ข้อสอบออนไลน์ (สอบครู-ผู้บริหาร-บุคลากรการศึกษา) ชุดใหม่ล่าสุด
ติวสอบออนไลน์ ชุด สรุปย่อ ความรอบรู้ทั่วไป
ลิงค์ข้อสอบ ที่เกี่ยวข้องกับ "นโยบายรัฐบาล" โดย ติวสอบดอทคอม
http://tuewsob.blogspot.com/2013/11/blog-post_4.html
http://www.tuewsob.com/rr164.html
http://www.tuewsob.com/rr%20157%20pu%201.html
http://tuewsob.blogspot.com/2013/10/132556.html
http://tuewsob.blogspot.com/2013/10/blog-post_31.html
http://www.tuewsob.com/rr164.html
http://www.tuewsob.com/rr%20157%20pu%201.html
http://tuewsob.blogspot.com/2013/10/132556.html
http://tuewsob.blogspot.com/2013/10/blog-post_31.html
ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี 53/2557
เสวนาเพื่อพิจารณาร่างแนวปฏิบัติ นโยบายปฏิรูปการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ
เสวนาเพื่อพิจารณาร่างแนวปฏิบัติ นโยบายปฏิรูปการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ
โรงแรมมิราเคิลแกรนด์ คอนเวนชั่น - นายจาตุรนต์ ฉายแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานการประชุมเสวนา "เพื่อพิจารณาร่างแนวปฏิบัติ ตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง นโยบายปฏิรูปการเรียนการสอนภาษาอังกฤษในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน" จัดโดยสถาบันภาษาอังกฤษ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) โดยมีนายกมล รอดคล้าย รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน นายสุรัตน์ ศิลปอนันต์ ประธานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน นายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ผู้แทนสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติฯ ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้บริหารการศึกษา ครู ผู้ปกครอง และนักเรียน เข้าร่วมเสวนา เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2557
รมว.ศธ.กล่าวตอนหนึ่งว่า วิชาภาษาอังกฤษมีความสำคัญในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ซึ่งจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการเรียนรู้ข้อมูล ข่าวสาร และความรู้ รวมทั้งใช้เป็นเครื่องมือในการสื่อสารด้วย
ศธ.จำเป็นต้องพัฒนาคนให้มีความพร้อมในโลกในปัจจุบัน ที่มีทั้งความร่วมมือและการแข่งขันไปพร้อมๆ กัน จึงได้จัดทำประกาศเรื่องนโยบายปฏิรูปการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ เพื่อให้เกิดการพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอน การวัดผลประเมินผล รวมทั้งการพัฒนาครู โดยจะเน้นการสอนภาษา ที่เน้นให้สามารถสื่อสารและใช้หาความรู้ได้ ซึ่งได้ยกตัวอย่างการสอนของประเทศสวีเดน เป็นตัวอย่างประเทศที่ประสบความสำเร็จในการสอนภาษาอังกฤษเป็นอันดับต้นๆ ของโลก ที่เริ่มสอนเด็กเล็กๆ โดยสอนการฟังกับการพูด ยังไม่สอนอ่านหรือเขียน และประสบการณ์การสอนอ่านหรือเขียนสำหรับภาษาแม่ในภาษาใดก็ตาม หากเด็กได้เรียนฟังพูดมาแล้วทุกวันๆ ละ 16 ชั่วโมง คนละ 6-7 ปี จะได้ผลดีมากในการเรียนวิชาพื้นฐานต่างๆ ต่อไปในอนาคตดังนั้น การจัดห้องเรียนสำหรับการสนทนา จึงเป็นเรื่องสำคัญจำเป็นที่จะต้องสอนให้เด็กสื่อสารได้ หรือจัดการเรียนการสอนแบบเข้มข้น เพราะการเรียนภาษาแบบเจือจาง ไม่มีทางประสบความสำเร็จได้ ซึ่งสถานศึกษาอาจจะต้องปรับแนวปฏิบัติดังกล่าวด้วยความพร้อมที่แตกต่างกัน ถือเป็นเรื่องธรรมดา แต่สิ่งสำคัญคือ จะทำอย่างไรให้การสอนภาษาอังกฤษมีมาตรฐานใกล้เคียงกัน มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลในสภาพที่แตกต่างกันได้ข้อคิดหนึ่งที่สำคัญซึ่ง รมว.ศธ.ได้ยกตัวอย่าง คือ หนังสือภาษาอังกฤษบางเล่ม เปิดออกมามีแต่การสอน Grammar ล้วนๆ ไม่สามารถใช้สอนเพื่อการสนทนาได้ แต่ละสถานศึกษาจึงต้องพิจารณาด้วยว่าหนังสือเรียนภาษาอังกฤษ มีพอเพียงและครอบคลุมการสอนหรือไม่อย่างไร
ในส่วนของการประชุมเสวนาครั้งนี้ จัดขึ้นเพื่อเตรียมยกร่างแนวปฏิบัติ และช่วยสร้างความรู้ความเข้าใจแก่ผู้เกี่ยวข้องทุกส่วน ทั้ง สพฐ. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้บริหารการศึกษา ครู โดยมีการรับฟังความเห็นเพื่อนำไปประกอบการจัดทำแนวปฏิบัติ ที่จะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงตามกรอบมาตรฐานความสามารถทางภาษาอังกฤษ CEFR ที่เน้นการเรียนการสอนภาษาจากการใช้ภาษาและการเรียนเพื่อใช้ภาษา โดยคาดหวังว่าจะได้แนวทางในการเตรียมการ เตรียมห้องเรียน จัดเตรียมสื่อการเรียนการสอน รวมทั้งหนังสือ แบบเรียน แบบฝึกหัด สื่ออิเล็กทรอนิกส์ ที่สอดคล้องกันทั้งกระบวนการ ตลอดจนการจัดให้มีวิชาสนทนาภาษาอังกฤษและการสนทนาแบบเข้มข้นในช่วงเวลาและในห้องเรียนที่มีความเหมาะสม ตลอดจนการรวบรวม คัดเลือกสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศที่จะเกิดประโยชน์แก่ครู นักเรียน เช่น การใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ในการออกเสียง ซึ่งในความเป็นจริงสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นแล้วในหลายโรงเรียน เช่น การเพิ่มคาบเรียนจาก 4 คาบต่อสัปดาห์ เป็น 6 คาบต่อสัปดาห์ หรือบางโรงเรียนมีวิชาสนทนา มีการเรียนภาษาอังกฤษแบบเข้มข้น มีชมรมภาษาอังกฤษ รวมทั้งการจัดค่ายภาษาอังกฤษในช่วงปิดภาคเรียนของ สพฐ. ฯลฯ ย้ำว่าในการปฏิรูปการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ ศธ.จะยอมรับความแตกต่างของโรงเรียน เนื่องจากแต่ละโรงเรียนมีหลักสูตรการเรียนการสอนและมีผลสัมฤทธิ์ที่แตกต่างกัน ทั้งโรงเรียนที่สอนหลักสูตร English Program หรือ Mini English Program หรือโรงเรียนนานาชาติ รวมทั้งโรงเรียนที่มีครูต่างชาติและโรงเรียนที่ไม่มีครูต่างชาติ หรือโรงเรียนที่มีครูต่างชาติแต่สอนไม่ถูกวิธีหรือไม่ได้ผล และโรงเรียนส่วนใหญ่ที่ไม่มีครูต่างชาติและไม่มีความพร้อม ซึ่งจำเป็นที่จะต้องพัฒนาปรับปรุงการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ โดยอาศัยสื่อและแบบเรียนที่เหมาะสมและสอดคล้องกับแนวคิดนี้มากขึ้นฉะนั้น ไม่ว่าจะการเรียนการสอนภาษาอังกฤษในแต่ละสถานศึกษาจะแตกต่างกันอย่างไร แต่สิ่งที่ต้องเกิดขึ้น คือ มาตรฐานและคุณภาพการเรียนการสอนภาษาอังกฤษที่ดีขึ้น.
