tuewsob.com (ติวสอบดอทคอม) โดย อ.นิกร: ตั้งศูนย์เรียนรู้สกัดน้ำมันจากสมุนไพร

วันจันทร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ตั้งศูนย์เรียนรู้สกัดน้ำมันจากสมุนไพร

ข้อสอบออนไลน์ (สอบครู-ผู้บริหาร-บุคลากรการศึกษา) ชุดใหม่ล่าสุด

รอบรู้ ชุด 255 ศัพท์อาเซียน ศัพท์ไทย อักษรย่อ ชอบออกข้อสอบ

ติวสอบออนไลน์ ชุด สรุปย่อ ความรอบรู้ทั่วไป

ลิงค์ข้อสอบ ที่เกี่ยวข้องกับ "นโยบายรัฐบาล" โดย ติวสอบดอทคอม

http://tuewsob.blogspot.com/2013/11/blog-post_4.html
http://www.tuewsob.com/rr164.html
http://www.tuewsob.com/rr%20157%20pu%201.html
http://tuewsob.blogspot.com/2013/10/132556.html
http://tuewsob.blogspot.com/2013/10/blog-post_31.html

( คลิ๊ก ) สมัครติวสอบครูผู้ช่วย ปี 2557 กรณีปกติ + พิเศษ (20 จุด) ที่

https://docs.google.com/spreadsheet/viewform?formkey=dC05aEZmLTBrWUlWSno4ODNIRlRIa2c6MA

ตั้งศูนย์เรียนรู้สกัดน้ำมันจากสมุนไพร

ในปี พ.ศ.2554 จังหวัดพะเยา มีสถิติการติดเชื้อไข้เลือดออกสูงสุดในประเทศไทย มหาวิทยาลัยพะเยา ตระหนักถึงความจำเป็นในการร่วมมือในการแก้ปัญหาของชุมชน โดยในช่วงที่มีการระบาดหนักจังหวัดพะเยาและจังหวัดอื่น ๆในประเทศไทย ได้ส่งเสริมการใช้น้ำมันตะไคร้หอมไล่ยุง ซึ่งพบว่าปลอดภัยกว่าการใช้สารเคมี นอกจากนี้ยังได้พยายามหาสมุนไพรเพื่อใช้ทดแทนทรายอะเบทที่ใช้ผสมลงในน้ำเพื่อกำจัดลูกน้ำยุงลาย ป้องกันการแพร่ระบาดของไข้เลือดออกอีกทางหนึ่ง

คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยพะเยา สนใจงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการใช้สมุนไพรทดแทนสารเคมี นำโดย ดร.มาลีรักษ์ อัตต์สินทอง ซึ่งได้ศึกษาค้นคว้าพบว่าน้ำมันที่สกัดได้จาก มะแขว่น สามารถใช้ทำลายลูกน้ำยุงลายได้ จึง มีแนวคิดในการนำน้ำมันที่สกัดได้จากมะแขว่น มาใช้แทนทรายอะเบท ซึ่งสำนักงานสาธารณสุขใช้ผสมในน้ำขังเพื่อกำจัดลูกน้ำยุงลาย นอกจาก นี้ อาจารย์ปิยนุช ผิวชัย คณะเภสัชศาสตร์ ยังได้ศึกษาการสกัดน้ำมันจากตะไคร้หอมนำมาใช้ไล่ยุงและนำมาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ไล่ยุงในรูปแบบ ต่าง ๆ อีกด้วย

เนื่องจากมะแขว่นและตะไคร้หอมเป็นพืชสมุนไพรที่พบมากในจังหวัดพะเยา มหา วิทยาลัยพะเยา จึงมีแนวคิดในการจัดตั้งศูนย์ เรียนรู้การสกัดน้ำมันหอมระเหยจากพืชสมุนไพรภายในชุมชนขึ้น เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้การสกัดน้ำมันหอมระเหยและยังเป็นการสนับสนุนการใช้สมุนไพรทดแทนสารเคมี โดยศูนย์ฯ แห่งแรก จัดตั้งขึ้นที่ "ไร่ชาวดิน" อ.เมือง จ.พะเยา ตั้งเป้าจะขยายศูนย์ให้ได้ 3 แห่งภายใน 5 ปี และแต่ละ ศูนย์ฯจะต้องสามารถสร้างรายได้ให้กับชุมชนและสามารถพึ่งพาตนเองได้ในอนาคต เพื่อให้สอด คล้องกับปณิธานของมหาวิทยาลัยที่ว่า ปัญญาเพื่อความเข้มแข็งของชุมชน

