ข้อสอบออนไลน์ (สอบครู-ผู้บริหาร-บุคลากรการศึกษา) ชุดใหม่ล่าสุด
ติวสอบออนไลน์ ชุด สรุปย่อ ความรอบรู้ทั่วไป
ลิงค์ข้อสอบ ที่เกี่ยวข้องกับ "นโยบายรัฐบาล" โดย ติวสอบดอทคอม
http://tuewsob.blogspot.com/2013/11/blog-post_4.html
http://www.tuewsob.com/rr164.html
http://www.tuewsob.com/rr%20157%20pu%201.html
http://tuewsob.blogspot.com/2013/10/132556.html
http://tuewsob.blogspot.com/2013/10/blog-post_31.html
http://www.tuewsob.com/rr164.html
http://www.tuewsob.com/rr%20157%20pu%201.html
http://tuewsob.blogspot.com/2013/10/132556.html
http://tuewsob.blogspot.com/2013/10/blog-post_31.html
ผอ.ศรส. ยืนยัน ระบุทำตามหน้าที่ ชี้หากไม่มีการเปลี่ยนแปลง เชื่อการชุมนุมจะรุนแรงขึ้น เพราะผู้ชุมนุมมั่นใจว่าไปที่ไหนก็ได้ เผยหากขณะนี้เกิดสถานการณ์รุนแรงจะใช้ประมวลกฎหมายอาญา
วันนี้ (21 ก.พ.57) เวลา 15.45 น. ที่ศูนย์รักษาความสงบ (ศรส.) กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บก.ปส.) ถนนวิภาวดีรังสิต กรุงเทพฯ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ในฐานะผู้อำนวยการ ศรส. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่กลุ่มผู้ชุมนุม กปปส. เข้ามาในบริเวณสโมสรตำรวจวันนี้ ว่า มีสาเหตุจากที่ กปปส. เชื่อว่าคำสั่งศาลแพ่งเมื่อวานนี้ทำให้ผู้ชุมนุมไปที่ไหนก็ได้ ที่จริงสถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ราชการ เมื่อกลุ่ม กปปส. เข้ามาแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่มีความชัดเจนว่าจะทำอะไรได้แค่ไหน เพียงไร จะเห็นว่าเพียงวันเดียวที่ศาลแพ่งมีคำสั่งก็เกิดเหตุการณ์อย่างนี้ นอกจากนี้ที่บริเวณอาคารชินวัตร 3 ถึงจะตั้งอยู่ริมถนนสาธารณะก็ตาม แต่ปฏิกิริยาที่กลุ่ม กปปส. เดินทางไปก็ถือเป็นการคุกคาม ก่อให้เกิดความไม่สงบสุขกับพนักงานและบุคคลทั่วไป ผู้ชุมนุมมั่นใจว่าทำได้เพราะศาลสั่ง ไปไหนมาไหน ใครจะปิดการจราจรไม่ได้ โดยทั้งสองเหตุการณ์นี้เป็นตัวอย่าง และจะมีเรื่องอย่างนี้เกิดขึ้นอีก ทั้งนี้ ตนไม่โทษ กปปส. และไม่กล้าโทษใคร เพราะเมื่อวันนี้สังคมไทยเป็นอย่างนี้ก็ต้องพยายามใช้ชีวิตให้เป็นไปตามที่สังคมกำหนด กปปส. เคยมาที่ ศรส. หลายครั้งก็ไม่กล้าเข้ามา เพราะรู้ว่าบุกรุกสถานที่ราชการ แต่วันนี้ตนเชื่อว่า กปปส. มั่นใจว่าเข้ามาได้ถึงเข้ามา ตำรวจก็เห็นว่าบุกรุกสถานที่ราชการ แต่ตำรวจก็รู้คำสั่งศาลแพ่ง จึงไปห้ามไม่ได้ เมื่อวานนี้ตนก็ได้บอกแล้วว่าจะมีปัญหา ซึ่งตนจะได้ทำหนังสือถึงอัยการให้ขอทุเลาคำสั่งของศาลแพ่ง และอุทธรณ์คำสั่งไปยังศาลอุทธรณ์ ถ้าผู้พิพากษาศาลแพ่งได้เห็นภาพทั้งสองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันนี้ จะคิดอย่างไรตนก็ทายใจผู้พิพากษาไม่ถูก แต่หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ก็เชื่อว่าต่อไปนี้การชุมนุมจะรุนแรงขึ้น เพราะผู้ชุมนุมเชื่อว่าจะไปที่ไหนก็ได้ จะเข้าที่ไหนก็ได้ เมื่อเช้านี้ก็ยึดกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงานไปแล้ว
