ติวสอบออนไลน์ ชุด นโยบายรัฐบาล
ลิงค์ข้อสอบ ที่เกี่ยวข้องกับ "นโยบายรัฐบาล" โดย ติวสอบดอทคอม
http://tuewsob.blogspot.com/2013/11/blog-post_4.html
http://www.tuewsob.com/rr164.html
http://www.tuewsob.com/rr%20157%20pu%201.html
http://tuewsob.blogspot.com/2013/10/132556.html
http://tuewsob.blogspot.com/2013/10/blog-post_31.html
http://www.tuewsob.com/rr164.html
http://www.tuewsob.com/rr%20157%20pu%201.html
http://tuewsob.blogspot.com/2013/10/132556.html
http://tuewsob.blogspot.com/2013/10/blog-post_31.html
'ปู'วอนปชป.หยุดโจมตีพระวิหาร
'นายกฯ'ยันไม่ได้ต่อสายคุย'ฮุนเซน' ชี้คดีเขาพระวิหารเป็นเรื่องอ่อนไหววอนหยุดตีความ เดินหนีสื่อหลังถูกถาม'ไอเอ็มเอฟ'ให้เลิก'จำนำข้าว'
14พ.ย.56 น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ฝ่ายค้านมีความพยายามนำเอาคำตัดสินคดีปราสาทพระวิหารมาโยงให้เป็นเรื่องทางการเมืองว่า ประเด็นเรื่องปราสาทพระวิหารอยากให้ทุกคนให้กำลังใจกับทีมงานทุกคนในการต่อสู้คดีและบางประเด็นที่เป็นข้อวิพากษ์วิจารณ์ก็ขอความกรุณา เพราะบางครั้งเป็นประเด็นที่อ่อนไหว แต่ก็อยากให้ทุกฝ่ายให้เวลากับทีมทนายความในการวิเคราะห์ผลของคดีและแนวทางต่าง ๆ
"ยืนยันว่า ทุกคนรักประเทศและทุกคนยืนยันว่า จะร่วมกันรักษาอธิปไตย และที่สำคัญต้องช่วยกันดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชนบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งเราก็ต้องทำงานควบคู่กันไป ซึ่งก็ต้องขอความร่วมมือจากทุกฝ่าย และอยากขอความกรุณาทุกฝ่ายว่า ควรจะหยุดวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องนี้ก่อน แล้วปล่อยให้คณะทำงานได้เดินหน้าหาแนวทางแก้ปัญหาร่วมกันระหว่างไทย-กัมพูชา อย่าเพิ่งไปตีความ วันนี้กระทรวงการต่างประเทศก็จะไปทำงานร่วมกับทีมนักวิชาการ ซึ่งจะมีการดำเนินการชี้แจงขั้นตอนรายละเอียดต่าง ๆ ซึ่งความจริงสามารถให้คำแนะนำต่าง ๆ ได้ แต่ไม่อยากให้มีการตีความมากเกินไป เพราะในส่วนของรายละเอียดที่เป็นข้อมูลซึ่งมีความละเอียดอ่อนและอ่อนไหวโดยเฉพาะในเรื่องของพื้นที่ก็ต้องขอความกรุณาก่อน
เมื่อถามว่า การที่ฝ่ายค้านออกมาพูดและวิพากษ์วิจารณ์เช่นนี้ การทำงานและการเจรจาของรัฐบาลลำบากหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวยอมรับว่า ลำบาก เพราะบางครั้งอาจถูกดึงไปในประเด็นที่ไม่ควรจะถูกดึง ทุกฝ่ายจะต้องใช้ผลวิเคราะห์ ซึ่งคณะทำงานก็ขอว่า ทั้งหมดขอให้ยึดตามทางการที่ได้มีการแถลง เพราะข้อมูลนอกเหนือจากนั้นก็ขอให้ทีมคณะกรรมการในการวิเคราะห์ผลของคำพิพากษาที่รัฐบาลได้ตั้งขึ้นได้ศึกษาร่วมกับทีมที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายออกมาสรุปให้ฟังจะดีกว่า จะเป็นการทำงานตามขั้นตอน ที่สำคัญจะได้ไม่เกิดปัญหาด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศด้วย
“รัฐบาลจะมีการแปลคำพิพากษาของศาลโลก เพื่อแจกจ่ายให้สาธารณะได้รับทราบ เพราะคำพิพากษาที่แปลนั้นจะต้องมีคำรับรองทางด้านภาษาไทย และต้องให้นักกฎหมายดูด้วยในประเด็นการแปลคำต่อคำที่ถูกต้อง ซึ่งเมื่อเสร็จสมบูรณ์ก็จะมีการเผยแพร่”นายกรัฐมนตรี กล่าว
เมื่อถามว่า ได้ฟังการอภิปรายของนายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์แล้วรู้สึกอย่างไร น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ตอบทั้งหมดแล้ว ขอให้เจ้าหน้าที่ที่ทำได้เป็นผู้ตอบดีกว่า
เมื่อถามว่า หลังคำตัดสินของศาลโลกนายกรัฐมนตรีได้โทรศัพท์หรือติดต่อพูดคุยกับสมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาบ้างหรือยัง นายกรัฐมนตรี กล่าวปฏิเสธว่า ยังไม่ได้มีการติดต่อพูดคุย ทุกอย่างติดต่อผ่านขั้นตอนของสถานทูต ซึ่งนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกฯและ รมว.ต่างประเทศ ได้พบกับนายฮอ นัมฮง รองนายกฯ และรมว.ต่างประเทศกัมพูชาแล้ว ซึ่งทั้งสองประเทศก็คงต้องรอหารือร่วมกัน
ขอ"ฝ่ายค้าน"กลับเข้าสภาอ้างประชาชนเดือดร้อน-กระทบศก.
