ข้อสอบออนไลน์ (สอบครู-ผู้บริหาร-บุคลากรการศึกษา) ชุดใหม่ล่าสุด
ติวสอบออนไลน์ ชุด สรุปย่อ ความรอบรู้ทั่วไป
ลิงค์ข้อสอบ ที่เกี่ยวข้องกับ "นโยบายรัฐบาล" โดย ติวสอบดอทคอม
http://tuewsob.blogspot.com/2013/11/blog-post_4.html
http://www.tuewsob.com/rr164.html
http://www.tuewsob.com/rr%20157%20pu%201.html
http://tuewsob.blogspot.com/2013/10/132556.html
http://tuewsob.blogspot.com/2013/10/blog-post_31.html
http://www.tuewsob.com/rr164.html
http://www.tuewsob.com/rr%20157%20pu%201.html
http://tuewsob.blogspot.com/2013/10/132556.html
http://tuewsob.blogspot.com/2013/10/blog-post_31.html
ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี 47/2557การติดตามผลการดำเนินงานอาชีวศึกษา ครั้งที่ 2/2557 ที่ขอนแก่น
จังหวัดขอนแก่น - นายจาตุรนต์ ฉายแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดการประชุมผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) เรื่อง "การติดตามผลการดำเนินงานอาชีวศึกษา" ครั้งที่ 2 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2557 เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2557 ณ โรงแรมพูลแมน ขอนแก่น ราชา ออร์คิด
- เร่งปรับสัดส่วนผู้เรียนสายอาชีวะต่อสายสามัญให้เป็น 51:49
รมว.ศธ.กล่าวว่า ในปัจจุบันมีความต้องการกำลังคนสายอาชีวศึกษาจำนวนมาก แต่เราผลิตได้น้อย เพราะมีคนมาเรียนเพียงร้อยละ 34 ของนักเรียนที่จบชั้น ม.3 แต่ในส่วนของสายสามัญมีคนเรียนมาก คือร้อยละ 66 ซึ่งเป็นการผลิตกำลังคนที่สวนทางกับความต้องการของประเทศ เพราะในความเป็นจริงผู้เรียนสายอาชีวะควรเป็นร้อยละ 60 ต่อผู้เรียนสายสามัญร้อยละ 40
ดังนั้น ศธ.จึงมีนโยบายเร่งปรับสัดส่วนผู้เรียนสายอาชีวะต่อสายสามัญให้เป็น 51:49 โดยมีแนวทางการดำเนินงานที่สำคัญ เช่น ความร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ในการแนะแนวแก่นักเรียนที่จบ ม.3 ซึ่งจากการประเมินล่าสุดพบว่า ขณะนี้มีสถานศึกษาอาชีวะหลายแห่งมีผู้สนใจสมัครเข้าเรียนอาชีวะจำนวนมากอย่างเห็นได้ชัด หลายแห่งมาสมัครก่อนเวลาเปิดรับสมัคร หลายแห่งมีจำนวนผู้สมัครเต็มจำนวนที่จะรับ
คาดว่าในปีการศึกษา 2557 จะสามารถรับผู้เรียนอาชีวศึกษาของประเทศได้ตามสัดส่วนที่วางไว้คือ 51:49 ซึ่งได้ให้นโยบายแก่ผู้บริหารสถานศึกษาอาชีวะในครั้งนี้ว่า หากมีนักเรียนสมัครเข้ามาจำนวนมาก ก็ขอให้รับไว้ก่อน อย่าปฏิเสธรับเด็กเข้าเรียน เพราะสามารถบริหารจัดการโดยจัดหาครู ขยายห้องเรียน ประสานกับสถาบันในจังหวัด/กลุ่มจังหวัด หรือขอความช่วยเหลือมายัง สอศ. ในการสนับสนุนงบประมาณ หรือหากจำเป็นจะต้องขอรับงบกลางจากคณะรัฐมนตรี ก็คาดว่าสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ไม่น่าจะขัดข้องอะไร แต่หากมีปัญหา ก็สามารถใช้มาตรการสุดท้ายคือ ใช้การเปลี่ยนแปลงงบประมาณแทน