“ที่กระทรวงมหาดไทย ผู้ชุมนุมได้เสริมกำลังคนมากขึ้น ยึดกระทรวง ผมสั่งห้ามตำรวจอย่าไปใกล้ เพราะถ้าถูกทำร้ายก็ไปสลายไม่ได้ ต้องกลับมาใช้ประมวลกฎหมายอาญา ดีแล้วครับที่ กปปส.มาที่สโมสรตำรวจ สังคมทุกภาคส่วนจะได้เห็น ทางตำรวจนุ่มนวล ผู้ชุมนุมด่าว่าผมบ้างก็ไม่เป็นไรเพราะเขาเข้าใจผิด ไปนึกว่าผมมีพฤติกรรมเหมือนนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่สั่งฆ่าประชาชน เขาถึงถูกฟ้องร้อง ผมไม่มีคำสั่ง ส่วนถ้าจะฟ้องร้องผม ไม่เป็นไร และผมได้ขออนุญาตคณะกรรมการ ศรส. ตั้งทีมกฎหมายฟ้องนายสุเทพ และแกนนำ กปปส. ข้อหาร่วมกันฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งปฏิบัติการตามหน้าที่ในเร็ว ๆ นี้ ” ผอ.ศรส. กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อเหตุการณ์บ้านเมืองเป็นแบบนี้ ในฐานะ ผอ.ศรส. จะดำเนินการอย่างไรและประเมินเหตุการณ์ต่อไปอย่างไร ผอ.ศรส. กล่าวว่า เมื่อศาลสั่งมาอย่างนี้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินก็เป็นหมัน ทั้งขอประเมินเหตุการณ์ว่ายุ่งแน่ แต่จะยุ่งจากฝ่ายไหนเท่านั้น เพราะบางคนไม่เข้าใจคำสั่งศาลก็มั่นใจว่าทำโน่นทำนี่ได้ ตนขอถามว่านายสุเทพและ กปปส. ว่าไม่รู้หรือว่ากลุ่มชิน คอร์ป ได้ขายหุ้นให้เทมาเส็กไปแล้ว ไม่เกี่ยวอะไรกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และมีรายงานข่าวว่า กปปส. บางส่วนจะแบล็กเมล์รีดทรัพย์จากเทมาเส็ก แต่ตนไม่รู้ว่าเป็นใคร และเทมาเส็กจะให้หรือไม่นั้นตนไม่ทราบ เพราะชินคอร์ปไม่ใช่ของ พ.ต.ท.ทักษิณ แล้ว แต่เป็นของเทมาเส็ก
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในระหว่างที่ ศรส. จะยื่นอุทธรณ์ หรือถามความเห็นจากศาลแพ่งไปนี้ หากเกิดสถานการณ์รุนแรงขึ้น ศรส. จะใช้แนวทางหรือกฎหมายใดปฏิบัติการ ผอ.ศรส. กล่าวว่า สลายการชุมนุมไม่ได้เพราะศาลสั่ง ต้องใช้ประมวลกฎหมายอาญา บุกรุกเข้ามาก็จับ ถ้าต่อสู้ก็ถือว่าขัดขวาง
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการรองรับอย่างไรในการที่อาจจะมีการนำ พ.ร.บ.ความมั่นคง กลับมาใช้ หรือประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ใหม่ ผอ.ศรส. กล่าว อยู่ที่นายกรัฐมนตรีจะตัดสินใจ ตนตัดสินใจแทนไม่ได้ เมื่อศาลแพ่งมีคำสั่งอย่างนี้ ศรส. ไม่รู้จะทำงานอย่างไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า กลุ่มผู้ชุมนุม กปปส. ยืนยันว่าจะเดินทางมาที่ ศรส. อีกครั้ง และขอพบ ผอ.ศรส. ด้วย โดย ผอ.ศรส. กล่าวว่า “ผมคงไม่มีอะไรไปพบด้วย เพราะสิ่งที่ผู้ชุมนุมอยากรู้เป็นสิ่งที่ผมไม่ได้ทำ ผมไม่ได้ทำอะไรผิด ผมประนีประนอม ไม่ใช้ความรุนแรง อย่างไรก็ไม่ใช้ความรุนแรง ไม่ใช้อารมณ์ และผมก็รู้จักพวกที่ขึ้นไปยืนด่าผมบนหลังคารถ พอจบสถานการณ์การชุมนุม ผมยังหลับตาและนึกภาพไม่ออกว่าเขาจะใช้ชีวิตอย่างไร เพราะเขาสร้างศัตรูไว้เต็มบ้านเต็มเมือง ส่วนผมใช้ชีวิตปกติ ไม่มีอะไร ผมผ่านเหตุการณ์ในชีวิตมามากกว่านี้ร้อยเท่า”