(ร่าง) แนวปฏิบัติ ตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการ
เรื่อง นโยบายปฏิรูปการเรียนการสอนภาษาอังกฤษในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน
มี ส า ร ะ สำ คั ญ ดั ง นี้
1) การใช้กรอบมาตรฐานความสามารถทางภาษาอังกฤษที่เป็นสากล คือ The Common European Framework of Reference for Languages (CEFR) เป็นกรอบความคิดหลักในการจัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ ออกแบบหลักสูตร พัฒนาการเรียนการสอน การทดสอบ การวัดผล การพัฒนาครู และกำหนดเป้าหมายการเรียนรู้2) ปรับจุดเน้นการเรียนการสอนภาษาอังกฤษให้เป็นไปตามธรรมชาติของการเรียนรู้ โดยเน้นการสื่อสาร (Communicative Language Teaching : CLT) เริ่มจากการฟัง พูด อ่าน และเขียน ตามลำดับ 3) ส่งเสริมการเรียนการสอนภาษาอังกฤษที่มีมาตรฐานตามกรอบมาตรฐานหลัก ด้วยหลักสูตร สื่อการเรียนการสอน ครู วัสดุอุปกรณ์ ตามความพร้อมของแต่ละสถานศึกษาและความถนัดสนใจของผู้เรียน 4) ส่งเสริมการยกระดับความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษ ได้แก่ การขยายโครงการพิเศษด้านการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ เช่น English Program, Mini English Program, English for Integrated Studies พัฒนาห้องเรียนพิเศษภาษาอังกฤษเพื่อพัฒนาศักยภาพด้านการสื่อสารทางสังคม ด้านวิชาการ ห้องเรียนสนทนาภาษาอังกฤษ และการใช้ภาษาอังกฤษสำหรับประกอบอาชีพ การจัดค่ายภาษาอังกฤษแบบเข้มข้นในช่วงปิดภาคเรียนและค่ายนานาชาติ การเพิ่มชั่วโมงเรียนและการเรียนอย่างต่อเนื่อง การจัดสภาพแวดล้อมหรือบรรยากาศเพื่อกระตุ้นการฝึกทักษะการสื่อสาร การประกวดแข่งขันและจัดกิจกรรม รวมทั้งการสอนวิชาสนทนาภาษาอังกฤษทั่วไป การสอนแบบเข้มข้น รวมถึงการจัดเป็นวิชาเลือก 5) ยกระดับความสามารถในการจัดการเรียนการสอนของครู ให้สอดคล้องกับวิธีการเรียนรู้ที่เน้นการสื่อสาร (CLT) และเป็นไปตามกรอบความคิด CEFR โดยเริ่มจากการประเมินความรู้พื้นฐานภาษาอังกฤษสำหรับครู ฝึกอบรมครู ตลอดจนพัฒนาระบบติดตามแก้ปัญหาและช่วยเหลือครูอย่างเป็นระบบ และจัดระบบฝึกฝนและสอบวัดระดับความสามารถแบบออนไลน์ 6) ส่งเสริมการใช้สื่อ เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษา เพื่อเป็นเครื่องมือในการพัฒนาความสามารถของครูและนักเรียน ส่งเสริมการผลิต การสรรหา e-Content Learning Applications แบบฝึกและแบบทดสอบที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน รวมทั้งส่งเสริมการเรียนรู้ด้านการฟัง การออกเสียงที่ถูกต้อง Phonics จากสื่อดิจิทัล
ภาพ สถาพร ถาวรสุข
|
ที่มา : เว็บสำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงศึกษาธิการ
ก.ค.ศ.เคาะปฏิทินสอบครูผู้ช่วย 17-24 มี.ค.นี้ สอบครูผู้ช่วยอัตราว่าง 1,700 อัตรา ใน 40 วิชาเอก สาขาคณิตเปิดรับมากสุด
