ข้อสอบออนไลน์ ( สอบครู - ผู้บริหาร - บุคลากรการศึกษา) ชุดใหม่ล่าสุด
ติวสอบออนไลน์ชุดสรุปย่อความรอบรู้ทั่วไป
ลิงค์ข้อสอบ ที่เกี่ยวข้องกับ "นโยบายรัฐบาล" โดยติวสอบดอทคอม
http://tuewsob.blogspot.com/2013/11/blog-post_4.html
http://www.tuewsob.com/rr164.html
http://www.tuewsob.com/rr% 20157% 20PU% 201.html
http://tuewsob.blogspot.com/2013/10/132556.html
http://tuewsob.blogspot.com/2013/10/blog-post_31.html
http://www.tuewsob.com/rr164.html
http://www.tuewsob.com/rr% 20157% 20PU% 201.html
http://tuewsob.blogspot.com/2013/10/132556.html
http://tuewsob.blogspot.com/2013/10/blog-post_31.html
สายหยุดอ้างป๋า พยักหน้า โวยทส.ปฏิเสธได้ไง จวกทำเสียหน้า มาร์คแจงพัลวัน โต้แอบเจรจาลับ
"เทือก"นำฉลอง ม็อบยาว180วัน
"สายหยุด"อ้าง ป๋าเปรมพยักหน้ารับแล้ว โวยทส.ปฏิเสธได้ไงทำให้เสียหน้า "มาร์ค"โต้พัลวันข่าวแอบเจรจาลับดับวิกฤต "สมชัย"ตั้งโจทย์รับเลือกตั้ง สัมมนาจนท.กกต.ร่วมหาทางออก 13 ปัญหา ก่อนอุบไต๋หวั่นป่วนซ้ำ ย้ำวันเลือกตั้ง 20 ก.ค.เตรียมเข้าหารือรัฐบาล 30 เม.ย.นี้ พท. จี้ขยับวันเข้าคูหาเร็วขึ้น เชื่อเป็นทางออกประเทศ ซัด "มาร์ค-เทือก" สวมบท "พระเอก-ผู้ร้าย" แยกกันเล่นหวังดึงเรตติ้งปชป. แนะมาร์คคนแรกที่ควรพบคือ "เทือก" นพดล ย้ำ "แม้ว-ปู" พร้อมคุยด้วย องอาจจี้ "ปู" ลาออกแบบนายกฯ เกาหลีใต้ ยันหัวหน้ามาร์คจริงใจไร้เจตนาแฝง บก.ทท.สั่งงดวิจารณ์ ใบปลิวจี้ผู้บังคับบัญชากอบกู้ศักดิ์ศรีทหาร ม็อบเทือกเดินสายเรียกแขกย่านบางแคก่อนกลับสวนลุมฯจัดงาน 180 วันม็อบนกหวีด
สมชัยตั้งโจทย์หาทางออกเลือกตั้ง
วัน ที่ 27 เม.ย. นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง เปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 26-27 เม.ย.ที่ผ่านมา กกต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้งประชุมเพื่อหาแนวทางการจัดเลือกตั้งส.ส. ทั่วไปครั้งใหม่ โดยตนนำปัญหาจากการเลือกตั้ง ส.ส. เมื่อวันที่ 2 ก.พ. ซึ่งไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ มาตั้งเป็นโจทย์ 13 ข้อ ให้ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กกต.ร่วมกันเสนอแนวทางป้องกันและแก้ไข โจทย์ทั้ง 13 ข้อประกอบด้วย 1.จะมีวิธีการอย่างไรเพื่อให้การรับสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อและจับสลากเลขหมายพรรคการเมืองประสบความสำเร็จ 2.จะมีวิธีการอย่างไรเพื่อให้การรับสมัคร ส.ส.เขต ทั้ง 375 เขตประสบความสำเร็จ ทั้งนี้เนื่องจากในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมามี 28 เขต ที่มีผู้ประสงค์จะสมัครแต่ไม่สามารถเข้าไปสมัครได้ เป็นสาเหตุหลักที่นำไปสู่คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญให้การเลือกตั้ง 2 ก.พ. 2557 มิชอบโดยไม่สามารถจัดการเลือกตั้งทั่วไปในวันเดียวกันทั้งประเทศ
รับมือวันสมัคร-สกัดขวางเข้าคูหา
นาย สมชัยกล่าวว่า 3.การตรวจสอบคุณสมบัติผู้สมัครที่ต้องเกี่ยวข้องกับหน่วยงานราชการอื่นๆ จำนวน 13 หน่วยงานจะมีวิธีการประสานงานให้เกิดความถูกต้องและได้รับคำตอบตามกำหนดการ ได้อย่างไร 4.จะมีวิธีการอย่างไรหากกระบวนการจัดพิมพ์บัตรเลือกตั้งถูกขัดขวาง 5.การขนส่งบัตรจากส่วนกลางไปยังแต่ละจังหวัดจะทำอย่างไรเพื่อไม่ให้ถูกสกัด กั้น 6.การกระจายบัตรและอุปกรณ์เลือกตั้งต่างๆ ให้กับกรรมการประจำหน่วย (กปน.) จะทำอย่างไรโดยไม่ถูกขัดขวาง 7.วันเลือกตั้งล่วงหน้าซึ่งมีประมาณ 1,100 หน่วย จะมีวิธีการอย่างไรไม่ให้ถูกขัดขวาง 8.การจัดหากปน. จะมีวิธีการอย่างไรในกรณีที่มีการถอนตัวกะทันหัน รวมถึงการถูกข่มขู่คุกคามให้ถอนตัว 9.การเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรจะทำอย่างไรให้มีผู้มาใช้สิทธิ์เพิ่มขึ้น 10.การจัดส่งบัตรเลือกตั้งจากประเทศต่างๆ จะมีวิธีการควบคุมอย่างไรให้บัตรกลับมาประเทศไทยครบและตรงตามกำหนด 11.ในวันเลือกตั้งจริงหากมีการขัดขวางการเลือกตั้ง จะมีแนวทางการจัดการที่เหมาะสมอย่างไรซึ่งไม่พัฒนาไปสู่เหตุการณ์รุนแรงจน เกิดการปะทะ 12.การจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการหรือศูนย์อำนวยการเลือกตั้งเพื่อการตัดสินใจ แก้ไขปัญหาแบบมีประสิทธิภาพ และ 13.ปัญหาการใช้สื่อวิทยุท้องถิ่นและสื่ออิเล็กทรอนิกส์ที่มีผลต่อบรรยากาศ การเลือกตั้งจะมีช่องทางทางกฎหมายอย่างไรเพื่อจัดการในประเด็นดังกล่าว
อุบไต๋คำตอบหวั่นถูกป่วนซ้ำ
กก ต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวว่า จากการประชุมที่ผ่านมาผู้บริหารและ เจ้าหน้าที่กกต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้งสามารถหาคำตอบให้กับโจทย์ทั้ง 13 ข้อ ที่อาจเป็นปัญหาต่อการจัดเลือกตั้ง คำตอบที่ได้มานั้นเป็นที่น่าพอใจและเชื่อว่าน่าจะเป็นแนวทางทำให้การเลือก ตั้งประสบความสำเร็จได้ โดยตนจะนำผลคำตอบนี้เข้าที่ประ ชุมกกต.ในวันที่ 29 เม.ย. เพื่อนำไปเป็นข้อมูลประกอบการหารือกับรัฐบาลในวันที่ 30 เม.ย.นี้ คำตอบดังกล่าวนี้กกต.จะไม่เปิดเผยให้สาธารณะทราบ เนื่องจากจะนำไปใช้ปฏิบัติจริงเพื่อเป็นแนวทางและมาตรการป้องกันหากการเลือก ตั้งเกิดปัญหาหรือถูกขัดขวาง เกรงว่าหากเปิดเผยออกไปจะทำให้เกิดอุปสรรค
เตรียมหารือปรับแก้ข้อระเบียบ
ที่ โรงแรมรามาการ์เด้นส์ ในการสัมมนาตรวจติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงานของสำนักคณะกรรมการการเลือก ตั้ง ประจำปีงบประมาณ 2557 นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมหารือของคณะกรรม การการเลือกตั้งวันที่ 28 เม.ย.นี้ว่า จะประชุมเพื่อสรุปการประกาศผลการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา ซึ่งตามกฎหมายกำหนดให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน นอกจากนี้จะประชุมเพื่อปรับปรุงแก้ไขระเบียบต่างๆ สืบเนื่องจากการตัดสินให้การเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ.ไม่ชอบตามรัฐธรรมนูญ กกต.จึงมอบส่วนงานบริหารการเลือกตั้งส่วนต่างๆ ให้ระดมความคิดเพื่อจัดการเลือกตั้งครั้งใหม่ โดยทำมาตั้งแต่สัปดาห์ก่อนแล้วว่าระเบียบใดที่กกต.สามารถปรับเปลี่ยนได้ เช่น การเลือกตั้งนอกเขตเลือกตั้ง การลงทะเบียนการเลือกตั้งผ่านจดหมายลงทะเบียน การลงสมัครผ่านระบบอินเตอร์ เน็ต และเตรียมจัดหากรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งทดแทน
เตรียมหารือรัฐบาลย้ำวันกา20ก.ค.
