หน้าหลัก ติวสอบดอทคอม เว็บฟรีข้อสอบออนไลน์

หน้าหลัก ติวสอบดอทคอม เว็บฟรีข้อสอบออนไลน์
หน้าหลัก ติวสอบดอทคอม เว็บฟรีข้อสอบออนไลน์

พัฒนาความรู้ สู่ รอง./ผอ.รร. ปี 2567

พัฒนาความรู้ สู่ รอง./ผอ.รร. ปี 2567
พัฒนาความรู้ สู่ รอง./ผอ.รร. ปี 2567

คลิ๊ก "สมัครพัฒนาความรู้สู่ผู้บริหาร / ครูผู้ช่วย

คลิ๊ก... สมัคร พัฒนาความรู้ สู่ ครูผู้ช่วย
คลิ๊ก... สมัคร พัฒนาความรู้ สู่ ผู้บริหาร

ติวสอบดอทคอม (เตรียมสอบครูผู้ช่วย-ผู้บริหาร-บุคลากร การศึกษา)

ติวสอบดอทคอม (เตรียมสอบครูผู้ช่วย-ผู้บริหาร-บุคลากร การศึกษา)
ติวสอบดอทคอม (เว็บฟรีข้อสอบออนไลน์ สอบครู ผู้บริหาร บุคลากร)

วันจันทร์ที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2562

ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน วันศุกร์ที่ 25 มกราคม 2562

อ่านชัด-อ่านครบ กด ดูเวอร์ชั่นสำหรับเว็บ (ด้านล่าง)

เรื่องใหม่น่าสนใจ  (ทั้งหมด ที่ )


(เนื้อหา-ข้อสอบ 1,000 ชุุด หมื่นข้อ ภาค กข


40 วิชาเอก) ที่ ห้องสอบด้านขวา หรือ 


เว็บฟรีข้อสอบ 1,000 ชุด ที่ ติวสอบดอทคอม 

คลิ๊ก www.tuewsob.com โดย อ.นิกร




 คลิ๊ก ) สมัครพัฒนาความรู้   

เตรียมความรู้ผู้บริหารสถาน (รอง/ผอ.รร.)  

ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน วันศุกร์ที่ 25 มกราคม 2562
title
ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน วันศุกร์ที่ 25 มกราคม 2562 พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนออกอากาศทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย วันศุกร์ที่ 25 มกราคม 2562 เวลา 20.15 น.
สวัสดีครับ พ่อแม่พี่น้องชาวไทยที่รักทุกท่าน
พบกันทุกวันศุกร์ หรือที่เรียกว่า วันแห่งความสุขเช่นเคยนะครับ บ้านเมืองของเรามีเรื่องดี ๆ มากมาย ผมก็อยากให้พวกเราแชร์ความสุขร่วมกันครับ อาทิ ทีมฟุตบอลช้างศึกไทยเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายเอเชียนคัพ  ก็คงต้องพยายามต่อไป น้องเมย์รัชนก อินทนนท์ คว้าแชมป์มาเลเซียมาสเตอร์ส 2019 เป็นสมัยที่ 2 ได้สำเร็จ หรือ โปรแจ๊สอติวิชญ์ เจนวัฒนานนท์ ได้แชมป์เอสเอ็มบีซี สิงคโปร์ โอเพน เป็นต้น  นอกจากนี้ เราก็ยังได้รับโบราณวัตถุและศิลปวัตถุคืนจากสหรัฐอเมริกา อีกเกือบ 50 รายการ ล้วนแต่เป็นโบราณวัตถุยุคก่อนประวัติศาสตร์ สมัยวัฒนธรรมบ้านเชียง อายุมากกว่า 1,500 ปี สำหรับการติดตามโบราณวัตถุที่ถูกลักลอบนำออกนอกประเทศนั้น เราได้รับมอบกลับคืนมาแล้วในรัฐบาลนี้จำนวน 8 ครั้ง รวมโบราณวัตถุที่ได้รับคืนกว่า 750 รายการ อันนี้ก็เป็นเรื่องของความเอาจริงเอาจังของเรา เรื่องราวทั้งหลายเหล่านี้ล้วนเป็นความสุข ความภาคภูมิใจของคนทั้งชาติ และก็ถือว่าเป็นความสำเร็จร่วมกันนะครับ

