความร่วมมือระหว่างภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน 4) ขยายความร่วมมือระหว่างประเทศในการพัฒนาทักษะด้านภาษาและวัฒนธรรม และ 5) ปรับปรุงสื่อการเรียนรู้และฐานข้อมูลกลางด้านภาษาและวัฒนธรรม





แต่งตั้ง

17. เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงการคลัง)
                    คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอแต่งตั้ง นายไพศาล ชื่นจิตร รองอธิบดีกรมศุลกากร ให้ดำรงตำแหน่ง ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางศุลกากร (นักวิชาการศุลกากรทรงคุณวุฒิ)             กรมศุลกากร กระทรวงการคลัง ตั้งแต่วันที่ 8 กรกฎาคม 2559 ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป

18. เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ                     (สำนักนายกรัฐมนตรี)
                    คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรีให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ     จำนวน 2 ราย ตั้งแต่วันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ดังนี้
                    1. นายทีปรัตน์ วัชรางกูร ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมภาคกลาง สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ดำรงตำแหน่ง ที่ปรึกษาด้านนโยบายและแผนงาน (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ             ตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคม 2559
                    2. นายวิชญายุทธ บุญชิต ผู้อำนวยการสำนักยุทธศาสตร์และการวางแผนเศรษฐกิจมหภาค สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ดำรงตำแหน่ง ที่ปรึกษาด้านนโยบายและแผนงาน (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ               ตั้งแต่วันที่ 7 เมษายน 2559
                    ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป

19. เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการลงทุน (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนระดับทรงคุณวุฒิ) (สำนักนายกรัฐมนตรี)
                    คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนเสนอแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี ให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ จำนวน 2 ราย ตั้งแต่วันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ดังนี้
                    1. นางสาวบงกช อนุโรจน์ ผู้อำนวยการสำนักการตลาดเพื่อการลงทุน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ดำรงตำแหน่ง ที่ปรึกษาด้านการลงทุน (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ตั้งแต่วันที่ 12 เมษายน 2559
                    2. นางสาวจิตรา กุลวานิช ผู้อำนวยการสำนักบริหารกลาง สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ดำรงตำแหน่ง ที่ปรึกษาด้านการลงทุน (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ตั้งแต่วันที่ 28 มิถุนายน 2559
                    ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป และให้นางสาวจิตรา กุลวานิช             (ลำดับที่ 2) พ้นจากตำแหน่ง ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2559 เนื่องจากครบเกษียณอายุราชการต่อไป

20. เรื่อง รัฐบาลสาธารณรัฐเช็กเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐเช็กประจำประเทศไทย (กระทรวงการต่างประเทศ)
                    คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติ กรณีรัฐบาลสาธารณรัฐเช็กมีความประสงค์ขอแต่งตั้ง นายมาเร็ก ลิบชีตซกี (Marek  Libřický) ให้ดำรงตำแหน่ง เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐเช็กประจำประเทศไทย โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงเทพมหานคร สืบแทน นายวีเจซ  สลัฟเกรเปิล  (Mr. Vitězslav  Grepl) ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ

21. เรื่อง รัฐบาลสาธารณรัฐอิเควทอเรียลกินีเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐอิเควทอเรียลกินีประจำประเทศไทย (กระทรวงการต่างประเทศ)
                    คณะรับมนตรีมีมติอนุมัติ กรณีรัฐบาลสาธารณรัฐอิเควทอเรียลกินีมีความประสงค์ขอแต่งตั้ง               นายเฌอร์มัน เอกัว ซีมา อาบากา (Mr. German Ekua Sima Abaga) ให้ดำรงตำแหน่ง เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐอิเควทอเรียลกินีประจำประเทศไทย โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน สืบแทน นายมานูเอล โมโต โตโม (Mr. Manuel Moto Tomo) ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ

22. เรื่อง การปรับเขตกงสุลของสถานกงสุลกิตติมศักดิ์ ณ นครมาร์ไซย์ สาธารณรัฐฝรั่งเศส และการแต่งตั้งกงสุลกิตติมศักดิ์ ณ นครมาไซย์ สาธารณรัฐฝรั่งเศส (กระทรวงการต่างประเทศ)
                    คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้
                    1. ปรับเขตกงสุลของสถานกงสุลกิตติมศักดิ์ ณ นครมาร์ไซย์ สาธารณรัฐฝรั่งเศส จากเดิม มีเขตกงสุลครอบคลุมนครมาไซย์ จังหวัด Bouches – du-Rhône  แคว้น Provence – Alpes-Côte d’ Azur เป็น              มีเขตกงสุลครอบคลุม 6 จังหวัด ในแคว้น Provence – Alpes-Côte d’ Azur ประกอบด้วย จังหวัด Alpes – de – Haute-Provence จังหวัด Hautes-Alpes จังหวัด Alpes-Maritimes จังหวัด Boucvhes – du-Rhône จังหวัด Var และจังหวัด Vaucluse
                    2. แต่งตั้ง นายออลีวีเย เรอเนตีแยรี ว็อง เดอแว๊งแกล (Mr. Olivier René Thierry Van de Winkel) ให้ดำรงตำแหน่ง กงสุลกิตติมศักดิ์ ณ นครมาร์ไซย์ สาธารณรัฐฝรั่งเศส สืบแทน นายฟรานซิส บิเจต์            (Mr. Francis Biget) กงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์ ณ นครมาร์ไซย์ สาธารณรัฐฝรั่งเศส ซึ่งถึงแก่กรรม

23. เรื่อง การแต่งตั้งกงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาชนจีน ณ จังหวัดเชียงใหม่ (กระทรวงการต่างประเทศ)
                    คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติ กรณีรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีนมีความประสงค์ขอแต่งตั้ง นายเหริน อี้เชิง (Mr. Ren  Yisheng) ให้ดำรงตำแหน่ง กงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาชนจีน ณ จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีเขตกงสุลครอบคลุม 12 จังหวัดทางภาคเหนือของประเทศไทย ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง ลำพูน แม่ฮ่องสอน น่าน พะเยา พิษณุโลก แพร่ สุโขทัย ตาก และอุตรดิตถ์ สืบแทน นายฉาว เสี่ยวเหลียง (Mr. Chao Xiaoliang) ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ

24. เรื่อง การโอนข้าราชการมาแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (สำนักนายกรัฐมนตรี)
                    คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่สำนักนายกรัฐมนตรีเสนอรับโอน นายเกษมสันต์ จิณณวาโส ปลัดกระทรวง (นักบริหารระดับสูง) สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นักบริหารระดับสูง) สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักนายกรัฐมนตรี เนื่องจากเป็นผู้มีความรู้ความสามารถและประสบการณ์ที่เหมาะสม ประกอบกับเพื่อประโยชน์ของทางราชการในการปฏิรูปราชการแผ่นดิน ตามที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย ตามข้อ 1 วรรคสาม ของคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 16/2558 ลงวันที่ 15 พฤษภาคม พุทธศักราช 2558 ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2559 เป็นต้นไป ซึ่งเป็นกรณีโอนย้ายข้าราชการโดยไม่มีความผิดและไม่อยู่ระหว่างการตรวจสอบใด ๆ โดยผู้มีอำนาจสั่งบรรจุทั้งสองฝ่ายได้ตกลงยินยอมในการโอน และนายกรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบด้วยแล้ว

25. เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (สำนักนายกรัฐมนตรี)
                    คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 3 ราย ดังนี้
                    1. นายประพันธ์ มุสิกพันธ์ ที่ปรึกษาด้านนโยบายและแผนงาน (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ดำรงตำแหน่ง รองเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
                    2. นายมนตรี บุญพาณิชย์ ที่ปรึกษาด้านนโยบายและแผนงาน (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ดำรงตำแหน่ง รองเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
                    3. นายดนุชา พิชยนันท์  ที่ปรึกษาด้านนโยบายและแผนงาน (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ดำรงตำแหน่ง รองเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
                    ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2559 เพื่อทดแทนผู้เกษียณอายุราชการ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป

26. เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงพาณิชย์)
                    คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร เอกอัครราชทูต คณะผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การการค้าโลก ณ นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส สำนักงานปลัดกระทรวง ให้ดำรงตำแหน่ง อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เพื่อทดแทนผู้เกษียณอายุราชการ ตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม 2559 ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป



27. เรื่อง การแต่งตั้งผู้อำนวยการองค์การสวนพฤกษศาสตร์
                    คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอแต่งตั้ง
นายไพโรจน์ สัตยสัณห์สกุล ให้ดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการองค์การสวนพฤกษศาสตร์ (อ.ส.พ.) และการกำหนดอัตราเงินเดือนผู้อำนวยการ อ.ส.พ. ตามมติคณะกรรมการ อ.ส.พ. ครั้งที่ 4/2559 เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2559 และครั้งที่ 5/2559 เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2559 ส่วนค่าตอบแทนและสิทธิประโยชน์อื่น ๆ รวมทั้งเงื่อนไขการจ้างและการประเมินผลการปฏิบัติงานให้เป็นไปตามความเห็นของกระทรวงการคลัง ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่ลงนามในสัญญาจ้างเป็นต้นไปแต่ไม่ก่อนวันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ

28. เรื่อง แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการปิโตรเลียม
                    คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงพลังงานเสนอแต่งตั้ง พลเรือเอก ทวีวุฒิ พงศ์พิพัฒน์ ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการปิโตรเลียม เนื่องจาก พลเอก วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมได้ลาออกจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2559 โดยให้มีวาระการดำรงตำแหน่งตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ จนถึงวันที่ 16 มีนาคม 2561

29. เรื่อง การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการมาตรฐานการบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น (ก.ถ.)
                    คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการมาตรฐานการบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น (ก.ถ.) จำนวน 5 คน เนื่องจากกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมได้ดำรงตำแหน่งครบวาระสี่ปีแล้ว เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2559 ดังนี้ 1. นายวัลลภ พริ้งพงษ์ ด้านการบริหารงานท้องถิ่น 2. นายวสันต์ วรรณวโรทร ด้านการบริหารงานบุคคล 3. นายพงศ์โพยม วาศภูติ ด้านระบบราชการ             4. นายธวัชชัย ฟักอังกูร ด้านบริหารและการจัดการ 5. นายนิรวัชช์  ปุณณกันต์ ด้านกฎหมาย ทั้งนี้ ตั้งแต่                  วันที่ 27 กันยายน 2559 เป็นต้นไป

30. เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงสาธารณสุข)
                    คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง ประเภทบริหาร ระดับสูง จำนวน 5 ราย ดังนี้
                    1. นายณัฐวุฒิ ประเสริฐสิริพงศ์ รองอธิบดี (นักบริหาร) ประเภทบริหาร ระดับต้น กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง (ผู้ตรวจราชการกระทรวง) ประเภทบริหาร ระดับสูง สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงสาธารณสุข
                    2. นางพรรณพิมล วิปุลากร รองอธิบดี (นักบริหาร) ประเภทบริหาร ระดับต้น กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง (ผู้ตรวจราชการกระทรวง) ประเภทบริหาร ระดับสูง สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงสาธารณสุข
                    3. นายโอภาส การย์กวินพงศ์ รองอธิบดี (นักบริหาร) ประเภทบริหาร ระดับต้น กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง (ผู้ตรวจราชการกระทรวง) ประเภทบริหาร ระดับสูง สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงสาธารณสุข
                    4. นายไพศาล ดั่นคุ้ม รองเลขาธิการ (นักบริหาร) ประเภทบริหาร ระดับต้น สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง (ผู้ตรวจราชการกระทรวง) ประเภทบริหาร ระดับสูง สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงสาธารณสุข
                    5. นางวารุณี จินารัตน์ รองอธิบดี (นักบริหาร) ประเภทบริหาร ระดับต้น กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง (ผู้ตรวจราชการกระทรวง) ประเภทบริหาร ระดับสูง สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงสาธารณสุข
                    ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป



31. เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงเกษตรและสหกรณ์)
                    คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งประเภทนักบริหาร ระดับสูง รวมจำนวน 11 ราย ดังนี้
                    1. นายคนิต ลิขิตวิทยาวุฒิ รองอธิบดี (นักบริหาร ระดับต้น) กรมส่งเสริมการเกษตร ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง (ผู้ตรวจราชการกระทรวง ระดับสูง) สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
                    2. ว่าที่ ร.ต. ไพเจน มากสุวรรณ์  รองอธิบดี (นักบริหาร ระดับต้น) กรมชลประทาน ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง (ผู้ตรวจราชการกระทรวง ระดับสูง) สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
                    3. นายโอภาส ทองยงค์รองอธิบดี (นักบริหาร ระดับต้น) กรมปศุสัตว์ ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง (ผู้ตรวจราชการกระทรวง ระดับสูง) สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
                    4. นายปริญญา เพ็งสมบัติ  รองอธิบดี (นักบริหาร ระดับต้น) กรมส่งเสริมสหกรณ์ ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง (ผู้ตรวจราชการกระทรวง ระดับสูง) สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
                    5. นายดิเรก  ตนพะยอม  รองอธิบดี (นักบริหาร ระดับต้น) กรมวิชาการเกษตร ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง (ผู้ตรวจราชการกระทรวง ระดับสูง) สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
                    6. นายสุวรรณ บูราพรนุสรณ์ รองเลขาธิการ (นักบริหาร ระดับต้น) สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง (ผู้ตรวจราชการกระทรวง ระดับสูง) สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
                    7. นางสาวจูอะดี พงศ์มณีรัตน์  รองอธิบดี (นักบริหาร ระดับต้น) กรมประมง ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง (ผู้ตรวจราชการกระทรวง ระดับสูง) สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
                    8. นายประยวน พันธ์สวัสดิ์  รองอธิบดี (นักบริหาร ระดับต้น) กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง (ผู้ตรวจราชการกระทรวง ระดับสูง) สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
                    9. นายเสนอ ชูจันทร์  รองอธิบดี (นักบริหาร ระดับต้น) กรมส่งเสริมสหกรณ์ ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง (ผู้ตรวจราชการกระทรวง ระดับสูง) สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
                    10. นางสาวจริยา สุทธิไชยา รองเลขาธิการ (นักบริหาร ระดับต้น) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ (นักบริหาร ระดับสูง) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร
                    11. นายสุรสีห์ กิตติมณฑล รองอธิบดี (นักบริหาร ระดับต้น) กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ให้ดำรงตำแหน่งอธิบดี (นักบริหาร ระดับสูง) กรมฝนหลวงและการบินเกษตร
                    ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป

32. เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการการเมืองแทนตำแหน่งที่ว่าง (กระทรวงพาณิชย์)
                    คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอการแต่งตั้งข้าราชการการเมืองแทนตำแหน่งที่ว่าง คือ นายสมชาติ สร้อยทอง ให้ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2559 เป็นต้นไป

----------------------------------------------------
ที่มา ; เว็บ นสพ.ไทยรัฐ

 คลิ๊ก ) สมัครพัฒนาความรู้   
เตรียมติวสอบผู้บริหารสถาน+การศึกษา 

-คลากรการศึกษา  ที่ 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

พัฒนาความรู้ครูผู้ช่วย 4 ภาค

พัฒนาความรู้ครูผู้ช่วย 4 ภาค
พัฒนาความรู้ครูผู้ช่วย 4 ภาค

ห้องสนทนา บน facebook

ห้องสนทนา บน facebook
ห้องสนทนาติวสอบดอทคอม

ข้อสอบออนไลน์ "ติวสอบดอทคอม" ชุดใหม่

คู่มือเตรียมสอบผู้บริหาร ภาค ก ข ค

แจ้งย้ายเว็บไปที่ www.tuewsob.com

คู่มือเตรียมสอบผู้บริหาร ภาค ก ข ค (ปรับปรุงใหม่)

รวม เล่ม + แผ่นพับ + ชีตช่วยจำ + DVD เนื้อหา + เสียงบรรยาย + EMS = 800 บาท
สนใจ คู่มือ ภาค ก ข ค ผู้บริหาร คลิ๊กเลย

สั่งจอง... โอนเงินเข้าชื่อบัญชี นายนิกร เพ็งลี ธนาคารกรุงไทย สาขาจอหอ บัญชีเลขที่ 341-1-38912-5 โอนเงินแล้วกรุณาโทรแจ้ง
0872494141 หรือ 0839660030

คู่มือ เตรียมสอบผู้บริหาร

คู่มือ เตรียมสอบผู้บริหาร
คู่มือ เตรียมสอบผู้บริหาร

ติวสอบออนไลน์ บน facebook

ติวสอบออนไลน์ บน facebook
ติวสอบออนไลน์ บน facebook

คลังหนังสือ ติวสอบดอทคอม

คลังหนังสือ ติวสอบดอทคอม
คลังหนังสือ ติวสอบดอทคอม

ติวสอบดอทคอม

ติวสอบดอทคอม
ติวสอบดอทคอม