เลขาธิการ กกต.กล่าวต่อว่า สำหรับประเด็นการปรึกษากับรัฐบาลในวันที่ 30 เม.ย.นี้ เวลา 14.00 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง คือจากการหารือกับหน่วยงานความมั่นคงและพรรคการเมือง 58 พรรค จะนำไปปรึกษาว่าวันเวลาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับจัดการเลือกตั้งคือวันที่ 20 ก.ค.หรือบวกลบ เหตุผลคือหากจัดการเลือกตั้งวันที่ 15 มิ.ย.อย่างที่บางพรรคการเมืองต้องการนั้นในทางปฏิบัติไม่สามารถดำเนินการได้ ซึ่งเป็นไปตามกรอบเวลาตามกฎหมาย วันที่ 20 ก.ค.จึงเป็นช่วงเวลาที่กกต.จะจัดการเลือกตั้งได้เรียบร้อย การเลือกตั้งแต่ละครั้งต้องใช้เวลาเตรียมการ หากรัฐบาลเห็นพ้องและสถานการณ์เรียบร้อยพอที่จะเลือกตั้งได้ก็ยังต้องเผื่อ เวลาในการกราบบังคมทูลโปรดเกล้าฯ พระราชกฤษฎีกา รวมทั้งยังต้องเตรียมการเลือกตั้งล่วงหน้า การทำทะเบียนการเลือกตั้งนอกเขต หากจะให้เลือกตั้งวันที่ 15 มิ.ย. คงไม่สามารถทำได้ทัน
ต่อข้อถามถึง การปรึกษาหารือกับหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายภุชงค์กล่าวว่านำเรียนประธานกกต.แล้ว แต่ตนยังไม่ทราบวัน เวลา ที่ชัดเจน รวมทั้งประเด็นการเข้ามาหารือ แต่จากการที่นายอภิสิทธิ์แถลงผ่านสื่อเห็นว่าเป็นหลักการกว้างๆ ที่ดีในเรื่องการปฏิรูปภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญ
พท.จี้ขยับวันเลือกตั้งเร็วขึ้น
ที่ พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่กกต.จะหารือกับรัฐบาลในวันที่ 30 เม.ย.นี้ เพื่อกำหนดวันเลือกตั้งว่า พรรคเพื่อไทยและพรรคการเมืองส่วนใหญ่เคยทำหนังสือถึง กกต.ให้จัดการเลือกตั้งภายในกรอบ 60 วัน ดังนั้น ขอให้ กกต.พิจารณาข้อเสนอพรรคการ เมืองในประเด็นนี้ด้วย เพราะในส่วนที่ กกต.กำหนดวันเลือกตั้งเป็นวันที่ 20 ก.ค.นั้นเป็นเพียงข้อเสนอของนายสมชัย ขณะที่ก่อนหน้านี้กว่า 30 พรรคการเมืองทำหนังสือถึงนายกฯ ระบุขอให้จัดการเลือกตั้งเร็วกว่าวันที่ 20 ก.ค. การขยับวันเลือกตั้งให้เร็วขึ้นไม่ใช่ประโยชน์ของพรรคเพื่อไทยหรือพรรคร่วม รัฐบาล แต่จะเป็นประโยชน์ของประเทศ เพราะวิกฤตการเมืองขณะนี้ต้องแก้ด้วยการเลือกตั้ง ขณะที่ กกต.ซึ่งมีอำนาจจัดการเลือกตั้งต้องฟังเสียงประชาชน สมาชิกพรรคการเมือง และเสียงนานาชาติด้วย อย่าฟังเสียงนายสุเทพ และพรรคประชาธิปัตย์ แต่ขอให้ฟังเสียงประชาชน กกต.อย่าตั้งธง อย่าอ้างเรื่องเตรียมการไม่ทันหรือสถานการณ์ยังไม่สงบ ไม่อย่างนั้นจะถือว่ามีนัยยะทางการเมือง
แนะมาร์คคุยเทือกลงเลือกตั้ง
โฆษก พรรคเพื่อไทยกล่าวถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เดินสายพบแกนนำคนสำคัญ โดยในวันที่ 28 เม.ย.นี้จะไปพบผบ.สส. และวันที่ 29 เม.ย.พบ กกต.โดยจะหารือกับรัฐบาลและพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ด้วยว่า วิกฤตการเมืองขณะนี้ประชาชนทราบดีว่าเกิดจากนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. และนายอภิสิทธิ์ก็ยอมรับว่ามีส่วนทำให้เกิดวิกฤตการเมืองเพราะบอยคอตการ เลือกตั้ง สมาชิกบางส่วนก็ไปร่วมกับนาย สุเทพ หากนายอภิสิทธิ์บริสุทธิ์ใจและอยากไถ่บาปตัวเองก็เป็นเรื่องดี ขอให้กลับมาในกติกาประชาธิปไตย ต้องเลิกบอยคอตการเลือกตั้ง
นายพร้อม พงศ์กล่าวอีกว่า การเดินสายเป็นเพียงการสร้างภาพหาคะแนนนิยม หากจริงใจไม่ต้องเดินสายไปพบใคร ขอแนะนำ 3 ข้อ คือ 1.ปิดห้องคุยกับนายสุเทพให้รู้เรื่องว่าพรรคประชาธิปัตย์จะลงเลือกตั้ง เชื่อว่านายสุเทพจะไม่พูดว่านายอภิสิทธิ์สะเออะที่อยากจะแก้วิกฤต 2.แถลงยูทูบอีกรอบว่าพรรคประชาธิปัตย์พร้อมลงเลือกตั้ง จะไม่บอย คอตการเลือกตั้ง สนับสนุนการเลือกตั้งโดยเร็วที่สุด และ 3.นายอภิสิทธิ์ต้องแถลงเป็นกฎเหล็ก เรียกสมาชิกที่ไปร่วมกับ กปปส. ให้กลับพรรค และกลับมาทำหน้าที่สมาชิกพรรคในระบบรัฐสภา ส่วนการปฏิรูปตามที่นายอภิสิทธิ์ต้องการขอให้เสนอเป็นนโยบายและนำไปหาเสียง พรรคเพื่อไทยเห็นด้วยว่าเมื่อเลือกตั้งแล้วต้องปฏิรูป
ซัดแบ่งบทกันเล่นหวังดึงเรตติ้ง
นาย พร้อมพงศ์กล่าวด้วยว่า ได้รับทราบข้อมูลล่าสุดซึ่งต้องถามนายอภิสิทธิ์ว่าแกล้งทะเลาะกับนายสุเทพ แบ่งบทกันเล่นตามทฤษฎีสมคบคิดใช่หรือไม่ โดยรู้กันเพื่อเรียกเรตติ้งพรรคประชาธิปัตย์กลับคืนมา หลังกระแสประชาชนรับไม่ได้ที่พรรคประชาธิปัตย์บอยคอตเลือกตั้ง โดยนายสุเทพทำตัวเป็นผู้ร้าย ให้นายอภิสิทธิ์ทำตัวเป็นพระเอก แบ่งบทกันเล่นเพื่อรักษาพรรคประชาธิปัตย์เอาไว้ การเดินสายเพียงเพื่อฟอกตัวหรือไม่ เพราะองค์กรอิสระใกล้จะชี้ชะตานายกฯ นายอภิสิทธิ์รู้อะไรมาหรือไม่จึงชิงเดินสายหาทางออกก่อน เพราะข้อหาฉกรรจ์ที่พรรคประชาธิปัตย์แก้ไม่หลุดคือการบอยคอตเลือกตั้งจนทำ ให้เกิดวิกฤตจนการเลือกตั้งเป็นโมฆะ ดังนั้น ขอให้เลิกเล่นละครการเมือง หยุดสร้างภาพหาคะแนน
ชี้คนแรกที่มาร์คควรเข้าพบคือเทือก
ด้าน นายนพดล ปัทมะ กรรมการกิจการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการเดินสายพบปะกลุ่มต่างๆ ของนายอภิสิทธิ์ว่า เมื่อนายอภิสิทธิ์ยอมรับว่า กปปส.รวมถึงนายอภิสิทธิ์เป็นส่วนหนึ่งของปัญหา ดังนั้น การแก้ไขปัญหาที่ตรงจุดที่สุดคือพรรคประชาธิปัตย์ต้องลงเลือกตั้ง รวมทั้งต้องไปบอกนายสุเทพซึ่งเป็นอดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ให้ยุติการชุมนุมและกลับมาสู้ในวิถีประชาธิปไตย ง่ายกว่าการไปเดินสายหาบุคคลหรือกลุ่มอื่นๆ เนื่องจากเขาไม่ใช่ต้นตอปัญหา เพราะปัญหาอยู่ที่นายอภิสิทธิ์และนายสุเทพเท่านั้น
"คนแรกที่นาย อภิสิทธิ์ควรไปพบคือนายสุเทพ น่าแปลกที่ก่อนหน้านี้นายอภิสิทธิ์ก็เคยขึ้นเวทีร่วมกิจกรรมกับ กปปส. แต่มาวันนี้กลับทำตัวเหมือนอยู่คนละขั้วโลก ผมไม่รู้ว่านายอภิสิทธิ์มีอะไรในใจ ไม่รู้ว่าการเดินสายครั้งนี้เป็นเพียงปฏิบัติการประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างภาพ เท่านั้นหรือไม่" นายนพดลกล่าว และว่า เชื่อว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ปฏิบัติหน้าที่นายกฯ และ รมว.กลาโหม และพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ พร้อมพูดคุยกับนายอภิสิทธิ์ โดยเฉพาะพ.ต.ท.ทักษิณมีจุดยืนชัดเจน รวมทั้งรัฐบาลพรรคเพื่อไทยและกลุ่มคนเสื้อแดงที่เดินตามกติกาโดยตลอด เมื่อมีการยุบสภาเราก็คืนอำนาจให้ประชาชนตัดสินผ่านการเลือกตั้ง ขอยืนยันว่าการเลือกตั้งเท่านั้นที่เป็นทางออกของประเทศ
นายนพดล กล่าวต่อว่า เมื่อได้รัฐบาลใหม่เข้ามาก็จะทำหน้าที่ปฏิรูป โดยมีระยะเวลาปฏิบัติหน้าที่ไม่เกิน 1 ปี จากนั้นจะยุบสภา และเลือกตั้งใหม่ทันที ดังนั้น ก่อนที่นายอภิสิทธิ์จะมาหารือกับนายกฯ หรือพ.ต.ท. ทักษิณ นายอภิสิทธิ์ต้องไปคุยกับนายสุเทพก่อน
มาร์คโพสต์แจงเดินสายหาทางออก
วัน เดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า "ผมน้อมรับทุกความเห็นต่าง เห็นใจและเข้าใจเป็นพิเศษ ผู้ที่เหน็ดเหนื่อยต่อสู้เพื่อบ้านเมือง แต่ใครที่บอกผมไปแอบตกลงกับใครในทางลับ มีผลประโยชน์ของผมเกี่ยวข้อง กล่าวเท็จโดยสิ้นเชิงครับ"
นายอภิสิทธิ์ยังโพสต์ข้อความด้วยว่า วันนี้เดินหน้าอัดรายการกับรายการโทรทัศน์ อธิบายแนวทางในการแสวงหาคำตอบให้กับประเทศเพื่อให้พ้นวิกฤตและเปลี่ยนผ่าน บ้านเมืองได้ราบรื่นมากที่สุดบนกติกาที่ทุกฝ่ายยอมรับ เนื้อหาที่เสนอเป็นทางเลือกให้กับบ้านเมืองในเรื่องการปฏิรูปประเทศที่เรา สามารถใช้การเลือกตั้งเข้ามาเป็นส่วนหนึ่ง ในกระบวนการปฏิรูปประเทศได้ การเลือกตั้งคือส่วนสำคัญของระบอบประชาธิปไตย แต่ไม่ได้หมายความว่าการเลือกตั้งคือประชาธิปไตย เพราะมีหลายประเทศที่ไม่เป็นประชาธิปไตยแต่ก็มีการเลือกตั้ง หลักสากลจึงกล่าวถึงการเลือกตั้งที่เสรี เป็นธรรม เป็นการเลือกตั้งที่ประชาชนอยากมีส่วนร่วม ยอมรับ ปราศจากความรุนแรง วุ่นวาย หน้าที่ของพรรคการเมืองจึงไม่ใช่มีแค่การลงเลือกตั้งหวังชิงอำนาจแล้วยึด อำนาจ แต่ต้องมีส่วนร่วมในการแสวงหาทางออกให้ประเทศเดินหน้าบนความถูกต้อง
ถึงคิวเข้าพบผบ.สส.-กกต.
