ข้อสอบออนไลน์ (สอบครู-ผู้บริหาร-บุคลากรการศึกษา) ชุดใหม่ล่าสุด
ติวสอบออนไลน์ ชุด สรุปย่อ ความรอบรู้ทั่วไป
ลิงค์ข้อสอบ ที่เกี่ยวข้องกับ "นโยบายรัฐบาล" โดย ติวสอบดอทคอม
http://tuewsob.blogspot.com/2013/11/blog-post_4.html
http://www.tuewsob.com/rr164.html
http://www.tuewsob.com/rr%20157%20pu%201.html
http://tuewsob.blogspot.com/2013/10/132556.html
http://tuewsob.blogspot.com/2013/10/blog-post_31.html
http://www.tuewsob.com/rr164.html
http://www.tuewsob.com/rr%20157%20pu%201.html
http://tuewsob.blogspot.com/2013/10/132556.html
http://tuewsob.blogspot.com/2013/10/blog-post_31.html
สรุปข่าวการประชุมคณะรัฐมนตรี 25 กุมภาพันธ์ 2557
วันนี้ (25กุมภาพันธ์ 2557) เมื่อเวลา 09.00 น. ณ กองบัญชาการกองทัพอากาศ
(บก.ทอ.) ดอนเมือง กรุงเทพฯ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีซึ่งผลการประชุมสรุปสาระสำคัญ
ดังนี้
1. เรื่อง ขอรับการจัดสรรงบกลางให้แก่การกีฬาแห่งประเทศไทย
เพื่อนำมา สนับสนุนเป็นเงินรางวัลตามวัตถุประสงค์ของกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่ง ประเทศไทย
2. เรื่อง รายงานความก้าวหน้าโครงการสำคัญ (Flagship
Project) ของกระทรวง เกษตรและสหกรณ์
3.
เรื่อง การลงนามบันทึกความเข้าใจเพื่อจัดตั้งคณะกรรมการอุตสาหกรรม วัฒนธรรม
BIMSTEC และศูนย์ปฏิบัติการอุตสาหกรรมวัฒนธรรม BIMSTEC
4. เรื่อง การลงนามความตกลง Memorandum of
Association among the Bay of Bengal initiative for
Multi-Sectoral Technological and Economic
Cooperation (BIMSTEC) Member
Countries Concerning
Establishment of a BIMSTEC Centre for Weather and Climate
*****************************************************
เอกสารชุดนี้เป็นเอกสารข่าวสรุปผลการประชุมคณะรัฐมนตรีเท่านั้น
สำหรับมติคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการกรุณาตรวจสอบที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี
โทร . 0 2280-9000ต่อ 268 หรือ 436
สำนักโฆษกขอเชิญติดตามการถ่ายทอดสดการแถลงข่าวผลการประชุมคณะรัฐมนตรี
ทุกวันอังคาร หรือวันที่มีการประชุม
ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย ทาง F.M. 92.5
ในเขตกรุงเทพมหานคร ส่วนต่างจังหวัด
รับฟังได้ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยประจำจังหวัด
สำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โทร. 0 2288-4396
*****************************************************
1. เรื่องขอรับการจัดสรรงบกลางให้แก่การกีฬาแห่งประเทศไทย
เพื่อนำมาสนับสนุนเป็นเงินรางวัลตามวัตถุประสงค์ของกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งประเทศไทย
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ที่กระทรวงการคลัง
(กค.) ได้อนุมัติให้กันเงินไว้เบิกเหลื่อมปีแล้ว จำนวน 84,078,000 บาท สมทบให้แก่การกีฬาแห่งประเทศไทย
(กกท.)เพื่อสนับสนุนเป็นเงินรางวัลตามวัตถุประสงค์ของกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติให้กับนักกีฬา
ผู้ฝึกสอน และสมาคมที่ได้รับเหรียญรางวัลจากการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 27 แข่งขันระหว่างวันที่ 11–22 ธันวาคม 2556 ณ
สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ (สงป.)
