อ่านชัด-อ่านครบ กด ดูเวอร์ชั่นสำหรับเว็บ (ด้านล่าง)
เรื่องใหม่น่าสนใจ (ทั้งหมด ที่ )
(เนื้อหา-ข้อสอบ 1,000 ชุุด หมื่นข้อ ภาค กข
+ 40 วิชาเอก) ที่ ห้องสอบด้านขวา หรือ
เว็บฟรีข้อสอบ 1,000 ชุด ที่ ติวสอบดอทคอม
คลิ๊ก www.tuewsob.com โดย อ.นิกร
( คลิ๊ก ) สมัครพัฒนาความรู้
( คลิ๊ก ) สมัครพัฒนาความรู้
เตรียมความรู้ผู้บริหารสถาน (รอง/ผอ.รร.)
เตรียมสอบติวสอบครูผู้ช่วยกรณีพิเศษ + ทั่วไป
ข่าวที่ 29/2562 ศธ. เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า ครั้งที่ 1/2562
กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า ครั้งที่ 1/2562 โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2562 เวลา 10.00-12.00 น. ณ ห้องประชุมราชวัลลภ กระทรวงศึกษาธิการ
ภายหลังการประชุม ได้มีการแถลงผลการประชุมโดยปลัดกระทรวงมหาดไทย พาณิชย์ สาธารณสุข ศึกษาธิการ และเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งในส่วนของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) นั้น นายการุณ สกุลประดิษฐ์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วย นายบุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้ ร่วมแถลงผลการประชุมในครั้งนี้ว่า นายกรัฐมนตรีได้ขอให้ทุกหน่วยงานเสนอความเห็นว่าต้องการให้ ศธ.เข้ามามีส่วนร่วมในการสนับสนุนภารกิจเรื่องใดบ้างในการบูรณาการการจัดการศึกษาร่วมกัน เช่น กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เสนอให้ ศธ.เร่งปลูกฝังเด็กในวัยเรียนเรื่องการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม ทั้งเรื่องการแยกขยะ การปลูกต้นไม้ หรือสำนักงาน ก.พ.ร. ก็ได้เสนอความเห็นต้องการให้ ศธ. เร่งการสร้างการรับรู้ด้านการศึกษา ให้ เป็นกระทรวงเพื่ออนาคตของชาติ ทำงานเชื่อมโยงกับหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อสร้าง Mindset ใหม่ของสังคม เช่น ไม่ใช่เรียนเพื่อปริญญา แต่เพื่อการมีงานทำ สร้างทักษะต่าง ๆ ที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21 ซึ่งนายกรัฐมนตรีเห็นด้วยว่าหลายกระทรวงต้องมองกันใหม่ที่จะให้เป็นกระทรวงเพื่ออนาคตของประเทศ
นายกรัฐมนตรีกำชับให้ ศธ.เร่งการพัฒนาศักยภาพเด็กในการก้าวสู่สากล โดยเฉพาะภาษาอังกฤษควรเน้นให้เด็กสามารถสื่อสารได้ มีการพัฒนาการเรียนการสอน Coding/Programming ในระดับพื้นฐานตั้งแต่ระดับประถมศึกษาปีที่ 1 เป็นต้น
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีต้องการให้ทุกหน่วยงานร่วมกันดูแลเด็กที่มีความยากจน ขาดโอกาสทางการศึกษา โดยขอให้ทุกหน่วยงานติดตามข้อมูลจาก Social Media หากพบเด็กที่มีฐานะยากจนเป็นพิเศษ แต่เรียนดี ขอ ให้ช่วยกันดูแลเพื่อให้เด็กได้มีโอกาสได้รับการศึกษาต่อ พร้อมกันนี้มอบหมายให้ ศธ.เร่งยกระดับการทดสอบระดับนานาชาติ เช่น โครงการประเมินผลนักเรียนร่วมกับนานาชาติ (PISA) ของไทยให้อยู่ในลำดับที่สูงขึ้น เนื่องจากคะแนน PISA เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดในการลงทุนของประเทศ รวมถึงการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) โดยกำชับให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนามนุษย์ ร่วมกันนำเรื่องดังกล่าวเป็นโจทย์ในการสนับสนุน ศธ. เพื่อร่วมพัฒนาเด็กให้ไปสู่เป้าหมาย