ศูนย์ฯ แห่งแรกดำเนินการมากว่า 1 ปีแล้ว เบื้องต้นมหาวิทยาลัยสนับสนุนให้ชุมชนสกัดน้ำมันหอมระเหยจากพืชสมุนไพร 4 ชนิด ประกอบด้วย ตะไคร้ มะแขว่น สะระแหน่หรือมิ้นต์ และไพล เนื่องจากพบว่าพืชสมุนไพรทั้ง 4 ชนิดนี้มีความต้องการในตลาดสูงโดยสามารถนำไปประกอบในผลิตภัณฑ์ด้านเวชภัณฑ์ได้หลากหลายชนิด

ขณะเดียวกันในเชิงเศรษฐกิจ หากเปรียบเทียบจากต้นทุนแล้วพบว่าการสกัดน้ำมันหอมระเหยจากพืชสมุนไพรดังกล่าว จะมีกำไรโดยเฉลี่ย 3 เท่าจากการลงทุน แต่เนื่องจากเครื่องสกัดน้ำมันหอมระเหย ณ ศูนย์การเรียนรู้ฯ ยังเป็นขนาดที่ใช้สำหรับงานวิจัยจึงให้ผลผลิตต่อวันในปริมาณไม่มากนัก โดยสกัดพืชสมุนไพรได้เพียง 30 กิโลกรัมต่อหนึ่งรอบ รอบละ 4 ชั่วโมง และได้น้ำมันหอมระเหยรอบละ 200-500 ซีซี ปริมาณน้ำมันที่สกัดออกมาได้ขึ้นอยู่กับชนิดของสมุนไพร ดังนั้น ผลผลิตที่ได้จึงยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาดในพื้นที่ ขณะที่เกษตรกรในชุมชนได้ให้ความสนใจที่จะผลิตเพื่อการพาณิชย์ มหาวิทยาลัยจึงเป็นสถาบันที่จะให้การสนับสนุนทางด้านวิชาการในทุกด้าน โดยภายหลังศูนย์การเรียนรู้แห่งแรกเข้มแข็งแล้วจะขยายองค์ความรู้ไปยังพื้นที่ อื่น ๆ ในจังหวัดพะเยาต่อไป

ด้านนายดุสิต อภิจิต เจ้าของไร่ชาวดิน อ.เมือง จ.พะเยา หนึ่งในเกษตรกรที่สนใจในการสกัดน้ำมันจากพืชสมุนไพร และเป็นผู้เข้าร่วมโครงการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ฯ กล่าวว่า น้ำมัน จากพืชสมุนไพรยังมีความต้องการในตลาดสูง เนื่องจากปัจจุบันผู้บริโภคห่วงใยสุขภาพของตนเองโดยหันมานิยมใช้สารชีวภาพทดแทนสารเคมีมากขึ้น และการสกัดน้ำมันจากพืชสมุนไพรยังเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าทางการเกษตรอีกทางหนึ่ง สำหรับตนเองมองว่าตลาดตรงนี้ยังไปได้อีกไกล จึงมองหาเครื่องสกัดที่มีขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อให้สามารถสกัดน้ำมันจากพืชสมุนไพรได้ในปริมาณที่มากพอต่อความต้องการของตลาด ส่วนพืชสมุนไพรที่จะนำมาเป็นวัตถุดิบในการผลิตน้ำมัน สามารถรับซื้อจากเกษตรกรในพื้นที่ได้ คาดว่าจะสามารถขยายกำลังการผลิตเพื่อการพาณิชย์ได้ในเร็ว ๆ นี้

เจ้าของไร่ชาวดิน กล่าวในตอนท้ายว่า น้ำมันจากตะไคร้หอม ผลมะแขว่น มิ้นต์ และไพล น้ำมันจากสมุนไพรเหล่านี้สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้มาก ทั้งยังสามารถขายเป็นน้ำมันบริสุทธิ์ให้แก่แหล่งรับซื้อได้หลายแหล่ง สร้างรายได้พื้นฐานแก่เกษตรกรและเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับพืชสมุนไพรอีกทางหนึ่ง ขณะเดียวกันศูนย์การเรียนรู้ฯแห่งนี้ ยังทำหน้าที่เป็นแหล่งฝึกงานของนิสิตและชุมชนที่สนใจอีกด้วย โดยผู้ที่สนใจสามารถติดต่อเข้ามาศึกษาเรียนรู้ได้ ที่ โทร. 0-5446-6666 ต่อ 3187.

--เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 5 ก.พ. 2557 (กรอบบ่าย)--

ที่มา ; เว็บกระทรวงศึกษาธิการ