- หลากหลายนโยบายที่ได้วางแผนดำเนินการไปแล้ว โดยเฉพาะ กรอ.อศ.12 กลุ่มอาชีพ
สำหรับนโยบายต่างๆ ของอาชีวศึกษานั้น รมว.ศธ.ย้ำว่า ได้มีการประเมินสถานการณ์การอาชีวศึกษาอย่างเร่งด่วน, มีการเร่งผลิตและพัฒนากำลังคนระดับ ปวช./ปวส., มีการจัดตั้ง คณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อพัฒนากำลังคนอาชีวศึกษา (กรอ.อศ.) ซึ่งขณะนี้มีคณะอนุกรรมการ ร่วมภาครัฐและเอกชนกลุ่มอาชีพ (Skill Cluster) ที่เน้นกลุ่มอุตสาหกรรม 12 กลุ่มอาชีพ คือ กลุ่มยานยนต์และชิ้นส่วน กลุ่มแม่พิมพ์ กลุ่มพลังงาน กลุ่มอาหาร กลุ่มโรงแรมและท่องเที่ยว กลุ่มอัญมณี กลุ่มก่อสร้าง กลุ่มไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ กลุ่มโลจิสติกส์ กลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (รวมโทรคมนาคม) กลุ่มอุตสาหกรรมเคมี และกลุ่มอุตสาหกรรมสิ่งทอ
พร้อมปรับหลักสูตรเพื่อสนองตอบต่อความต้องการของผู้ประกอบการและภาคการผลิต
- ย้ำให้ดำเนินการตามตัวชี้วัดอย่างเป็นรูปธรรม และนำสิ่งดีๆ เผยแพร่ต่อสาธารณชน
อย่างไรก็ตาม ตัวชี้วัดที่สำคัญของการนโยบายการอาชีวศึกษา คือ จำนวนโครงการหรือหลักสูตรที่มีส่วนร่วมกับสถานประกอบการ หรือนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ หรือความร่วมมือกับประเทศต่างๆ เช่น เกาหลี จีน ญี่ปุ่น เยอรมนี เวียดนาม ฯลฯ ซึ่ง สอศ.อาจนำต้นแบบสถานศึกษาอาชีวะของประเทศต่างๆ 2-3 แห่งมาปรับใช้ให้สอดคล้องหรือตรงตามศักยภาพของเรา เช่น ครู อุปกรณ์ โรงฝึกงาน ฯลฯ ซึ่งโครงการความร่วมมือต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น ไม่ต้องการเห็นภาพเมื่อเริ่มต้นงาน ก็ยื่นบิลเรียกเก็บเงิน แต่ต้องการให้เน้นการเรียนการสอนอาชีวะอย่างมีคุณภาพ ตรงตามศักยภาพอย่างแท้จริง
ทั้งนี้ ต้องการให้ สอศ.ดำเนินงานโครงการตามตัวชี้วัดต่างๆ อย่างเป็นรูปธรรม และรวบรวมสิ่งดีๆ ที่ประสบความสำเร็จของอาชีวะ เช่น คนดีอาชีวะ ศิษย์เก่าดีเด่น หลักสูตรที่จบแล้วมีรายได้สูง ไม่ตกงาน หรือภาพลักษณ์ต่างๆ ที่ดีของการอาชีวศึกษา เพื่อนำไปประมวลเป็นตัวเลือกที่จะโฆษณาเผยแพร่ประชาสัมพันธ์สู่สาธารณชนต่อไป อันจะนำมาถึงความสำเร็จตามเป้าหมายสัดส่วนผู้เรียนสายอาชีวศึกษาอีกด้วย
- ต้องการให้สื่อสารความสำคัญของระบบคุณวุฒิวิชาชีพ