2. เรื่อง รายงานความก้าวหน้าโครงการสำคัญ (Flagship
Project) ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
คณะรัฐมนตรีรับทราบรายงานความก้าวหน้าโครงการสำคัญ (Flagship
Project) ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.)
ตามที่ กษ. เสนอ
สาระสำคัญของเรื่อง
กษ. รายงานว่า
1. รัฐบาลได้กำหนดนโยบายการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ประเทศ (Country
Strategy) โดยให้กระทรวงต่าง ๆ จัดทำโครงการสำคัญ (Flagship
Project) ที่จะดำเนินการระหว่างปีงบประมาณ 2556-2561 จำนวนไม่เกิน 10โครงการ
เพื่อให้การบูรณาการภายใต้กรอบยุทธศาสตร์ประเทศเกิดความชัดเจนนำไปสู่การปฏิบัติได้อย่างเป็นรูปธรรม
และตอบสนองต่อเป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ของประเทศใน 4 ด้าน คือ การเพิ่มรายได้จากฐานเดิม สร้างรายได้จากโอกาสใหม่
เพิ่มประสิทธิภาพในการแข่งขันและลดรายจ่าย
2. กษ. ได้จัดทำโครงการสำคัญเพื่อตอบสนองต่อเป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์
จำนวน 8 โครงการ ดังนี้
1) โครงการบริหารจัดการเขตเกษตรเศรษฐกิจสำหรับสินค้าเกษตรที่สำคัญ (Zoning) มีเป้าหมายที่จะเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต
ลดต้นทุน จัดสมดุลระหว่างการผลิตและการตลาด รวมทั้งเพิ่มมูลค่า (Value
Added) และสร้างมูลค่า (Value Creation)
ด้วยการบริหารจัดการพื้นที่ ชนิดสินค้า และคน
2) โครงการเมืองเกษตรสีเขียว (Green Agricultural City) มีเป้าหมายที่จะพัฒนาการเกษตรให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
และนำขยะจากการเกษตรแปรรูปไปใช้ให้เกิดคุณค่าและมูลค่า
โดยจัดให้แต่ละจังหวัดพัฒนาการเกษตรในพื้นที่เป็นเมือง และสังคมเกษตรสีเขียว
3) โครงการพัฒนาเกษตรกรและเจ้าหน้าที่เกษตรปราดเปรื่อง (Smart
Farmer and Smart Officer) มีเป้าหมายที่จะพัฒนาเกษตรกรให้รู้จักคิดเป็น
โดยต้องมีความรู้ทางวิชาการ วางแผนการผลิตเป็น ใช้เทคโนโลยีช่วยในการผลิต
ผลิตสินค้ามีคุณภาพปลอดภัยต่อผู้บริโภค รับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม
และใช้หลักการตลาดนำการผลิตโดยมีเจ้าหน้าที่ กษ. เป็นเพื่อนคู่คิด
ทั้งนี้ ต้องการพัฒนาเกษตรกรเฉพาะรายให้มีรายได้เท่ากับค่าแรงขั้นต่ำเป็นอย่างน้อย
(180,000) บาทต่อปี
4) โครงการพัฒนาสินค้าเกษตรสู่มาตรฐาน (Food Safety) มีเป้าหมายให้อาหารที่ผลิตจากเกษตรกรเพื่อการบริโภคภายในและส่งออกเป็นอาหารที่มีคุณภาพและความปลอดภัยต่อผู้บริโภคซึ่งทำให้คนไทยและนักท่องเที่ยวที่มาประเทศไทยมีความมั่นใจจากอาหารที่ไม่มีสารเคมีตกค้างไม่มีเชื้อโรคทั้งในพืช
ประมง ปศุสัตว์ รวมทั้งสินค้าเกษตรมีมาตรฐานได้รับการยอมรับ
ทำให้สามารถส่งออกอาหารและสินค้าเกษตรเป็นมูลค่ากว่าปีละ 1 ล้านล้านบาท
5) โครงการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน มีเป้าหมายเพื่อกำหนดยุทธศาสตร์ของประเทศด้านการเกษตรในสินค้าแต่ละชนิดเพื่อเป็นผู้นำ
ผู้ร่วมทุน หรือผู้รับสินค้าจากประเทศอาเซียนในปี 2558
6) โครงการพัฒนาให้เป็นศูนย์กลางการผลิตเมล็ดพันธุ์พืชรองรับประชาคมอาเซียน
