ติวสอบออนไลน์ ชุด นโยบายรัฐบาล
http://www.tuewsob.com/rr164.html
http://www.tuewsob.com/rr%20157%20pu%201.html
http://tuewsob.blogspot.com/2013/10/132556.html
http://tuewsob.blogspot.com/2013/10/blog-post_31.html
http://www.tuewsob.com/rr%20157%20pu%201.html
http://tuewsob.blogspot.com/2013/10/132556.html
http://tuewsob.blogspot.com/2013/10/blog-post_31.html
ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี 378/2556งา นรวมพลังยกระดับคุณภาพการศึกษา สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ที่อุบลราชธานี
รมว.ศธ.กล่าวว่ากิจกรรมที่จัดขึ้นในวันนี้เป็นกิจกรรมที่จัดว่าเป็นประโยชน์ เพราะจะได้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น มีผู้ทรงคุณวุฒิมาพูดแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์กัน รวมทั้งการจัดการแสดงและนิทรรศการ เพื่อทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และช่วยกันคิดในการปฏิรูปการศึกษาต่อไป จึงขอแสดงความชื่นชมต่อการจัดกิจกรรมในวันนี้
ทั้งนี้ การปฏิรูปการศึกษาต้องอาศัยหลายฝ่ายช่วยกัน ร่วมกัน มีการแลกเปลี่ยนความรู้ ความคิดเห็นกันจึงจะสำเร็จได้ เพราะการศึกษาเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับทุกฝ่าย การจะดำเนินการกันอย่างจริงจัง จะต้องมาคิดหลายอย่าง ต้องดูแลตั้งแต่เด็กเล็กในหลายมิติ หลายด้าน กว่าจะมาถึงการจัดการศึกษา และต้องมาคิดกันว่าจะพัฒนาเด็กและเยาวชนของเราอย่างไร
ผลการจัดอันดับขององค์กรระหว่างประเทศ แสดงให้เห็นว่าการศึกษาโดยรวมของไทยมีปัญหาและต้องการการพัฒนาอย่างจริงจังในหลายๆ ด้าน ต้องมีการปฏิรูปและทุกฝ่ายจะต้องร่วมมือกัน ซึ่งการที่บอกว่า “การศึกษาเป็นวาระแห่งชาติ” ก็คือ หากประเทศชาติจะพัฒนา ต้องพัฒนาการศึกษา อีกความหมายหนึ่งคือ หากจะพัฒนาการศึกษา ต้องอาศัยคนทั้งชาติมาช่วยกัน ฝ่ายการศึกษา คนในวงการศึกษาจึงต้องช่วยกันคิด การปฏิรูปการศึกษาจะต้องมีการเปลี่ยนแปลง ต้องให้เห็นได้ว่าจะเปลี่ยนอะไรและเปลี่ยนอย่างไร
การทดสอบวัดผลของ PISA (Programme of International Student Assessment) ปรากฏว่าไทยอยู่ในอันดับที่ 50 จาก 64 ประเทศ การทดสอบวัดผลของ PISA เป็นการวัดผลในด้านการอ่าน คณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ และในอนาคตอาจจะมีเพิ่มด้านไอซีทีกับการศึกษา หลายประเทศมีการนำผลการจัดอันดับของ PISA มาเป็นเครื่องมีในการผลักดัน ขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษา โดยนักการศึกษาเชิญนักวิทยาศาสตร์ให้ช่วยคิดข้อสอบที่ไม่เหมือนกับข้อสอบในโรงเรียนในการวัดผลทั้ง 3 ด้าน เพื่อส่งเสริมให้เกิดการคิด เพราะเมื่อเด็กเก่งใน 3 ด้านนี้จะทำให้เรียนวิชาอื่นๆ ได้ดีด้วย ฉะนั้น จึงต้องมีการปฏิรูปในหลายด้าน เช่น ต้องการคนที่มีคุณลักษณะอย่างไร มีหลักสูตรการเรียนการสอนอย่างไรที่ใช้แล้วได้ผล และจะต้องมีการทดสอบวัดและประเมินผลที่เป็นมาตรฐาน ต้องสัมพันธ์ เชื่อมโยงและส่งเสริมกัน
จากการที่ ศธ.ได้ประกาศว่าจะมีการรณรงค์และขับเคลื่อนอย่างเป็นระบบ จึงขอฝากให้ทุกฝ่ายช่วยกันนำเสนอสู่สาธารณชนว่า การทดสอบวัดผล PISA คืออะไร มีประโยชน์อย่างไร รวมทั้งจะมีกระบวนการมาให้ดูว่าข้อสอบ PISA เป็นแบบไหน และทำอย่างไรเด็กไทยถึงจะสอบPISA ได้คะแนนดี
ในส่วนของการสอนภาษาอังกฤษ จะต้องสอนแล้วผู้เรียนสามารถสื่อสารได้ แต่การสอนในชั้นเรียนของไทย เป็นการเรียนในรูปแบบและวิธีการที่ผู้เรียนไม่สามารถพูดหรือสื่อสารได้ เนื่องจากเน้นที่การสอนคำศัพท์และไวยากรณ์มากเกินไป และไม่มีการสอนวิชาสนทนาเลยแม้แต่ชั่วโมงเดียว แม้ว่าปัจจุบันจะมีการศึกษาระบบทวิภาษาหรือ English Program ในหลายโรงเรียน แต่การสอนภาษาอังกฤษในชั้นเรียนก็ยังเป็นแบบสมัยก่อน นอกจากนี้ การจัดค่ายภาษาอังกฤษ ควรจะจัดให้มากวันแต่น้อยครั้งจึงจะเกิดผล ดังเช่นที่ต่างประเทศที่มีการจัดค่ายภาษากัน 5-6 สัปดาห์ เรียนกันอย่างเข้มข้นทั้งวัน และอาจจะจัดอบรมครูสอนภาษาอังกฤษแบบเข้มข้นใน 1 เดือน แทนที่จะจัดอบรมเพียง 1-2 วันตามโรงแรม โดยอาศัยทางมหาวิทยาลัยร่วมกันคิดด้วย
ในด้านการวัดผลของประเทศนั้น รมว.ศธ.กล่าวว่า เราไม่สามารถทราบได้ว่าเด็กเรียนเป็นอย่างไร เพราะไม่มีการทดสอบวัดผลกลางตั้งแต่เปลี่ยนหลักสูตรเป็นแบบหน่วยกิตและเกรด และให้ครูและโรงเรียนเป็นผู้ทดสอบและวัดผลเด็ก จึงมีการให้เกรดกันตามอัธยาศัยเนื่องจากไม่ต้องการให้เด็กได้เกรด 0 หรือมีการให้สอบซ่อมเสริมเพียงไม่กี่วันเพื่อให้เด็กได้เกรดผ่าน แต่เมื่อมาวัดผล สแกนเด็กกันจริงๆ พบว่าเด็กชั้น ป.3 และ ป.6 อ่านไม่ออกหมื่นกว่าคน และอยู่ในระดับต้องปรับปรุงถึง 2 แสนกว่าคน ซึ่งเป็นผลจากการที่เราไม่มีการทดสอบวัดผลที่เป็นมาตรฐาน ฉะนั้นการจะทราบว่าการจัดการศึกษาเป็นอย่างไร จึงต้องมีการทดสอบวัดผลกลางที่เป็นมาตรฐาน เพื่อให้ครูทราบว่าควรจะพัฒนาและปรับเปลี่ยนการเรียนการสอนอย่างไรและให้ผลสัมฤทธิ์ดีขึ้น