ผู้สื่อข่าวถามถึงเหตุการณ์ยิงระเบิดเอ็ม 79 ใกล้กลับที่ตั้ง ศรส. ผอ.ศรส. กล่าวว่า ได้รับรายงานตั้งแต่เมื่อคืนนี้แต่ยังไม่รู้ว่าใครยิง ไม่เหมือน กปปส. ที่เวลาใครยิงอะไรก็บอกว่าตำรวจยิง พวกนี้เก่ง แต่ตนไม่เก่ง รู้ว่ายิงห่างประมาณ 200 เมตร แต่ตอบทันทีได้ว่าคุกคาม แต่จะคุกคามไทยพีบีเอส หรือ ศรส. นั้นดูไม่ออก ซึ่งไม่ควรทำ
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการรักษาความปลอดภัยและเข้มงวดการเข้า-ออก บริเวณโดยรอบ ศรส. อย่างไร ผอ.ศรส. กล่าวว่า โดยปกติเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้มงวด แต่ก็ลำบากใจ หากเขาบอกว่าเขาจะมาสโมสรตำรวจ ถ้าตำรวจไปห้ามก็ไม่รู้ว่าที่ศาลแพ่งสั่งมานั้นมีความหมายแค่ไหน ตนถามศาลแพ่งไปก็ยังไม่ได้รับคำตอบมา ส่วนที่ว่าจะปิดประตูด้านหน้าสโมสรตำรวจหรือไม่ นั้นก็ทำได้ลำบาก เพราะมีประชาชนมาจองใช้สโมสรตำรวจเพื่อจัดงานต่าง ๆ ทั้งนี้ ตนไม่ซีเรียส ไม่ได้โกรธ แต่ตำรวจตกใจที่ปล่อยให้ กปปส. เข้ามา เข้ามาแล้วก็ออกไป ไม่ได้ถือว่าเป็นความบกพร่อง ตนไม่ใช่คนเจ้ายศเจ้าอย่าง ไม่ได้คิดอะไร แต่ตำรวจก็มีความรู้สึก นึกว่าตนจะไม่พอใจ ยืนยันว่าไม่มี ตนไม่ได้มองผู้ชุมนุมเป็นศัตรู
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ผู้ชุมนุมเรียกร้องให้นำแท่งปูนแบริเออร์และรั้วลวดหนามออก ตามสถานการณ์ปกติ ผอ.ศรส. กล่าวว่าเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ผู้ชุมนุมยังเรียกร้องให้ ศรส. ไม่ใช้พื้นที่สโมสรตำรวจเป็นที่ตั้งของ ศรส. โดย ผอ.ศรส. กล่าวว่า ไม่เคยใช้สโมสรตำรวจตั้ง ศรส. แต่ใช้กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด หรือ บก.ปส. ม็อบไม่เข้าใจ สโมสรตำรวจเป็นสถานที่ให้คนเข้ามาเช่าจัดงานต่าง ๆ และหน่วยราชการต้องมีรั้วรอบขอบชิด กปปส. จะมาสั่งให้รื้อออกไม่ได้ ที่ บก.ปส. เป็นที่เก็บยาเสพติดของกลางมูลค่ากว่าหมื่นล้านบาท รวมทั้งเป็นหน่วยฝึกทหารอเมริกัน มีกองกำลังอรินทราช ไม่มีรั้วรอบขอบชิดไม่ได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า ผู้ชุมนุมยังเรียกร้องให้ ศรส. งดการยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลแพ่ง ผอ.ศรส. กล่าวว่า “ผมไม่ฟังหรอก ผมต้องทำตามกฎหมาย หน้าที่ใครหน้าที่มัน อย่างนั้นก็ยึดประเทศ ถ้าคิดอย่างนี้ได้ ก็ตั้งสุเทพเป็นนายกฯ ไปเลย แล้วหาทำเนียบฯ เข้าไปในทำเนียบฯ สั่งข้าราชการ ให้ข้าราชการไปรายงานตัว ก็ไปทำงานเลย สุเทพหยุดปราศรัยเถอะเพื่อน ออกแถลงการณ์คืนนี้ให้ ผบ.เหล่าทัพผบ.ตร. รายงานตัว แล้วก็ตั้ง ครม. บริหารราชการแผ่นดิน เอาเลย แต่เพื่อนไม่ต้องเชิญผม เพราะผมไม่กล้าไป แล้วดูสิจะมีคนไปรายงานตัวไหม” ผอ.ศรส.กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีคลิปข่าวของสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นที่เผยแพร่อยู่ขณะนี้ดูเหมือนว่าเหตุการณ์ระเบิดที่สะพานผ่านฟ้าลีลาศนั้นตำรวจขว้างระเบิดกันเอง ผอ.