อ่านชัด-อ่านครบ กด ดูเวอร์ชั่นสำหรับเว็บ (ด้านล่าง)
เรื่องใหม่น่าสนใจ (ทั้งหมด ที่ )
(เนื้อหา-ข้อสอบ 1,000 ชุุด หมื่นข้อ ภาค กข
+ 40 วิชาเอก) ที่ ห้องสอบด้านขวา หรือ
เว็บฟรีข้อสอบ 1,000 ชุด ที่ ติวสอบดอทคอม คลิ๊ก www.tuewsob.com
-นายกรัฐมนตรีพบเพื่อนครู + การศึกษาไทยศตวรรษ 21 นี่
-กำหนดการสอบครูผู้ช่วย ครั้งที่ 1 ปี 2559
-คู่มือ 4 ชุด นโยบาย บริบริหาร ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้
ข้อสอบออนไลน์ ( พัฒนาความรู้ครู - ผู้บริหาร - บุคลากรการศึกษา) ชุดใหม่
ข้อสอบ รอบรู้ ชุด 316 โรงเรียนประชารัฐ แผนการศึกษาชาติใหม่ แผนพัฒนาเศรษฐกิจฯ ฉบับ 12 by ProProfs » Quiz Created With ProProfs
ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี 406/2559 ตรวจเยี่ยมการบริหารจัดการโรงเรียนขนาดเล็กที่สุราษฎร์ธานี
จังหวัดสุราษฎร์ธานี - พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ตรวจเยี่ยมการบริหารจัดการโรงเรียนขนาดเล็กของโรงเรียนวัดประตูใหญ่ และโรงเรียนวัดท่า อำเภอท่าฉาง โดยมีนายการุณ สกุลประดิษฐ์ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน, นายชุมพล ศรีสังข์ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) สุราษฎร์ธานี เขต 1 ปฏิบัติหน้าที่ศึกษาธิการจังหวัดสุราษฎร์ธานี, นายชูศักดิ์ ชูช่วย ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุราษฎร์ธานี เขต 2, นายบำรุง ฤทธิรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุราษฎร์ธานี เขต 3, นายสมชาย จินตนพันธ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดประตูใหญ่, ครู โรงเรียนวัดท่า, คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ตลอดจนครู ผู้ปกครอง และนักเรียน ให้การต้อนรับและนำเยี่ยมชม เมื่อวันอังคารที่ 27 กันยายน 2559
นายชุมพล ศรีสังข์ ผอ.สพป.สุราษฎร์ธานี เขต 1 ปฏิบัติหน้าที่ศึกษาธิการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวรายงานการบริหารจัดการโรงเรียนขนาดเล็กในภาพรวมว่า จังหวัดสุราษฎร์ธานีมีโรงเรียนขนาดเล็ก จำนวน 228 แห่ง ในจำนวนนี้มีโรงเรียนขนาดเล็กที่มีนักเรียนต่ำกว่า 20 คนลงมา จำนวน 16 แห่ง ซึ่งได้เสนอรายชื่อโรงเรียนที่มีความพร้อมและสมัครเป็น "โรงเรียนแม่เหล็ก" ให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขึ้นพื้นฐาน (สพฐ.) อนุมัติจำนวน 3 แห่ง คือ โรงเรียนวัดบางใบไม้, โรงเรียนวัดประตูใหญ่ และโรงเรียนวัดน้ำผุ