(Seed Hub) มีเป้าหมายผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางผลิตเมล็ดพันธุ์พืช
พันธุ์สัตว์ของภูมิภาคอาเซียน ซึ่งไทยมีการส่งออกเมล็ดพันธุ์พืชมากกว่า 20 ชนิด มูลค่ากว่า 4,000 ล้านบาทต่อปี
ส่งออกพันธุ์ปศุสัตว์ปีละกว่า 5,200 ล้านบาท
รวมทั้งมีการผลิตพันธุ์ข้าวคุณภาพดีปีละมากกว่า 1.4
7. โครงการส่งเสริมการใช้เครื่องจักรกลการเกษตรทดแทนแรงงานเกษตร มีเป้าหมายที่จะส่งเสริมการใช้เครื่องจักรกลการเกษตรทดแทนแรงงานภาคเกษตรที่กำลังขาดแคลนและเป็นศูนย์กลางการผลิตและจำหน่ายเครื่องจักรกลการเกษตรในอาเซียน
8. โครงการเพิ่มพื้นที่ชลประทาน มีเป้าหมายบริหารจัดการการน้ำ
เพื่อการชลประทานให้เกิดประโยชน์สูงสุด และเพิ่มพื้นที่ชลประทานให้ครบ 60 ล้านไร่ โดยเฉพาะในเขต Zoning
3. เรื่อง
การลงนามบันทึกความเข้าใจเพื่อจัดตั้งคณะกรรมการอุตสาหกรรมวัฒนธรรม BIMSTEC
และศูนย์ปฏิบัติการอุตสาหกรรมวัฒนธรรม BIMSTEC
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงวัฒนธรรม
(วธ.) เสนอ ดังนี้
1.
อนุมัติเพิ่มเติมมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2555 (เรื่อง การลงนามบันทึก
ความเข้าใจเพื่อจัดตั้งคณะกรรมการอุตสาหกรรมวัฒนธรรม
BIMSTEC และศูนย์ปฏิบัติการอุตสาหกรรมวัฒนธรรม
BIMSTEC)จากเดิม
“เห็นชอบให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเป็นผู้ลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการจัดตั้งคณะกรรมการอุตสาหกรรมวัฒนธรรม
BIMSTEC
และศูนย์ปฏิบัติการอุตสาหกรรมวัฒนธรรม BIMSTEC” เป็น
“อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศหรือผู้แทนเป็นผู้ลงนามร่างบันทึกความเข้าใจเพื่อจัดตั้งคณะกรรมการอุตสาหกรรมวัฒนธรรม
BIMSTECและศูนย์ปฏิบัติการอุตสาหกรรมวัฒนธรรม BIMSTEC”
2.
ในกรณีที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศหรือผู้แทนเป็นผู้ลงนามในบันทึก
ความเข้าใจดังกล่าว
ให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers)
ให้ผู้แทนที่ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสำหรับการลงนามบันทึกความเข้าใจดังกล่าวด้วย
4. เรื่อง การลงนามความตกลง Memorandum of
Association among the Bay of Bengal initiative for Multi-Sectoral Technological
and Economic Cooperation (BIMSTEC) Member
Countries Concerning Establishment of a BIMSTEC Centre for Weather and Climate
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
โดยกรมอุตุนิยมวิทยา เสนอ ดังนี้
1. เพิ่มเติมมติคณะรัฐมนตรีเดิมเป็นอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศหรือผู้แทนเป็นผู้ลงนามใน MOA เพื่อจัดตั้งBCWC ซึ่งจะมีความยืดหยุ่นสำหรับรัฐมนตรีว่าการกระทรวง
การต่างประเทศที่จะพิจารณามอบหมายบุคคลหนึ่งบุคคลใดก็ได้เป็นผู้ลงนาม MOA ดังกล่าว
2. ในกรณีที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศมอบหมายผู้แทนเป็นผู้ลงนาม MOA ดังกล่าว ให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full
Powers)
ให้ผู้แทนที่ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สำหรับการลงนาม MOA ดังกล่าวด้วย
……………………………………….