ศรส. กล่าวว่า ไม่มี ผู้ชุมนุม โยนไปแถวสองแล้วตำรวจก็เตะ ตนก็ได้ดูอยู่ มีตำรวจที่ไหนจะเอาระเบิดใส่ชาวบ้าน ตำรวจไม่สอนกันมาอย่างนั้น ตำรวจไม่คิดร้ายกับประชาชน ตนรู้เพราะเป็นตำรวจมาก่อน ส่วนที่จะเป็นมือที่สามหรือไม่นั้นดูยากเพราะคนเยอะ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้รายงานสถานการณ์การชุมนุมขณะนี้ต่อนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ผอ.ศรส. กล่าวว่า ไม่ได้รายงานเพราะมองว่าไม่มีอะไร ไม่รุนแรง ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ศรส. จะช่วยนายกรัฐมนตรีอย่างไร เพราะไปทำงานที่ไหนก็ถูกผู้ชุมนุมตามไปไล่ ผอ.ศรส. กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีมาทำงานที่นี่ได้เลย แต่ต้องอยู่ในดุลพินิจของนายกรัฐมนตรี ผู้ชุมนุมเข้ามาที่นี่ไม่ได้เพราะจะผิดกฎหมายฐานบุกรุก เป็นความผิดซึ่งหน้า วันนี้ผู้ชุมนุมมาน้อยกว่าตำรวจ ซึ่งตนได้สั่งตำรวจว่าอย่าไปทำอะไรผู้ชุมนุม
ปฏิทินสอบครู 17-24 มี.ค. ว่าง 1.7 พัน อัตรา
ก.ค.ศ.เคาะปฏิทินสอบครูผู้ช่วย 17-24 มี.ค.นี้ สอบครูผู้ช่วยอัตราว่าง 1,700 อัตรา ใน 40 วิชาเอก สาขาคณิตเปิดรับมากสุด
นายอภิชาติ จีระวุฒิ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้หารือร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) เพื่อกำหนดปฏิทินการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วยกรณีทั่วไป ครั้งที่ 1 ปี พ.ศ.2557 แล้วหลังจากที่ประชุม ก.ค.ศ.นัดที่ผ่านมาได้เห็นชอบการปรับปรุงหลักเกณฑ์และวิธีการสอบแข่งขัน และได้มอบให้ สพฐ.และ ก.ค.ศ.มากำหนดปฏิทินดังกล่าว มีรายละเอียดดังนี้ ประกาศรับสมัครสอบแข่งขัน 17-24 มีนาคม ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบแข่งขันภายในวันที่ 8 เมษายน ดำเนินการสอบแข่งขันภาค ก. ความรอบรู้ ความสามารถทั่วไป และความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับความประพฤติและการปฏิบัติของวิชาชีพครู วันที่ 19 เมษายน ภาค ข. ความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่ง วันที่ 20 เมษายน ประกาศรายชื่อผู้ทีสิทธิ์สอบภาค ค. หรือสอบสัมภาษณ์ ภายในวันที่ 24 เมษายน สอบภาค ค. ตั้งแต่วันที่ 27 เมษายน เป็นต้นไป และจะประกาศผลการสอบแข่งขันภายในวันที่ 2 พฤษภาคม โดย สพฐ.จะเสนอให้ที่ประชุม ก.ค.ศ.รับทราบต่อไป และคาดว่าไม่น่าจะมีการปรับเปลี่ยนอะไรอีก
เลขาธิการ กพฐ.กล่าวต่อว่า สำหรับเขตพื้นที่การศึกษาที่จะดำเนินการสอบแข่งขันครั้งนี้มีจำนวน 87 เขตพื้นที่การศึกษา และ 1 สำนักบริหารการศึกษาพิเศษ มีอัตราว่างที่สอบแข่งขันใน 40 วิชาเอก จำนวน 1,700 อัตรา แยกเป็นสาขาวิชาเอกดังนี้ ภาษาไทย 275 อัตรา คณิตศาสตร์ 364 อัตรา ภาษาอังกฤษ 189 อัตรา ภาษาจีน 45 อัตรา ภาษาเกาหลี 1 อัตรา ภาษาญี่ปุ่น 9 อัตรา ภาษาฝรั่งเศส 2 อัตรา วิทยาศาสตร์ 65 อัตรา วิทยาศาสตร์ทั่วไป 31 อัตรา ฟิสิกส์ 84 อัตรา เคมี 28 อัตรา ชีววิทยา 18 อัตรา สังคมศึกษา 94 อัตรา พลศึกษา 66 อัตรา สุขศึกษา 