จากนั้น ได้ขับเคลื่อนนโยบายการบริหารจัดการโรงเรียนขนาดเล็กไปยังพื้นที่เป้าหมาย โดยเริ่มจากการสร้างความเข้าใจทั้งโรงเรียนแม่เหล็กและโรงเรียนเครือข่ายที่จะเข้ามาเรียนรวม พร้อมจัดทำแผนกิจกรรมภาพรวมของจังหวัด และจัด Open House ของโรงเรียนแม่เหล็กด้วย โดยมีแผนการบริหารจัดการ 2 รูปแบบ คือ แบบโรงเรียนแม่เหล็ก และการจับคู่กันเองตามสภาพภูมิศาสตร์และความต้องการของชุมชน ซึ่งมีหลายโรงเรียนได้ดำเนินการจับคู่โรงเรียนเรียบร้อยแล้ว
แผนขับเคลื่อนการบริหารจัดการโรงเรียนขนาดเล็ก แบ่งเป็น 2 ระยะ ดังนี้
ระยะที่ 1 เริ่มดำเนินการในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 (1 พฤศจิกายน 2559) มีโรงเรียนสมัครใจเข้าร่วมเป็นโรงเรียนแม่เหล็ก 2 แห่ง ได้แก่
1) โรงเรียนวัดบางใบไม้ สังกัด สพป.สุราษฎร์ธานี เขต 1 โดยมีโรงเรียนวัดบางกล้วย และโรงเรียนวัดประสิทธาราม เป็นโรงเรียนเครือข่าย
2) โรงเรียนวัดประตูใหญ่ สังกัด สพป.สุราษฎร์ธานี เขต 2 โดยมีโรงเรียนวัดท่า เป็นโรงเรียนเครือข่าย
ระยะที่ 2 เริ่มดำเนินการในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 (16 พฤษภาคม 2560) มีโรงเรียนสมัครใจเข้าร่วมเป็นโรงเรียนแม่เหล็ก 2 แห่ง ได้แก่
1) โรงเรียน วัดบางใบไม้ สังกัด สพป.สุราษฎร์ธานี เขต 1 โดยมีโรงเรียนวัดชลธาร และโรงเรียนวัดบุญบันเทิง เป็นโรงเรียนเครือข่าย
2) โรงเรียนวัดน้ำผุ สังกัด สพป.สุราษฎร์ธานี เขต 3 โดยมีโรงเรียนบ้านยางอุง และโรงเรียนบ้านดอนทราย เป็นโรงเรียนเครือข่าย
สำหรับโรงเรียนวัดประตูใหญ่ ตั้งอยู่ที่ตำบลเสวียด อำเภอท่าฉาง จังหวัดสุราษฎร์ธานี เริ่มจัดการศึกษาตั้งแต่ปี 2461 ภายใต้วิสัยทัศน์ “จัดและส่งเสริมสนับสนุนการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อพัฒนาผู้เรียนให้เป็นคนดี มีคุณธรรม นำความรู้ ตามแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ก้าวทันเทคโนโลยี มีคุณภาพมาตรฐานและเป็นต้นแบบโรงเรียนดีที่อยู่ใกล้บ้าน” ปัจจุบันมีนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 รวม 254 คน มีครูและบุคลากรทางการศึกษา รวม 17 คน มีนายสมชาย จินตนพันธ์ เป็นผู้อำนวยการโรงเรียนวัดประตูใหญ่ โดยโรงเรียนมีศักยภาพและความพร้อมที่จะรองรับนักเรียนจากโรงเรียนวัดท่า จำนวน 12 คน รวมทั้งผู้อำนวยการโรงเรียนและครู อีก 2 คน ทั้งในด้านกายภาพ คืออาคารเรียน โรงอาหาร สระว่ายน้ำ สนามเด็กเล่น และห้องเรียนภาษาอังกฤษ และมีครูผู้สอนครบทุกสาระวิชา ซึ่งในปี 2558 มีผลทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน หรือ O-NET ชั้น ป.6 สูงกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศทั้งในวิชาภาษาไทย (56 คะแนน) และสังคมศึกษา (53 คะแนน) ส่วนวิชาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และภาษาอังกฤษ จะต้องจัดหาครูที่จบตรงสาขามาสอนเพิ่ม พร้อมพัฒนาและอบรมครูที่มีอยู่ให้สามารถจัดการเรียนการสอนให้มีคุณภาพมากขึ้น