หัว หน้าพรรคประชาธิปัตย์ระบุอีกว่าหลังการเลือกตั้งประชาชนยังคงเป็นเจ้าของ อำนาจ มีสิทธิตรวจสอบนักการเมืองให้ใช้อำนาจนั้นเพื่อประโยชน์ของประเทศโดยพร้อม รับผิดชอบต่อประชาชน เหมือนอย่างที่นายกรัฐมนตรีเกาหลีใต้ลาออกเพราะโศกนาฏกรรมเรือเฟอร์รี่ ในวันที่ตนวางแนวทางว่าต้องก้าวข้ามการถกเถียงว่าจะปฏิรูปก่อนหรือหลังเลือก ตั้ง ตนถูกต่อว่าจากคนที่หนุนการปฏิรูปเสมือนว่าตนกระหายการเลือกตั้ง ทั้งๆ ที่ตนเพียงยอมรับความจริงว่าการจะปฏิรูปให้เสร็จก่อนการเลือกตั้งมีข้อจำกัด ทางรัฐธรรมนูญและกฎหมาย อีกทั้งจุดยืนตนชัดเจนว่าเลือกตั้งก่อนปฏิรูปไม่ได้ เพราะจะพาบ้านเมืองกลับเข้าสู่วิกฤตเดิมๆ
"ในวันจันทร์และวันอังคาร นี้ ผมมีโอกาสที่จะได้แลกเปลี่ยนแนวทางกับท่าน ผบ.ส.ส. และ กกต. ว่าอะไรคือเงื่อนไขที่จะทำให้การเลือกตั้งเรียบร้อยท่ามกลางความขัดแย้งใน ปัจจุบันและปัญหาคดีความที่จะตามมา ผมจะอยู่เฉยหรือเรียกร้องอย่างเดียวไม่ได้ แต่ต้องลงมือทำด้วย" หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุพร้อมทิ้งท้ายว่า เมื่อปี 2553 ตนถูกผู้ชุมนุมเรียกร้องให้ยุบสภา ก็บอกว่าต้องให้บรรยากาศบ้านเมืองเรียบร้อยก่อน เมื่อถึงเวลาก็ยุบสภาโดยไม่ต้องมีใครมาชุมนุมและไม่ได้คิดถึงความได้เปรียบ ในทางการเมือง นอกจากการปฏิบัติตามสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน ทำให้การเมืองเปลี่ยนผ่านได้อย่างราบรื่น
จี้ปูลาออกแบบนายกฯเกาหลีใต้
ที่ พรรคประชาธิปัตย์ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงการที่นายรัฐมนตรีเกาหลีใต้ประกาศลาออกจากตำแหน่งเพื่อแสดงความรับ ผิดชอบต่อกรณีเรือเซวอลล่มในทะเลจนทำให้นักเรียนเสียชีวิตจำนวนมาก ว่า กรณีดังกล่าวน่าจะเป็นอุทาหรณ์สอนใจน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ซึ่งเป็นผู้ทำให้เรือที่ชื่อว่าประเทศ ไทยล่มติดหล่มมาเป็นระยะเวลานาน แต่กลับไม่แสดงความรับผิดชอบ ทั้งๆ ที่มีส่วนทำให้รัฐนาวาประเทศไทยล่มในหลายกรณี ประกอบด้วย การออกกฎหมายนิรโทษกรรมเพื่อล้างผิดให้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี การออกกฎหมายล้างผิดให้คนโกงเป็นต้นเหตุของรูรั่ว การทุจริตเชิงนโยบายในโครงการรับจำนำข้าวที่ปล่อยปละละเลย ไม่ฟังเสียงท้วงติงจนส่งผลให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ตกเป็นผู้ถูกกล่าวหาซึ่งมีคดี ความอยู่ในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) รวมทั้งการใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบบริหารราชการแผ่นดิน หากน.ส. ยิ่งลักษณ์แสดงความรับผิดชอบตั้งแต่ต้นดังเช่นนายกฯ เกาหลีใต้ ปัญหาคงจะไม่ถลำลึกเช่นนี้ อยากให้น.ส.ยิ่งลักษณ์พิจารณากระทำเช่นนายกฯเกาหลีใต้ เพราะยังไม่สายหากจะเอาแบบอย่างเพื่อช่วยให้ปัญหาเบาบางลง
ยันอภิสิทธิ์จริงใจไร้เจตนาแฝง
รอง หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวถึงการที่นายอภิสิทธิ์เดินสายพบบุคคลต่างๆ เพื่อหาทางออกให้ประเทศว่า พรรคประชาธิปัตย์ขอยืนยันว่านายอภิสิทธิ์จริงจัง จริงใจ และอยากเป็นส่วนหนึ่งในการหาทางออกให้ประเทศ ไม่มีเจตนาแอบแฝงใดๆ เหมือนที่นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายพ.ต.ท.ทักษิณออกมากระแหนะกระแหนว่านายอภิสิทธิ์เสแสร้งและ ดัดจริต ตนมองว่าเป็นสิทธิ์ที่นายนพดลและคนในพรรคเพื่อไทยจะออกมาแสดงความคิดเห็น มีท่าทีล้อเลียน และไม่เห็นด้วยกับนายอภิสิทธิ์ แต่การ กระแหนะกระแหนนั้นไม่ก่อให้เกิดประ โยชน์ใดๆ แก่ประเทศไทย อะไรที่ช่วยแก้ปัญหาควรรับฟังและเปิดใจให้กว้าง เชื่อว่านายอภิสิทธิ์เคารพจุดยืนของทุกฝ่าย แต่หวังว่าทุกฝ่ายจะเคารพจุดยืนของนายอภิสิทธิ์เช่นกัน เสียงวิพากษ์วิจารณ์จากกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยคงไม่เป็นอุปสรรคในการเคลื่อนไหว เพื่อหาทางออกให้กับประเทศ นายอภิสิทธิ์ไม่มีอะไรแอบแฝง ไม่ทำเรื่องผิดเป็นถูกหรือถูกเป็นผิด แต่เข้าใจว่าจะให้ทุกฝ่ายเห็นด้วยเป็นเรื่องยาก ส่วนกำหนดการนัดหมายของนายอภิสิทธิ์ในสัปดาห์หน้ายังจะดำเนินต่อไป
ติงรบ.เลิกป้ายสีมือที่ 3 ก่อเหตุบึ้ม
นายองอาจ กล่าวถึงกรณีที่พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ระบุว่ามีมือที่ 3 แอบแฝงตัวอยู่ใน ผู้ชุมนุมกลุ่ม กปปส. เพื่อก่อเหตุความรุนแรงโดยเฉพาะเหตุการณ์ยิงระเบิดเอ็ม 79 ใส่สำนักพิมพ์เดลินิวส์และสำนักงานศาลปกครอง หรือสถานที่ต่างๆ ที่ผ่านมาว่าขอเรียกร้องให้พล.ท.ภราดรและรัฐบาลหยุดใส่ร้ายป้ายสีว่ามีมือ ที่ 3 แฝงตัวอยู่ในกลุ่ม กปปส. รัฐบาลรู้อยู่แก่ใจว่าจากการชุมนุมที่ต่อเนื่องมา 6 เดือน ความรุนแรงไม่ได้เกิดจากมือที่ 3 แต่เป็นมือที่ 1 มือที่มีอำนาจ เห็นได้จากฝ่ายที่โดนความรุนแรงมักอยู่ฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล การระบุว่าการจับกุมเอ็ม 79 ทำได้ยากเพราะมีการขนมาทางชายแดนติดประเทศกัมพูชาและพม่านั้น หากพล.ท.ภราดรรู้ว่าอาวุธเหล่านั้นมาจากที่ใด ในฐานะเลขาฯสมช.น่าจะทำงานแบบบูรณาการร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ต่างๆ ในการป้องกัน
สายหยุดยันป๋าเปรมพยักหน้ารับ
พล.อ.สายหยุด เกิดผล อดีตผบ.สส. ในฐานะประธานคณะรัฐบุคคล ให้สัมภาษณ์กรณีพล.ท.พิศณุ พุทธวงศ์ หัวหน้าสำนักงานมูลนิธิรัฐบุรุษพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ชี้แจงตอบโต้ว่าการที่พล.อ.เปรมเปิดโอกาสให้คณะรัฐบุคคลเข้าพบเพื่อรับทราบ ข้อมูลที่มาที่ไปและแนวคิดของรัฐบุคคลเท่านั้น ไม่ได้คิดไปไกลถึงการขอพึ่งพระบารมีให้ประเทศพ้นจากวิกฤตว่า แน่นอนว่าการเข้าไปพบพล.อ.เปรมในวันนั้นเพื่ออธิบายแนวคิดของคณะรัฐบุคคลให้ ทราบ โดยก่อนจากกันได้เน้นย้ำกับพล.อ.เปรมว่าจะให้ข่าวอย่างไรเพื่อป้องกันการ เข้าใจผิด ซึ่งพล.อ.เปรมก็พยักหน้าตอบรับ
"ผมบอกกับท่านแล้วว่าจะให้ ข่าวตามที่หารือกัน คือ 1.ท่านเชิญผมมา 2.เพื่อพิจารณาสถานการณ์บ้านเมืองในเวลานี้ และ 3.เห็นว่าข้อเสนอทางออกของประเทศจากวิกฤตการณ์ทางการเมืองของบุคคลต่างๆ ไม่มีความเป็นไปได้ และเมื่อดูประวัติศาสตร์ความขัดแย้งทางการเมืองที่ผ่านมา จะพบว่าหนทางที่เป็นทางออกของประเทศคือการอาศัยพระบารมีเพื่อแก้ไขปัญหาเท่า นั้น ดังนั้นพวกผมจะร่างพระบรมราชโองการขึ้นมาให้ท่านพิจารณา ซึ่งท่านก็พยักหน้าไม่ได้พูดอะไร ที่สำคัญคือก่อนจากกันผมยังพูดย้ำกับท่านอีกครั้งว่าจะให้ข่าวตามที่หารือ กัน 1 2 3 เพื่อที่เวลานักข่าวขอสัมภาษณ์จะได้ตอบตรงกัน" พล.อ. สายหยุดกล่าว
เตรียมเสนอผ่านสำนักราชเลขาฯ
ประธานคณะ รัฐบุคคลกล่าวต่อว่าพอข่าวออกมาในลักษณะตรงกันข้าม จึงโทรศัพท์ไปยังพล.อ.เปรมเพื่อสอบถามว่าถ้าท่านไม่เห็นด้วยทำไมท่านไม่พูด ออกมา ทำอย่างนี้ตนเสียหาย อย่างไรก็ตามคณะรัฐบุคคลยังคงเชื่อในแนวทางนี้เพราะมองไม่เห็นทางออกอื่น แล้ว ภายในสัปดาห์นี้จะดำเนินการร่างให้แล้วเสร็จ หากพล.อ.เปรมไม่เห็นด้วย พวกตนจะหาหนทางอื่นเสนอร่างหนังสือ เช่น สำนักราชเลขาธิการ เป็นต้น "ถ้าท่านไม่เห็นด้วยในแนวทางที่พวกผมนำเสนอก็ควรชี้แจงตั้งแต่ตอนนั้น ถ้าไม่เห็นด้วยทำไมท่านไม่พูด จะปล่อยให้บ้านเมืองเป็นอย่างนี้หรือ การที่พวกผมไปเสนอแนวคิดกับท่านก็เป็นเพราะให้เกียรติท่าน ที่อยู่ในตำแหน่งที่สามารถดำเนินการตรงนี้ได้ ถ้าทำได้จะเป็นผลดีต่อตัวท่านเอง" พล.อ.สายหยุดกล่าว
ธิดาชี้ขาดความรู้เรื่องพระราชอำนาจ
นาง ธิดา โตจิราการ ประธานที่ปรึกษานปช. กล่าวตอนหนึ่งระหว่างการปราศรัยที่จ.ชัยภูมิว่า การที่พล.อ.เปรมเรียกพล.อ.สายหยุดไปคุยนั้นเป็นเรื่องจริง การเรียกไปพูดคุยนั้นถือว่าพลาดอย่างมหันต์แล้ว เพราะเป็นถึงประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ กลับปล่อยพวกไดโนเสาร์ล้าหลังออกมาพูดเนื้อหาที่พูดคุยกันภายใน อย่างไรก็ตามในประเด็นนี้ทำให้เห็นว่าคนแก่เหล่านี้ไม่เชื่อมั่นในรัฏ ฐาธิปัตย์และตัวนายสุเทพ จึงรวมตัวกันไปปรึกษาพล.อ.เปรม ซึ่งไม่น่าเชื่อว่านายทหารระดับพลเอกคนนี้จะขาดความรู้ในเรื่องการบ้านการ เมืองมากขนาดนี้ เพราะพระบรมราชโองการเป็นพระราชอำนาจของในหลวงที่จะโปรดเกล้าฯ ลงมาตามพระราชประสงค์
ตือเป่าเค้กอยากเห็นบ้านเมืองสงบ
ที่ องค์การบริหารส่วนจังหวัดอ่างทอง นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รองหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา จัดงานวันเกิดครบรอบ 63 ปี โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ นักการเมือง พ่อค้า ประชาชน กลุ่มพลังมวลชน ร่วมอวยพร นายสมศักดิ์ เผยว่าของขวัญวันเกิดที่อยากได้คืออยากให้คนไทยกลับมารักกัน เมืองไทยจะได้กลับมาอยู่ภาวะปกติ บ้านเมืองกลับไปสู่ความสงบเรียบร้อย แล้วประเทศไทยจะเดินต่อไป เหลือเวลาอีก 300 วัน ประเทศไทยจะเข้าสู่ประชาคมอาเชียนแล้ว ถ้าบ้านเมืองยังอยู่ในสภาพนี้ประเทศไทยไปไม่ได้แน่นอน การชุมนุมไม่ว่าจะฝ่ายใดขอให้ใช้สติ ไม่อยากเห็นการปะทะกัน อยากให้อยู่บนเหตุผล