การที่มีผู้กล่าวว่า หากเด็กสอบตกซ้ำชั้นจะทำให้เด็กเสียเวลาถึง 1 ปี และจะเสียอนาคต แต่หากปล่อยให้เด็กสอบผ่านไปจนจบ ป.6 โดยที่ยังอ่านหนังสือไม่ออก อ่านไม่ได้ เท่ากับว่าเด็กเสียเวลาถึง 6 ปี หรือ 9 ปี หากผ่านไปจนถึง ม.3 เมื่อเด็กอ่านภาษาไทยไม่ออกแล้วจะเรียนวิชาอื่นได้อย่างไร ระบบที่ครูให้เด็กสอบผ่านไม่ว่าเด็กจะเรียนอ่อนแค่ไหน ก็คือระบบที่ทำให้เด็กเสียเวลาไป 6 หรือ 9 ปี และเสียอนาคตทั้งหมด นี่เป็นเรื่องใหญ่มาก ต้องมาคิดกันให้ดีซึ่งการสอบตกปัจจุบันนี้ไม่จำเป็นต้องหมายถึงการสอบตกซ้ำชั้นเหมือนสมัยก่อน เพราะมีการเรียนเป็นหน่วยกิต แต่จะต้องมีการนำระบบวิชาเลือกมาใช้ คือ เด็กอ่อนบางวิชาก็ให้เรียนซ้ำวิชานั้นๆ ก็ต้องมาคิดกันต่อว่าจะทำอย่างไร
ปัจจุบัน โลกมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และแนวคิดเกี่ยวกับการศึกษาได้เปลี่ยนไปมาก มีแนวความคิดใหม่ๆ เกิดขึ้นมาก ทางองค์กรด้านการศึกษา เช่น สหประชาชาติ ยูเนสโก หรือประเทศที่ประสบความสำเร็จในการจัดการศึกษา ได้เน้นที่ทักษะในการคิด ทักษะในการอาชีพ และทักษะในการเรียนรู้ตลอดชีวิต เรียนรู้ในโลกยุคใหม่ ยุคอินเทอร์เน็ต ยุคข้อมูลข่าวสารไร้พรมแดน จึงต้องมาดูว่าหลักสูตรสอดคล้องกับด้านเหล่านี้หรือไม่ และจะต้องปรับกันอย่างไร
เรากำลังจะเปลี่ยนหลักสูตร โดยจะมีการนำการทดสอบวัดผลกลางมาใช้และให้การทดสอบวัดผลเชื่อมโยงกับหลักสูตรการเรียนการสอน ดังนั้นจะจัดให้มีการหารือระหว่างสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติฯ (สทศ.) กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ส่วนการประเมินผลก็จะมีการหารือเพิ่มเติมกับสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษาฯ (สมศ.) ซึ่งรวมถึงการทดสอบวัดผลกลางสำหรับการสอบเข้ามหาวิทยาลัยให้สอดคล้องกับหลักสูตร เพื่อลดปัญหาเด็ก ผู้ปกครองและครูไม่สนใจการเรียนในโรงเรียน การปฏิรูปการศึกษาอยู่ที่ผู้เรียนและห้องเรียน เพราะฉะนั้น การปฏิรูปการศึกษาให้เด็กได้ จะต้องปฏิรูปการเรียนการสอน และต้องเกิดที่ห้องเรียน การเรียนการสอนต้องมีการเปลี่ยนแปลง
รมว.ศธ.กล่าวถึงการปฏิรูปหลักสูตรว่า โดยส่วนตัวแล้วชอบใช้คำว่า “การปฏิรูปการเรียนการสอน” เพราะมีคำว่า “สอน” ซึ่งหมายถึง “ครู” คือ ครูต้องเปลี่ยนบทบาท ไม่ใช่สอนแบบมาอยู่หน้าห้องแล้วพูดอย่างเดียว และให้เด็กจำและจด หรือการตั้งคำถามเพื่อให้เด็กกลับไปค้นหาข้อมูล ซึ่งเป็นเพียงการสอนให้เด็กหาข้อมูลได้เท่านั้น บทบาทของครูจะต้องเปลี่ยนแปลงไปในโลกยุคอินเทอร์เน็ตนี้ ควรจะสอนให้เด็กคิดวิเคราะห์ได้มากขึ้น เรื่องนี้จะโยงไปถึงการผลิตและพัฒนาครู ครูจะใช้เทคโนโลยีอย่างไร ขณะนี้ เราขาดครูที่มีความรู้ด้านเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา ก็ต้องมาหารือกันเพื่อผลิตครูที่มีความรู้ในด้านดังกล่าวให้มากขึ้น รวมทั้งการอบรมและพัฒนาครูอย่างเป็นระบบ การปฏิรูปการเรียนการสอนจะต้องมีกระบวนการต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ขอฝากประเด็นเรื่องโครงการ “อ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ ต้องไม่มี” ซึ่งมีการสแกนจำนวนเด็กที่อ่านไม่ออกมาแล้ว การสอนภาษาไทยเด็กที่อ่านไม่ออกหรืออ่านไม่รู้เรื่อง สอนแบบเดิมและสอนให้มากขึ้นไม่พอ แต่ต้องสอนแบบเข้มข้น หากเด็กอ่านไม่ออกแล้วมาเรียนเน้นที่ไวยากรณ์ตามที่สอนกันในชั้นเรียน ก็จะทำให้เด็กรู้สึกไม่อยากเรียนและอาจจะไม่ชอบภาษาไทยไปเลย ฉะนั้นควรจะหาอะไรที่น่าอ่านมาให้เด็กอ่าน หรือชวนเด็กคุยเพื่อทำให้เด็กสนุกกับการเรียนภาษาไทยมากขึ้น อีกวิธี คือ แยกเด็กที่อ่านไม่ออกมารวมกันเป็นอีกห้องหนึ่งแล้วจัดการเรียนการสอนแบบเข้มข้น จนกระทั่งเด็กสามารถอ่านได้ แล้วจึงนำเด็กกลับเข้าห้องเรียนปกติ
อีกประเด็นหนึ่งที่ต้องการจะฝาก คือ การแนะนำ แนะแนวอาชีพ เราจำเป็นต้องส่งเสริมให้คนไปเรียนสายอาชีพมากขึ้น ความต้องการแรงงานที่มีฝีมือและทักษะสูงมาก หากเป็นอยู่อย่างปัจจุบัน ประเทศไทยก็จะไม่สามารถพัฒนาได้ มีโครงการต่างๆ มากมายแต่ไม่มีแรงงานมารองรับ เด็กไทยส่วนใหญ่สนใจเรียนสายสามัญ เพื่อศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยและจบออกมาก็ตกงานกันมากมาย จะปล่อยให้เป็นอย่างนี้ต่อไปไม่ได้ ขณะนี้เรากำลังพัฒนาการอาชีวศึกษา โดยร่วมมือกับภาคอุตสาหกรรมและต่างประเทศในการพัฒนาหลักสูตรให้มีคุณภาพมากขึ้น จึงต้องการให้มาร่วมกันในการแนะนำว่าการเรียนต่อสายอาชีวศึกษาจะเป็นประโยชน์อย่างไร ซึ่งขอให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เป็นเจ้าภาพหลักในการจัดการแนะนำอาชีพในสถานศึกษาในสังกัด สพฐ.
จากนั้น รมว.ศธ.ได้เดินทางต่อไปที่จังหวัดขอนแก่น เพื่อเป็นประธานเปิดงาน “คืนสู่เหย้าชาวม่วง-ขาว” พร้อมทั้งรับประทานอาหาร มอบโล่แก่ศิษย์เก่าดีเด่น และชมนิทรรศการความก้าวหน้าของสถานศึกษาในจังหวัดขอนแก่น ที่โรงเรียนบ้านไผ่ อำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น
ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี
... เน็ตเร็ว คลิ๊กที่ www.tuewsob.com
... เน็ตช้า คลิ๊กที่ http://tuewsob.blogspot.com
... ห้องวิชาเอกครู คลิ๊กที่ http://uewsob2011.blogspot.com
... (ห้องข้อสอบใหม่) ..สอบครู..สอบผู้บริหาร..สอบบุค ลากร ที่
"ติวสอบดอทคอม "
ผอ.นิกร เพ็งลี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น