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า ตั้งใจที่จะเดินทางมาเยี่ยมทั้งโรงเรียนแม่เหล็กและโรงเรียนเครือข่าย เพื่อดูความพร้อมและรับฟังความคิดเห็นของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย ซึ่งจากการรับฟังความคิดเห็นของผู้ปกครองพบว่า ผู้ปกครองส่วนใหญ่ยินดีที่จะให้บุตรหลานย้ายมาเรียนโรงเรียนแม่เหล็ก เพื่อให้ได้รับการเรียนการสอนที่มีคุณภาพมากขึ้น และมีบางส่วนที่ยังติดปัญหาเรื่องการเดินทางมาโรงเรียนของบุตรหลาน จึงได้มอบให้โรงเรียนหารือร่วมกับผู้ปกครองเพื่อช่วยกันแก้ไขในเบื้องต้น ซึ่งก็เป็นที่น่ายินดีที่ผู้ปกครองพร้อมที่จะปรับตัวในการเดินทาง แม้ว่าจะเดินทางไกลกว่าหรือใช้ระยะเวลามากกว่าเดิมก็ตาม แต่หากทำแล้วมีข้อติดขัดส่วนใดก็จะได้ช่วยกันหาทางแก้ไขปัญหาร่วมกัน แต่ขอย้ำว่าไม่มีนโยบายให้โรงเรียนจัดรถรับส่งนักเรียนแต่อย่างใด
นอกจากนี้ ขอให้โรงเรียนวัดประตูใหญ่เร่งนำงบประมาณที่ได้รับจาก สพฐ. มาพัฒนาปรับปรุงทั้งด้านกายภาพและอุปกรณ์การเรียนการสอน ให้เสร็จเรียบร้อยก่อนเปิดภาคเรียนที่ 2 ตลอดจนเชิญชวนให้ผู้ปกครองมาเยี่ยมชมสภาพแวดล้อมและการจัดการเรียนการสอนของโรงเรียน ส่วนโรงเรียนเครือข่ายที่นักเรียนย้ายออกมาหมดแล้ว ให้โรงเรียนและคณะกรรมการสถานศึกษาหารือร่วมกับชุมชนเพื่อบริหารจัดการและใช้ประโยชน์จากพื้นที่โรงเรียนตามความต้องการของชุมชนต่อไป
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวเพิ่มเติมถึงแนวคิดเกี่ยวกับเตรียมการเรียนซ้ำชั้นด้วยว่า ได้มอบให้ สพฐ.ไปจัดทำรายละเอียดกลับมาเสนอ โดยแนวคิดหลักคือจะให้มีการซ้ำชั้นของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 และ 6 โดยครูแต่ละชั้นจะต้องรายงานข้อมูลนักเรียนที่สอบไม่ผ่านให้กับครูในชั้นเรียนต่อไป เพื่อให้ครูเอาใจใส่ในการเรียนเป็นพิเศษ พร้อมจัดสอนซ่อมเสริมให้กับเด็กคนนั้นอย่างจริงจัง ก่อนที่จะสอบซ่อมอีกครั้งด้วยข้อสอบกลางของคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) ทั้งนี้ สพฐ.จะจัดงบประมาณสนับสนุนการสอนซ่อมเสริมของครูต่อไป สำหรับสาเหตุที่เลือกชั้น ป.3 และ 6 เนื่องจากเป็นช่วงชั้นประถมศึกษาตอนต้นและตอนปลาย ซึ่งมีความสำคัญมากกับการเลื่อนขึ้นไปเรียนช่วงชั้นต่อไป หากปล่อยให้เด็กเรียนเลื่อนชั้นขึ้นไปทั้ง ๆ ที่สอบไม่ผ่าน ก็จะเป็นการทรมานเด็กที่ต้องเรียนอย่างยากเย็นในชั้นเรียนที่สูงขึ้น