บก.ทท.สั่งงดวิจารณ์ใบปลิว
รายงาน ข่าวจากกองบัญชาการกองทัพไทย (บก.ทท.) แจ้งว่า จากกรณีใบปลิวในม็อบแจ้งวัฒนะวิจารณ์เหตุการณ์ยิงและรุมทำร้ายพ.อ.วิทวัส วัฒนกุล รองผอ.กองวิเทศสัมพันธ์ สำนักวิเทศสัมพันธ์ กรมข่าวทหาร บก.ทท. บาดเจ็บ โดยโจมตีผู้บังคับบัญชาทุกระดับที่ไม่ดูแลผู้ใต้บังคับบัญชา ปล่อยให้ถูกคุกคาม ทำร้าย รวมถึงบุกยึดสถานที่ราชการ ขัดขวางการทำงาน พร้อมเรียกร้องให้ผู้บังคับบัญชากอบกู้ศักดิ์ศรีทหาร โดยทางผู้บังคับบัญชามีคำสั่งห้ามนายทหารทุกระดับให้ความเห็นในกรณีดังกล่าว ต่อสื่อมวลชน หากมีชื่อใครปรากฏจะถือว่ามีความผิด เรื่องนี้พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผบ.สส.จะชี้แจงเองเท่านั้น
เสนอทหารแต่งชุดพลเรือน
รายงาน ข่าวแจ้งด้วยว่า เมื่อวันที่ 25 เม.ย. พล.อ.ท.อารมย์ ปัถวี เจ้ากรมกำลังพลทหาร ทำหนังสือถึงผบ.สส. เพื่อเสนอขอให้กำลังพลบก.ทท.แต่งชุดพลเรือนมาทำงาน เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนมาก โดยกำหนดให้ทหารชายใส่เสื้อเชิ้ตสแล็กสีพื้นสุภาพทับในกางเกง ส่วนทหารหญิงให้ใส่เสื้อสีสุภาพ สวมกระโปรง พร้อมติดบัตรแสดงตน สำหรับวันสำคัญของชาติและกองทัพให้แต่งเครื่องแบบทหาร โดยจะให้ทดลองสวมชุดพลเรือนแทนเครื่องแบบทหาร ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 2 พค.นี้ไปจนถึง เดือนมิ.ย. คำสั่งดังกล่าวนี้ถูกมองว่าเพื่อความปลอดภัยของกำลังพล ไม่ให้ทหารตกเป็นเป้าของกลุ่มมวลชนต่างๆ ที่ไม่พอใจ บทบาททหารในทางการเมือง รวมทั้งเหตุการ์ดกปปส.ยิงทหารบก.ทท.เมื่อ 24 เม.ย. ที่ผ่านมา
ขณะ เดียวกันแหล่งข่าวในบก.ทท. แจงว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์การ์ด กปปส.ยิงทหารบก.ทท. แต่ก็ทำให้เกิดความหวาดหวั่นว่าจะทำให้ทหารถูกยิงง่ายมากขึ้นเพราะไม่สวม เครื่องแบบ ยิ่งเมื่อต้องผ่านใกล้พื้นที่ชุมนุมแจ้งวัฒนะ อาจตกในอันตรายได้ เพราะเคยมีทหารยศสิบเอกขับขี่มอเตอร์ไซค์ถูกการ์ดกปปส.ยิงจากด้านหลัง
กปปส.เคลื่อนพลย่านบางแค
สำหรับ ความเคลื่อนไหวของกลุ่มกปปส.ในวันเดียวกัน เวลา 10.30 น. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการกปปส. พร้อมนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ และนายสกลธี ภัททิยกุล แกนนำ นำมวลชนเคลื่อนขบวนออกจากเวทีสวนลุมพินีไปยังเดอะมอลล์บางแค โดยใช้เส้นทางย่านบางแค ถนนเพชรเกษม สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสบางหว้า ผ่านห้างสรรพสินค้าซีคอนสแควร์ บางแค ตลาดบางแค และเดอะมอลล์บางแค รวมระยะทางราว 6 ก.ม. ก่อนนั่งรถกลับสวนลุมพินี โดยในช่วงเย็นมีการจัดกิจกรรมครบรอบ 180 วัน การชุมนุมของกลุ่ม กปปส. ซึ่งจะครบรอบในวันจันทร์ที่ 28 เม.ย.นี้
นัดถวายฎีกาที่วังไกลกังวล
ด้าน บรรยากาศการชุมนุมที่เวทีแจ้งวัฒนะ มวลชนทยอยต่อแถวรอตรวจสุขภาพกับหน่วยแพทย์เคลื่อนที่พุทธอิสระ พร้อมรับยารักษาโรค ขณะที่พุทธอิสระมานั่งร่วมดูการตรวจสุขภาพของผู้ชุมนุมพร้อมร่วมพูดคุยให้ กำลังใจ นอกจากนี้ ทีมงาน กปปส.แจ้งวัฒนะ แจกใบประกาศเชิญชวนมวลชนให้เตรียมตัวร่วมเดินทางไปถวายฎีกาและสวดมนต์ถวาย พระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ที่วังไกลกังวล หัวหิน จะนัดหมายวันเวลาอีกครั้ง
จารุพงศ์เชียร์กำนันทวงคืน มท.
เมื่อ วันที่ 27 เม.ย. นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ ปฏิบัติหน้าที่ รมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่กำนันผู้ใหญ่บ้านนัดชุมนุมใหญ่ในวันที่ 6 พ.ค. ซึ่งเป็นวันที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดไต่สวนพยานกรณีน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ โยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี อดีตเลขาฯ สมช.ว่า กรณีของศาลรัฐธรรมนูญไม่เกี่ยวข้องกับการชุมนุม แต่เป็นการที่กลุ่มกำนันผู้ใหญ่บ้านตัวจริง ไม่ใช่กำนันปลอมแบบนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. รู้สึกทนไม่ได้กับการที่กลุ่มสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ (สรส.) ยึดกระทรวงมหาดไทยมา 5 เดือนกว่าแล้ว และมีการทวงคืนหลายครั้งแต่ไม่สำเร็จ ตนในฐานะ รมว.มหาดไทยไม่ได้สั่งการให้ทำเช่นนั้น แต่ในเมื่อกลุ่มกำนันผู้ใหญ่บ้านคิดเช่นนั้นก็รู้สึกขอบคุณ
ต่อข้อ ถามว่า วันที่ 6 พ.ค.เป็นเงื่อนเวลาที่คิดได้ว่าอาจเป็นการแสดงพลังคัดค้านศาลรัฐธรรมนูญหรือ องค์กรอิสระ นายจารุพงศ์กล่าวว่า จะชุมนุมวันที่ 6 พ.ค.นั้นไม่ถูกต้องหรือ หรือว่าจะต้องชุมนุมหลังจากวันนั้นจึงจะถูกต้อง เรื่องแบบนี้อย่ามาถาม ทุกคนไม่ใช่เด็กอมมือ ก็รู้กันอยู่แล้ว แต่ยืนยันว่าการชุมนุมทั้งเมื่อวันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมาและวันที่ 6 พ.ค.เป็นเรื่องที่กลุ่มกำนันผู้ใหญ่บ้านคิดกันเอง ตนแค่รับทราบ ส่วนที่คาดการณ์ว่าหากมีการตัดสินให้ นายกฯ พ้นจากตำแหน่งจะเกิดวิกฤตในบ้านเมือง นายจารุพงศ์กล่าวว่า อย่าให้ตอบเลย เรื่องนี้คนทั่วไปก็ทราบ วันนี้ในบ้านเมืองต่างคนต่างพูด จุดไฟความร้อนมากขึ้น หยุดพูดบ้างได้หรือไม่ ความร้อนก็จะลดลง
กกต.จ่อรับรอง"หญิงเป็ด"-14ส.ว.
วัน ที่ 27 เม.ย. นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการ กกต. กล่าวถึงการประกาศรับรองผลการเลือกตั้งส.ว.ว่า ขณะนี้กกต.ประกาศรับรองผลการเลือกตั้งส.ว.ไปแล้วทั้งสิ้น 62 จังหวัด โดยมีจังหวัดที่กกต.ยังไม่ประกาศรับรองผลการเลือกตั้งเนื่องจากมีเรื่องร้อง เรียนเข้ามาและ อยู่ระหว่างการพิจารณาจำนวน 15 จังหวัด ประกอบด้วย คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ว่าที่ส.ว.กทม. นายบัณฑูรย์ เกียรติก้องชูชัย ว่าที่ส.ว.ชัยภูมิ นายมารุต โรจนาปิยาวงศ์ ว่าที่ส.ว.นครนายก นายพิพัฒน์ชัย ภัครัชตานนท์ ว่าที่ส.ว.เพชรบูรณ์ ด.ต.บุหลัน ราษฎร์คำพรรณ์ ว่าที่ส.ว.แพร่ นายสุรพล สันติโชตินันท์ ว่าที่ส.ว.แม่ฮ่องสอน นายศักดา ศรีวิริยะไพบูลย์ ว่าที่ส.ว.ระนอง นายประทวน สุทธิอำนวยเดช ว่าที่ส.ว.ลพบุรี นายวราวุฒิ หน่อคำ ว่าที่ส.ว.ลำปาง นายตรี ด่านไพบูลย์ ว่าที่ส.ว.ลำพูน น.ส.วิลดา อินฉัตร ว่าที่ส.ว.ศรีสะเกษ พล.อ.อ.สุจินต์ แช่มช้อย ว่าที่ส.ว.สุราษฎร์ธานี นายประพาส นวนสำลี ว่าที่ส.ว.หนองบัวลำภู นางญาณีนาถ เข็มนาค ว่าที่ส.ว.อำนาจเจริญ และนายสมชาย เหล่าสายเชื้อ ว่าที่ส.ว.อุบลราชธานี โดยกกต.จะพิจารณาเรื่องดังกล่าวในวันที่ 28 เม.ย.นี้ หากไม่สามารถดำเนินการสอบสวนแล้วเสร็จก็จะต้องประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ส.ว.ไปก่อน แล้วค่อยพิจารณาเรื่องร้องเรียนต่างๆ ต่อไปในภายหลัง
ยรรยงจี้ปปช.รุดตรวจสต๊อกข้าว
เมื่อ วันที่ 27 เม.ย. นายยรรยง พวงราช ปฏิบัติหน้าที่รมช.พาณิชย์ ลงพื้นที่ติดตามตรวจสอบการจัดเก็บข้าวสารในสต๊อกของรัฐบาล ที่คลังกลาง ณ คลังชุมแสงไทย โกลด์ไรซ์ และ หจก.โรงสีมงคลธัญญกิจ อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อตรวจสอบปริมาณและคุณภาพ สต๊อกข้าวของรัฐเพื่อเตรียมความพร้อมในการระบายข้าว
นายยรรยงให้ สัมภาษณ์ว่า คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ (ป.ป.ช.) ควรตรวจสอบสต๊อกข้าวของรัฐบาลก่อนพิจารณาตัดสินคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ของนายกรัฐมนตรี เพื่อให้มีข้อมูลที่ครบถ้วน ไม่ได้ยื้อเวลา แต่ควรตรวจสอบเพื่อไม่ให้การตัดสินคดีผิดพลาด ยืนยันว่าข้าวจำนวน 2.9 ล้านตันที่ระบุตัวเลขไม่ตรงกันและหายออกไปจากโกดังกลางนั้นไม่มีทางเป็นไป ได้เพราะมีผู้รับผิดชอบหลายส่วน การขนย้ายข้าวจำนวน 2.9 ล้านตัน ต้องใช้รถบรรทุกกว่า 85,000 เที่ยว จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีผู้รู้เห็น
"สำหรับ เงินทดรองจ่ายที่ใช้งบกลางจำนวน 2 หมื่นล้าน ที่นำมาจ่ายค่าจำนำข้าวให้ชาวนานั้น ขณะนี้กระทรวงพาณิชย์ระบายข้าวและได้เงินมาคืนให้กระทรวงการคลังแล้ว 15,490 ล้านบาท ยังค้างแค่ 4,000 ล้านบาท ที่เหลือระยะเวลาถึง 31 พ.ค.ตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้งกำหนดไว้ การคืนเงินดังกล่าวไม่น่าจะมีปัญหา กระทรวงพาณิชย์เตรียมเสนอเรื่องให้ครม.พิจารณาเพื่อขอใช้เงินทดรองจ่ายอีก 4 หมื่นล้านบาทจากงบกลางเพื่อมาจ่ายให้ชาวนาอีก ขณะนี้รัฐบาลยังค้างการจ่ายค่าจำนำข้าวให้ชาวนาประมาณ 90,000 ล้านบาท ถ้าได้เป็นรัฐบาลต่อชาวนาจะได้รับเงินทั้งหมดโดยเร็ว" รมช.พาณิชย์กล่าว