น.ส.ยิ่งลักษณ์ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ฝ่ายค้านเตรียมยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลโดยพุ่งเป้ามาที่นายกรัฐมนตรี ว่า คงต้องขอดูเนื้อหาที่ฝ่ายค้านจะอภิปรายก็เป็นไปตามขั้นตอนของรัฐสภาอยู่แล้วที่จะตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล ถือเป็นวิธีการที่ถูกต้อง และรัฐบาลอยากเรียกร้องให้ยุติการเคลื่อนไหวนอกสภาและหันกลับมาต่อสู้กันในสภามากกว่า ซึ่งรัฐบาลอยากเห็นการมาพูดจาและใช้เวทีในสภา เพราะกลไกต่าง ๆ ของสภามีให้ตรวจสอบอยู่แล้ว วันนี้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน รัฐบาลไม่อยากเห็นว่า การชุมนุมหรือการเคลื่อนไหวนอกสภาส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะการท่องเที่ยว ซึ่งจากการพูดคุยกับสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวถึงวันนี้ก็พอที่จะสามารถสร้างความเชื่อมั่นได้ แต่ก็มีหลายประเทศที่เริ่มประกาศเตือนพลเมืองของตัวเอง แต่หากการชุมนุมกินระยะเวลายาวนานขึ้นก็เกรงว่า จะกระทบต่อตลาดใหญ่โดยเฉพาะตลาดนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาไทย
เมื่อถามว่า มั่นใจใช่หรือไม่ที่จะสามารถตอบข้อสงสัยในสิ่งที่ฝ่ายค้านอภิปรายได้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ถ้าเป็นเนื้องานที่รัฐบาลได้ทำรัฐบาลก็พร้อมและยินดีที่จะตอบข้อซักถามอยู่แล้ว แต่ขอความกรุณาว่า อยากให้การอภิปรายนั้นเป็นไปอย่างสร้างสรรค์เพื่อให้ประชาชนที่ได้รับฟังพร้อมตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลอย่างเต็มที่บนข้อมูลข้อเท็จจริง
เดินหนีสื่อถูกถามไอเอ็มเอฟให้เลิกจำนำข้าว
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวถึงกรณีคำตัดสินของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศในคดีปราสาทพระวิหารและกรณีฝ่ายค้านเตรียมขออภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี ซึ่งทั้งสองคำถามนายกฯตอบคำถามเป็นเวลาประมาณ 4 นาที แต่เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ(ไอเอ็มเอฟ) เสนอให้รัฐบาลยกเลิกโครงการรับจำนำข้าว เพราะกระทบต่อวินัยทางการคลังของประเทศ ซึ่งเมื่อถึงคำถามนี้นายกฯ รีบกล่าวบ่ายเบี่ยงที่จะตอบโดยบอกว่า “พอแล้วเน๊าะ พอแล้วเน๊าะ พอแล้ว ไปแล้ว” จากนั้นนายกฯได้เดินออกจากวงล้อมสัมภาษณ์ ซึ่งผู้สื่อข่าวก็ยังพยายามถามต่อแต่นายกฯก็ยังปฏิเสธที่จะตอบและกล่าวว่า "พอแล้ว ไปแล้ว" และเดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าทันที
สั่ง"4 กระทรวง"บูรณาการช่วยฟิลิปปินส์
นายธีรัตถ์ รัตนเสวี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลมีความห่วงใยต่อประชาชนชาวฟิลิปปินส์ที่ได้รับผลกระทบจากพายุไห่เยี่ยน โดยน.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้สั่งการให้กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข บูรณาการการให้ความช่วยเหลือในทุกมิติ
นายธีรัตถ์ กล่าวต่อว่า ในวันที่ 15 พ.ย. ผู้แทนพระองค์จากมูลนิธิเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก จะเดินทางมามอบถุงยังชีพ จำนวน 5,000 ถุง และเต็นท์จำนวน 100 หลัง ให้แก่กระทรวงการต่างประเทศ โดยสิ่งของดังกล่าวจะส่งไปช่วยเหลือประเทศฟิลิปปินส์ด้วยเครื่องบิน C-130 ของกองทัพอากาศ ที่คาดว่า น่าจะออกเดินทางได้อย่างเร็วที่สุดในวันที่ 18 พ.ย.นี้ เนื่องจากสนามบินในพื้นที่ประสบภัยยังไม่พร้อม