ที่มา: เว็บรัฐบาลไทย
ปฏิทินสอบครู 17-24 มี.ค. ว่าง 1.7 พัน อัตรา
ก.ค.ศ.เคาะปฏิทินสอบครูผู้ช่วย 17-24 มี.ค.นี้ สอบครูผู้ช่วยอัตราว่าง 1,700 อัตรา ใน 40 วิชาเอก สาขาคณิตเปิดรับมากสุด
นายอภิชาติ จีระวุฒิ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้หารือร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) เพื่อกำหนดปฏิทินการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วยกรณีทั่วไป ครั้งที่ 1 ปี พ.ศ.2557 แล้วหลังจากที่ประชุม ก.ค.ศ.นัดที่ผ่านมาได้เห็นชอบการปรับปรุงหลักเกณฑ์และวิธีการสอบแข่งขัน และได้มอบให้ สพฐ.และ ก.ค.ศ.มากำหนดปฏิทินดังกล่าว มีรายละเอียดดังนี้ ประกาศรับสมัครสอบแข่งขัน 17-24 มีนาคม ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบแข่งขันภายในวันที่ 8 เมษายน ดำเนินการสอบแข่งขันภาค ก. ความรอบรู้ ความสามารถทั่วไป และความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับความประพฤติและการปฏิบัติของวิชาชีพครู วันที่ 19 เมษายน ภาค ข. ความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่ง วันที่ 20 เมษายน ประกาศรายชื่อผู้ทีสิทธิ์สอบภาค ค. หรือสอบสัมภาษณ์ ภายในวันที่ 24 เมษายน สอบภาค ค. ตั้งแต่วันที่ 27 เมษายน เป็นต้นไป และจะประกาศผลการสอบแข่งขันภายในวันที่ 2 พฤษภาคม โดย สพฐ.จะเสนอให้ที่ประชุม ก.ค.ศ.รับทราบต่อไป และคาดว่าไม่น่าจะมีการปรับเปลี่ยนอะไรอีก
เลขาธิการ กพฐ.กล่าวต่อว่า สำหรับเขตพื้นที่การศึกษาที่จะดำเนินการสอบแข่งขันครั้งนี้มีจำนวน 87 เขตพื้นที่การศึกษา และ 1 สำนักบริหารการศึกษาพิเศษ มีอัตราว่างที่สอบแข่งขันใน 40 วิชาเอก จำนวน 1,700 อัตรา แยกเป็นสาขาวิชาเอกดังนี้ ภาษาไทย 275 อัตรา คณิตศาสตร์ 364 อัตรา ภาษาอังกฤษ 189 อัตรา ภาษาจีน 45 อัตรา ภาษาเกาหลี 1 อัตรา ภาษาญี่ปุ่น 9 อัตรา ภาษาฝรั่งเศส 2 อัตรา วิทยาศาสตร์ 65 อัตรา วิทยาศาสตร์ทั่วไป 31 อัตรา ฟิสิกส์ 84 อัตรา เคมี 28 อัตรา ชีววิทยา 18 อัตรา สังคมศึกษา 94 อัตรา พลศึกษา 66 อัตรา สุขศึกษา 7 อัตรา ดนตรีศึกษา 29 อัตรา ดนตรีไทย 15 อัตรา ดนตรีสากล 21 อัตรา ดุริยางคศิลป์ 2 อัตรา ศิลปศึกษา 30 อัตรา ทัศนศิลป์ 5 อัตรา วิจิตรศิลป์ 1 อัตรา นาฏศิลป์ 38 อัตรา คอมพิวเตอร์ 52 อัตรา อุตสาหกรรมศิลป์ 6 อัตรา เกษตร 8 อัตรา คหกรรม 9 อัตรา ปฐมวัย/อนุบาลศึกษา 111 อัตรา ประถมศึกษา 46 อัตรา จิตวิทยาและการแนะแนว 11 อัตรา เทคโนโลยีทางการศึกษา 3 อัตรา บรรณารักษ์ 5 อัตรา การเงิน/บัญชี 10 อัตรา วัดผลและประเมินผลการศึกษา 2 อัตรา โสตทัศนศึกษา 1 อัตรา ธุรกิจ 1 อัตรา การศึกษาพิเศษ 4 อัตรา กิจกรรมบำบัด 4 อัตรา กายภาพบำบัด 4 อัตรา หูหนวกศึกษา 4 อัตรา