ด้าน นายวิชา มหาคุณ กรรมการป.ป.ช.ให้สัมภาษณ์กรณีที่ทนายความน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยื่นขอเพิ่มพยานอีก 7 ปากทั้งที่เป็นชื่อเดิมว่า ต้องรอมติที่ประชุม แม้จะเป็นชื่อเดิมก็ไม่เป็นไร พิจารณากันอีกได้ เพราะเรื่องนี้ขึ้นอยู่กับเหตุผลว่าเสนอมาเพราะอะไร เป็นพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องเพิ่มขึ้นหรือไม่ ไม่มีปัญหา
"เทือก"นำฉลอง ม็อบยาว180วัน
"สายหยุด"อ้าง ป๋าเปรมพยักหน้ารับแล้ว โวยทส.ปฏิเสธได้ไงทำให้เสียหน้า "มาร์ค"โต้พัลวันข่าวแอบเจรจาลับดับวิกฤต "สมชัย"ตั้งโจทย์รับเลือกตั้ง สัมมนาจนท.กกต.ร่วมหาทางออก 13 ปัญหา ก่อนอุบไต๋หวั่นป่วนซ้ำ ย้ำวันเลือกตั้ง 20 ก.ค.เตรียมเข้าหารือรัฐบาล 30 เม.ย.นี้ พท. จี้ขยับวันเข้าคูหาเร็วขึ้น เชื่อเป็นทางออกประเทศ ซัด "มาร์ค-เทือก" สวมบท "พระเอก-ผู้ร้าย" แยกกันเล่นหวังดึงเรตติ้งปชป. แนะมาร์คคนแรกที่ควรพบคือ "เทือก" นพดล ย้ำ "แม้ว-ปู" พร้อมคุยด้วย องอาจจี้ "ปู" ลาออกแบบนายกฯ เกาหลีใต้ ยันหัวหน้ามาร์คจริงใจไร้เจตนาแฝง บก.ทท.สั่งงดวิจารณ์ ใบปลิวจี้ผู้บังคับบัญชากอบกู้ศักดิ์ศรีทหาร ม็อบเทือกเดินสายเรียกแขกย่านบางแคก่อนกลับสวนลุมฯจัดงาน 180 วันม็อบนกหวีด
สมชัยตั้งโจทย์หาทางออกเลือกตั้ง
วัน ที่ 27 เม.ย. นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง เปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 26-27 เม.ย.ที่ผ่านมา กกต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้งประชุมเพื่อหาแนวทางการจัดเลือกตั้งส.ส. ทั่วไปครั้งใหม่ โดยตนนำปัญหาจากการเลือกตั้ง ส.ส. เมื่อวันที่ 2 ก.พ. ซึ่งไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ มาตั้งเป็นโจทย์ 13 ข้อ ให้ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กกต.ร่วมกันเสนอแนวทางป้องกันและแก้ไข โจทย์ทั้ง 13 ข้อประกอบด้วย 1.จะมีวิธีการอย่างไรเพื่อให้การรับสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อและจับสลากเลขหมายพรรคการเมืองประสบความสำเร็จ 2.จะมีวิธีการอย่างไรเพื่อให้การรับสมัคร ส.ส.เขต ทั้ง 375 เขตประสบความสำเร็จ ทั้งนี้เนื่องจากในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมามี 28 เขต ที่มีผู้ประสงค์จะสมัครแต่ไม่สามารถเข้าไปสมัครได้ เป็นสาเหตุหลักที่นำไปสู่คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญให้การเลือกตั้ง 2 ก.พ. 2557 มิชอบโดยไม่สามารถจัดการเลือกตั้งทั่วไปในวันเดียวกันทั้งประเทศ
รับมือวันสมัคร-สกัดขวางเข้าคูหา
นาย สมชัยกล่าวว่า 3.การตรวจสอบคุณสมบัติผู้สมัครที่ต้องเกี่ยวข้องกับหน่วยงานราชการอื่นๆ จำนวน 13 หน่วยงานจะมีวิธีการประสานงานให้เกิดความถูกต้องและได้รับคำตอบตามกำหนดการ ได้อย่างไร 4.จะมีวิธีการอย่างไรหากกระบวนการจัดพิมพ์บัตรเลือกตั้งถูกขัดขวาง 5.การขนส่งบัตรจากส่วนกลางไปยังแต่ละจังหวัดจะทำอย่างไรเพื่อไม่ให้ถูกสกัด กั้น 6.การกระจายบัตรและอุปกรณ์เลือกตั้งต่างๆ ให้กับกรรมการประจำหน่วย (กปน.) จะทำอย่างไรโดยไม่ถูกขัดขวาง 7.วันเลือกตั้งล่วงหน้าซึ่งมีประมาณ 1,100 หน่วย จะมีวิธีการอย่างไรไม่ให้ถูกขัดขวาง 8.การจัดหากปน. จะมีวิธีการอย่างไรในกรณีที่มีการถอนตัวกะทันหัน รวมถึงการถูกข่มขู่คุกคามให้ถอนตัว 9.การเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรจะทำอย่างไรให้มีผู้มาใช้สิทธิ์เพิ่มขึ้น 10.การจัดส่งบัตรเลือกตั้งจากประเทศต่างๆ จะมีวิธีการควบคุมอย่างไรให้บัตรกลับมาประเทศไทยครบและตรงตามกำหนด 11.ในวันเลือกตั้งจริงหากมีการขัดขวางการเลือกตั้ง จะมีแนวทางการจัดการที่เหมาะสมอย่างไรซึ่งไม่พัฒนาไปสู่เหตุการณ์รุนแรงจน เกิดการปะทะ 12.การจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการหรือศูนย์อำนวยการเลือกตั้งเพื่อการตัดสินใจ แก้ไขปัญหาแบบมีประสิทธิภาพ และ 13.ปัญหาการใช้สื่อวิทยุท้องถิ่นและสื่ออิเล็กทรอนิกส์ที่มีผลต่อบรรยากาศ การเลือกตั้งจะมีช่องทางทางกฎหมายอย่างไรเพื่อจัดการในประเด็นดังกล่าว
อุบไต๋คำตอบหวั่นถูกป่วนซ้ำ
กก ต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวว่า จากการประชุมที่ผ่านมาผู้บริหารและ เจ้าหน้าที่กกต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้งสามารถหาคำตอบให้กับโจทย์ทั้ง 13 ข้อ ที่อาจเป็นปัญหาต่อการจัดเลือกตั้ง คำตอบที่ได้มานั้นเป็นที่น่าพอใจและเชื่อว่าน่าจะเป็นแนวทางทำให้การเลือก ตั้งประสบความสำเร็จได้ โดยตนจะนำผลคำตอบนี้เข้าที่ประ ชุมกกต.ในวันที่ 29 เม.ย. เพื่อนำไปเป็นข้อมูลประกอบการหารือกับรัฐบาลในวันที่ 30 เม.ย.นี้ คำตอบดังกล่าวนี้กกต.จะไม่เปิดเผยให้สาธารณะทราบ เนื่องจากจะนำไปใช้ปฏิบัติจริงเพื่อเป็นแนวทางและมาตรการป้องกันหากการเลือก ตั้งเกิดปัญหาหรือถูกขัดขวาง เกรงว่าหากเปิดเผยออกไปจะทำให้เกิดอุปสรรค
เตรียมหารือปรับแก้ข้อระเบียบ
ที่ โรงแรมรามาการ์เด้นส์ ในการสัมมนาตรวจติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงานของสำนักคณะกรรมการการเลือก ตั้ง ประจำปีงบประมาณ 2557 นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมหารือของคณะกรรม การการเลือกตั้งวันที่ 28 เม.ย.นี้ว่า จะประชุมเพื่อสรุปการประกาศผลการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา ซึ่งตามกฎหมายกำหนดให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน นอกจากนี้จะประชุมเพื่อปรับปรุงแก้ไขระเบียบต่างๆ สืบเนื่องจากการตัดสินให้การเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ.ไม่ชอบตามรัฐธรรมนูญ กกต.จึงมอบส่วนงานบริหารการเลือกตั้งส่วนต่างๆ ให้ระดมความคิดเพื่อจัดการเลือกตั้งครั้งใหม่ โดยทำมาตั้งแต่สัปดาห์ก่อนแล้วว่าระเบียบใดที่กกต.สามารถปรับเปลี่ยนได้ เช่น การเลือกตั้งนอกเขตเลือกตั้ง การลงทะเบียนการเลือกตั้งผ่านจดหมายลงทะเบียน การลงสมัครผ่านระบบอินเตอร์ เน็ต และเตรียมจัดหากรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งทดแทน
เตรียมหารือรัฐบาลย้ำวันกา20ก.ค.
เลขาธิการ กกต.กล่าวต่อว่า สำหรับประเด็นการปรึกษากับรัฐบาลในวันที่ 30 เม.ย.นี้ เวลา 14.00 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง คือจากการหารือกับหน่วยงานความมั่นคงและพรรคการเมือง 58 พรรค จะนำไปปรึกษาว่าวันเวลาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับจัดการเลือกตั้งคือวันที่ 20 ก.ค.หรือบวกลบ เหตุผลคือหากจัดการเลือกตั้งวันที่ 15 มิ.ย.อย่างที่บางพรรคการเมืองต้องการนั้นในทางปฏิบัติไม่สามารถดำเนินการได้ ซึ่งเป็นไปตามกรอบเวลาตามกฎหมาย วันที่ 20 ก.ค.จึงเป็นช่วงเวลาที่กกต.จะจัดการเลือกตั้งได้เรียบร้อย การเลือกตั้งแต่ละครั้งต้องใช้เวลาเตรียมการ หากรัฐบาลเห็นพ้องและสถานการณ์เรียบร้อยพอที่จะเลือกตั้งได้ก็ยังต้องเผื่อ เวลาในการกราบบังคมทูลโปรดเกล้าฯ พระราชกฤษฎีกา รวมทั้งยังต้องเตรียมการเลือกตั้งล่วงหน้า การทำทะเบียนการเลือกตั้งนอกเขต หากจะให้เลือกตั้งวันที่ 15 มิ.ย. คงไม่สามารถทำได้ทัน
ต่อข้อถามถึง การปรึกษาหารือกับหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายภุชงค์กล่าวว่านำเรียนประธานกกต.แล้ว แต่ตนยังไม่ทราบวัน เวลา ที่ชัดเจน รวมทั้งประเด็นการเข้ามาหารือ แต่จากการที่นายอภิสิทธิ์แถลงผ่านสื่อเห็นว่าเป็นหลักการกว้างๆ ที่ดีในเรื่องการปฏิรูปภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญ
พท.จี้ขยับวันเลือกตั้งเร็วขึ้น
ที่ พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่กกต.จะหารือกับรัฐบาลในวันที่ 30 เม.ย.นี้ เพื่อกำหนดวันเลือกตั้งว่า พรรคเพื่อไทยและพรรคการเมืองส่วนใหญ่เคยทำหนังสือถึง กกต.ให้จัดการเลือกตั้งภายในกรอบ 60 วัน ดังนั้น ขอให้ กกต.พิจารณาข้อเสนอพรรคการ เมืองในประเด็นนี้ด้วย เพราะในส่วนที่ กกต.กำหนดวันเลือกตั้งเป็นวันที่ 20 ก.ค.นั้นเป็นเพียงข้อเสนอของนายสมชัย ขณะที่ก่อนหน้านี้กว่า 30 พรรคการเมืองทำหนังสือถึงนายกฯ ระบุขอให้จัดการเลือกตั้งเร็วกว่าวันที่ 20 ก.ค. การขยับวันเลือกตั้งให้เร็วขึ้นไม่ใช่ประโยชน์ของพรรคเพื่อไทยหรือพรรคร่วม รัฐบาล แต่จะเป็นประโยชน์ของประเทศ เพราะวิกฤตการเมืองขณะนี้ต้องแก้ด้วยการเลือกตั้ง ขณะที่ กกต.ซึ่งมีอำนาจจัดการเลือกตั้งต้องฟังเสียงประชาชน สมาชิกพรรคการเมือง และเสียงนานาชาติด้วย อย่าฟังเสียงนายสุเทพ และพรรคประชาธิปัตย์ แต่ขอให้ฟังเสียงประชาชน กกต.อย่าตั้งธง อย่าอ้างเรื่องเตรียมการไม่ทันหรือสถานการณ์ยังไม่สงบ ไม่อย่างนั้นจะถือว่ามีนัยยะทางการเมือง
แนะมาร์คคุยเทือกลงเลือกตั้ง
