อ่านชัด-อ่านครบ กด ดูเวอร์ชั่นสำหรับเว็บ (ด้านล่าง)
เรื่องใหม่น่าสนใจ (ทั้งหมด ที่ )
(เนื้อหา-ข้อสอบ 1,000 ชุุด หมื่นข้อ ภาค กข
+ 40 วิชาเอก) ที่ ห้องสอบด้านขวา หรือ
เว็บฟรีข้อสอบ 1,000 ชุด ที่ ติวสอบดอทคอม คลิ๊ก www.tuewsob.com
-กำหนดการสอบครูผู้ช่วย กรณีพิเศษ และ ปกติ ปี 2560
-คู่มือ 4 ชุด นโยบาย บริบริหาร ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้
( คลิ๊ก ) สมัครพัฒนาความรู้
( คลิ๊ก ) สมัครพัฒนาความรู้
ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี 102/2560
มติ ครม. 28 กุมภาพันธ์ 2560
ผลการประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันอังคารที่ 28 กุมภาพันธ์ 2560 ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงศึกษาธิการ คือ พิจารณาการเสนอขอตั้งกรมการฝึกหัดครู, อนุมัติร่างแก้ไขกฎหมายว่าด้วยการดำเนินการทางวินัยแก่ผู้ที่พ้นจากราชการ, อนุมัติการจัดทำเอกสารโครงการแลกเปลี่ยนด้านการศึกษาและวิทยาศาสตร์กับฮังการี, อนุมัติร่างพระราชบัญญัติราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ และ อนุมัติแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ
● เรื่องที่นายกรัฐมนตรีสั่งการในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี
ดร.กมล รอดคล้าย เลขาธิการสภาการศึกษา ในฐานะโฆษกกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ในการประชุมผู้บริหารองค์กรหลัก เมื่อบ่ายวันอังคารที่ 28 กุมภาพันธ์นั้น รมว.ศึกษาธิการ ได้แจ้งเรื่องการประชุมคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงศึกษาธิการว่า นายกรัฐมนตรีมีดำริให้กระทรวงศึกษาธิการทบทวนในเรื่องของกรมการฝึกหัดครู ซึ่งในอดีตดำเนินการได้ดีมาก สามารถผลิตครูที่ดีและมีคุณภาพ
กระทรวงศึกษาธิการ จึงมอบให้สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) หารือร่วมกับสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา เพื่อพิจารณาการเสนอขอตั้งกรมการฝึกหัดครูขึ้นมาใหม่ ตลอดจนความเป็นไปได้ของการให้มีหน่วยงานรับผิดชอบโดยตรง ซึ่งปัจจุบันกระทรวงศึกษาธิการมีหลักสูตรการศึกษาเพื่อพัฒนาท้องถิ่น ซึ่งคล้ายคลึงกับหลักสูตรการฝึกหัดครูอยู่แล้ว และสอดคล้องกับการจัดสรรงบประมาณปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 ในส่วนของกระทรวงศึกษาธิการจะมีงบประมาณในส่วนของการพัฒนาครูในรูปแบบ Block Grant (งบประมาณวงเงินรวม) เพื่อให้เกิดความยืดหยุ่นในการจัดสรรงบประมาณให้ครูนำไปใช้พัฒนาตนเองต่อไป
นอกจากนี้ รัฐบาลจะได้ประกาศพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560ซึ่งเป็น พ.ร.บ.ฉบับใหม่แทนระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุที่ใช้กันมานาน ซึ่งจะมีความเข้มงวดและมีขั้นตอนยุ่งยากมากขึ้น แต่จะก่อให้เกิดความโปร่งใสสูง สามารถตรวจสอบได้ทุกระดับ ทั้งนี้คาดว่าจะมีผลบังคับภายในเดือนสิงหาคม 2560
รมว.ศึกษาธิการ จึงขอให้ทุกหน่วยงานศึกษาและทำความเข้าใจในรายละเอียด พร้อมมอบปลัดกระทรวงศึกษาธิการจัดประชุมชี้แจงทำความเข้าใจกับข้าราชการ ครู และบุคลากรทางการศึกษา รวมทั้งผู้ปฏิบัติงานด้านการจัดซื้อจัดจ้างทั้งหมดด้วย
● อนุมัติร่างแก้ไขกฎหมายว่าด้วยการดำเนินการทางวินัยแก่ผู้ที่พ้นจากราชการ
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติ จำนวน 5 ฉบับ ประกอบด้วย
1. ร่างพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... 2. ร่างพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการรัฐสภา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... 3. ร่างพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ฉบับที่ ..)