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาได้รับข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการแก้คะแนนเพื่อปล่อยให้เด็กได้เลื่อนชั้นเรียน ซึ่งต้องบอกว่า เป็นการกระทำเสมือนให้ยาพิษกับเด็กและจะสะสมไปเรื่อย ๆ เมื่อเลื่อนชั้นเรียนขึ้นไปจนกระทั่งโตเป็นผู้ใหญ่ สิ่งเหล่านี้ก็จะส่งผลร้ายต่อตัวเด็กเอง แต่หากเราช่วยกันสอนซ่อมเสริม พยายามผลักดันให้ได้รับทักษะความรู้มากขึ้น เท่ากับเราให้ยาบำรุงและช่วยให้เด็กเลื่อนไปเรียนชั้นต่อไปได้อย่างมีความสุขมากขึ้น
ที่มา ; เว็บ สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงศึกษาธิการ
ข้อสอบออนไลน์ ( พัฒนาความรู้ครู - ผู้บริหาร - บุคลากรการศึกษา) ชุดใหม่
ข้อสอบ รอบรู้ ชุด 316 โรงเรียนประชารัฐ แผนการศึกษาชาติใหม่ แผนพัฒนาเศรษฐกิจฯ ฉบับ 12 by ProProfs » Quiz Created With ProProfs
ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี 406/2559 ตรวจเยี่ยมการบริหารจัดการโรงเรียนขนาดเล็กที่สุราษฎร์ธานี
นายชุมพล ศรีสังข์ ผอ.สพป.สุราษฎร์ธานี เขต 1 ปฏิบัติหน้าที่ศึกษาธิการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวรายงานการบริหารจัดการโรงเรียนขนาดเล็กในภาพรวมว่า จังหวัดสุราษฎร์ธานีมีโรงเรียนขนาดเล็ก จำนวน 228 แห่ง ในจำนวนนี้มีโรงเรียนขนาดเล็กที่มีนักเรียนต่ำกว่า 20 คนลงมา จำนวน 16 แห่ง ซึ่งได้เสนอรายชื่อโรงเรียนที่มีความพร้อมและสมัครเป็น "โรงเรียนแม่เหล็ก" ให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขึ้นพื้นฐาน (สพฐ.) อนุมัติจำนวน 3 แห่ง คือ โรงเรียนวัดบางใบไม้, โรงเรียนวัดประตูใหญ่ และโรงเรียนวัดน้ำผุ
จากนั้น ได้ขับเคลื่อนนโยบายการบริหารจัดการโรงเรียนขนาดเล็กไปยังพื้นที่เป้าหมาย โดยเริ่มจากการสร้างความเข้าใจทั้งโรงเรียนแม่เหล็กและโรงเรียนเครือข่ายที่จะเข้ามาเรียนรวม พร้อมจัดทำแผนกิจกรรมภาพรวมของจังหวัด และจัด Open House ของโรงเรียนแม่เหล็กด้วย โดยมีแผนการบริหารจัดการ 2 รูปแบบ คือ แบบโรงเรียนแม่เหล็ก และการจับคู่กันเองตามสภาพภูมิศาสตร์และความต้องการของชุมชน ซึ่งมีหลายโรงเรียนได้ดำเนินการจับคู่โรงเรียนเรียบร้อยแล้ว
แผนขับเคลื่อนการบริหารจัดการโรงเรียนขนาดเล็ก แบ่งเป็น 2 ระยะ ดังนี้
ระยะที่ 1 เริ่มดำเนินการในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 (1 พฤศจิกายน 2559) มีโรงเรียนสมัครใจเข้าร่วมเป็นโรงเรียนแม่เหล็ก 2 แห่ง ได้แก่
1) โรงเรียนวัดบางใบไม้ สังกัด สพป.สุราษฎร์ธานี เขต 1 โดยมีโรงเรียนวัดบางกล้วย และโรงเรียนวัดประสิทธาราม เป็นโรงเรียนเครือข่าย
2) โรงเรียนวัดประตูใหญ่ สังกัด สพป.สุราษฎร์ธานี เขต 2 โดยมีโรงเรียนวัดท่า เป็นโรงเรียนเครือข่าย
ระยะที่ 2 เริ่มดำเนินการในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 (16 พฤษภาคม 2560) มีโรงเรียนสมัครใจเข้าร่วมเป็นโรงเรียนแม่เหล็ก 2 แห่ง ได้แก่