โฆษก พรรคเพื่อไทยกล่าวถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เดินสายพบแกนนำคนสำคัญ โดยในวันที่ 28 เม.ย.นี้จะไปพบผบ.สส. และวันที่ 29 เม.ย.พบ กกต.โดยจะหารือกับรัฐบาลและพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ด้วยว่า วิกฤตการเมืองขณะนี้ประชาชนทราบดีว่าเกิดจากนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. และนายอภิสิทธิ์ก็ยอมรับว่ามีส่วนทำให้เกิดวิกฤตการเมืองเพราะบอยคอตการ เลือกตั้ง สมาชิกบางส่วนก็ไปร่วมกับนาย สุเทพ หากนายอภิสิทธิ์บริสุทธิ์ใจและอยากไถ่บาปตัวเองก็เป็นเรื่องดี ขอให้กลับมาในกติกาประชาธิปไตย ต้องเลิกบอยคอตการเลือกตั้ง
นายพร้อม พงศ์กล่าวอีกว่า การเดินสายเป็นเพียงการสร้างภาพหาคะแนนนิยม หากจริงใจไม่ต้องเดินสายไปพบใคร ขอแนะนำ 3 ข้อ คือ 1.ปิดห้องคุยกับนายสุเทพให้รู้เรื่องว่าพรรคประชาธิปัตย์จะลงเลือกตั้ง เชื่อว่านายสุเทพจะไม่พูดว่านายอภิสิทธิ์สะเออะที่อยากจะแก้วิกฤต 2.แถลงยูทูบอีกรอบว่าพรรคประชาธิปัตย์พร้อมลงเลือกตั้ง จะไม่บอย คอตการเลือกตั้ง สนับสนุนการเลือกตั้งโดยเร็วที่สุด และ 3.นายอภิสิทธิ์ต้องแถลงเป็นกฎเหล็ก เรียกสมาชิกที่ไปร่วมกับ กปปส. ให้กลับพรรค และกลับมาทำหน้าที่สมาชิกพรรคในระบบรัฐสภา ส่วนการปฏิรูปตามที่นายอภิสิทธิ์ต้องการขอให้เสนอเป็นนโยบายและนำไปหาเสียง พรรคเพื่อไทยเห็นด้วยว่าเมื่อเลือกตั้งแล้วต้องปฏิรูป
ซัดแบ่งบทกันเล่นหวังดึงเรตติ้ง
นาย พร้อมพงศ์กล่าวด้วยว่า ได้รับทราบข้อมูลล่าสุดซึ่งต้องถามนายอภิสิทธิ์ว่าแกล้งทะเลาะกับนายสุเทพ แบ่งบทกันเล่นตามทฤษฎีสมคบคิดใช่หรือไม่ โดยรู้กันเพื่อเรียกเรตติ้งพรรคประชาธิปัตย์กลับคืนมา หลังกระแสประชาชนรับไม่ได้ที่พรรคประชาธิปัตย์บอยคอตเลือกตั้ง โดยนายสุเทพทำตัวเป็นผู้ร้าย ให้นายอภิสิทธิ์ทำตัวเป็นพระเอก แบ่งบทกันเล่นเพื่อรักษาพรรคประชาธิปัตย์เอาไว้ การเดินสายเพียงเพื่อฟอกตัวหรือไม่ เพราะองค์กรอิสระใกล้จะชี้ชะตานายกฯ นายอภิสิทธิ์รู้อะไรมาหรือไม่จึงชิงเดินสายหาทางออกก่อน เพราะข้อหาฉกรรจ์ที่พรรคประชาธิปัตย์แก้ไม่หลุดคือการบอยคอตเลือกตั้งจนทำ ให้เกิดวิกฤตจนการเลือกตั้งเป็นโมฆะ ดังนั้น ขอให้เลิกเล่นละครการเมือง หยุดสร้างภาพหาคะแนน
ชี้คนแรกที่มาร์คควรเข้าพบคือเทือก
ด้าน นายนพดล ปัทมะ กรรมการกิจการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการเดินสายพบปะกลุ่มต่างๆ ของนายอภิสิทธิ์ว่า เมื่อนายอภิสิทธิ์ยอมรับว่า กปปส.รวมถึงนายอภิสิทธิ์เป็นส่วนหนึ่งของปัญหา ดังนั้น การแก้ไขปัญหาที่ตรงจุดที่สุดคือพรรคประชาธิปัตย์ต้องลงเลือกตั้ง รวมทั้งต้องไปบอกนายสุเทพซึ่งเป็นอดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ให้ยุติการชุมนุมและกลับมาสู้ในวิถีประชาธิปไตย ง่ายกว่าการไปเดินสายหาบุคคลหรือกลุ่มอื่นๆ เนื่องจากเขาไม่ใช่ต้นตอปัญหา เพราะปัญหาอยู่ที่นายอภิสิทธิ์และนายสุเทพเท่านั้น
"คนแรกที่นาย อภิสิทธิ์ควรไปพบคือนายสุเทพ น่าแปลกที่ก่อนหน้านี้นายอภิสิทธิ์ก็เคยขึ้นเวทีร่วมกิจกรรมกับ กปปส. แต่มาวันนี้กลับทำตัวเหมือนอยู่คนละขั้วโลก ผมไม่รู้ว่านายอภิสิทธิ์มีอะไรในใจ ไม่รู้ว่าการเดินสายครั้งนี้เป็นเพียงปฏิบัติการประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างภาพ เท่านั้นหรือไม่" นายนพดลกล่าว และว่า เชื่อว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ปฏิบัติหน้าที่นายกฯ และ รมว.กลาโหม และพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ พร้อมพูดคุยกับนายอภิสิทธิ์ โดยเฉพาะพ.ต.ท.ทักษิณมีจุดยืนชัดเจน รวมทั้งรัฐบาลพรรคเพื่อไทยและกลุ่มคนเสื้อแดงที่เดินตามกติกาโดยตลอด เมื่อมีการยุบสภาเราก็คืนอำนาจให้ประชาชนตัดสินผ่านการเลือกตั้ง ขอยืนยันว่าการเลือกตั้งเท่านั้นที่เป็นทางออกของประเทศ
นายนพดล กล่าวต่อว่า เมื่อได้รัฐบาลใหม่เข้ามาก็จะทำหน้าที่ปฏิรูป โดยมีระยะเวลาปฏิบัติหน้าที่ไม่เกิน 1 ปี จากนั้นจะยุบสภา และเลือกตั้งใหม่ทันที ดังนั้น ก่อนที่นายอภิสิทธิ์จะมาหารือกับนายกฯ หรือพ.ต.ท. ทักษิณ นายอภิสิทธิ์ต้องไปคุยกับนายสุเทพก่อน
มาร์คโพสต์แจงเดินสายหาทางออก
วัน เดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า "ผมน้อมรับทุกความเห็นต่าง เห็นใจและเข้าใจเป็นพิเศษ ผู้ที่เหน็ดเหนื่อยต่อสู้เพื่อบ้านเมือง แต่ใครที่บอกผมไปแอบตกลงกับใครในทางลับ มีผลประโยชน์ของผมเกี่ยวข้อง กล่าวเท็จโดยสิ้นเชิงครับ"
นายอภิสิทธิ์ยังโพสต์ข้อความด้วยว่า วันนี้เดินหน้าอัดรายการกับรายการโทรทัศน์ อธิบายแนวทางในการแสวงหาคำตอบให้กับประเทศเพื่อให้พ้นวิกฤตและเปลี่ยนผ่าน บ้านเมืองได้ราบรื่นมากที่สุดบนกติกาที่ทุกฝ่ายยอมรับ เนื้อหาที่เสนอเป็นทางเลือกให้กับบ้านเมืองในเรื่องการปฏิรูปประเทศที่เรา สามารถใช้การเลือกตั้งเข้ามาเป็นส่วนหนึ่ง ในกระบวนการปฏิรูปประเทศได้ การเลือกตั้งคือส่วนสำคัญของระบอบประชาธิปไตย แต่ไม่ได้หมายความว่าการเลือกตั้งคือประชาธิปไตย เพราะมีหลายประเทศที่ไม่เป็นประชาธิปไตยแต่ก็มีการเลือกตั้ง หลักสากลจึงกล่าวถึงการเลือกตั้งที่เสรี เป็นธรรม เป็นการเลือกตั้งที่ประชาชนอยากมีส่วนร่วม ยอมรับ ปราศจากความรุนแรง วุ่นวาย หน้าที่ของพรรคการเมืองจึงไม่ใช่มีแค่การลงเลือกตั้งหวังชิงอำนาจแล้วยึด อำนาจ แต่ต้องมีส่วนร่วมในการแสวงหาทางออกให้ประเทศเดินหน้าบนความถูกต้อง
ถึงคิวเข้าพบผบ.สส.-กกต.
หัว หน้าพรรคประชาธิปัตย์ระบุอีกว่าหลังการเลือกตั้งประชาชนยังคงเป็นเจ้าของ อำนาจ มีสิทธิตรวจสอบนักการเมืองให้ใช้อำนาจนั้นเพื่อประโยชน์ของประเทศโดยพร้อม รับผิดชอบต่อประชาชน เหมือนอย่างที่นายกรัฐมนตรีเกาหลีใต้ลาออกเพราะโศกนาฏกรรมเรือเฟอร์รี่ ในวันที่ตนวางแนวทางว่าต้องก้าวข้ามการถกเถียงว่าจะปฏิรูปก่อนหรือหลังเลือก ตั้ง ตนถูกต่อว่าจากคนที่หนุนการปฏิรูปเสมือนว่าตนกระหายการเลือกตั้ง ทั้งๆ ที่ตนเพียงยอมรับความจริงว่าการจะปฏิรูปให้เสร็จก่อนการเลือกตั้งมีข้อจำกัด ทางรัฐธรรมนูญและกฎหมาย อีกทั้งจุดยืนตนชัดเจนว่าเลือกตั้งก่อนปฏิรูปไม่ได้ เพราะจะพาบ้านเมืองกลับเข้าสู่วิกฤตเดิมๆ
"ในวันจันทร์และวันอังคาร นี้ ผมมีโอกาสที่จะได้แลกเปลี่ยนแนวทางกับท่าน ผบ.ส.ส. และ กกต. ว่าอะไรคือเงื่อนไขที่จะทำให้การเลือกตั้งเรียบร้อยท่ามกลางความขัดแย้งใน ปัจจุบันและปัญหาคดีความที่จะตามมา ผมจะอยู่เฉยหรือเรียกร้องอย่างเดียวไม่ได้ แต่ต้องลงมือทำด้วย" หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุพร้อมทิ้งท้ายว่า เมื่อปี 2553 ตนถูกผู้ชุมนุมเรียกร้องให้ยุบสภา ก็บอกว่าต้องให้บรรยากาศบ้านเมืองเรียบร้อยก่อน เมื่อถึงเวลาก็ยุบสภาโดยไม่ต้องมีใครมาชุมนุมและไม่ได้คิดถึงความได้เปรียบ ในทางการเมือง นอกจากการปฏิบัติตามสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน ทำให้การเมืองเปลี่ยนผ่านได้อย่างราบรื่น
จี้ปูลาออกแบบนายกฯเกาหลีใต้
ที่ พรรคประชาธิปัตย์ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงการที่นายรัฐมนตรีเกาหลีใต้ประกาศลาออกจากตำแหน่งเพื่อแสดงความรับ ผิดชอบต่อกรณีเรือเซวอลล่มในทะเลจนทำให้นักเรียนเสียชีวิตจำนวนมาก ว่า กรณีดังกล่าวน่าจะเป็นอุทาหรณ์สอนใจน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ซึ่งเป็นผู้ทำให้เรือที่ชื่อว่าประเทศ ไทยล่มติดหล่มมาเป็นระยะเวลานาน แต่กลับไม่แสดงความรับผิดชอบ ทั้งๆ ที่มีส่วนทำให้รัฐนาวาประเทศไทยล่มในหลายกรณี ประกอบด้วย การออกกฎหมายนิรโทษกรรมเพื่อล้างผิดให้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี การออกกฎหมายล้างผิดให้คนโกงเป็นต้นเหตุของรูรั่ว การทุจริตเชิงนโยบายในโครงการรับจำนำข้าวที่ปล่อยปละละเลย ไม่ฟังเสียงท้วงติงจนส่งผลให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ตกเป็นผู้ถูกกล่าวหาซึ่งมีคดี ความอยู่ในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) รวมทั้งการใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบบริหารราชการแผ่นดิน หากน.ส. ยิ่งลักษณ์แสดงความรับผิดชอบตั้งแต่ต้นดังเช่นนายกฯ เกาหลีใต้ ปัญหาคงจะไม่ถลำลึกเช่นนี้ อยากให้น.ส.ยิ่งลักษณ์พิจารณากระทำเช่นนายกฯเกาหลีใต้ เพราะยังไม่สายหากจะเอาแบบอย่างเพื่อช่วยให้ปัญหาเบาบางลง
ยันอภิสิทธิ์จริงใจไร้เจตนาแฝง
รอง หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวถึงการที่นายอภิสิทธิ์เดินสายพบบุคคลต่างๆ เพื่อหาทางออกให้ประเทศว่า พรรคประชาธิปัตย์ขอยืนยันว่านายอภิสิทธิ์จริงจัง จริงใจ และอยากเป็นส่วนหนึ่งในการหาทางออกให้ประเทศ ไม่มีเจตนาแอบแฝงใดๆ เหมือนที่นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายพ.ต.ท.ทักษิณออกมากระแหนะกระแหนว่านายอภิสิทธิ์เสแสร้งและ ดัดจริต ตนมองว่าเป็นสิทธิ์ที่นายนพดลและคนในพรรคเพื่อไทยจะออกมาแสดงความคิดเห็น มีท่าทีล้อเลียน และไม่เห็นด้วยกับนายอภิสิทธิ์ แต่การ กระแหนะกระแหนนั้นไม่ก่อให้เกิดประ โยชน์ใดๆ แก่ประเทศไทย อะไรที่ช่วยแก้ปัญหาควรรับฟังและเปิดใจให้กว้าง เชื่อว่านายอภิสิทธิ์เคารพจุดยืนของทุกฝ่าย แต่หวังว่าทุกฝ่ายจะเคารพจุดยืนของนายอภิสิทธิ์เช่นกัน เสียงวิพากษ์วิจารณ์จากกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยคงไม่เป็นอุปสรรคในการเคลื่อนไหว เพื่อหาทางออกให้กับประเทศ นายอภิสิทธิ์ไม่มีอะไรแอบแฝง ไม่ทำเรื่องผิดเป็นถูกหรือถูกเป็นผิด แต่เข้าใจว่าจะให้ทุกฝ่ายเห็นด้วยเป็นเรื่องยาก ส่วนกำหนดการนัดหมายของนายอภิสิทธิ์ในสัปดาห์หน้ายังจะดำเนินต่อไป