ในส่วนของการลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับการศึกษาทุกระดับ โดยเฉพาะ กศน. ที่จะต้องจัดการศึกษาให้เทียบเคียงกับการสอนระบบปกติ ดูแลการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยให้กับกลุ่มแรงงานหรือผู้ใช้แรงงานด้วย อีกทั้งสถานศึกษาควรให้ความสำคัญกับการจัดกิจกรรมทั้งภายในและภายนอกโรงเรียนในการที่จะสร้างความสัมพันธ์ให้เกิดขึ้นทั้ง 3 ส่วน คือ "เด็ก-ครู-ผู้ปกครอง"
นายกรัฐมนตรียังได้ขอให้ ศธ.ช่วยสร้างการรับรู้ด้วยข้อเท็จจริงไปยังสถานศึกษา เช่น สถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 โดยสามารถนำข้อมูลจากสำนักโฆษกฯ ไปสร้างการรับรู้ให้เกิดขึ้น เพื่อให้ทุกคนช่วยกันลดปริมาณฝุ่นละอองในอากาศลงให้ได้ ซึ่ง สพฐ.ได้เน้นย้ำให้สถานศึกษาติดตามสถานการณ์ ข่าวสารใกล้ชิด และดูว่าที่ตั้งของโรงเรียนเป็นจุดที่เกิดวิกฤตหรือไม่ รวมถึงต้องให้ความรู้แก่นักเรียนในการสังเกตตัวเองหากกรณีเกิดอาการแพ้จากฝุ่นเป็นอย่างไร ทั้งนี้ จะได้แจ้งเพิ่มเติมขอให้ครูประจำชั้นเอาใจใส่ ติดตามดูแลเด็กเป็นพิเศษ โดยเฉพาะเด็กที่มีโรคประจำตัวและมีการติดต่อประสานกับแพทย์ โรงพยาบาลกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน แต่การประกาศให้ลด หรืองดกิจกรรมกลางแจ้งนั้น หากโรงเรียนอยู่ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงค่าฝุ่นละอองสูงเกินมาตรฐาน ผู้อำนวยการสถานศึกษาซึ่งอยู่หน้างานสามารถพิจารณาสั่งงดกิจกรรม ลดกิจกรรม หรือเลือกสถานที่จัดกิจกรรมที่เหมาะสมได้ทันที
ในเรื่องการสร้างความรู้ความเข้าใจแก่ประชาชนเกี่ยวกับเรื่องการเลือกตั้งนั้น นายกรัฐมนตรีย้ำว่าข้อเท็จจริงที่เป็นไปได้ เป็นไปไม่ได้ ขอให้ทำความเข้าใจแก่ประชาชน ต้องการให้ข้าราชการและครูทำความเข้าใจแก่ประชาชนในเรื่องที่มีข้อมูลข่าวสาร ไม่ได้ย้ำถึงการวางตัวช่วงเลือกตั้งเพราะยังไม่มีภารกิจ แต่สำหรับ สพฐ.ซึ่งมีบุคลากรครูกว่า 4 แสนคน ได้ออกหนังสือซึ่งเป็นไปตามกฎหมายแจ้งการปฏิบัติตนในฐานะข้าราชการ โดยย้ำเรื่องการวางตัวเป็นกลางทางการเมือง
ส่วนประเด็นที่มีการเรียกร้องให้เลื่อนวันสอบการทดสอบความถนัดทั่วไป หรือ GAT และการทดสอบความถนัดทางวิชาชีพ/วิชาการ หรือ PAT มาเป็นกำหนดเดิมคือ 23-26 กุมภาพันธ์ 2562 หากมีการเลื่อนเลือกตั้งออกไปนั้น นายกรัฐมนตรีไม่ได้มีการสอบถามในการประชุมครั้งนี้ แต่ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ มีนโยบายแล้วว่า หากมีการประกาศเลื่อนเลือกตั้ง ก็ให้คืนวันสอบแก่นักเรียน แต่ขอให้รอจนกว่าจะมีความชัดเจน
เตรียมความรู้ผู้บริหารสถาน (รอง/ผอ.รร.)