อีกเรื่องคือ ธนาคารโลกได้แสดงความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจไทยจะเติบโตแข็งแรงอย่างต่อเนื่องอีกอย่างน้อย 2 ปี ปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญก็คือการเติบโตจากความต้องการสินค้าและบริการภายในประเทศที่เพิ่มขึ้น ทั้งการบริโภคและการลงทุนของภาคเอกชนและภาครัฐ  อีกทั้งนโยบายภาครัฐ ก็ช่วยให้เราสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลง และแรงต้านของเศรษฐกิจโลกได้ดีเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ 

ทั้งนี้ รัฐบาลก็ได้จัดทำรายงานผลการดำเนินงานของรัฐบาล ปีที่ 4 ขึ้น เพื่อแสดงให้ทุกภาคส่วนได้รับรู้ และเข้าใจว่ารัฐบาลและ คสช. ได้แก้ปัญหาในอดีต พร้อมทั้งวางรากฐานการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนให้กับประเทศชาติ และพวกเราทุกคนอย่างไรบ้าง  พี่น้องประชาชนสามารถดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์รัฐบาลไทย หรือ  สภาพัฒน์ฯ ตามที่แสดงบนหน้าจอ  นะครับ  (https://www.nesdb.go.th/download/document/GovSum4.pdf)  

สัปดาห์หน้า รัฐบาลจะจัดมหกรรมการสร้างการตระหนักรู้ต่อยุทธศาสตร์ชาติ อนาคตไทย อนาคตเราระหว่างวันพุธที่ 30 มกราคม ถึงวันศุกร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ ณ ลานด้านหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์  เพื่อให้คนทั้งชาติได้รับรู้ถึงบริบทของโลกและความท้าทายในอนาคต  เข้าใจแนวคิดและสาระสำคัญของยุทธศาสตร์ชาติ  รวมทั้งร่วมมือกันทุกภาคส่วน ในการที่จะสร้างไทยไปด้วยกัน ด้วยการขับเคลื่อนบ้านเมืองของเรา ไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง อย่างยั่งยืน ผมขอเชิญพี่น้องประชาชนได้มีส่วนร่วมในงานดังกล่าว ตามวัน เวลา สถานที่ที่กำหนด  และขอให้พี่น้องสื่อมวลชนทุกแขนง เป็นส่วนหนึ่งในการเดินหน้าประเทศไทยของเรา ด้วยการนำพาสาระ ความรู้ เกี่ยวกับยุทธศาสตร์ชาติ ฉบับแรกในประวัติศาสตร์ชาติไทย ไปสู่พี่น้องประชาชน อย่างทั่วถึงด้วยนะครับ
 
พี่น้องประชาชนที่รักครับ
สัปดาห์นี้  มีประเด็นการปฏิรูปประเทศที่อยู่ในความสนใจของพี่น้องประชาชนในวงกว้าง ที่ผมอยากจะกล่าวถึงหลักคิดของรัฐบาล ในการบริหารจัดการให้เกิดความยั่งยืน จำนวน 2 เรื่องครับ