ทั้งนี้ สำหรับเขตพื้นที่การศึกษาที่เปิดสอบแข่งขันในครั้งนี้ อาทิ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) 6 ฉะเชิงเทรา จำนวน 131 อัตรา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) ระนอง 81 อัตรา สพป.ภูเก็ต 73 อัตรา สพม.2 กรุงเทพมหานคร จำนวน 65 อัตรา สพป.สมุทรสาคร 55 อัตรา สพป.สุราษฎร์ธานี เขต 3 จำนวน 50 อัตรา สพป.พังงา 49 อัตรา เป็นต้น.
ที่มา: http://www.thaipost.net
สพฐ.เตรียมประกาศปฏิทินสอบครูผู้ช่วยทั่วไป ปี 57 รอแค่เสนอ ก.ค.ศ.อนุมัติ
วันนี้(12ก.พ.)นายอภิชาติ จีระวุฒิ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กพฐ.) เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ได้เห็นชอบการปรับปรุงหลักเกณฑ์และวิธีการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย กรณีทั่วไป ครั้ง ที่ 1 ปี 2557 นั้น ขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้หารือร่วมกับสำนักงาน ก.ค.ศ.กำหนดปฏิทินการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งฯเรียบร้อยแล้ว โดยมีรายละเอียดดังนี้
ประกาศการสอบแข่งขัน วันที่ 10 -16 มี.ค.57
รับสมัคร วันที่ 17-24 มี.ค.57
ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบภายในวันที่ 8 เม.ย.57
ดำเนินการสอบแข่งขัน ภาค ก ความรอบรู้ ความสามารถทั่วไปและความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับความประพฤติและการปฏิบัติของ วิชาชีพครู วันที่ 19 เม.ย.57
ภาค ข ความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่ง วันที่ 20 เม.ย.57
ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบภาค ค หรือ สอบสัมภาษณ์ ภายในวันที่ 24 เม.ย.57
สอบภาค ค ตั้งแต่วันที่ 27 เม.ย.57 เป็นต้นไป
และ ประกาศผลการสอบแข่งขันภายในวันที่ 2 พ.ค.57
ทั้งนี้ สพฐ.จะเสนอปฏิทินดังกล่าวให้ที่ประชุมก.ค.ศ.รับทราบต่อไป
ขอขอบคุณข่าวสาร/ข้อมูลดีๆ จากเว็บไซต์หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
... เน็ตช้า คลิ๊กที่ http://tuewsob.blogspot.com
... ห้องวิชาเอกครู คลิ๊กที่ http://uewsob2011.blogspot.com
... (ห้องข้อสอบใหม่) ..สอบครู..สอบผู้บริหาร..สอบบุค ลากร ที่
"ติวสอบดอทคอม " เขียนและสร้าง โดย (ผอ.นิกร เพ็งลี)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น