ติงรบ.เลิกป้ายสีมือที่ 3 ก่อเหตุบึ้ม
นายองอาจ กล่าวถึงกรณีที่พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ระบุว่ามีมือที่ 3 แอบแฝงตัวอยู่ใน ผู้ชุมนุมกลุ่ม กปปส. เพื่อก่อเหตุความรุนแรงโดยเฉพาะเหตุการณ์ยิงระเบิดเอ็ม 79 ใส่สำนักพิมพ์เดลินิวส์และสำนักงานศาลปกครอง หรือสถานที่ต่างๆ ที่ผ่านมาว่าขอเรียกร้องให้พล.ท.ภราดรและรัฐบาลหยุดใส่ร้ายป้ายสีว่ามีมือ ที่ 3 แฝงตัวอยู่ในกลุ่ม กปปส. รัฐบาลรู้อยู่แก่ใจว่าจากการชุมนุมที่ต่อเนื่องมา 6 เดือน ความรุนแรงไม่ได้เกิดจากมือที่ 3 แต่เป็นมือที่ 1 มือที่มีอำนาจ เห็นได้จากฝ่ายที่โดนความรุนแรงมักอยู่ฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล การระบุว่าการจับกุมเอ็ม 79 ทำได้ยากเพราะมีการขนมาทางชายแดนติดประเทศกัมพูชาและพม่านั้น หากพล.ท.ภราดรรู้ว่าอาวุธเหล่านั้นมาจากที่ใด ในฐานะเลขาฯสมช.น่าจะทำงานแบบบูรณาการร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ต่างๆ ในการป้องกัน
สายหยุดยันป๋าเปรมพยักหน้ารับ
พล.อ.สายหยุด เกิดผล อดีตผบ.สส. ในฐานะประธานคณะรัฐบุคคล ให้สัมภาษณ์กรณีพล.ท.พิศณุ พุทธวงศ์ หัวหน้าสำนักงานมูลนิธิรัฐบุรุษพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ชี้แจงตอบโต้ว่าการที่พล.อ.เปรมเปิดโอกาสให้คณะรัฐบุคคลเข้าพบเพื่อรับทราบ ข้อมูลที่มาที่ไปและแนวคิดของรัฐบุคคลเท่านั้น ไม่ได้คิดไปไกลถึงการขอพึ่งพระบารมีให้ประเทศพ้นจากวิกฤตว่า แน่นอนว่าการเข้าไปพบพล.อ.เปรมในวันนั้นเพื่ออธิบายแนวคิดของคณะรัฐบุคคลให้ ทราบ โดยก่อนจากกันได้เน้นย้ำกับพล.อ.เปรมว่าจะให้ข่าวอย่างไรเพื่อป้องกันการ เข้าใจผิด ซึ่งพล.อ.เปรมก็พยักหน้าตอบรับ
"ผมบอกกับท่านแล้วว่าจะให้ ข่าวตามที่หารือกัน คือ 1.ท่านเชิญผมมา 2.เพื่อพิจารณาสถานการณ์บ้านเมืองในเวลานี้ และ 3.เห็นว่าข้อเสนอทางออกของประเทศจากวิกฤตการณ์ทางการเมืองของบุคคลต่างๆ ไม่มีความเป็นไปได้ และเมื่อดูประวัติศาสตร์ความขัดแย้งทางการเมืองที่ผ่านมา จะพบว่าหนทางที่เป็นทางออกของประเทศคือการอาศัยพระบารมีเพื่อแก้ไขปัญหาเท่า นั้น ดังนั้นพวกผมจะร่างพระบรมราชโองการขึ้นมาให้ท่านพิจารณา ซึ่งท่านก็พยักหน้าไม่ได้พูดอะไร ที่สำคัญคือก่อนจากกันผมยังพูดย้ำกับท่านอีกครั้งว่าจะให้ข่าวตามที่หารือ กัน 1 2 3 เพื่อที่เวลานักข่าวขอสัมภาษณ์จะได้ตอบตรงกัน" พล.อ. สายหยุดกล่าว
เตรียมเสนอผ่านสำนักราชเลขาฯ
ประธานคณะ รัฐบุคคลกล่าวต่อว่าพอข่าวออกมาในลักษณะตรงกันข้าม จึงโทรศัพท์ไปยังพล.อ.เปรมเพื่อสอบถามว่าถ้าท่านไม่เห็นด้วยทำไมท่านไม่พูด ออกมา ทำอย่างนี้ตนเสียหาย อย่างไรก็ตามคณะรัฐบุคคลยังคงเชื่อในแนวทางนี้เพราะมองไม่เห็นทางออกอื่น แล้ว ภายในสัปดาห์นี้จะดำเนินการร่างให้แล้วเสร็จ หากพล.อ.เปรมไม่เห็นด้วย พวกตนจะหาหนทางอื่นเสนอร่างหนังสือ เช่น สำนักราชเลขาธิการ เป็นต้น "ถ้าท่านไม่เห็นด้วยในแนวทางที่พวกผมนำเสนอก็ควรชี้แจงตั้งแต่ตอนนั้น ถ้าไม่เห็นด้วยทำไมท่านไม่พูด จะปล่อยให้บ้านเมืองเป็นอย่างนี้หรือ การที่พวกผมไปเสนอแนวคิดกับท่านก็เป็นเพราะให้เกียรติท่าน ที่อยู่ในตำแหน่งที่สามารถดำเนินการตรงนี้ได้ ถ้าทำได้จะเป็นผลดีต่อตัวท่านเอง" พล.อ.สายหยุดกล่าว
ธิดาชี้ขาดความรู้เรื่องพระราชอำนาจ
นาง ธิดา โตจิราการ ประธานที่ปรึกษานปช. กล่าวตอนหนึ่งระหว่างการปราศรัยที่จ.ชัยภูมิว่า การที่พล.อ.เปรมเรียกพล.อ.สายหยุดไปคุยนั้นเป็นเรื่องจริง การเรียกไปพูดคุยนั้นถือว่าพลาดอย่างมหันต์แล้ว เพราะเป็นถึงประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ กลับปล่อยพวกไดโนเสาร์ล้าหลังออกมาพูดเนื้อหาที่พูดคุยกันภายใน อย่างไรก็ตามในประเด็นนี้ทำให้เห็นว่าคนแก่เหล่านี้ไม่เชื่อมั่นในรัฏ ฐาธิปัตย์และตัวนายสุเทพ จึงรวมตัวกันไปปรึกษาพล.อ.เปรม ซึ่งไม่น่าเชื่อว่านายทหารระดับพลเอกคนนี้จะขาดความรู้ในเรื่องการบ้านการ เมืองมากขนาดนี้ เพราะพระบรมราชโองการเป็นพระราชอำนาจของในหลวงที่จะโปรดเกล้าฯ ลงมาตามพระราชประสงค์
ตือเป่าเค้กอยากเห็นบ้านเมืองสงบ
ที่ องค์การบริหารส่วนจังหวัดอ่างทอง นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รองหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา จัดงานวันเกิดครบรอบ 63 ปี โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ นักการเมือง พ่อค้า ประชาชน กลุ่มพลังมวลชน ร่วมอวยพร นายสมศักดิ์ เผยว่าของขวัญวันเกิดที่อยากได้คืออยากให้คนไทยกลับมารักกัน เมืองไทยจะได้กลับมาอยู่ภาวะปกติ บ้านเมืองกลับไปสู่ความสงบเรียบร้อย แล้วประเทศไทยจะเดินต่อไป เหลือเวลาอีก 300 วัน ประเทศไทยจะเข้าสู่ประชาคมอาเชียนแล้ว ถ้าบ้านเมืองยังอยู่ในสภาพนี้ประเทศไทยไปไม่ได้แน่นอน การชุมนุมไม่ว่าจะฝ่ายใดขอให้ใช้สติ ไม่อยากเห็นการปะทะกัน อยากให้อยู่บนเหตุผล
บก.ทท.สั่งงดวิจารณ์ใบปลิว
รายงาน ข่าวจากกองบัญชาการกองทัพไทย (บก.ทท.) แจ้งว่า จากกรณีใบปลิวในม็อบแจ้งวัฒนะวิจารณ์เหตุการณ์ยิงและรุมทำร้ายพ.อ.วิทวัส วัฒนกุล รองผอ.กองวิเทศสัมพันธ์ สำนักวิเทศสัมพันธ์ กรมข่าวทหาร บก.ทท. บาดเจ็บ โดยโจมตีผู้บังคับบัญชาทุกระดับที่ไม่ดูแลผู้ใต้บังคับบัญชา ปล่อยให้ถูกคุกคาม ทำร้าย รวมถึงบุกยึดสถานที่ราชการ ขัดขวางการทำงาน พร้อมเรียกร้องให้ผู้บังคับบัญชากอบกู้ศักดิ์ศรีทหาร โดยทางผู้บังคับบัญชามีคำสั่งห้ามนายทหารทุกระดับให้ความเห็นในกรณีดังกล่าว ต่อสื่อมวลชน หากมีชื่อใครปรากฏจะถือว่ามีความผิด เรื่องนี้พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผบ.สส.จะชี้แจงเองเท่านั้น
เสนอทหารแต่งชุดพลเรือน
รายงาน ข่าวแจ้งด้วยว่า เมื่อวันที่ 25 เม.ย. พล.อ.ท.อารมย์ ปัถวี เจ้ากรมกำลังพลทหาร ทำหนังสือถึงผบ.สส. เพื่อเสนอขอให้กำลังพลบก.ทท.แต่งชุดพลเรือนมาทำงาน เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนมาก โดยกำหนดให้ทหารชายใส่เสื้อเชิ้ตสแล็กสีพื้นสุภาพทับในกางเกง ส่วนทหารหญิงให้ใส่เสื้อสีสุภาพ สวมกระโปรง พร้อมติดบัตรแสดงตน สำหรับวันสำคัญของชาติและกองทัพให้แต่งเครื่องแบบทหาร โดยจะให้ทดลองสวมชุดพลเรือนแทนเครื่องแบบทหาร ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 2 พค.นี้ไปจนถึง เดือนมิ.ย. คำสั่งดังกล่าวนี้ถูกมองว่าเพื่อความปลอดภัยของกำลังพล ไม่ให้ทหารตกเป็นเป้าของกลุ่มมวลชนต่างๆ ที่ไม่พอใจ บทบาททหารในทางการเมือง รวมทั้งเหตุการ์ดกปปส.ยิงทหารบก.ทท.เมื่อ 24 เม.ย. ที่ผ่านมา
ขณะ เดียวกันแหล่งข่าวในบก.ทท. แจงว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์การ์ด กปปส.ยิงทหารบก.ทท. แต่ก็ทำให้เกิดความหวาดหวั่นว่าจะทำให้ทหารถูกยิงง่ายมากขึ้นเพราะไม่สวม เครื่องแบบ ยิ่งเมื่อต้องผ่านใกล้พื้นที่ชุมนุมแจ้งวัฒนะ อาจตกในอันตรายได้ เพราะเคยมีทหารยศสิบเอกขับขี่มอเตอร์ไซค์ถูกการ์ดกปปส.ยิงจากด้านหลัง
กปปส.เคลื่อนพลย่านบางแค
สำหรับ ความเคลื่อนไหวของกลุ่มกปปส.ในวันเดียวกัน เวลา 10.30 น. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการกปปส. พร้อมนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ และนายสกลธี ภัททิยกุล แกนนำ นำมวลชนเคลื่อนขบวนออกจากเวทีสวนลุมพินีไปยังเดอะมอลล์บางแค โดยใช้เส้นทางย่านบางแค ถนนเพชรเกษม สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสบางหว้า ผ่านห้างสรรพสินค้าซีคอนสแควร์ บางแค ตลาดบางแค และเดอะมอลล์บางแค รวมระยะทางราว 6 ก.ม. ก่อนนั่งรถกลับสวนลุมพินี โดยในช่วงเย็นมีการจัดกิจกรรมครบรอบ 180 วัน การชุมนุมของกลุ่ม กปปส. ซึ่งจะครบรอบในวันจันทร์ที่ 28 เม.ย.นี้
นัดถวายฎีกาที่วังไกลกังวล
ด้าน บรรยากาศการชุมนุมที่เวทีแจ้งวัฒนะ มวลชนทยอยต่อแถวรอตรวจสุขภาพกับหน่วยแพทย์เคลื่อนที่พุทธอิสระ พร้อมรับยารักษาโรค ขณะที่พุทธอิสระมานั่งร่วมดูการตรวจสุขภาพของผู้ชุมนุมพร้อมร่วมพูดคุยให้ กำลังใจ นอกจากนี้ ทีมงาน กปปส.แจ้งวัฒนะ แจกใบประกาศเชิญชวนมวลชนให้เตรียมตัวร่วมเดินทางไปถวายฎีกาและสวดมนต์ถวาย พระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ที่วังไกลกังวล หัวหิน จะนัดหมายวันเวลาอีกครั้ง
จารุพงศ์เชียร์กำนันทวงคืน มท.