พ.ศ. .... 4. ร่างพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... 5. ร่างพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการ
พลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่สำนักงาน ก.พ. เสนอ
สาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติ จำนวน 5 ฉบับ เป็นการแก้ไขหลักเกณฑ์การดำเนินการทางวินัยอย่างร้ายแรงกับข้าราชการพลเรือน ข้าราชการรัฐสภา ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ข้าราชการตำรวจ และข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา โดยหน่วยงานต้นสังกัดสามารถดำเนินการทางวินัยกับข้าราชการในสังกัดที่พ้นจากราชการไปแล้วก็ได้ หากความผิดอันเป็นมูลเหตุแห่งการกล่าวหาว่ากระทำความผิดวินัยอย่างร้ายแรงนั้นเกิดขึ้นระหว่างที่ผู้ถูกกล่าวหามีสภาพเป็นข้าราชการ แต่ได้กำหนดเงื่อนเวลาให้ผู้มีอำนาจดำเนินการทางวินัยต้องเริ่มดำเนินการทางวินัยอย่างร้ายแรงภายใน 1 ปี นับแต่วันที่ผู้นั้นพ้นจากราชการ และกรณีที่จะสั่งลงโทษต้องดำเนินการภายใน 3 ปี นับแต่วันที่ผู้นั้นพ้นจากราชการ
นอกจากนี้ ยังเป็นการกำหนดกรณีการดำเนินการทางวินัยตามที่องค์กรตรวจสอบการทุจริต ซึ่งได้แก่ คณะกรรมการ ป.ป.ช. หรือคณะกรรมการ ป.ป.ท. มีมติชี้มูลความผิดให้สามารถดำเนินการทางวินัยและสั่งลงโทษตามที่มีมติชี้มูลความผิดได้ แม้ผู้นั้นจะพ้นจากราชการไปแล้ว โดยไม่นำเงื่อนเวลาในการสอบสวนและเงื่อนไขการสั่งลงโทษดังกล่าวมาใช้บังคับ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ข้าราชการประเภทต่าง ๆ และเพื่อให้การชี้มูลความผิดวินัยขององค์กรตรวจสอบการทุจริตสามารถลงโทษทางวินัยแก่ข้าราชการตามที่ชี้มูลได้
● อนุมัติการจัดทำเอกสารโครงการแลกเปลี่ยนด้านการศึกษาและวิทยาศาสตร์กับฮังการี
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติ การจัดทำและลงนามเอกสารโครงการแลกเปลี่ยนด้านการศึกษาและวิทยาศาสตร์ ระหว่างกระทรวงศึกษาธิการแห่งราชอาณาจักรไทยและกระทรวงศักยภาพมนุษย์แห่งประเทศฮังการี สำหรับปี ค.ศ. 2017-2018 ทั้งนี้ หากก่อนลงนามมีความจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขความตกลงดังกล่าวในส่วนที่มิใช่สาระสำคัญ ให้ ศธ.หารือกับกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) เพื่อพิจารณาดำเนินการในเรื่องนั้น ๆ โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้ง ทั้งนี้ ได้ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเป็นผู้ลงนาม ในเอกสารดังกล่าว
สาระสำคัญของโครงการแลกเปลี่ยนดังกล่าวเน้นการแลกเปลี่ยนนักศึกษาและบุคลากรระหว่างสถาบันอุดมศึกษา และบุคลากร/นักวิจัยด้านวิทยาศาสตร์ โดยฝ่ายฮังการีเสนอให้ทั้งสองประเทศแลกเปลี่ยนทุนการศึกษาระหว่างกัน ซึ่งฝ่ายฮังการีเสนอให้ทุนระดับปริญญาตรีและปริญญาโทแก่ประเทศไทย จำนวน 40 ทุน ในสาขาต่าง ๆ เช่น สาขาวิทยาศาสตร์การเกษตร สาขาการแพทย์และสาธารณสุขศาสตร์ สาขาวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิทยาศาสตร์ธรรมชาติ เป็นต้น และฝ่ายไทยเสนอทุนระดับอุดมศึกษาให้แก่ฮังการีในระยะเวลา 1 - 2 ภาคการศึกษา นอกจากนี้ ยังเน้นการวิจัยร่วม/การเปลี่ยนความคิดเห็นทางวิทยาศาสตร์ สิ่งพิมพ์ สื่อการสอน หลักสูตรและเอกสารทางการศึกษาอื่น ๆ
● อนุมัติร่างพระราชบัญญัติราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติและเห็นชอบตามที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เสนอ ดังนี้
1. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป
2. เห็นชอบให้สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์มีสถานะเป็นหน่วยงานภายใต้มูลนิธิจุฬาภรณ์ และให้สำนักงบประมาณจัดสรรงบประมาณให้สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษาเป็นเงินอุดหนุนแก่มูลนิธิจุฬาภรณ์เช่นเดิม ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2530 ต่อไป
3. รับทราบแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง กรอบระยะเวลา และกรอบสาระสำคัญของกฎหมายลำดับ
สาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติ
1. ปรับปรุงส่วนงานของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ โดยแบ่งออกเป็นสำนักงานราชวิทยาลัย สถาบันบัณฑิตศึกษาจุฬาภรณ์ และวิทยาลัยวิทยาศาสตร์การแพทย์เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์
2. ปรับปรุงจำนวนของกรรมการสภาราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ และอำนาจและหน้าที่ของสภาราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์
3. ปรับปรุงการดำเนินการต่าง ๆ ของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ตามพระราชบัญญัติราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ พ.ศ. 2559 โดยตัดในส่วนที่เกี่ยวข้องกับสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ออก เพื่อให้สอดคล้องกับการแยกภารกิจของสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์
4. กำหนดให้กรณีข้าราชการหรือลูกจ้างของส่วนราชการใดสมัครใจจะเปลี่ยนไปเป็นพนักงานหรือลูกจ้างของราชวิทยาลัย ให้แจ้งความจำนงเป็นหนังสือต่อผู้บังคับบัญชา และจะต้องผ่านการคัดเลือกหรือการประเมินตามหลักเกณฑ์ที่สภาราชวิทยาลัยกำหนด ข้าราชการหรือลูกจ้างซึ่งเปลี่ยนไปเป็นพนักงานหรือลูกจ้างของราชวิทยาลัยให้ถือว่าออกจากราชการเพราะเลิกหรือยุบตำแหน่งตามกฎหมายว่าด้วยบำเหน็จบำนาญข้าราชการหรือกฎหมายว่าด้วยกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ หรืออกจากราชการเพราะทางราชการยุบเลิกตำแหน่งหรือเลิกจ้างโดยไม่มีความผิด และให้ได้รับบำเหน็จตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยบำเหน็จลูกจ้าง แล้วแต่กรณี
5. กำหนดให้มีประธานอธิการบดี เป็นประธานในการประชุมหัวหน้าส่วนงานและคณะที่ปรึกษาราชวิทยาลัย ประธานอธิการบดี อาจแต่งตั้งรองประธานอธิการบดี เพื่อปฏิบัติหน้าที่แทนในกิจการต่าง ๆ ได้ คุณสมบัติการได้มาและอำนาจหน้าที่ของประธานอธิการบดีให้สภาราชวิทยาลัยเป็นผู้กำหนด
● อนุมัติแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอแต่งตั้ง นายพีระ รัตนวิจิตร นักวิชาการศึกษาเชี่ยวชาญ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ให้ดำรงตำแหน่ง ที่ปรึกษาด้านมาตรฐานการศึกษา (นักวิชาการศึกษาทรงคุณวุฒิ) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน 2559 ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป
ที่มา ; เว็บสำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงศึกษาธิการ
ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี 102/2560
มติ ครม. 28 กุมภาพันธ์ 2560
มติ ครม. 28 กุมภาพันธ์ 2560
ผลการประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันอังคารที่ 28 กุมภาพันธ์ 2560 ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงศึกษาธิการ คือ พิจารณาการเสนอขอตั้งกรมการฝึกหัดครู, อนุมัติร่างแก้ไขกฎหมายว่าด้วยการดำเนินการทางวินัยแก่ผู้ที่พ้นจากราชการ, อนุมัติการจัดทำเอกสารโครงการแลกเปลี่ยนด้านการศึกษาและวิทยาศาสตร์กับฮังการี, อนุมัติร่างพระราชบัญญัติราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ และ อนุมัติแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ
กระทรวงศึกษาธิการ จึงมอบให้สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) หารือร่วมกับสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา เพื่อพิจารณาการเสนอขอตั้งกรมการฝึกหัดครูขึ้นมาใหม่ ตลอดจนความเป็นไปได้ของการให้มีหน่วยงานรับผิดชอบโดยตรง ซึ่งปัจจุบันกระทรวงศึกษาธิการมีหลักสูตรการศึกษาเพื่อพัฒนาท้องถิ่น ซึ่งคล้ายคลึงกับหลักสูตรการฝึกหัดครูอยู่แล้ว และสอดคล้องกับการจัดสรรงบประมาณปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 ในส่วนของกระทรวงศึกษาธิการจะมีงบประมาณในส่วนของการพัฒนาครูในรูปแบบ Block Grant (งบประมาณวงเงินรวม) เพื่อให้เกิดความยืดหยุ่นในการจัดสรรงบประมาณให้ครูนำไปใช้พัฒนาตนเองต่อไป
รมว.ศึกษาธิการ จึงขอให้ทุกหน่วยงานศึกษาและทำความเข้าใจในรายละเอียด พร้อมมอบปลัดกระทรวงศึกษาธิการจัดประชุมชี้แจงทำความเข้าใจกับข้าราชการ ครู และบุคลากรทางการศึกษา รวมทั้งผู้ปฏิบัติงานด้านการจัดซื้อจัดจ้างทั้งหมดด้วย
● อนุมัติร่างแก้ไขกฎหมายว่าด้วยการดำเนินการทางวินัยแก่ผู้ที่พ้นจากราชการ
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติ จำนวน 5 ฉบับ ประกอบด้วย
1. ร่างพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... 2. ร่างพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการรัฐสภา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... 3. ร่างพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ฉบับที่ ..)
พ.ศ. .... 4. ร่างพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... 5. ร่างพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการ
พลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่สำนักงาน ก.พ. เสนอ
พ.ศ. .... 4. ร่างพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... 5. ร่างพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการ
พลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่สำนักงาน ก.พ. เสนอ
สาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติ จำนวน 5 ฉบับ เป็นการแก้ไขหลักเกณฑ์การดำเนินการทางวินัยอย่างร้ายแรงกับข้าราชการพลเรือน ข้าราชการรัฐสภา ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ข้าราชการตำรวจ และข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา โดยหน่วยงานต้นสังกัดสามารถดำเนินการทางวินัยกับข้าราชการในสังกัดที่พ้นจากราชการไปแล้วก็ได้ หากความผิดอันเป็นมูลเหตุแห่งการกล่าวหาว่ากระทำความผิดวินัยอย่างร้ายแรงนั้นเกิดขึ้นระหว่างที่ผู้ถูกกล่าวหามีสภาพเป็นข้าราชการ แต่ได้กำหนดเงื่อนเวลาให้ผู้มีอำนาจดำเนินการทางวินัยต้องเริ่มดำเนินการทางวินัยอย่างร้ายแรงภายใน 1 ปี นับแต่วันที่ผู้นั้นพ้นจากราชการ และกรณีที่จะสั่งลงโทษต้องดำเนินการภายใน 3 ปี นับแต่วันที่ผู้นั้นพ้นจากราชการ
นอกจากนี้ ยังเป็นการกำหนดกรณีการดำเนินการทางวินัยตามที่องค์กรตรวจสอบการทุจริต ซึ่งได้แก่ คณะกรรมการ ป.ป.ช. หรือคณะกรรมการ ป.ป.ท. มีมติชี้มูลความผิดให้สามารถดำเนินการทางวินัยและสั่งลงโทษตามที่มีมติชี้มูลความผิดได้ แม้ผู้นั้นจะพ้นจากราชการไปแล้ว โดยไม่นำเงื่อนเวลาในการสอบสวนและเงื่อนไขการสั่งลงโทษดังกล่าวมาใช้บังคับ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ข้าราชการประเภทต่าง ๆ และเพื่อให้การชี้มูลความผิดวินัยขององค์กรตรวจสอบการทุจริตสามารถลงโทษทางวินัยแก่ข้าราชการตามที่ชี้มูลได้
