23 พ.ย.56 นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ โฆษกเวทีประชาชนกลุ่มต่อต้านกฎหมายนิรโทษกรรม และขับไล่ระบอบทักษิณ ระบุว่า ในเวลา 18.00 น. เครือข่ายนักศึกษาประชาชนต้านระบอบทักษิณ (คปท.) กองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ (กปท.) และกลุ่มต่อต้านกฎหมายนิรโทษกรรม ตัวแทนสมาพันธ์รัฐวิสาหกิจ สถาบันการศึกษา นักธุรกิจ และสื่อมวลชน จะร่วมกันแถลงจุดยืนในการต่อต้านระบอบทักษิณ และในวันที่ 24 พ.ย.นี้ เวลา 07.00 น. จะมีพิธีสงฆ์ ทำบุญตักบาตร พระสงฆ์ จำนวน 109 รูป โดยมีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นแกนนำ ก่อนจะที่จะนัดรวมตัวชุมนุมใหญ่ ในเวลา 18.00 น.ดังนั้น จึงขอเชิญชวนประชาชน ให้มาร่วมชุมนุมปักหลักค้างคืน ไปจนถึงเช้าวันที่ 25 พ.ย.เพื่อเดินขบวนไปยังสถานที่ราชการต่างๆ ใน 12 เส้นทางแบบอารยะ ซึ่งอาจกระทบกับการจราจรในกทม.บ้าง อย่างไรก็ตาม ไม่ยืนยันว่าจะเดินขบวนไปปิดทำเนียบรัฐบาลหรือไม่
นายเอกนัฎ กล่าวต่อว่า ขณะนี้มีความพยายามสกัดกั้นประชาชนกลุ่มผู้ชุมนุมที่เดินทางด้วยรถไฟสายใต้ จากจ.พัทลุง และจ.ตรัง จึงขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจอย่าสกัดกั้นประชาชน ที่จะเดินทางเข้ามาร่วมชุมนุมเวทีราชดำเนิน ไม่เช่นนั้นอาจทำให้ประชาชนไม่พอใจ จนอาจเกิดการปะทะกันได้ ส่วนกรณีที่ พล.ท. ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ออกมาระบุ เกรงว่า จะมีมือที่ 3 มาป่วนการชุมนุม เพราะยังมีเงาอยู่นั้น จึงขอให้ พล.ท.ภราดร ออกมาพูดให้ชัดว่า เป็นกลุ่มคนเสื้อแดง หรือกลุ่มคนบ้านบางบอน ดังนั้น จึงอยากขอให้หยุดข่าวใส่ร้ายประชาชน ขอยืนยันว่าการชุมนุมในครั้งนี้ เป็นการชุมนุมโดยสงบปราศจากอาวุธ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศเวทีประชาชนต่อต้านกฎหมายนิรโทษกรรมและขับไล่ระบอบทักษิณ ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนิน เป็นไปอย่างคึกคัก มีประชาชนมาร่วมชุมนุมเร็วกว่าทุกวัน เนื่องจากวันนี้ เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ ประกอบกับประชาชนต่างจังหวัดได้เดินทางถึงอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยตั้งแต่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เพื่อร่วมชุมนุมใหญ่ตามที่แกนนำได้นัดหมายไว้ โดยใช้ชื่อว่า 24 พ.ย.มวลมหาประชาชนคนไทย ขณะที่ ผู้ชุมนุมบางส่วนที่ปักหลักค้างคืนก็อยู่ในระหว่างการพักผ่อนภายหลังจากที่มีการปราศรัยตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ส่วนบนเวทีมีจัดรายการเล่าข่าว สลับกับการปราศรัยของแกนนำย่อย จากตัวแทนภาคประชาชน จังหวัดต่างๆ ขึ้นเวทีปราศรัยสลับกับการเล่นดนตรี เพื่อให้มวลชนรู้สึกผ่อนคลายและเนื่องจากสภาพอากาศในขณะนี้ ค่อนข้างร้อนอบอ้าว ส่งผลให้มีผู้ชุมนุมบางคนเกิดอาการวูบและเป็นลม แต่ก็ได้มีเจ้าหน้าที่ พยาบาลจากโรงพยาบาลสิรินธรเข้ามาปฐมพยาบาลเบื้องต้น
นอกจากนี้ ทางทีมงานเวทีประชาชนต่อต้านกฎหมายนิรโทษกรรมได้เตรียมขยายพื้นที่การชุมนุม เพื่อรองรับมวลชนที่จะเดินทางมาจากต่างจังหวัดและในกทม.ที่จะมาร่วมชุมนุมใหญ่ครั้งในวันที่ 24 พ.ย.นี้ โดยจะเร่งติดตั้งจอเเอลอีดี โปรเจคเตอร์ ขนาดใหญ่ พร้อมเครื่องขยายเสียง อีก 30 จุด ตลอดถนนราชดำเนิน
"ส.นักข่าวฯ"เปิดศูนย์ประสานงานสื่อช่วงชุมนุม 24-26 พ.ย.
