อ่านชัด-อ่านครบ กด ดูเวอร์ชั่นสำหรับเว็บ (ด้านล่าง)
เรื่องใหม่น่าสนใจ (ทั้งหมด ที่ )
(เนื้อหา-ข้อสอบ 1,000 ชุุด หมื่นข้อ ภาค กข
+ 40 วิชาเอก) ที่ ห้องสอบด้านขวา หรือ
เว็บฟรีข้อสอบ 1,000 ชุด ที่ ติวสอบดอทคอม
คลิ๊ก www.tuewsob.com โดย อ.นิกร
( คลิ๊ก ) สมัครพัฒนาความรู้
( คลิ๊ก ) สมัครพัฒนาความรู้
เตรียมความรู้ผู้บริหารสถาน (รอง/ผอ.รร.)
เตรียมสอบติวสอบครูผู้ช่วยกรณีพิเศษ + ทั่วไป
เตรียมความรู้ผู้บริหารสถาน (รอง/ผอ.รร.)
เตรียมสอบติวสอบครูผู้ช่วยกรณีพิเศษ + ทั่วไป
ข่าวที่ 17/2562 รมว.ศธ.ร่วมงานเปิดตัว "รร.สาธิต มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย" หลักสูตร HighScope เน้นพัฒนาสมองผ่านการลงมือทำ
นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ปาฐกถาพิเศษในงานเปิดตัว "คณะการศึกษาปฐมวัยและโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย" เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 10 มกราคม 2562 โดยมี รศ.ดร.เสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย, นายกลินท์ สารสิน นายกสภามหาวิทยาลัยหอการค้าไทย, รศ.ดร. วีระชาติ กิเลนทอง หัวหน้าโครงการ Reducing Inequality through Early Childhood Education หรือ REICE, Mr. Andrew Mellor, Regional Business Development Manager, University of London, ผู้บริหารสถาบันอุดมศึกษา และคณาจารย์ เข้าร่วมงาน ณ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า การจัดการศึกษาปฐมวัยในประเทศไทยมีหลากหลายรูปแบบ ทั้งโรงเรียนอนุบาลในสังกัดของรัฐบาล เอกชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งจากการวิจัยต่าง ๆ ทั่วโลกพบว่า การดูแลเด็กตั้งแต่ระดับปฐมวัยให้ดี จะทำให้เติบโตเป็นคนที่มีคุณภาพชีวิตที่ดี ประกอบกับการวิจัยของศาสตราจารย์ James J. Heckman มหาวิทยาลัยชิคาโก สหรัฐอเมริกา ยังพบว่า การลงทุนในทรัพยากรมนุษย์ตั้งแต่ปฐมวัย จะเกิดความคุ้มค่าและได้ผลตอบแทนมากที่สุด
สำหรับการจัดการเรียนการสอนแบบไฮสโคป (HighScope) ที่มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย นำมาปรับใช้กับจัดการเรียนการสอนเด็กปฐมวัยนั้น ช่วยฝึกความคิด ฝึกสมอง และทำให้เกิดการพัฒนาสมองอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม การปฏิรูปและพัฒนาการศึกษาในหลายเรื่อง ต้องอาศัยระยะเวลาจึงจะเห็นผล โดยเฉพาะการนำประเทศไปสู่ประเทศไทย 4.0 ที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม ต้องเปิดรับรูปแบบและแนวคิดที่ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น การที่มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยได้เริ่มหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย ถือเป็นการเริ่มต้นที่กล้าหาญ แม้ว่าในช่วงแรกอาจพบปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินงานบ้าง แต่เชื่อว่าเป็นการดำเนินงานที่มาถูกทางแล้ว