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติ การจัดทำและลงนามเอกสารโครงการแลกเปลี่ยนด้านการศึกษาและวิทยาศาสตร์ ระหว่างกระทรวงศึกษาธิการแห่งราชอาณาจักรไทยและกระทรวงศักยภาพมนุษย์แห่งประเทศฮังการี สำหรับปี ค.ศ. 2017-2018 ทั้งนี้ หากก่อนลงนามมีความจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขความตกลงดังกล่าวในส่วนที่มิใช่สาระสำคัญ ให้ ศธ.หารือกับกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) เพื่อพิจารณาดำเนินการในเรื่องนั้น ๆ โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้ง ทั้งนี้ ได้ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเป็นผู้ลงนาม ในเอกสารดังกล่าว
สาระสำคัญของโครงการแลกเปลี่ยนดังกล่าวเน้นการแลกเปลี่ยนนักศึกษาและบุคลากรระหว่างสถาบันอุดมศึกษา และบุคลากร/นักวิจัยด้านวิทยาศาสตร์ โดยฝ่ายฮังการีเสนอให้ทั้งสองประเทศแลกเปลี่ยนทุนการศึกษาระหว่างกัน ซึ่งฝ่ายฮังการีเสนอให้ทุนระดับปริญญาตรีและปริญญาโทแก่ประเทศไทย จำนวน 40 ทุน ในสาขาต่าง ๆ เช่น สาขาวิทยาศาสตร์การเกษตร สาขาการแพทย์และสาธารณสุขศาสตร์ สาขาวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิทยาศาสตร์ธรรมชาติ เป็นต้น และฝ่ายไทยเสนอทุนระดับอุดมศึกษาให้แก่ฮังการีในระยะเวลา 1 - 2 ภาคการศึกษา นอกจากนี้ ยังเน้นการวิจัยร่วม/การเปลี่ยนความคิดเห็นทางวิทยาศาสตร์ สิ่งพิมพ์ สื่อการสอน หลักสูตรและเอกสารทางการศึกษาอื่น ๆ
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติและเห็นชอบตามที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เสนอ ดังนี้
1. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป
2. เห็นชอบให้สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์มีสถานะเป็นหน่วยงานภายใต้มูลนิธิจุฬาภรณ์ และให้สำนักงบประมาณจัดสรรงบประมาณให้สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษาเป็นเงินอุดหนุนแก่มูลนิธิจุฬาภรณ์เช่นเดิม ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2530 ต่อไป
3. รับทราบแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง กรอบระยะเวลา และกรอบสาระสำคัญของกฎหมายลำดับ
2. เห็นชอบให้สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์มีสถานะเป็นหน่วยงานภายใต้มูลนิธิจุฬาภรณ์ และให้สำนักงบประมาณจัดสรรงบประมาณให้สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษาเป็นเงินอุดหนุนแก่มูลนิธิจุฬาภรณ์เช่นเดิม ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2530 ต่อไป
3. รับทราบแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง กรอบระยะเวลา และกรอบสาระสำคัญของกฎหมายลำดับ
สาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติ
1. ปรับปรุงส่วนงานของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ โดยแบ่งออกเป็นสำนักงานราชวิทยาลัย สถาบันบัณฑิตศึกษาจุฬาภรณ์ และวิทยาลัยวิทยาศาสตร์การแพทย์เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์
2. ปรับปรุงจำนวนของกรรมการสภาราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ และอำนาจและหน้าที่ของสภาราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์
3. ปรับปรุงการดำเนินการต่าง ๆ ของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ตามพระราชบัญญัติราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ พ.ศ. 2559 โดยตัดในส่วนที่เกี่ยวข้องกับสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ออก เพื่อให้สอดคล้องกับการแยกภารกิจของสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์