รมว.ศธ.กล่าวว่า การจัดตั้งสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องสื่อสารให้เห็นภาพที่ชัดเจนว่า เป็นประโยชน์อย่างมากต่อการเรียนอาชีวะ สร้างอาชีพ เพราะหากเปรียบเทียบกับอัตราบัญชีเงินเดือนของข้าราชการพลเรือนแล้ว ระบบคุณวุฒิวิชาชีพจะมีความแตกต่างกัน เพราะคิดคนละแบบกับระบบปริญญาบัตร โดยยกตัวอย่างช่างยนต์จากต่างประเทศที่มีฝีมือดี หากเราจะจ้างเข้ามาทำงานโดยให้รับรายได้ตามวุฒิ คนๆ นั้นอาจจะรับเงินเดือนเพียง 14,000 บาท ซึ่งไม่สามารถนำคนเหล่านี้มาทำงานได้ เพราะรายได้ในบริษัทต่างๆ สูงกว่ามาก ดังนั้นหากนำเอาระบบคุณวุฒิวิชาชีพมาใช้ ก็จะช่วยดึงคนเหล่านี้ที่แม้จะไม่จบปริญญาตรี แต่ก็สามารถมีรายได้สูงกว่าเป็นอย่างมาก จึงขอให้ช่วยดำเนินการพัฒนาหลักสูตรต่างๆ ของระบบคุณวุฒิวิชาชีพให้เป็นไปตลอดกระบวนการ
- หวังให้ สอศ. ยกระดับการศึกษาทั้งแรงงานไทยและแรงงานอาเซียน
ด้านการยกระดับการศึกษาแรงงานไทย รมว.ศธ.ได้ขอให้มีการจัดวางระบบเครื่องมือให้มาตรฐาน พร้อมทั้งไม่ต้องการให้มีเด็กอาชีวะออกกลางคัน โดยเฉพาะเด็กที่จบ ม.3 และผู้ที่อยู่ในภาคแรงงาน ซึ่งอาชีวะจะต้องช่วยพัฒนาบุคคลกลุ่มเหล่านี้ โดยจะได้นำตัวอย่างจากศูนย์ฝึกอาชีพของกระทรวงแรงงาน เมืองฮอกไกโด ญี่ปุ่น ซึ่งเน้นการพัฒนาคนโดยใช้ภาคปฏิบัติมากกว่าทฤษฎี มีการวางแผนพัฒนาที่ตรงกับความต้องการของภาคเอกชนเป็นอย่างมากด้วย
ส่วนการพัฒนาแรงงานต่างด้าว แม้ สอศ.จะไม่สามารถดำเนินการในระยะเร่งด่วนได้ในเวลานี้ ก็อาจวางแผนดำเนินการในระยะกลาง เพราะเมื่อเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) แล้ว จะเกิดการถ่ายเทแรงงานในประเทศต่างๆ มากขึ้น โดย สอศ.อาจจะเริ่มดำเนินการพัฒนาแรงงานอาเซียนก่อนในจังหวัดที่มีศักยภาพหรือมีความจำเป็นก่อน เพื่อส่งสัญญาณที่ดีให้ผู้คนที่เกี่ยวข้องมาช่วยกันคิด พัฒนา หารือ วางแผนร่วมกันในเรื่องนี้ต่อไป รวมทั้งนโยบายอาชีวะร่วมกับประเทศอาเซียนนั้น ก็ถือเป็นนโยบายสำคัญของ สอศ.ที่จะต้องมีการหารือกับประเทศต่างๆ ในภูมิภาค เช่น ลาว เวียดนาม พม่า เพื่อให้เกิดแลกเปลี่ยนด้านอาชีวะร่วมกันอย่างใกล้ชิดมากขึ้น
- ศธ.ได้ปรับเกณฑ์ 1 อำเภอ 1 ทุน เพื่อเพิ่มผู้เรียนอาชีวะได้มีโอกาสไปเรียนต่อต่างประเทศ
ด้านโครงการ 1 อำเภอ 1 ทุน (ODOS) ก็เป็นนโยบายสำคัญที่ให้มีการปรับเกณฑ์โดยพยายามส่งเสริมให้นักศึกษาอาชีวะมีโอกาสไปเรียนต่างประเทศมากขึ้น ซึ่งขณะนี้ สอศ.ได้ทาบทามหลายประเทศไว้แล้ว และนโยบายนี้จะมีผลให้เด็กเก่งๆ เข้ามาเรียนอาชีวะมากขึ้นด้วย
ภาพ นวรัตน์ รามสูต, บัลลังก์ โรหิตเสถียร
รมว.ศธ.กล่าวด้วยว่า ในช่วงก่อนปิดภาคเรียน ต้องการให้มีการวางแผนกิจกรรม/โครงการต่างๆ ล่วงหน้า สำหรับเด็กให้มากขึ้น เพื่อให้สามารถวางแผนจัดกิจกรรมต่างๆ ได้ทันทั้งช่วงปิดเทอมและเปิดเทอม เชื่อมั่นว่าหากมีความร่วมมือกันอย่างแท้จริงแล้ว ในปีต่อๆ ไปจะเห็นการเปลี่ยนแปลงของการอาชีวศึกษาที่ชัดเจน จะเป็นก้าวใหม่ของอาชีวะ ส่วนสิ่งใดที่ สอศ.ต้องการที่จะให้รัฐบาลสนับสนุน ก็ขอให้รวบรวมเสนอ เพื่อให้การพัฒนาอาชีวศึกษาอย่างมีนัยสำคัญในเวลาไม่นาน และหวังว่าการประชุมสัมมนาครั้งนี้ จะมีส่วนสำคัญให้เกิดการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นร่วมกันอย่างจริงจัง และนำเสนอแนวปฏิบัติที่ชัดเจนเกี่ยวกับนโยบายต่างๆ ของการอาชีวศึกษา เพื่อนำไปสู่การปรับเปลี่ยนให้เกิดผลที่ดีต่อไป