นายอภิชาติ จีระวุฒิ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้หารือร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) เพื่อกำหนดปฏิทินการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วยกรณีทั่วไป ครั้งที่ 1 ปี พ.ศ.2557 แล้วหลังจากที่ประชุม ก.ค.ศ.นัดที่ผ่านมาได้เห็นชอบการปรับปรุงหลักเกณฑ์และวิธีการสอบแข่งขัน และได้มอบให้ สพฐ.และ ก.ค.ศ.มากำหนดปฏิทินดังกล่าว มีรายละเอียดดังนี้ ประกาศรับสมัครสอบแข่งขัน 17-24 มีนาคม ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบแข่งขันภายในวันที่ 8 เมษายน ดำเนินการสอบแข่งขันภาค ก. ความรอบรู้ ความสามารถทั่วไป และความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับความประพฤติและการปฏิบัติของวิชาชีพครู วันที่ 19 เมษายน ภาค ข. ความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่ง วันที่ 20 เมษายน ประกาศรายชื่อผู้ทีสิทธิ์สอบภาค ค. หรือสอบสัมภาษณ์ ภายในวันที่ 24 เมษายน สอบภาค ค. ตั้งแต่วันที่ 27 เมษายน เป็นต้นไป และจะประกาศผลการสอบแข่งขันภายในวันที่ 2 พฤษภาคม โดย สพฐ.จะเสนอให้ที่ประชุม ก.ค.ศ.รับทราบต่อไป และคาดว่าไม่น่าจะมีการปรับเปลี่ยนอะไรอีก
เลขาธิการ กพฐ.กล่าวต่อว่า สำหรับเขตพื้นที่การศึกษาที่จะดำเนินการสอบแข่งขันครั้งนี้มีจำนวน 87 เขตพื้นที่การศึกษา และ 1 สำนักบริหารการศึกษาพิเศษ มีอัตราว่างที่สอบแข่งขันใน 40 วิชาเอก จำนวน 1,700 อัตรา แยกเป็นสาขาวิชาเอกดังนี้ ภาษาไทย 275 อัตรา คณิตศาสตร์ 364 อัตรา ภาษาอังกฤษ 189 อัตรา ภาษาจีน 45 อัตรา ภาษาเกาหลี 1 อัตรา ภาษาญี่ปุ่น 9 อัตรา ภาษาฝรั่งเศส 2 อัตรา วิทยาศาสตร์ 65 อัตรา วิทยาศาสตร์ทั่วไป 31 อัตรา ฟิสิกส์ 84 อัตรา เคมี 28 อัตรา ชีววิทยา 18 อัตรา สังคมศึกษา 94 อัตรา พลศึกษา 66 อัตรา สุขศึกษา 7 อัตรา ดนตรีศึกษา 29 อัตรา ดนตรีไทย 15 อัตรา ดนตรีสากล 21 อัตรา ดุริยางคศิลป์ 2 อัตรา ศิลปศึกษา 30 อัตรา ทัศนศิลป์ 5 อัตรา วิจิตรศิลป์ 1 อัตรา นาฏศิลป์ 38 อัตรา คอมพิวเตอร์ 52 อัตรา อุตสาหกรรมศิลป์ 6 อัตรา เกษตร 8 อัตรา คหกรรม 9 อัตรา ปฐมวัย/อนุบาลศึกษา 111 อัตรา ประถมศึกษา 46 อัตรา จิตวิทยาและการแนะแนว 11 อัตรา เทคโนโลยีทางการศึกษา 3 อัตรา บรรณารักษ์ 5 อัตรา การเงิน/บัญชี 10 อัตรา วัดผลและประเมินผลการศึกษา 2 อัตรา โสตทัศนศึกษา 1 อัตรา ธุรกิจ 1 อัตรา การศึกษาพิเศษ 4 อัตรา กิจกรรมบำบัด 4 อัตรา กายภาพบำบัด 4 อัตรา หูหนวกศึกษา 4 อัตรา
ทั้งนี้ สำหรับเขตพื้นที่การศึกษาที่เปิดสอบแข่งขันในครั้งนี้ อาทิ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) 6 ฉะเชิงเทรา จำนวน 131 อัตรา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) ระนอง 81 อัตรา สพป.ภูเก็ต 73 อัตรา สพม.2 กรุงเทพมหานคร จำนวน 65 อัตรา สพป.สมุทรสาคร 55 อัตรา สพป.สุราษฎร์ธานี เขต 3 จำนวน 50 อัตรา สพป.พังงา 49 อัตรา เป็นต้น.
ที่มา: http://www.thaipost.net
... เน็ตช้า คลิ๊กที่ http://tuewsob.blogspot.com
... ห้องวิชาเอกครู ห้อง 1 คลิ๊กที่ http://tuewsobkru.blogspot.com
... ห้องวิชาเอกครู ห้อง 2 คลิ๊กที่ http://tuewsob2011.blogspot.com
... (ห้องข้อสอบใหม่) ..สอบครู..สอบผู้บริหาร..สอบบุค ลากร ที่
"ติวสอบดอทคอม " เขียน-สร้าง-บรรยาย โดย (ผอ.นิกร เพ็งลี)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น