1) โรงเรียน วัดบางใบไม้ สังกัด สพป.สุราษฎร์ธานี เขต 1 โดยมีโรงเรียนวัดชลธาร และโรงเรียนวัดบุญบันเทิง เป็นโรงเรียนเครือข่าย
2) โรงเรียนวัดน้ำผุ สังกัด สพป.สุราษฎร์ธานี เขต 3 โดยมีโรงเรียนบ้านยางอุง และโรงเรียนบ้านดอนทราย เป็นโรงเรียนเครือข่าย
สำหรับโรงเรียนวัดประตูใหญ่ ตั้งอยู่ที่ตำบลเสวียด อำเภอท่าฉาง จังหวัดสุราษฎร์ธานี เริ่มจัดการศึกษาตั้งแต่ปี 2461 ภายใต้วิสัยทัศน์ “จัดและส่งเสริมสนับสนุนการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อพัฒนาผู้เรียนให้เป็นคนดี มีคุณธรรม นำความรู้ ตามแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ก้าวทันเทคโนโลยี มีคุณภาพมาตรฐานและเป็นต้นแบบโรงเรียนดีที่อยู่ใกล้บ้าน” ปัจจุบันมีนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 รวม 254 คน มีครูและบุคลากรทางการศึกษา รวม 17 คน มีนายสมชาย จินตนพันธ์ เป็นผู้อำนวยการโรงเรียนวัดประตูใหญ่ โดยโรงเรียนมีศักยภาพและความพร้อมที่จะรองรับนักเรียนจากโรงเรียนวัดท่า จำนวน 12 คน รวมทั้งผู้อำนวยการโรงเรียนและครู อีก 2 คน ทั้งในด้านกายภาพ คืออาคารเรียน โรงอาหาร สระว่ายน้ำ สนามเด็กเล่น และห้องเรียนภาษาอังกฤษ และมีครูผู้สอนครบทุกสาระวิชา ซึ่งในปี 2558 มีผลทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน หรือ O-NET ชั้น ป.6 สูงกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศทั้งในวิชาภาษาไทย (56 คะแนน) และสังคมศึกษา (53 คะแนน) ส่วนวิชาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และภาษาอังกฤษ จะต้องจัดหาครูที่จบตรงสาขามาสอนเพิ่ม พร้อมพัฒนาและอบรมครูที่มีอยู่ให้สามารถจัดการเรียนการสอนให้มีคุณภาพมากขึ้น
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า ตั้งใจที่จะเดินทางมาเยี่ยมทั้งโรงเรียนแม่เหล็กและโรงเรียนเครือข่าย เพื่อดูความพร้อมและรับฟังความคิดเห็นของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย ซึ่งจากการรับฟังความคิดเห็นของผู้ปกครองพบว่า ผู้ปกครองส่วนใหญ่ยินดีที่จะให้บุตรหลานย้ายมาเรียนโรงเรียนแม่เหล็ก เพื่อให้ได้รับการเรียนการสอนที่มีคุณภาพมากขึ้น และมีบางส่วนที่ยังติดปัญหาเรื่องการเดินทางมาโรงเรียนของบุตรหลาน จึงได้มอบให้โรงเรียนหารือร่วมกับผู้ปกครองเพื่อช่วยกันแก้ไขในเบื้องต้น ซึ่งก็เป็นที่น่ายินดีที่ผู้ปกครองพร้อมที่จะปรับตัวในการเดินทาง แม้ว่าจะเดินทางไกลกว่าหรือใช้ระยะเวลามากกว่าเดิมก็ตาม แต่หากทำแล้วมีข้อติดขัดส่วนใดก็จะได้ช่วยกันหาทางแก้ไขปัญหาร่วมกัน แต่ขอย้ำว่าไม่มีนโยบายให้โรงเรียนจัดรถรับส่งนักเรียนแต่อย่างใด