เรื่องที่ 1. คือการบริหารจัดการทรัพยากรที่ดิน  ที่มีอยู่อย่างจำกัด แต่จะบริหารอย่างไรให้มีประสิทธิภาพสูงสุดและ
มีธรรมาภิบาล โดยเราจะต้องใช้ที่ดิน หรือทรัพยากรทั้งปวงของประเทศ ให้สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มสูงสุด  ไปพร้อม ๆ กับการพัฒนาคนด้วยการศึกษา และการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาช่วย  อาทิ การใช้ Agri map มาช่วยพิจารณาการใช้ที่ดินในการเพาะปลูก ให้เหมาะสมกับสภาพดิน น้ำ อากาศ และตลาด ในขณะเดียวกัน ก็ยกระดับเกษตรกรให้เป็น Smart farmer ด้วยการเพิ่มพูนความรู้ผ่านเน็ตประชารัฐ หรือ ศพก. (ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร) ที่จะช่วยให้เกษตรกรของเราสามารถลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิตได้ด้วย  ไม่ใช่ปลูกพืชที่ไม่ได้ผล ก็ทนปลูกต่อไป โดยที่รัฐบาลก็ไม่เข้าไปส่งเสริมได้ บางพื้นที่ เราอาจจะต้องส่งเสริมให้เป็นการใช้ประโยชน์เป็นอย่างอื่น
ที่จะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้มากกว่า สร้างงาน สร้างรายได้ ตามที่ชาวชุมชนต้องการ หรือที่เรียกว่า ระเบิดจากข้างในเราต้องเน้นการมีส่วนร่วม  โดยต้องผลักดันให้มี หน่วยงานใหม่เข้ามารับผิดชอบในการบริหารที่ดินของประเทศ ในลักษณะเดียวกับ สนทช. สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ เพื่อให้สามารถบูรณาการ การใช้ประโยชน์ทั้งที่ดินของเอกชนและของรัฐ ได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ ซึ่งต่อไปเกษตรกรและผู้มีรายได้น้อย ก็จะมีที่ดินทำกิน มีเงินอุดหนุนจากรัฐบาลและได้รับการส่งเสริมอาชีพ  รวมทั้งชุมชนก็ได้มีพื้นที่ป่า ได้ดูแลและสร้างประโยชน์ร่วมกัน  เหล่านี้เป็นต้นนะครับ