7 อัตรา ดนตรีศึกษา 29 อัตรา ดนตรีไทย 15 อัตรา ดนตรีสากล 21 อัตรา ดุริยางคศิลป์ 2 อัตรา ศิลปศึกษา 30 อัตรา ทัศนศิลป์ 5 อัตรา วิจิตรศิลป์ 1 อัตรา นาฏศิลป์ 38 อัตรา คอมพิวเตอร์ 52 อัตรา อุตสาหกรรมศิลป์ 6 อัตรา เกษตร 8 อัตรา คหกรรม 9 อัตรา ปฐมวัย/อนุบาลศึกษา 111 อัตรา ประถมศึกษา 46 อัตรา จิตวิทยาและการแนะแนว 11 อัตรา เทคโนโลยีทางการศึกษา 3 อัตรา บรรณารักษ์ 5 อัตรา การเงิน/บัญชี 10 อัตรา วัดผลและประเมินผลการศึกษา 2 อัตรา โสตทัศนศึกษา 1 อัตรา ธุรกิจ 1 อัตรา การศึกษาพิเศษ 4 อัตรา กิจกรรมบำบัด 4 อัตรา กายภาพบำบัด 4 อัตรา หูหนวกศึกษา 4 อัตรา
ทั้งนี้ สำหรับเขตพื้นที่การศึกษาที่เปิดสอบแข่งขันในครั้งนี้ อาทิ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) 6 ฉะเชิงเทรา จำนวน 131 อัตรา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) ระนอง 81 อัตรา สพป.ภูเก็ต 73 อัตรา สพม.2 กรุงเทพมหานคร จำนวน 65 อัตรา สพป.สมุทรสาคร 55 อัตรา สพป.สุราษฎร์ธานี เขต 3 จำนวน 50 อัตรา สพป.พังงา 49 อัตรา เป็นต้น.
ที่มา: http://www.thaipost.net
สพฐ.เตรียมประกาศปฏิทินสอบครูผู้ช่วยทั่วไป ปี 57 รอแค่เสนอ ก.ค.ศ.อนุมัติ
วันนี้(12ก.พ.)นายอภิชาติ จีระวุฒิ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กพฐ.) เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ได้เห็นชอบการปรับปรุงหลักเกณฑ์และวิธีการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย กรณีทั่วไป ครั้ง ที่ 1 ปี 2557 นั้น ขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้หารือร่วมกับสำนักงาน ก.ค.ศ.กำหนดปฏิทินการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งฯเรียบร้อยแล้ว โดยมีรายละเอียดดังนี้
ประกาศการสอบแข่งขัน วันที่ 10 -16 มี.ค.57
รับสมัคร วันที่ 17-24 มี.ค.57
ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบภายในวันที่ 8 เม.ย.57
ดำเนินการสอบแข่งขัน ภาค ก ความรอบรู้ ความสามารถทั่วไปและความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับความประพฤติและการปฏิบัติของ วิชาชีพครู วันที่ 19 เม.ย.57
ภาค ข ความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่ง วันที่ 20 เม.ย.57
ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบภาค ค หรือ สอบสัมภาษณ์ ภายในวันที่ 24 เม.ย.57
สอบภาค ค ตั้งแต่วันที่ 27 เม.ย.57 เป็นต้นไป
และ ประกาศผลการสอบแข่งขันภายในวันที่ 2 พ.ค.57
ทั้งนี้ สพฐ.จะเสนอปฏิทินดังกล่าวให้ที่ประชุมก.ค.ศ.รับทราบต่อไป
ขอขอบคุณข่าวสาร/ข้อมูลดีๆ จากเว็บไซต์หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
... เน็ตช้า คลิ๊กที่ http://tuewsob.blogspot.com
... ห้องวิชาเอกครู คลิ๊กที่ http://uewsob2011.blogspot.com
... (เว็บฟรี..ข้อสอบออนไลน์) ..สอบครู..สอบผู้บริหาร..สอบบุค ลากร ที่
"ติวสอบดอทคอม " เขียน สร้างโดย (ผอ.นิกร เพ็งลี)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น