รศ.ดร. เสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย จัดการศึกษาชั้นเตรียมอนุบาลถึงอนุบาล 3 โดยใช้หลักสูตรไฮสโคป (HighScope) ซึ่งได้รับการพิสูจน์จากงานวิจัยของศาสตราจารย์ James J. Heckman มหาวิทยาลัยชิคาโก สหรัฐอเมริกา และเป็นนักเศรษฐศาสตร์รางวัลโนเบล โดยพบว่า การจัดการเรียนรู้แบบไฮสโคป ช่วยให้ผู้เรียนมีรายได้สูง ก่ออาชญากรรมและติดยาเสพติดน้อยกว่า เมื่อเปรียบเทียบกับเด็กที่เรียนในรูปแบบปกติ และสามารถสรุปผลในเชิงเศรษฐศาสตร์ได้ว่า หลักสูตรไฮสโคปให้ผลประโยชน์ถึง 7 เท่าของต้นทุน โดยจะรับนักเรียนชั้นละไม่เกิน 25 คน เพื่อการดูแลอย่างทั่วถึง รวมทั้งสอนโดยครูปฐมวัยจริง ๆ ที่ได้รับการอบรมในสถานที่จริงอย่างเข้มข้นก่อนจะเริ่มสอน ทำให้มีความเชี่ยวชาญในการจัดการเรียนการสอนแบบไฮสโคปด้วย
มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย นำหลักสูตรไฮสโคป มาพัฒนาและทดลองใช้มาเป็นระยะเวลากว่า 5 ปี จนมีความเชี่ยวชาญในการจัดการเรียนรู้ในรูปแบบนี้ โดยเน้นการพัฒนาเด็ก ด้วยกระบวนการวางแผน-ลงมือทำ-ทบทวน (Plan-Do-Review) ฝึกการตัดสินใจ การทำงานอย่างเป็นระบบ รู้จักการรอคอย ให้เด็กได้ลงมือทำกิจกรรมผ่านสื่อและวัสดุอุปกรณ์ที่มีความหลากหลายและเหมาะสมกับวัย รวมทั้งได้สะท้อนความคิดผ่านขั้นตอนการทบทวนต่อไป
สำหรับคณะการศึกษาปฐมวัย มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยนักศึกษาจะได้ฝึกปฏิบัติจริง ทั้งในโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และศูนย์อบรมต้นแบบของโครงการ RIECE Thailand ภายใต้การสอนการดูแลของคณาจารย์ที่มีความเชี่ยวชาญในการออกแบบกระบวนการเรียนรู้ ผ่านการลงมือปฏิบัติ (Active Learning) และมีประสบการณ์ในการสอนแบบไฮสโคป (HighScope) เน้นจิตวิทยาพัฒนาการเด็กปฐมวัย และการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ เมื่อจบการศึกษาจะได้รับปริญญาศึกษาศาสตรบัณฑิต (ศษ.บ.) สาขาวิชาการศึกษาปฐมวัย ทั้งยังสามารถประกอบอาชีพได้หลากหลาย อาทิ ครูปฐมวัยหรือครูโรงเรียนอนุบาลในโรงเรียนของรัฐบาลและเอกชน, นักวิชาการด้านการศึกษาปฐมวัย, นักเขียน ผู้แต่งนิทาน, ผู้ผลิตสื่อการสอน นิทาน ของเล่น หรือสื่อการศึกษาปฐมวัย เป็นต้น
ที่มา; เว็บ สำนักงานรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ
ข่าวที่ 17/2562 รมว.ศธ.ร่วมงานเปิดตัว "รร.สาธิต มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย" หลักสูตร HighScope เน้นพัฒนาสมองผ่านการลงมือทำ
นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ปาฐกถาพิเศษในงานเปิดตัว "คณะการศึกษาปฐมวัยและโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย" เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 10 มกราคม 2562 โดยมี รศ.ดร.เสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย, นายกลินท์ สารสิน นายกสภามหาวิทยาลัยหอการค้าไทย, รศ.ดร. วีระชาติ กิเลนทอง หัวหน้าโครงการ Reducing Inequality through Early Childhood Education หรือ REICE, Mr. Andrew Mellor, Regional Business Development Manager, University of London, ผู้บริหารสถาบันอุดมศึกษา และคณาจารย์ เข้าร่วมงาน ณ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า การจัดการศึกษาปฐมวัยในประเทศไทยมีหลากหลายรูปแบบ ทั้งโรงเรียนอนุบาลในสังกัดของรัฐบาล เอกชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งจากการวิจัยต่าง ๆ ทั่วโลกพบว่า การดูแลเด็กตั้งแต่ระดับปฐมวัยให้ดี จะทำให้เติบโตเป็นคนที่มีคุณภาพชีวิตที่ดี ประกอบกับการวิจัยของศาสตราจารย์ James J. Heckman มหาวิทยาลัยชิคาโก สหรัฐอเมริกา ยังพบว่า การลงทุนในทรัพยากรมนุษย์ตั้งแต่ปฐมวัย จะเกิดความคุ้มค่าและได้ผลตอบแทนมากที่สุด