ที่มา ; เว็บสำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงศึกษาธิการ
ปฏิทินสอบครู 17-24 มี.ค. ว่าง 1.7 พัน อัตรา
ก.ค.ศ.เคาะปฏิทินสอบครูผู้ช่วย 17-24 มี.ค.นี้ สอบครูผู้ช่วยอัตราว่าง 1,700 อัตรา ใน 40 วิชาเอก สาขาคณิตเปิดรับมากสุด
นายอภิชาติ จีระวุฒิ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้หารือร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) เพื่อกำหนดปฏิทินการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วยกรณีทั่วไป ครั้งที่ 1 ปี พ.ศ.2557 แล้วหลังจากที่ประชุม ก.ค.ศ.นัดที่ผ่านมาได้เห็นชอบการปรับปรุงหลักเกณฑ์และวิธีการสอบแข่งขัน และได้มอบให้ สพฐ.และ ก.ค.ศ.มากำหนดปฏิทินดังกล่าว มีรายละเอียดดังนี้ ประกาศรับสมัครสอบแข่งขัน 17-24 มีนาคม ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบแข่งขันภายในวันที่ 8 เมษายน ดำเนินการสอบแข่งขันภาค ก. ความรอบรู้ ความสามารถทั่วไป และความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับความประพฤติและการปฏิบัติของวิชาชีพครู วันที่ 19 เมษายน ภาค ข. ความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่ง วันที่ 20 เมษายน ประกาศรายชื่อผู้ทีสิทธิ์สอบภาค ค. หรือสอบสัมภาษณ์ ภายในวันที่ 24 เมษายน สอบภาค ค. ตั้งแต่วันที่ 27 เมษายน เป็นต้นไป และจะประกาศผลการสอบแข่งขันภายในวันที่ 2 พฤษภาคม โดย สพฐ.จะเสนอให้ที่ประชุม ก.ค.ศ.รับทราบต่อไป และคาดว่าไม่น่าจะมีการปรับเปลี่ยนอะไรอีก
เลขาธิการ กพฐ.กล่าวต่อว่า สำหรับเขตพื้นที่การศึกษาที่จะดำเนินการสอบแข่งขันครั้งนี้มีจำนวน 87 เขตพื้นที่การศึกษา และ 1 สำนักบริหารการศึกษาพิเศษ มีอัตราว่างที่สอบแข่งขันใน 40 วิชาเอก จำนวน 1,700 อัตรา แยกเป็นสาขาวิชาเอกดังนี้ ภาษาไทย 275 อัตรา คณิตศาสตร์ 364 อัตรา ภาษาอังกฤษ 189 อัตรา ภาษาจีน 45 อัตรา ภาษาเกาหลี 1 อัตรา ภาษาญี่ปุ่น 9 อัตรา ภาษาฝรั่งเศส 2 อัตรา วิทยาศาสตร์ 65 อัตรา วิทยาศาสตร์ทั่วไป 31 อัตรา ฟิสิกส์ 84 อัตรา เคมี 28 อัตรา ชีววิทยา 18 อัตรา สังคมศึกษา 94 อัตรา พลศึกษา 66 อัตรา สุขศึกษา 7 อัตรา ดนตรีศึกษา 29 อัตรา ดนตรีไทย 15 อัตรา ดนตรีสากล 21 อัตรา ดุริยางคศิลป์ 2 อัตรา ศิลปศึกษา 30 อัตรา ทัศนศิลป์ 5 อัตรา วิจิตรศิลป์ 1 อัตรา นาฏศิลป์ 38 อัตรา คอมพิวเตอร์ 52 อัตรา อุตสาหกรรมศิลป์ 6 อัตรา เกษตร 8 อัตรา คหกรรม 9 อัตรา ปฐมวัย/อนุบาลศึกษา 111 อัตรา ประถมศึกษา 46 อัตรา จิตวิทยาและการแนะแนว 11 อัตรา เทคโนโลยีทางการศึกษา 3 อัตรา บรรณารักษ์ 5 อัตรา การเงิน/บัญชี 10 อัตรา วัดผลและประเมินผลการศึกษา 2 อัตรา โสตทัศนศึกษา 1 อัตรา ธุรกิจ 1 อัตรา การศึกษาพิเศษ 4 อัตรา กิจกรรมบำบัด 4 อัตรา กายภาพบำบัด 4 อัตรา หูหนวกศึกษา 4 อัตรา