เรื่องที่ 2. การกำหนดให้เวชภัณฑ์เกี่ยวกับการรักษาโรค และบริการรักษาพยาบาล เป็นรายการสินค้าและบริการควบคุมใหม่ ในปี 2562 นี้ เพื่อให้การบริการเป็นไปตามมาตรฐาน เหมาะสม โปร่งใส และเป็นธรรม โดยจะมีคณะอนุกรรมการพิจารณาราคายา และเวชภัณฑ์ ค่ารักษาพยาบาล  ค่าบริการทางการแพทย์ และค่าบริการอื่นของสถานพยาบาล ซึ่งประกอบด้วย ตัวแทนจากกระทรวงพาณิชย์  กระทรวงสาธารณสุข  กรมบัญชีกลาง  สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สมาคมประกันชีวิตไทย สมาคมประกันวินาศภัย สมาคมโรงพยาบาลเอกชน มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค และผู้ทรงคุณวุฒิด้านเศรษฐศาสตร์ มาร่วมกันพิจารณากำหนดมาตรการที่เหมาะสมและเป็นธรรม ทั้งนี้ คณะอนุกรรมการฯ ดังกล่าว มีหน้าที่ศึกษา วิเคราะห์ พัฒนาแนวทาง  หลักเกณฑ์  กลไก  วิธีการ รวมทั้งเสนอแนะการกำหนดมาตรการดูแลความเหมาะสมในการที่จะคำนวณค่ายา ราคายาที่เป็นธรรมสำหรับทุกฝ่าย ทั้งผู้บริโภคและผู้ประกอบการ เช่น ให้เกิดความเหมาะสมและเป็นธรรมสำหรับพี่น้องประชาชนคือ จะต้องมีฐานในการคิดค่ายา เวชภัณฑ์ ค่ารักษาพยาบาล และจะต้องมีการติดป้ายอัตราค่ารักษาพยาบาล ยา และเวชภัณฑ์ ให้ชัดเจน เพื่อให้ประชาชนตรวจสอบ หรือสอบถาม ก่อนตัดสินใจเข้ารับการรักษา ซึ่งกฎหมายมีอยู่ก่อนแล้ว แต่ต้องทำให้ได้ เข้มงวดกันให้มากยิ่งขึ้น และก็ตอบโจทย์ในครั้งนี้ได้ด้วย  ความเหมาะสมและเป็นธรรม สำหรับโรงพยาบาลเอกชน ก็คือไม่ทำให้สูญเสียขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยเฉพาะในเรื่องคุณภาพการรักษาพยาบาล  ผมอยากให้มองปัญหาด้วยความเป็นจริงว่าเราจำเป็นต้องมีทั้งโรงพยาบาลรัฐ และเอกชน เพื่อจะเป็นทางเลือก ให้บริการกับพี่น้องประชาชนในทุกระดับ  แต่ก็จำเป็นต้องปรับมาตรฐานให้ได้ ปรับเรื่องความเป็นธรรมให้ได้ บางทีก็มากเกินไป ราคายา ราคาค่ารักษาพยาบาลที่สูงเกินเหตุ ต้องมีเหตุมีผลซึ่งกันและกัน เราก็จำเป็นต้องมีการปฏิรูปการให้บริการสุขภาพของรัฐ ให้มีมาตรฐาน ให้มีการบริการอย่างทั่วถึง โดยเน้นการป้องกันมากกว่าการรักษา อีกทั้ง สามารถรองรับสังคมผู้สูงวัยในอนาคตได้ด้วย  ในขณะที่ โรงพยาบาลเอกชนก็สามารถรองรับนโยบาย Medical Hub ที่เชื่อมโยงไปกับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ซึ่งมีมูลค่าทางเศรษฐกิจหลายหมื่นล้านบาทต่อปี โดยมีแนวโน้มลูกค้าจากต่างประเทศเข้ามาเป็นจำนวนมาก ดังนั้น การกำหนดให้ยาและเวชภัณฑ์ รวมทั้งบริการรักษาพยาบาล เป็นสินค้าและบริการควบคุม ในครั้งนี้ หากมีความชัดเจน สามารถสร้างความสมดุลระหว่างราคากับคุณภาพได้ ก็จะช่วยให้เกิดความพึงพอใจแก่ประชาชนผู้มารับการรักษา และโรงพยาบาล เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาและวางรากฐานอนาคตได้อย่างยั่งยืนนะครับ

          สุดท้ายนี้ ผมขอหยิบยกผลการดำเนินงานของรัฐบาล ที่เกี่ยวกับการพัฒนาทุนมนุษย์ ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญที่สุดในการพัฒนาประเทศ จำนวน 2 เรื่อง ได้แก่ (1) การสร้างสังคมคุณภาพ  เพื่อให้ทุกคนอยู่ดีมีสุขสำหรับคนทุกกลุ่ม อาทิ เงินอุดหนุนเด็กแรกเกิด กองทุนสวัสดิการชุมชนและที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย เป็นต้น และ (2) การยกระดับคุณภาพชีวิตแรงงานไทยผ่านกองทุนประกันสังคมและกองทุนเงินทดแทนที่มีการแก้ไข เพื่อเพิ่มเติมสวัสดิการให้พี่น้องแรงงานให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น โดยขอให้ติดตามชมรายละเอียดจากวีดิทัศน์หลังจากนี้นะครับ ความยาวประมาณ 7 นาที
          ขอบคุณครับนะครับ ขอให้ทุกคนรักษาสุขภาพ ทุกครอบครัวมีความสุขทุก ๆ วันนะครับ  สวัสดีครับ
……………………………………………….