เตรียมสอบติวสอบครูผู้ช่วยกรณีพิเศษ + ทั่วไป
ข่าวที่ 29/2562 ศธ. เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า ครั้งที่ 1/2562
กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า ครั้งที่ 1/2562 โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2562 เวลา 10.00-12.00 น. ณ ห้องประชุมราชวัลลภ กระทรวงศึกษาธิการ
ภายหลังการประชุม ได้มีการแถลงผลการประชุมโดยปลัดกระทรวงมหาดไทย พาณิชย์ สาธารณสุข ศึกษาธิการ และเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งในส่วนของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) นั้น นายการุณ สกุลประดิษฐ์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วย นายบุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้ ร่วมแถลงผลการประชุมในครั้งนี้ว่า นายกรัฐมนตรีได้ขอให้ทุกหน่วยงานเสนอความเห็นว่าต้องการให้ ศธ.เข้ามามีส่วนร่วมในการสนับสนุนภารกิจเรื่องใดบ้างในการบูรณาการการจัดการศึกษาร่วมกัน เช่น กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เสนอให้ ศธ.เร่งปลูกฝังเด็กในวัยเรียนเรื่องการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม ทั้งเรื่องการแยกขยะ การปลูกต้นไม้ หรือสำนักงาน ก.พ.ร. ก็ได้เสนอความเห็นต้องการให้ ศธ. เร่งการสร้างการรับรู้ด้านการศึกษา ให้ เป็นกระทรวงเพื่ออนาคตของชาติ ทำงานเชื่อมโยงกับหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อสร้าง Mindset ใหม่ของสังคม เช่น ไม่ใช่เรียนเพื่อปริญญา แต่เพื่อการมีงานทำ สร้างทักษะต่าง ๆ ที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21 ซึ่งนายกรัฐมนตรีเห็นด้วยว่าหลายกระทรวงต้องมองกันใหม่ที่จะให้เป็นกระทรวงเพื่ออนาคตของประเทศ
ในส่วนของการลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับการศึกษาทุกระดับ โดยเฉพาะ กศน. ที่จะต้องจัดการศึกษาให้เทียบเคียงกับการสอนระบบปกติ ดูแลการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยให้กับกลุ่มแรงงานหรือผู้ใช้แรงงานด้วย อีกทั้งสถานศึกษาควรให้ความสำคัญกับการจัดกิจกรรมทั้งภายในและภายนอกโรงเรียนในการที่จะสร้างความสัมพันธ์ให้เกิดขึ้นทั้ง 3 ส่วน คือ "เด็ก-ครู-ผู้ปกครอง"
นายกรัฐมนตรียังได้ขอให้ ศธ.ช่วยสร้างการรับรู้ด้วยข้อเท็จจริงไปยังสถานศึกษา เช่น สถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 โดยสามารถนำข้อมูลจากสำนักโฆษกฯ ไปสร้างการรับรู้ให้เกิดขึ้น เพื่อให้ทุกคนช่วยกันลดปริมาณฝุ่นละอองในอากาศลงให้ได้ ซึ่ง สพฐ.ได้เน้นย้ำให้สถานศึกษาติดตามสถานการณ์ ข่าวสารใกล้ชิด และดูว่าที่ตั้งของโรงเรียนเป็นจุดที่เกิดวิกฤตหรือไม่ รวมถึงต้องให้ความรู้แก่นักเรียนในการสังเกตตัวเองหากกรณีเกิดอาการแพ้จากฝุ่นเป็นอย่างไร ทั้งนี้ จะได้แจ้งเพิ่มเติมขอให้ครูประจำชั้นเอาใจใส่ ติดตามดูแลเด็กเป็นพิเศษ โดยเฉพาะเด็กที่มีโรคประจำตัวและมีการติดต่อประสานกับแพทย์ โรงพยาบาลกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน แต่การประกาศให้ลด หรืองดกิจกรรมกลางแจ้งนั้น หากโรงเรียนอยู่ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงค่าฝุ่นละอองสูงเกินมาตรฐาน ผู้อำนวยการสถานศึกษาซึ่งอยู่หน้างานสามารถพิจารณาสั่งงดกิจกรรม ลดกิจกรรม หรือเลือกสถานที่จัดกิจกรรมที่เหมาะสมได้ทันที
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น