4. กำหนดให้กรณีข้าราชการหรือลูกจ้างของส่วนราชการใดสมัครใจจะเปลี่ยนไปเป็นพนักงานหรือลูกจ้างของราชวิทยาลัย ให้แจ้งความจำนงเป็นหนังสือต่อผู้บังคับบัญชา และจะต้องผ่านการคัดเลือกหรือการประเมินตามหลักเกณฑ์ที่สภาราชวิทยาลัยกำหนด ข้าราชการหรือลูกจ้างซึ่งเปลี่ยนไปเป็นพนักงานหรือลูกจ้างของราชวิทยาลัยให้ถือว่าออกจากราชการเพราะเลิกหรือยุบตำแหน่งตามกฎหมายว่าด้วยบำเหน็จบำนาญข้าราชการหรือกฎหมายว่าด้วยกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ หรืออกจากราชการเพราะทางราชการยุบเลิกตำแหน่งหรือเลิกจ้างโดยไม่มีความผิด และให้ได้รับบำเหน็จตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยบำเหน็จลูกจ้าง แล้วแต่กรณี
5. กำหนดให้มีประธานอธิการบดี เป็นประธานในการประชุมหัวหน้าส่วนงานและคณะที่ปรึกษาราชวิทยาลัย ประธานอธิการบดี อาจแต่งตั้งรองประธานอธิการบดี เพื่อปฏิบัติหน้าที่แทนในกิจการต่าง ๆ ได้ คุณสมบัติการได้มาและอำนาจหน้าที่ของประธานอธิการบดีให้สภาราชวิทยาลัยเป็นผู้กำหนด
2. ปรับปรุงจำนวนของกรรมการสภาราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ และอำนาจและหน้าที่ของสภาราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์
3. ปรับปรุงการดำเนินการต่าง ๆ ของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ตามพระราชบัญญัติราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ พ.ศ. 2559 โดยตัดในส่วนที่เกี่ยวข้องกับสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ออก เพื่อให้สอดคล้องกับการแยกภารกิจของสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์
4. กำหนดให้กรณีข้าราชการหรือลูกจ้างของส่วนราชการใดสมัครใจจะเปลี่ยนไปเป็นพนักงานหรือลูกจ้างของราชวิทยาลัย ให้แจ้งความจำนงเป็นหนังสือต่อผู้บังคับบัญชา และจะต้องผ่านการคัดเลือกหรือการประเมินตามหลักเกณฑ์ที่สภาราชวิทยาลัยกำหนด ข้าราชการหรือลูกจ้างซึ่งเปลี่ยนไปเป็นพนักงานหรือลูกจ้างของราชวิทยาลัยให้ถือว่าออกจากราชการเพราะเลิกหรือยุบตำแหน่งตามกฎหมายว่าด้วยบำเหน็จบำนาญข้าราชการหรือกฎหมายว่าด้วยกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ หรืออกจากราชการเพราะทางราชการยุบเลิกตำแหน่งหรือเลิกจ้างโดยไม่มีความผิด และให้ได้รับบำเหน็จตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยบำเหน็จลูกจ้าง แล้วแต่กรณี
5. กำหนดให้มีประธานอธิการบดี เป็นประธานในการประชุมหัวหน้าส่วนงานและคณะที่ปรึกษาราชวิทยาลัย ประธานอธิการบดี อาจแต่งตั้งรองประธานอธิการบดี เพื่อปฏิบัติหน้าที่แทนในกิจการต่าง ๆ ได้ คุณสมบัติการได้มาและอำนาจหน้าที่ของประธานอธิการบดีให้สภาราชวิทยาลัยเป็นผู้กำหนด
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอแต่งตั้ง นายพีระ รัตนวิจิตร นักวิชาการศึกษาเชี่ยวชาญ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ให้ดำรงตำแหน่ง ที่ปรึกษาด้านมาตรฐานการศึกษา (นักวิชาการศึกษาทรงคุณวุฒิ) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน 2559 ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป
ที่มา ; เว็บสำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงศึกษาธิการ
( คลิ๊ก ) สมัครพัฒนาความรู้
เตรียมสอบติวสอบครูผู้ช่วย
เตรียมติวสอบผู้บริหารสถาน+การศึกษา
( คลิ๊ก ) สมัครพัฒนาความรู้
เตรียมสอบติวสอบครูผู้ช่วย
เตรียมติวสอบผู้บริหารสถาน+การศึกษา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น