ด้วยวันที่ 24-26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 จะมีการชุมนุมของกลุ่มประชาชนต่อต้านพ.ร.บ.นิรโทษกรรม เพื่อแสดงความเห็นทางการเมืองต่อการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล ขณะที่ฝ่ายรัฐบาลได้เตรียมมาตรการในการดูแลการชุมนุมให้เป็นไปอย่างเรียบร้อยนั้น
นายเสด็จ บุนนาค อุปนายกฝ่ายสิทธิเสรีภาพและการปฏิรูปสื่อ สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า การชุมนุมดังกล่าวแม้ไม่อาจคาดการณ์ได้ว่าจะมีความรุนแรงและส่งผลกระทบต่อประชาชนหรือไม่ แต่อนุกรรมการฝ่ายสิทธิเสรีภาพและการปฏิรูปสื่อ (กสส.) สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ได้ประชุมหารือกันแล้วเห็นว่า สื่อมวลชนมีหน้าที่เสนอข้อเท็จจริงอย่างรอบด้านเพื่อให้ประชาชนรับข่าวสารอย่างครบถ้วน ด้วยความห่วงใยจึงจัดให้มีมาตรการเพื่อความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกแก่สื่อมวลชน ในการรายงานข่าวดังนี้
1.เปิดให้อาคารสมาคมนักข่าวฯ ถนนสามเสน (ตรงข้ามโรงพยาบาลวชิระ) เป็นศูนย์ประสานงานสื่อระหว่างการชุมนุม (Press Center) เพื่อเป็นศูนย์กลางในการปฏิบัติงานของสื่อมวลชน ตั้งแต่วันที่ 24 - 26 พ.ย. 2556 โดยได้จัดห้องทำงาน ที่พัก และอุปกรณ์ปฐมพยาบาลเบื้องต้น โดยจะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลและอำนวยความสะดวก
2.สมาคมนักข่าวฯ ได้ตระหนักว่าความปลอดภัยเป็นหัวใจสำคัญของการปฏิบัติหน้าที่หากสื่อมวลชนได้รับอันตรายจะส่งผลกระทบต่อการรับข้อมูลข่าวสารของประชาชน ดังนั้นขอให้นักข่าว ช่างภาพ และผู้ปฏิบัติการสื่อภาคสนามคำนึงถึงความปลอดภัย โดยให้ยึดตามหลักปฏิบัติการรายงานข่าวในสถานการณ์ความรุนแรง คือ 1.หลีกเลี่ยงการนำเสนอข้อมูลข่าวสารที่มีลักษณะยั่วยุให้เกิดความรุนแรง 2.พึงระมัดระวังการตกเป็นเครื่องมือในการรายงานข่าวของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง อันจะนำไปสู่ความเข้าใจผิดของประชาชน 3.ควรมีการเตรียมพร้อมในทุกสถานการณ์ เช่น ควรแต่งกายให้เหมาะสม สำรวมในการสื่อสาร ไม่แสดงความก้าวร้าว และแสดงท่าทีที่เป็นมิตร 4.แสดงตัวให้ชัดเจนเพื่ออำนวยความสะดวกและเพิ่มความปลอดภัยในการทำงาน นอกจากนี้ควรศึกษากลุ่มผู้ชุมนุมและสภาพพื้นที่ให้มากที่สุดเพื่อความปลอดภัย อย่างไรก็ตามขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมเข้าใจการทำหน้าที่ของผู้สื่อข่าวที่มุ่งนำเสนอข่าวสารข้อเท็จจริงด้วย
สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย
23 พฤศจิกายน 2556
"ผกก.นางเลิ้ง"ยื่นหนังสือให้แกนนำม็อบ คปท.เพื่อขอคืนพื้นที่-เจอเป่านกหวีดไล่
เมื่อเวลา 14.00 น.ที่บริเวณแยกนางเลิ้ง จุดที่เป็นกลุ่มผู้ชุมนุม คปท. เคลื่อนย้ายมาปิดถนนนางเลิ้งและถนนพิษณุโลกเพื่อปักหลักชุมนุม ตั้งแต่เมื่อวานที่ผ่านมา โดยวันนี้ พ.ต.อ.ณพล กลัดเข็มเพชร ผกก.สน.นางเลิ้ง ได้เดินทางมาที่บริเวณแยกนางเลิ้งตัดพิษณุโลก เพื่อยื่นหนังสือให้กับนายอุทัย ยอดมณี แกนนำ โดยหนังสือระบุว่า เรื่องขอคืนพืนที่ โดยใจความในหนังสือมีดังนี้
"ตามที่ กลุ่มผู้ชุมนุม” เครือข่ายนักศึกษา และประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท) ได้รวมกันชุมนุมเพื่อคัดค้าน ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม บริเวณแยกนางเลิ้ง แขนงจิตรดา เขตดุสิต กรุงเทพ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 22 พ.ย.ขอเรียนว่า การชุมนุมของท่านอยู่ในเขตพื้นที่ประกาศพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรไทย พศ.2551 (หากผู้ใดฝ่าฝืน จะมีความผิดตามมาตรา 18,24 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปีหรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ) นอกจากเป็นการกีดขวางการจราจร จึงขอให้ท่านและกลุ่มผู้ชุมนุมออกจากพื้นที่นำสิ่งกีดขวางต่างๆ ออกจากพื้นที่การชุมนุมโดยเร็ว มิฉะนั้นจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย จึงเรียนมาเพื่อทราบ พ.ต.อ.ณพล กลัดเข็มเพชร ผกก.สน.นางเลิ้ง"
โดยขณะที่ พ.ต.อ.ณพล ได้ยื่นหนังสือให้กับแกนนำรับทราบ ได้มีกลุ่มผู้ชุมนุมที่รู้ข่าวต่างห้อมล้อม พ.ต.อ.ณพล พร้อมทั้งตะโกนด่าทอและเป่านกหวีดไล่ พ.ต.อ.ณพล จน พ.ต.อ.ณพล ยื่นหนังสือ เสร็จเป็นที่เรียบร้อยจึงรีบเดินกลับทันที
นสพ.คมชัดลึก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น