อนึ่ง วิดีทัศน์ ประกอบรายการสัปดาห์นี้ ดังนี้

1. รายงานผลการดำเนินงานของรัฐบาล ปีที่ 4
หมายเหตุ สามารถดาวน์ได้จาก : http://www.thaigov.go.th/ebook/contents/detail/173#book/
หรือ https://www.nesdb.go.th/download/document/GovSum4.pdf

2. การสร้างสังคมคุณภาพ เพื่อให้ทุกคนอยู่ดีมีสุข สำหรับคนทุกกลุ่ม
        กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ขอนำเสนอรายงานสถานการณ์ทางสังคม ไตรมาสที่ 4 มีประเด็นสำคัญ ดังนี้
        1. สถานการณ์ทางสังคมที่น่าสนใจ
              1.1 การพัฒนาเด็กปฐมวัย ด้วยเงินอุดหนุนเพื่อเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด เป็นการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ชาติ ในการวางรากฐานการพัฒนาประชากรที่มีคุณภาพตั้งแต่ปฐมวัยโดยโครงการเงินอุดหนุนเพื่อเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด อันเป็นสวัสดิการพื้นฐาน ที่รัฐช่วยเหลือเด็กแรกเกิดถึง 3 ปี ในครอบครัวยากจนคนละ 600 บาทต่อเดือน จำนวน 525,728 คน ซึ่งมีผลงานวิจัยสรุปว่า การลงทุนในเด็กแรกเกิดที่อยู่ใครครอบครัวที่ยากจนจะได้รับผลตอบแทนกลับมา 17 เท่าเป็นผลดีต่อภาวะโภชนาการสุขภาพ IQ และ EQ ของเด็กปฐมวัย นับเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดที่รัฐบาลมอบให้เด็ก
            1.2 สังคมไม่ทอดทิ้งกันซึ่งเป็นการผนึกกำลังภาคส่วนต่าง ๆ สร้างสรรค์สวัสดิการสังคมหลายรูปแบบ ได้แก่ (1) “จิตอาสาที่ส่งเสริมให้คนมีความเอื้ออาทรต่อกัน ยกย่องผู้ทำคุณประโยชน์แก่สังคม จิตอาสาธนาคารเวลาสำหรับการดูแลผู้สูงอายุ (2) “หุ้นส่วนทางสังคม”  โดยเฉพาะภาคธุรกิจที่เข้ามาช่วยเหลือรับผิดชอบปัญหาสังคมเน้นวิสาหกิจเพื่อสังคมกับการพัฒนาสังคมและ (3) “สวัสดิการชุมชนที่มีกองทุนสวัสดิการชุมชนเชื่อมโยงทั่วประเทศ ดูแลคนทุกช่วงวัย ตั้งแต่เกิดจนตาย ทำให้สมาชิกมีคุณภาพชีวิตที่ดีบนพื้นฐาน การให้อย่างมีคุณค่า รับอย่างมีศักดิ์ศรี
            1.3 ความมั่นคงด้านที่อยู่อาศัยภายใต้แผนแม่บทการพัฒนาที่อยู่อาศัย 20 ปี อาทิ (1) การพัฒนาที่อยู่อาศัยผู้มีรายได้น้อย จำนวน 11,029 หน่วย (2) โครงการบ้านเคหะกตัญญู สำหรับผู้สูงอายุ จำนวน 192 หน่วย (3) โครงการบ้านล้านหลัง 843 หน่วย (4) การจัดตั้งศูนย์ข้อมูลที่อยู่อาศัยเพื่อบูรณาการระบบฐานข้อมูลที่อยู่อาศัยระดับชาติ (5) โครงการตลาดเคหะประชารัฐ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก สร้างงาน สร้างอาชีพในชุมชน (6) การแก้ปัญหาชุมชนแออัด บ้านมั่นคงในที่ดินรัฐและเอกชน ในเมืองและชนบท จำนวน 13,717 ครัวเรือน (7) การพัฒนาที่อยู่อาศัยชุมชนริมคลองลาดพร้าว จำนวน 5,023 ครัวเรือน และ (8) โครงการบ้านพอเพียงในชนบท จำนวน 35,916 ครัวเรือน โดยมีเป้าหมาย คือ สร้างบ้าน สร้างชุมชนไทยทุกคนมั่นคง เข้มแข็ง
        2. ประเด็นห่วงใย
            2.1 การตั้งครรภ์ไม่พร้อมในวัยรุ่น โดยอัตราการคลอดของแม่วัยรุ่นยังอยู่ในระดับสูง สาเหตุจากการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตและพฤติกรรมด้านเพศของวัยรุ่น ส่งผลต่อสุขภาพแม่และเด็ก โอกาสทางการศึกษา กำลังแรงงาน การทำแท้งที่ไม่ปลอดภัย และการทิ้งทารก
                สำหรับการป้องกันและแก้ไขปัญหา ได้แก่ (1) เสริมพลังครอบครัวและสร้างชุมชนเข้มแข็ง (2) พัฒนาระบบการช่วยเหลือ เชื่อมโยงข้อมูลภาครัฐ และ (3) พัฒนาฐานข้อมูลด้านเด็กและเยาวชน จำแนกกลุ่มเป้าหมายเพื่อจัดบริการที่เหมาะสม       
            2.2 ความรุนแรงในสังคมมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 7-10 ราย/วัน ผู้ถูกกระทำส่วนใหญ่ร้อยละ 90 เป็นเด็กและสตรี โดยรัฐบาลได้ประกาศเจตนารมณ์ให้ปี 2562 เป็นปีแห่งการรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรี บุคคลในครอบครัว และความรุนแรงในสังคมทุกรูปแบบ จึงต้องอาศัยพลังของสังคมในการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจัง ต่อเนื่อง
                สำหรับการป้องกันและแก้ไขปัญหา โดย (1) เริ่มต้นจากครอบครัว (2) รณรงค์ สังคมไทยไร้ความรุนแรง และ (3) เฝ้าระวัง ป้องกันและแก้ไขปัญหาความรุนแรงในสังคมโดยบูรณาการการทำงานเชิงพื้นที่ ทั้งนี้ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พร้อมบูรณาการ การทำงานเชิงรุกร่วมกับทุกภาคส่วนทุกระดับ เพื่อบรรลุวิสัยทัศน์ พม.เป็นผู้นำด้านสังคมของไทยและอาเซียน มุ่งสู่คนอยู่ดีมีสุขในสังคมคุณภาพ
หมายเหตุ สามารถดาวน์โหลดวีดิทัศน์ได้จาก : https://youtu.be/J9VRuTHvhgk