เมื่อ วันที่ 27 เม.ย. นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ ปฏิบัติหน้าที่ รมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่กำนันผู้ใหญ่บ้านนัดชุมนุมใหญ่ในวันที่ 6 พ.ค. ซึ่งเป็นวันที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดไต่สวนพยานกรณีน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ โยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี อดีตเลขาฯ สมช.ว่า กรณีของศาลรัฐธรรมนูญไม่เกี่ยวข้องกับการชุมนุม แต่เป็นการที่กลุ่มกำนันผู้ใหญ่บ้านตัวจริง ไม่ใช่กำนันปลอมแบบนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. รู้สึกทนไม่ได้กับการที่กลุ่มสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ (สรส.) ยึดกระทรวงมหาดไทยมา 5 เดือนกว่าแล้ว และมีการทวงคืนหลายครั้งแต่ไม่สำเร็จ ตนในฐานะ รมว.มหาดไทยไม่ได้สั่งการให้ทำเช่นนั้น แต่ในเมื่อกลุ่มกำนันผู้ใหญ่บ้านคิดเช่นนั้นก็รู้สึกขอบคุณ
ต่อข้อ ถามว่า วันที่ 6 พ.ค.เป็นเงื่อนเวลาที่คิดได้ว่าอาจเป็นการแสดงพลังคัดค้านศาลรัฐธรรมนูญหรือ องค์กรอิสระ นายจารุพงศ์กล่าวว่า จะชุมนุมวันที่ 6 พ.ค.นั้นไม่ถูกต้องหรือ หรือว่าจะต้องชุมนุมหลังจากวันนั้นจึงจะถูกต้อง เรื่องแบบนี้อย่ามาถาม ทุกคนไม่ใช่เด็กอมมือ ก็รู้กันอยู่แล้ว แต่ยืนยันว่าการชุมนุมทั้งเมื่อวันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมาและวันที่ 6 พ.ค.เป็นเรื่องที่กลุ่มกำนันผู้ใหญ่บ้านคิดกันเอง ตนแค่รับทราบ ส่วนที่คาดการณ์ว่าหากมีการตัดสินให้ นายกฯ พ้นจากตำแหน่งจะเกิดวิกฤตในบ้านเมือง นายจารุพงศ์กล่าวว่า อย่าให้ตอบเลย เรื่องนี้คนทั่วไปก็ทราบ วันนี้ในบ้านเมืองต่างคนต่างพูด จุดไฟความร้อนมากขึ้น หยุดพูดบ้างได้หรือไม่ ความร้อนก็จะลดลง
กกต.จ่อรับรอง"หญิงเป็ด"-14ส.ว.
วัน ที่ 27 เม.ย. นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการ กกต. กล่าวถึงการประกาศรับรองผลการเลือกตั้งส.ว.ว่า ขณะนี้กกต.ประกาศรับรองผลการเลือกตั้งส.ว.ไปแล้วทั้งสิ้น 62 จังหวัด โดยมีจังหวัดที่กกต.ยังไม่ประกาศรับรองผลการเลือกตั้งเนื่องจากมีเรื่องร้อง เรียนเข้ามาและ อยู่ระหว่างการพิจารณาจำนวน 15 จังหวัด ประกอบด้วย คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ว่าที่ส.ว.กทม. นายบัณฑูรย์ เกียรติก้องชูชัย ว่าที่ส.ว.ชัยภูมิ นายมารุต โรจนาปิยาวงศ์ ว่าที่ส.ว.นครนายก นายพิพัฒน์ชัย ภัครัชตานนท์ ว่าที่ส.ว.เพชรบูรณ์ ด.ต.บุหลัน ราษฎร์คำพรรณ์ ว่าที่ส.ว.แพร่ นายสุรพล สันติโชตินันท์ ว่าที่ส.ว.แม่ฮ่องสอน นายศักดา ศรีวิริยะไพบูลย์ ว่าที่ส.ว.ระนอง นายประทวน สุทธิอำนวยเดช ว่าที่ส.ว.ลพบุรี นายวราวุฒิ หน่อคำ ว่าที่ส.ว.ลำปาง นายตรี ด่านไพบูลย์ ว่าที่ส.ว.ลำพูน น.ส.วิลดา อินฉัตร ว่าที่ส.ว.ศรีสะเกษ พล.อ.อ.สุจินต์ แช่มช้อย ว่าที่ส.ว.สุราษฎร์ธานี นายประพาส นวนสำลี ว่าที่ส.ว.หนองบัวลำภู นางญาณีนาถ เข็มนาค ว่าที่ส.ว.อำนาจเจริญ และนายสมชาย เหล่าสายเชื้อ ว่าที่ส.ว.อุบลราชธานี โดยกกต.จะพิจารณาเรื่องดังกล่าวในวันที่ 28 เม.ย.นี้ หากไม่สามารถดำเนินการสอบสวนแล้วเสร็จก็จะต้องประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ส.ว.ไปก่อน แล้วค่อยพิจารณาเรื่องร้องเรียนต่างๆ ต่อไปในภายหลัง
ยรรยงจี้ปปช.รุดตรวจสต๊อกข้าว
เมื่อ วันที่ 27 เม.ย. นายยรรยง พวงราช ปฏิบัติหน้าที่รมช.พาณิชย์ ลงพื้นที่ติดตามตรวจสอบการจัดเก็บข้าวสารในสต๊อกของรัฐบาล ที่คลังกลาง ณ คลังชุมแสงไทย โกลด์ไรซ์ และ หจก.โรงสีมงคลธัญญกิจ อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อตรวจสอบปริมาณและคุณภาพ สต๊อกข้าวของรัฐเพื่อเตรียมความพร้อมในการระบายข้าว
นายยรรยงให้ สัมภาษณ์ว่า คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ (ป.ป.ช.) ควรตรวจสอบสต๊อกข้าวของรัฐบาลก่อนพิจารณาตัดสินคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ของนายกรัฐมนตรี เพื่อให้มีข้อมูลที่ครบถ้วน ไม่ได้ยื้อเวลา แต่ควรตรวจสอบเพื่อไม่ให้การตัดสินคดีผิดพลาด ยืนยันว่าข้าวจำนวน 2.9 ล้านตันที่ระบุตัวเลขไม่ตรงกันและหายออกไปจากโกดังกลางนั้นไม่มีทางเป็นไป ได้เพราะมีผู้รับผิดชอบหลายส่วน การขนย้ายข้าวจำนวน 2.9 ล้านตัน ต้องใช้รถบรรทุกกว่า 85,000 เที่ยว จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีผู้รู้เห็น
"สำหรับ เงินทดรองจ่ายที่ใช้งบกลางจำนวน 2 หมื่นล้าน ที่นำมาจ่ายค่าจำนำข้าวให้ชาวนานั้น ขณะนี้กระทรวงพาณิชย์ระบายข้าวและได้เงินมาคืนให้กระทรวงการคลังแล้ว 15,490 ล้านบาท ยังค้างแค่ 4,000 ล้านบาท ที่เหลือระยะเวลาถึง 31 พ.ค.ตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้งกำหนดไว้ การคืนเงินดังกล่าวไม่น่าจะมีปัญหา กระทรวงพาณิชย์เตรียมเสนอเรื่องให้ครม.พิจารณาเพื่อขอใช้เงินทดรองจ่ายอีก 4 หมื่นล้านบาทจากงบกลางเพื่อมาจ่ายให้ชาวนาอีก ขณะนี้รัฐบาลยังค้างการจ่ายค่าจำนำข้าวให้ชาวนาประมาณ 90,000 ล้านบาท ถ้าได้เป็นรัฐบาลต่อชาวนาจะได้รับเงินทั้งหมดโดยเร็ว" รมช.พาณิชย์กล่าว
ด้าน นายวิชา มหาคุณ กรรมการป.ป.ช.ให้สัมภาษณ์กรณีที่ทนายความน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยื่นขอเพิ่มพยานอีก 7 ปากทั้งที่เป็นชื่อเดิมว่า ต้องรอมติที่ประชุม แม้จะเป็นชื่อเดิมก็ไม่เป็นไร พิจารณากันอีกได้ เพราะเรื่องนี้ขึ้นอยู่กับเหตุผลว่าเสนอมาเพราะอะไร เป็นพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องเพิ่มขึ้นหรือไม่ ไม่มีปัญหา
ที่มา; นสพ.ข่าวสด
อัพเดทเรื่องราว - ข้อสอบใหม่ ๆ
เข้าห้องสอบออนไลน์ ( ฟรี)
เน็ตช้า ... คลิ๊กที่ http://tuewsob.blogspot.com
ห้องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
... ห้องติวสอบผู้บริหาร + การศึกษาพิเศษ
ห้อง ... ครูวิชาเอก ห้อง 1 คลิ๊กที่ http://tuewsobkru.blogspot.com
ห้อง ... ครูวิชาเอก ห้อง 2 คลิ๊กที่ http://tuewsob2011.blogspot.com
สมัคร ติวสอบผู้บริหารสถานศึกษา ที่
( คลิ๊ก ) สมัครติวสอบผู้บริหารภาค 4 29 จุดปี 2557-2558
ฟรี... ห้องติวสอบผู้บริหารสถานศึกษา-ครู-บุคลากรการศึกษา ที่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น