สำหรับการจัดการเรียนการสอนแบบไฮสโคป (HighScope) ที่มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย นำมาปรับใช้กับจัดการเรียนการสอนเด็กปฐมวัยนั้น ช่วยฝึกความคิด ฝึกสมอง และทำให้เกิดการพัฒนาสมองอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม การปฏิรูปและพัฒนาการศึกษาในหลายเรื่อง ต้องอาศัยระยะเวลาจึงจะเห็นผล โดยเฉพาะการนำประเทศไปสู่ประเทศไทย 4.0 ที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม ต้องเปิดรับรูปแบบและแนวคิดที่ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น การที่มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยได้เริ่มหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย ถือเป็นการเริ่มต้นที่กล้าหาญ แม้ว่าในช่วงแรกอาจพบปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินงานบ้าง แต่เชื่อว่าเป็นการดำเนินงานที่มาถูกทางแล้ว
รศ.ดร. เสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย จัดการศึกษาชั้นเตรียมอนุบาลถึงอนุบาล 3 โดยใช้หลักสูตรไฮสโคป (HighScope) ซึ่งได้รับการพิสูจน์จากงานวิจัยของศาสตราจารย์ James J. Heckman มหาวิทยาลัยชิคาโก สหรัฐอเมริกา และเป็นนักเศรษฐศาสตร์รางวัลโนเบล โดยพบว่า การจัดการเรียนรู้แบบไฮสโคป ช่วยให้ผู้เรียนมีรายได้สูง ก่ออาชญากรรมและติดยาเสพติดน้อยกว่า เมื่อเปรียบเทียบกับเด็กที่เรียนในรูปแบบปกติ และสามารถสรุปผลในเชิงเศรษฐศาสตร์ได้ว่า หลักสูตรไฮสโคปให้ผลประโยชน์ถึง 7 เท่าของต้นทุน โดยจะรับนักเรียนชั้นละไม่เกิน 25 คน เพื่อการดูแลอย่างทั่วถึง รวมทั้งสอนโดยครูปฐมวัยจริง ๆ ที่ได้รับการอบรมในสถานที่จริงอย่างเข้มข้นก่อนจะเริ่มสอน ทำให้มีความเชี่ยวชาญในการจัดการเรียนการสอนแบบไฮสโคปด้วย
มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย นำหลักสูตรไฮสโคป มาพัฒนาและทดลองใช้มาเป็นระยะเวลากว่า 5 ปี จนมีความเชี่ยวชาญในการจัดการเรียนรู้ในรูปแบบนี้ โดยเน้นการพัฒนาเด็ก ด้วยกระบวนการวางแผน-ลงมือทำ-ทบทวน (Plan-Do-Review) ฝึกการตัดสินใจ การทำงานอย่างเป็นระบบ รู้จักการรอคอย ให้เด็กได้ลงมือทำกิจกรรมผ่านสื่อและวัสดุอุปกรณ์ที่มีความหลากหลายและเหมาะสมกับวัย รวมทั้งได้สะท้อนความคิดผ่านขั้นตอนการทบทวนต่อไป
สำหรับคณะการศึกษาปฐมวัย มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยนักศึกษาจะได้ฝึกปฏิบัติจริง ทั้งในโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และศูนย์อบรมต้นแบบของโครงการ RIECE Thailand ภายใต้การสอนการดูแลของคณาจารย์ที่มีความเชี่ยวชาญในการออกแบบกระบวนการเรียนรู้ ผ่านการลงมือปฏิบัติ (Active Learning) และมีประสบการณ์ในการสอนแบบไฮสโคป (HighScope) เน้นจิตวิทยาพัฒนาการเด็กปฐมวัย และการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ เมื่อจบการศึกษาจะได้รับปริญญาศึกษาศาสตรบัณฑิต (ศษ.บ.) สาขาวิชาการศึกษาปฐมวัย ทั้งยังสามารถประกอบอาชีพได้หลากหลาย อาทิ ครูปฐมวัยหรือครูโรงเรียนอนุบาลในโรงเรียนของรัฐบาลและเอกชน, นักวิชาการด้านการศึกษาปฐมวัย, นักเขียน ผู้แต่งนิทาน, ผู้ผลิตสื่อการสอน นิทาน ของเล่น หรือสื่อการศึกษาปฐมวัย เป็นต้น
ที่มา; เว็บ สำนักงานรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น