3. การยกระดับคุณภาพชีวิตแรงงานไทย: เรื่อง พ.ร.บ.เงินทดแทนฉบับใหม่
        รัฐบาลภายใต้การนำของพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กำหนดกรอบยุทธศาสตร์ชาติ โดยการสร้างโอกาส ความเสมอภาคและความเท่าเทียมกันทางสังคม
        กระทรวงแรงงานในการกำกับดูแลของพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี โดยพลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้ขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าว ด้วยการยกระดับคุณภาพชีวิตแรงงานไทยผ่าน 2 กองทุน คือ
        1.  กองทุนประกันสังคมจัดเก็บเงินสมทบจากลูกจ้าง นายจ้าง และรัฐบาล มีผู้ประกันตน 15.8 ล้านคน มีเงินสะสมกองทุน 1.86 ล้านล้านบาท
        2. กองทุนเงินทดแทน ตามพระราชบัญญัติเงินทดแทน พ.ศ. 2537 จัดเก็บเงินสมทบจากนายจ้างฝ่ายเดียว มีลูกจ้างจากสถานประกอบการ 10.49 ล้านคน มีเงินสะสมกองทุน 60,272 ล้านบาทสำหรับลูกจ้างของส่วนราชการ องค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร และองค์กรระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นกลุ่มบุคลากรที่สำคัญ ยังไม่ได้รับการคุ้มครองให้เท่าเทียมกับลูกจ้างในสถานประกอบการ ตลอดจนบทบัญญัติบางประการของ พ.ร.บ. ยังไม่สอดคล้องกับสถานการณ์สังคมในปัจจุบัน
        กระทรวงแรงงานจึงได้เสนอแก้ไขพระราชบัญญัติเงินทดแทน พ.ศ. 2561 เพื่อขยายความคุ้มครองและเพิ่มสิทธิประโยชน์ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 9 ธันวาคม 2561 มีสาระสำคัญดังนี้
        (1) ขยายความคุ้มครองลูกจ้างของส่วนราชการหรือองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไรทางเศรษฐกิจ และลูกจ้างขององค์กรระหว่างประเทศ ครอบคลุมลูกจ้างกว่าล้านคน
        (2) เพิ่มสิทธิประโยชน์แก่ลูกจ้าง ได้แก่ เพิ่มค่ารักษาพยาบาล เพิ่มค่าทำศพ เพิ่มค่าทดแทน กรณีทุพพลภาพได้รับเงินชดเชยตลอดชีวิต และกรณีตายเพิ่มระยะเวลาจ่ายค่าทดแทนแก่ทายาท
        (3) นายจ้างได้รับการปรับลดเงินเพิ่มเป็นร้อยละ 2 ต่อเดือน
        (4) กรณีประสบภัยพิบัติ รัฐมนตรีมีอำนาจลดการจ่ายเงินเพิ่ม
        (5) เพิ่มช่องทางในการยื่น แจ้งเงินสมทบผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่ออำนวยความสะดวกมากยิ่งขึ้น
        ทั้งนี้ พระราชบัญญัติเงินทดแทน ฉบับใหม่นี้ จะส่งผลให้ลูกจ้างทุกกลุ่มได้รับการคุ้มครองอย่างทั่วถึง เสมอภาค เท่าเทียม เพื่อให้กำลังแรงงานที่เป็นฟันเฟืองสำคัญ ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ มีคุณภาพชีวิตที่ดี มีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน สืบไป
หมายเหตุ สามารถดาวน์โหลดวีดิทัศน์ได้จาก : https://youtu.be/zfOzEKrhRcE