ขณะเดียวกัน รัฐบาลไทยจะส่งข้าวให้กับฟิลิปปินส์ จำนวน 5,000 ตัน โดยจะส่งไปพร้อมกับเรือหลวงอ่างทอง และเรือหลวงสีชัง พร้อมกับสิ่งของอื่นๆ ที่ฝ่ายฟิลิปปินส์ต้องการ อาทิ น้ำดื่ม ยารักษาโรค นอกจากนี้ ทั้งกองทัพบกและกองทัพเรือ จะส่งบุคลากรไปปฏิบัติภารกิจในการฟื้นฟูอีกด้วย นอกจากนี้ ไทยจะสนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์ให้กับฟิลิปปินส์ ด้วยการส่งจิตแพทย์ไปบำบัดจิตใจให้กับผู้ประสบภัย
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวต่ออีกว่า ขณะนี้มีประชาชนได้บริจาคสิ่งของให้กับประเทศฟิลิปปินส์แล้ว จึงได้มีการมอบหมายให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย เป็นผู้ดำเนินการคัดกรองและคัดแยกสิ่งของที่ได้รับบริจาค อย่างไรก็ตาม จากการประสานงานกับเอกอัครราชทูตฟิลิปปินส์ประจำประเทศไทย พบว่า ฟิลิปปินส์ประสงค์ที่จะขอรับบริจาคเป็นเงินสด เพื่อนำไปซื้อสิ่งของจำเป็นในพื้นที่ใกล้เคียงจะดีกว่า เพราะการนำสิ่งของจากประเทศไทยไปแจกจ่ายในพื้นที่ประสบภัยเป็นสิ่งที่ทำได้ลำบาก เพราะการคมนาคมยังถูกตัดขาด
ทั้งนี้ จากการจัดรายการพิเศษ “คนไทยส่งกำลังใจช่วยเหลือฟิลิปปินส์” ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง 11 กรมประชาสัมพันธ์ เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา มียอดแสดงความจำนงบริจาคแล้วทั้งสิ้น 83,423,450 บาท โดยประชาชน และหน่วยงานต่าง ๆ ยังสามารถบริจาคช่วยเหลือประเทศฟิลิปปินส์ผ่านบัญชี “คนไทยส่งกำลังใจช่วยเหลือฟิลิปปินส์" ธนาคารกรุงไทย เลขที่บัญชี 067-0-09551-6 สาขาทำเนียบรัฐบาล ได้ต่อเนื่องจนถึง 12.00 น. ของวันจันทร์ที่ 18 พ.ย.นี้ ก่อนที่จะดำเนินการส่งมอบเงินดังกล่าวให้กับสถานเอกอัครราชทูตฟิลิปปินส์ประจำประเทศไทย เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยต่อไป
มีคิวบินไปต่างประเทศช่วงปลายปี เยือนสิงคโปร์-รัสเซีย-พม่า-ญี่ปุ่น
แหล่งข่าวจากทำทำเนียบรัฐบาลเปิดเผยภารกิจความเคลื่อนไหวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่มีภารกิจเตรียมเดินทางไปเยือนต่างจังหวัดและต่างประเทศหลายประเทศในช่วงปลายปีนี้ โดยเริ่มจากการเดินทางไปเยือนประเทศสิงคโปร์ ในระหว่างวันที่ 26-27 พ.ย.นี้ และต่อจากนั้น วันที่ 29-30 พ.ย.นายกฯจะเดินทางไปประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรที่จังหวัดสงขลา
ส่วนในเดือนธันวาคมวันที่ 8-10 ธ.ค. นายกฯจะเดินทางไปเยือนกรุงมอสโคว ประเทศรัสเซีย และต่อจากนั้นวันที่ 10-11ธ.ค.จะเดินทางไปเปิดสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 4 ที่จังหวัดเชียงราย พร้อมทั้งเฝ้ารับเสด็จสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และเดินทางจากเชียงรายต่อไปยังเมืองเนบิดอว์ ประทศเมียนมาร์ เพื่อร่วมในพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ และถัดจากนั้นวันที่ 12-15 ธ.ค. นายกรัฐมนตรีมีภารกิจเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น เพื่อร่วมประชุมอาเซียน-ญี่ปุ่น และการประชุมประเทศลุ่มน้ำโขง-ญี่ปุ่น
... เน็ตช้า คลิ๊กที่ http://tuewsob.blogspot.com
... ห้องวิชาเอกครู คลิ๊กที่ http://uewsob2011.blogspot.com
... (ห้องข้อสอบใหม่) ..สอบครู..สอบผู้บริหาร..สอบบุค ลากร ที่
"ติวสอบดอทคอม "
ผอ.นิกร เพ็งลี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น