ทั้งนี้ สำหรับเขตพื้นที่การศึกษาที่เปิดสอบแข่งขันในครั้งนี้ อาทิ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) 6 ฉะเชิงเทรา จำนวน 131 อัตรา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) ระนอง 81 อัตรา สพป.ภูเก็ต 73 อัตรา สพม.2 กรุงเทพมหานคร จำนวน 65 อัตรา สพป.สมุทรสาคร 55 อัตรา สพป.สุราษฎร์ธานี เขต 3 จำนวน 50 อัตรา สพป.พังงา 49 อัตรา เป็นต้น.
ที่มา: http://www.thaipost.net
สพฐ.เตรียมประกาศปฏิทินสอบครูผู้ช่วยทั่วไป ปี 57 รอแค่เสนอ ก.ค.ศ.อนุมัติ
วันนี้(12ก.พ.)นายอภิชาติ จีระวุฒิ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กพฐ.) เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ได้เห็นชอบการปรับปรุงหลักเกณฑ์และวิธีการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย กรณีทั่วไป ครั้ง ที่ 1 ปี 2557 นั้น ขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้หารือร่วมกับสำนักงาน ก.ค.ศ.กำหนดปฏิทินการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งฯเรียบร้อยแล้ว โดยมีรายละเอียดดังนี้
ประกาศการสอบแข่งขัน วันที่ 10 -16 มี.ค.57
รับสมัคร วันที่ 17-24 มี.ค.57
ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบภายในวันที่ 8 เม.ย.57
ดำเนินการสอบแข่งขัน ภาค ก ความรอบรู้ ความสามารถทั่วไปและความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับความประพฤติและการปฏิบัติของ วิชาชีพครู วันที่ 19 เม.ย.57
ภาค ข ความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่ง วันที่ 20 เม.ย.57
ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบภาค ค หรือ สอบสัมภาษณ์ ภายในวันที่ 24 เม.ย.57
สอบภาค ค ตั้งแต่วันที่ 27 เม.ย.57 เป็นต้นไป
และ ประกาศผลการสอบแข่งขันภายในวันที่ 2 พ.ค.57
ทั้งนี้ สพฐ.จะเสนอปฏิทินดังกล่าวให้ที่ประชุมก.ค.ศ.รับทราบต่อไป
ขอขอบคุณข่าวสาร/ข้อมูลดีๆ จากเว็บไซต์หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
... เน็ตช้า คลิ๊กที่ http://tuewsob.blogspot.com
... ห้องวิชาเอกครู คลิ๊กที่ http://uewsob2011.blogspot.com
... (ห้องข้อสอบใหม่) ..สอบครู..สอบผู้บริหาร..สอบบุค ลากร ที่
"ติวสอบดอทคอม " เขียนและสร้าง โดย (ผอ.นิกร เพ็งลี)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น