ที่มา : เว็บ รัฐบาลไทย

 คลิ๊ก ) สมัครพัฒนาความรู้   

โดย  อ./ผอ.นิกร  ติวสอบดอทคอม 
(ฟรีสรุป-ข้อสอบ-เฉลย ภาค กขค)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

พัฒนาความรู้ครูผู้ช่วย 4 ภาค

พัฒนาความรู้ครูผู้ช่วย 4 ภาค
พัฒนาความรู้ครูผู้ช่วย 4 ภาค

ห้องสนทนา บน facebook

ห้องสนทนา บน facebook
ห้องสนทนาติวสอบดอทคอม

ข้อสอบออนไลน์ "ติวสอบดอทคอม" ชุดใหม่

คู่มือเตรียมสอบผู้บริหาร ภาค ก ข ค

แจ้งย้ายเว็บไปที่ www.tuewsob.com

คู่มือเตรียมสอบผู้บริหาร ภาค ก ข ค (ปรับปรุงใหม่)

รวม เล่ม + แผ่นพับ + ชีตช่วยจำ + DVD เนื้อหา + เสียงบรรยาย + EMS = 800 บาท
สนใจ คู่มือ ภาค ก ข ค ผู้บริหาร คลิ๊กเลย

สั่งจอง... โอนเงินเข้าชื่อบัญชี นายนิกร เพ็งลี ธนาคารกรุงไทย สาขาจอหอ บัญชีเลขที่ 341-1-38912-5 โอนเงินแล้วกรุณาโทรแจ้ง
0872494141 หรือ 0839660030

คู่มือ เตรียมสอบผู้บริหาร

คู่มือ เตรียมสอบผู้บริหาร
คู่มือ เตรียมสอบผู้บริหาร

ติวสอบออนไลน์ บน facebook

ติวสอบออนไลน์ บน facebook
ติวสอบออนไลน์ บน facebook

คลังหนังสือ ติวสอบดอทคอม

คลังหนังสือ ติวสอบดอทคอม
คลังหนังสือ ติวสอบดอทคอม

ติวสอบดอทคอม

ติวสอบดอทคอม
ติวสอบดอทคอม