นอกจากนี้ ขอให้โรงเรียนวัดประตูใหญ่เร่งนำงบประมาณที่ได้รับจาก สพฐ. มาพัฒนาปรับปรุงทั้งด้านกายภาพและอุปกรณ์การเรียนการสอน ให้เสร็จเรียบร้อยก่อนเปิดภาคเรียนที่ 2 ตลอดจนเชิญชวนให้ผู้ปกครองมาเยี่ยมชมสภาพแวดล้อมและการจัดการเรียนการสอนของโรงเรียน ส่วนโรงเรียนเครือข่ายที่นักเรียนย้ายออกมาหมดแล้ว ให้โรงเรียนและคณะกรรมการสถานศึกษาหารือร่วมกับชุมชนเพื่อบริหารจัดการและใช้ประโยชน์จากพื้นที่โรงเรียนตามความต้องการของชุมชนต่อไป
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวเพิ่มเติมถึงแนวคิดเกี่ยวกับเตรียมการเรียนซ้ำชั้นด้วยว่า ได้มอบให้ สพฐ.ไปจัดทำรายละเอียดกลับมาเสนอ โดยแนวคิดหลักคือจะให้มีการซ้ำชั้นของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 และ 6 โดยครูแต่ละชั้นจะต้องรายงานข้อมูลนักเรียนที่สอบไม่ผ่านให้กับครูในชั้นเรียนต่อไป เพื่อให้ครูเอาใจใส่ในการเรียนเป็นพิเศษ พร้อมจัดสอนซ่อมเสริมให้กับเด็กคนนั้นอย่างจริงจัง ก่อนที่จะสอบซ่อมอีกครั้งด้วยข้อสอบกลางของคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) ทั้งนี้ สพฐ.จะจัดงบประมาณสนับสนุนการสอนซ่อมเสริมของครูต่อไป สำหรับสาเหตุที่เลือกชั้น ป.3 และ 6 เนื่องจากเป็นช่วงชั้นประถมศึกษาตอนต้นและตอนปลาย ซึ่งมีความสำคัญมากกับการเลื่อนขึ้นไปเรียนช่วงชั้นต่อไป หากปล่อยให้เด็กเรียนเลื่อนชั้นขึ้นไปทั้ง ๆ ที่สอบไม่ผ่าน ก็จะเป็นการทรมานเด็กที่ต้องเรียนอย่างยากเย็นในชั้นเรียนที่สูงขึ้น
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาได้รับข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการแก้คะแนนเพื่อปล่อยให้เด็กได้เลื่อนชั้นเรียน ซึ่งต้องบอกว่า เป็นการกระทำเสมือนให้ยาพิษกับเด็กและจะสะสมไปเรื่อย ๆ เมื่อเลื่อนชั้นเรียนขึ้นไปจนกระทั่งโตเป็นผู้ใหญ่ สิ่งเหล่านี้ก็จะส่งผลร้ายต่อตัวเด็กเอง แต่หากเราช่วยกันสอนซ่อมเสริม พยายามผลักดันให้ได้รับทักษะความรู้มากขึ้น เท่ากับเราให้ยาบำรุงและช่วยให้เด็กเลื่อนไปเรียนชั้นต่อไปได้อย่างมีความสุขมากขึ้น
ที่มา ; เว็บ สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงศึกษาธิการ
( คลิ๊ก ) สมัครพัฒนาความรู้
เตรียมติวสอบผู้บริหารสถาน+การศึกษา
เตรียมสอบติวสอบครูผู้ช่วย
( คลิ๊ก ) สมัครพัฒนาความรู้
เตรียมติวสอบผู้บริหารสถาน+การศึกษา
เตรียมสอบติวสอบครูผู้ช่วย
ฟรี... ติวสอบครูผู้ช่วย ติวสอบผู้บริหาร บุคลากรการศึกษา-ครูผู้ช่วย-ผู้บริหาร
-คลากรการศึกษา ที่
ฟรี... ติวสอบครูผู้ช่วย ติวสอบผู้บริหาร บุคลากรการศึกษา-ครูผู้ช่วย-ผู้บริหาร
-คลากรการศึกษา ที่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น